[เมืองอู๋เว่ย]
<style type="text/css">BODY{background:url("https://i.imgur.com/OhOY0Pl.png"); background-attachment:fixed; }</style>
<style type="text/css">.head1 {background-color:none ;}.head2 {background-color:none ;}</style>
<style>
#boxba {
border: 0px outset #d47d3a;
border-radius: 30px;
padding: 10px;
box-shadow: #817772 0px 0px 3em;
background-image: url("https://i.imgur.com/RYl8SNy.png");
}
</style>
<style>
#boxOO {
width: 850px;
border: 0px outset #cbb989;
border-radius: 30px;
padding: 35px;
box-shadow: #504C4E 0px 0px 1em;
background-image: url("https://i.imgur.com/lONy8Al.png");}
</style>
<div id="boxba">
<div align="center" style="margin: 0px; padding: 0px; word-wrap: break-word; color: #444444; font-size: 14px; list-style-type: none; font-family: Verdana, Helvetica, sans-serif;"><br>
<br><br>
<div id="boxOO">
<br>
<div style="text-align: center;">
<font face="Browallia New" style="font-family: " browallia="" new";="" color:="" rgb(127,="" 57,="" 1);="" font-size:="" 12px;="" text-align:="" start;="" margin:="" 0px;="" padding:="" overflow-wrap:="" break-word;"=""><font size="5" style="margin: 0px; padding: 0px; word-wrap: break-word;"><div style="text-align: center;">
<br>
<img src=" " border="0" alt=""> <br><br></div></font></font>
<span style="text-shadow: rgb(178, 128, 67) 0px 0px 1px, rgb(178, 128, 67) 0px 0px 5px, rgb(178, 128, 67) 0px 0px 10px, rgb(178, 128, 67) 0px 0px 30px;">
<font face="Browallia New" style="" size="7"><pat style="">
<font color="#ffffff"><pat>เมืองอู๋เว่ย</font></pat></font></span></div>
<br>
<div style="font-family: " browallia="" new";="" text-align:="" center;"="">
<font face="Browallia New" ;="" margin:="" 0px;="" padding:="" 0px;"
<span="" style="text-shadow: #B28043 0px 0px 0.5em;" color="#ffffff" size="4">
<i style=""><cls style="">{ เขตระเบียงเหอซี }</cls></i></font></div>
<br><div style="text-align: center;"><br><img src="https://i.imgur.com/MJAVhUV.png" width="450" border="0"> <br><br></div>
<br>
<img src="https://i.imgur.com/K0LUwIn.png" width="650" border="0">
</center>
<br><br><br>
<center>
<center>
<style>
#boxEw {
width: 470px;
border: 0px solid;
border-radius: 20px;
padding: 40px;
box-shadow: #817772 0px 0px 1em;
background-image: url("https://i.imgur.com/OPvQ3yp.png");}
</style>
</center>
<center>
<div id="boxEw">
<div align="center" style="list-style-type: none;">
<font size="6" color="#ffffff">
<img src=" " width="250" border="0">
<span style="text-shadow: rgb(178, 128, 67) 1px 4px 3px;"><br><pat>【 เมืองอู๋เว่ย 】</pat></span></font>
<br><font color=" #817772" face="Kanit" size="4"><b>『<i> เม็ดทรายร่วนไหลผ่านไหลสู่บ้านเกิด</i> 』</font></b></div><br>
<div><div>
<font color="#773f0e" face="Kanit" size="4">
หนึ่งเมืองใหญ่ในเขตระเบียงเหอซีที่ติดอยู่กับชายแดนนอกด่านซึ่งมากไปด้วยภยันตรายนับไม่ถ้วนทั้งจากมนุษย์และปีศาจ นอกจากนั้นแล้วในทุกวันชาวเมืองยังต้องระวังกับภัยธรรมชาติที่อาจก่อตัวขึ้นได้ทุกเมื่อ แต่ถึงอย่างนั้นผู้คนในเมืองอู๋เว่ยก็ยังเรียกได้ว่าเป็นผู้เก่งกาจหลากหลายเนื่องจากอยู่ใกล้เขตแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม พร้อมด้วยวิถีชีวิตในสภาพแวดล้อมอันโหดร้ายที่ทำให้ชาวเมืองมีความสามารถในการรับมือและปรับตัวขั้นสูง
</font><br>
<br>
</div></div></div>
<br><br><br></p></div>
<br><br><br></div></center>
</div></div>
</center>
<style name="captain" type="text/css">
img {border-radius: 8px;}</style><style name="captain" type="text/css">
img {border-radius: 8px;}
img { filter: alpha
(opacity=100); opacity:1.0;}img:hover { filter: alpha(opacity=70);
opacity:.7 } img {-webkit-transition:0.7s; -moz-transition:0.7s;
-o-transition:0.7s;}
img:hover{
-webkit-transform:scale(0.9);
transform:scale(0.9);
}
img:hover{
overflow:hidden;
}
img{
-webkit-transform:scale(1.0);
transform:scale(1.0);
-webkit-transition: all 1.0s ease;
transition: all 1.0s ease;
}</style><p></p>
<style id="Gather Codes." type="text/css"> img{ -webkit-transition: all 0.4s linear; -moz-transition: all 0.4s linear; transition: all 0.4s linear;} img:hover { -webkit-transition:1s; -webkit-filter: invert(1); -moz-filter: invert(1);}</style>
<style type="text/css">@import url('https://fonts.googleapis.com/css?family=Kanit'); cls {font-family : 'Kanit';}</style>
<style type="text/css">@import url('https://fonts.googleapis.com/css?family=Pattaya'); Pat {font-family : 'Pattaya';}</style>
</font></font></font>
<style>
#boxcorecenter {
border: 0px solid #152cd5;
padding: 15px;
box-shadow: #504C4E 0px 0px 1em;
background-image: url("https://i.imgur.com/J5ZfEJ2.png");
}
</style>
<style>
#boxR0LE {
width: 600px;
border: 0px solid #cbb989;
padding: 35px;
box-shadow: #504C4E 0px 0px 1em;
background-image: url("https://i.imgur.com/PNPim8Q.png");}
</style>
<div id="boxcorecenter">
<div align="center">
<br><br>
<div id="boxR0LE">
<img width="450" src="https://i.imgur.com/aDtIaPZ.png" border="0" alt="">
<br><font face="Chonburi"><font size="5"><font color="#994D7B"><span style="text-shadow: #ffffff 0px 0px 0.7px, #ffffff 0px 0px 25px, #ffffff 0px 0px 10px;">
<i><b>ตำลึงทองโปรยทาน</span></b><font face="Sarabun"><font size="2"><br>วันที่ 18 เดือน 08 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 10<br>เวลาสิบสี่นาฬิกาเป็นต้นไป
</i><br></font></font></font>
<br>
<div align="left">
<font face="Sarabun"><font size="3">
<p style="text-indent: 2.5em;">กว่าจะมาถึงอู๋เว่ยที่ตั้งอยู่ชายขอบเหลียงโจวนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ต่อให้เรือยักษ์มาช่วยเพิ่มความเร็วในการเดินทางก็ยังต้องใช้เวลาสามถึงสี่ชั่วยามกว่าจะมาจนถึงเขตเมืองอู๋เว่ยที่เป็นเป้าหมายปลายทาง เป็นเรื่องดีที่ผู้คนบนเรือแบ่งหน้าที่กันเอาไว้ก่อนแล้ว ห่าวหมิงรับหน้าที่เป็นผู้เจรจาขายสินค้ากับชาวเมือง องครักษ์จูก็รับหน้าที่รักษาความปลอดภัยของคลังและเสบียง ส่วนนางกำนัลคนสนิทของลู่เจาอี๋ก็ถูกดีดให้กลายไปเป็นผู้ช่วยของพ่อค้าจางห่าวหมิงอีกที
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ถึงขนาดที่ไป๋หรั่นเผลอคิดอยู่กับตัวเองว่าทั้งหมดถูกจัดฉากขึ้นไม่เว้นแม้แต่ท่าทางตื่นตระหนกของผู่เยว่ตอนที่เผชิญกับคำเชิญไม่แจ้งจุดประสงค์ น่าเศร้านักที่มันเป็นเพียงความเพ้อฝันคิดไปเองของอิสตรีที่ไร้น่าที่บนเรือ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#994D7B">“ พวกเขาน่าจะไปเป็นคนแสดงในโรงอุปรากร.. ”</font> นางระบำแสนงามพ่วงตำแหน่งฟูเหรินพ่อค้าใหญ่ระบายยิ้มเบาบางขณะที่มองเหล่าลูกจ้าง(?)กำลังทำงานอย่างขยันขันแข็งผ่านช่องว่างเล็ก ๆ ของกระโจมผ้าที่ขึงขึ้นสำหรับให้นายใหญ่พำนักโดยเฉพาะ <font color="#994D7B">“ นอกจากความสามารถในการแสดงแล้ว นิสัยเช่นพวกเขาต้องเจริญก้าวหน้าได้ไม่ยากแน่ ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#B49A35">
“ ชวีเฟิ่งคงไม่เป็นอย่างนั้น ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
สามีแสนเงียบขรึมของนางอุตส่าห์สละเวลามาตอบกลับคำพูดคำจาไร้สาระนี้เสียด้วย.. นงคราญหยกหัวเราะแผ่วเบาพลางหมุนกายเดินกลับไปนั่งเคียงข้างเขา <font color="#994D7B">“ ไม่ว่าจะเมื่อใดโรงอุปรากรมักมีนักแสดงอาชีพที่เก่งกาจมากความสามารถ .. และก็มีจำพวกที่ขายเพียงหน้าตา ”</font> ฝูหรงหยกดอกนี้แย้มยิ้มอย่างอ่อนหวานพลางยื่นผ้าเช็ดหน้าผืนบางให้กับชายที่มีเม็ดเหงื่อผุดขึ้นตามกรอบใบหน้า
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><b><font color="#B49A35">
“ องครักษ์ของข้ามีดีแค่ขายหน้าตา? ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#994D7B">
“ ก็ท่านกล่าวว่าเขาคงไม่เป็นอย่างคนอื่น ”</font></b>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
เปลือกตาข้างหนึ่งของไป๋หรั่นปิดลงดูยียวนผิดกับภาพลักษณ์อ่อนโยนสูงส่งที่มีมาเสมอในรั้ววังหลวง มุมปากหยักของโอรสสวรรค์ขยับขึ้นอย่างรู้ทัน เหตุที่นางเข้าใกล้เข้าได้มากก็เป็นเพราะอย่างนี้.. ความรู้สึกประหนึ่งสหายต่างเพศที่แบ่งรับแบ่งสู้ คู่สนทนาที่ไม่น่าเบื่อแต่ก็ไม่เข้าใจยากจนเปลืองสมอง
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#B49A35">
“ ปล่อยพวกเขาแสดงต่อไป ”</font> ผู้รับบทพ่อค้าใหญ่ผู้เป็นสามีลุกขึ้นจากตั่งนั่งพลางแขวนกระติกน้ำค้างไว้กับสายคาดเอว <font color="#B49A35">“ เราจะเข้าตัวเมือง ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#994D7B">“ เหตุใดจึงอยากเข้าเมืองเอาเวลานี้ล่ะเจ้าคะ? ”</font> ก่อนหน้านี้จางกงกงเองก็เป็นฝ่ายเชิญให้ฝ่าบาทเสด็จไปชมตัวเมืองแล้วแท้ ๆ ยามนั้นทั้งขบวนยังได้ยินอยู่กับหูว่าโอรสสวรรค์กล่าวว่าทำเช่นนั้นเป็นเรื่องยุ่งยากไม่จำเป็น แต่ในตอนนี้เขากลับชวนนางออกไป?
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#B49A35">“ … ”</font> หลิวเช่อเงียบไปครู่หนึ่ง ผู้ครองรัศมีมังกรเลิกผ้าเปิดกระโจมพลางจรดสายตาลงกับกลุ่มคนใต้บังคับบัญชาที่สวมบทบาทค้าขายหน้าระรื่นด้วยแววที่อธิบายยาก ก่อนจะตอบกลับมาสั้น ๆ ไม่กี่คำ..
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><b>
<font color="#B49A35">“ เกะกะลูกตา ”</font></b>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
….
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
อู๋เว่ยหาใช่เมืองทุรกันดารอย่างที่เคยนึกภาพไว้ ตรงกันข้าม.. นอกจากชาวฮั่นที่สามารถปรับตัวได้กับทุกสภาพพื้นที่อาศัยแล้วยังมีชาวต่างแดนแฝงอยู่ประปรายตลอดทั้งเส้นถนนชวนให้รู้สึกราวกับว่าอู๋เว่ยแห่งนี้เป็นเมืองท่ายังไงอย่างนั้น
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#B49A35">“ คนเยอะเกินไป ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
เสียงเรียบ ๆ ของผู้เป็นสามีดังขึ้นในระหว่างที่เขาหยุดยืนนิ่งมองเส้นถนนที่แออัดไปด้วยฝูงชน ท่าทางไม่พึงใจกับการเข้าไปเบียดเสียดคลื่นมนุษย์นั้นทำให้คนเป็นภรรยานึกขบขันขึ้นมาได้เล็กน้อย สำหรับไป๋หรั่นลั่วหยางบ้านเกิดนางเป็นเมืองใหญ่แห่งความรื่นเริงและเทศกาลอันโอ่อ่า.. กิตติศัพท์นี้ใช่ว่าจะเป็นแค่เพียงคำชมเลื่อนลอย ฉะนั้นแล้วความวุ่นวายประมาณนี้นางย่อมเคยประสบพบเจอมาก่อนแล้ว ตรงข้ามกันกับโอรสสวรรค์ที่ไปไหนที่ใดคงไม่พ้นถูกเตรียมการเอาไว้ล่วงหน้า
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#994D7B">“ พึ่งผ่านครึ่งวันมาได้ไม่นาน คาดว่าหลายคนคงกำลังจับจ่ายซื้อของพลางเดินเอื่อยเชื่อยเป็นหนสุดท้ายก่อนกลับเข้างาน ”</font> มือน้อยของโฉมสะคราญจับเข้ากับเสื้อคลุมตัวหนาพลางกระตุกเบา ๆ เป็นสัญญาณให้ผู้สวมใส่หันกลับมา <font color="#994D7B">“ มีร้านบะหมี่อยู่ข้าง ๆ พอดี.. เราสองมาลิ้มรสบะหมี่ของชาวอู๋เว่ยกันสักหน่อยดีหรือไม่เจ้าคะ? ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
อันที่จริงสิ่งที่นางเสนอมาสมควรเรียกว่าเป็นความคิดที่ดีมากด้วยซ้ำ หลิวเช่อเคลื่อนสายตาผ่านศีรษะของภรรยาไปยังแผงและนั่งร้านริมทางที่ขายบะหมี่ใกล้ ๆ กับพวกเขา ก่อนจะหลุบสายตากลับลงมองดวงหน้าขาวผุดผาดที่สะกิดใจคนรอบข้างที่ผ่านไปมาให้คอยเหลียวกลับมามองอยู่เป็นระยะด้วยท่าทางสงบนิ่ง
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#B49A35">“ ไม่เลว ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
แค่คำตอบเบา ๆ สองคำก็สามารถสร้างรอยยิ้มกว้างแสนจะเฉิดฉายขึ้นมาได้แล้ว อย่าว่าแต่หลิวเช่อที่สัมผัสได้ถึงสายตาของคนมากมาย แม้แต่ไป๋หรั่นเองยังได้ยินเสียงฝีเท้าที่ชะงักยามนางแย้มยิ้มเกือบทุกครั้ง ปัญหาของคนงาม คือเมื่องามแล้วก็งามเกินไป ต่อให้นึกหน่ายกับความพิเศษในรูปลักษณ์ที่ติดตัวมา ก็เกรงว่าจะหาวิธีรับมือได้ยากกว่าที่คิดไว้..
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ระหว่างที่ไป๋หรั่นตั้งท่าจะหันเดินไปยังร้านบะหมี่ แขนบางกลับถูกรั้งไว้ให้หันกลับไป พร้อมด้วยผ้าแพรบางชิ้นหนึ่งที่สัมผัสกับปลายจมูก และค่อย ๆ ไล่ไปตามสองฝั่งแก้มโดยมีมือหน้าเป็นผู้บรรจงผูกสายแพรขาวให้บดบังใบหน้าครึ่งล่างอย่างเงียบ ๆ<font color="#B49A35">“ มาต่างเมืองไม่ควรเตะตาจนเกินไป ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
นั่นคือเหตุผลของเขา..
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
นงคราญหยกเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยอย่างฉงน ทว่ามีหรือที่คำถามจะหลุดออกจากปากไปในเมื่อทราบดีว่าต่อให้เค้นถามอย่างไรก็คงไม่ได้คำตอบที่จริงใจไปมากกว่านี้ ไป๋หรั่นพยักหน้าเล็กน้อย ดูคล้ายภรรยาในโอวาทที่คล้อยตามคำสามีอย่างดีพร้อมกับปล่อยให้หลิวเช่อได้ก้าวขาไปทางร้านบะหมี่ก่อน แล้วจากนั้นค่อยเป็นนางที่ก้าวตามอย่างนิ่มนวล
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#B49A35">“ รู้หรือไม่ว่าต้องสั่งอย่างไร ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
คำถามนี้ของเขาทำให้นางเงียบไปหลายอึดใจ ไป๋หรั่นเคยทานบะหมี่ และเคยมานั่งที่ร้านบะหมี่ ทว่าร้านบะหมี่ยามนั้นกับยามนี้.. ไม่ใกล้เคียงกันเลยสักนิด
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
สาวงามเหลือบตามองละอองลมที่พัดเอาทรายร่วนแห้งปลิวตามมา พลางคำนึงถึงบทบาทของตัวเอง.. นางระบำนอกด่านที่เป็นภรรยาพ่อค้าไม่สมควรรู้มากไปกว่าอีกฝ่าย นงคราญหยกวาดยิ้มจนดวงเนตรหยีลง <font color="#994D7B">“ น้องไม่เคยทานสิ่งนี้มาก่อน หากท่านพี่ไม่รังเกียจ.. ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ไม่ต้องรอให้นางพูดจบหลิวเช่อก็หันไปสั่งรายการอาหารกับคนขายอย่างคล่องแคล่วปล่อยภรรยาในนามให้ยิ้มค้างอยู่กลางอากาศว่าหากเขาจะไม่แยแสกับการแสดงเป็นคู่สามีภรรยารักใคร่สักนิดก็ควรจะบอกนางเอาไว้ก่อน.. แต่ก็เข้าใจได้ อีกฝ่ายเป็นคนเยี่ยงนี้มาตั้งแต่ต้น จะให้มาสวมบทบาทเปลี่ยนตัวตนแค่กับการมาเยือนต่างเมืองพร้อมภารกิจที่อาจจะไม่ได้สำคัญอะไรนัก บางทีก็คงจะเป็นการกินแรงเขามากจนเกินไป
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ยังดีที่หลิวเช่อไม่ได้สั่งตามรสนิยมของตนเองเพียงอย่างเดียว เขาเลือกสั่งรายการอาหารที่นิยมในร้านและบอกให้ทำรสชาติมากลาง ๆ ไม่ต้องจัดจ้านฉุนจัดเท่าต้นตำรับที่ซัดเครื่องปรุงกันกระหน่ำทำให้ไป๋หรั่นได้ลิ้มลองบะหมี่ผัดเนื้ออูฐในแบบที่พอกินได้เป็นครั้งแรก
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#994D7B">“ รสชาติมัน.. ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#B49A35">“ คล้ายวัว แต่สาบน้อยกว่าแพะ ทำให้เป็นที่นิยมมากในเขตทะเลทราย ”</font> ร่างอาจารย์กำลังเข้าสิงหลิวเช่ออีกครั้งหลังจากเห็นสตรีที่นั่งตรงข้ามดูจะคิดเกี่ยวกับรสชาติมาพักใหญ่จนของในชามแทบจะไม่พร่อง <font color="#B49A35">“ เนื้อสัตว์โดยทั่วไปจัดหายากในเขตนี้ ฉะนั้นสำหรับชาวอู๋เว่ย เนื้อโดยทั่วไปของพวกเขามักมาจากอูฐ ละมั่ง แพะ หรือไม่ก็ม้า ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ละมั่งหรือแพะยังพอเข้าใจ แต่อูฐและม้าที่สามารถใช้ขี่เดินทางได้ไม่นึกเลยว่าจะกลายมาเป็นอาหารไปกับเขาด้วย <font color="#994D7B">“ มาถึงนี่แล้ว.. อูฐแรกที่ได้รับรู้กลับเป็นรสชาติ มิใช่สัมผัส ”</font> คนงามพึมพัมอย่างจนใจ และแน่นอนว่ามันไม่มีทางรอดไปจากการรับรู้ของผู้เป็นสามีที่แสนจะเก่งกาจ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#B49A35">“ อยากขี่อูฐ? ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#994D7B">“ หากได้สัมผัสกับพาหนะที่มีชีวิตบ้างก็คงดี ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
นางไม่ตอบรับตรง ๆ หลิวเช่อก็จะรับรู้ไว้แค่ในฐานที่ไม่จำเป็นต้องใส่ใจนัก ทั้งสองเป็นเช่นนี้มานานแล้ว เรื่องใดตอบเลี่ยงแสดงว่าไม่ต้องให้ความสำคัญมาก ทว่าเรื่องไหนที่สามารถโต้ตอบอย่างซื่อตรงได้ เกรงว่าจะต้องใช้ความคิดพิจารณาอยู่ไม่น้อย
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
พวกเขาทั้งสองดื่มด่ำกับรสชาติอาหารพลางทอดสายตามองผู้คนที่เริ่มเบาบางลง จวบจนเห็นว่าถนนน่าจะพอเดินต่อไปได้โดยไม่อึดอัดก็ถึงได้พากันจ่ายค่าอาหารและตั้งท่าจะเดินออกไปตามถนนเส้นเดิมที่ยาวไกลสุดสายตา ทว่าการกระทำของพวกเขากลับช้ากว่าการมาถึงของคนผู้หนึ่ง
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
เสียงฝีเท้าม้าดังสะนั่นคลอมากับเสียงล้อบดกับพื้นดินที่แห้งกร้าน เพียงพริบตาเดียวผู้คนที่ห่างหายไปก็รีบปรี่กันเข้ามาจนเหนืองแน่นไปทั่วถนน พร้อมกับเสียงโฮ่ร้อนอย่างยินดีที่ตามมาด้วยการตะโกนรับส่งกันไปเป็นทอด ๆ <font color="#83A2D4"><b>“ ท่านชายหลิวววว !!! ”</font></b>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#9AD483"><b>
“ มาแจกเงินแล้ววว !!!! ”</font></b>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#994D7B">“ นี่พวกเขา… ”</font> ไม่ทันให้นางได้หาคำตอบร่างน้อยก็ถูกดึงเข้าปะทะกายหนาเพื่อให้หลบพ้นจากรัศมีของการควบม้าที่แสนกร่างของชายชาตรีผู้หนึ่งที่มาเพื่อเปิดทางถนนให้กับรถม้าที่กำลังเคลื่อนตามมาทีหลังพร้อมด้วยเงาของก้อนตำลึงทองที่ปลิวออกมาตามหน้าต่าง
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#994D7B">“ สามารถนำเงินตรามาโปรยเล่นได้ถึงเพียงนี้ .. เป็นท่านชายบ้านใดกัน ”</font> ไป๋หรั่นขมวดคิ้วพลางบ่นพึมพัมโดยไม่ทันได้สังเกตสีหน้าที่เริ่มตั้งเค้าลางทมิฬทึงของสามี หลิวเช่อไม่มีทางไม่รู้ว่าใครที่สามารถทำเรื่องเช่นนี้ เขาไม่ใช่คนหูหนวกตาบอด ตลอดหลายปีแม้ไม่ยุ่งเกี่ยวเรื่องชายแดนแต่มีหรือที่จะไม่เคยส่งคนมาตรวจสอบอย่างลับ ๆ ?
