แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย WeijiaLianhua เมื่อ 2025-6-5 23:47 <br /><br /><style>
#LianH01 {
border: 0px solid;
border-radius: 10px;
background-image: url("https://i.imgur.com/lL9mqdW.png"); }
#LianH02 {
border: 0px solid;
width: 75%;
box-shadow: #000000 5px 5px 5em;
background-color : #0f3648;}
#LianH03 {
border: 0px solid;
padding: 0px 50px;
width: 75%;}
#LianH04 {
border: 0px solid;
padding: 30px;
width: 500px;
box-shadow: #000000 5px 5px 5em;
background-image: url("https://i.imgur.com/IFRHQ59.png");}
</style>
<link href="https://fonts.googleapis.com/css2?family=Charmonman:wght@400;700&display=swap" rel="stylesheet">
<link href="https://fonts.googleapis.com/css2?family=Niramit:ital,wght@0,200;0,300;0,400;0,500;0,600;0,700;1,200;1,300;1,400;1,500;1,600;1,700&display=swap" rel="stylesheet">
<link href="https://fonts.googleapis.com/css2?family=Zhi+Mang+Xing&display=swap" rel="stylesheet">
<div align="center">
<font face="Sarabun" size="3" color="#ffffff">
<div id="LianH01">
<div id="LianH02">
<div style="height: 530px; background-image: url('https://i.imgur.com/95FY1QN.png'); background-repeat: no-repeat; background-size: cover;"></div>
<div style="margin-top: -200px; text-align: center;"><b>
<img height="300" src="https://i.imgur.com/8tE9Mcr.png" border="0" alt=""><br>
<span style="text-shadow: #000000 5px 5px 10px"><font size="6"> บันทึกการเดินทางสีครามบทพิเศษ</font><br><font size="4"> <br></font></span></b>
</div><br><div style="margin-top: -50px;"><div id="LianH03" style=""><div align="left" style=""><br><br><font color="#ffffff">
ครั้นตอนอยู่ในถ้ำวารีแม้เหมือนผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วยามทว่ากลับผ่านไปแล้วถึงสามวันบัดนี้ที่เสร็จสิ้นการรายงานข่าวต่อฉางซานเซียนหวางนางวางแผนว่าหลังจากนี้จะนอนให้เต็มอิ่มทว่าเมื่อเดินออกไปได้ไม่นานโจวจินก็ยื่นกระดาษใบน้อยมาให้ราวกับไม่ต้องการเอื้อนเอ่ยกระไรให้มากความนัก
</font><br><br><br><div align="center" style="color: rgb(255, 255, 255);">
<div id="LianH04">
<div align="left"><font face="Niramit" size="3" color="#000000"><br>
<i> โปรดไปกับข้าที่หมู่บ้านเจินเติ้งได้หรือไม่ข้ามีเรื่องอยากปรึกษา
</i></font>
</div></div></div>
<br><br><font color="#ffffff">
เว่ยเจียเหลียนฮวาก็พยักหน้าเบา ๆ ก่อนจะหันไปเอ่ยบอกสองสตรีที่เหลือกับเว่ยซานอีกหนึ่งตัวว่านางมีธุระกับโจวจินสักเล็กน้อย พักผ่อนตามสบายได้เลยทั้งสองต่างเอ่ยขานรับอย่างเข้าใจก่อนที่เว่ยเจียเหลียนฮวาจะเดินไปขี่ม้าเพื่อออกเดินทางไปยังหมู่บ้านเจินเติ้งตามที่โจวจินนำทาง
</font><br><br><font color="#ffffff">
ครั้นเมื่อทั้งสองได้มาถึงหมู่บ้านเจินเติ้งแล้วนั้นก็พบเพียงหมู่บ้านที่ว่างเปล่าไร้สัญญาณของสิ่งมีชีวิตใด ๆ ทั้งสิ้นทั้งสองเลือกที่จะผูกม้าไว้กับต้นไม้แข็งแรงสักต้นและเลือกเดินตามโจวจินไปสำรวจหมู่บ้าน…เรียกว่าเดินเล่นตามถนนอันไร้ผู้คนเสียมากกว่านัยเนตรกลมดั่งเมล็ดซิ่งจดจ้องสหายของนางไม่วางตาเขาในยามปกติมักจะร่าเริง ตรงไปตรงมา นอบน้อม เป็นยอดยุทธ์ผู้หนึ่งที่น่านับถือทว่าเขาในยามนี้เจือด้วยความหม่นหมองอย่างน่าประหลาดบ่ากว้างที่พร้อมแบกผู้คนข้างหลังบัดนี้ห่อเหี่ยวลงหมดสิ้นความมั่นใจ
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#ffa500"> “ข้าน่ะครั้งหนึ่งเคยมีคู่หมั้น…”</font><font color="#ffffff"> ราวกับเมื่อถึงจุดจุดหนึ่งที่สิ่งที่อัดอั้นภายในใจนั้นไม่สามารถเก็บไว้ได้ เขาก็เริ่มระบายออกมาน้ำเสียงของเขาช่างแผ่วเบาและอ่อนไหว </font><font color="#ffa500">“ข้าเคยมาทำการค้าที่นี่ด้วยล่ะคุณหนูสามในตอนนั้นข้าได้รู้จักกันคหบดีใหญ่ของหมู่บ้านแห่งนี้และได้พบเจอกับสตรีนางหนึ่ง นางเป็นเสี่ยวกู่เหนียงที่จิตใจดียิ่งนัก นางเป็นที่รักของผู้คนในหมู่บ้าน นางมักช่วยเหลือผู้อื่นเสมอ ข้าเองก็เป็นหนึ่งในนั้น จนกระทั้งวาสนาได้พานพบและร่วมผูกด้ายแดงทว่ากลับไร้บุพเพจะผูกสัมพันธ์หลังจากหมั้นหมายนั้นข้าได้รับโอกาสที่จะเติบโตยิ่งขึ้นข้าหมายมั่นตั้งใจว่าในวันที่ข้าร่ำรวย มีคาราวานใหญ่ เปิดร้านค้ารุ่งเรืองเป็นของตัวเองณ วันนั้นข้าจะกลับมาขอโอกาสได้ดูแลนางไปชั่วชีวิตทว่า…ในช่วงเวลาที่ข้ายุ่งอยู่นั้นข่าวคราวของนางก็หายไปหากไม่ได้ตามท่านมาฉางซานคงไม่อาจได้รับรู้เลยว่านาง…สุดท้ายแล้วอนาจเสียยิ่งกว่าความตายพรากจากไปแสนไกล”
</font><br><br><font color="#ffffff">
มือเรียวยกขึ้นมาตบบ่ากว้างทำได้เพียงยืนรับฟังเขาเงียบ ๆ ปล่อยให้น้ำตาของบุรุษผู้เข้มเข็มที่สุดหลั่งรินเงียบ ๆ ให้ความเป็นสหายบ่งบอกว่า ณ ปัจจุบันนี้ แม้จุดเริ่มต้นไม่ได้ดีเด่กระไรนัก ทว่านางที่ผ่านอะไรร่วมกับเขามาแสนนานนับเกือบยี่สิบทิวาราตรีย่อมสามารถนับเป็นสหายที่อยู่เคียงบ่าเคียงไหล่เขาอย่างแน่แท้
</font><br><br><font color="#ffffff">
ในช่วงเวลาที่แสนอ้างว้างได้ปกคลุมกายนี้เองความชะล่าใจที่คิดว่าที่แห่งนี้ไม่มีสิ่งใดก็บังเกิดความประมาทมีผีร้ายที่หลงเหลือราว ๆ สิบห้าตนปรากฎขึ้นจนทำให้พวกเขาไม่มีเวลามาหลั่งน้ำตาอีกแล้วเว่ยเจียเหลียนฮวาถอยหลังไปหมายยกเกาทัณฑ์ไม้จันทน์ขึ้นเพื่อเป็นฝ่ายยิงสนับสนุนเช่นที่ผ่านมาทว่ากลับต้องเร่งฝีเท้าหยิบกระบี่จากแหวนดาราจรัสมาตั้งรับการโจมตีจากผีร้ายแทนเมื่อแลเห็นว่าร่างสูงนั้นยังคงยืนนิ่งอยู่
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#00bfff">“โจวจินเจ้ายืนบื้อกระไรอยู่ !?”
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#ffa500"> “...เฟิงหลิง”
</font><br><br><font color="#ffffff">
แขนแกร่งที่เคยตวัดฟาดฟันบัดนี้สั่นเทาเกินกว่าจะถือกระบี่ไหวดวงตาสั่นเทาจดจ้องผีร้ายที่นางกำลังยับยั้งเอาไว้อยู่ก่อนจะเอ่ยขานนามที่เต็มไปด้วยความตกใจ ไม่เชื่อสายตา และความคะนึงหาปะปนเต็มไปหมดจนเดาได้ไม่ยากเลยว่าสิ่งที่เลวร้ายตรงหน้าคืออะไรเว่ยเจียเหลียนฮวาที่ต้องยืนตั้งรับด้วยตนเองเต็มรูปแบบก็จำต้องออกแรงให้มากขึ้นเพื่อรับมือกับเหล่าผีร้ายที่ไม่ได้รับการชำระล้าง
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#00bfff"> <b style="">“โจวจิน ปลดปล่อยนางซะ!!!”
</b></font><br><br><font color="#ffffff">
น้ำเสียงที่ปนด้วยความโหโมได้ตะโกนออกมาจากร่างแน่งน้อยของสตรีที่เขาไม่เคยจะได้ยินเสียงของนางตะโกนเช่นนี้เลยด้วยซ้ำเรียกสติให้เขามองโดยรอบให้ดีร่างของผีร้ายนอนเกลื่อนเกือบสิบกว่าตัวด้วยฝีมือของนางคนเดียวไม่ได้ทำให้เขาตั้งสติหากแต่เป็นร่างของนางที่กำลังตรีงกำลังผีร้ายตัวสุดท้ายเอาไว้เป็นร่างของสตรีที่เขาฝังความทรงจำไว้สุดดวงใจสตรี่ที่เขาเอ่ยนาม เฟิงหลิง
</font><br><br><font color="#ffffff">
ในจังหวะที่เว่ยเจียเหลียนฮวาพลาดพลั้งกำลังจะถูกโจมตีโจวจินที่ตั้งสติได้อีกครั้งก็จับกระบี่มาฟาดฟันนางจนบัดสิ้นชีพในที่สุดก่อนจะทรุดจมลงไปในความโศกาแสนทรมานเขาจำต้องสละนางที่เขาคะนึงหาเสมอเพื่อรักษาสหายที่ยังคงอยู่เอาไว้
</font><br><br><font color="#ffffff">
<i><b> นาง…ไม่อาจอยู่ร่วมกับเขาได้อีกต่อไปแล้ว
</b></i></font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#ffa500">“ข้าบาปหนามากขนาดนั้นเชียวหรือไยฟ้าดินต้องย่ำยีดวงใจของข้าขนาดนี้”
</font><br><br><font color="#ffffff">
ณ ช่วงเวลาที่ความสูญเสียหวนกลับมาขยี้ดวงใจของผู้ที่มีความหวังมาตลอดความอ่อนแอที่ถาโถมทำให้เว่ยเจียเหลียนฮวาละทิ้งซึ่งจารีตบุรุษสตรีแขนเรียวโอบกอดบ่ากว้างและลูบหลังเบา ๆ ในยามนี้ไร้ซึ่งสเน่หาใด ๆ ทั้งสิ้น
</font><br><br><font color="#ffffff">
<i> มีเพียงผู้สูญเสียเละสหายผู้อยู่เคียงข้างเท่านั้น
</i></font><i><br></i><br><font color="#ffffff">
ให้เวลาค่อย ๆ เยียวยาหัวใจที่มากด้วยบาดแผลสด ให้ความทรงจำที่ท่วมหัวใจได้ตระหนักถึงความแตกสลายและถึงเวลาที่จะกอบโกยเศษดวงใจมาต่อประกอบใหม่อีกคราเมื่อมือแกร่งค่อย ๆ ลดลงจากไหล่บางผู้ปลอบโยน เมื่อนั้นก็เป็นช่วงยามเซินเสียแล้ว
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#00bfff"> “นี่ก็เริ่มยามเซินแล้วข้ามีสุรารสดีอยู่หนึ่งไหไปเมาหัวราน้ำสักคืนดีหรือไม่ อาจิน ?”
</font><br><br><font color="#ffffff">
ผู้แตกสลายแสนแข็งแกร่งได้หัวเราะออกมาเบา ๆ แม้จะเป็นการเค้นอารมณ์ขันเฮือกสุดท้ายก็ตามเขายอมรับเลยว่าหากอยู่ผู้เดียวเขาคงไม่อาจข้ามผ่านช่วงเวลาแสนทรมานนี้ไปได้การมีอยู่ของนางแม้ไร้คำปลอบโยนทว่าอ้อมกอดและฝ่ามือที่ลูบหลังเบา ๆ ช่วยทำให้เขาไม่เดียวดายในโลกอันโหดร้ายทำให้เขาได้ตระหนักมั่นได้ว่าเขายังมีคนเคียงข้างและสักวันจะหายดี
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#ffa500"> “ข้าไม่จ่ายค่าสุราหรอกนะ เหลียนฮวา”
<br></font><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#00bfff"> “ข้าบอกตอนไหนกันว่าจะเก็บค่าสุราเจ้าน่ะ”
</font><br><br><font color="#ffffff">
สุดท้ายแล้วทั้งสองก็เดินทางกลับฉางอันเพื่อพักผ่อนทั้งคู่ที่กลับมามอมแมมยิ่งกว่าเดิมนั้นก็ถูกจ้าวหนิงเฟยตำหนิเสียยกใหญ่ว่าไปเจอสิ่งใดมากันทว่าทั้งสองกลับทำเพียงหัวเราะออกมาด้วยกันและไม่คิดจะบอกอะไรไปราวกับต้องการฝังความโหดร้ายไว้ให้ลึกโบกดินเหนียวก่อกำแพงซ่อมแซมดวงใจว่าครั้งหนึ่งความรักนั้นเคยสวยงามมากเพียงใด และการจากลานั้นโหดร้ายเพียงใด
</font><br><br><font color="#ffffff">
และในเย็นวันนี้ตามที่เหลียนฮวาสัญญานางเลี้ยงหม้อไฟแปดเซียนและสุรานารีแดงให้เขาอิ่มหนำสำราญลืมทุกข์โศกโดยมีการฉลองการชำระล้างหมู่บ้านชิวปี้บังหน้า
</font><br><br><font color="#ffffff">
ในสหายทั้งสองได้จดจำเอาไว้ว่าวันนี้คือวันที่อ่อนไหวที่สุดของสหาย
</font><br><br><font color="#ffffff">
<i><b> และก่อกำเนิดมิตรภาพผู้ยืนเคียงข้างแม้ความตายไม่อาจพังทลาย</b></i></font></div><div align="left" style=""><font color="#ffffff"><i><b></b></i></font><i><b><font color="#ffffff"><br></font></b></i><br>
</div>
<font color="#ffffff"><span style="width: 75%;"><img style="width: 75%;" src="https://img2.pic.in.th/pic/-2025-06-05-184840.png" alt="สกรีนช็อต 2025 06 05 184840" border="0"></span></font><br><br>
<font color="#ffffff"><span style="width: 75%;"><img style="width: 75%;" src="https://i.imgur.com/LIeqPiH.png" border="0" alt=""></span></font><br><br><font color="#ffffff">
โจวจิน </font><br><font color="#ffffff">
+5 พูดคุยประจำวัน </font><br><font color="#ffffff">
+20 หัวดีโบนัสความสัมพันธ์ </font><br><font color="#ffffff">
+30 ความสัมพันธ์ อาหารเกรดแดง + ชา/สุราเกรดแดง (+20)<br><div id="LianH03">(หากเป็นอาหารประเภทที่กำกับไว้ในคำอธิบายว่า อาหารปรุง ได้โบนัส +5 เพิ่ม)</div></font><font color="#ffffff">
โบนัส ความสัมพันธ์พิเศษ (VIP) กับ NPC +10 แต้ม</font><br><br><br>
<a href="home.php?mod=space&uid=1" target="_blank" style="color: rgb(255, 255, 255);">@Admin</a>
<br><br>
</div>
</div>
<div style="color: rgb(255, 255, 255); margin-top: -200px;">
<div style="height: 450px; background-image: url('https://i.imgur.com/82qGh6z.png');
background-repeat: no-repeat;
background-size: cover;
"></div></div>
</div>
</div>
</font></div>
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย WeijiaLianhua เมื่อ 2025-6-6 01:51 <br /><br /><style>
#LianH01 {
border: 0px solid;
border-radius: 10px;
background-image: url("https://i.imgur.com/lL9mqdW.png"); }
#LianH02 {
border: 0px solid;
width: 75%;
box-shadow: #000000 5px 5px 5em;
background-color : #0f3648;}
#LianH03 {
border: 0px solid;
padding: 0px 50px;
width: 75%;}
#LianH04 {
border: 0px solid;
padding: 30px;
width: 500px;
box-shadow: #000000 5px 5px 5em;
background-image: url("https://i.imgur.com/IFRHQ59.png");}
</style>
<link href="https://fonts.googleapis.com/css2?family=Charmonman:wght@400;700&display=swap" rel="stylesheet">
<link href="https://fonts.googleapis.com/css2?family=Niramit:ital,wght@0,200;0,300;0,400;0,500;0,600;0,700;1,200;1,300;1,400;1,500;1,600;1,700&display=swap" rel="stylesheet">
<link href="https://fonts.googleapis.com/css2?family=Zhi+Mang+Xing&display=swap" rel="stylesheet">
<div align="center">
<font face="Sarabun" size="3" color="#ffffff">
<div id="LianH01">
<div id="LianH02">
<div style="height: 530px; background-image: url('https://i.imgur.com/95FY1QN.png'); background-repeat: no-repeat; background-size: cover;"></div>
<div style="margin-top: -200px; text-align: center;"><b>
<img height="300" src="https://i.imgur.com/8tE9Mcr.png" border="0" alt=""><br>
<span style="text-shadow: #000000 5px 5px 10px"><font size="6"> บันทึกการเดินทางสีครามบทที่ 19</font><br><font size="4"> เดินทางไปพักผ่อนหย่อนใจ ณ หมู่บ้านกลางทะเล<br></font></span></b>
</div><br><br>
<div style="margin-top: -50px;">
<div id="LianH03" style="">
<div align="left" style=""><font color="#ffffff">
</font><font size="5" color="#ffffff"></font>
<br><br>
<div align="center" style="color: rgb(255, 255, 255);">
<div id="LianH04">
<div align="left"><font face="Niramit" size="3" color="#000000">
วันที่สิบสี่ ซื่อเยว่ เจี้ยนหยวนศกที่สิบเอ็ด
<br><br>
ในที่สุดข้าก็ได้กระดาษกับพู่กันจากการซื้อกับชาวบ้านแถวนี้ได้เวลาแก้นิสัยชอบเทกระจาดตำราแล้วกระมังสุดท้ายแล้วมันก็ต้องทิ้งไว้ ณ เกวียนที่ไม่อาจเอาไปด้วยได้ในยามคับขันหากให้สรุปเรื่องราวที่ผ่านมานี้คงเป็น ‘ทุกอย่างมันเกิดขึ้นไวมาก’ กระมัง
<br><br>
เริ่มจากในตอนที่เข้าสู่ฉางซานก็มีผีร้ายโผล่ออกมาจากป่าจำนวนมากพวกมันรูปร่างเช่นมนุษย์ทั่วไปทว่ากลับกระทำตนไร้จิตวิญญาณ ไร้สติสัมปชัญญะ ราวกับศพเดินได้รู้จักเพียงการกัดและการฆ่าฟันคราแรกเลยที่ข้ารู้สึกว่าตนเองนั้นแสนเขลานักที่เอาเกวียนมาแทนยอดอาชาต่อสู้เพื่อเอาตัวรอดได้ไม่นานนักก็มีทหารลาตระเวนฉางซานพร้อมกับฉางซานเซียนหวางมาช่วยได้ทันการ
<br><br>
ฉางซานเซียนหวางอธิบายให้ฟังว่าผีร้ายพวกนี้นั้นมาจากหมู่บ้านชิวปี้มันสามารถขยายกลุ่มราวกับแพร่เชื้อโรคร้ายได้เพียงฝากแผลไว้ที่ร่างของคนผู้นั้นเล่าสั้น ๆ เลยก็เมื่อได้ไปสำรวจหมู่บ้านก็ได้พบว่าเหตุการณ์พวกนี้หาใช่เรื่องธรรมดาไม่มันมีผู้คน ? มารปีศาจ? อะไรสักอย่างอยู่เบื้องหลังนี้แล้วยามนั้นเองที่เสียงแห่งหนี่วาก็ได้ส่งมาให้ข้าบอกว่ามุกวารีช่วยเหลือผู้คนได้
<br><br>
ด้วยความร้อนใจจึงเดินทางแยกตัวออกมาโดยมีข้า จื่อเซวียนชิงหลี และ โจวจินออกมาตามหาถ้ำวารีก่อนจะต้องผ่านบททดสอบทั้งสี่บททดสอบเพื่อสืบทอดพลังของทายาทหนี่วาสุดท้ายพวกเราก็ทำได้และจื่อเซวียนชิงหลีก็รีบไปชำระล้างหมู่บ้านชิวปี้ ปิดจบวิกฤตของฉางซานอย่างสวยงาม
</font>
</div></div></div>
<br><br><font color="#ffffff">
ในช่วงขณะที่ลมเย็นยามไร้สุริยันในคิมหันต์ฤดู เว่ยเจียเหลียนฮวาที่กำลังจุดตะเกียงเขียนบันทึกประจำวันในการเดินทางครานี้ ณ ศาลากลางสวนงดงามในจวนผู้ปกครองฉางซานอย่างฉางซานเซียนหวางด้วยความที่บัดนี้วิกฤตได้จบลงแล้วจึงขนย้านของเข้าจวนคืน แขกอย่างนาง จื่อเซวียนชิงหลี โจวจิน จ้าวหนิงเฟยรวมถึงเว่ยซานก็ได้เข้ามาอาศัยในจวนนี้เป็นการชั่วคราวกำหนดการวันนี้ของคณะเดินทางคือการเดินทางไปพักผ่อน ณ หมู่บ้านกลางทะเลอันตั้งอยู่บนหลังวาฬตัวใหญ่ แม้นดูเหลือเชื่อ ทว่านางที่พานพบความน่าเหลือเชื่อมามากมายก็ไม่มีสิ่งใดให้ตกใจอีกต่อไปแล้ว
</font><br><br><font color="#ffffff">
แม้ว่านี่คือคิมหันต์ฤดูทว่าในยามวิกาลเช่นนี้สายลมยังคงเย็นกายนางที่มีร่องรอยบอบช้ำตามกายบ้าง จ้าวหนิงเฟยที่ต้องมาช่วยทายาเอาตามหลังก็ไม่ค่อยปล่อยนางไว้คนเดียวเท่าไหร่ในยามนี้เองที่กำลังนั่งเขียนบันทึก จ้าวหนิงเฟยก็บอกว่านางลืมหยิบผ้าคลุมไหล่ของพระสนมออกมาจึงขอตัวกลับเข้าไปหยิบเสียก่อนบัดนี้ในช่วงเวลาลมราตรีพัดโบกบุปผาสีสดใสเอนไหว ภาพของสตรีผู้หนึ่งกำลังนั่งตวัดพู่กันในศาลานั้นช่างงามตาไม่หยอก
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#9932cc"> “ในช่วงเวลาที่ไม่ต้องไปถวายพระพรเสด็จแม่ เสียนอี๋เหนียงเหนียงยังคงตื่นเช้าเหมือนเดิมเลยนะ”
</font><br><br><font color="#ffffff">
บัดนั้นพลันมีเสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้พร้อมเอ่ยเสียงทุ้มคุ้นเคยลอยตามลม เว่ยเจียเหลียนฮวาที่จรดพู่กันลากเส้นสุดท้ายของคำคำหนึ่งพอดีก็ยกขึ้นและวางพู่กันลง
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#00bfff"> “ในเมื่อคุ้นเคยกับการตื่นยามนี้เสียแล้วร่างกายก็พลันตื่นขึ้นมาโดยไม่อาจหักห้ามได้เลยเพคะ”
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#9932cc">“ทว่าท่านไม่ควรมานั่งเช่นนี้ผู้เดียวยามวิกาล”
<br></font><br><font color="#ffffff">
คำเอ่ยแลดูเป็นห่วงตามมารยาทนี้ส่งผลให้สตรีผู้ที่เขาเอ่ยว่าอยู่เพียงผู้เดียวยามวิกาลหลุดแย้มสรวลออกมาเบา ๆ ฉางซานเซียนหวางแลเห็นเช่นนั้นก็เลือกทีจะมองซ้ายขวาเพื่อสำรวจรอบข้างก่อนจะถอดเสื้อคลุมมาคลุมไหล่มนในอาภรณ์ตัวบางของคิมหันต์ฤดูสตรีที่ได้ชื่อว่าเป็นสตรีของโอรสสวรรค์ชะงักค้างไปชั่วครู่เมื่อจู่ ๆ ก็มีเสื้อไหมเนื้อดีมาคลุมไหล่เช่นนี้ดวงตากลมเมล็ดซิ่งเลื่อนขึ้นตามมือแกร่งอันเป็นหลักฐานที่ว่าเขาเป็นเจ้าของอาภรณ์คลุมกายสีครามปักดิ้นเงินลายเมฆางดงาม
</font><br><br><font color="#ffffff">
ชั่วขณะที่สบสายตานั้นเหตุการณ์หลาย ๆ อย่างพลันประเดประดังเข้ามาจนไม่รู้ว่าในอกนั้นรู้สึกได้ว่ามันกำลังเต้นหนักแน่นขึ้นเกิดจากความรู้สึกใดกันแน่โศกเศร้ากับภาพนิมิต โล่งใจที่ไม่เป็นเช่นนั้นหรือว่าดีใจที่พบเขาอีกคราโดยที่อาจทราบได้เลยว่านางนั้นช่างมีวาสนาเพียงใดที่ได้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง
</font><br><br><font color="#ffffff"><i>
เพราะนางก่อนหน้านี้ไม่ได้มีหวังเลยว่าตนจะรอดหรือไม่
</i></font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#9932cc"> “เปิ่นหวางได้ยินว่าที่วัง…ท่านต้องพิษฝันสีขาว”
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#00bfff"> “เพคะ”
</font><br><br><font color="#ffffff">
แล้วความเงียบก็บังเกิดขึ้นในหัวขององค์ชายแห่งต้าฮั่นนั้นไม่อาจทราบได้เลยว่าเขาต้องเอ่ยเช่นไรต่อในช่วงเวลานั้นที่ทราบว่าสตรีที่มักเผลอสบตากับนางอยู่บ่อยครั้งล้มหมอนนอนเสื่อด้วยต้องพิศหลังจากที่เขาออกจากฉางอันได้ก็ร่วมเกือบสามเดือนทั้งได้ยินตลอดว่านางเพิ่งจะมาฟื้นเอาช่วงวสันต์ฤดูเช่นนั้นแล้วสตรีที่เขาคิดว่าคงใช้เวลาสักฤดูกาลในการรักษาจนกลับมาเดินเหินได้อีกครากลับมาปรากฎกายตรงหน้าเขานั้นช่างราวกับฝันสีพิสุจน์ที่เขาเผลอต้องเอายามใดไม่อาจทราบได้
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#9932cc"> “หากเปิ่นหวางถามอีกสักคราว่าเหตุใดท่านถึงมาที่นี่ ท่านจะตอบหรือไม่”
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#00bfff"> “เช่นนั้นแล้วหากหม่อมฉันเอ่ยว่าในช่วงเวลาที่หม่อมฉันต้องพิษจนหลับไหลอยู่ร่วมเกือบแรมปีนิมิตที่แลเห็นพระองค์อยู่ท่ามกลายไพร่ชนผีร้ายกลางเมืองเป็นภาพที่ทำให้หม่อมฉันมานั่งตรงนี้หวางเย่จะเชื่อหม่อมฉันหรือไม่”
</font><br><br><font color="#ffffff">
แท้จริงแล้วนางแลเห็นนิมิตมานานมากกว่านั้นตั้งแต่ที่เขาเพิ่งจะกลับฉางซานเสียด้วยซ้ำทว่านางเพิ่งจะมาเอาป่านนี้ช่างน่าอดสูเสียจริง
</font><br><br><font color="#ffffff">
ความไม่รู้ก่อเกิดขึ้นมาในอกของทั้งสองความรู้สึกที่ไม่อาจทราบได้ว่าควรจะวางบุคคลตรงหน้าไว้ตำแหน่งใจในหัวใจนั้นช่างอึดอัดเกินทนสำหรับนางที่บัดนี้แน่ชัดแล้วว่าไม่อาจพิศมองฝ่าบาทผู้ได้นามว่าสามีของสตรีทั้งหลายในวังหลังเช่นสามีจริง ๆ ก็ตั้งตนไว้เพียงในกรงสีทองไร้ผู้แตะต้องก็เท่านั้นทว่าสำหรับเขาที่เป้นอนุชาในองค์หวงตี้ผู้ที่มองจากทางไหนย่อมเข้าใจเพียงแค่นางคือพระสนมของพระเชษฐาเช่นนั้นแล้วไม่ว่าจะวางไว้ตรงส่วนใดก็ตาม ส่วนนั้นคงจะเป็นส่วนที่ลึกมาพอที่จะมีเพียงเขาเท่านั้นรับทราบเพียงผู้เดียว
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#9932cc"> “ข้า…ยินดียิ่งที่ได้พบท่าน”
</font><br><br><font color="#ffffff">
เป็นความในใจอันแผ่วเบาที่เอื้อนเอ่ยออกมาปกติแล้วนั้นบุรุษตรงหน้ามักตรัสคารมคมคาย ระบายแย้มสรวลงดงามเปื้อนพระพักต์ นัยเนตรอันยากจะหยั่งรู้ได้ว่าสิ่งใดกันที่สะท้อนออกมา ทว่าบัดนี้เมื่อได้สบเข้ากลับพบกับความรู้สึกที่ไม่เข้าใจว่าเขาสื่อออกมาเช่นนี้จริง ๆ หรือ ลมหายใจของหญิงสาวพลันขาดห้วง ความอ่อนโยนแสนอ้อยอิ่งที่เลื่อนหัตถ์หนาขึ้นมาปัดเกษางามทัดหลังใบหูและค่อย ๆ ไล่ลงมาที่ปลายอย่างถนอมราวกับกำลังโอบอุ้มบุปผางาม
</font><br><br><font color="#ffffff">
บัดนั้นที่ได้ยินเสียงของบ่าวแว่วมาจากที่ไกล ๆ พักต์งามของสตรีพลันเลื่อนออกมา มือเรียวยกขึ้นลูบปลายผมสีดำขลับงดงามในบริเวณที่เขาเพิ่งลากผ่านอย่างอ่อนโยน ร่างบางผู้ไร้ประสบการณ์ในเรื่องหัวใจนั้นไร้ปราการจะต้านทานสิ่งใดใบหน้างามค่อย ๆ ก้มลงเล็กน้อย ยกมือบางที่ยังคงกุมปลายผมเอาไว้ยกขึ้นมาปิดบริเวณจมูกลงไปราวกับต้องการบดบังกิริยานี้ทว่าสิ่งที่แสดงออกมานั้นคือคิ้วมนที่ขมวดดวงตาที่มักจะจ้องมองโลกทั้งใบเลื่อนสายตาลงต่ำราวกับไม่อาจสบสายตากับผู้ใดได้ แก้มใสที่โผล่ผ่านช่องว่างของเรือนผมแลเห็นสีแดงกลาย ๆ
</font><br><br><font color="#ffffff">
แม้นไม่อาจได้ยลยินสิ่งใดจากนางทว่าอย่างน้อยเขาก็ได้เอ่ยสิ่งที่ต้องการเอ่ยออกมาดวงตาคมพิศมองใบหน้าที่ไม่ได้เลิศเลอเช่นดอกโบตั๋นที่ทำให้ผู้คนต้องหยุดจดจ้อง มิใช่มะลิที่ส่งกลิ่นฟุ้งหอมหวานน่าถนอม นางงดงามดั่งหญ้าหวาที่ขึ้นอยู่ริมทาง เป็นดอกไม้ที่หันหน้ารับแดดเงียบ ๆ ไม่อ้อน ไม่อวด ไม่เอ่ยคำ — ว่าเมื่อใดเขาเดินผ่านมุมสวนที่นางยืนอยู่ มักเผลอไผลเหลียวหาอีกครั้งอยู่ร่ำไป ในคราปกติแล้วใบหน้าของนางมักจะแสดงสิ่งที่นางต้องการก็แค่นี้ทว่าในยามนี้ท่าทีเสียอาการทำให้เขาที่ต้องก้าวเดินถอยออกมาก่อนนั้นอดไม่ได้ที่จะแย้มสรวลออกมาร่างสูงไม่เอ่ยสิ่งใดแม้เพียงครึ่งคำ หวังเพียงปล่อยให้ถ้อยวจีสุดท้ายหมุนวนในห้วงความคิดของสตรีผู้ที่ทำให้เขาได้รับรู้ถึงจังหวะของดวงใจในอก ปล่อยให้กลิ่นที่ติดปลายจมูกได้ระลึกถึงตัวตนที่ฝังภายในใจ
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><i style="color: rgb(255, 255, 255);">สุคนธรสตรึงใจดั่งกระดาษแผ่นบางที่เพิ่งเขียนบทกวี กลิ่นของต้นจันทน์ยามค่ำ กลิ่นสมุนไพรที่ระเหยตามสายลม... ยามเมื่อต้องเดินจาก จะมีเพียงเสียงลมหายใจแผ่วเบา และความคิดถึงที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว</i>
<br><br>
<div align="center" style="color: rgb(255, 255, 255);">
<img style="width: 75%;" src="https://i.imgur.com/LIeqPiH.png" border="0" alt=""></div>
<br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#00bfff">“บอกข้าทีว่าเจ้าไม่ได้ดื่มจนเมาค้างอยู่น่ะโจวจิน”
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#ffa500"> “เจ้ามิใช่หรือที่ชวนเมาหัวราน้ำลืมสิ้นเลยว่าวันนี้ต้องเดินทาง”
</font><br><br><font color="#ffffff">