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
จากเงาลาง ๆ ที่พอมองได้ก็จะเห็นว่ามีคนมากมายพากันวิ่งอย่างอลมานเพื่อตามรถม้าให้ทัน บ้างก็ฉุดกระชากคนที่คว้าตำลึงทองได้แล้วบังคับขู่เข็ญให้นำออกมามอบ ทั้งหมดล้วนแต่ชุลมุนวุ่นวายจนไม่น่าเชื่อว่าก่อนหน้านี้นางจะยังนึกอยู่ในใจว่าอู๋เว่ยดูเป็นเมืองที่มีอารยธรรมอันดี
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ตลอดระยะเวลาการโปรยทาน ท่านชายหลิวผู้นั้นไม่โผล่หน้าออกจากรถม้าแม้แต่น้อย มีเพียงแขนของเขาที่ยื่นผ่านหน้าต่างออกมาโยนตำลึง หรือไม่ก็โยนใส่หลังคนขับรถม้า โชคดีหน่อยบางทีแรงที่คาดการณ์ไว้ก็คลาดเคลื่อนจนตำลึงเหล่านั้นเลยไหลของสารถีที่น่าสงสารไป
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ทว่าครั้งนี้ความโชคดีของสารถี ไม่เป็นผลดีกับเด็กสาวตัวน้อยผู้หนึ่งเลยแม้แต่นิดเดียว
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ด้วยฐานะที่ยากจนถึงขนาดเรียกได้ว่าเป็นขอทานทำให้แม่หนูน้อยต้องมาคอยเฝ้าถนนเส้นนี้เพื่อรอเก็บตำลึงกับคนอื่น ๆ ทว่านางตัวเล็ก แถมเชื่องช้าไม่ทันผู้ใหญ่ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก สุดท้ายไม่ว่าจะรอมากี่ครั้ง สิ่งที่ได้ก็มีเพียงความว่างเปล่าและรอยช้ำเล็ก ๆ น้อย ๆ ติดกาย
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ผิดกับครั้งนี้ตรงหน้าของเด็กน้อยคือตำลึงทองสี่ห้าก้อนที่พอจะเลี้ยงปากเลี้ยงท้องไปได้อีกนาน อีกทั้งยังไม่มีผู้ใหญ่คนได้เข้าไปคว้าเพราะเห็นว่าอีกไม่นานรถม้าจะพุ่งผ่านคร่อมทับเจ้าพวกตำลึงเหล่านี้ทำให้ไม่มีใครอยากเสี่ยงสร้างเรื่อง แต่ไม่ใช่กับเด็กที่สองตามืดมัวไปด้วยความปรารถนา สาวน้อยวัยไม่กี่ขวบปีวิ่งเตาะแตะทรุดกายลงรวบก้อนตำลึงบนพื้นด้วยสองแขนที่สั่นระริก
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
เช่นเดียวกับรถม้าที่ทะยานมุ่งหน้าเต็มพิกัดไร้วี่แววจะชะลอหยุดลง
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
โศกนาฏกรรมกำลังจะเกิดตรงหน้า หลายคนเลือกปิดตาหรือไม่ก็เบือนหน้าหนี มีบ้างที่เป็นส่วนน้อย สามารถมองเหตุการณ์นี้ต่อไปได้ แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขากำลังคิดสิ่งใดเช่นสามีที่ยืนอยู่ข้างกาย ทว่าไป๋หรั่นไม่ใช่คนทั้งสามจำพวกที่กล่าวมา ทั้งที่รู้ดีว่าเรื่องนี้โง่งมบัดซบถึงเพียงไหนแต่ร่างกายก็ยังพุ่งไปกอดบังหนึ่งชีวิตเล็ก ๆ ที่ไม่ทันได้เติบโตจนเต็มวัย พร้อมกับเสียงหวีดร้องของคนรอบข้างที่เริ่มดังขึ้นว่ากำลังจะมีคนถูกรถม้าชน
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
คว้าไม่ทัน ไม่สิ เขาไม่คว้าเองต่างหาก
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
เสี้ยววินาทีที่สัมผัสได้ว่าคนข้างกายมุ่งออกไป มือของหลิวเช่อก็ขยับแล้ว หากเขาจะรั้งตัวนางไว้ ย่อมไม่ใช่เรื่องยาก แต่ด้วยความปรารถนาบางอย่างที่อยากจะดูนักว่านางสามารถเสียสละเพื่อผู้อื่นได้จริงหรือไม่.. บัดนี้เขารู้คำตอบแล้ว
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
เนตรมังกรวาวโรจน์ด้วยประกายทองลึกล้ำ ชั่วพริบตาก่อนที่รถม้าจะเฉียดเข้ามาใกล้ ร่างสูงของโอรสสวรรค์ก็ปรากฏขึ้นขวางระหว่างอาชาสูงใหญ่และสองชีวิตที่ขดกายอยู่กับพื้น การที่เส้นทางถูกขวางกะทันหันด้วยสิ่งมีชีวิตบางจำพวกที่ครองกระแสน่าเกรงขามทำให้ม้าที่ลากรถเริ่มตื่นตระหนก เจ้าอาชาสี่ขาร้องลั่นพร้อมยกขาหน้าขึ้นประจวบเหมาะกับมือแกร่งที่ซัดปราณกระแสหนึ่งทลายส่วนเชื่อมระหว่างม้าและตัวรถจนแตกกระจาย
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ตัวรถที่รองรับร่างของท่านชายหลิวเอียงไปมาอยู่พักหนึ่งก่อนจะกลับมาตั้งตรงดังเดิม ด้านอาชาที่ก่อนหน้ามัวแต่ตระหนกยามนี้ก็ถึงกับตัวแข็งทื่อเมื่อรู้สึกได้ถึงไอร้อนระอุจากฝ่ามือที่เหยียดออกมาจนเกือบจะสัมผัสถูกช่วงลำคอที่บอบบาง ทั้งที่ยังไม่ทันได้แตะต้องหรือสัมผัสส่วนใดก็รับรู้ได้ถึงอันตรายที่ค่อย ๆ คืบคลานมา จากเจ้าม้าที่หาญกล้าทีละน้อยก็เริ่มจะย่ำเท้าถอยหลังพร้อมส่งเสียงร้องอย่างหวาดกลัว
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
นงคราญหยกที่ประคองหนึ่งชีวิตไว้ในอ้อมแขนค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมองแผ่นหลังของผู้ที่ก้าวเข้ามาช่วยชีวิตช้า ๆ เขาไม่ใช่ชายรักหยกถนอมบุปผาจำพวกที่จะหันกลับมาถามว่าเป็นอย่างไร หรือรีบร้อนตรวจสอบว่าปลอดภัยหรือไม่ กลับกัน.. โอรสสวรรค์คล้ายกระบี่ร้ายกาจเล่มหนึ่ง ที่เมื่อชักออกจากฝักแล้วก็ต้องได้สำแดงฤทธิ์หรือรับเอาค่าตอบแทนที่คุ้มค่า ทว่าครั้งนี้เขากลับ… ช่วยนาง
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><b>
<font color="#A77840">“ ใคร !!! ”</font></b>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ท่านชายหลิวผู้โปรยทานมาตลอดทางในที่สุดก็โผล่หน้าออกมาจากรถ เขาเป็นชายงามชนิดที่หาตัวจับได้ยาก ถึงจะไม่ได้งามมากงามนักแต่ก็เป็นจำพวกที่ทำให้คนรู้สึกสะดุดตา เสียดายก็แค่นิสัยที่เอาแต่ใจเกินขนาดจนกลบรัศมีความหล่อเหลานั้นไปแทบหมด
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
หลิวเช่อไม่ตอบกลับการร้องถามอย่างไร้สัมมาคารวะของคนที่ตนคาดว่าคงจะรู้จัก โอรสสวรรค์กดใบหน้าลงเพื่อให้ปีกหมวกกว้าง ๆ บังใบหน้าเขาได้มากขึ้นพลางหันกลับไปประคองสตรีที่เกือบจะหาเรื่องเสี่ยงตายแบบพอเป็นพิธี
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#A77840">“ กล้าหันหลังให้กับเปิ่นซื่อจื่อหรือ ?! ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
เปิ่นซื่อจื่อ.. หลิวเช่อแทบจะกรอกตาทันทีที่ได้ยินคำแทนตัวที่แสนจะถือดี เป็นหมอนั่นดังที่คาด ฉะนั้นก็ไม่มีความจำเป็นต้องอยู่สนทนาให้เสียเวลา โอรสสวรรค์ในคราบพ่อค้าคว้าข้อมือของภรรยาก่อนจะพาคนร่างบางที่โอบอุ้มแม่หนูน้อยขอทานติดมือมาวิ่งออกจากพื้นที่ถนนกว้างอย่างรวดเร็ว
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><b>
<font color="#A77840">“ เจ้า ! เจ้า !! จับมัน ไปจับมันมาให้เปิ่นซื่อจื่อ เดี๋ยวนี้ !! ”</font></b>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ชั่วขณะหนึ่งราวกับว่าโลกทั้งใบของนางมีเพียงภาพของแผ่นหลังแกร่งที่นำอยู่ด้านหน้า ไม่รู้ว่าทำไมในเหตุการณ์เป็นตายนางถึงได้เริ่มที่จะเหม่อลอย และปล่อยให้ร่างกายตอบสนองไปตามสัญชาตญาณโดยการวิ่งตามเขาอย่างไม่หยุดพัก แต่ขีดจำกัดของสตรีต่างจากบุรุษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับหญิงสาวที่ไม่เคยได้รับการฝึกฝนให้ผลาญเรี่ยวแรงเป็นระยะเวลานาน
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
แน่นอนว่าหลิวเช่อรู้เรื่องนี้ดี
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ด้านหลังยังมีทหารหลายรายวิ่งตามมาอย่างไม่รู้จักเหนื่อย หากมีแค่เขาเพียงลำพังการหลบหนีไม่ใช่เรื่องยาก แต่ฟังจากเสียงหอบหายใจของคนด้านหลังเขาก็พอจะรู้ว่านางมาถึงขีดจำกัดแล้ว แค่วิ่งเฉย ๆ เป็นระยะเวลานานก็คงเป็นเรื่องยากแล้ว แต่นางกลับอุ้มเด็กมาด้วยถึงหนึ่งคน ต่อให้อยากจะตำหนิในความบ้าบิ่นของนาง แต่อีกใจก็ปฏิเสธไม่ได้ที่เรื่องมันบานปลายมาถึงขนาดนี้ก็เป็นเพราะความต้องการที่จะทดสอบคนข้างกายของเขาทั้งนั้น
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
โชคดีที่เขาหาวิธีแก้ปัญหาได้ทัน ถึงจะลำบากชาวบ้านไปสักหน่อยก็ตาม
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
แผงร้านค้าบางส่วนถูกปราณมังกรซัดใส่จนร่วงกราวช่วยถ่วงเวลาเหล่าทหารไว้ได้ระยะเวลาหนึ่ง แต่ที่ทำให้พวกเขารอดจากการตามล่าจริง ๆ กลับเป็นตรอกเล็ก ๆ ที่มีผู้ตากผ้าสีต่าง ๆ เอาไว้.. หลิวเช่อดึงร่างของไป๋หรั่นให้มาอยู่ในอ้อมแขนก่อนจะรวบกายนางให้ข้ามผ่านกองโต๊ะไม้เก่า ๆ ไปอย่างง่ายดาย และผลักให้แผ่นหลังบางแนบไปกับผนังดินแดงที่เย็นเฉียบของร้านค้าแห่งหนึ่ง
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
มือหนากระตุกชายผ้าผืนหนึ่งลงมาคลุมบางส่วนของร่างกายพวกเขาให้ดูคล้ายกับพวกเสื้อผ้าอาภรณ์ที่ถูกปลดออกอย่างเร่งรีบ แม้ว่าในสายตาเขามันจะมีไว้เพื่อบังไม่ให้ใครเห็นเด็กหญิงในแขนภรรยาก็ตาม และหากทำเท่านี้ก็คงดูถูกสายตาของหน่วยทหารรักษาการณ์เมืองอู๋เว่ยจนเกินไป หลิวเช่อแทรกเข่าของตนเองเข้ากับหว่างขาเรียวพร้อมปลดหมวกของตัวเองออกและโยนไปในทางที่ลับตาคน
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#B49A35">“ อย่าเกร็ง ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
เขาเปรยเบา ๆ พลางโน้มใบหน้าลงมาดูเป็นท่าทางล่อแหลมอย่างที่ชีวิตนี้ไม่เคยคิดเคยฝันว่าจะต้องใช้หรือจะต้องเจอ หากเป็นเวลาอื่นนางคงนึกเขินอายในความใกล้ชิดที่ลดลงเรื่อย ๆ ทว่าหลังผ่านเหตุเสี่ยงตาย ราวกับว่าสองตาพร่าเลือนจนเริ่มหม่นแสง ก่อนที่ใบหน้าทั้งสองจะแนบชิดจนไร้ช่องว่าง ผู้ที่พวกเขาตั้งใจจะตบตาก็ปรี่มาถูกทางพอดี..
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ทหารหนุ่มผงะไปเล็กน้อย สิ่งที่เห็นไม่ตรงกับภาพที่นึกไว้ ชายที่ตนตามมาสวมผ้าคลุมขาว ทว่าร่างสูงโปร่งตรงหน้ากลับมีผ้าคลุมดำที่คล้ายว่าจะหลุดรุ่ย ทีแรกเขากำลังจะอ้าปากถาม แต่ก็ถูกเพื่อนร่วมอาชีพตบแขนรัว ๆ ให้ลองมองดูดี ๆ จนเห็นเรียวขาเล็กที่ดูคล้ายสตรีโผล่ออกมา
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#8C6B7D">“ … ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
บัดสีบัดเถลิงจริง ๆ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
เจ้าพวกคนหลบหนีไม่น่าจะมามีอารมณ์ในสถานการณ์อย่างนี้ทั้งที่ฝ่ายหญิงหอบเด็กมาด้วยแน่นอน เมื่อคิดได้เช่นนั้นฝ่ายที่กระวีกระวาดขอขมาที่มาคัดจังหวะสำคัญก่อนรีบเปล่งเสียงอย่างพร้อมเพียง <b><font color="#8C6B7D">“ ขออภัยที่มารบกวนขอรับ ! ”</font></b>
</font>
<br><br><div align="center">
<img width="450" src="https://i.imgur.com/F56Ani1.png" border="0" alt=""> <br><br><font face="Sarabun"><font size="3">
+15 บารมีทำกิจกรรมสันทนาการร่วมกับหวงตี้
</div>
</div>
<br><br>
</font></font></div></div><br><br></div><br><br>
<style type="text/css">@import url('https://fonts.googleapis.com/css?family=Chonburi'); Chonburi {font-family: 'Chonburi';}
</style>
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย LuBairan เมื่อ 2024-9-2 15:36 <br /><br /><style>
#boxcorecenterFB {
border: 0px solid #152cd5;
padding: 15px;
box-shadow: #504C4E 0px 0px 1em;
background-image: url("https://i.imgur.com/fWilgz0.png");
}
</style>
<style>
#boxR0LEFB {
width: 640px;
border: 0px solid #cbb989;
padding: 35px;
box-shadow: #504C4E 0px 0px 1em;
background-image: url("https://i.imgur.com/PNPim8Q.png");}
</style>
<style>
#boxLEETTER {
width: 380px;
border: 0px solid #cbb989;
padding: 35px;
box-shadow: #504C4E 0px 0px 1em;
background-image: url("https://i.imgur.com/1VhFLiD.png");}
</style>
<div id="boxcorecenterFB">
<div align="center">
<br><br>
<div id="boxR0LEFB">
<img width="150" src="https://i.imgur.com/ncoS7kJ.png" border="0" alt=""><br>
<br><font face="Chonburi"><font size="5"><font color="#8ec3bc">
<span style="text-shadow: #ffffff 0px 0px 0.7px, #ffffff 0px 0px 25px, #ffffff 0px 0px 10px;">
<i><b>ความร้าวรานของสาวงามดั่งหยก</span></i></font></font></font>
<br><font face="Sarabun"><font size="3"><font color="#8ec3bc">แฟลชแบ็ค :</font></b> สิบสามปีก่อน | จงหยวนศก ปีที่ 6<br></font></font>
<br>
<div align="left">
<font face="Sarabun"><font size="3">
<p style="text-indent: 2.5em;">ทะเลทรายอันแห้งแล้งนี้ต่างจากบ้านเกิดและถิ่นลำเนาของชายคนรักของนางนัก..
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
หญิงงามชาวลั่วหยางกรอกดวงตามองตามเม็ดทรายที่ปลิวผ่าน นางอาศัยอยู่ในจวนเหลียงเซี่ยวหวางมาราว ๆ สี่ปีแล้ว หลังจากระหกระเหินหลบหนีการตามล่าของคนผู้นั้นมาจนถึงขอบแดนทะเลทราย นางที่อ่อนล้าและขาดเวลาพักฟื้นหลังคลอดก็พลันได้รับการช่วยเหลือจาก <b>‘ เหลียงเซี่ยวหวาง ’</b> บุคคลสำคัญของเขตชายแดนที่หาญกล้าชาญชัยไม่ต่างอะไรไปจากยอดขุนพลอย่างคนแซ่ตวนมู่
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ระหว่างการอาศัยอยู่ใต้อาณัติของผู้เป็นหวาง นายหญิงน้อยแห่งชุนหลันฉีสลัดตัวตนเดิมทิ้งราวกับต้องการจะซ่อนกลบมันไว้ในส่วนลึกของจิตใจและกลายมาเป็นหมอหญิงหร่วนเฟิงที่คอยให้การดูแลรักษา<b> ‘ เหลียงหวางเฟย • ตวนมู่ซวินเหยียน ’</b> ที่ร่างกายอ่อนแอหลังคลอดบุตรกะทันหันจนต้องมีหมอหรือคนดูแลคอยติดตามอยู่ไม่ให้ห่าง เช่นเดียวกับเด็กน้อยหู่เหยาจอมซนวัยแปดขวบที่มักเจ็บตัวจากการเรียนอยู่บ่อย ๆ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#ECAED1">“ ท่านหมอหร่วนเฟิง ”</font> เสียงเรียกอย่างเคารพนับถือบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าตลอดสี่ปีที่ผ่านมาภายในจวนเหลียงหวางนั้นนางสร้างชื่อเสียงเอาไว้ได้มากแค่ไหน เดิมทีหร่วนเฟิงมีความรู้พื้นฐานด้านการรักษา เมื่อได้อยู่กับที่และอ่านตำราชั้นเลิศ รวมถึงปรึกษาหารือกับหมอมืออาชีพท่านอื่น ๆ ไม่นานนักนางก็แตกฉานในสายวิชาทางการรักษา สมแล้วที่เคยได้รับขนานนามว่าอัจฉริยะไม่รู้ลืม <font color="#ECAED1">“ หวางเฟยต้องการพบท่าน มิทราบว่าสะดวกหรือไม่เจ้าคะ ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#8ec3bc">“ ตั้งแต่เมื่อใดกันที่ความสะดวกของบริพารนั้นเป็นเรื่องสำคัญ ”</font> เสียงนุ่มของหมอหญิงหร่วนเฟิงฟังดูคล้ายกระแสน้ำสงบที่ถูกรบกวนโดยใบไผ่บางเฉียบ สาวงามหยักยิ้มอ่อนบางพลางจัดเสื้อผ้าอาภรณ์ให้ดูเข้าที่เข้าทาง <font color="#8ec3bc">“ นำทางเถิด ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
สถานที่ปลายทางในครั้งนี้ไม่ใช่ศาลาอันงดงาม หรือเรือนรับรองที่เห็นบ่อยจนชินตา แต่เป็นเรือนพักส่วนในของเหลียงหวางเฟยที่มีคนนอกเข้าออกแทบจะนับครั้งได้.. หร่วนเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อยทั้งที่ริมฝีปากยังเหยียดออกเป็นรอยยิ้ม แน่นอนว่าริ้วความสำราญอ่อนหวานล้วนส่งไปไม่ถึงแววตา ช่วงชีวิตนี้น่าเวทนาเกินกว่าจะแสดงอารมณ์ได้อย่างซื่อตรง
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#ECAED1">“ หวางเฟย บ่าวพาท่านหมอหญิงหร่วนเฟิงมาแล้วเพคะ ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#9B75AF">“ อาเฟิง ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ผู้ที่เปล่งเสียงเรียกอย่างสนิทสนมย่อมเป็นหวางเฟยลูกหนึ่งที่อยู่ใกล้ชิดกันมาตลอดหลายปี หากถามว่าตวนมู่ซวินเหยียนเป็นคนอย่างไร.. หร่วนเฟิงหรี่ตาลงเล็กน้อย นางพิจารณาดูเรือนร่างบางปานกิ่งหลิวคล้ายสตรีที่ได้รับการบ่มเพาะมาเป็นอย่างดี แม้ว่าดวงหน้าจะดูเชิดรั้นหยิ่งทะนง แต่แววถ่อมตนห่วงหากลับชัดเจนอย่างน่าประหลาดเมื่ออยู่บนร่างของหญิงสาวผู้สืบสายเลือดนายพล
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#8ec3bc">“ เช้านี้พระองค์ดูเป็นกังวล มิทราบว่าประสบสิ่งใดจึงได้เรียกหม่อมฉันมาเข้าพบเพคะ? ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#9B75AF">“ พวกเจ้าออกไปก่อน ”</font> เห็นได้ชัดว่าเหลียงหวางเฟยกำลังร้อนใจเป็นอย่างมาก ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองตลอดหลายปีแม้จะเป็นนายบ่าวที่ฝ่ายหนึ่งพูดจาให้เกียรติทางการ ส่วนอีกฝ่ายปล่อยผ่านไม่ใส่ใจ แต่ลึก ๆ แล้วก็มีความผูกผันเช่นสหายที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันมานับครั้งไม่ถ้วน
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ซวินเหยียนคือธิดานักรบ แม้เบื้องหน้าจะสวยหวานสมบูรณ์พร้อมและไม่เคยผิดพลาดในธรรมเนียมของการเป็นภรรยา แต่ลึก ๆ แล้วก็มีความเด็ดขาดบ้าบิ่นเช่นวีรสตรี ผิดกับหร่วนเฟิงที่ลึกลับไร้ที่มา ที่สมองเปี่ยมไปด้วยความสามารถทางการค้าจนส่งผลให้กลายเป็นคนเจ้าแผนการโดยไม่รู้ตัว
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ทว่าครั้งนี้แผนการของสหายนางกำลังจะผิดพลาด ด้วยน้ำมือของสามีผู้เป็นที่รักยิ่งของนางเอง
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#9B75AF">“ เขารู้แล้ว ”</font> มือหนึ่งของเหลียงหวางเฟยสัมผัสกับแขนของสหายหญิง <font color="#9B75AF">“ เขารู้ตัวตนของเจ้า ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
.. ก็นึกว่าเรื่องอะไร
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#8ec3bc">“ แล้วหวางเฟยทรงทราบตัวตนของหม่อมฉันหรือไม่? ” </font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
หมอหญิงกล่าวถามเสียงเนิบนาบพลางทิ้งกายลงนั่งบนเก้าอี้โดยไม่มีวี่แววทุกข์ร้อน
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#9B75AF">“ เปิ่นหวางเฟยไม่สนใจ และไม่ต้องการทราบ หากมิใช่ว่าเจ้าเป็นผู้กล่าวออกมาจากปากด้วยตนเอง ”</font> หร่วนเฟิงสงบนิ่งเกินกว่าการคาดเดาของซวินเหยียนไปมาก บัดนี้กลายเป็นนางแล้วที่ร้อนใจแทนสหาย หากมิใช่ว่าเรื่องนี้เกี่ยวพันกับสามีจนยากที่จะเอ่ยปากออกมา
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#8ec3bc">“ เช่นนั้นก็มิเห็นเป็นปัญหาอันใด ”</font> ทั่วทั้งจวนทราบว่านางปรากฏกายมาอย่างลี้ลับผ่านการช่วยเหลือของเหลียงเซี่ยวหวางที่ขณะแรกนึกเป็นว่านางจะถูกแต่งตั้งเป็นหรูเหริน(ชายารอง)แล้วด้วยซ้ำ หากมิใช่ว่านางทำข้อตกลงและออกมาแก้ข่าวทัน จนได้กลายมาเป็นหมอหญิงแทนที่จะครองตำแหน่งว่ามีความเสน่หาต่อกัน
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
นึกถึงข้อตกลง.. หร่วนเฟิงหัวเราะเบา ๆ ทั่วทั้งอู๋เว่ยนอกจากเหลียงเซี่ยวหวางก็ไม่มีผู้อื่นรู้ถึงตัวตนของนางแล้ว และต่อให้อีกฝ่ายอยากปริปากก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิดในเมื่อสุขภาพของภรรยาล้วนอยู่ในมือนาง นี่ต่างหากคือความลับที่ควรหวั่นว่าจะหลุดรอดออกมา ไม่ใช่เรื่องของตัวตนนาง เพราะตลอดมาไม่ว่าจะมีใครระแคะระคายหรือไม่ หลิวอู่ก็จะเป็นผู้จัดการเก็บกวาดโดยที่นางไม่จำเป็นต้องพูดหรือร้องขอ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#9B75AF">“ ตัวตนของเจ้าอาจไม่ใช่ปัญหา แต่สิ่งที่เขาจะทำนั้นเป็นปัญหาแน่นอน ”</font> เห็นท่าทีหนักแน่นของเหลียงหวางเฟยมาแบบนี้แล้ว หร่วนเฟิงก็เริ่มที่จะสนใจในสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการจะพูดขึ้นมานิดนึง นึกไม่ถึงเลยว่าข่าวการพบปะกะทันหันนี้จะไปเตะตาหลิวอู่ที่ถูกกล่าวถึงอย่างอ้อม ๆ จนอีกฝ่ายตัดสินใจมาเยือนด้วยตัวของเขาเอง
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#772D15">“ คุยอะไรกันถึงได้คึกคักไปถึงด้านนอก ” </font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#9B75AF">“ ท่านพี่ ”</font> เหลียงหวางเฟยฝืนยิ้มรับอย่างใจเย็น ด้านหมอหญิงหร่วนเฟิงเองก็ลุกขึ้นค้อมกายรับการเสด็จของเหลียงเซี่ยวหวางด้วยความนอบน้อม <font color="#9B75AF">“ น้องเห็นว่าช่วงนี้ลูกเหยาบาดเจ็บกลับมาบ่อย ๆ จึงอยากให้อาเฟิงช่วยชี้แนะสูตรยาสมานแผลแก้ฟกช้ำที่ใช้งานได้ดีเพียงเท่านั้นเองเพคะ นึกไม่ถึงว่าจะเสียงดังถึงขนาดไปรบกวนท่านพี่ได้ ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#772D15">“ เจ้าห่วงเขามากเกินไป เด็กผู้ขายต้องเข้มแข็งกล้าหาญ แผลเล็กน้อยจะไปพิถีพิถันใส่ใจเพื่ออะไร ”</font> กลายเป็นว่าตั่งนั่งที่มีไม่มากนักภายในเรือน ส่วนหนึ่งได้ถูกเหลียงเซี่ยวหวางจับจองไปแล้ว อีกตัวที่เหลือไว้ย่อมเป็นของเหลียงหวางเฟย ซวินเหยียนขมวดคิ้วเล็กน้อย ความเห็นด้านการเลี้ยงบุตรของนางและสามีสวนทางกันอย่างเห็นได้ชัด แต่กระนั้นผู้ที่จะสามารถไกล่เกลี่ยสถานการณ์นี้ได้ แน่นอนว่าต้องเป็นท่านหมอหร่วนเฟิงที่ทำงานให้พวกเขาติดต่อกันมาตลอดหลายปี
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#8ec3bc">“ สุขภาพร่างกายของเด็กยังไม่แข็งแรงเต็มที สอนให้เขาเข้มแข็งรับมือทุกสถานการณ์ไม่นับว่าเป็นเรื่องผิด ”</font> หร่วนเฟิงสอดมือเข้าใต้แขนเสื้อกว้าง ๆ ที่ห้อยลงมาเพื่อหยิบตลับยาชิ้นหนึ่งและวางมันลงกับโต๊ะไม้ชั้นดี <font color="#8ec3bc">“ แต่เรื่องสุขภาพหากว่าอ่อนแอลงก็หาใช่ความผิดของเขา แต่ต้องเป็นการบำรุงและสภาพแวดล้อมที่ไม่เพียงพอ ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#8ec3bc">“ หม่อมฉันมีความเห็นว่าหากหวางเย่อยากให้ซื่อจื่อแข็งแรง ต้องหมั่นบำรุง รักษาสภาพร่างกายให้พร้อม ส่วนที่เหลือก็คงขึ้นอยู่กับความสามารถของซื่อจื่อแล้ว ”</font> นางร่ายยาวเสียงเรียบเพื่อชักจูงคนหัวแข็ง แน่นอนว่าบทบาทของนางไม่มากพอจะเกลี่ยกล่อมชาย<b>(แท้)</b>ชาตรีอย่างเขา ที่สำคัญคือเสียงของภรรยาอันเป็นที่รักผู้นั้นต่างหาก
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#9B75AF">“ เห็นหรือไม่ กระทั่งอาเฟิงยังเห็นด้วยกับน้อง ท่านพี่.. บุตรชายเรามีคนเดียว เข้มงวดกับเขาแล้ว ก็ใส่ใจเขาสักหน่อยเถิดเพคะ ”</font> ซวินเหยียนลอบยิ้มพอใจเมื่อเห็นว่าสามียังจะพอฟังคำนางอยู่บ้าง แต่กระนั้นนางก็ยังไม่ลืมถึงแผนการที่ตนเองเผอิญไปได้ยินเข้า ไม่รู้ว่าเหลียงเซี่ยวหวางสัมผัสถึงความผิดปกติ หรือแค่เป็นการตอบรับโดยทั่วไป อยู่ ๆ เขาก็หันกลับมาพูดกับหร่วนเฟิงที่ยืนยิ้มไร้คำพูดว่า <font color="#772D15">“ ไม่รบกวนเจ้าแล้ว ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
หร่วนเฟิงเลิกคิ้วเล็กน้อย.. ดูท่านี่จะเป็นวิธีไล่แบบเกรงใจของเหลียงเซี่ยวหวางเขากระมัง
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
นางปรายตามองความวุ่นวายใจบนใบหน้าของเหลียงหวางเฟยสลับกับมุมปากที่หยักขึ้นอย่างไร้ที่มาของหลิวอู่ด้วยสายตาเรียบสงบเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะค้อมกายลงขออำลาและจากมาอย่างเงียบงัน
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
…
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#772D15">“ นางพูดจาไร้สาระ อย่าไปใส่ใจ ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ภายในห้องทรงงานของเหลียงเซี่ยวหวางยามสนธยายังมีสองชีวิตอยู่ประชันหน้ากันโดยไร้คนห้อมล้อม ผู้ที่กล่าวขึ้นก่อนหน้านี้คือหลิวอู่ที่เปรยถึงวาจาไม่รู้ความของภรรยาก่อนหน้านี้ หร่วนเฟิงเก็บงำประกายแปลกใจและตอบรับด้วยใบหน้าที่กึ่งยิ้มกึ่งไม่ยิ้ม <font color="#8ec3bc">“ ช่วงนี้ซื่อจื่อบาดเจ็บบ่อยครั้ง เกรงว่าสภาพจิตใจของหวางเฟยจะไม่สมบูรณ์เท่าแต่ก่อน หลายวาจา.. ล้วนปล่อยผ่านเพคะ ” </font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#772D15">“ … ”
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
“ จริงสิ รู้หรือไม่ว่าตนเองมีน้องสาวแล้ว ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
คิ้วของหร่วนเฟิงกระตุกขึ้นในทันที <font color="#8ec3bc">“ หวางเย่ กำลังกล่าวถึงผู้ใด.. หม่อมฉันมิเข้าใจ ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#772D15">“ นางหน้าตาคล้ายเจ้าเกือบแปดส่วน ดูแล้วน่ารักน่าชังนัก ”</font> คนพูดไม่เหลียวมองคนฟังที่กำลังร้อนใจเลยแม้แต่นิด ในมือของหลิวอู่คือกระบี่คู่ใจที่ใช้งานมาหลายสิบปีที่บัดนี้กำลังถูกเช็ดขัดลับคมเป็นอย่างดี <font color="#772D15">“ น่าเสียดาย ที่เจ้ามิได้อยู่ชมการเจริญเติบโตของนาง ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
มือขาวของหมอหญิงกำเข้าเป็นหมัดถึงขนาดที่เล็บจิกเข้าเนื้อแล้วก็ยังไม่ยอมคลาย <font color="#8ec3bc">“ รำพึงรำพันไปก็ไร้ซึ่งประโยชน์ หม่อมฉันก้าวออกมาเป็นคนใหม่แล้ว รบกวนหวางเย่ให้เกียรติการตัดสินใจของหม่อมฉันด้วย ”</font> หร่วนเฟิงเค้นเสียงตอบอย่างยากลำบาก นางใช้ความพยายามอย่างมากในการที่จะกล่อมดวงใจให้สงบลง
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#772D15">“ ก้าวออกมาเป็นคนใหม่แล้ว..? ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
หลิวอู่หัวเราะเสียงดังอย่างเย้ยหยันฟังดูคล้ายการคำรามมากกว่าจะขบขันด้วยใจจริง ไม่ทันให้หร่วนเฟิงได้ตระหนักความนัยในวาจานั้น ปึกกระดาษอันคุ้นตาก็ร่วงมาตรงหน้าผ่านการโยนที่ไม่คิดถนอมของเหลียงเซี่ยวหวาง <font color="#772D15"><b>“ แล้วเหตุใดจึงยังใฝ่หาคนที่ไม่สมควรกลับมา !! ”</font></b>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#772D15">“ นึกว่าเปิ่นหวางไม่รู้หรืออย่างไรว่าตลอดมาเจ้าลอบใช้คนของเปิ่นหวางตามหาเจ้าคนแซ่โม่นั่น ”</font> มือหนาฟาดลงกับโต๊ะเกิดเป็นเสียงคึกโครมดังสะนั่น ทั้งสีหน้าและแววตาของชายผู้ได้สมญาว่าพยัคฆ์เขตสงครามราวกับว่าคำรามอยู่ตลอดเวลา <font color="#772D15">“ หากเขารู้ เจ้าได้นึกบ้างหรือไม่ว่าจะรับผิดชอบอย่างไร บัดนี้จื่อหยางออกหมายประกาศจับคนแซ่โม่อึกครึกโครม เจ้ากลับตามหาเขาจนสายตัวแทบขาดโดยใช้คนของเปิ่นหวาง หากเขารู้ตัวขึ้นมา ด้วยกำลังในมือ อู๋เว่ยของเปิ่นหวางจะต้องเดือดร้อนอีกสักเท่าไหร่ เจ้าโง่นักหรืออย่างไร !! ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#8ec3bc">“ เขาไม่มีทางรู้เรื่องนี้ ”</font> หร่วนเฟิง .. ไม่สิ บัดนี้สมควรกล่าวว่าลู่อวี้หรานสวนกลับทันควัน คิดว่านามหร่วนเฟิงนี้ใช้อย่างเปล่าประโยชน์หรืออย่างไร ถึงจะเจ็บใจที่ต้องหยิบนามของคู่หมั้นโดยถูกต้องของชายในดวงใจมาใช้ แต่เจ้าของนามนี้ก็หายสาบสูญไปนาน ประจวบเหมาะที่จะให้นางเข้ามาสวมรอยแทนพอดี อินหร่วนเฟิง หรือที่จริง ๆ แล้วก็คือลู่อวี้หรานกำลังขมวดคิ้วคล้ายความคิดที่กำลังยุ่งเหยิง
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<b><font color="#772D15">“ ไม่มีทางรู้เหมือนความจริงที่ว่าเด็กคนนั้นเป็นลูกสาวเขานะหรือ? ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#8ec3bc">“ หลิวจินซาน !? ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#772D15">“ บังอาจ !!! ”</font></b>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
หากว่านี่คือสงคราม บัดนี้ทั้งกายของอวี้หรานคงเต็มไปด้วยรอยแผลที่เฉือนบาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ดวงตาหงส์ของสตรีที่เคยสูงส่งบัดนี้แดงก่ำยากควบคุม ตลอดทั้งร่างสั่นเทาจนน่าสงสาร <font color="#8ec3bc">“ ท่านรู้.. ได้ยังไง ”</font> หลิวอู่ไม่ควรทราบว่าทายาทคนล่าสุดของหอสูงเฉียดฟ้าในลั่วหยางแท้จริงแล้วเป็นบุตรสาวของนาง สายข่าวและแวดวงของคนแซ่ลู่มีไม่ใช่น้อย ทั้งหมอที่เตรียมไว้ก็มีแล้ว คนงานที่จะไม่มีวันปริปากก็อยู่กันพร้อมหน้า
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#772D15">“ ก่อนถึงลั่วหยางระหว่างที่ร่วมทางกับคุณชายโม่.. สุขสบายดีหรือไม่ ” </font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ประหนึ่งสายฟ้าฟาดลงกลางใจอวี้หรานยืนนิ่งตะลึงงัน ตลอดทางจากกวงหลิงมาจนถึงลั่วหยาง แม้จะมีการตามล่าแต่ก็มักคลาดอย่างชิวเฉียดทุกหน<font color="#8ec3bc"> “ หรือว่า.. หรือว่าท่าน…? ”</font> สาวงามผุดผาดพึมพัมกับตัวเองดูลนลานอย่างที่หาได้ยาก
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#772D15">“ จื่อหยางเป็นเมืองใหญ่ แต่กลับได้ครองโดยคนนอก .. เจ้าคิดว่าตำแหน่งของเขา จะไม่ถูกจับตามอง? ”</font> ทุกการเคลื่อนไหวล้วนได้รับการจับตามองอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งชายที่หวาดระแวงในขุมอำนาจที่ใกล้เคียงกันของเมืองจื่อหยางภายใต้การปกครองของสกุลหลานอี้
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
สุดท้ายเมื่อเกี่ยวพันกับอำนาจแล้ว ทุกสิ่งก็ไม่อาจหันกลับได้ หลิวอู่ไม่คิดตอกย้ำเพิ่มเติมอีก เหลียงเซี่ยวหวางเก็บกระบี่เข้าสู่ฝักพลางถือศาสตราคู่กายเดินมาหยุดตรงหน้าผู้พึงพาบารมีตน <font color="#772D15">“ ในเมื่อรู้ดีว่าควรทำอย่างไรก็อย่ารั้นให้มากนัก เปิ่นหวางหาใช่ผู้มีความอดทน ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#8ec3bc">“ .. อาการของหวางเฟยขึ้นอยู่กับหม่อมฉัน ถึงกระนั้นหวางเย่ก็ยังกล้าข่มขู่อีกหรือเพคะ ”</font> กระทั่งวินาทีสุดท้ายนางก็ยังไม่คิดพ่ายโดยหมดรูป อวี้หรานในคราบของอินหร่วนเฟิงเชิดปลายคางขึ้นพร้อมสีหน้าขุ่นเคือง ทว่าสิ่งที่ตอบสนองกลับมาก็ทำให้ลมหายใจชะงักไปด้วยเช่นกัน
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ปลายกระบี่ที่ครอบไว้โดยฝักแกร่งเลื่อนขึ้นจ่อลำคอระหงส์ถึงขนาดที่เจ้าของร่างสามารถสัมผัสได้ถึงความเย็นของโลหะ <font color="#772D15">“ เจ้ากล้า? ”</font> เขาถามเสียงเย็นขณะที่เลิกคิ้วขึ้น เสมือนมองว่าวาจาก่อนหน้านี้เป็นเพียงเรื่องไร้สาระน่าขบขัน
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#772D15">“ ลู่อวี้หราน เจ้ากล้าทำอย่างนั้นหรือ แม้ว่าการทำเช่นนั้น.. ”
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<b>“ จะทำให้เจ้ามิต่างอะไรไปจากเขา? ”</font></b>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
…
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#9B75AF">“ อาเฟิง รีบไปซะ ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ห่อผ้าที่ตระเตรียมสัมภาระจำนวนหนึ่งเหมาะแก่การเดินทางระยะสั้นถูกยัดใส่มือนางกลางค่ำคืนที่ร้อนอบอ้าว <font color="#9B75AF">“ บัดนี้ท่านพี่เดินทางออกไปตรวจตราเหล่าทัพ เป็นโอกาสเดียวให้เจ้าหนี ”</font> อยู่อย่างสงบเสงี่ยมได้หนึ่งเดือน นึกไม่ถึงเลยว่าคนแรกที่ดันหลังให้นางหลบหนีกลับเป็นภรรยาของผู้ออกคำสั่งกักบริเวณอย่างลับ ๆ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#8ec3bc">“ เหตุใดจึงช่วยข้า ”</font> หร่วนเฟิงไม่มีความจริงใจให้กับอีกฝ่ายเลยสักนิด.. ไม่สิ ที่จริงก็มีให้ แต่การเริ่มต้นของทั้งสองแน่นอนว่ามาจากการหลอกลวง แทบจะไม่มีความจำเป็นต้องคนึงถึงเมื่อรู้ความจริงเลยแม้แต่น้อย บัดนี้อีกฝ่ายคงทราบแล้ว เหลียงเซี่ยวหวางตั้งใจรั้งนางไว้เพื่อเป็นข้อต่อรองกับเจ้าเมืองจื่อหยางให้ส่งกำลังพลมาช่วยสนับสนุนเขาในศึกรับซ่งหนู ส่วนเจ้าเมืองจื่อหยางที่มีจิตสำนึกอันดีขึ้นมากะทันหันก็ตัดสินใจกัดฟันรับข้อเสนอนี้แลกกับการที่จะขังนางไว้ในอู๋เว่ยจวบจนกว่าสถานการณ์ในจื่อหยางจะสงบ แล้วหลานอี้โหวจะเดินทางมารับนางด้วยตัวของเขาเอง
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#9B75AF">“ .. ”
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
“ ข้ารู้ว่าเจ้ามีลูกสาว ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ครั้งนี้ดวงตาที่หม่นแสงของอวี้หรานสั่นวูบเล็กน้อยราวกับกลับมามีชีวิตได้เพียงเพราะกล่าวถึงบุตรสาว แต่แล้วอย่างไร.. นางหัวเราะในใจอย่างขมขื่น <font color="#8ec3bc">“ ข้าทิ้งนาง ดูแลนางไม่ได้ ตลอดทั้งชีวิตนางเกรงว่าคงไม่รับรู้ถึงข้าเสียด้วยซ้ำ ฉะนั้นมีแล้วจะไปสำคัญอย่างไร ”</font>หร่วนเฟิงที่สะท้อนในแววตาของเหลียงหวางเฟยคล้ายคนไร้วิญญาณที่เลือนลอยจนน่าสงสาร สำหรับเยื่อใยความเป็นสหายการได้เห็นภาพคนใกล้ชิดเป็นอย่างนี้นับว่าบาดใจที่สุด
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#9B75AF">“ มีแม่คนใดบ้างไม่อยากเฝ้ามองลูกเจริญเติบโต เจ้าโกหกข้าไม่ได้หรอกอาเฟิง ”</font> แม้ขณะนี้นามที่นางเรียกจะยังเป็นนามปลอม แต่ความห่วงใยที่แฝงไว้ในน้ำเสียงกลับเป็นของจริงชนิดที่หาได้ยากนัก ซวินเหยียนหลุบสายตาลงพร้อมกับสูดหายใจเข้าจนเต็มปอด และค่อย ๆ ระบายความในใจออกมาช้า ๆ จนดวงตาของผู้ฟังเริ่มเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#9B75AF">“ เจ้าเหมือนข้ายิ่งนัก ”
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<b>“ เกิดมาในครอบครัวที่ไร้การกดขี่ แต่ก็ยังมิอาจโต้แย้งวัฏจักรของโลกหล้า ”</font></b> มือนุ่มทั้งสองกอบกุมกันช้า ๆ ท่าทางของนางดูประหม่ายามที่พูดความในใจแต่ก็สามารถร้อยเรียงเรื่องราวออกมาได้เป็นอย่างดี <font color="#9B75AF">“ ข้าไม่ได้รักเขา แต่สุดท้ายก็คลอดบุตรให้เขา .. เราต่างกันที่ฐานะ ต่างกันที่สถานการณ์ หากข้าหลบหนียังมีครอบครัวที่ต้องรับผิดชอบ ต่อให้ตัดทิ้งสลัดทุกสิ่งก็ยังไม่อาจหลีกความขัดแย้ง แต่เจ้า.. ตัดแล้ว ตัดขาด หากยังต้องกลับมาติดพันในพันธะนี้ เกรงว่าข้าก็คงเวทนาในตนเองที่ไม่อาจช่วยเหลือใด ๆ ได้ ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ซวินเหยียนระบายยิ้มเย็นเฉียบดูอ่อนล้า ทว่าก็เปี่ยมด้วยความหวัง <font color="#9B75AF">“ เจ้าต้องหนีให้รอด ไปให้ไกล อยู่เฝ้ามองเด็กสาวคนนั้นเติบโต ถึงชีวิตรักอาจมีวิบาก แต่ครอบครัว ทายาท สิ่งเหล่านี้ยังอยู่เพื่อเจ้า ”</font> เหลียงหวางเฟยประคองสองมือของสหายขึ้นในระดับที่ไม่สูงหรือต่ำ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><b>
<font color="#9B75AF">“ ให้เปิ่นหวางเฟยได้ช่วยเจ้า ”
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
“ ได้หรือไม่? ”</font></b>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
…
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
หลายปีต่อมา
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
เมื่อกล่าวถึงความสูญเสีย เหลียงเซี่ยวหวางหลิวอู่ผ่านเรื่องราวเหล่านี้มามากมายนัก ทว่าครั้งที่ยิ่งใหญ่และสำคัญที่สุด ต่อให้จากนี้ไปจะมีการสูญเสียอีกเท่าไหร่ก็คงไม่อาจเทียบได้กับภรรยาที่สิ้นใจในสงคราม ภายในเรือนพักของหวางเฟยที่เคยเปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวาบัดนี้กลับมีแค่เสียงร่ำไห้และความโศกเศร้า เจ้าบุตรชายไม่ได้ความที่ไม่เห็นแม่ก็ร้องไห้สะอึกสะอื้นบาดใจผู้เป็นบิดาจนไม่อาจพบหน้าอีกฝ่ายได้
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
หลายวันมานี้เขาใช้เวลาอยู่ภายในเรือนของภรรยา เฝ้าบำรุงรักษาข้าวของที่ผุพังให้กลับมาเหมือนเก่า เผื่อว่าวันใดนางย้อนคืนมาแล้วจะนึกอุ่นใจที่ห้องหับยังคล้ายเดิม .. หลิวอู่ไม่นึกว่าความผูกผันจะกลายมาเป็นพิษร้ายได้ถึงเพียงนี้ จากที่ไร้ซึ่งความรัก กลายมาเป็นความห่วงหา ทีละน้อยความสัมพันธ์ของทั้งสองก็ถูกแทนที่ด้วยคำว่าครอบครัวแทนการเป็นคนรักแค่เพียงธรรมดา
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ฉะนั้นเมื่อเขาได้พบจดหมายร่ำลาของภรรยา ทุกข้อความในนั้นจึงมีค่าขนาดที่ไม่อาจหาสิ่งใดมาเทียบได้
<br><br>
<div align="center"><div id="boxLEETTER"><br>
<div align="left"><p style="text-indent: 2.5em;">
ถึงสามีอันเป็นที่รักยิ่ง<br><br>