ในยามเฉินที่สหายทั้งสี่คนและหนึ่งตัวได้มารวมตัวกัน ณ หน้าเมืองฉางซานทางเหนือเตรียมควบม้าเพื่อเดินทางไปยังริมทะเลป๋อไห่เพื่อต่อเรือไปยังหมู่บ้านลู่ไห่เว่ยเจียเหลียนฮวาในอาภรณ์งดงามเช่นพระสนมเดินมาพบเข้ากับสภาพน่าอนาจของโจวจินก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยวาจาเสียดสีสักเล็กน้อยตามความสนิทสนมที่มากขึ้นทำเอาสตรีอีกสองคนงุนงงว่าเกิดเหตุอันใดกันเมื่อวานนี้ทำให้สองบุรุษสตรีได้ตกลงเป็นสหายต่างยศฐาราวกับผู้ท่องยุทธ์
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#9932cc"> “ไว้เปิ่นหวางจะเร่งจัดการสถานการณ์ให้เรียบร้อยขอให้พวกท่านพักผ่อนให้เต็มที่ในช่วงเวลาสามวันนี้”
<br></font><br><font color="#ffffff">
ฉางซานเซียนหวางเอ่ยขึ้นเพื่อส่งท้ายผู้มีพะรคุณช่วยเหลือเมืองที่เขาปกครองทั้งหมดก่อนที่คณะเดินทางจะเดินทางด้วยความไวยิ่งขึ้นเพราะม้าชั้นยอดที่หวางเย่ให้หยิบใช้งานตามต้องการ
</font><br><br><font color="#ffffff">
คณะเดินทางใช้เวลาเพียงสามชั่วยามเท่านั้นก็มาถึงท่าเรือริมทะเลป๋อไห่ในปลายยามเว่ยพบเจอท่าเรือสำหรับขึ้นเรือเล็กไปยังหมู่บ้านทำให้จำต้องฝากยอดอาชาทั้งสี่ชีวิตไว้กับเถ้าแก่ดูแลท่าเรือ
</font><br><br><font color="#ffffff">
การเดินทางในครานี้มีเว่ยเจียเหลียนฮวาคอยออกค่าเดินทางให้ทั้งสิ้นเจ็บเท่าไหร่ก็จ่ายเท่านั้นนางพาทุกคนขึ้นเรือเล็กเพื่อข้ามฟากไปยังหมู่บ้านลู่ไห่อันจะเป็นสถานที่ที่นางพักผ่อนนับต่อจากนี้อีกหนึ่งคืนใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วยามเท่านั้นเท้าของคณะเดินทางทั้งหลายก็ได้มาเหยียบ ณ ผืนดินอันเป็นแผ่นหลังของสัตว์เทพในตำนานที่ยังมีลมหายใจ
</font><br><br><font color="#ffffff">
ชาวบ้านในหมู่บ้านนั้นก็พอจะคุ้นชินกับนักท่องเที่ยวผู้มาเยี่ยมเยียนเป็นครั้งคราวอยู่บ้างนางถามชาวบ้านที่รอรับเรือว่าที่แห่งนี้มีโรงเตี๊ยมหรือร้านค้าหรือไม่ก็ได้ความว่าโรงเตี๊ยมอยู่ไม่ไกลทางจัตุรัสกลางเมืองอีกทั้งยังมีการตั้งซุ้มตลาดขายของอีกด้วยนางที่ชมชอบการซื้อของพิเศษและโจวจินที่เป็นพ่อค้าก็ไม่รอช้าที่จะชักชวนผู้คนไปเปิดห้องที่โรงเตี๊ยมสักคืนและไปเดินเล่นที่ตลาดในตอนยามเซิน
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#00bfff"> “เถ้าแก่ ๆ มีสิ่งใดน่าสนใจขายบ้างหรือ”
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#c0c0c0"><i> “มากมายนักกู่เหนียง ร้านของข้ามีใบชาหลากหลายชนิด”
</i></font><br><br><font color="#ffffff">
แล้วเว่ยเจียเหลียนฮวาก็ไล่เหมาของไปเกือบทุกร้านนางผ่านร้านชาก็ซื้อชาจนหมด เจอะร้านเนื้อก็แวะเข้าไปซื้อเนื้อหายาก ไปซื้อแร่เหล็ก ของน่าสนใจมากมายจนตำลึงทองไหลออกไปหลายร้อยตำลึงทองเชียว
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#ffc0cb">“ใช้ตำลึงเยอะไปแล้วเจ้าค่ะคุณหนูสาม”
</font><br><br><font color="#ffffff">
จ้าวหนิงเฟยผู้ที่ถือถุงเงินได้แต่ถอนหายใจออกมาเมื่อต้องหยิบอีแปะหลายก้วนจ่ายค่าถุงเกลือเว่ยเจียเหลียนฮวาหัวเราะร่าเพราะว่านางไม่ได้รู้สึกว่ามันแพงไปเท่าไหร่นักในเมื่อที่ฉางอันมิได้มีของพวกนี้เกลื่อนเสียหน่อย
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#ffc0cb">“คุณหนูจื่อเซวียนอย่ากระทำตามเชียว”
</font><br><br><font color="#ffffff">
ในเมื่อบ่นเจ้านายของตนไม่ได้ก็ใช้ยุทธวิธีตีวัวกระทบคราดหันไปแอบสอนสั่งเจ้าหญิงผู้ใสซื่อหวังว่าจะไม่มือเติบเช่นนายหญิงของตนเองซึ่งเว่ยเจียเหลียนฮวาได้ยินเช่นนี้ก็ได้แต่หัวเราะออกมาอย่างสนุกสนานแล้วจับจูงจื่อเซวียนชิงหลีเข้าออกร้านรวงมากมายเชียว
</font><br><br><div style="text-align: center;"><span style="color: rgb(255, 255, 255);">มาค่ะได้เวลาเหมาของ</span></div><font color="#ffffff"><div style="text-align: center;">ใบชาหลงจิ่ง 200 * 40 อีแปะ = 8,000 อีแปะ</div></font><font color="#ffffff"><div style="text-align: center;">ใบชาไป๋หาวอิ๋นเจิน 200 * 40 อีแปะ = 8,000 อีแปะ</div></font><font color="#ffffff"><div style="text-align: center;">ใบชาหวงซาน 200 * 25 อีแปะ = 5,000 อีแปะ</div></font><font color="#ffffff"><div style="text-align: center;">เนื้อเป็ดอูยา 100 * 21 อีแปะ = 2,100 อีแปะ</div></font><font color="#ffffff"><div style="text-align: center;">เนื้อกวาง 100 * 29 อีแปะ = 2,900 อีแปะ</div></font><font color="#ffffff"><div style="text-align: center;">เนื้อไก่ดำ 50 * 60 อีแปะ = 3,000 อีแปะ</div></font><font color="#ffffff"><div style="text-align: center;">สุรานารีแดง 2 * 40 ตำลึงทอง = 80 ตำลึงทอง</div></font><font color="#ffffff"><div style="text-align: center;">สุราซีเฟิ่ง 6 * 30 ตำลึงทอง = 180 ตำลึงทอง</div></font><font color="#ffffff"><div style="text-align: center;">แร่เหล็ก 20 * 80 ตำลึงเงิน = 1600 ตำลึงเงิน</div></font><font color="#ffffff"><div style="text-align: center;">กล่องปริศนา1 * 50 ตำลึงทอง = 50 ตำลึงทอง</div></font><font color="#ffffff"><div style="text-align: center;">หินเพลิงฟ้า(อัปเกรด) 10 * 300 ตำลึงเงิน = 3,000 ตำลึงเงิน</div></font><font color="#ffffff"><div style="text-align: center;">มุกพลังวิญญาณ 1 * 20 ตำลึงทอง = 20 ตำลึงทอง</div></font><font color="#ffffff"><div style="text-align: center;">เกลือ 120 * 300 อีแปะ = 36,000 อีแปะ</div></font><font color="#ffffff"><div style="text-align: center;">รวมทั้งหมด 330 ตำลึงทอง 4,600 ตำลึงเงิน 65,000 อีแปะ</div></font><div style="text-align: center;"><br></div></div><br>
<font color="#ffffff"><span style="width: 75%;"><img style="width: 75%;" src="https://i.imgur.com/LIeqPiH.png" border="0" alt=""></span></font> <br><br><br><font color="#ffffff">
โจวจิน </font><br><font color="#ffffff">
+5 พูดคุยประจำวัน </font><br><font color="#ffffff">
+20 หัวดีโบนัสความสัมพันธ์</font><br><font color="#ffffff">
โบนัส ความสัมพันธ์พิเศษ (VIP) กับ NPC +10 แต้ม</font><br><br>
<a href="home.php?mod=space&uid=1" target="_blank" style="color: rgb(255, 255, 255);">@Admin</a>
<br><br>
</div>
</div>
<div style="color: rgb(255, 255, 255); margin-top: -200px;">
<div style="height: 450px; background-image: url('https://i.imgur.com/82qGh6z.png');
background-repeat: no-repeat;
background-size: cover;
"></div></div>
</div>
</div>
</font></div>
<style>
#LianH01 {
border: 0px solid;
border-radius: 10px;
background-image: url("https://i.imgur.com/lL9mqdW.png"); }
#LianH02 {
border: 0px solid;
width: 75%;
box-shadow: #000000 5px 5px 5em;
background-color : #0f3648;}
#LianH03 {
border: 0px solid;
padding: 0px 50px;
width: 75%;}
#LianH04 {
border: 0px solid;
padding: 30px;
width: 500px;
box-shadow: #000000 5px 5px 5em;
background-image: url("https://i.imgur.com/IFRHQ59.png");}
</style>
<link href="https://fonts.googleapis.com/css2?family=Charmonman:wght@400;700&display=swap" rel="stylesheet">
<link href="https://fonts.googleapis.com/css2?family=Niramit:ital,wght@0,200;0,300;0,400;0,500;0,600;0,700;1,200;1,300;1,400;1,500;1,600;1,700&display=swap" rel="stylesheet">
<link href="https://fonts.googleapis.com/css2?family=Zhi+Mang+Xing&display=swap" rel="stylesheet">
<div align="center">
<font face="Sarabun" size="3" color="#ffffff">
<div id="LianH01">
<div id="LianH02">
<div style="height: 530px; background-image: url('https://i.imgur.com/95FY1QN.png'); background-repeat: no-repeat; background-size: cover;"></div>
<div style="margin-top: -200px; text-align: center;"><b>
<img height="300" src="https://i.imgur.com/8tE9Mcr.png" border="0" alt=""><br>
<span style="text-shadow: #000000 5px 5px 10px"><font size="6"> บันทึกการเดินทางสีครามบทพิเศษ</font><font size="4"><br></font></span></b>
</div><br><br>
<div style="margin-top: -50px;">
<div id="LianH03" style="">
<div align="left" style=""><font color="#ffffff">
</font><br><br><font color="#ffffff">
ลมทะเลพัดโอบโชยกลิ่นของมวลมหาสมุทรมาปะทะผิวกายจนรู้สึกชื้น ท่ามกลางผู้คนในท้องที่มากมายและนักท่องเที่ยวประปราย ถุงตำลึงพวกนางแม้เบาหวิวลงไปโขทว่ามันก็ยังมากพอสำหรับการเที่ยวเล่นสักคืนในช่วงเวลาที่ดวงตากลมใสสอดส่องไปแลเห็นร้านม้วนตำราก็เผลอไผลเร่งฝีเท้าเดินเข้าไปโดยไวทิ้งสหายผู้อ่อนใจกับความคลั่งไคล้ตำราของนางเองไว้ให้เดินตามมาเอง
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#c0c0c0"><i><b> “อย่านะ!”
</b></i></font><br><br><font color="#ffffff">
ช่วงขณะที่เว่ยเจียเหลียนฮวาหายไปกับร้านตำรา เว่ยซานวิ่งตามไปไม่ห่างจ้าวหนิงเฟยกับโจวจินปรึกษากับว่าจะเดินตลาดไปด้วยกันหรือว่าจะแยกย้ายกันเดินแล้วกลับไปเจอกันที่โรงเตี๊ยมอีกทีดี ดูเหมือนจื่อเซวียนจะเห็นเด็กสาวถูกอันธพาลกลุ่มหนึ่งกำลังรุมล้อมกดดันและขู่ทำร้ายจนนางต้องร้องออกมาด้วยอารามตกใจทายาทหนี่วาผู้กำเนิดมาเพื่อโปรดปวงมนุษย์ย่อมไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปปกป้องดรุณีน้อยนางนี้
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#dda0dd">“ช้าก่อนบุรุษทั้งหลาย ท่านรังแกสตรีตัวน้อยงั้นหรือ”
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#a0522d"> “แล้วมันเรื่องของเจ้าหรืออย่างไร ในเมื่อพ่อมันไม่อาจใช้หนี้ได้ก็ต้องเอาลูกมันมาขัดหนี้เสียหากท่านผู้มาคุณธรรมยังเห็นแต่ชีวิตตนเองก็จงเอาหัวที่ยังตั้งบนบ่าออกไปจากที่ตรงนี้ซะ”
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#dda0dd"> “อย่าได้คิดจะแตะต้องเสี่ยวกู่เหนียงแม้แต่ปลายนิ้ว”
<br></font><br><font color="#ffffff">
เมื่อยืนยันแน่ชัดในเจตนาที่ไม่ยอมหลบเลี่ยงอันธพาลก็ไม่เกรงใจแม้เป็นสตรีพวกมันรุมเข้าใส่พร้อมกับถึงสามคนทั้งยังตวัดดาบโค้งมีคมโดยไม่หวั่นเกรงที่จะคร่าชีวิตเพิ่มสักคนเพื่อเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ให้มากที่สุดไม่เห็นจะเป็นอะไรการโรมรันฟันแทงนั้นดำเนินไปอย่างรวดเร็วจนผู้คนโดยรอบต่างหวีดร้องด้วยอารามตกใจและออกห่างเป็นวงกว้างในจังหวะที่จื่อเซวียนชิงหลีหันหลังไปรับมือชายฉกรรจ์ร่างโตเพื่อปกป้องแม่นางน้อยนั้นก็มีพวกเดียวกันเข้าข้างหลังใช้ดาบตวัดฟาดกลางหลังจนเกิดบาดแผลยิ่งกว่าต่อสู้กับผีร้ายเสียอีก
</font><br><br><font color="#ffffff">
จื่อเซวียนชิงหลีที่ตั้งตัวไม่ทันได้รับบาดเจ็บก็กรีดร้องออกมาก่อนที่สัญชาตญาณจะตื่นขึ้นร่างกายที่แปรเปลี่ยนจากสองเท้าเป็นหางเรียวของอสรพิษตวัดฟาดอันธพานใจทรามผู้นั้นออกไปไกลเพื่อป้องกันตัวบัดนั้นผู้คนพลันแตกตื่นยิ่งกว่าเคยวงล้อมที่กว้างอยู่แล้วพลันกว้างออกไปอีกเพื่อถอยห่างจากสตรีประหลาดเสียงเอ่ยว่า ปีศาจ ดังก้องไปทั่วจนจับใจความเสียงอื่นไม่ได้เลย
</font><br><br><font color="#ffffff">
ครั้นเมื่อหันไปมองดรุณีน้อยที่นางช่วยชีวิตไว้ก็แลเห็นความหวาดกลัวในดวงตากลมใสโลกทั้งใบของทายาทหนี่วาพังทลายราวกับไม่อาจมีที่ยืนตรงนี้อีกต่อไปนางพุ่งกายเลื้อยออกจาก ณ จุดนี้เสีย
</font><br><br><font color="#ffffff">
ในจังหวะที่ผู้คนกรีดร้องว่าปีศาจสหายทั้งสามที่ยืนไม่ไกลก็พุ่งตรงเข้ามาหมายจะกำจัดปีศาจช่วยเหลือผู้คนทว่าภาพตรงหน้านั้นทำให้ทั้งสามคนต้องตกตะลึงเมื่อ ปีศาจ ที่ชาวบ้านกู่ร้อง ใบหน้าของนางคือจื่อเซวียนชิงหลีและบัดนี้นางไม่อาจสู้หน้าผู้ใดได้จนเลื้อยหนีไปโดยไวเสียแล้ว
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#00bfff"> “ตามนางเร็ว!”