<p style="text-indent: 2.5em;">หากจดหมายฉบับนี้ถึงมือท่าน เกรงว่าหม่อมฉันคงจะสิ้นไร้ซึ่งลมหายใจแล้ว ตลอดมาหม่อมฉันยึดมั่นทะนงตนอยู่เสมอว่าตนเองเกิดในครอบครัววีรชน ตบแต่งกับยอดคนผู้เป็นหวาง มีบุตรชายน่ารักน่าชังถึงหนึ่งคนทั้งยังมีสหายที่น่าชื่นชมนัก
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">ซวินเหยียนไม่ผิดต่อฟ้า ไม่ผิดต่อใต้หล้า ไม่ผิดต่อท่าน
<br><p style="text-indent: 2.5em;">ชีวิตนี้ผิดต่อ<b>อวี้หราน</b> และ<b>หู่เหยา</b>เพียงเท่านั้น
<br><br></div>
<div align="right">
อย่าทำให้หม่อมฉันผิดหวัง<br>
เหลียงหวางเฟย<br>
<b>ตวนมู่ซวินเหยียน</b><br>
</div></div></div>
</font>
<br><br><div align="center">
<img width="450" src="https://i.imgur.com/F56Ani1.png" border="0" alt=""></div>
</div>
<br><br>
</font></font></div></div><br><br></div><br><br>
<style type="text/css">@import url('https://fonts.googleapis.com/css?family=Chonburi'); Chonburi {font-family: 'Chonburi';}
</style>
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย LuBairan เมื่อ 2024-9-2 15:37 <br /><br /><style>
#boxcorecenter {
border: 0px solid #152cd5;
padding: 15px;
box-shadow: #504C4E 0px 0px 1em;
background-image: url("https://i.imgur.com/J5ZfEJ2.png");
}
</style>
<style>
#boxR0LE {
width: 650px;
border: 0px solid #cbb989;
padding: 35px;
box-shadow: #504C4E 0px 0px 1em;
background-image: url("https://i.imgur.com/PNPim8Q.png");}
</style>
<style>
#boxLEETTER {
width: 380px;
border: 0px solid #cbb989;
padding: 35px;
box-shadow: #504C4E 0px 0px 1em;
background-image: url("https://i.imgur.com/1VhFLiD.png");}
</style>
<div id="boxcorecenter">
<div align="center">
<br><br>
<div id="boxR0LE">
<img width="450" src="https://i.imgur.com/aDtIaPZ.png" border="0" alt="">
<br><font face="Chonburi"><font size="5"><font color="#994D7B"><span style="text-shadow: #ffffff 0px 0px 0.7px, #ffffff 0px 0px 25px, #ffffff 0px 0px 10px;">
<i><b>วาสนาผู้มาโปรด</span></b><br><font face="Sarabun"><font size="2">วันที่ 18 เดือน 08 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 10<br>เวลาสิบสี่นาฬิกาสี่สิบห้านาทีเป็นต้นไป</font></font>
</i><br></font></font></font>
<br>
<div align="left">
<font face="Sarabun"><font size="3">
<p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#C5AEEC">“ พี่ชาย พี่สาว.. ข้า.. ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
เสียงเล็ก ๆ ของเด็กสาวดังขึ้นผลักให้ร่างของเหล่าผู้บรรลุนิติภาวะแยกกันไปคนละทางทันที หลิวเช่อไอแห้ง ๆ เพื่อกลบความกระอักกระอ่วนที่เกิดขึ้นพลางปลดผ้าสีดำออกจากร่างและเดินกลับไปเก็บหมวกปีกกว้างมาสวมต่อดังเดิม ทว่าฝั่งไป๋หรั่นแทนที่จะตั้งตัวได้ หลังจากกระเถิบออกมากายบางกลับทรุดลงกับพื้นพร้อมเด็กสาวในอ้อมแขนจนนางเผลอตระหนกขึ้นมา<font color="#C5AEEC"> “ พี่ชาย พี่ชาย พี่สาวสีหน้าไม่ดีแล้ว ท่านรีบมาดูเร็ว ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#B49A35">“ ฟูเหริน ”</font> หลิวเช่อก้าวเข้ามาช่วยเด็กสาวแปลกหน้าประคองร่างภรรยาของตนให้ลุกขึ้น ด้านไป๋หรั่นที่ร่างกายยวบยาบตามการจัดวางของผู้เป็นสามีมุ่นคิ้วเล็กน้อยเมื่อหวนคิดถึงภาพติดตาอันน่าประหลาดหลังพบกับเหตุการณ์เฉียดตาย
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
นางกำลังนึกถึงภาษาแปลกแปร่งหูเหล่านั้น นึกถึงหญิงสาวแสนมั่นใจที่ข้างกายไร้ผู้ช่วยเหลือ นึกถึงตัวตนนั้น <i><font color="#994D7B">“ รสา.. ”</font></i> นามประหลาดที่ลอดจากปากบางทำให้หลิวเช่อชะงักไปครู่หนึ่ง แน่นอนว่าเขาไม่รู้ความหมายของภาษาประหลาดนี้ แต่เชื่อว่าเหตุการณ์เมื่อครู่คงไปสะกิดบางสิ่งให้ตอบสนอง
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
โอรสสวรรค์ขมวคคิ้วเล็กน้อยดูคล้ายว่ากำลังรำคาญใจ <font color="#B49A35">“ นางไม่เป็นไร เจ้ารีบกลับบ้านได้แล้ว ” </font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#C5AEEC">“ บ้าน.. จริงด้วย ! ต้องรีบกลับบ้าน ไปหาท่านพ่อ ”</font> ยามที่กล่าวถึงครอบครัวประกายความสดใสก็พาดผ่านนัยน์ตาสีเทาที่เคยหลบซ่อนอยู่ใต้หมอกหนาที่เรียกว่าความเศร้าใจ ต่อมาเมื่อนึกถึงก้อนทองที่เสียไปและร่างที่ไม่ยอมตอบสนอง ใบหน้ากลมที่เลอะเทอะมอมแมมก็แซมแววเศร้าหมอง
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#994D7B">“ น้องไม่เป็นอะไร.. ท่านพี่อย่าได้กังวล ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
หลังจากกะพริบตาถี่ ๆ หลายครั้ง รวมไปถึงเรียบเรียงความคิดให้เข้าที่เข้าทาง นางลงความเห็นว่าบางทีนั่นอาจเป็นความฝันที่พึ่งนึกย้อนขึ้นมาได้ แม้ว่ารายละเอียดและความรู้สึกเหล่านั้นจะสมจริงเกินกว่าฝันก็ตาม.. <font color="#994D7B">“ ปล่อยนางไปลำพังคงไม่ดีนัก น้องอยากไปส่งนาง หากท่านพี่ไม่รังเกียจ.. ”</font> ไป๋หรั่นเงยหน้าขึ้นขอคำอนุญาตจากคนเป็นสามีพลางส่ายหน้าน้อย ๆ เป็นสัญญาณว่านางไม่เป็นอะไร
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#B49A35">“ ไกลมากหรือไม่ ”</font> หลิวเช่อไม่ได้ตอบในทันที เขาหันไปถามเด็กน้อยที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยฝุ่นทราย
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#C5AEEC">“ ไม่เจ้าค่ะ ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
เด็กหญิงวัยไม่กี่ขวบปีตอบรับโดยไม่เกรงกลัว ร่างน้อยลุกขึ้นยืนด้วยสองขาพลางเชิดหน้าขึ้นเงยมองผู้ที่สูงกว่าอย่างกล้าหาญ <font color="#C5AEEC">“ เอ่อ ไม่ต้อง .. เอ ต้องพูดยังไงนะ..<b> อ่า ไม่ต้องลำบาก ๆ ! ”</font></b> เมื่อเห็นความกล้าของเด็กสาวที่สูงเลยเข่านางมาไม่เท่าไหร่สามารถสู้สายตานิ่ง ๆ ของหลิวเช่อได้ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่านางนึกประทับใจอยู่ไม่น้อย
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#994D7B">“ ไม่ลำบาก พี่สาวยินดี ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#B49A35">“ เช่นนั้นก็นำทาง พวกข้าจะไปส่ง ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
จากตรอกกลางเมืองเดินลัดเลี้ยวผ่านเส้นทางที่ซุกซ่อนไว้ ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงเพิงเล็ก ๆ ผุพังที่ส่งกลิ่นเหม็นโชยออกมา ไป๋หรั่นยกมือขึ้นป้องจมูก ส่วนหลิวเช่อที่เมื่อได้กลิ่นก็เลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะคว้าแขนไม่ให้ภรรยาต้องเดินไปพบภาพอุจาดตา <font color="#B49A35">“ อย่าเข้าไป ”</font> หลิวเช่อปรามคนข้างกายเสียงเรียบขณะที่กายเล็กของเด็กน้อยหายเข้าไปด้านในเพิง พลางเปล่งเสียงเรียกบิดาซ้ำไปซ้ำมา ตามที่เขาคาดไว้.. ไม่ว่าจะเรียกเท่าไหร่ก็ยังไร้ซึ่งเสียงตอบรับ มาถึงจังหวะนี้หว่างคิ้วของหลิวเช่อก็คลายออกและแฝงแววเวทนาเอาไว้แทน
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#B49A35">“ ใครก็ตามที่อยู่ในนั้น เกรงว่าจะสิ้นใจแล้ว ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#C5AEEC">“ ท่านพ่อไม่ยอมตื่นเลย.. ”</font> เป็นเด็กสาวคนเดิมเดินกลับออกมาอีกครั้งพร้อมด้วยสีหน้าแดงก่ำด้วยความอับอาย ทั้งสองคนที่ลำบากมาช่วยนางคงต้องเป็นคนร่ำรวยฉบับเดียวกับพี่ชายในรถม้าที่แจกทองอย่างแน่นอน <font color="#C5AEEC">“ คือ .. พี่สาวพี่ชายนั่งก่อนดีหรือไม่ ท่านพ่อสอนไว้ว่าต้องรับแขกให้ดี ! ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ยิ่งเห็นเด็กน้อยพยายามมากเท่าไหร่ ใจคนมองก็ยิ่งปวดร้าวเท่านั้น ช่างฝุ่นเครอะที่อาจเปื้อนเนื้อตัว ไป๋หรั่นย่อกายลงคุกเข่าพลางใช้สองมือรั้งไหล่เล็กทั้งสองฝั่งให้หันเปิดตรงมาทางนาง <font color="#994D7B">“ เขาไม่ตื่นมากี่วันแล้ว ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#C5AEEC">“ สี่วันได้แล้ว ท่านพ่อคงโกรธที่ข้าซ่อนเงิน แต่ว่า.. ตอนนี้ ”</font> เด็กน้อยเหลียวกลับไปมองก้อนทองสองสามก้อนบนเตียงด้วยแววตาที่อธิบายยาก ในที่สุดไป๋หรั่นก็ได้พิจารณาเด็กสาวตรงหน้าดี ๆ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
โครงหน้าของเด็กน้อยถึงจะกลมมนตามธรรมชาติเด็กแต่ด้วยความอดยากก็ส่งผลให้แก้มน้อยฟีบแบนจนซูบตอบ ผสานกับเครื่องหน้าที่ไร้เดียงสา ที่ช่วงส่งเสริมสิ่งหนึ่งให้โดดเด่นขึ้นมา นัยน์ตาของนางเป็นสีน้ำตาลอ่อน อ่อนมากเผิน ๆ ดูเหมือนสีสวาดเช่นเมฆหนาที่อุ้มน้ำ ต่อให้สดใสเป็นประกายแต่ก็แฝงความลึกซึ้งไม่ธรรมดาสำหรับเด็กวัยเดียวกัน ไป๋หรั่นจดจ้องเงาสะท้อนของตนเองอย่างชั่งใจ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#994D7B">“ เจ้าไปกับพี่สาวดีหรือไม่? ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
หลิวเช่อที่อยู่ค่อนไปด้านหลังเลิกคิ้วขึ้น ส่วนหนูน้อยตรงหน้าก็มีท่าทางฉงนสงสัย <font color="#C5AEEC">“ ไปกับท่าน? หมายความว่าอย่างไร แล้วท่านพ่อเล่า? ”</font> คำถามนี้ตอบยากว่าจะทำอย่างไรให้เด็กวัยไม่กี่ปีไม่เศร้าจนเกินไป และไม่หวาดกลัวจนเกินไป
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#994D7B">“ เจ้าบอกว่าเขาหลับไปหลายวันแล้วใช่หรือไม่ ”</font> ไป๋หรั่นถามย้ำอีกครั้งเสียงเบาโดยมีแม่หนูน้อยพยักหน้างึกงักเป็นคำตอบ นงคราญหยกระบายยิ้มเบาบางก่อนจะค่อย ๆ ปลุดแพรขาวคลุมหน้าออกช้า ๆ <font color="#994D7B">“ แท้ที่จริงแล้วท่านพ่อของเจ้ากำลังเดินทางอยู่ในแดนนิทรา ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#994D7B">“ โดยปกติแล้วเขามีสิ่งที่ปรารถนาหรือไม่? ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#C5AEEC">“ ท่านพ่อ.. ชอบสุรา ”</font> เด็กน้อยไม่เข้าใจสิ่งที่พี่สาวคนสวยพูดเลยแม้แต่นิดเดียว ทันทีที่บนใบหน้านั้นไร้ซึ่งผ้าแพรก็คล้ายว่านางจะได้เจอกับนางฟ้าที่มาเยือนอย่างกะทันหัน ดวงตาของนางสอดส่องด้วยความสงสัยใคร่รู้ คล้ายว่าจะพยายามทำความเข้าใจกับสายตาอันหลากหลายของผู้ใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#994D7B">“ ในแดนนิทรามีแคว้นแห่งสุรา เกรงว่าท่านพ่อของเจ้า คงไม่ตื่นโดยง่ายแล้ว ”</font> มือบางวางลงกับกลุ่มผมสีเข้มที่ขาดการดูแลอย่างสม่ำเสมอ นึกไม่ถึงเลยว่าวันหนึ่ง.. ทักษะการโน้มน้าวของนางจะต้องถูกหยิบมาใช้เพื่อทำอะไรเช่นนี้ <font color="#994D7B">“ เมื่อไร้บิดาคอยดูแล เมืองนี้ก็ไม่เหมาะจะให้เจ้าเติบโตอีกต่อไป ไปกับพี่สาวเจ้าจะสามารถเติบใหญ่ได้เป็นอย่างดี ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#C5AEEC">“ แล้วถ้าเขาตื่นขึ้นมาล่ะ? ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
เด็กน้อยถามเสียงเบาด้วยความเดียงสา แต่คำตอบที่ได้รับกลับมาจากพี่ชายหน้าดุที่ยืนเงียบมาพักใหญ่เป็นคำว่า <font color="#B49A35">“ เขาจะไม่ตื่นแล้ว ”</font> ทันใดนั้นก็เหมือนโลกถล่มฟ้าถลาย ดวงตากลมกระจ่างคล้ายลูกกวางเริ่มขึ้นริ้วแดงฉาน ไป๋หรั่นหันขวับกลับไปทางสามีที่เบือนสายตาหลบไปอีกทาง
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ขนาดสตรีเขายังรำคาญที่จะรับมือ นับประสาอะไรกับจำพวกที่มีปัญหายุ่งยากยิ่งกว่าเช่นเด็กวัยไม่กี่ปี
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#C5AEEC">“ ข้า .. ข้าไม่ดีพอใช่หรือไม่ ต้องเป็นเพราะข้าหาเงินได้ไม่มากพอ ”</font> ก้อนฝุ่นน้อยมุ่ยหน้ากำหมัดใกล้จะร้องไห้แล้ว.. หลิวเช่อถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายพลางหลุบสายตาลงมองก้อนขาวที่โตกว่ากำลังปลอบก้อนสีเทาที่ตัวเล็กกว่าอย่างสุดความสามารถ <b><font color="#C5AEEC">“ ท่านพ่อไม่ยอมตื่นเพราะไม่ต้องการข้าแล้ว ”</font></b>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#994D7B">“ เด็กน้อย เจ้าเคยฝันดีหรือไม่ ”</font> นงคราญหยกไม่ได้ตอบกลับคำถามในแง่ลบของเด็กน้อยโดยทันที นางเลือกที่จะเกี่ยวปอยผมแห้ง ๆ ของอีกฝ่ายให้ขยับถัดหูพลางถามกลับเสียงเบา จนเห็นเด็กน้อยวัยไม่กี่ขวบปีพยักหน้างึกงักในขณะที่เผยฟันเล็ก ๆ ออกมาขบริมฝีปากกลั้นเสียงสะอื้นถึงได้กล่าวต่อ <font color="#994D7B">“ ถ้าเช่นนั้นเจ้าคงเคยสัมผัสถึงความรู้สึกไม่อยากตื่นใช่หรือไม่ ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
เป็นอีกครั้งที่เด็กน้อยพยักหน้า ไป๋หรั่นยิ้มรับคำตอบนั้นเล็กน้อย <font color="#994D7B">“ บัดนี้บิดาเจ้าก็กำลังฝันดีอยู่เช่นกัน เสียดายที่ครั้งนี้ความปรารถนาของเขานั้นได้เป็นจริงแล้ว เขาจะอยู่ในห้วงฝันนั้นตลอดกาล เป็นการพักผ่อนที่ไม่ต้องทรมาณต่อสิ่งใดอีก ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
เป็นวิถีการบอกเล่าความตายให้กับเด็กที่อ่อนโยนและใจเย็นมาก.. ตลอดชีวิตที่เขาเกิดมา หลิวเช่อไม่เคยเห็นใครใช้ความฝันมาเชื่อมโยงกับแดนหลังความตายมาก่อน โอรสสวรรค์ยกมุมปากขึ้นช้า ๆ เกรงว่าเขาคงต้องประเมินฝีปากการเอาตัวรอดของอีกฝ่ายใหม่แล้ว
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#C5AEEC">“ แล้วข้าล่ะ.. ”</font> ไม่มีเด็กคนใดต้องการที่จะรู้สึกว่าตัวเองถูกทิ้ง เด็กน้อยแก้มตอบผู้นั้นถามนางด้วยเสียงที่สั่นเครือ ฟังแล้วก็รู้ว่าทั้งเศร้าโศกกังวล
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#994D7B">“ ในฝันของเจ้าเคยมีเขาหรือไม่ ”</font> ไป๋หรั่นถามอีกครั้ง และได้คำตอบเป็นการพยักหน้าเช่นเดิม <font color="#994D7B">“ เขาเองก็มีเจ้าอยู่ในความฝันเช่นกัน ฉะนั้นแล้วบิดาหาได้ทิ้งเจ้า เขาเพียงแค่นึกว่าเด็กน้อยของเขาก็อยู่ในห้วงฝันนั้นด้วยเช่นกัน ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#C5AEEC"><b>“ ถ้างั้นข้าต้องบอกเขา ! ” </font></b>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#994D7B">“ บอกอย่างไรเล่า.. ในเมื่อเจ้าไม่สามารถปลุกเขาได้? ”</font> สาวงามถามเสียงหวานพร้อมด้วยใบหน้าอมยิ้มหน่อย ๆ อย่างปลื้มใจเมื่อเห็นว่าเด็กตัวเล็กข้างหน้ากำลังพยายามใช้ความคิดอยู่อย่างสุดความสามารถ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#C5AEEC">“ ข้าจะตามหาทางไปหาท่านพ่อในฝัน ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#994D7B">“ อื้ม ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ความหวังของเด็กเป็นสิ่งที่เจิดจรัสที่สุด นางไม่อยากทุบทลายมันตอนนี้ เพราะอย่างไรเสียในอนาคตนางก็ต้องเติบโตขึ้นจนเข้าใจวัฏจักรของชีวิต.. <font color="#994D7B">“ กว่าจะหาที่นั่นพบอาจต้องใช้เวลาทั้งชีวิต ระหว่างนี้ที่ข้างกายไร้เขา เจ้าจะทำอย่างไร ”</font> เด็กน้อยไม่อาจคิดคำตอบกลับได้อีกต่อไป ดวงตาที่ฉ่ำน้ำหลุบลงต่ำ ตลอดชีวิตล้วนเผชิญแต่ความอับจนหนทางแต่ก็ยังไม่มีครั้งใดว่างเปล่าน่ากลัวเท่าครั้งนี้
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#994D7B">“ พี่สาวจะถามเจ้าอีกครั้ง ”
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
“ ไปกับพี่สาวดีหรือไม่? ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
เด็กน้อยเหลือบตาขึ้นมองดวงหน้างามหยาดฟ้าที่แย้มยิ้มออกมาดูอ่อนหวานนุ่มนวลทีละน้อย <font color="#994D7B">“ พี่สาวไม่ได้ต้องการอะไรจากเจ้า แค่ต้องการเห็นเจ้าเติบโต เพื่อที่สักวัน.. จะได้พบกับคนที่เจ้าอยากพบ ”</font> ไป๋หรั่นปล่อยมือออกจากร่างเล็ก และเลือกรออย่างสงบเพื่อให้เด็กหญิงได้มีเวลาตัดสินใจ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#C5AEEC">“ หากข้าตกลง.. พี่สาวจะพาข้าไปยังไง? ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
คำถามที่แสนซื่อของเด็กสาวทำให้ไป๋หรั่นฉุกคิดในสิ่งที่เผลอมองข้ามไป จะใช้สาบานเป็นพี่เป็นน้องกับเด็กวัยหกขวบก็ดูจะแปลกประหลาดไปอยู่บ้าง นางไม่สามารถรับคนเข้ามาเป็นน้องได้โดยไม่ขออนุญาตพ่อแม่.. จะรับเป็นผู้ติดตาม? ก็ไม่ดี ยังเด็กเกินไป กลับเมืองหลวงหากไม่ชินสภาพแวดล้อมสุดท้ายก็ไม่ต่างอะไรจากปล่อยนางให้เติบโตที่นี่ ถ้าเช่นนั้น.. ตำแหน่งที่ไม่จำเป็นต้องขออนุญาตขอบิดามารดา ตำแหน่งที่ทำให้นางมีสิทธิ์ตัดสินใจ และไม่ปล่อยอีกฝ่ายให้ถูกละเลยจนเกินไป
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#994D7B">“ … เจ้ายินดีรับพี่สาวเป็นแม่บุญธรรมหรือไม่ ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ข้อเสนอนี้พอจะทำให้หลิวเช่อหันขวับกลับมาสนใจการสนทนาที่กำลังยืดเยื้อนี้ได้อยู่บ้าง <font color="#B49A35">“ แน่ใจแล้ว? ”</font> โอรสสวรรค์ไม่ได้เห็นแย้งกับการช่วยเหลือคนถึงแม้ว่ามันจะวุ่นวาย ถึงตอนนี้จะยังซื่อบื้อไปบ้างแต่แววตาของเด็กสาวตรงนั้นก็ดูไม่เลว หากได้รับการอบรมสั่งสอนคงเป็นหนึ่งในผู้มีอนาคตไกล แต่คนที่ยื่นขอเสนอไปพึ่งจะอายุได้สักเท่าไหร่กันเชียว
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ไป๋หรั่นเข้าใจว่าหลิวเช่อกำลังคิดอะไร <font color="#994D7B">“ หากมิพร้อมตอนนี้แล้วจะพร้อมเมื่อใดได้อีกเล่า.. ”</font> นางอายุสิบแปดแล้ว เลยวัยออกเรือนมาสามปี หากเป็นบ้านที่เคร่งหน่อยป่านนี้ก็คงเคยมีประสบการณ์ท้องโตมาแล้ว บางทีตลอดทั้งชาตินี้นางอาจไม่ได้มีทายาทที่เกี่ยวพันทางสายเลือดเป็นของตัวเอง ชิงรับมาไว้ก่อนก็ไม่ใช่ความคิดที่แย่อะไร..