</font><br><br><font color="#ffffff">
สองเท้าไม่อาจตามเรียวหางของอสรพิษได้เมื่อคลาดการติดตามแล้วก็จำต้องแยกย้ายกันตามหาให้ทั่วทั้งเกาะวาฬแห่งนี้เว่ยเจียเหลียนฮวาเดินไปเรื่อย ๆ ราวหกสิบลี้จนกระทั่งไปแลเห็นสุดชายขอบของเกาะวาฬ ณ สถานที่ที่ต้นท้อตั้งตระหง่านงดงาม แลเห็นสตรีผู้ครอบครองเกล็ดเปล่งประกายงดงามสะท้อนแสงจันทรากำลังสะอื้นไห้ตัดพ้อในเผ่าพันธุ์และลมปากของผู้คน
</font><br><br><font color="#00bfff">
“เจอตัวแล้ว”
</font><br><br><font color="#ffffff">
สตรีผู้ที่เป็นดั่งศูนย์รวมใจของคณะเดินทางเอ่ยขึ้นก่อนจะเดินไปนั่งอีกด้านหนึ่งของต้นไม้ราวกับว่าต้องการให้พื้นที่แก่ผู้ที่อ่อนไหวที่สุดในยามนี้
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#dda0dd"> “ไยผู้คนภายนอกถึงโหดร้ายกับเรานัก แม้เป็นเช่นนี้ แต่ว่าข้าก็ยังคงเป็นมนุษย์คนหนึ่งมิใช่หรือ แล้วที่ข้าเข้าไปช่วยไม่ได้ทำให้เขาเห็นในความดีของข้าเลยหรือ ไยถึงรังเกียจเดียดฉันท์ถึงเพียงนั้น”
</font><br><font color="#00bfff"><br>
“เพราะผู้คนมักหวาดกลัวในสิ่งที่แตกต่างจากตนเองอย่างไรเล่าจื่อเซวียนชิงหลี”</font><font color="#ffffff"> ใบหน้างามเงยขึ้นมองท้องนภายามรัตติกาล แลพิศดวงจันทราที่ทอแสงอ่อนโยนประดับด้วยกลีบดอกท้อที่โรยลงมาราวกับต้องการปลอบใจสตรี</font><font color="#00bfff"> “มนุษย์ที่แสนอ่อนแอน่ะมักจะตีตัวออกห่างเพื่อความปลอดภัยของตนเอง มันคือธรรมชาติของมนุษย์ผู้ไม่อาจเข้าใจสิ่งใดได้เลยจนกว่าจะถูกจับมานั่งให้พิศมองและตระหนักถึงความเข้าใจในสิ่งที่แตกต่าง”
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#dda0dd">“เช่นนั้นแล้วข้าไม่อาจเป็นหนึ่งเดียวกับผู้คนได้หรือ”
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#00bfff">“ทั่วใต้หล้าหมื่นขุนเขาพันนทีผู้คนหลากหลายนับสิบร้อยหมื่นยังไม่อาจเอ่ยว่าเป็นหนึ่งเดียวได้เต็มปากแล้วเจ้าจะเป็นหนึ่งเดียวกับผู้คนที่ประณามรูปลักษณ์ของเจ้าโดยไม่แลเห็นความดีของเจ้าทำไมกัน” </font><font color="#ffffff">เว่ยเจียเหลียนฮวาเอ่ยพร้อมกับยกมือบางไปลูบศีรษะน้อยเบา ๆ ดังเช่นพี่สาวจนทำเอานึกถึงสองพี่น้องสกุลเหวยในความทรงจำบททดสอบถ้ำวารี </font><font color="#00bfff"> “จะมีผู้ใดที่สามารถเข้าใจในตัวเจ้าได้มากเท่าตัวเจ้าเองผู้คนก็ตัดสินเพียงที่ตาเห็น ใครจะไปรู้ว่าเจ้าคือใครในเมื่อพวกเขาไม่สนใจว่าตัวตนแท้จริงของเจ้าเป็นเช่นไรแล้ว เช่นนั้นเจ้าก็อย่าไปให้ค่าผู้คนที่ไม่เห็นค่าของเจ้าการโปรดผู้คนเป็นหน้าที่แล้วไซร้ทว่าหากเจ้ามอบทั้งใจให้ใต้หล้า แล้วใต้หล้าที่เจ้ารักจะมีสักกี่คนเชียวที่มอบใจให้เจ้า”
</font><br><br><font color="#00bfff">
“อย่าอาวรณ์คนอื่นเลยจื่อเซวียน จงมองหาผู้ที่จะยืนเคียงเจ้าดีกว่า”
</font><br><br><font color="#dda0dd">
“คุณหนูสาม ข้า…ข้า…”
</font><br><br><font color="#ffffff">
มีเพียงเสียงสะอื้นไห้และหยาดน้ำตาเท่านั้นที่เคยงข้างนางในยามนี้จื่อเซวียนชิงหลีที่เอนมาซบไหล่บางผู้ที่ปลอบโยนและเคียงข้าง ณ ช่วงเวลาที่อ่อนไหวก็ค่อย ๆ อ่อนแรงลงในหนึ่งชั่วยามต่อมาจนเผลอไผลเข้าห้วงนิทราด้วยความเหนื่อยอ่อน ร่างกายที่เป็นครึ่งอสรพิษก็กลับคืนสู่สองเท้าของมนุษย์ทั่วไป
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#ffc0cb"> “คุณหนูเว่ยเจีย—”
</font><br><br><font color="#ffffff">
จ้าวหนิงเฟยและโจวจินวิ่งตามมาเจอด้วยการนำทางของเว่ยซานมือเรียวของสตรีเจ้าของนามที่พวกเขาเอ่ยยกขึ้นเหนือริมฝีปากบ่งบอกให้พวกเขาเบาเสียงลงหน่อย
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#ffc0cb">“เด็กน้อยที่ตลาดเล่าให้ฟังว่าพออันธพาลฟาดดาบไปที่หลังของนาง นางก็กรีดร้องแล้วกลายเป็นปีศาจ แม้ว่านางหวาดกลัว แต่ว่าอยากให้ช่วยดูแผลที่หลังพี่สาวงูตนนั้นให้หน่อย บอกมาเช่นนี้เจ้าค่ะ”
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#00bfff"> “เท่าที่ข้าอยู่กับนางท่าทางบาดแผลคงสมานด้วยพลังของนางไปแล้วทว่าไม่อาจเพิกเฉยเรื่องนี้ได้”</font><font color="#ffffff"> เว่ยเจียเหลียนฮวาเอ่ยก่อนจะหันไปทางโจวจิน</font><font color="#00bfff"> “โจวจิน อุ้มนางให้ทีกลับโรงเตี๊ยมไปดูอาการสักหน่อยท่าทางวันรุ่งขึ้นคงต้องเร่งออกจากหมู่บ้านแต่เช้าเสียแล้ว”
</font><br><br><font color="#ffffff">
แล้วค่ำคืนนี้สตรีทั้งสามก็นอนในห้องเดียวกันเพื่อดูอาการของทายาทแห่งหนี่วาส่วนหนึ่งบุรุษและหนึ่งหมาป่าก็ให้นอนด้วยกันอีกห้องหนึ่งตลอดทั้งคืน
</font><br><br></div><br>
<font color="#ffffff"><span style="width: 75%;"><img style="width: 75%;" src="https://i.imgur.com/LIeqPiH.png" border="0" alt=""></span></font> <br><br><br><font color="#ffffff">
โจวจิน</font><br><font color="#ffffff">
+20 หัวดีโบนัสความสัมพันธ์</font><br><font color="#ffffff">
โบนัส ความสัมพันธ์พิเศษ (VIP) กับ NPC +10 แต้ม</font><br>
<br><font color="#ffffff">
จื่อเซวียน ชิงหลี </font><br><font color="#ffffff">
+5 พูดคุยประจำวัน </font><br><font color="#ffffff">
+20 หัวดีโบนัสความสัมพันธ์</font><br><font color="#ffffff">
โบนัส ความสัมพันธ์พิเศษ (VIP) กับ NPC +10 แต้ม</font><br><br>
@Admin
<br><br>
</div>
</div>
<div style="color: rgb(255, 255, 255); margin-top: -200px;">
<div style="height: 450px; background-image: url('https://i.imgur.com/82qGh6z.png');
background-repeat: no-repeat;
background-size: cover;
"></div></div>
</div>
</div>
</font></div>
<style>
#LianH01 {
border: 0px solid;
border-radius: 10px;
background-image: url("https://i.imgur.com/lL9mqdW.png"); }
#LianH02 {
border: 0px solid;
width: 75%;
box-shadow: #000000 5px 5px 5em;
background-color : #0f3648;}
#LianH03 {
border: 0px solid;
padding: 0px 50px;
width: 75%;}
#LianH04 {
border: 0px solid;
padding: 30px;
width: 500px;
box-shadow: #000000 5px 5px 5em;
background-image: url("https://i.imgur.com/IFRHQ59.png");}
</style>
<link href="https://fonts.googleapis.com/css2?family=Charmonman:wght@400;700&display=swap" rel="stylesheet">
<link href="https://fonts.googleapis.com/css2?family=Niramit:ital,wght@0,200;0,300;0,400;0,500;0,600;0,700;1,200;1,300;1,400;1,500;1,600;1,700&display=swap" rel="stylesheet">
<link href="https://fonts.googleapis.com/css2?family=Zhi+Mang+Xing&display=swap" rel="stylesheet">
<div align="center">
<font face="Sarabun" size="3" color="#ffffff">
<div id="LianH01">
<div id="LianH02">
<div style="height: 530px; background-image: url('https://i.imgur.com/95FY1QN.png'); background-repeat: no-repeat; background-size: cover;"></div>
<div style="margin-top: -200px; text-align: center;"><b>
<img height="300" src="https://i.imgur.com/8tE9Mcr.png" border="0" alt=""><br>
<span style="text-shadow: #000000 5px 5px 10px"><font size="6"> บันทึกการเดินทางสีครามบทที่ 20</font><br><font size="4"> เดินทางไปพักผ่อนหย่อนใจ ณ หมู่บ้านกลางทะเล<br></font></span></b>
</div><br><br>
<div style="margin-top: -50px; ">
<div id="LianH03">
<div align="left">
   <font size="5"></font>
<br><br>
<div align="center">
<div id="LianH04">
<div align="left"><font face="Niramit" size="3" color="#000000">
วันที่สิบห้า ซื่อเยว่ เจี้ยนหยวนศกที่สิบเอ็ด
<br><br>
   ข้าได้รับรู้แล้วว่าหนานเจ้านั้นหาใช่สถานที่ของมนุษย์ทั่วไปไม่หากถามว่ากลัวหรือไม่ การตอบว่าไม่เลยคงจะเป็นการโป้ปดทว่านางคือสหายและนางไม่ได้ทำร้ายผู้ใด เช่นนั้นแล้วเหตุใดต้องหวาดกลัวนางจนทำให้นางเสียความรู้สึกกันกว่าจะปลอบนางที่เจ็บปวดจากโลกภาพนอกไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ข้าก็หวังว่าในสักวันที่นางต้องอยู่คนเดียวนางจะเข็มแข็งและไม่ต้องเจ็บปวดอีกต่อไป
</font>
</div></div></div>
<br><br>
   จากเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ทำให้เว่ยเจียเหลียนฮวาตัดสินใจจะกลับฉางซานเลยตั้งแต่เช้าแทนที่จะอยู่ต่ออีกสักคืนในเมื่อสหายของนางไม่สะดวกใจจะอยู่ในสถานที่ที่ผู้คนล้อมรอบแล้วเอ่ยว่านางเป็นปีศาจ เช่นนั้นแล้วไยต้องดื้อดึงอยู่ต่อคณะเดินทางทั้งสี่คนและหนึ่งตัวได้ช่วยกันเก็บของเว่ยเจียเหลียนฮวาเก็บใบชา เนื้อสดชั้นเลิศ แร่ทั้งหลายไว้ในแหวนดาราจรัสด้วยความที่ต้องการเร่งออกจากที่แห่งนี้ตั้งแต่เช้านางจึงสอบถามเสี่ยวเอ้อร์ว่าเรือเล็กเที่ยวแรกนั้นออกเรือยามใดก็ได้ความว่าเริ่มรอบแรกในกลางยามเหม่า
<br><br>
   ในช่วงเวลาที่คณะเดินทางกำลังเดินลงมาจากชั้นสองของโรงเตี๊ยมนี้เองก็มีสองแม่ลูกเดินเข้ามาตรงหน้าและคุกเข่าโดยไม่ทันจะเอ่ยอะไรเกริ่นก่อนทั้งสิ้น
<br><br>
   “ขอบพระคุณกู่เหนียงที่ช่วยลูกของข้ามากเลยเจ้าค่ะ”
<br><br>
   จื่อเซวียนชิงหลีที่หลบหลังเว่ยเจียเหลียนฮวานั้นก็ชะโงกใบหน้ามาดูว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกัน เมื่อสายตาของนางได้พินิจดูแล้วก็จดจำได้ว่าเด็กสาวผู้นี้ที่กำลังคุกเข่าข้างมารดาคือเด็กสาวที่นางเข้าไปช่วยเหลือเมื่อวานนี้นี่เอง
<br><br>
   “เสี่ยวกู่เหนียงเมื่อวานนี่”
<br><br>
   “สามีของข้านั้นติดการพนันนอกหมู่บ้านจนต้องมากู้หาไปเล่นเพิ่มแต่สุดท้ายเมื่อสัปดาห์ก่อนที่เขาหอบเงินไปเล่นพนัน ออกปากว่าจะกลับมาจนบัดนี้ยังไม่กลับเลยเจ้าค่ะข้ากับลูกสาวเลยต้องแบกรับหนี้สินแทนเขาเมื่อวานนี้หากมิได้กู่เหนียงช่วยเหลือข้าคงต้องสูญเสียลูกสาวของข้าไปตลอดกาลเป็นแน่”
<br><br>
   จื่อเซวียนชิงหลีที่คิดว่าผู้คนที่นี่ช่างใจร้าย ร้องห่มร้องไห้จนอ่อนแรงไปเมื่อวานนี้ก็รู้สึกเก้อเขินจนไม่รู้จะทำตนอย่างไรเว่ยเจียเหลียนฮวาแลเห็นเช่นนี้ก็แย้มสรวลออกมาขบขันในท่าทีของสตรีผู้เป็นองค์หญิงทว่ากลับไม่รู้จะรับมือเช่นไรกับผู้คนมือเล็กหันไปสะกิดจ้าวหนิงเฟยก่อนจะกระซิบกระซาบบางอย่างเพื่อให้จ้าวหนิงเฟยช่วยเอ่ยปากแทนตามประสาของสตรีฉางอันทำเอาโจวจินที่เห็นภาพนี้ก็ขบขันออกมาเบา ๆ จนเว่ยเจียเหลียนฮวาต้องใช้ศอกกระทุ้งเอวหนาให้เก็บทรงเอาไว้เสีย
<br><br>
   “คุณหนูของข้าบอกว่า เห็นแก่ที่พวกเจ้ารู้บุญคุณผู้ช่วยเหลือ เอ่ยปากและคำนับอย่างจริงใจเช่นนั้นแล้วคุณหนูของข้าจึงให้สิ่งนี้เป็นของตอบแทนความรู้คุณเป็นตัวอย่างที่ดีให้คนที่รู้คุณในใต้หล้าจะได้พบกับสิ่งดี ๆ เช่นกัน”
<br><br>
   เมื่อจ้าวหนิงเฟยเอ่ยจบก็ยื่นถุงผ้าใบน้อยไปให้สตรีผู้เป็นมารดาของเด็กสาวผู้นั้น ภายในนั้นมีอีแปะราวสามก้วน (สามพันอีแปะ) อยู่ไม่จำเป็นต้องเปิดดูแต่อย่างใดก็รีบก้มหัวขอบคุณผู้มีพระคุณของพวกนางจนหน้าผากแทบกระแทกพื้นอยู่รอมร่อ
<br><br>
   “ลุกขึ้นเถิด แม้มันจะผ่านได้ไม่ง่ายนักทว่าเจ้ายังมีลูกน้อยต้องเลี้ยงดู จงดิ้นรนต่อไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ เพราะนี่คือชีวิตของมนุษย์เช่นเราแล้วความสบายใจวันข้างหน้าจะตอบแทนความทุกข์ยากในวันนี้”
<br><br>
   ครั้นเมื่อแลเห็นว่าไม่จำเป็นต้องเอ่ยสิ่งใดเพิ่มเติมแล้วเว่ยเจียเหลียนฮวาก็เดินนำไปนั่งที่โต๊ะหนึ่งนโรงเตี๊ยมเพื่อหาอะไรทานลงท้องกันก่อนออกเดินทางนางสั่งอาหารง่าย ๆ อย่างปลาเปรี้ยวหวาน ปลาเก๋านึ่งซีอิ๊วชาหวงชานเหมาเฟิง และหมั่นโถวมาเป็นอาหารเช้าวันนี้ ยามเมื่ออิ่มท้องแล้วก็พร้อมออกเดินทางเว่ยเจียเหลียนฮวาเดินนำออกจากโรงเตี๊ยมเพื่อตรงไปยังท่าเรือเล็กข้ามกลับเข้าฝั่งแผ่นดินใหญ่ในช่วงเวลาต้นยามเฉินนี้เองคณะเดินทางก็ลงจากเรือเล็กไปปลดม้าหมายออกเดินทางกลับฉางซานทว่าไม่ทันจะขึ้นขี่ม้าแต่อย่างใดก็ปรากฎปีศาจลักษณะเป็นกุ้ง ถือทวนสามง่ามตรงเข้ามาหาพวกนางสามตัว
<br><br>
   โจวจินที่ยังไม่ทันจะแก้มัดเชือกม้าของตนเองก็เร่งหยิบทวนของตนมาตวัดออกตัวปกป้องสตรีทั้งสามโดยมีเว่ยซานเห่าขู่อยู่เคียงข้างทว่าปีศาจกุ้งพวกนั้นก็ทำเพียงเอ่ยอย่างชื่นมื่นราวกับสนทนาลมฟ้าอากาศ
<br><br>
   “นี่แม่นางทั้งหลายยกพ่อหนุ่มนี่ให้พวกข้าเถิด สัญญาว่าจะไว้ชีวิตพวกเจ้าทั้งหมด”
<br><br>
   ปกตินั้นต้องเป็นส่งตัวสตรีไปเป็นเหยื่อมิใช่รึ ? ทว่าดูเหมือนว่ากุ้งพวกนี้ชมชอบบุรุษเสียมากกว่าโจวจินที่รู้ล้วว่าตนมิใช่แค่ผู้ปกป้องแต่เป็นเหยื่อของปีศาจด้วยเช่นกันก็อดขนลุกขึ้นมาไม่ได้จริง ๆ
<br><br>
   “โจวจิน ข้าว่าเข้าต้องปกป้องตัวเองแล้วสิ”
<br><br>
   “ปกป้องข้ามิได้หรืออย่างไรคุณหนูเหลียนฮวา”
<br><br>
   แม้จะเอ่ยปากบอกให้สตรีปกป้องทว่าเมื่อสิ้นวจีหยอกเอินตามประสาสหายสนิทเขาก็พุ่งตัวเข้าไปปะทะกับกุ้งทั้งหลายโดยไม่ต้องให้สตรีทั้งหลายมาช่วยเหลือทั้งนั้นเพลงทวนถูกดึงมาใช้หลากหลายกระบวนท่าหวังเพียงชนะให้ได้ไวที่สุดเพื่อไม่ให้ร่างกายของตนต้องถูกย่ำยี
<br><br>
   สุดท้ายแล้วก็เป็นพวกเขาที่ได้มีกุ้งไว้ไปฝากเจ้าเมืองฉางซานแล้วกระมัง
<br><br>
<div align="center">
<img style= "width: 75%;" src="https://i.imgur.com/LIeqPiH.png" border="0" alt=""></div>
<br><br>
   “มิใช่ว่าจะกลับพรุ่งนี้หรอกหรือ”
<br><br>
   เมื่อคณะเดินทางกลับมาถึงเมืองฉางซานช่วงกลางยามเว่ยก็ตรงกลับมาที่จวนเจ้าเมืองฉางซานอันเป็นสถานที่พำนักชั่วคราวของผู้กล้าปกป้องเมืองฉางซานเซียนหวางที่ได้รับรายงานว่าพวกนางกลับมาแล้วก็เร่งฝีเท้าเดินออกจากห้องทรงอักษรมาต้อนรับคณะเดินทางด้วยทั้งมารยาทของเจ้าบ้าน และต้องการยืนยันให้แน่ใจว่าพวกนางกลับมาแล้วจริง ๆ
<br><br>
   “พอดีว่าเกิดเรื่องนิดหน่อยทว่าก็ได้ของฝากพระองค์ไม่น้อยเพคะ”
<br><br>
   เว่ยเจียเหลียนฮวาผู้ที่ดึงของสำหรับฝากฉางซานเซียนหวางออกมาตั้งแต่ก่อนเข้าจวนอยู่แล้วก็ยื่นใบชาชั้นดีมาให้เขา
<br><br>
   “หนึ่งกระปุกนี้เป็นไป๋หาวอิ๋นเจินอีกหนึ่งกระปุกเป็นหลงจิ่ง ของฝากจากลู่ไห่เพคะ”
<br><br>
   “เช่นนั้นพวกท่านคงต้องนั่ง ๆ นอน ๆ เล่นที่นี่อีกสักวันแทนแล้วล่ะ”
<br><br>
   “เพียงได้พักในจวนของพระองค์หม่อมฉันก็ทราบซึ้งใจแล้วเพคะขอบพระทัยหวางเย่ที่กรุณาให้คณะเดินทางของหม่อมฉันได้พักในที่สะดวกสบายเช่นนี้”
<br><br>
   ร่างเล็กยอบกายถอนสายบัวเบา ๆ ก่อนจะหันหลังกลับไปยังห้องนอนของตนเองหลังจากที่มอบของฝากให้ไปตามที่ต้องการเรียบร้อยใช้เวลาหลังจากนี้ไปกับกับอ่านตำราที่เพิ่งซื้อมาจากหมู่บ้านลู่ไห่เมื่อคืนนี้แทน
<br><br>
</div>
<img style= "width: 75%;"src="https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/-2025-06-06-161545.png" alt="สกรีนช็อต 2025 06 06 161545" border="0"><br>
<img style= "width: 75%;"src="https://img2.pic.in.th/pic/-2025-06-06-162634.png" alt="สกรีนช็อต 2025 06 06 162634" border="0"><br>
<img style= "width: 75%;" src="https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/-2025-06-06-162328.png" alt="สกรีนช็อต 2025 06 06 162328" border="0">
<br><br>
<img style= "width: 75%;" src="https://i.imgur.com/LIeqPiH.png" border="0" alt=""> <br><br>
โจวจิน <br>
+5 พูดคุยประจำวัน <br>
+20 หัวดีโบนัสความสัมพันธ์ <br>
+20 ความสัมพันธ์อาหารเกรดม่วง + ชา/สุราเกรดม่วง (+10)<br>
โบนัส ความสัมพันธ์พิเศษ (VIP) กับ NPC +10 แต้ม<br>
<br>
จื่อเซวียน ชิงหลี <br>
+5 พูดคุยประจำวัน <br>
+20 หัวดีโบนัสความสัมพันธ์ <br>
+20 ความสัมพันธ์อาหารเกรดม่วง + ชา/สุราเกรดม่วง (+10)<br>
โบนัส ความสัมพันธ์พิเศษ (VIP) กับ NPC +10 แต้ม<br>
<br><br>
- สามารถโรลเพลย์ค้นคว้าหาความรู้จากการฟัง หรือ อ่าน +30 EXP (วันละครั้ง)
<br><br>
ไอเท็มดรอป(ใช้เอฟเฟคผ่านประลองระบบ):(เอฟเฟค x2 ปกติ)<br>
กุ้ง 2 ตัว
<br><br>
ไอเท็มดรอป(ประลองระบบ): +20 ตบะฝึกฝน<br>
(เอฟเฟค x2 ปกติ)<br>
กุ้ง (เลขไบต์หลักสุดท้าย)<br>
<br>
ทวนสามง่าม (เลขไบต์ออก 0 และ 5)<br>
(หากเป็น ผู้มีบุญ จะเพิ่ม % เป็นเลขไบต์ 0/3/5/8)<br><br>
@Admin
<br><br>
</div>
</div>
<div style="margin-top: -200px; ">
<div style="height: 450px; background-image: url('https://i.imgur.com/82qGh6z.png');
background-repeat: no-repeat;
background-size: cover;
"></div></div>
</div>
</div>
</div></font></div>
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย WeijiaLianhua เมื่อ 2025-6-8 03:36 <br /><br /><style>
#LianH01 {
border: 0px solid;
border-radius: 10px;
background-image: url("https://i.imgur.com/lL9mqdW.png"); }
#LianH02 {
border: 0px solid;
width: 75%;
box-shadow: #000000 5px 5px 5em;
background-color : #0f3648;}
#LianH03 {
border: 0px solid;
padding: 0px 50px;
width: 75%;}
#LianH04 {
border: 0px solid;
padding: 30px;
width: 500px;
box-shadow: #000000 5px 5px 5em;
background-image: url("https://i.imgur.com/IFRHQ59.png");}
</style>
<link href="https://fonts.googleapis.com/css2?family=Charmonman:wght@400;700&display=swap" rel="stylesheet">
<link href="https://fonts.googleapis.com/css2?family=Niramit:ital,wght@0,200;0,300;0,400;0,500;0,600;0,700;1,200;1,300;1,400;1,500;1,600;1,700&display=swap" rel="stylesheet">
<link href="https://fonts.googleapis.com/css2?family=Zhi+Mang+Xing&display=swap" rel="stylesheet">
<div align="center">
<font face="Sarabun" size="3" color="#ffffff">
<div id="LianH01">
<div id="LianH02">
<div style="height: 530px; background-image: url('https://i.imgur.com/95FY1QN.png'); background-repeat: no-repeat; background-size: cover;"></div>
<div style="margin-top: -200px; text-align: center;"><b>
<img height="300" src="https://i.imgur.com/8tE9Mcr.png" border="0" alt=""><br>
<span style="text-shadow: #000000 5px 5px 10px"><font size="6"> บันทึกการเดินทางสีครามบทที่ 21</font><br><font size="4"> มังกรวารีกับปทุมมาศในบ่อทองคำ<br></font></span></b>
</div><br><br>
<div style="margin-top: -50px; ">
<div id="LianH03">
<div align="left">
<font size="5"></font>
<br><br>
<div align="center">
<div id="LianH04">
<div align="left"><font face="Niramit" size="3" color="#000000">
วันที่สิบหก ซื่อเยว่ เจี้ยนหยวนศกที่สิบเอ็ด
<br><br>
ดูเหมือนวันนี้จะไม่ได้จับพู่กันเลยนะ ?
</font>
</div></div></div>
<br><br>
ในวันหยุดพักช่วงวันสุดท้ายก่อนที่วันพรุ่งนี้จะต้องเดินทางต่อ นางได้กระทำในสิ่งที่ค้างคามาแสนนานอย่างการเขียนตำราเรื่องรอบตัวต้าฮั่นจนมาถึงหมวดสุดท้ายและเหมือนเพียงเอาไปเผยแพร่เป็นอันใช้ได้เว่ยเจียเหลียนฮวาไม่รอช้า ใช้โอกาสที่จ้าวหนิงเฟยมารินน้ำชาให้ก็บอกให้เอาม้วนตำราไปจัดการให้เรียบร้อยจ้าวหนิงเฟยรับคำสั่งตามประสงค์ก่อนจะหยิบม้วนตำราฝีมือพระสนมเอกผู้เป็นดั่งปราชญ์ในมวลสตรีไปจัดการปักเย็บเข้ากับผ้าไหมงามเพื่อเป็นม้วนตำราแสนงดงามทว่าเนื้อหากลับเข้าถึงได้ง่าย ทั้งยังง่ายต่อการเก็บรักษาอีกต่างหาก
<br><br>
เว่ยเจียเหลียนฮวาที่แลเห็นว่าม้วนตำราของนางได้ถูกรับตัวไปเรียบร้อยก็รู้สึกสบายอุราจนต้องหยิบตำราว่าด้วยเรื่อศิลปะแห่งการถ่ายทอดความคิดลงบนตัวอักษร ครั้นเมื่อกำลังดำดิ่งในตัวอักษรอยู่นั้น เสียงฝีเท้าแผ่วเบาได้ก้าวเข้ามาในอาณาบริเวณนี้ เข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ น้ำเสียงดังชัดขึ้นเรื่อย ๆ จนมาหยุดลง ณ ที่ที่นางกำลังนั่งอยู่ดวงตาสีเปลือกไม้ที่มักจะจดจ่อเพียงตัวอักษรค่อย ๆ เลื่อนขึ้นด้วยสังหรณ์ใจที่ว่าผู้มาเยือนในครานี้ก็คงจะเป็นคนเดียวกันกับยามเช้าตรู่ไร้แสงจรัสเช่นเมื่อวานนี้และมันก็เป็นเช่นที่นางคาดเดาไว้
<br><br>
“กิจธุระของฉางซานเสร็จสิ้นแล้วหรือเพคะไยหวางเย่ถึงมายืนตรงนี้”
<br><br>
เสียงหวานเอ่ยขึ้นมาทักทายก่อนจะลดม้วนตำราลงวางไว้ที่ตักเล็กบุคคลที่นางเอ่ยทักไม่ใช่ใครอื่นเป็นฉางซานเซียนหวางผู้ที่กำลังยืนอยู่ริมศาลาไม่ยอมก้าวเข้ามาพระพักต์งามแย้มสรวลเช่นปกติราวกับว่ากำลังล่อลวงให้นางเป็นคนเดินออกไปหาเขาเสียเองทางบุรุษผู้เดินเข้ามาเมื่อแลเห็นว่านางเป็นฝ่ายรู้ตัวเสียก่อนแม้ว่าจริง ๆ เขาจะไม่ได้ตั้งใจซ่อนตัวตนก็ตามเขาก็เอ่ยสิ่งที่เป็นจุดประสงค์ในการประทับ ณ ริมขอบศาลาเช่นนี้
<br><br>
“เปิ่นหวางว่าจะไปลาดตระเวนเสียสักหน่อยก่อนออกเดินทาง แลเห็นว่ายังไม่พาเสียนอี๋เหนียงเนียงไปออกชมเมืองของเปิ่นหวางเลยมาเอ่ยชวน”
<br><br>
“หวางเย่ทรงไม่กลัวว่าหม่อมฉันจะไปเดินเล่นจนครบก่อนหน้านี้แล้วหรือ”
<br><br>
“ด้วยพิสัยของพระสนมที่เปิ่นหวางคิดว่ารู้แล้วนั้นเปิ่นหวางคิดว่าพระสนมหลังจากกลับจากหมู่บ้านลู่ไห่คงไม่ก้าวเท้าออกจากเรือนหรอกกระมัง”
<br><br>
ซึ่งเป็นจริงดังที่พระองค์ตรัสมิใช่น้อยนางที่เหนื่อยล้าจากการเดินทางก็เอาแต่นอนอ่านตำราจนจ้าวหนิงเฟยขอร้องว่าอย่างน้อยก็ขอให้เปลี่ยนสถานที่อ่านตำราบ้างจึงมาลงเอยที่ที่นางกำลังนั่งอยู่เช่นนี้ใบหน้าของพระสนมหลังจากได้ยลยินเช่นนั้นก็แย้มสรวลออกมาอย่างเสแสร้งตามแบบฉบับของสตรีจอมเสแสร้ง ส่วนภายในใจนั้นกำลังรู้สึกทึ่งกับสายเลือดสกุลหลิวว่าเหตุใดเชื้อถึงแรงถึงเพียงนี้จะคนพี่คนน้องก็ดักทางนางได้จนหมดจริง ๆ เว่ยเจียเหลียนฮวาได้แต่คิดภายในใจเป็นประโยคที่นางใช้กับฝ่าบาทไปแล้วด้วยความหมั่นไส้ส่วนบุคคล
<br><br>
‘ข้าล่ะเกลียดคนรู้มากเสียจริง’
<br><br>
“เพื่อไม่เป็นการโป้ปดหวางเย่หม่อมฉันจะไปด้วยก็แล้วกันเพคะ”
<br><br>
เป็นการให้คำตอบกลาย ๆ ว่านางเองก็ไม่ได้เยื้องย่างยกย่องลงเหยียบพื้นดินภายนอกเช่นกัน…
<br><br>
หลิวชุ่นที่แลเห็นว่านางเอ่ยบอกคำตอบมาแล้วก็ขบขันเบา ๆ รู้สึกเอ็นดูในท่าทีที่ไม่ยอมจะบอกมาตามตรงว่านางไม่ได้ออกไปไหนเลยแต่เลือกที่จะบอกว่านางไม่ใช่คนโกหกแทนร่างสูงค่อย ๆ ผายมือเชื้อเชิญให้นางเดินตามเข้าออกมาข้างนอกเพื่อขึ้นรถม้าสำรวจรอบเมืองแท้จริงแม้จะบอกไปแบบนั้นแต่ลึก ๆ แล้วเขาเองก็อยากจะลาดตระเวนดูเพื่อความสบายใจว่าในคราที่เขาจำต้องจากบ้านเมืองไปไกลถึงเพียงนี้มันจะไม่มีสิ่งใดมากล้ำกลายได้อีก
<br><br>
การเดินทางเพื่อสำรวจเมืองพร้อมลาดตระเวนความปลอดภัยไปในตัวก็เริ่มขึ้นโดยเริ่มจากบริเวณใกล้ ๆ ขึ้นรถม้าเคลื่อนผ่านตามตลาด จัตุรัสผู้คนพลุกพล่านมากขึ้นด้วยความสบายใจในการใช้ชีวิตใบหน้างามของสตรีหนึ่งในผู้กอบกู้อดยกยิ้มภูมิใจที่ได้ช่วยเหลือผู้คนเหล่านี้ไม่ได้มือเรียวที่มักจะจับตำราก็แง้มดูโลกภายนอกตลอดการเคลื่อนผ่านตามที่ต่าง ๆ จนไปสะดุดตาเข้ากับร้านตำราที่นางยังไม่เคยเข้าถึงกับเอื้อมมือไปกระตุกชายเสื้อของบุรุษผู้นั่งตรงข้ามนางโดยไว
<br><br>
“หวางเย่เพคะช่วยจอดรถม้าก่อนได้หรือไม่”
<br><br>
เขาเอ่ยบอกให้จอดก็จริงทว่าด้วยความสงสัยเขาก็ชะโงกใบหน้าดูนอกรถม้าด้วยเช่นกัน แลเห็นว่าสตรีผู้สะกิดเขาเมื่อครู่โดดลงรถม้าเดินดุ๊กดิ๊กเข้าร้านตำราไปก็รับทราบได้เลยว่ามีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่เรียกร้องความสนใจนางได้ใบหน้าคมคายที่ไม่มีผู้ใดจะมาจดจ้องยามนี้พลันปรากฎรอยยิ้มที่แฝงด้วยความคิดประหลาดอย่างการเริ่มคิดจะหลอกล่อนางด้วยห้องตำราใหญ่โตและปิดประตูตีแมวเสียเมื่อดึงสติออกจากการวาดวิมารตำราได้แล้วองค์ชายแห่งต้าฮั่นก็ลงจากรถม้า แจ้งให้สารถีไปจอดใกล้ ๆ ร้านตำราก่อนที่เขาจะเข้าไปดูสถานการณ์ว่าบัดนี้ดอกบัวดอกน้อยที่ลอยฉิวเข้ามาเป็นอย่างไรบ้างแล้ว
<br><br>
และไม่ทำให้เขาผิดหวังภาพของสตรีที่กำลังยืนตาโตกับตำราที่ยังไม่เคยอ่านก็ทำให้มุมปากของผู้พิศเห็นกระตุกยกขึ้นมานับครั้งไม่ถ้วนเว่ยเจียเหลียนฮวาที่ก่อนเข้าร้านเอาแต่ท่องว่า ‘ไม่ซื้อ เราแค่มาดู ไม่ซื้อ เราแค่มาดู’ ก็กลับกลายเป็น ‘ไม่ดู เราแค่จะซื้อ’ แทนไปแล้วเรียบร้อย