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#994D7B">“ ก่อนจะมีลูกคนแรกก็ไม่เคยมีใครเป็นแม่มาก่อน น้องแค่รวบขั้นตอนมาลองสัมผัสกับหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบอีกหนึ่งชีวิตก่อนจะเป็นสายเลือดของตัวเองก็เพียงเท่านั้น ”</font> พูดไปพูดมาก็พึ่งตระหนักได้ว่าฐานะของนางไม่ใช่แค่ภรรยาชาวบ้านร้านรวงโดยทั่วไป แต่เป็นถึงสตรีของโอรสสวรรค์ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องทายาทเทียมฟ้า
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#B49A35">“ เช่นนั้นข้าก็ต้องเป็นพ่อนาง? ” </font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ความคิดนับพันนับหมื่นไหลผ่านอย่างรวดเร็ว การนำเด็กน้อยคนหนึ่งมาเกี่ยวพันกับในวังโดยไม่วางแผนไม่ใช่เรื่องดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็กสาวที่ไม่รู้สายเลือดแน่ชัดว่าลูกใคร ชนชาติไหน นางที่มีศักดิ์เป็นสนม รับอีกฝ่ายเป็นลูก ด้านสามีก็ใช่ว่าจะรับได้..<font color="#994D7B">“ ท่านพี่ หากภายในไม่ต้อนรับนาง น้องยังสามารถส่งเด็กคนนี้ไปที่บ้านเกิดไ—- ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#B49A35">“ เงียบ ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
โอรสสวรรค์ขัดคำพูดของสนมเสียงเรียบ ก่อนจะเบี่ยงสายตาจรดลงมองเด็กสาวที่เปรียบเสมือนก้อนฝุ่นในสายตาเขา <font color="#B49A35">“ อยู่ที่นี่หนทางยากลำบาก ไปกับนางอนาคตก็ยังมีอุปสรรค แต่จะมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับความสามารถของเจ้า ”</font> เขาไม่ใช่คนขายฝันหรืออ้อมค้อม เห็นแก่ที่แววตาไม่เลว แทนภรรยาผู้ใจอ่อนเขาจะช่วยมอบข้อเสนอที่ฟังดูดีสำหรับเด็กซึ่งไร้อนาคตผู้นี้ก็แล้วกัน
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#B49A35">“ สิ่งเดียวที่รับประกันได้หากไปกับนาง ”
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
“ คือเจ้าจะไม่ต้องสู้เพียงลำพัง ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
โอรสสวรรค์ลดกายลงคุกเข่าเคียงข้างภรรยาที่ให้ข้อเสนอกับเด็กน้อยคนนั้น <font color="#B49A35">“ อยู่ที่เจ้าเลือก ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
…
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#B49A35">“ เจ้ายังไม่พร้อมที่จะดูแลเด็กคนหนึ่ง ”</font> จุดยืนภายในวังไม่หนักแน่นพอแล้วยังรีบร้อนหาภาระเข้าตัวเพิ่ม ฮั่นอู่ตี้ในคราบพ่อค้ายืนพิงหน้าต่างบานใหญ่ของห้องพักในโรงเตี๊ยมหรูพลางจรดสายตามองสาวงามที่กำลังวางร่างอันหลับใหลของเด็กสาวที่ดูสะอาดสะอ้านลงกับเตียงนอน
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#994D7B">“ ข้ารู้ ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
นางรู้อยู่แก่ใจว่าหลายอย่างยังไม่พร้อม ปลายนิ้วขาวราวต้นหอมเกลี่ยลงกับแก้มบางของเด็กสาวที่ผ่านการล้างเนื้อล้างตัวมาอย่างดี ผิวโดยพื้นเพของนางดูแล้วขาวสะอาดคาดว่าคงเป็นลูกคนผู้ดีสักรายที่ถูกทิ้งออกมา ถึงจะแห้งกร้านแต่หากหมั่นบำรุงน่าจะฟื้นคืนสภาพเดิมที่ควรเป็นได้ไม่ยาก <font color="#994D7B">“ แต่จะให้ทิ้งนางไว้ก็ไม่ใช่สิ่งที่ข้าอยากทำ ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#B49A35">“ อู๋เว่ยมีเด็กยากไร้มากมาย เจ้าจะคอยช่วยทุกรายไปหรืออย่างไร ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#994D7B">“ ถ้าทำได้ก็คงทำ เสียดายที่ทำไม่ได้ ”</font> นงคราญหยกหัวเราะเบา ๆ พร้อมกับยกผ้าห่มคลุมกายน้อยก่อนจะลุกขึ้นหันกลับไปมองผู้เป็นสามี <font color="#994D7B">“ โชคชะตาส่งนางมาอยู่ตรงหน้า.. ข้าก็ไม่อยากมองข้ามปัดทิ้งไป ทว่าเรื่องราวในบ้านท่านซับซ้อน หากไร้หนทางจริง ข้าก็จะส่งนางกลับบ้านเกิด ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
หากนางได้ท่องยุทธไร้พันธะ ข้อเสนอรับเป็นธิดานี้คงไม่มีทางเกิดขึ้น นางไม่ใช่สตรีที่เข้ากับเด็กได้ดี แต่ก็รู้ว่าตัวเองพอทำได้ เผิน ๆ ดูแล้วเหมาะแก่การเป็นอาจารย์มากกว่ามารดา ทว่าในเมื่อมีพันธะเกี่ยวพันกับวัง.. จะไปมีใครเชื่อว่าพระสนมคนหนึ่งที่อายุไม่มากจะมีศิษย์เป็นของตัวเอง หรือต่อให้มี ศักดิ์ฐานะการเป็นศิษย์นี้ก็คงไม่ได้ช่วยให้นางได้รับวิถีชีวิตที่ดีขึ้น
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#994D7B">“ ข้าให้นางสาบานเป็นพี่น้องไม่ได้ จะรับเข้าบ้านในฐานะน้องสาวจริง ๆ โดยไม่ขอบิดามารดาก็ไม่ได้ ให้นางกราบข้าเป็นอาจารย์ สุดท้ายแล้วสิ่งที่ข้าสอนนางได้นอกจากศาสตร์ของสตรี ไหนเลยจะมีเรื่องการเอาชีวิตรอดเข้ามาเกี่ยว หรือเลี้ยงไว้เหมือนที่บิดาเคยรับใต้เท้าหลี่ ข้าก็ไม่ได้มีความจำเป็นต้องใช้คน หรือฝึกเด็กอายุไม่ถึงสิบหนาวดีให้มารับใช้ ” </font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#994D7B">“ ท่านเห็นแววตาของนางหรือไม่ ”</font> ไป๋หรั่นวาดยิ้มแผ่กระจายไปถึงดวงตา <font color="#994D7B">“ คนที่มีแววตาอย่างนี้ไม่มีทางตกต่ำไปทั้งชีวิต .. ท่านพ่อเคยบอกว่าพี่สาวของข้าที่หายตัวไปก็มีแววตาเช่นนี้ แววตาที่ใคร่รู้ในโลกหล้าและหาญกล้าเปี่ยมปัญญา ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
หลิวเช่อทราบถึงปริศนาการหายตัวไปของลู่อวี้หรานเพราะหากไม่มีเหตุการณ์นี้ชางหรงสหายเขาคงไม่ตัดสินใจก้าวเข้ามาทำงานในหน่วยสืบราชการลับและกลายเป็นอีกหนึ่งกำลังให้งานของเขาราบรื่นขึ้น ลู่อวี้หรานที่เขาจำได้คือหญิงงามมากความสามารถไม่แพ้พระพี่นางของตน
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
เขาไม่ปฏิเสธว่าชื่นชมในความกล้าหาญ รวมไปถึงคาดว่าคงมีความสามารถบางอย่างที่ซุกซ่อนไว้ แต่หากฝึกฝนได้และโตไปเป็นคนมีความสามารถอย่างลู่อวี้หราน บางทีอาจเป็นประโยชน์ต่อเขามากกว่าที่คิด <font color="#B49A35">“ …เช่นนั้นก็หาวิธีกล่อมนางให้เรียกข้าว่าท่านพ่อก่อนกลับเมืองหลวง ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#994D7B">“ ฝ่—- หมายถึง นี่ท่าน .. ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#B49A35">“ ข้าเป็นสามีเจ้า ”</font> แบบนี้ก็คงเท่ากับเขายอมรับแล้ว หนนี้ไป๋หรั่นเริ่มจะวิตกขึ้นมาบ้างจริง ๆ เพราะไม่อาจทราบได้เลยว่าสิ่งที่อีกฝ่ายคิดอยู่นั้นคือเรื่องใด <font color="#B49A35">“ การตัดสินใจนี้ของฟูเหรินทำให้ข้าต้องเจอเรื่องยุ่งยากอีกพักใหญ่ <b>ฉะนั้นคืนนี้.. ชดใช้ให้ดีก็แล้วกัน</b> ”</font>
</font>
<br><br><div align="center">
<img width="450" src="https://i.imgur.com/F56Ani1.png" border="0" alt=""> <br><br><font face="Sarabun"><font size="3">
(ชีพึ่งอัปไม่นาน ลืมมาขอฮะ) การอัปเลเวลของผู้ติดตาม +10 บารมี<br>ทำกิจกรรมสันทนาการกับหวงตี้ +15 บารมี<br> รับเลี้ยงเด็กต้องมีโบนัสบ้างแหละวะ .นั่ง</div>
</div>
<br><br>
</font></font></div></div><br><br></div><br><br>
<style type="text/css">@import url('https://fonts.googleapis.com/css?family=Chonburi'); Chonburi {font-family: 'Chonburi';}
</style>
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย LuBairan เมื่อ 2024-9-2 18:33 <br /><br /><style>
#boxcorecenter {
border: 0px solid #152cd5;
padding: 15px;
box-shadow: #504C4E 0px 0px 1em;
background-image: url("https://i.imgur.com/J5ZfEJ2.png");
}
</style>
<style>
#boxR0LE {
width: 650px;
border: 0px solid #cbb989;
padding: 35px;
box-shadow: #504C4E 0px 0px 1em;
background-image: url("https://i.imgur.com/PNPim8Q.png");}
</style>
<style>
#boxLEETTER {
width: 350px;
border: 0px solid #cbb989;
padding: 35px;
box-shadow: #504C4E 0px 0px 1em;
background-image: url("https://i.imgur.com/1VhFLiD.png");}
</style>
<div id="boxcorecenter">
<div align="center">
<br><br>
<div id="boxR0LE">
<img width="450" src="https://i.imgur.com/aDtIaPZ.png" border="0" alt="">
<br><font face="Chonburi"><font size="5"><font color="#994D7B"><span style="text-shadow: #ffffff 0px 0px 0.7px, #ffffff 0px 0px 25px, #ffffff 0px 0px 10px;">
<i><b>เยือนถิ่นสุขาวดี</span></b><br>
<font face="Sarabun"><font size="2">วันที่ 18 เดือน 08 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 10<br>เวลายี่สิบนาฬิกาสามสิบแปดนาทีเป็นต้นไป</font></font>
</i><br></font></font></font>
<br>
<div align="left">
<font face="Sarabun"><font size="3">
<p style="text-indent: 2.5em;">เย็นย่ำค่ำมืดแล้ว แทนที่สองสามีภรรยาในนามจะเข้าไปพักในโรงเตี๊ยมหรือไม่ก็เดินทางกลับเรือยักษ์อันเป็นที่พำนักหลัก บัดนี้ผู้เป็นสามีกลับพานางเข้ามาในอาณาเขตหอสูงที่ตลอดทั้งชีวิตไม่เคยคิดจะมาเยือน.. หอโคมเขียว แดนสุขาวดีอันเลื่องชื่อของชายชาตรีที่ล้วนแต่ต้องเคยใฝ่ฝันหานางฟ้าหอโคมเขียว
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ไม่ใช่ทุกครั้งที่หอนางโลมในเขตทุรกันดารจะมีชายรูปงามท่าทางร่ำรวยมาเยือน ทันทีที่หลิวเช่อก้าวข้ามธรณีประตู สายตานับสิบก็ตวัดมองมาราวกับต้องการจิกทึ้งดึงร่างตนให้จมอยู่ภายใต้เสน่ห์นงคราญ หญิงสาวหลายคนที่ทีแขกอยู่ก่อนแล้วก็ได้แต่ชะม้ายชายตาหว่านเสน่ห์หวังผล ส่วนใครที่ว่างอยู่ก็ไม่พ้นออกปากเย้าหยอกเช่นสตรีใจกล้าที่เดินทิ้งสะโพกอย่างเชื่องช้าเดินตรงมาเบื้องหน้าเขา <font color="#015838">“ นายท่านรูปงามผู้นี้.. มาคนเดียวหรือเจ้าคะ ~ ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
เสียงของนางเล็กแหลมฟังแล้วรู้สึกปวดหัวเกินไปหน่อยสำหรับเขา หลิวเช่อเลื่อนสายตาสำรวจคนตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า ต้องยอมรับว่าท่ามกลางหญิงสาวที่สวมใส่เสื้อผ้าของชาวนอกด่าน การมีคนสวมชุดที่ตัดเย็บตามฉบับต้าฮั่น ย่อมนับว่าโดดเด่นสะดุดตา เพียงแต่ว่า.. หญิงแปลกหน้าผู้นี้กลับฉีกขนบธรรมเนียมทิ้งอย่างไม่ใยดี ไม่ว่าจะสาบเสื้อที่แหวกออกเผยลาดไหล่ เว้าลึกถึงเนินอก หรือจะกระโปรงที่ผ่าออกอวดเรียวขาขาว และปล่อยเท้าเปลือยหมายจะล่อลวงคนให้อยู่หมัด
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
น่าเบื่อนัก.. เขาคร้านจะใส่ใจกับเรื่องโสมมเหล่านี้จึงได้แต่เบี่ยงสายตามองหาคนที่ตั้งใจส่งให้เข้ามาก่อนตน
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ในสายตาไม่ทันได้เห็น ช่วงหลังของบ่าก็สัมผัสได้ถึงปลายนิ้วเย็นนุ่มที่จรดลงมาพร้อมลากผ่านจากซ้ายไปขวาเช่นเดียวกับฝีเท้าเงียบงันที่ค่อย ๆ เพิ่มระดับเสียงขึ้น <font color="#994D7B"><b>“ นายท่านมาหาน่าเอ๋อร์ด้วยตนเองเช่นนี้ หรือว่าทนรอน่าเอ๋อร์ไปหาไม่ไหว..? ”</b></font> ร่างบางขยับแทรกคั่นกลางระหว่างชายรูปงามและร่างอวบอิ่มตามฉบับนางโลมเลื่องชื่ออย่างแช่มช้าพลางพาดสองมือลงกับไหล่กว้างทั้งสองฝั่งให้ดูแนบชิดสนิทสนม
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<b>หลี่น่า</b>คนงามสวมใส่อาภรณ์ผ้าโปรงบางดูวาบหวิวเย้ายวน ทั้งยังมีแพรแดงปักโบตั๋นทองพาดบังใบหน้าครึ่งล่างช่วยเสริมให้ลึกล้ำทรงเสน่ห์ สำหรับวงการคณิกาเมื่อเห็นว่าเหยื่อถูกแย่งไปซึ่ง ๆ หน้ามีหรือที่นางโลมระดับหัวแถวจะรับได้ สาวอกอิ่มไม่ทราบชื่อคนนั้นกัดฟันก่อนจะรีบเปลี่ยนสีหน้าเย่อหยิ่งให้กลายเป็นออดอ้อน
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#015838">“ นายท่าน ค่ำคืนทะเลทรายหนาวเหน็บนัก อาศัยเพียงนาง.. ”</font> สองตาคมเข้มอย่างสตรีนอกด่านกวาดมองร่างที่ตนไม่อยากยอมรับว่าทรวงทรงสัดส่วนล้วนสมบูรณ์แบบตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยแววชิงชัง <font color="#015838"><b>“ เกรงว่าคงช่วยคลายหนาวมิได้ ”</b></font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
นับตั้งแต่ที่<b>หลี่น่า</b>ปรากฏกายสายตาของโอรสสวรรค์ก็ไม่เคยเบี่ยงมองผู้อื่น ราวกับให้ความสนใจแค่คนที่เข้ามาอิงแอบจนคนรอบข้างนึกอิจฉาสาวแปลกหน้าคาดกันว่าคงมีสัมพันธ์กับแขกที่พวกตนหมายตามาก่อนถึงขนาดสามารถทำให้เขาเฝ้ามองแค่เพียงนางทั้งที่รอบข้างก็มีสาวงามอยู่มากมาย ดวงหน้างามพิลาสล้ำใต้ผ้าแพรเหลียวไปด้านข้างพลางใช้หางตามองคู่กรณี <font color="#994D7B">“ จริงอย่างที่พี่สาวว่า.. ลำพังตัวข้าไม่อาจคลายหนาวให้นายท่านได้ ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ดูเหมือนแม่หนูนี้ก็ไม่ได้รับมือยากสักเท่าไหร่ นางโลมสาวในชุดเขียวมรกตเชิดหน้าขึ้นหมายจะสอดปากเสนอตัว แต่แทนที่จะมีจังหวะได้พูด .. <font color="#994D7B">“ ทว่านายท่านไหนเลยจะต้องการคนคลายหนาว ”</font> โบตั๋นน้อยแนบหน้าอิงอกแกร่งประหนึ่งกลีบผการ่วงกระทบผิวน้ำ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#994D7B"><b>“ นายท่านต้องการคนมาดับร้อน เรื่องนี้น่าเอ๋อร์ทราบดียิ่งกว่าใคร ”</b></font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
คนฟังถ้ากรี๊ดได้ก็คงกรี๊ดไปแล้ว หลังจากเจอการสวนกลับด้วยประโยคเอื่อยเฉื่อยคล้ายไม่จริงจังทว่าหยอกกลับแรงนักฝ่ายนางโลมที่อยู่มานานก็แทบจะลมจับ ผิดกับเสี่ยวหลี่น่าที่ยิ้มกระหยิ่มในใจอย่างขบขัน หารู้ไม่เลยว่าทั้งหมดนั้นล้วนอยู่ภายใต้สายตาที่เฉียบคมของนายท่านแทบทั้งหมด
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#B49A35"><b>“ ...ดูเหมือนจะร้อนอยู่บ้างจริง ๆ ”</b></font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
หนนี้เป็นสองสาวที่หันขวับมองหน้าชายที่ต่างฝ่ายต่างก็แย่งชิง คนหนึ่งสายตาเจ็บปวดปานจะขาดใจที่ไม่อาจคว้าเหยื่อชั้นดีมาเป็นของตน ส่วนอีกคนตะลึงพรึงเพริดด้วยความนึกไม่ถึงว่าคนอย่างเขาจะช่วยออกปากส่งเสริมในการละเล่นของสตรีที่ตนเองไม่ชอบนักหนา
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#994D7B">“ ถ ถ้าอย่างนั้นให้น่าเอ๋อร์พานายท่าน… ”</font> ต้นประโยคเสียงสะดุดไปไม่น้อย ท้ายประโยคยังเริ่มเลือนเพราะไม่รู้ว่าควรเล่นให้มากกว่านี้ หรือว่านี่กำลังพอดีแล้ว แต่ในสายตาคนอื่นการเว้นเสียงให้คิดเองอย่างนี้ไม่ต่างอะไรจากการซ้ำเติมจนชวนให้คนกระอักความริษยามออกมา
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#B49A35">“ ทำไมตอนนี้ไม่กล้าพูดแล้วล่ะ ”</font> ใบหน้าคมคายของชายรูปงามโน้มลงหาดวงหน้าหวานของนางโลมปริศนา แม้ว่าสีหน้าของเขาจะไม่เคยเปลี่ยน แต่ก็พอรู้ได้เลยว่านี่เป็นการกลั่นแกล้งรูปแบบหนึ่งที่คนอย่างเขาจะสามารถกระทำกับนางได้ หลี่น่าขมวดคิ้วเล็กน้อยพลางแนบแก้มลงซบบ่าแกร่งอีกครั้ง ทว่าหนนี้กลับตามมาด้วยเสียงกระซิบเบาบางพอให้ได้ยินกันแค่สองคน
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#994D7B"><i>“ ให้ความร่วมมือกันหน่อย.. ”</i></font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
มุมปากของโอรสสวรรค์หยักขึ้นเป็นรอยยิ้มเปี่ยมเสน่ห์ หลิวเช่อที่ปลอมแปลงตัวตนเป็นเพียงพ่อค้าพยักหน้าน้อย ๆ ในขณะที่ขยับแขนโอบเอวบางเพื่อแสดงถึงการให้ความร่วมมืออย่างที่อีกฝ่ายต้องการ <font color="#B49A35"><b>“ อย่างเจ้า.. เกะกะเกินไป หลบทางด้วย ”</b></font> คำนี้จะว่าแรงก็แรงอยู่ ประหนึ่งมีไม้หน้าสามฟาดลงกลางความภาคภูมิใจในเรือนร่างของนางคณิกาที่ปลุกปั้นมาให้อวบอิ่มเต่งตึง หญิงสาวในชุดสีมรกตเหม่อลอยไร้ข้อโต้แย้ง ได้แต่ปล่อยให้สองร่างที่ดูเหมาะสมกันนักหนาเดินผ่านไปพร้อมเสียงหัวเราะเบา ๆ กระแสหนึ่งที่ลอยกลับมา
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
…
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#B49A35">“ เจ้าทำให้ข้าได้เปิดหูเปิดตาไม่น้อย ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ครั้งนี้ไม่ใช่น้ำเสียงหยอกล้อแซะแซวหรือสวมบทบาทใด ๆ แต่เป็นน้ำเสียงเรียบนิ่งเย็นเฉียบที่มากะทันหันเสียจนคนฟังเสียวสันหลังวาบ หลี่น่า.. หรือก็คือไป๋หรั่นหันกลับมายิ้มแหยอย่างกระอักกระอ่วน <font color="#994D7B">“ ท่านเป็นผู้สั่งเองแท้ ๆ ”</font> การตอบกลับของพระสนมที่ต้องมาสวมบทนางโลมเบาหวิวเมื่อบัดนี้ทั้งคู่กำลังอยู่ตรงระเบียงชมทิวทัศน์บนหอสูง ที่แม้จะไม่ได้มีคนพลุกพล่านก็พอมีคนกระจัดกระจายอยู่ตามชายขอบระเบียง
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับนางที่จะต้องมาแสดงท่าให้เหมือนคนที่ถูกอบรมมาเพื่อครอบงำบุรุษโดยเฉพาะ หากไม่ใช่ว่าครั้งหนึ่งเคยเห็นเหล่านางโลมตามงานเลี้ยงสังสรรค์ของคนใหญ่คนโต แผนการนี้คงแตกตั้งแต่ที่นางแข็งกระด้างยืนทื่อเป็นต้นไม้แล้ว
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
สิ่งที่นางไม่คิดจะทำเมื่ออยู่กับเขาก็เหมือนว่าได้ลองไปเกือบครึ่งแล้ว ไป๋หรั่นผ่อนลมหายใจออกทางริมฝีปากเฮือกใหญ่และเป็นฝ่ายทบทวนสาเหตุการมาเยือนหอโคมเขียวขึ้นอีกครั้ง <font color="#994D7B">“ ท่านต้องการอะไรจากทนี่กันแน่.. ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
หลิวเช่อหลุบตาลงมองคนร่วมแผนการเล็กน้อย ก่อนจะขยับสองมือไขว่หลังพลางปล่อยสายตาให้ทอดตรงไปยังทิวทัศน์ของค่ำคืนที่ฟ้านั้นถูกประดับโดยแสงดาว ถัดไปด้านหลังของเขาคือกำแพงยาวที่เชื่อว่าคงเป็นทางเดินของโถงรับรองพิเศษ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#B49A35">“ ไม่ใช่จากที่นี่ แต่เป็นจากห้องด้านหลังเราในยามนี้ ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
หลังจากนั้นไป๋หรั่นก็พอได้รู้เรื่องฉบับคร่าว ๆ .. แบบที่คร่าวมาก ฝ่าบาทได้รับการรายงานจากสายข่าวในอู๋เว่ยว่ายามนี้มีการเคลื่อนไหวแปลก ๆ ของคนกลุ่มหนึ่งที่คาดว่ากำลังจะวางแผนร้าย ทว่าตัวตนของกลุ่มนี้กลับไม่สามารถระบุชัดได้ว่าเป็นคนของฝ่ายไหน เรื่องใหญ่ที่เกิดขึ้นใต้จมูกญาติใกล้ชิดที่ต่อให้เบื้องหน้าจะจงรักภักดีแต่เบื้องหลังกลับไม่อาจคาดเดาได้อย่างเหลียงเซี่ยวหวางทำให้หลิวเช่อจำเป็นต้องระวังตัวเป็นพิเศษ ถึงได้ตัดสินใจลงมาสืบข่าวคราวด้วยตนเองโดยเฉพาะ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
จากการไล่ตามล่าสุด เท่าที่ทราบเหมือนว่ากลุ่มคนปริศนานั้นจะพบกันที่โถงรับรองพิเศษภายในหอโคมเขียวชื่อดังภายในเมือง และถ้าข่าวที่ได้มาไม่ผิดพลาด วันนี้จะเป็นวันครบกำหนดนัดหมายให้คนพวกนั้นมาเจอกันพอดี
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ทีแรกนางตั้งใจจะถามว่าสรุปแล้วเรื่องนี้เกี่ยวกับนางอย่างไรถึงได้พานางให้ตามมาด้วย แต่เมื่อคิดถึงนิสัยเขา ถ้ารู้ว่าต้องมานอกด่านที่เป็นไปด้วยสาวใจกล้าบ้าบิ่นที่สามารถตามตื๊อชายในดวงใจจวบจนอีกฝ่ายจะตอบรับหรือจากตาย ดูท่าแล้วการพกไม้กันหมามาก็น่าจะมีประโยชน์มากกว่า
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
เวลาผ่านไปได้ราว ๆ เกือบครึ่งชั่วยาม.. <br>
<p style="text-indent: 2.5em;">
ในที่สุดก็มีเสียงฝีเท้าพากันทยอยเข้าไปในห้องรับรองพิเศษ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#994D7B">“ มีฝีเท้าแค่ไม่กี่คู่.. ใช่พวกเขาจริงหรือ ”</font> ไป๋หรั่นถามเสียงเบาในขณะที่เอี้ยวหน้าฟังเสียงภายใน แต่ก็ไร้คำตอบ หลิวเช่อยังคงนั่งอยู่อย่างสงบพร้อมปิดเปลือกตาลงเหมือนว่าใช้สมาธิเพื่อเพ่งฟังถ้อยคำให้ครบถ้วน นงคราญหยกที่เห็นอย่างนั้นก็สงบปากสงบคำด้วยตัวเอง กระทั่งได้ยินเสียงสนทนาลอยออกมา
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#708C88">“ ข่าวคราวในราชสำนักเป็นอย่างไรแล้วบ้าง ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
เปิดมาแบบนี้ก็คงไม่ต้องคิดแล้วว่าใช่หรือไม่ ลู่เจาอี๋ที่รู้ตัวตนของชายข้างกายเป็นอย่างดีค่อย ๆ เหลือบไปมองคนข้างกายเล็กน้อย บัดนี้หลิวเช่อลืมตาขึ้นแล้ว ในเนตรมังกรคู่นั้นมีกระแสความโหดเหี้ยมแฝงอยู่
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#5A4C20">“ อีกไม่นานศึกใหญ่ระหว่างต้าฮั่นและซ่งหนูจะปะทุขึ้นอีกครั้ง ท่านโปรดไปแจ้งแก่ต้าหวางให้เตรียมทัพเถิด เมื่อถึงเวลานั้นที่กองกำลังถูกส่งไปรบกับซ่งหนู การรักษาความปลอดภัยที่เขตอื่นก็จะหย่อนยานลง ในยามนั้นต้าหวางย่อมสามารถตีด่านทางตะวันตกให้แตกได้โดยง่ายแน่นอน ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ใครสั่งใครสอนให้รู้จักกล่าวได้สมควรตายขนาดนี้ .. แม้แต่ไป๋หรั่นยังอดสะพรึงไม่ได้เมื่อรับรู้ถึงกระแสความกดดันที่แผ่ออกมาจากพระวรกายโอรสสวรรค์ เชื่อว่าหากรู้ตัวตนแล้วคนที่อยู่ด้านในคงไม่ได้ตายดี <font color="#5A4C20">“ ถึงเวลานั้นหวังว่า.. เผ่าปีศาจจักมิลืมบุญคุณของข้า<b>หลูเทา</b>ผู้นี้ ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
หลูเทา?