<br><br>
“คงไม่ได้จะเหมาทั้งร้านหรอกกระมัง”
<br><br>
สิ้นวจีทุ้มที่โผล่มาข้างกายราวกับว่ากำลังชะโงกใบหน้ามองว่านางกำลังอ่านสิ่งใดอยู่พร้อมทั้งเอ่ยหยอกเอินอย่างเกินจริง ร่างเล็กที่กำลังไล่อ่านความน่าสนใจของตำราในมือก็ผินใบหน้าไปเตรียมจะบอกว่านี่มันไม่ได้มากมายเสียสักหน่อย อย่าว่ากล่าวเกินจริงนักทว่าเมื่อเลื่อนใบหน้าหันไปหมายจะตอบโต้จำต้องกลืนทุกสิ่งลงท้องไปเสียก่อนสิ่งที่ดวงตากลมสีเปลือกไม้แลเห็นคือใบหน้าของบุรุษแสนงดงามและคมคายอยู่ห่างจากใบหน้าของนางเพียงแค่ห้าชุ่นเท่านั้น ลมหายใจพลันขาดห้วง ดวงเนตรจดจ้องใบหน้าอย่างไม่อยากยอมรับเสียเท่าไหร่ว่าเขาเป็นบุรุษรูปงามจมสามารถล่มเมืองได้เมื่อเลื่อนขึ้นจนสบสายก็รู้สึกได้ในทันทีว่านี่มันไม่ปลอดภัยอีกต่อไปแล้ว
<br><br>
“ม ไม่ได้เหมาเสียหน่อยเพคะ ก็…ราวสิบม้วนเท่านั้น”
<br><br>
เพื่อปกป้องดวงใจของตนเองเว่ยเจียเหลียนฮวาเร่งขยับถอยห่างก่อนจะโกยม้วนตำราที่คาดว่าน่าจะเกินสิบม้วนด้วยซ้ำไปให้เถ้าแก่ร้านตำราคิดเงินและเร่งกลับขึ้นรถม้าคืนภาพที่ฉางซานเซียนหวางได้ทัศนาความเสียกิริยาของนางนี้ก็ทำเอาเขาอยากให้ถึงวันต่อไปเท่าไหร่นัก
<br><br>
เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว ผู้สูงศักดิ์ทั้งสองกลับขึ้นรถม้าสารถีก็เริ่มเคลื่อนรถม้าออกไปบริเวณนอกเมืองจนมาจอดที่ร้านน้ำชาร้านหนึ่งราวกับว่านี่คือจุดหมายปลายทางของการเที่ยวเล่นครานี้
<br><br>
ร่างเล็กค่อย ๆ ลงจากรถม้าโดยอาศัยมือแกร่งช่วยประคองไม่ให้ล้มไปเสียก่อนตามมารยาทของสังคมดวงตากลมสำรวจพื้นที่โดยรอบแลเห็นความสงบของท้องที่จนใจดวงน้อยค่อย ๆ กลับมาเยือกเย็นอีกครั้งร่างสูงของพระอนุชาในองค์จักรพรรดิเดินนำเข้าไปยังร้านที่ร้างผู้คนทว่ากลับไม่ได้ดูเหมือนขายสิ่งใดไม่ได้เพียงแค่เหมือนว่าพวกนางมาในช่วงเวลาพิเศษที่ไร้ผู้คนเสียมากกว่า
<br><br>
“พักดื่มชาสักหน่อยแล้วค่อยเดินลาดตระเวน”
<br><br>
ครั้นได้โอกาสนางก็ไม่ปฏิเสธ ร่างบางนั่งลงอย่างว่าง่ายก่อนจะเอ่ยสั่งสิ่งที่นางชมชอบอย่าง“ขอขนมไหมฟ้ากับไป๋หาวอิ๋นเจิน”
<br><br>
“ดูท่านชมชอบชาขาวนะ”
<br><br>
“หม่อมฉันแค่ไม่ชอบชาขมน่ะเจ้าค่ะ”
<br><br>
นั่นหมายความว่าแท้จริงแล้วหากชาใดคือชาชั้นยอด ชั้นเลว นางดื่มได้หมดยกเว้นชาขมก็เท่านั้นทั้งสองใช้ช่วงเวลานี้ในการนั่งพักลิ้มรสความหอมของชา ความหวานของน้ำตาลในขนม เป็นความสงบที่สายลมในช่วงใกล้เสี่ยวหม่านพัดโบกเบา ๆ ช่วยให้ความหอมของชากำจายไปทั่วทั้งร้านน้ำชาแห่งนี้ทั้งสองใช้เวลาในการนั่งพักลิ้มรสขนมราว ๆ เกือบครึ่งชั่วยามได้ก็เดินทางต่อแต่ว่าครานี้เลือกที่จะเดินแทนการนั่งรถม้าสารถีจึงต้องเฝ้ารถม้าที่ร้านน้ำชาอย่างช่วยไม่ได้
<br><br>
การเดินทางต่อจากนี้นับว่าเป็นการเดินเพียงสองคนอย่างแท้จริง นางมองตามทางไผ่สูงแม้ดูเงียบสงบทว่ายังคงมีถนนพื้นหินปูให้รถม้า เกวียนเทียมและผู้คนเดินเหินสัญจร ยิ่งได้เดินสำรวจเมืองกับเขานางยิ่งตระหนักได้ว่าเมืองแห่งนี้มีความหมายแลพเต็มไปด้วยความทุ่มเทที่เขาดูแลมากเพียงใดนางคงกล้าเอ่ยได้เต็มปากเขาเป็นผู้ปกครองเมืองที่ดีคนหนึ่งเทียว
<br><br>
ในขณะเดียวกันนั้นที่รอบกายเงียบสงัด ภายในหัวของบุรุษช่างมากมายมหาศาลด้วยคำถามที่อยากฟังคำตอบจากร่างบางผู้กำลังชมนกชมไม้สบายใจด้วยความต้องการคำตอบให้ตนเองเพื่อคลายความสบสันในใจนี้บุรุษในอาภรณ์ไหมชั้นงามก็เริ่มที่จะตรัสทำลายความเงียบนี้เสีย
<br><br>
“ท่าน…ท่านว่าที่นี่เป็นอย่างไร”
<br><br>
“เงียบสงบดีเพคะ เป็นเมืองที่เหมาะแก่การอยู่อาศัยที่หนึ่งเลยก็ว่าได้”
<br><br>
“แล้วฉางอันเล่า”
<br><br>
“หากให้เปรียบคงเป็นดั่งเมืองใหญ่มากแสงสี ต้องยอมรับว่าเกือบทุกสิ่งสามารถหาได้ในฉางอันแม้มีทุกอย่างทว่ากลับไร้ความสงบร่มรื่นไร้กังวลเช่นนี้”
<br><br>
นั่นรวมทั้งหมายถึง อำนาจ ชื่อเสียง บริวาร เงินตรา ความมั่งคั่ง และทรัพย์สินล้วนมีหนทางหาได้ในฉางอันทั้งสิ้นต้องเรียนถามใจของผู้อยู่อาศัยว่าต้องการสิ่งใดกันแน่หากให้เปรียบคงยากที่จะเลือกเพราะว่าผู้คนบนท้องที่แต่ละท้องที่ล้วนแตกต่างความต้องการช่างหลากหลาย เช่นนั้นแล้วนอกเมืองคงจะไม่เหลือสิ้นหากผู้คนใฝ่หาเพียงเมืองใหญ่
<br><br>
ชายหนุ่มได้คำตอบเช่นนี้แล้วหาได้กระจ่างใจไม่กลับรู้สึกว่าด้วยความที่นางมักจะวางตัวเป็นกลางเสมอเช่นบัณฑิตไร้ฝักฝ่ายทำให้เขาอยากจะได้ยินคำตอบที่มาจากใจของนาง คำตอบที่หวังว่าจะทำให้คงามสับสนใจห้วงความคิดนี้หายไปเสียที
<br><br>
“แล้วท่านเล่าพระสนมท่านที่จากฉางอันมาคิดเช่นไร” บัดนั้นเมื่อคำถามได้ถูกเอื้อนเอ่ยออกมาฝีเท้าที่ก้าวเดินพลันหยุดลง นัยเนตรแห่งสายเลือดโอรสสวรรค์จดจ้องสตรีผู้ได้ชื่อว่าเป็นสตรีของโอรสสวรรค์ ทุกความสับสนและความไม่เข้าใจล้วนเป็นเรื่องของนางทั้งสิ้น “เหตุใดท่านถึงมาอยู่ตรงหน้าข้าด้วยเหตุผลเพียงแค่นิมิตฝันกัน ทั้ง ๆ ที่หากท่านขอฝ่าบาทฝ่าบาทก็คงจะสามารถหาวิธีส่งกำลังพลจัดการแทนที่จะให้ท่านเดินมาพบอันตรายแท้ ๆ”
<br><br>
ครานี้เป็นดวงตาสีเปลือกไม้กลมหวานที่เฝ้าจดจ้องความสับสนที่ฉายผ่านแววตาของเขา ความอ้อนวอนขอคำตอบปรากฎอยู่ในคำถามและน้ำเสียงทุ้มอันแผ่วเบา ท่าทางที่ชวนให้นางรู้สึกประหลาดในใจก็ทำให้นางจำต้องมาเรียบเรียงความคิด ถักทอคำตอบที่หวังว่าจะสื่อไปถึงบุคคลตรงหน้า
<br><br>
“หากหวางเย่แลเห็นหม่อมฉันในห้วงฝันยืนท่ามกลางผู้คนที่ล้มตาย ท่ามกลางวังหลวงที่พังทลายเป็นเช่นนี้ทุกคืนราวกับโดนสะกดจิตใจจนเป็นกังวล เช่นนี้ท่านจะให้หม่อมฉันนิ่งดูดายได้หรือต่อให้สิ่งนี้คือเรื่องที่คิดฝันไปเองทว่าอย่างน้อยการที่มาเห็นกับตาว่าหวางเย่ยังปลอดภัย ย่อมไม่มีสิ่งใดให้หม่อมฉันกังวลได้อีก”
<br><br>
“เช่นนั้นเปิ่นหวางเป็นเพียงนิมิตที่ทำให้เจ้ากังวลเท่านั้นหรือ”
<br><br>
“ ‘เท่านั้นหรือ’ หากมันเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่กังวลหม่อมฉันคงไม่เร่งลุกจากตั่งเตียงมายืนอยู่ตรงนี้หรอกเพคะ”
<br><br>
เพราะเป็นห่วงไม่ใช่หรือถึงมายืนอยู่ตรงนี้
<br><br>
เมื่อห้วงอารมณ์ที่คุกกรุ่นไปปะทุขึ้นด้วยสถานะทางสังคมทำให้นางที่เกือบพลั้งปากเอ่ยความในใจต้องหยุดยั้งตัวเองเอาไว้ความเงียบหลังได้รับคำตอบของคำถาม ความคิดที่ติดตรึงในจิตไม่อาจเอื้อนเอ่ยนั้นมีมากมายเหลือคณานับ มีเพียงสายลมที่คอยพัดโอบให้ทบทวนความคิดและจิตใจของตนเอง
<br><br>
ริมฝีปากงามเผยอขึ้นเล็กน้อยก่อนที่จะปิดแน่นจนเป็นเส้นตรงดวงตาที่มักจะเฉยชากำลังวาวใสและไร้ความหนักแน่น วงคิ้วขมวดเข้าด้วยกันราวกับต้องการรวบความรู้สึกให้อยู่เพียงในอก
<br><br>
หากว่านางเป็นเพียงคุณหนูสาม นางกับเขาในตอนนี้จะเป็นเช่นไร
<br><br>
นางไม่อาจทราบได้เลยว่าระหว่างการที่นางเป็นพระสนมถึงได้มีตัวตนในชีวิตของเขา กับการที่นางเป็นเพียงคุณหนูสาวในจวนสกุลโอวหยางแต่ไร้วาสนาจะไปพิศเห็นแม้เพียงเงาของเขาสิ่งใดจะดีเลิศไปกว่ากัน
<br><br>
“เช่นนั้น…เพราะเหตุใดกันท่านถึงมาอยู่ตรงหน้าข้ากัน”
<br><br>
“หากเป็นข้าที่อยู่ในอันตรายท่านจะมายืนอยู่ตรงหน้าข้าด้วยความรู้สึกเดียวกันหรือไม่”
<br><br>
น้ำเสียงทุ้มเบาที่เอ่ยถามเป็นดั่งลมเบาที่เป่าเอากำแพงอิฐหนาล้มครืนดั่งเยื่อกระดาษสา วจีหวานเอ่ยตอบโต้ทันควันอย่างแผ่วเบาราวกับว่ามันคือความรู้สึกที่เล็ดลอดจากความคิดและเหตุผลที่นางควรยึดถือเช่นปกติดวงตากลมใสเบิกขึ้นเล็กน้อยอย่างไม่เชื่อน้ำเสียงที่เอ่ยออกไปเองนางที่หลุดจากการมีสติอยู่เสมอยกมือขึ้นปิดปากเล็กเป็นหลักฐานชั้นดีว่าสิ่งนี้เป็นความรู้สึกที่นางพยายามไม่เอ่ยออกมาให้ผู้ใดรู้ทั้งสิ้น
<br><br>
นกน้อยไม่อาจดิ้นรนออกจากกรงทองที่กักขังได้เช่นไร
<br><br>
นางที่เป็นสนมผู้ต้องอยู่วังหลังไปชั่วชีวิตย่อมไม่อาจยื่นใจให้ผู้ใด
<br><br>
ยิ่งเป็นพระอนุชาในองค์จักรพรรดิแล้วหากท่าทีของนางแสดงออกมาแล้วไซร้ผู้ที่เสียหายย่อมเป็นเขา นางที่เป็นนางสนมสุดท้ายก็เพียงหยุดลง ณ ตำหนักเย็น เลือกผ้าแพรสักสามฉื่อ ยาพิษสักถ้วย หรือ กริชสักเล่มปลิดปลิวลมหายใจเงียบ ๆ ก็สิ้นสุดการมีตัวตนต่อผู้คนแล้วน้ำหนักของสตรีในใจผู้คนช่างเปราะบางแม้ถวิลหาความเท่าเทียมทว่าปิตาธิปไตยนั้นยังคงเหนียวแน่น เช่นนั้นแล้วหากเขาไม่ต้องการความรู้สึกใด ๆ นี้ เขาที่เป็นถึงบุรุษผู้ไม่อาจหาผู้ใดแทนได้ย่อมไม่อาจแปดเปื้อนเรื่องพวกนี้ให้มีมลทิน
<br><br>
เว่ยเจียเหลียนฮวาผู้ไม่อาจสบสายตากับเขาได้อีกต่อไปเร่งหมุนกายเดินกลับไปทางเดินเพื่อขึ้นรถม้าคืนนางที่ก้าวเดินด้วยความหวังลึก ๆ ว่าเขาจะกลายเป็นกุญแจปลดนางออกจากกรงสีทองช่างแผ่วเบาและอ่อนแรงจนทำให้ร่างบางผู้มักจะเป็นผู้นำมาตลอดเหลือเป็นภาพของสตรีบอบบางและไร้กำลัง
<br><br>
อย่าคาดหวังในสิ่งที่ไม่อาจเป็นไปได้เลย
<br><br>
นางผู้เติบโตมากับการถูกย่ำยีความหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่อาจมั่นใจได้เลยว่านางจะทนทานความผิดหวังได้หรือไม่จึงกระทำเพียงบอกกับตนเองว่าอย่าได้หวังสิ่งใดจากผู้อื่นเลยโดยเฉพาะความรักที่พร้อมเผชิญหน้ากับความขวากหนามทิ่มแทงกาย
<br><br>
อา…นางอยากรู้ใจเขาเพียงสักครั้งจริง ๆ
<br><br>
</div>
<br><br>
<img style= "width: 75%;" src="https://i.imgur.com/LIeqPiH.png" border="0" alt=""> <br><br>
หลิว ชุ่น<br>
+5 พูดคุยประจำวัน<br>
+20 หัวดีโบนัสความสัมพันธ์<br>
+20 ความสัมพันธ์ ขนมว่างเกรดทอง + ชาเกรดทอง (+10)<br>
โบนัส ความสัมพันธ์พิเศษ (VIP) กับ NPC +10 แต้ม<br>
<br><br>
- สามารถโรลเพลย์ค้นคว้าหาความรู้จากการฟัง หรือ อ่าน +30 EXP (วันละครั้ง)
<br><br>
- สามารถโรลเพลย์เขียนตำราทางวิชาการขึ้นมา 1 เล่ม (สร้างบล็อกของเรา) +50 EXP : +2 Point : +100 ชื่อเสียงคุณธรรม (หากเป็นสนม +50 บารมี) (สร้างตำราสัปดาห์ละครั้ง)<br>
- หลังเขียนตำราเสร็จแล้ว แนบรายละเอียดไว้ส่วนบนของบล็อก ชื่อตำรา: รายละเอียดโดยสรุปสังเขปตำรา: ตำราดังกล่าวจะถูกบัณฑิตทั่วไปช่วยกันนำไปเผยแพร่จนแพร่หลายทั่วฉางอัน<br><br>
@Admin
<br><br>
</div>
</div>
<div style="margin-top: -200px; ">
<div style="height: 450px; background-image: url('https://i.imgur.com/82qGh6z.png');
background-repeat: no-repeat;
background-size: cover;
"></div></div>
</div>
</div>
</div></font></div>
<style>
#LianH01 {
border: 0px solid;
border-radius: 10px;
background-image: url("https://i.imgur.com/lL9mqdW.png"); }
#LianH02 {
border: 0px solid;
width: 75%;
box-shadow: #000000 5px 5px 5em;
background-color : #0f3648;}
#LianH03 {
border: 0px solid;
padding: 0px 50px;
width: 75%;}
#LianH04 {
border: 0px solid;
padding: 30px;
width: 500px;
box-shadow: #000000 5px 5px 5em;
background-image: url("https://i.imgur.com/IFRHQ59.png");}
</style>
<link href="https://fonts.googleapis.com/css2?family=Charmonman:wght@400;700&display=swap" rel="stylesheet">
<link href="https://fonts.googleapis.com/css2?family=Niramit:ital,wght@0,200;0,300;0,400;0,500;0,600;0,700;1,200;1,300;1,400;1,500;1,600;1,700&display=swap" rel="stylesheet">
<link href="https://fonts.googleapis.com/css2?family=Zhi+Mang+Xing&display=swap" rel="stylesheet">
<div align="center">
<font face="Sarabun" size="3" color="#ffffff">
<div id="LianH01">
<div id="LianH02">
<div style="height: 530px; background-image: url('https://i.imgur.com/95FY1QN.png'); background-repeat: no-repeat; background-size: cover;"></div>
<div style="margin-top: -200px; text-align: center;"><b>
<img height="300" src="https://i.imgur.com/8tE9Mcr.png" border="0" alt=""><br>
<span style="text-shadow: #000000 5px 5px 10px"><font size="6"> บันทึกการเดินทางสีครามบทที่ 22</font><br><font size="4"> การเดินทางสู่หนานเจ้า<br></font></span></b>
</div><br><br>
<div style="margin-top: -50px; ">
<div id="LianH03">
<div align="left">
   <font size="5"></font>
<br><br>
<div align="center">
<div id="LianH04">
<div align="left"><font face="Niramit" size="3" color="#000000">
วันที่สิบเจ็ด ซื่อเยว่ เจี้ยนหยวนศกที่สิบเอ็ด
<br><br>
   จีหยาน จีหยาน จีหยานหรือ เหอะ น่าหมั่นไส้นัก เจ้าจิ้งจอกไม่รู้ร้อนรู้หนาว ทำคนอึดอัดได้หน้าชื่นตาบานเสียจริง
</font>
</div></div></div>
<br><br>
   เท่าที่นางสังเกตได้ทั้งจากการไปลาดตระเวนเมื่อวานนี้และการเดินทางไปยังหมู่บ้านลู่ไห่คราก่อนทำให้แลเห็นได้ชัดเจนว่าบัดนี้ผีร้ายทั้งหลายได้หายไปจากอาณาบริเวณฉางซานเรียบร้อยหรือหากเจอจริง ๆ ในบริเวณหมู่บ้านร้างห่างไกลจากหมู่บ้านชิวปี้มาก ๆ ก็จะเป็นผีร้ายที่อ่อนแรงลงและสามารถปลิดชีพได้ ไม่ฟื้นขึ้นอีกคราการที่สถานการณ์ดีขึ้นในลักษณะเช่นนี้ร่วมกับมีทหารจากหลิวเป่ยในนามขององค์หวงตี้มาสนับสนุนหมู่บ้านทำให้ฉางซานเซียนหวางวางใจต่อการออกเดินทางไกลในครานี้
<br><br>
   “ในครานี้ยังคงเช่นเดิมที่เปิ่นหวางจะขอเสนอให้นำม้าไปสองตัว”
<br><br>
   “เรียนหวางเย่หม่อมฉันคิดว่าควรนำม้าไปเท่าจำนวนคนเพคะ”
<br><br>
   ในขณะนี้คือการประชุมเพื่อกำหนดเส้นทางที่ไวที่สุดในช่วงยามเหม่าของวันเดินทางเว่ยเจียเหลียนฮวาที่มีความเห็นต่างก็เอ่ยแสดงความคิดเห็นขึ้นมาอย่างฉะฉานแม้ใจของนางนั้นจะยังไม่พร้อมจะพบปะเขาตรง ๆ เท่าใดก็ตามทว่าเรื่องบ้านเมืองและผู้คนต้องมาก่อนนางจึงเก็บความรู้สึกอึดอัดในใจนี้ลงไปและทำเป็นไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นเมื่อวานนี้
<br><br>
   ทางด้านของฉางซานเซียนหวางเห็นว่าผู้ที่ทักท้วงเรื่องจำนวนม้านั้นหาใช่ใครอื่นเป็นสตรีที่หวาดกลัวอาชาสูงจนกายสั่นถึงเพียงนั้นวงคิ้วขนงพลันขมวดด้วยความสงสัยว่านางกระทำเช่นนี้เพราะอะไรกัน
<br><br>
   “แต่พระสนมเว่ยเจียเสียนอี๋ไม่สะดวกใจกับอาชามิใช่หรือ”
<br><br>
   “หม่อมฉันเดินทางมานานมากพอที่จะอดทนได้เพคะทั้งการเดินทางระยะไกลนั้นไม่เหมาะสมที่จะเพิ่มภาระให้มันเหนื่อยง่ายมากขึ้นหม่อมฉันจึงขอเสนอให้นำอาชาไปตามจำนวนคนจะดีกว่าเพคะ”
<br><br>
   ที่กล่าวมาหาใช่ว่าไม่มีเหตุผลแม้รู้สึกเป็นห่วงอยู่ลึก ๆ แต่เขาก็รู้ดีว่านั่นคือทางเลือกที่ทรงประสิทธิภาพมากที่สุดในเมื่อนางเอ่ยปากเองเช่นนั้นก็ไม่อาจคัดค้านได้เพราะเขาเองก็ต้องการที่จะไปหนานเจ้าให้ไวที่สุดเช่นกัน
<br><br>
   “ด้วยการเดินทางนี้จะไปกันหมด ฉางซานจะไม่เหลือผู้ใดดูแลหม่อมฉันขอให้จ้าวหนิงเฟยรั้งอยู่ฉางซานเพื่อประสานงานกับคหบดีหมู่บ้านหลิวเป่ยเพื่อการดูแลชาวเมืองที่ราบรื่นมากขึ้นหากมีสิ่งใดที่ต้องการให้เจ้าเขียนจดหมายอ้างนามของข้าไปยังฉางอันได้ตามต้องการ”
<br><br>
   เป็นอีกคราที่จ้าวหนิงเฟยจำต้องอยู่ห่างจากนายหญิงของนางวงคิ้วมนขมวดเข้าด้วยกันเล็กน้อยนางเข้าใจว่านี่เป็นการทำงานที่ดีที่สุดทว่าทางด้านจิตใจแสนภักดีนางนั้นอยากอยู่เคียงกายพระสนมที่นางเคารพรักมากกว่าทว่าหากนางงอแงไปรังแต่จะทำให้พระนางลำบากใจเสียเปล่าจ้าวหนิงเฟยจึงทำได้เพียงลุกขึ้นเอ่ยรับความคาดหวังของพระสนม
<br><br>
   “รับด้วยเกล้าเพคะพระสนม”
<br><br>
   การประชุมนี้จบลงในยามเฉินพอดีกับเวลารับประทานอาหารเช้านี่จึงเป็นการร่วมโต๊ะทานข้าวกับผู้คนทั้งหลายเป็นครั้งสุดท้ายก่อนออกเดินทางไกลจากชายขอบทะเลสู่สุดดินแดนภูผาเหมันต์เช่นนั้นแล้วจ้าวหนิงเฟยจึงอาสาเข้าครัวไปทำอาหารสุดฝีมือขนสุราชั้นดีมารินให้คณะเดินทางที่ตัดสินใจทานข้าวร่วมโต๊ะก่อนออกเดินทางอาหารในวันนี้จึงดูดีเป็นพิเศษ โดยเฉพาะน้ำทิพย์กวางตุ๋นยาจีน เป็ดเป่ยจิงและสุรานารีแดง
<br><br>
   ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้วคณะเดินทางก็ได้ออกเดินทางในช่วงปลายยามเฉินเดินทางลงใต้เพื่อไปยังสถานที่อันเป็นที่ตั้งของอาณาจักรหนานเจ้า ดินแดนเทพีหนี่วาสถิตการเดินทางของพวกนางนั้นช่างราบเรียบด้วยเนื่องจากปีศาจร้ายทั่วเมืองได้หายไป อากาศที่เคยมีม่านหมอกบดบังนั้นสดใสขึ้นทันตา เปิดทางให้ร่างทั้งสี่ถูกแสงแดดอาบไล้สมกับเป็นช่วงใกล้เสี่ยวหม่านของปี
<br><br>
   การเดินทางในครานี้นับว่าไม่ค่อยได้คุยกันมากนักจื่อเซวียนชิงหลีและโจวจินต่างรู้สึกได้ว่าสหายของพวกตนกับองค์ชายนั้นต้องมีบางอย่างต่อกันจนไม่ยอมคุยกันแม้แต่ครึ่งคำถ้าไม่มีเหตุให้แสดงความคิดเห็นการเดินทางนี้ผ่านไปได้อย่างรวดเร็วกว่าที่คิดมากนัด้วยเพราะว่าผู้นำทางในครานี้คือฉางซานเซียนหวาง ย่อมรู้จักเส้นทางทางการทหาร เป็นเส้นทางตัดเข้าสู่ที่ราบหวงเหอ เส้นทางราชการสายตะวันออกเฉียงใต้ ครั้นเมื่อเดินทางมาจนยามโหย่วก็พบว่าเดินทางมาถึงลั่วหยางพอดี
<br><br>
   “วันนี้ค่ำแล้วไม่เหมาะกับการเดินทางเสียเท่าไหร่พักผ่อนที่ลั่วหยางก่อนแล้วค่อยเดินทางต่อ”
<br><br>
   “เพคะหวางเย่”
<br><br>
   “การเดินทางคราก่อนเจ้าให้พวกเขาเรียกเจ้าว่าอย่างไรหรือ”
<br><br>
   “???... คุณหนูสามเพคะ”
<br><br>
   “เช่นนั้นเจ้าเรียกข้าว่าจีหยาน ข้าจะเป็นคุณชายรองสกุลหลิว เข้าใจหรือไม่ คุณหนูสามเว่ยเจีย”
<br><br>
   แม้รู้สึกหมั่นไส้เพียงใดทว่าการที่เรียกเช่นนี้เป็นเหตุเป็นผลมากเกินจะคัดค้านสิ่งใดได้หากนางไม่อยากให้สหายทั้งสองเรียกนางว่าพระสนม พระสนมตลอดการเดินทางเช่นไร เขาคงไม่อยากถูกเรียกว่าองค์ชายตลอดการเดินทางฉันนั้น เว่ยเจียเหลียนฮวาจำต้องขานรับตามรับสั่งและไม่วายแอบทำหน้าทำตาเบ้ริมฝีปากบางเป็นปากเป็ด
<br><br>
   “เพ— เจ้าค่ะ จีหยานกงจื่อ” นางเอ่ยอย่างถือดีตามประสาคนหมั่นไส้บุรุษจิ้งจอกตรงหน้า “เช่นนั้นแล้วข้าอยากไปเดินซื้อของกับชิงหลี แต่จะเดินไปสองคนก็กระไรอยู่เลยจะขอเอาตัวโจวจินไปคุ้มกันกับช่วยถือของด้วยคุณชายจีหยานก็พักผ่อนให้มาก ๆ เล่าเจ้าค่ะ”
<br><br>
   สิ้นวจีหวานแขนเล็กก็ควงแขนสหายทั้งสองคนเดินออกมาจากโรงเตี๊ยมหลังจากโยนของเข้าห้องกันเรียบร้อยแล้ว ท่าทางของทั้งสองผู้สูงศักดิ์นั้นช่างแปลกประหลาดในหลาย ๆ ความหมายจนโจวจินอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามออกมาตอนที่เดินออกมาไกลเสียแล้ว
<br><br>
   “เจ้าทะเลาะกับเขาหรือ เหลียนฮวา”
<br><br>
   “ผู้ใดทะเลาะกับจิ้งจอกนั่นกัน”
<br><br>
   “นอกจากเจ้าก็ไม่มีใครแล้วเหลียนฮวา”
<br><br>
   “ไม่รู้ ไม่ชี้ ข้าจะไปร้านตำรา!!”
<br><br>
   แล้วเว่ยเจียเหลียนฮวาก็เร่งฝีเท้าเดินหนีสหายทั้งสองไปที่ไหนก็ได้ที่ไม่ต้องมาตอบคำถามราวกับถูกสอบสวนเช่นนี้จบที่นางได้ไปเข้าร้านตำรายืนอ่านอยู่ร่วมเกือบครึ่งชั่วยามเชียวกว่าจะยอมละสายตาออกจากม้วนตำราเพื่อไปจ่ายค่าตำราและเอากลับไปอ่านต่อก่อนนอน
<br><br>
</div>
<br><br>
<img style= "width: 75%;" src="https://i.imgur.com/LIeqPiH.png" border="0" alt=""> <br><br>
หลิว ชุ่น<br>
+5 พูดคุยประจำวัน<br>
+20 หัวดีโบนัสความสัมพันธ์<br>
+30 ความสัมพันธ์ อาหารเกรดแดง + ชา/สุราเกรดแดง (+20) <br>
(หากเป็นอาหารประเภทที่กำกับไว้ในคำอธิบายว่า อาหารปรุง ได้โบนัส +5 เพิ่ม)<br>
โบนัส ความสัมพันธ์พิเศษ (VIP) กับ NPC +10 แต้ม<br>
<br>
จื่อเซวียน ชิงหลี <br>
+5 พูดคุยประจำวัน <br>
+20 หัวดีโบนัสความสัมพันธ์ <br>
+30 ความสัมพันธ์ อาหารเกรดแดง + ชา/สุราเกรดแดง (+20) <br>
(หากเป็นอาหารประเภทที่กำกับไว้ในคำอธิบายว่า อาหารปรุง ได้โบนัส +5 เพิ่ม)<br>
โบนัส ความสัมพันธ์พิเศษ (VIP) กับ NPC +10 แต้ม<br>
)<br><br>
- สามารถโรลเพลย์ค้นคว้าหาความรู้จากการฟัง หรือ อ่าน +30 EXP (วันละครั้ง)<br><br>
@Admin
<br><br>
</div>
</div>
<div style="margin-top: -200px; ">
<div style="height: 450px; background-image: url('https://i.imgur.com/82qGh6z.png');
background-repeat: no-repeat;
background-size: cover;
"></div></div>
</div>
</div>
</div></font></div>
<style>
#LianH01 {
border: 0px solid;
border-radius: 10px;
background-image: url("https://i.imgur.com/lL9mqdW.png"); }
#LianH02 {
border: 0px solid;
width: 75%;
box-shadow: #000000 5px 5px 5em;
background-color : #0f3648;}
#LianH03 {
border: 0px solid;
padding: 0px 50px;
width: 75%;}
#LianH04 {
border: 0px solid;
padding: 30px;
width: 500px;
box-shadow: #000000 5px 5px 5em;
background-image: url("https://i.imgur.com/IFRHQ59.png");}
</style>
<link href="https://fonts.googleapis.com/css2?family=Charmonman:wght@400;700&display=swap" rel="stylesheet">
<link href="https://fonts.googleapis.com/css2?family=Niramit:ital,wght@0,200;0,300;0,400;0,500;0,600;0,700;1,200;1,300;1,400;1,500;1,600;1,700&display=swap" rel="stylesheet">
<link href="https://fonts.googleapis.com/css2?family=Zhi+Mang+Xing&display=swap" rel="stylesheet">
<div align="center">
<font face="Sarabun" size="3" color="#ffffff">
<div id="LianH01">
<div id="LianH02">
<div style="height: 530px; background-image: url('https://i.imgur.com/95FY1QN.png'); background-repeat: no-repeat; background-size: cover;"></div>
<div style="margin-top: -200px; text-align: center;"><b>
<img height="300" src="https://i.imgur.com/8tE9Mcr.png" border="0" alt=""><br>
<span style="text-shadow: #000000 5px 5px 10px"><font size="6"> บันทึกการเดินทางสีครามบทที่ 23</font><br><font size="4"> จากลั่วหยาง สู่ อานชิง<br></font></span></b>
</div><br><br>
<div style="margin-top: -50px; ">
<div id="LianH03">
<div align="left">
   <font size="5"></font>
<br><br>
<div align="center">
<div id="LianH04">
<div align="left"><font face="Niramit" size="3" color="#000000">
วันที่สิบแปด ซื่อเยว่ เจี้ยนหยวนศกที่สิบเอ็ด
<br><br>
   เหนื่อยสายตัวแทบขาด บั่นเอวเหมือนจะระบมผู้ใดเอาไม้มาทุบกายข้าหรืออย่างไรไม่คิดเลยว่าการเดินทางเร่งรีบที่สุดเช่นนี้จะเหนื่อยยิ่งนักเข้าใจแล้วว่าเหตุใดต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญแลแข็งแกร่งเป็นม้าเร็วกัน
</font>
</div></div></div>
<br><br>
   “ระวังหน่อยคุณหนูสาม”
<br><br>
   อรุณเบิกฟ้า นกกาโบยบิน เมื่อถึงเวลาที่ออกหากินตามปกติในยามเฉินนั้นเว่ยเจียเหลียนฮวาในชุดเรียบง่ายไม่ต่างจากตอนที่นางเป็นคุณหนูสามในจวนเสียเท่าไหร่เพื่อสะดวกในการเดินทาง สองเท้าเดินออกจากห้องตัวเปล่าเพราะของล้วนโยนเข้าแหวนดาราจรัส มีเพียงตำรากางอยู่ในมือ ดวงตาที่ควรจะมองทางในเวลาที่ต้องเดินลงบันไดกลับจดจ้องอยู่ที่ตัวอักษรบนตำราสำหรับนางนั้นนี่เป็นเรื่องธรรมดาจนสามารถอ่านหนังสือเดินไปมาตลอดเวลาได้ด้วยซ้ำทว่ามันคงจะเป็นเรื่องที่ดูอันตรายไปสักหน่อยในสายตาของผู้อื่นที่ไม่เคยแลเห็นนางในช่วงเวลาเช่นนี้และผู้เดียวที่เพิ่งจะมาเห็นตัวเกียจคร้านคลั่งไคล้ตำรายามนี้คือฉางซานเซียนหวาง
<br><br>
   ด้วยอารามตกใจเสียงทุ้มที่ใกล้ชิดกว่าที่คิดโดยไม่รู้ตัวทำให้เท้าเล็กเหยียบขั้นบันไดพลาดลื่นเอาที่สองขั้นสุดท้ายเสียได้ร่างเล็กที่เสียสมดุลพลันโอนเอนเตรียมจะล้มลงไปกองกับพื้นทว่าการตอบสนองที่ว่องไวเช่นบุรุษผู้เยี่ยมยุทธ์ได้โอบกายสตรีประคองเอาไว้ไม่ให้นางต้องเจ็บตัวตั้งแต่เช้า ซึ่งภาพทั้งหมดนี้อยู่ในสายตาของโจวจินและจื่อเซวียนชิงหลีทั้งหมดเพราะพวเขาก็เดินตามมาติด ๆ และสิ่งที่ดูเหมือนว่าจะทำให้องค์หวางเย่ประหลาดใจคงจะเป็นการที่แขนอีกข้างของนางกำลังถูกประคองด้วยโจวจินผู้พุ่งตัวมาด้วยความไวอย่างน่าเหลือเชื่อ
<br><br>
   “ข้าบอกแล้วไม่ใช่หรือว่าอย่างน้อยตอนเดินลงจากบันไดก็ลดตำราลงก่อนน่ะ”
<br><br>
   เมื่อเหตุการไม่คาดฝันเกิดขึ้นสหายเช่นเขาย่อมต้องช่วยเหลือโดยไม่คิดอะไรมากอยู่แล้วความสนิทสนมที่ทั้งสามคนแลเห็นว่าปกติบัดนี้เริ่มก่อเกิดความเคลือบแคลงเล็ก ๆ น้อย ๆ ในใจของหวางเย่ผู้ได้ลงมาสัมผัสการเดินทางร่วมกับคณะเดินทางจริง ๆ จัง ๆ