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
เนตรคมของผู้ครองบัลลังก์กระตุกเล็กน้อย ส่วนไป๋หรั่นก็พลันขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ ทั้งคำว่าต้าหวาง เผ่าปีศาจ หรือกองทัพ.. ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องใหญ่จนเกินไป แต่เสียงด้านในกลับจางลงราวกับรู้ว่ามีคนแอบฟัง <font color="#994D7B">“ พวกเขากำลังเรียกหญิงสาวเข้าไปปรนนิบัติด้านใน ถ้าพวกนางเข้าไป เสียงหารือจะถูกกลบจนหมดแน่ ๆ.. ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ถึงนางจะไม่ใช่ผู้สมัครใจรักชาติจนเข้าเส้นเลือด แต่เพื่อความสงบสุขของครอบครัวการปกป้องชาติก็เป็นหน้าที่สำคัญอย่างหนึ่ง นงคราญหยกหันมองสามีที่กำลังครุ่นคิดว่าควรทำอย่างไรเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยปากออกมาหนึ่งประโยค <font color="#994D7B">“ เรื่องนี้สำคัญมากใช่หรือไม่ ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
เรื่องบ้านเมืองมีหรือที่ไม่สำคัญ หลิวเช่อปรายตามองภรรยาตนเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าแทนการตอบกลับด้วยเสียง เมื่อเห็นอย่างนั้นไป๋หรั่นก็ก้มหน้าลงคล้ายตัดสินใจบางอย่าง.. จนเมื่อได้คำตอบที่ชัดเจนแล้วก็เงยหน้าขึ้นพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ <font color="#994D7B">“ ใช้ข้าสิ ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#994D7B">“ ท่านพาข้ามาด้วยเหตุผลประเภทนี้อยู่แล้ว ”</font> ไม่ว่าจะเรื่องน้อยหรือใหญ่ ความปรารถนาเดิมที่หลิวเช่อกล่าวให้นางทราบคือต้องการใช้นางมาสนับสนุนเขาเหมือนอย่างคราวรับคณะทูตโหรวหราน <font color="#994D7B">“ ให้ข้าเข้าไปด้านในฟังพวกเขา จากนั้นค่อยนำมารายงานท่าน ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
โอรสสวรรค์ขมวดคิ้วเล็กอย่างชั่งใจ แท้จริงแล้วมันคือการเสนอตัวที่มีประโยชน์มาก แต่ในสายตาหลิวเช่อนอกจากการที่นางไม่ได้รับการอบรมฝึกสอนให้เป็นสายสืบมาตั้งแต่ต้นแล้ว.. ยังมีความรู้สึกประเภทหนึ่งที่อธิบายได้ยากตีตื้นขึ้นมา <font color="#B49A35">“ เสี่ยงเกินไป ”</font> เขาปฏิเสธ ชายที่มุ่งหวังเพียงผลลัพธ์โดยไม่สนวิถีการถึงกับปฏิเสธทางที่มีประโยชน์ต่อเขามากที่สุด
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
แทนที่นางจะนึกเข้าข้างตัวเองอย่างเพ้อฝัน ไป๋หรั่นกลับมองว่านี่คือความไม่เชื่อมั่นอย่างหนึ่งที่อีกฝ่ายมีต่อนาง <font color="#994D7B">“ ข้ารู้ว่าตัวเองไม่ได้มีความสามารถถึงขนาดที่จะทำให้ท่านวางใจ .. แต่เรื่องที่เกี่ยวพันกับบ้านเมืองสำคัญนัก พวกเขาถึงขนาดกล้าคาดการณ์ว่าสงครามจะเกิดก็แสดงว่าต้องไม่ธรรมดา สิ่งที่คุยกันวันนี้ต้องมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#994D7B">“ บัดนี้ไม่มีทางอื่นแล้ว เราจะเสียโอกาสนี้ไปไม่ได้นะเจ้าคะ ”</font> ยิ่งเห็นความเข้าใจที่ไปคนละทิศคนละทางของนาง หลิวเช่อก็อยากที่จะออกปากปฏิเสธว่าไม่ใช่แบบนั้น.. ทว่าเหตุใดเขาจึงต้องปฏิเสธด้วย? ความสับสนเกี่ยวกับบุคคลตรงหน้าไม่ทันได้จาง เรื่องบ้านเมืองก็ซัดเข้ามาให้ตัดสินใจ สุดท้ายแล้วด้วยฐานะของหวงตี้ โอรสสวรรค์ย่อมสลัดทิ้งทุกความนึกคิด และเลือกแค่เพียงผลประโยชน์ของบ้านเมือง
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#B49A35">“ ..ในเมื่อเสนอตัว ก็จงทำให้ดี ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
การอนุญาตของเขาทำให้สีหน้าแววตาของไป๋หรั่นอ่อนลงไปมาก สาวงามผุดผาดพยักหน้าเล็กน้อยและทิ้งท้ายกำชับไว้เพียงคำสองคำในขณะที่หว่างคิ้วของผู้เป็นสามียังเผยความสับสนวุ่นวายให้ฉายออกมา จนแม้แต่คำว่า <b>อย่าฝืนจนเกินไป</b> ที่คิดไว้ก็ยังไม่มีช่องให้ได้เอ่ย…
</font>
<br><br><div align="center">
<img width="450" src="https://i.imgur.com/F56Ani1.png" border="0" alt=""> <br><br><font face="Sarabun"><font size="3"> +50 บารมี อาสาเข้าสืบข่าวด้วยตนเอง<br>จะมีใครเป็นนาตาชาที่จริงใจได้เท่าฉันอีก
</div>
</div>
<br><br>
</font></font></div></div><br><br></div><br><br>
<style type="text/css">@import url('https://fonts.googleapis.com/css?family=Chonburi'); Chonburi {font-family: 'Chonburi';}
</style>
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย LuBairan เมื่อ 2024-9-2 21:27 <br /><br /><style>
#boxcorecenter {
border: 0px solid #152cd5;
padding: 15px;
box-shadow: #504C4E 0px 0px 1em;
background-image: url("https://i.imgur.com/J5ZfEJ2.png");
}
</style>
<style>
#boxR0LE {
width: 650px;
border: 0px solid #cbb989;
padding: 35px;
box-shadow: #504C4E 0px 0px 1em;
background-image: url("https://i.imgur.com/PNPim8Q.png");}
</style>
<style>
#boxLEETTER {
width: 380px;
border: 0px solid #cbb989;
padding: 35px;
box-shadow: #504C4E 0px 0px 1em;
background-image: url("https://i.imgur.com/1VhFLiD.png");}
</style>
<div id="boxcorecenter">
<div align="center">
<br><br>
<div id="boxR0LE">
<img width="450" src="https://i.imgur.com/aDtIaPZ.png" border="0" alt="">
<br><font face="Chonburi"><font size="5"><font color="#994D7B"><span style="text-shadow: #ffffff 0px 0px 0.7px, #ffffff 0px 0px 25px, #ffffff 0px 0px 10px;">
<i><b>ความจริงใจเป็นเรื่องสำคัญ</span></b><br><font face="Sarabun"><font size="2">วันที่ 18 เดือน 08 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 10<br>เวลายี่สิบนาฬิกาสี่สิบนาทีเป็นต้นไป
</i><br></font></font></font>
<br>
<div align="left">
<font face="Sarabun"><font size="3">
<p style="text-indent: 2.5em;">ต้องขอบคุณความรอบคอบของจางกงกงและสายข่าวในราชสำนัก แท้ที่จริงแล้วตัวตนหลี่น่านี้มีมาก่อน ฉะนั้นการจะแฝงตัวเองเข้าไปกับคนที่ได้รับคำสั่งให้เข้าปรนนิบัติแขกพิเศษย่อมไม่ใช่เรื่องยาก แค่บัดนี้มีนางมายืมชื่อใช้ชั่วคราว ก็เหมือนให้แม่นางหลี่น่าที่จริง ๆ แล้วเป็นหนึ่งในสายของเชื้อพระวงศ์ได้พักงานไปโดยปริยาย
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
โชคดีที่นางไม่ได้สวมชุดนางระบำที่ฝ่าบาทมอบให้ แต่เลือกสวมใส่เสื้อผ้าของชาวนอกด่านที่มองผ่าน ๆ แล้วคล้ายกับชุดตัวนั้นเพื่อไม่ให้เตะตาคนจนเกินไป ดังนั้นนอกจากผ้าแพรที่บังใบหน้าก็นับได้ว่าไป๋หรั่นดูแนบเนียนไปกับเหล่าคณิกามากมายที่ปรี่เข้าไปด้านในห้องรับรองพิเศษในยามนี้
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#6A4E1F">“ ท่านไปมาไร้ร่องรอยอยู่เสมอ นาน ๆ ทีจะได้พักอยู่กับเมือง มา ๆ หลูเทาได้จัดนางโลมมารับรองท่าน เชิญ ๆ ”</font> ใต้เท้าหลูกล่าวอย่างสำราญนักในระหว่างที่มีคนงามมากหน้าหลายตาพากันย่างกรายเข้ามาด้วยท่าทางออดอ้อนอ่อนหวาน เว้นแต่หญิงงามใต้แพรแดงผู้หนึ่งที่ก้าวเข้ามาอย่างเชื่องช้าพร้อมประคองถาดน้ำชาในมือ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
สองตาหงส์ที่คมกริบคล้ายว่าถือตัวออกห่างแต่ก็หวานล้ำชวนให้คนมอง เสียก็แต่สายตาของหญิงที่ดูจะงามนักผู้นี้กลับจดจ้องอยู่ที่ร่างเพรียวลึกลับ หาใช่ใต้เท้าคนโด่งดังที่ออกเงินเหมาห้องพร้อมทั้งคนจนแทบหมดตัว <font color="#6A4E1F">“ แม่เล้าตันใจดีนัก ถึงจื่อหนี่ว์จะไม่ตอบรับใบบอก แต่กลับส่งเสี่ยวหลี่น่ามาเสียได้ ”</font> เพราะกิตติศัพท์เรื่องการหาตัวจับยากของนางโลมหลี่น่านั้นนับว่าเป็นตัวชูโรงที่หอโคมเขียวใช้เพื่อดึงแขกมาช้านาน
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ไม่นึกเลยว่าการจะได้พบสักครั้งกลับต้องคว้านเงินลงทุนออกมามากทีเดียว
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#6A4E1F">“ คุณชายไป๋ ที่อยู่ตรงนั้นคือแม่นางหลี่น่า เป็นหนึ่งในห้าสาวงามตามทำเนียบบุปผาแห่งอู๋เว่ย ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ไม่ยักรู้ว่าตัวตนนี้จะเด่นดังกว่าที่คาด ลู่ไป๋หรั่นที่รับบทหลี่น่าหยักยิ้มช้า ๆ ใต้ผ้าแพรให้อารมณ์และการตอบสนองไม่ขัดตาคนนอกจนเกินไป <font color="#994D7B">“ ใต้เท้าหลูกล่าวเกินไป หลี่น่าเป็นเพียงคณิกาต่ำศักดิ์ที่หมายจะทำให้พวกท่านสำราญใจก็เพียงเท่านั้น ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#6A4E1F">“ ปากหว—- ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#708C88">“ แม่นางหลี่น่ากล่าวได้น่าฟังนัก.. ”</font> คุณชายไป๋คนลึกลับที่สวมหมวกไผ่ผ้าคลุมเบี่ยงใบหน้ามองมาทางนางเล็กน้อยจนชายผ้าที่บังช่วงไหล่กว้างเริ่มเคลื่อนออก เผยให้เห็นแนวเกล็ดหนาสะดุดตา ราวกับรอดูว่าปฏิกิริยาของนางจะเป็นอย่างไร คุณชายไป๋ท่านนั้นไม่รีบร้อนปิดบัง เพียงแค่สงบนิ่งมั่นคงโดยที่นางคาดการณ์เอาเองว่าใต้หมวกไผ่ผ้าคลุมนั้น บัดนี้คงกำลังกวาดสายตาสังเกตท่าทางคนโดยรอบเป็นแน่
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
เพราะนางได้ยินคำว่าเผ่าปีศาจมาก่อนแล้ว ดังนั้นจึงไม่แปลกใจหากว่าอีกฝ่ายจะไม่ใช่มนุษย์ แต่ก็ไม่ใช่กับนางโลมอื่น ๆ ที่บ้างก็หน้าซีด บ้างก็กระเถิบถอยหลัง มีเพียงไป๋หรั่นที่ถึงจะหวั่นแต่ก็ต้องทำเป็นใจดีสู้เสือ นางสูดหายใจเข้าและก้าวขาทิ้งสะโพกไปมาตามแบบนางคณิกาพลางยอบกายลงวางถาดชาบนโต๊ะที่คั่นกลางระหว่างแขกสูงศักดิ์
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#994D7B">“ ท่านแม่ได้ยินว่ามีแขกท่านหนึ่งเดินทางมาไกลจึงได้เตรียมชามาเป็นการพิเศษ ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
เมื่ออยู่ใกล้ในระดับหนึ่ง นางย่อมสัมผัสได้ถึงสายตาร้อนระอุที่กระทบกับผิวกาย นงคราญหยกพยายามปรับลมหายใจให้เข้าที่จนแพรแดงสั่นไหว เรียกให้ปลายนิ้วเย็นเฉียบของคุณชายเจ้าสำราญทาบลงกับขอบผ้าที่ชิดใบหน้าและเกลี่ยปลายนิ้วคล้ายจะรั้งแพรนั้นลงอยู่รอมร่อ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#6A4E1F">“ คุณชายไป๋ .. การจะปลดผ้าของห้าอันดับแรกในทำเนียบสาวงามหากมิใช่ชนะการประมูลที่จัดขึ้นในทุกเดือน ก็ต้องจ่ายหนักพอซื้อใจนวลนางให้ปลดผ้าด้วยตนเอง ”</font> นับว่ามีผู้ช่วยชีวิตโดยแท้ เพราะกฏเกณฑ์เงื่อนไขที่ยาวเป็นหางว่าวและเส้นสายที่ไม่ธรรมดาทำให้หอโคมเขียวแห่งนี้ยังคงเป็นที่นิยมชนิดที่ถูกเปรียบเสมือนดาวค้างฟ้าแห่งวงการคณิกา
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#708C88">“ ไม่นึกเลยว่าแทบทุรกันดารอย่างนี้จะมีกฏระเบียบเยอะนัก ”</font> แทนที่การปลดลง ทั้งหมดกลับกลายเป็นเชิดขึ้นเสียแทน เมื่อก้านนิ้วเย็นประหนึ่งหยกของอีกฝ่ายช้อนเข้าที่คางและรั้งนางให้หันหาอย่างเอาแต่ใจ <font color="#708C88">“ น่าเสียดาย.. น่าเสียดาย ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ไม่มีใครรู้ว่าเขาเสียดายอะไร หลูเทาคิดไปว่าอีกฝ่ายคงเสียดายที่ไม่อาจเชยชมคนงามได้เต็มตา แต่ไหนเลยจะไปรู้ว่าเสียดายคำนี้ของคุณชายไป๋กลับหมายถึงไม่สามารถที่จะกลืนกินนางลงไปได้ เพราะหากผู้โดดเด่นหายไปสักคน ทั่วทั้งหอโคมเขียวนี้คงใช้กำลังสุดพลังในการตามล่าเขา
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#6A4E1F">“ กลับมาเรื่องของเราก่อนเถิดคุณชายไป๋ ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ปีศาจปริศนาละสายตาจากสาวงามข้างกายเป็นคู่เจรจาสนทนาที่ร่วมวางแผนกันมาอย่างนมนาน <font color="#708C88">“ เชิญกล่าว ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#6A4E1F">“ ด้วยกองทัพที่ทรงพลานุภาพของต้าหวาง เป็นเรื่องดีมากถ้าจะบุกโจมตีด่านอี้เหมินกวน ทว่าในขณะเดียวกัน หากทำได้.. แผนที่เราตั้งใจจะก่อกวนเขตระเบียงเหอซีก็ยังต้องดำเนินต่อไป ”</font> หลูเทากล่าวเสียงหนักแน่นขณะที่นางคณิกาอื่น ๆ รอบกายเริ่มร้องรำทำเพลงกลบเสียงหารืออย่างที่นางคาดเอาไว้ตั้งแต่ตอนที่อยู่ด้านนอก
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#708C88">“ ฝ่ายเจ้ามีแผนการในใจหรือยัง ”</font> คุณชายไป๋ยกชาขึ้นจิบช้า ๆ หลังจากถาม ท่าทางโดยรวมดูแล้วผ่อนคลายไม่แยแสต่อสิ่งใด ผิดกับหลูเทาที่เอะอะตื่นเต้น เอะอะตึงเครียด
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#6A4E1F">“ เรื่องนี้.. ผู้น้อยมองว่าเราอาจใช้งานคุณชายน้อยแซ่ตวนมู่ได้ ”</font> อีกแล้วเหรอ..? อยู่ ๆ นางก็ได้มาเกี่ยวข้องกับเรื่องราวของคนแซ่ตวนมู่อีกแล้ว นงคราญหยกไม่แสดงท่าทางผิดแปลกใด ๆ นางก้มลงรินชาเติมให้คุณชายไป๋ข้างกายระหว่างที่รับฟังต่อไปเงียบ ๆ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#708C88">“ ใช้งานเขา? หลูเทา.. เจ้าโลภมากไม่น้อยเลย ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#6A4E1F">“ คุณชายไป๋ นี่คือหนทางอันดีที่จะโจมตีต้าฮั่นและกำจัดสายเลือดวีรชนให้สิ้นไปนะขอรับ ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#708C88">“ คนแซ่ตวนมู่สิ้นอำนาจแล้ว หากจะกังวลเหตุใดไม่กังวลกับหลิวอู่นั่นเล่า ”</font> ในน้ำเสียงของเขามีความดูแคลนแฝงอยู่ชวนให้ผู้ฟังขมวดคิ้วเป็นอย่างมาก แม้แต่หลูเทาที่ต่อให้จะไม่ได้ภักดีต่อราชสำนักแต่ก็นับถือในวีรชนยังนึกเคืองขึ้นมาเล็กน้อย
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#6A4E1F">“ อย่าดูถูกสายเลือดนักรบแห่งต้าฮั่นเด็ดขาด ต่อให้เหลือเพียงเด็กและสตรี พวกเขาก็สามารถผงาดขึ้นได้อีกครั้ง ”</font> หากตระกูลตวนมู่หวนคืนภายใต้การนำของตวนมู่หลงเยวี่ยเมื่อใด เกรงว่าคนที่เคยเป็นภัยต่อนางจะไม่เหลือชิ้นดี ชิงจัดการแต่ตอนนี้จะเป็นประโยชน์ต่อฝ่ายเราที่สุด
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#708C88">“ … จะป้ายสีนั้นไม่ยาก ที่เป็นปัญหาคือเด็กสาวคนนั้น ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#6A4E1F">“ หากหมายถึงตวนมู่หลงเยวี่ย ผู้น้อยรู้มาว่านางมักออกนอกวังในฐานะจอมยุทธ์ หากหาโอกาสที่เหมาะสมได้ การกำจัดนางนับว่าง่ายนักสำหรับท่าน ”</font> หลังจากประโยคนี้สิ่งที่พวกเขาคุยกันต่อก็เป็นเรื่อยไร้สาระที่จับแก่นสารได้บ้างไม่ได้บ้าง คร่าว ๆ ก็คือพวกเขาหมายจะปั้นเรื่องว่าสายเลือดเหอซีอิงกงที่เหลืออยู่เคียดแค้นต่อความไม่เป็นธรรมของจักรพรรดิ์เลยร่วมมือกับปีศาจก่อกบฏ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ไร้สาระสิ้นดี
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ปล่อยเวลาผ่านมาก็ตั้งนาน ยามนี้หลูเทาเอนซบกับอกนางคณิกาคนหนึ่ง ฝั่งนางและคุณชายไป๋นอกจากเคียงข้างรินชาก็ไม่มีสิ่งอื่นใดมากมายไปกว่าการแสร้งทำเป็นอ่อนหวานเรียกร้องความสนใจให้ดูไม่ผิดไปจากนางโลม กระทั่งพูดกันไปพูดกันมาชาก็หมดป้านจนได้..
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
บัดนี้ไม่ใช่แค่แรกเข้ายามค่ำอีกต่อไป ทว่าใกล้เข้ายามไฮ่แล้ว
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#994D7B">“ คุณชายไป๋ ชาหมดป้านแล้ว.. น่าเอ๋อร์ขอไปเติมชาก่อน ” </font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
อยู่มากกว่านี้จะกลายเป็นได้ร่วมค้างคืนกับคนแปลกหน้าเอา.. สาวงามใต้ผ้าแพรยิ้มหวานระหว่างที่จะลุกขึ้น นึกไม่ถึงเลยว่าข้อมือจะถูกดึงกลับให้ทรุดลงนั่งบนตักอีกฝ่าย <font color="#708C88">“ ให้ผู้อื่นไปก็ได้ เหตุใดถึงต้องไปด้วยตนเองเล่า? ”</font> หากว่านางไม่ใช่บุตรสาวนักการค้าช่างเจรจาป่านนี้คงน้ำท่วมปากไปแล้ว..
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
นงคราญหยกยื่นมือข้างหนึ่งโอบล้อมลำคอที่ถูกบดบังไว้ด้วยหมวกไผ่ผ้าคลุมพลางเอียงหน้าดูร้ายกาจนัก<font color="#994D7B"> “ ใต้เท้าหลูทุ่มเทให้คุณชายไป๋ไม่น้อย.. แต่ก็เกรงว่าจะไม่มากพอ ”</font> เช่นเดียวกับความซุกซนก่อนหน้านี้ของอีกฝ่าย ไป๋หรั่นในคราบหลี่น่าแสร้งทำเป็นจะแหวกม่านผ้าแพรนั้นออก จนฝ่ายชายเจ้าของตักต้องเบี่ยงหน้าหนี เกิดเป็นเสียงหัวเราะใส ๆ จากหญิงสาวที่ถูกปฏิเสธ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#994D7B">“ คุณชายไป๋.. หากสมัครใจเข้าหา ความจริงใจนั้นเป็นเรื่องสำคัญ กำลังทรัพย์ก็เช่นกัน ”</font> นิ้วของนางแตะลงกับปลายจมูกใต้ร่มผ้านั้นเบา ๆ ก่อนจะลุกขึ้นโดยไม่สนใจสิ่งใด ครั้งนี้คุณชายไป๋ไม่รั้นรั้งนงคราญไว้อีกต่อไป ได้แต่ปล่อยให้สาวงามผู้นั้นก้าวหายจากไปอย่างไร้ร่องรอย
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
…
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ไป๋หรั่นไม่มีความจำเป็นต้องกลับเข้าไปแล้ว
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
สาวงามผุดผาดเยื้องย่างออกมา จนเมื่อพ้นเขตสายตาคนด้านในโถง นางก็วางป้านชาทิ้งและหันไปเรียกนางโลมผู้น้อยแถวนั้นมาสั่งการแบบส่ง ๆ ให้อีกสักพักนำชาเข้าไปด้านใน ก่อนจะเดินวนกลับไปในทางที่นางจำได้ว่าคนผู้นั้นจะรออยู่
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#994D7B">“ รอนานหรือไม่? ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
นาน
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#994D7B">“ ข้าได้เรื่องที่มีประโยชน์มาแล้ว ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
แล้วอย่างไร
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#994D7B">“ … ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#994D7B"><b>“ ท่านพี่.. ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2em;"><font color="#994D7B">“ เรากลับกันเถิด ”</font></b>
</font>
<br><br><div align="center">
<img width="450" src="https://i.imgur.com/F56Ani1.png" border="0" alt=""> <br><br><font face="Sarabun"><font size="3">เธอบอกให้ฉันรายงานเหรอ ! ไม่ !!<br>เอาพาร์ทต่อมาเยยคับ..
</div>
</div>
<br><br>
</font></font></div></div><br><br></div><br><br>
<style type="text/css">@import url('https://fonts.googleapis.com/css?family=Chonburi'); Chonburi {font-family: 'Chonburi';}
</style>
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย LuBairan เมื่อ 2024-9-3 23:35 <br /><br /><style>
#boxcorecenter {
border: 0px solid #152cd5;
padding: 15px;
box-shadow: #504C4E 0px 0px 1em;
background-image: url("https://i.imgur.com/J5ZfEJ2.png");
}
</style>
<style>
#boxR0LE {
width: 650px;
border: 0px solid #cbb989;
padding: 35px;
box-shadow: #504C4E 0px 0px 1em;
background-image: url("https://i.imgur.com/PNPim8Q.png");}
</style>
<style>
#boxLEETTER {
width: 380px;
border: 0px solid #cbb989;
padding: 35px;
box-shadow: #504C4E 0px 0px 1em;
background-image: url("https://i.imgur.com/1VhFLiD.png");}
</style>
<div id="boxcorecenter">
<div align="center">
<br><br>
<div id="boxR0LE">
<img width="450" src="https://i.imgur.com/aDtIaPZ.png" border="0" alt="">
<br><font face="Chonburi"><font size="5"><font color="#994D7B"><span style="text-shadow: #ffffff 0px 0px 0.7px, #ffffff 0px 0px 25px, #ffffff 0px 0px 10px;">
<i><b>ศึกประชันมังกร</span></b><font face="Sarabun"><font size="2">
<br>วันที่ 18 เดือน 08 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 10<br>เวลายี่สิบสามนาฬิกาสี่สิบห้านาทีเป็นต้นไป</i></font></font>
<br></font></font></font>
<br>
<div align="left">
<font face="Sarabun"><font size="3">
<p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#994D7B">“ ตราบใดที่พวกโลภมากยังอยู่ นางก็คงไม่ได้ใช้ชีวิตสงบสุข ” </font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ประโยคนี้นางหาได้กล่าวถึงตนเอง แต่กลับเป็นการเกริ่นถึงหญิงแกร่งอีกรายที่มิได้อยู่เคียงข้างฝ่าบาทในยามนี้ ด้วยฐานะธิดาเหอซีอิงกงเกรงว่าจนกว่าจะควานหาตัวผู้ก่อคลื่นใต้น้ำได้จนครบ ตวนมู่เหม่ยเหรินคนนั้นคงต้องเผชิญเคราะห์อีกมาก
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#B49A35">“ นางเป็นคนมีความสามารถ ”</font> แต่จะดีหรือร้าย ตนก็หาได้นำมาใส่ใจถึงเพียงนั้น
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
หลิวเช่อที่ได้ฟังการรายงานเดี๋ยวขมวดคิ้วเดี๋ยวผ่อนออก สิ่งที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้ผิดไปจากที่คาด เขารู้ว่ามีหนอนบ่อนไส้และหนอนนั้นก็ไม่ได้มีแค่ฝั่งเดียว.. คนหนึ่งพึ่งปีศาจ อีกคนพึ่งศัตรูของชาติ ประเสริฐยิ่งนัก โอรสสวรรค์ยืนพิงกรอบประตูพลางทอดสายตามองสาวงามที่ลดเสียงฝีเท้าลงเมื่อก้าวเข้ามาถึงห้องพักชั่วคราวภายในโรงเตี๊ยม
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#994D7B">“ นางยังหลับอยู่ ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
เพราะเหนื่อยล้าหรือไม่ก็สะเทือนใจจนเกินไป เด็กน้อยที่ต่อจากนี้จะเป็นเหมือนลูกในไส้ยังคงหลับใหล นงคราญหยกวางมือลงกับกลุ่มผมของเด็กสาว <font color="#B49A35">“ ออกจากเมืองก่อนรุ่งสางได้เป็นเรื่องดี ”</font> หลิวเช่อกำชับเล็กน้อยให้ผู้เป็นภรรยาทราบว่าต้องเคลื่อนไหวแล้ว ถึงครั้งนี้จะไม่มีคำตอบจากนางแต่สาวงามก็ปฏิบัติตามอย่างว่าง่าย ไป๋หรั่นค่อย ๆ ใช้ผ้าห่มห่อหุ้มร่างเล็กและอุ้มขึ้นแนบอก
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
พวกเขาแฝงตัวออกจากโรงเตี๊ยมอย่างเงียบเชียบโดยใช้ช่วงรัตติกาลให้เป็นประโยชน์กับการซ่อนกาย ก่อนจะมุ่งหน้าไปทางชานเมืองเพื่อกลับไปหาคนของพวกเขา ทว่าภายใต้การเคลื่อนไหวเหล่านั้นกลับอยู่ในสายตาของนักล่าผู้หนึ่ง..
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
เมื่อมาถึงก็เป็นดังที่คาด เรือยักษ์เตรียมพร้อมสำหรับออกเดินทางกลับทุกเมื่อ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#B49A35">“ ออกเดินทางได้ ”</font> คำสั่งของจักรพรรดิมีผลให้ปฏิบัติตามในทันที ต่อให้หลายคนจะฉงนกับหนึ่งชีวิตน้อย ๆ ในอ้อมแขนพระสนมลู่แต่ก็ไม่มีผู้น้อยคนใดกล้าถาม สุดท้ายจึงได้แต่ส่งสายตาไปทางหลี่ผู่เยว่ที่ครองตำแหน่งนางกำนัลคนสนิทของพระสนมโดยหวังว่าอีกฝ่ายจะสามารถใช้ช่องทางของตัวเองให้มีประโยชน์ในการสอบถาม
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
แน่นอนว่าผู่เยว่ไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#879B7C">“ พระสนม.. เด็กน้อยผู้นี้คือ ? ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ไป๋หรั่นชำเลืองตามองหลิวเช่อที่กำลังหารืออยู่กับจางกงกงเล็กน้อยก่อนจะเก็บสายตากลับมา ให้นางพูดน้ำหนักของมันก็จะไม่หนักแน่นพอ สิ่งนี้สมควรให้เขาเป็นคนกล่าว แต่ก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะยินดีหรือไม่ <font color="#994D7B">“ ไว้ค่อยคุยกัน ยามนี้ไปเตรียมห้องให้นางก่อน ”</font> ถึงจะน่าผิดหวังแต่หลายคนก็เข้าใจ ในเมืองอู๋เว่ยเกิดเรื่องใดไม่มีใครทราบบางทีพระสนมคงกำลังล้าเกินกว่าจะตอบคำถาม
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
หลี่กู่กูพยักหน้ารับก่อนเดินจากไปแม้ว่าสายตาจะยังเจือความสงสัยในยามที่มองเด็กสาวที่หลับปุ๋ย เสียดายที่บัดนี้หลายคนกำลังให้ความสนใจกับร่างน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนคนงาม จนไม่ทันได้สังเกตไอหมอกสีเข้มที่ผิดไปจากหมู่เมฆทมิฬยามค่ำคืน.. ทีแรกไป๋หรั่นตั้งใจจะตามเข้าไปด้านใน ทว่าความรู้สึกหนาวสะท้านอย่างประหลาดกลับมุ่งเข้าโจมตีจนฝีเท้าชะงัก
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#B49A35">“ … ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
มีบางอย่างไม่ถูกต้อง
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
หลิวเช่อรับรู้ได้โดยสัญชาตญาณ ทายาทมังกรทองหรี่ตาลงและแผ่ปราณอันแข็งแกร่งที่อัดแน่นอยู่ในกายให้ค่อย ๆ กระจายขอบเขตเข้าคลายหมอกมืดเหล่านั้น แต่นั่นก็ไม่มากพอที่จะสลายภัยร้ายในพริบตา เมื่อหมอกที่ทำหน้าที่เสมือนม่านบดบังเลือนหายไป ที่อยู่ไม่ไกลก็ปรากฏร่างทมิฬร่างหนึ่งยืนตระหง่านอยู่อีกฟากของเรือ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#B49A35">“ มิมีผู้ใดเชิญคนเช่นเจ้ามา ”</font> สุรเสียงของโอรสสวรรค์แฝงไว้ด้วยไอสังหารจนคนหนาวสะท้านกันไปทั้งแทบ ทว่าความน่าเกรงขามนั้นกลับไร้ผลโดยสิ้นเชิงเมื่อคู่สนทนาที่หมายจะมาต่อกรนั้นเป็นถึง.. ตัวตนอันทรงพลัง
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#20172E">“ หุบปาก ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
อาศัยแค่การตอบกลับคำนี้ก็ทำคนทั้งเรือขวัญผวาด้วยความตกใจ ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใครแต่กลับกล้าตอบจักรพรรดิแห่งแผ่นดินด้วยคำว่าหุบปาก ถ้าไม่ใช่ว่าบ้าบิ่นเสียสติก็ต้องเป็นผู้ทรงอำนาจไม่แพ้กัน ซึ่งในยามนี้ไม่ว่าจะทางไหนก็นับว่าไม่ดีทั้งสิ้น <font color="#20172E">“ คิดอยู่แล้วว่ามีบางอย่างแปลก ๆ ที่แท้ก็มีตัวน่ารำคาญถึงสอง.. ”</font> หากเป็นผู้อื่นวาจานี้คงฟังดูยียวนกวนประสาท แต่เมื่อมันออกมาจากตัวตนตรงหน้ากลับไม่มีใครสัมผัสได้ถึงความยียวน
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ราวกับมันเป็นความรู้สึกเคียดแค้นมาตั้งแต่ปางก่อน หากไม่ใช่ว่าเสียงนี้ดูคล้ายกับชายที่นางพึ่งหลอกมา ไป๋หรั่นก็คงไม่มีทางหันกลับไป <font color="#994D7B">“ ..เป็นเขา ”</font> ทั้งที่บรรยากาศภายในหอโคมเขียวดูจะอ่อนกว่านี้มาก บัดนี้เขาดูคล้ายคนที่ไม่แยแสต่อโลกหล้าและพร้อมจะเหยียบย่ำทุกสรรพชีวิต
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#20172E">“ เจ้าทำงานให้เจ้าคนไม่สมประกอบนี่? .. ตาต่ำจริง ๆ ”</font> นี่เป็นการยั่วยุอย่างเห็นได้ชัด ทว่าในยามที่คนบนเรือจะอ้าปากตอบโต้สายตากลับพบร่างมังกรทมิฬตัวหนึ่งที่กำลังคำรามอยู่หลังชายผู้นั้น แทนที่จะเป็นการสวนด่าสิ่งที่ลอดออกจากปากคนส่วนมากกลับเป็นการพึมพัมอย่างตื่นตะลึงว่าปีศาจ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ชายปริศนาคนนั้นละสายตาจากร่างของโอรสสวรรค์หันกลับมามองหญิงสาวที่พึ่งจะพบหน้ากันมาในบทบาทที่ล้วนถูกปลอมแปลง <font color="#20172E">“ สาวน้อย.. คนอย่างเจ้า ข้ากำจัดมานับไม่ถ้วน นึกไม่ถึงว่า<b>นาง</b>จะยังกล้าส่งคนกลับมาอีกครั้ง ”</font> มือสังหารผู้ข้ามภพยกมือขึ้นทาบร่างนางในสายตาก่อนจะกำมือเข้าเป็นหมัดคล้ายสามารถบดขยี้หนึ่งตัวตนได้อย่างง่ายดาย
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#B49A35">“ เป็นแค่งูดินไร้หัวนอนปลายเท้า ปากมากนัก ”</font> ผู้ชายปากจัดสองคนกำลังทำให้สถานการณ์ย่ำแย่ลงกว่าเดิม การที่ศัตรูเงียบไปไม่ได้ทำให้ผู้คนวางใจ แต่มันกลับเป็นสัญญาณของการสู้รบที่ใกล้ปะทุ <font color="#B49A35">“ ถอยไป ดูแลนางให้ดี ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ในหนึ่งประโยคของเขามีสองคำสั่งที่เหล่าทหารจะยึดมั่นแม้แลกด้วยชีวิต กลุ่มคนอารักขาจำนวนไม่น้อยเข้าล้อมหน้าล้อมหลังหญิงสาวและเด็กที่ยังคงหลับสนิทอย่างพร้อมเพรียง เช่นเดียวกับเงาเจิดจรัสของสิ่งมีชีวิตบางจำพวกที่ก่อร่างสร้างตัวจากปราณเข้มขนสีทองอร่าม ก่อให้เกิดเป็นร่างมังกรทองวนล้อมขดรอบคนบนเรือ ก่อนจะหยุดลงที่ด้านหลังของโอรสสวรรค์เหมือนกับมังกรดำที่อยู่เคียงข้างชายปริศนา
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ไร้วาจาบอกกล่าว ฉับพลันสองร่างมังกรโฉบเข้าปะทะเกินเป็นเสียงสะนั่นสั่นทั่วแผ่นดิน ก่อนที่สองร่างของผู้บงการมังกรจะโรมรันเข้าโจมตี ทุกครั้งที่ฝ่ามือของทั้งสองสัมผัสต้องกัน แรงสะเทือนจำนวนไม่น้อยก็ทะลักออกมาจนทำให้ฝุ่นควันฟุ้งตลบ เมื่อเทียบความสามารถของมังกรทั้งสอง คนหนึ่งฆ่าฟันนับพันปียังได้ชื่อว่าไร้พ่าย อีกคนเป็นมนุษย์ที่ได้รับการอวยพรจากสัจจเทพ ครองปราณสูงส่ง เป็นถึงมังกรทองใจกลางธาตุทั้งสี่ ไม่ว่าจะข้อเด่นข้อด้อยของทั้งสองล้วนแต่กดข่มกันจนสูสี
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
แต่เพราะเกรงว่าคนรอบกายจะรับผลกระทบไม่ไหว .. ต่อให้ไม่เหลียวไปมอง หลิวเช่อก็พอทราบว่ายามนี้ทั้งทหารและสนมของตนต่างก็พยายามหลบลูกหลงกันจ้าละหวั่นฉะนั้นเพื่อไม่ให้ต้องสูญเสียคนบริสุทธิ์ โอรสสวรรค์บังคับร่างมังกรทิพย์ให้ผลักส่งมังกรดำขึ้นเหนือหมอกเมฆ ก่อนจะทะยานกายพุ่งขึ้นตามไปฟาดฟันหมายกำราบให้สิ้นโดยไม่ทิ้งจังหวะให้อีกฝ่ายได้พักหายใจจนนับว่าเป็นการสู้รบที่อาจสะเทือนได้ถึงสวรรค์
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ไป๋หรั่นที่หลบอยู่ข้างกล่องสินค้าขนาดใหญ่กระชับร่างเด็กสาวในอ้อมแขนที่เริ่มจะขมวดคิ้วเพราะเสียงดังปานฟ้าถล่มพลางเงยหน้าขึ้นมองการต่อสู้ที่ไร้วี่แววจะจบลงโดยง่าย ถ้าหลิวเช่อพลาดท่านางก็ตาย แต่จะให้เชื่อว่าฝ่าบาทจะปลิดชีพปีศาจมังกรดำได้ในคราวเดียวก็ดูแล้วจะยากเกินมือ นงคราญหยกหรี่ตาลงในฝุ่นทรายพลางพยายามตะโกนหาทหาร <b><font color="#994D7B">“ เกาะกลุ่มกันไว้ มีพลธนูหรือไม่ ! เตรียมความพร้อมให้ดี ” </font></b>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ก็คงต้องเดิมพันกันสักตั้ง ขอแค่มีสักจังหวะที่ร่างดำทมิฬนั้นร่วงลงมา ไป๋หรั่นกัดฟันประคองร่างเดินฝ่าลำเรือที่สั่นไปมา โดยไม่รู้เลยว่าที่ละน้อย.. ของขวัญที่ได้รับมาจากเทพพระเจ้ากำลังพัฒนาขึ้นอีกขั้นอย่างเงียบงัน
</font>
<br><br><div align="center">
<img width="450" src="https://i.imgur.com/F56Ani1.png" border="0" alt=""> <br><br><font face="Sarabun"><font size="3">
<b>โดดเด่นมีเอกลักษณ์ (ม่วง)(+15) </b><br>
เงื่อนไขพัฒนา :<br>
<b>ครบ</b> - Level 30 เป็นต้นไป<br>
<b>ครบ</b> - สเตตัส CHA 40 ขึ้นไป<br>
<b>ครบ</b> - สเตตัส POW 30 ขึ้นไป<br>
<b>ครบ</b> - อัปเกรด พิมพ์นิยม ถึงระดับ 10<br>
<b>ครบ</b> - มีการสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์กับ NPC หัวใจ 4 ดวง อย่างน้อย 3 คน <br>( หลิวอู่ / หลิวเช่อ / หลิวหรูเยี่ยน )<br><br>
<b> หลิว หรูเยี่ยน</b><br>
+5 ความสัมพันธ์พบเจอ<br>
+20 โบนัสความสัมพันธ์จากหัวดี
</div>
</div>
<br><br>
</font></font></div></div><br><br></div><br><br>
<style type="text/css">@import url('https://fonts.googleapis.com/css?family=Chonburi'); Chonburi {font-family: 'Chonburi';}
</style>
<style>
#boxcorecenter {
border: 0px solid #152cd5;
padding: 15px;
box-shadow: #504C4E 0px 0px 1em;
background-image: url("https://i.imgur.com/J5ZfEJ2.png");
}
</style>
<style>
#boxR0LE {
width: 650px;
border: 0px solid #cbb989;
padding: 35px;
box-shadow: #504C4E 0px 0px 1em;
background-image: url("https://i.imgur.com/PNPim8Q.png");}
</style>
<style>
#boxLEETTER {
width: 350px;
border: 0px solid #cbb989;
padding: 35px;
box-shadow: #504C4E 0px 0px 1em;
background-image: url("https://i.imgur.com/1VhFLiD.png");}
</style>
<div id="boxcorecenter">
<div align="center">
<br><br>
<div id="boxR0LE">
<img width="450" src="https://i.imgur.com/aDtIaPZ.png" border="0" alt="">
<br><font face="Chonburi"><font size="5"><font color="#994D7B"><span style="text-shadow: #ffffff 0px 0px 0.7px, #ffffff 0px 0px 25px, #ffffff 0px 0px 10px;">
<i><b>วิกฤตกลางทราย</span></b><br><font face="Sarabun"><font size="2">วันที่ 18 เดือน 08 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 10<br>เวลายี่สิบสามนาฬิกาห้าสิบนาทีเป็นต้นไป
</font></font>
</i><br></font></font></font>
<br>
<div align="left">
<font face="Sarabun"><font size="3">
<p style="text-indent: 2.5em;">คาดว่าการประมือนี้คงกลายเป็นตำนานลี้ลับของเมืองอู๋เว่ยไปอีกนานเมื่อบนฟากฟ้าเงามังกรสองร่างกำลังตวัดรัดฟัดเหวี่ยงกันจนน่ากลัว ถึงจะมีใจห่วงสถานการณ์ด้านบนแต่ที่เบื้องล่างก็ใช่ว่าจะราบรื่น เพราะอยู่ ๆ สิ่งมีจำพวกมังกรเดินสองขาบนดินจำนวนมากก็โผล่มาก่อกวนการตั้งรับของเหล่าทหารที่สลัดคราบพ่อค้าทิ้ง <font color="#980000">“ ฟูเหริน ”</font> จางกงกงวิ่งมาอย่างรีบร้อน เขาตั้งใจจะเชิญาสตรีของนายเหนือหัวเข้าไปหลบด้านใน ทว่าความคิดนั้นกลับสูญเปล่า ไป๋หรั่นส่งร่างของเด็กสาวในอ้อมแขนให้จางกงกงรับไปอุ้มแทนก่อนจะเหวี่ยงผีผาทิ้งและหยิบของสิ่งหนึ่งที่ไม่เคยนึกว่าตัวเองจะต้องหยิบมาใช้
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#994D7B">“ ดูแลนางให้ดี ถ้าไม่แน่ใจว่าต้องทำยังไงก็ไปถามผู่เยว่ ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
นางไม่ได้มีคุณธรรมห่วงหาอยากช่วยเหลืออะไรนักหรอก..
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ดวงหน้างามแฝงความจริงใจไว้หลายส่วนจนจางห่าวหมิงไม่กล้าโต้แย้งใด ๆ ลู่ไป๋หรั่นตระหนักดีว่าเป้าหมายอีกรายของศัตรูคือนาง ถ้ายังฝืนหลบเข้าไปซ่อนด้านในก็ไม่ใช่ผลดีอะไรเลย หากฝ่าบาทพลาดท่าเกรงว่าอีกฝ่ายคงทลายทั้งเรือเพื่อกำจัดนาง ดังนั้นในสถานการณ์ที่ความเสี่ยงเกือบจะเท่ากัน นางอยู่ตรงนี้แล้วค่อยหาโอกาสกระโดดลงจากเรือในยามคับขันก็อาจจะลดความเสียหายได้มากกว่า
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
กระบี่คู่สลักจันทราในมือทั้งสองข้างล้วนถูกจับกระชับแน่น นางไม่ใช่นักรบไม่เคยฝึกการต่อสู้ ท่วงท่าเกี่ยวกับศาสตราที่เรียนรู้มาล้วนใช้เพื่อประกอบการร่ายรำเท่านั้น ห่าวหมิงที่คิดจะปรามให้พระสนมพิจารณาอีกครั้งก็กลายเป็นว่าไม่สามารถเอ่ยอันใดได้ เมื่อร่างบางพุ่งเข้าไปใช้กระบี่ที่ยังไม่ได้ชักออกจากฝักเสยคางมังกรยืนดินที่กำลังจะข่วนกัดทหารนิรนามบนพื้นเรือ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#71684C">“ ฟ ฟูเหริน ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#994D7B"><b>“ รีบลุกขึ้น เร็ว ! ” </b></font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
จะดูถูกว่านี่เป็นแค่การประมือกับปีศาจไม่ได้ .. เผลอ ๆ ความกระหายเลือดของปีศาจเหล่านี้ยังจะมีมากกว่าทหารฝ่ายตรงข้ามของประเทศชาติเสียอีกด้วยซ้ำ ไป๋หรั่นไม่ได้มีความสามารถถึงขนาดจะต่อกรกับปีศาจได้ด้วยสองมือของตัวเอง แต่สิ่งที่นางทำได้อย่างแน่นอนคือการเล่นทีเผลอ ถึงจะไม่ใช่อะไรที่ดูดีแต่หลายคนก็ต้องยอมรับว่ามันมีประโยชน์ไม่เว้นแม้แต่ราชองครักษ์หลวงจูชวีเฟิ่งที่ชำเลืองตากลับมามองพระสนม
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
องครักษ์จูขมวดคิ้วเล็กน้อย <b><font color="#2D4E82">“ ตรงนี้ไม่ใช่ที่ของท่าน ”</font></b> อันที่จริงเขาต้องการจะสื่อว่านางไม่ควรมาเสี่ยงอันตรายแบบนี้ ทว่าด้วยนิสัยพูดอย่างไม่คิดเล็กคิดน้อย วาจาที่คล้ายจะรุนแรงของเขาเลยทำให้คนฟังหน้าม้านกันไปเป็นแถบ ไม่เว้นแม้แต่พระสนมในคำพูดนั้นก็ด้วย แต่แล้วอย่างไร ไป๋หรั่นสะบัดกระบี่เบี่ยงองศากรงเล็บของปีศาจให้พ้นจากร่างของทหารเพิ่มไปอีกหนึ่งนาย
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#994D7B">“ ข้ารู้ แต่เวลาเช่นนี้จะยังเลือกที่ได้อยู่อีกหรือ ” </font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#994D7B">“ เขาบอกให้ปกป้องข้า แต่การสิ้นสตรีฝ่ายในไปหนึ่งคน จะเทียบกับการเสียสมาชิกรั้วของชาติไปได้อย่างไร ”</font> ดวงหน้างามปรากฏแววโศกเศร้าแต่ก็เลือนหายในเสี้ยวพริบตา หากนางเกิดเป็นชายก็คงสามารถทำอะไรได้มากยิ่งขึ้นโดยไม่ถูกมองว่าเป็นการดื้อรั้นหรือฝืนตน<font color="#994D7B"> “ เปิ่นกงจะทำให้แน่ใจว่าพวกเจ้าจะไม่เดือดร้อน ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
จบคำร่างบางก็ปลีกหลบไปอีกทาง ห่างไปจากสายตาอันเฉียบคมขององครักษ์จูจนเขาเริ่มหัวเสีย <i><font color="#2D4E82">‘ ให้มันได้อย่างนี้ ’</i></font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ยังดีที่หลิวเช่อไม่ต้องมารับรู้เรื่องที่น่าปวดหัวนี้ เพราะลำพังการรับมือกับปีศาจอายุราว ๆ พันปีที่เปี่ยมไปด้วยประสบการณ์รบราก็กินกำลังเขามากพอแล้ว หลังจากประมือมาได้ราว ๆ สองร้อยกระบวนท่า โอรสสวรรค์พลันรับรู้ได้ถึงความห่างชั้นของประสบการณ์ ถึงจะครองปราณสวรรค์ชั้นหนึ่งอย่างมังกรทอง แต่กายก็ยังเป็นเพียงมนุษย์ นับประสาอะไรกับปีศาจที่สามารถเดินเหินบนผืนฟ้าได้อย่างอิสระ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
เสียงคำรามของมังกรทั้งสองดังโต้กันครั้งแล้วครั้งเล่า เห็นได้ชัดว่าหลิวเช่อกำลังเสียเปรียบ แต่กระนั้นก็ยังสู้ไม่ถอย สมญามังกรสุริยันไม่สิ้นแสงหาได้เป็นเพียงชื่อ ต่อให้คู่ต่อกรเปี่ยมไปด้วยความมืดมิดจวบจนถึงก้นบึ้งของหัวใจ โอรสสวรรค์ก็ยังมั่นใจว่าจะสามารถใช้กำลังในมือตนผลาญศัตรูให้มลายหายสิ้น
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<i><font color="#B49A35">“ อึก .. ”</font></i>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
แต่การจะทำอย่างนั้นก็ไม่ง่าย.. ฝ่ามือผสานกรงเล็บของมังกรทมิฬปะทะกับบ่ากว้างไปเต็ม ๆ จนกายทิพย์มังกรของผู้ครองแผ่นดินต้องร่นถอยไปด้านหลังเพื่อตั้งหลัก เขาไม่สามารถกำราบศัตรูได้ด้วยตนเอง จำเป็นต้องมีคนที่ความสามารถทัดเทียมมาช่วยเสริมจังหวะอีกสักหน่อย <b>แค่อีกนิดเดียวเท่านั้น</b>
</font>
<br><br><div align="center">
<img width="450" src="https://i.imgur.com/F56Ani1.png" border="0" alt=""> <br><br><font face="Sarabun"><font size="3">คือแบบนี้ .จับเข่า ดิฉันช่วยชีวิตทหารอย่างต่ำก็สองคนแล้ว<br>พวกเขาไม่เลื่อมใสในตัวดิฉันหน่อยเหรอคะ .แบมือขอค่าบารมี
</div>
</div>
<br><br>
</font></font></div></div><br><br></div><br><br>
<style type="text/css">@import url('https://fonts.googleapis.com/css?family=Chonburi'); Chonburi {font-family: 'Chonburi';}
</style>
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย LuBairan เมื่อ 2024-9-5 00:20 <br /><br /><style>
#boxcorecenter {
border: 0px solid #152cd5;
padding: 15px;
box-shadow: #504C4E 0px 0px 1em;
background-image: url("https://i.imgur.com/J5ZfEJ2.png");
}
</style>
<style>
#boxR0LE {
width: 650px;
border: 0px solid #cbb989;
padding: 35px;
box-shadow: #504C4E 0px 0px 1em;
background-image: url("https://i.imgur.com/PNPim8Q.png");}
</style>
<style>
#boxLEETTER {
width: 380px;
border: 0px solid #cbb989;
padding: 35px;
box-shadow: #504C4E 0px 0px 1em;
background-image: url("https://i.imgur.com/1VhFLiD.png");}
</style>
<div id="boxcorecenter">
<div align="center">
<br><br>
<div id="boxR0LE">
<img width="450" src="https://i.imgur.com/aDtIaPZ.png" border="0" alt="">
<br><font face="Chonburi"><font size="5"><font color="#994D7B"><span style="text-shadow: #ffffff 0px 0px 0.7px, #ffffff 0px 0px 25px, #ffffff 0px 0px 10px;">
<i><b>มังกรปราชัย</span></b><font face="Sarabun"><font size="2"><br>
วันที่ 19 เดือน 08 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 10<br>หนึ่งนาฬิกายี่สิบห้านาทีเป็นต้นไป</i></font></font>
<br></font></font></font>
<br>
<div align="left">
<font face="Sarabun"><font size="3">
<p style="text-indent: 2.5em;">เปลือกตาที่ปิดลงของนงคราญหยกเบิกโพล่งขึ้นอีกครั้งกลางฝุ่นควันและวงล้อมของตัวก่อกวน
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ยามนี้บรรยากาศรอบกายนงคราญนั้นเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ร่างอรขรอ่อนหวานของสาวงามหยาดฟ้าค่อย ๆ ลอยขึ้นรับกลับกลุ่มพลังสายหนึ่งที่ห้อมล้อมอยู่รอบกายจนค่อย ๆ สร้างใบหูของสัตว์ฟันแทะทรงยาวสีขาวแซมชมพู และหางกลมขนฟูที่เป็นเครื่องหมายแสดงตัวของสัตว์จำพวกกระต่าย.. หากว่าตัวตนของลู่ไป๋หรั่นคือหยกเย็นสงบเสงี่ยม ผู้ที่ครองการเคลื่อนไหวในยามนี้ก็คงเป็นหยกสายรุ้งแสนซนที่ปราดเปรียวกว่าใคร ๆ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ภายในพริบตา ดวงจิตของไป๋หรั่นที่พักอยู่ในร่างพลันได้ยินเสียงกระซิบเบา ๆ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#DFA0CB">‘ เคลื่อนที่พริบตา ’</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
เมื่อจบคำ ตลอดทั้งร่างงามราวรูปสลักหยกก็ทะยานเข้าประชิดเหล่าสมุนของมังกรดำบนฟากฟ้าที่กำลังอาละวาดฟาดฟันอยู่กับทหาร ไม่ทันให้ใครได้สังเกตเห็น มือบางสัมผัสเข้าที่ไหล่แข็งของปีศาจตนหนึ่งก่อนจะออกแรงยกกายให้ลอยขึ้นฟ้าพลางใช้ปลายเท้าที่รวบการเคลื่อนไหวของปราณเตะเสยขึ้นกับคางของมังกรอ้วนตัวหนึ่งจนกระเด็นตกเรือไป
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
แต่เท่านั้นยังไม่พอ สาวงามที่ถูกครอบงำโดยวิญญาณยุทธ์สายอ่อนช้อยตีลังกาข้ามศีรษะเจ้าอ้วนที่นางใช้มือจับในตอนแรก ก่อนจะพลิกกายกลับมาใช้เข่ากระทุ้งเข้าที่พุงพลุ้ย ๆ ของสมุนมังกรจนกระเด็นตกเรือไปอีกตัว
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#37415A">“ .. นายหญิง? ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ตลอดการโจมตีนี้มีหรือที่จะพ้นสายตาของหมู่ทหาร หลายคนที่มัวแต่ตะลึงในความสามารถรวมไปถึงเสน่ห์น่ามองที่เพิ่มพูนขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัวของนายหญิงจากฝ่ายในก็กลายเป็นว่าเปิดโอกาสให้เหล่าปีศาจชั้นต่ำลอบง้างมือขึ้นหมายจะโจมตีผู้รอดชีวิต <font color="#DFA0CB">“ รู้จักแต่ทำลายอย่างเดียวกับนายของพวกเจ้าไม่มีผิด ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
กระต่ายหยกอาศัยร่างของนงคราญบ่นออกมาอย่างหน่ายใจในความโลภไร้ที่สิ้นสุด แต่ทั้งหมดก็ใช่ว่าจะเป็นแค่การบ่นเพียงอย่างเดียว ร่างเล็กปรี่เข้าวาดขาขึ้นทั้งเตะและถีบเจ้าตัวอ้วนเหล่านั้นออกไปได้อีกกลุ่มใหญ่จนเหลือเพียงสองตัวสุดท้าย
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ไป๋หรั่นที่ถูกครอบงำโดยสมบูรณ์ขยับร่างทีไรก็คล้ายว่าจะแฝงไว้ด้วยกระแสพลังสีบุปผาที่แทรกออกมาจากกาย ไอปราณที่ระเหยออกมาจากร่างนั้นใช่ว่าไร้ประโยชน์ นอกจากจะเป็นอาวุธร้ายกาจแล้วยังช่วยเสริมเสน่ห์ให้ติดตราตรึงใจไปอีกขั้น แต่เสน่ห์โดยพรสวรรค์นั้นคงไม่อาจสู้ท่วงท่าการต่อกรกับปีศาจที่ชำนาญประหนึ่งมีประสบการณ์นับพันนับหมื่นปี ไป๋หรั่นกระโดดเหวี่ยงตัวขึ้นใช้เท้าทั้งสองแนบลำคอยาว ๆ ของมังกรอ้วนตัวหนึ่ง ก่อนจะให้ร่างนั้นให้เปรียบเสมือนเสาตั้งหลักให้นางสามารถเหยียบและกระโดดไปหาอีกรายที่กำลังตั้งท่าจะวิ่งหนี
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
โฉมสะคราญในคราบกระต่ายหยกแย้มยิ้มพึงใจก่อนจะตวัดขาฟาดลงที่กลางกระหม่อมของปีศาจตนนั้นจนหมดสติ และตีลังกากลับมาเหยียบร่างปีศาจที่สับสนมึนงงตัวก่อนหน้านี้ให้ทรุดลงกับพื้นพลางเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่ยังไม่สงบ <font color="#DFA0CB">“ รบกวนพวกเจ้าด้วย ”</font> สนมคนงามกำชับทิ้งท้ายไว้เท่านั้น ก่อนที่นางจะกระทืบเท้าบนร่างปีศาจโดดขึ้นสูง โดยมีจังหวะพักกลางอากาศก่อนจะทะยานมุ่งไปด้านหน้าอีกครั้งโดยใช้ปราณของตนเองอัดรวมเป็นฐานยืนกลางอากาศในแบบที่ต่อให้เป็นคนโง่เขลาก็ยังมองออกว่านี่หาใช่ความสามารถของมนุษย์โดยทั่วไป
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#1D1721">“ จะกี่ชาติพวกเจ้าก็ไร้ความสามารถ ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
น่าผิดหวังนัก ไม่ว่าจะกี่ครั้งเหล่าเชื้อพระวงศ์ก็ยังไม่มีใครก้าวไปถึงฝั่งที่จะสามารถต่อกรกับพวกเขาได้อย่างสมน้ำสมเนื้อพอ ฮ่าวเยี่ยผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด ทุกการโจมตีของเขาอ่อนลงเสมือนเบื่อหน่าย แต่สำหรับมนุษย์คนหนึ่งกำลังที่มากล้นของปีศาจต่อให้เบาแล้วก็ยังสะเทือนไปทั้งร่าง
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
หลิวเช่อปิดเปลือกตาลงช้า ๆ นอกจากครึ่งร่างที่เริ่มชาแล้วยังมีกายทิพย์มังกรบนฟ้าที่สภาพไม่สู้ดีนัก การต้องแบ่งรับแบ่งสู้ทั้งบนฟ้าและบนดินเป็นเรื่องลำบากสำหรับชายที่แต่ไหนแต่ไรล้วนยากจะมีคู่ต่อกรที่ตึงมือ .. คงเป็นเพราะศัตรูเริ่มหน่ายแล้ว ฝ่ายเขาจึงพอจะเหลือโอกาศได้ถอยมาตั้งหลักพร้อมฟื้นฟูร่างทิพย์มังกรทองที่เต็มไปด้วยรอยแผลให้คืนสภาพเดิมขึ้นมาประมาณหนึ่ง
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
โอรสสวรรค์บังคับร่างให้ประชันหน้ากับคู่ต่อกรอีกครั้ง ทว่าเมื่อเทียบความเสียหายที่เกิดขึ้นระหว่างเขาและอีกฝ่าย<font color="#B49A35"><i> ‘ ไม่จบไม่สิ้นเสียที.. หากเป็นเช่นนี้ต่อไ—- ’</i></font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<b>พรึ่บ !!</b>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
เสียงพุ่งแหวกอากาศเปลี่ยนความตึงเครียดให้เป็นประหลาดใจเมื่อเงาที่ปรากฏตรงหน้านั้นหาใช่เทพเซียนที่ไหนแต่เป็นคนร่วมเรียงเคียงหมอนที่แสนจะคุ้นตา <font color="#1D1721">“ เจ้า.. ”</font> ไม่ใช่เสียงเพรียกร้องหาของหลิวเช่อแต่อย่างใด ทั้งหมดนี้คือความคาดไม่ถึงของหลงฮ่าวเยี่ย ยามที่ได้เห็นไอปราณคุ้นเคยของสัตว์วิเศษอีกหนึ่งตัวที่มีฤทธิ์ถึงมากขนาดได้รับการเชื้อเชิญให้กลายเป็นสัตว์แดนสวรรค์
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#1D1721">“ กระต่ายหยก.. ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#DFA0CB">“ อย่าสนใจเขา ”</font> กระต่ายหยกในร่างของลู่ไป๋หรั่นไม่เหลียวแลศัตรูตัวฉกาจที่นางเห็นมาตั้งแต่เขาถือกำเนิด สิ่งที่นางทำมีแค่การหันไปโผกอดร่างของโอรสสวรรค์ที่แสนน่าสงสารพลางขยับสองมือประคองแก้มตอบที่ปรากฏรอยถลอกจาง ๆ บนโหนกแก้ม<font color="#DFA0CB"> “ จากนี้สนใจแค่เพียงข้า ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
แม้แต่ฮ่าวเยี่ยยังตากระตุก นับประสาอะไรกับหลิวเช่อที่เบิกตาขึ้น นอกจากนางจะไม่สนสี่สนแปดแล้วยังกล้าเอ่ยคำหวาน แต่ใครบ้างจะรู้ว่าทั้งหมดนี้ล้วนมาจากการขัดแย้งกันของเจ้าของร่างและผู้บงการล้วน ๆ ..
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#DFA0CB">‘ เจ้าห่วงเขาขนาดนี้ยังจะปากแข็งอยู่อีก ’ </font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#994D7B">‘ ก็นั่นสามีข้า ’</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#DFA0CB">‘ สามีเจ้า คนรักเจ้า ’</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#994D7B">‘ ไม่ใช่ ! ’</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#DFA0CB">‘ รู้แล้ว รู้แล้ว ไม่แกล้งเจ้าแล้ว ’</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
เสียงหัวเราะคิกคักในหัวเลือนหายไปก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นเสียงกระซิบที่ได้ยินแค่ระหว่างสองจิตและหนึ่งโอรสสวรรค์ <font color="#DFA0CB">“ การเคลื่อนไหวของฮ่าวเยี่ยสามารถหลอกตาคนได้ มองข้าให้ดี ยามเมื่อมองดีแล้วจะพบโอกาส ”</font> ประหนึ่งแสงสว่างชี้ทางลงมา ก่อนที่สองบุคคลจะแยกทางกระต่ายหยกในร่างนงคราญโน้มใบหน้าลงแนบหน้าผากลงสัมผัสส่วนเดียวกัน
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#DFA0CB">“ ประโยคนี้นางฝากข้ามา ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
กระต่ายหยกในคราบพระสนมอันเป็นที่รักนั้นหยักยิ้มเบาบาง ก่อนจะกล่าวเสียงเบาจนแทบฟังไม่ออก
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#994D7B">“ หนนี้เป็นข้าที่ช่วยท่านแล้ว.. ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ไป๋หรั่นคลายอ้อมแขนออกก่อนจะผินกายกลับเผชิญหน้ากับปีศาจมังกรดำที่เรียกร่างมังกรลงมาจากฟ้าเมื่อตรงหน้าหาใช่แค่ผู้ครองปราณสวรรค์แต่เป็นถึงวิญญาณยุทธ์ที่สถิตย์ลงกับร่าง <font color="#1D1721"><b>“ ในเมื่อรักกันมาก.. ข้าก็จะสงเคราะห์ส่งพวกเจ้าลงปรโลกไปพร้อมกัน ! ”</font></b> ฮ่าวเยี่ยเค้นเสียงคำรามพร้อมเหยียดแขนตรงไปส่งกายมังกรทมิฬให้เข้าปะทะกับร่างเพรียวที่กำลังพุ่งเข้ามาด้วยความเร็ว
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ก็แค่การโจมตีซึ่ง ๆ หน้ารูปแบบหนึ่ง หากสัตว์สวรรค์ไม่สามารถหลบได้ก็นับว่าประหลาดแล้ว
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
เมื่อคนที่ประมือกันโดยมากเป็นผู้มีประสบการณ์ ฝ่ายที่คอยจับสังเกตก็คล้ายว่าจะได้เรียนรู้ไปในตัว เมื่อปลายหางของมังกรดำตวัดขึ้นหมายจะฟาดร่างอันแสนปราดเปรียว แต่สตรีที่มีหูและหางกระต่ายสีขาวแซมชมพูกลับตลบร่างหลบการโจมตีกลางอากาศและวาดขาขึ้นสูงก่อนจะทิ้งดิ่งลงมาเมื่อเห็นว่าองศาสามารถเตะลงที่กลางศีรษะของอีกฝ่ายได้
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
เทพสงครามของหมู่ปีศาจไม่มีทางพลาดท่าให้กับลูกไม้เพียงแค่นี้ ท่อนแขนแกร่งของฮ่าวเยี่ยยกขึ้นต้านเรียวขาเล็กที่ฟาดลงมาอย่างไม่สะทกสะท้านและพลิกมือจับข้อเท้าบางก่อนจะดึงกายอีกฝ่ายเข้าหาตัวพร้อมง้างมือขึ้นเกร็งปลายนิ้วจนเผยให้เห็นเส้นเลือดนูนตามหลังมือพร้อมด้วยกลุ่มควันดำที่สร้างมาจากปราณแท้ในกายนั้น แทนที่หนึ่งฝ่ามือนี้จะได้ประทับลงที่อกตรงกลางใจของนงคราญเพื่อปลิดชีพในครั้งเดียว เมื่อผลักแขนออกไปสิ่งที่ปะทะกับกระแสปราณกลับเป็นความว่างเปล่า
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ไป๋หรั่นพลิกกายตะแคงหลบฝ่ามือสังหารพร้อมด้วยตวัดขาอีกข้างที่ไร้พันธนาการฟาดเข้าที่ข้างขมับของฮ่าวเยี่ยจนหมวกไผ่ผ้าคลุมกระเด็นออกไปไกล ทว่าจังหวะนี้ไม่ถูกปล่อยให้เสียเปล่า หลิวเช่อที่คอยอยู่แล้วรีบซัดฝ่ามือสวนเข้าที่กลางท้องศัตรู ฮ่าวเยี่ยที่ต้องรับมือกับสองผู้มีปราณสวรรค์พร้อมกันก็เริ่มที่จะรู้สึกเคร่งเครียดขึ้นมา การถูกของต่ำเช่นเท้าฟาดเข้าที่ใบหน้าเป็นเรื่องน่าอัปยศสำหรับมังกร ผู้ครองปราณทมิฬคำรามลั่นพร้อมระเบิดพลังผลักร่างสองสามีภรรยาให้กระเด็นออกไป
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
หลิวเช่อที่เจอไม้นี้จนชินสามารถถอยกลับมาตั้งหลักได้ในทันที แต่ไม่ใช่กับร่างของไป๋หรั่นที่ยังไม่อาจรองรับความสามารถและสัญชาตญาณทั้งหมดของสัตว์สวรรค์ได้โดยตรง เคราะห์ดีที่สามีของร่างนี้มีใจห่วงใย กายทิพย์มังกรทองพุ่งรองร่างอรชรโดยทันที แต่แทนที่จะเป็นการใช้หลังกระแทกโดยธรรมดา.. นงคราญหยกพลิกกายประทับฝ่าเท้าลงกับเกล็ดมังกรทอง ตั้งท่าพร้อมพุ่งเข้าหาศัตรูอีกครั้ง โดยหนนี้มีหลิวเช่อที่สังเกตเห็นมันอย่างชัดเจน
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
คู่สามีภรรยาคล้ายกับมีใจสื่อกัน ไม่ต้องให้บอก ทั้งสองล้วนพุ่งเข้าประชิดกายศัตรูอย่างทันท่วงที คนหนึ่งอัดปราณสีทองอร่ามด้วยการโจมตีผ่านฝ่ามือ อีกคนกระจายไอปราณสีบุปผาทุกครั้งที่เยื้องย่างกรีดกรายโดยจะสีเข้มและอัดแน่นเป็นพิเศษเมื่อมาพร้อมกับลูกเตะอันทรงพลัง ฮ่าวเยี่ยที่ต้องแบ่งสมาธิรับมือกับสองคนจึงไม่ทันได้สังเกตถึงความเข้มข้นของปราณมังกรทองที่เพิ่มขึ้น รวมไปถึงรูปแบบการเข้าโจมตีที่หนักหน่วงผสานรุนแรงราวกับว่ามีคนสนับสนุนให้ความเคลื่อนไหวทรงพลังขึ้นเป็นพิเศษ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
หลายชีวิตยามนี้ตะลุมบอนชุลมุนนัก มังกรสองตัวเหนืออากาศยังคงเกี่ยวรัด ด้านผู้บังคับทั้งสองก็กลับมาสู้กันได้อย่างสูสี โดยมีตัวแปรสำคัญคือนงคราญหยกที่เข้าออกเขตต่อสู้อย่างรวดเร็วเพื่อหาทางเผด็จศึก หลังจากผ่านมาได้อีกราว ๆ ร้อยกระบวนท่า .. ในที่สุดนางก็เห็นช่องโหว่งสำคัญที่เปิดโล่ง
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#DFA0CB">“ ตรึงเขาไว้ ! ”</font> หลังจากสู้ด้วยความเข้าใจกันเป็นอย่างดีมาตลอดบัดนี้เป็นหนแรกที่เสียงหวานร้องขึ้นขอความร่วมมือจากสามี แน่นอนว่าหลิวเช่อไม่เคยทำให้ใครต้องผิดหวัง โอรสสวรรค์ประทับฝ่ามือกดไหล่กว้างของคู่ต่อกรจากด้านหลังโดยใช้ปราณมังกรทองอัดแน่นกดทับในปริมาณที่คนปกติคงทรุดลงแนบพื้นไปแล้ว
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ไป๋หรั่นรีบใช้จังหวะนี้กระโดดขึ้นกลางอากาศและทิ้งเท้าลงเหยียบแผ่นหลังหนาของมังกรดำจนลำตัวเขาโน้มไปด้านหน้า ก่อนจะใช้เคลื่อนไหวพริบตากลับมาด้านหน้าและกระทุ้งเข่าขึ้น<font color="#DFA0CB"> “ ปล่อยเลย ”</font> ปลายเข่ามนกระแทกเข้าที่กลางอกแกร่งอย่างรุนแรงจนร่างสูงใหญ่ลอยขึ้นจากพื้นราว ๆ หนึ่งคืบ ยังไม่ทันให้ได้ตั้งหลักกลับลงมา ปลายเท้าก็ถูกส่งขึ้นถีบเตะยันอกให้ร่างนั้นลอยสูงขึ้น
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
กระต่ายน้อยกระโดดขึ้นเตะหนึ่งครั้ง ตามมาด้วยร่างทิพย์มังกรทองที่พุ่งเข้ากระแทกซ้ำอีกหนึ่งครั้ง ทั้งหมดนี้ดำเนินผ่านไปโดยมีนงคราญเคลื่อนไหวฉับไวประเดี๋ยวหน้าประเดี๋ยวหลังค่อย ๆ ส่งร่างมังกรทองที่ถูกสกัดจุดในส่วนสำคัญต่าง ๆ ผ่านท่วงท่าการโจมตีที่มาจากวิชาแปดกระบวนสังหาร
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ทว่าในกระบวนที่แปดซึ่งนับว่าเป็นส่วนกำราบเพื่อเอาชัย .. กระต่ายหยกกลับรั้งฝีเท้ากลับช้า ๆ และค่อย ๆ ปล่อยร่างกายให้ร่วงลงสู่พื้น สวนกับร่างทิพย์มังกรทองที่อ้าปากคาบร่างอันหนักอึ้งของหลงฮ่าวเยี่ยพร้อมระเบิดพลังออกมาเป็นการโจมตีครั้งสุดท้ายที่ยิ่งใหญ่อลังกาล ทั้งยังรุนแรงจนจอมทัพปีศาจกระอักเลือดออกมาทั้งที่กางเขตปราณแผ่ปกคลุมร่างเป็นการป้องกันตนเองเอาไว้แล้วถึงหนึ่งชั้น
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
แน่นอนว่าหลิวเช่อไม่แยแสกับศัตรูที่บอบช้ำเมื่อต้องเทียบกับร่างเล็กที่กำลังร่วงลงมาอย่างรวดเร็ว โอรสสวรรค์ขยับกายที่มีแผลถลอกประปรายเข้ารับร่างบางมาไว้ในอ้อมแขนอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้มังกรทมิฬที่บาดเจ็บภายในจำต้องกัดฟันและล่าถอยไปพร้อมเหล่าสมุนที่รีบกระวีกระว้าดโผบินขึ้นฟ้าเพื่อเอาตัวรอด
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
คืนนี้หนักหนามากจริง ๆ .. หูกระต่ายและหางเริ่มเลือนหายไป เช่นเดียวกับสติของนางที่ก็หมดลง หลิวเช่อสูดหายใจเข้าพลางอุ้มนางขึ้นอย่างถนอม ใบหน้าที่มักจะไร้ห้วงอารมณ์เงยขึ้นมองเงาทมิฬที่ค่อย ๆ หายไปกับขอบฟ้า ต่อให้วางใจในยามนี้ แต่อนาคตกลับเห็นเค้าลางของเภทภัยที่อัดแน่นเข้ามา โอรสสวรรค์หลุบสายตาลงมองหญิงสาวที่เอนศีรษะซบกับอกตนช้า ๆ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#B49A35"><b>“ ดูท่าต่อจากนี้.. การอยู่เคียงข้างเจิ้นคงจะเป็นหนทางเดียวของเจ้าแล้ว ”</font></b>
</font>
<br><br><div align="center">
<img width="450" src="https://i.imgur.com/F56Ani1.png" border="0" alt=""> <br><br><font face="Sarabun"><font size="3">
ร่วมต้านศัตรูกับหวงตี้ และช่วยชีวิตพลทหาร | ได้บารมีหรือปรนนิบัติไม๊<br>
เป็นที่สถิตย์ให้วิญญาณยุทธ์ขนาดนี้ ค่าตบะล่ะคะ</div>
</div>
<br><br>
</font></font></div></div><br><br></div><br><br>
<style type="text/css">@import url('https://fonts.googleapis.com/css?family=Chonburi'); Chonburi {font-family: 'Chonburi';}
</style>
หน้า:
[1]