<br><br>
   เขารู้สึกได้ว่าพวกเขาสนิทกันยิ่งกว่าเดิม ตั้งแต่กลับจากการตามหาไข่มุกวารีจนเจอ
<br><br>
   “ข้าไม่เป็นอะไรหรอกน่าต่อให้ล้มก็แค่บันไดสองขั้น”
<br><br>
   ทว่าดูเหมือนว่าเจ้าตัวนั้นจะไม่ได้ใส่ใจกับความปลอดภัยตัวเองเท่าไหร่ซ้ำยังม้วนตัวเดินออกจากการประคองของสองบุรุษเพื่อเดินไปนั่งโต๊ะอาหารสั่งอะไรมาทานง่าย ๆ ยามเช้าส่วนจื่อเซวียนชิงหลีผู้ที่เฝ้ามองมาตลอดก็ได้แต่ส่ายหัวให้ทั้งสามคนในหลาย ๆ ความหมาย ทั้งอ่อนใจสตรีผู้ไร้กังวลยามถือตำราจนน่ากังวลทั้งรู้สึกเห็นใจโจวจินที่บัดนี้สหายคนเก่งของพวกเขาไม่ตอบรับอะไรแล้ว และ รู้สึกว่าท่าทางการกระทำของสหายรู้ใจจะไปสะกิดอะไรสักอย่างของร่างสูงศักดิ์
<br><br>
   จากประสบการณ์ยืมม้วนวรรณกรรมรักประโลมโลกจากเว่ยเจียเหลียนฮวาอ่านจนใต้ตาดำคล้ำก็ทำให้นางดูจะมีจินตนาการกว้างไกลมากขึ้นเช่นในตอนนี้ที่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นวรรณกรรมรักสามเส้าม้วนล่าสุดที่นางเพิ่งจะอ่านจบเมื่อคืนนี้หรอกใช่ไหมแม้จริง ๆ แล้วในใจจะรู้คำตอบอยู่แล้วว่าอย่างไรเรื่องระหว่างเว่ยเจียเหลียนฮวาและโจวจินก็เป็นเพียงแค่สหายสนิทที่รู้ใจกันเท่านั้น หาได้มีสิ่งใดมากเกินกว่าที่เป็นเลยแม้เพียงนิด ที่ต้องคิดมากก็คงจะเป็นฉางซานเซียนหวางที่ไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับพวกนางมาก่อนย่อมเข้าใจผิดได้ง่าย ๆ
<br><br>
   โถ องค์ชายผู้น่าสงสาร
<br><br>
   ครั้นเมื่อท้องอิ่ม ก็เริ่มออกเดินทางในวันนี้แผนการเดินทางยาวไกลกว่าทุก ๆ วันพวกนางต้องเดินทางลงใต้ตามแม่น้ำฮั่น ออกจากลั่วหยางเร่งฝีเท้าก้าวเข้าสู่อิ๋งโจวเพื่อพักม้าสักชั่วยามก่อนจะเดินทางต่อไปแถบเมืองอานชิงเพื่อขึ้นเรือสำเภาล่องไปตามแม่น้ำแยงซีเจียงในวันรุ่งขึ้นเช่นนั้นแล้วการเดินทางหลายชั่วยามของพวกนางจึงมาหยุดที่เมืองท่าแม่น้ำอย่างเมืองอานชิง
<br><br>
</div>
<br><br>
<img style= "width: 75%;" src="https://i.imgur.com/LIeqPiH.png" border="0" alt=""> <br><br>
หลิว ชุ่น<br>
+5 พูดคุยประจำวัน<br>
+20 หัวดีโบนัสความสัมพันธ์<br>
โบนัส ความสัมพันธ์พิเศษ (VIP) กับ NPC +10 แต้ม<br>
<br>
โจวจิน <br>
+5 พูดคุยประจำวัน <br>
+20 หัวดีโบนัสความสัมพันธ์ <br>
โบนัส ความสัมพันธ์พิเศษ (VIP) กับ NPC +10 แต้ม<br>
<br>
จื่อเซวียน ชิงหลี <br>
+5 พูดคุยประจำวัน <br>
+20 หัวดีโบนัสความสัมพันธ์ <br>
โบนัส ความสัมพันธ์พิเศษ (VIP) กับ NPC +10 แต้ม<br>
<br><br>รู้แหละว่าบางตัวยังไม่ได้ปลดแต่ใส่ไปก่อน lol<br><br>
- สามารถโรลเพลย์ค้นคว้าหาความรู้จากการฟัง หรือ อ่าน +30 EXP (วันละครั้ง)
<br><br>
@Admin
<br><br>
</div>
</div>
<div style="margin-top: -200px; ">
<div style="height: 450px; background-image: url('https://i.imgur.com/82qGh6z.png');
background-repeat: no-repeat;
background-size: cover;
"></div></div>
</div>
</div>
</div></font></div>
<style>
#LianH01 {
border: 0px solid;
border-radius: 10px;
background-image: url("https://i.imgur.com/lL9mqdW.png"); }
#LianH02 {
border: 0px solid;
width: 75%;
box-shadow: #000000 5px 5px 5em;
background-color : #0f3648;}
#LianH03 {
border: 0px solid;
padding: 0px 50px;
width: 75%;}
#LianH04 {
border: 0px solid;
padding: 30px;
width: 500px;
box-shadow: #000000 5px 5px 5em;
background-image: url("https://i.imgur.com/IFRHQ59.png");}
</style>
<link href="https://fonts.googleapis.com/css2?family=Charmonman:wght@400;700&display=swap" rel="stylesheet">
<link href="https://fonts.googleapis.com/css2?family=Niramit:ital,wght@0,200;0,300;0,400;0,500;0,600;0,700;1,200;1,300;1,400;1,500;1,600;1,700&display=swap" rel="stylesheet">
<link href="https://fonts.googleapis.com/css2?family=Zhi+Mang+Xing&display=swap" rel="stylesheet">
<div align="center">
<font face="Sarabun" size="3" color="#ffffff">
<div id="LianH01">
<div id="LianH02">
<div style="height: 530px; background-image: url('https://i.imgur.com/95FY1QN.png'); background-repeat: no-repeat; background-size: cover;"></div>
<div style="margin-top: -200px; text-align: center;"><b>
<img height="300" src="https://i.imgur.com/8tE9Mcr.png" border="0" alt=""><br>
<span style="text-shadow: #000000 5px 5px 10px"><font size="6"> บันทึกการเดินทางสีครามบทที่ 24</font><br><font size="4"> ล่องเรือเดินทางลำน้ำแยงซีเจียง<br></font></span></b>
</div><br><br>
<div style="margin-top: -50px; ">
<div id="LianH03">
<div align="left">
   <font size="5"></font>
<br><br>
<div align="center">
<div id="LianH04">
<div align="left"><font face="Niramit" size="3" color="#000000">
วันที่สิบเก้า ซื่อเยว่ เจี้ยนหยวนศกที่สิบเอ็ด
<br><br>
   วันนี้เมาเรือจึงไม่จับพู่กัน
</font>
</div></div></div>
<br><br>
   หากเปรียบเทียบกันแล้วนางที่เห็นด้วยกับการล่องเรือไปตามแม่น้ำแยงซีเจียงไม่ใช่เพียงเพราะมันรวดเร็วกว่าทว่ามันหมายถึงว่านางจะได้พักจากการควบม้าอย่างน้อยก็ครึ่งค่อนวันให้เวลาได้ทำใจและพักร่างกายจากการเกร็งตัวจนเหมื่อยไปหมดนี้ด้วยในปลายยามเฉินที่อากาศเริ่มร้อนขึ้นเล็กน้อยทว่าด้วยความที่เป็นเมืองท่าริมแม่น้ำอากาศจึงพอจะเย็นลงขึ้นมาหน่อย พืชพันธุ์ประขำฤดูที่แหลเห็นตลอดทางก็เริ่มออกดอกแล้วผ่านช่วงต้นคิมหันต์ไปก็คงจะเริ่มผลัดกลีบดอกก่อผลอ่อนเป็นแน่
<br><br>
   ในช่วงเวลานี้นั้นนอกเหนือจากการเดินทางที่ทรหดยิ่งกว่าเดิมในแง่ของการเดินทางไม่หยุดพัก เว่ยเจียเหลียนฮวาต้องยอมรับเลยว่าฉางซานเซียนหวางนั้นเหมาะสมในการติดต่อกิจธุระต่าง ๆ นักนางที่ก่อนหน้าเป็นผู้นำในคณะเดินทางก็สบายขึ้นเป็นกองเช่นในครานี้ที่องค์ชายออกหน้าพูดคุยกับเจ้าของท่าเรือเพื่อเดินทางไปยังฉางซาให้ไวที่สุด
<br><br>
   เอาเข้าจริงนางก็แอบเสียดายไม่น้อยที่ไม่อาจเก็บสิ่งมีชีวิตและสิ่งที่เป็นที่ก่อเกิดจิตวิญญาณลงไปในแหวนดาราจรัสได้มิเช่นนั้นคงสบายเกินเรื่องเกินราวไปมากเชียว
<br><br>
   “ตลอดนับจากนี้เกือบทั้งวันเราจะล่องเรือไคว่โจวไปเย่วโจวหลังจากนั้นอีกราว ๆ สองชั่วยามล่องเรือผ่านแม่น้ำเซียงไปยังทางใต้ของฉางซาที่นั่นมีเส้นทางลัดเลี่ยงเมืองที่ใช้ได้อยู่ในส่วนของม้าข้าจะปล่อยมันเข้าป่าไปมันได้รับการฝึกให้กลับเส้นทางเดิมอยู่”
<br><br>
   สิ้นวจีนุ่มในคราต่อมาคณะเดินทางก็ได้ฤกษ์ลงเรือเร็วเพื่อออกเดินทางไปตามเส้นทางแม่น้ำแยงซีเพื่อตรงไปยังเมืองเย่วโจวและต่อไปแม่น้ำอีกสายเพื่อไปจบที่ฉางซานเว่ยเจียเหลียนฮวาผู้ขึ้นเรือไคว่โจวครั้งแรกเช่นเดียวกับจื่อเซวียนชิงหลีก็มองซ้ายมองขวาเกาะขอบเรือมองสายธารที่ไหลเป็นริ้วกระแสจากท้องเลือกที่แหวกว่าย เสียงของสายน้ำที่ถูกตีกับเรือส่งเสียงไพเราะชวนให้สงบใจไม่หยอกเช่นนั้นแล้วสิ่งที่เว่ยเจียเหลียนฮวากระทำต่อคือการหยิบขนมคอเป็ดมาวางไว้ข้างกายและนั่งประจำที่ให้เรียบร้อยหยิบตำราออกมากางอ่านตามประสาสตรีผู้ที่ใช้เวลาไปกับการอ่านตำราเป็นส่วนมาก และแน่นอนว่าหลากหลายประเภทเสียด้วย
<br><br>
   อย่างเช่น…ช่วงนี้มีเรื่องหนักอกหนักใจก็มาอ่านม้วนวรรณกรรมประโลมโลกที่ช่วงนี้นางแบ่งกันอ่านกับชิงหลีอยู่เนือง ๆ
<br><br>
   เพื่อความปลอดภัยนั้นทำให้ต้องแยกกันนั่งเป็นคู่และเพื่อความสบายใจเช่นกันถึงให้โจวจินนั่งกับจื่อเซวียนส่วนนางนั่งกับฉางซานเซียนหวางเช่นนั้นแล้วในยามนี้นางกำลังนั่งตัวตรงนิ่งให้ได้มากที่ชุดเชียว
<br><br>
   ด้วยความที่เรือแล่นเร็วด้วยกระมังความรู้สึกตอนนี้ของนางจึงกลายเป็นว่าแทนที่จะสงบ กลับรู้สึกคลื่นไส้แทนมือเล็กยกขึ้นมานวดหัวตาหวังคลายอาการปวดบริเวณหัวตาและอาการคลื่นไส้นี้ฉางซานเซียนหวางผู้และเห็นปฏิกิริยานี้ก็อดห่วงไม่ได้
<br><br>
   “คุณหนูเว่ยเจียเมาเรือหรือ?”
<br><br>
   “น่าจะเป็นเช่นนั้นเจ้าค่ะ”
<br><br>
   แม้ไม่อยากจะยอมรับเท่าใดนักทว่าอาการเช่นนี้คงไม่พ้นอาการเมาเรือทั้ง ๆ ที่นางไม่ได้เมาเรือตอนที่ข้ามไปหมู่บ้านลู่ไห่แท้ ๆ คงเป็นเพราะว่าครานี้เป็นเรือเร็วแล่นฉิว ร่วมกับอ่านตำราเพ่งอ่านตัวอักษรจนปวดหน่วงหัวตาไปหมดสงสัยนางคงต้องยอมแพ้กับการอ่านม้วนตำราวรรณกรรมว่าด้วยเทคนิคของการจัดการความรู้สึกแสนเข้าข่ายวรรณกรรมประโลมโลกขนาดย่อมด้วยตัวอย่างสถานการณ์แสนน้ำเน่า (แต่ก็ยังอ่านเป็นตุเป็นตะ)
<br><br>
   “หลับตาลงก่อนดีหรือไม่ หรือว่าเจ้าจะหลับไปก็ได้ แม้ไม่ได้ถึงที่หมายในเร็ว ๆ นี้ ทว่าหากใกล้ถึงเมื่อใดข้าจะปลุกเจ้าเอง”
<br><br>
   ร่างสูงเอ่ยพร้อมกับยกมือหนาขึ้นดันให้ศีรษะน้อย ๆ วางพิงบ่ากว้างของเขาเบา ๆ หวังให้นางได้นั่งหลับอย่างสบายมากขึ้นร่วมกับภายในใจลึก ๆ ที่ใช้เรื่องความสบายของนางเป็นข้ออ้างในการใช้การกระทำสื่อว่าเขาไม่อยากจะปล่อยให้เรื่องราวของพวกเขามันน่าอึดอัดไปมากกว่านี้อย่างน้อยในช่วงเวลาที่นางกำลังพักผ่อนก็ขอให้ได้พิงกายสักก้านธูปก็ยังดี
<br><br>
   เว่ยเจียเหลียนฮวาที่รู้สึกคลื่นไส้เกินกว่าจะลืมตาขึ้นได้ก็ยอมพิงศีรษะกับบ่ากว้างเพื่อหลับตาลงพักสายตาและปล่อยให้ร่างกายได้ฟื้นฟูหวังเพียงตื่นมาแล้วจะหายจากอาการเช่นนี้
<br><br>
   ใช้เวลาในการเดินทางร่วมสี่ชั่วยามได้จากยามเฉินสู่ยามโหย่วบัดนี้คณะเดินทางได้เข้าสู่เย่วโจวเป็นที่เรียบร้อยแล้วเนื่องจากว่ามีผู้เดินทางที่รู้สึกคลื่นไส้กับเรือเร็วจึงตัดสินใจขึ้นจากเรือ ณ ที่แห่งนี้และเลือกไปขอเช่าม้าชั้นดี เว่ยเจียเหลียนฮวาผู้หลับ ๆ ตื่น ๆ มาตลอดก็ตื่นขึ้นอีกครั้งจากการปลุกของบุรุษข้างกายก่อนจะต้องอดทนเดินทางต่ออย่างน้อยก็ขอไปพักแถบใกล้ ๆ เขตชานเมืองฉางซา
<br><br>
  เดินทางต่ออีกร่วมเกือบสองชั่วยามได้จากท่าเรือทะเลสาบตงถิงมาสู่ริมแม่น้ำอู๋หลิงเข้าเขตเมืองฉางซาวันนี้คงไม่อาจเข้าเมืองได้ ร่วมกับความตั้งใจเดิมที่ต้องการใช้เส้นทางไปยังกุ้ยโจวซึ่งการเดินทางนี้ต้องตั้งสติให้มั่นเช่นนั้นแล้วอย่าฝืนเดินทางต่อเป็นการดี
<br><br>
   “ฝากสตรีปูผ้าเฝ้าของประเดี๋ยวข้ากับคุณชายโจวจะไปหาไม้มาจุดฟืนไฟ”
<br><br>
  แล้ววันนี้ก็มีเวลาอยู่ร่วมกับจื่อเซวียนสักเล็กน้อยและทุกคนก็เร่งเข้านอนกันเพื่อพักเอาแรง
<br><br>
</div>
<br><br>
<img style= "width: 75%;" src="https://i.imgur.com/LIeqPiH.png" border="0" alt=""> <br><br>
หลิว ชุ่น<br>
+5 พูดคุยประจำวัน<br>
+20 หัวดีโบนัสความสัมพันธ์<br>
โบนัส ความสัมพันธ์พิเศษ (VIP) กับ NPC +10 แต้ม<br>
<br>
<br>
- สามารถโรลเพลย์ค้นคว้าหาความรู้จากการฟัง หรือ อ่าน +30 EXP (วันละครั้ง)
<br><br>
@Admin
<br><br>
</div>
</div>
<div style="margin-top: -200px; ">
<div style="height: 450px; background-image: url('https://i.imgur.com/82qGh6z.png');
background-repeat: no-repeat;
background-size: cover;
"></div></div>
</div>
</div>
</div></font></div>
<style>
#LianH01 {
border: 0px solid;
border-radius: 10px;
background-image: url("https://i.imgur.com/lL9mqdW.png"); }
#LianH02 {
border: 0px solid;
width: 75%;
box-shadow: #000000 5px 5px 5em;
background-color : #0f3648;}
#LianH03 {
border: 0px solid;
padding: 0px 50px;
width: 75%;}
#LianH04 {
border: 0px solid;
padding: 30px;
width: 500px;
box-shadow: #000000 5px 5px 5em;
background-image: url("https://i.imgur.com/IFRHQ59.png");}
</style>
<link href="https://fonts.googleapis.com/css2?family=Charmonman:wght@400;700&display=swap" rel="stylesheet">
<link href="https://fonts.googleapis.com/css2?family=Niramit:ital,wght@0,200;0,300;0,400;0,500;0,600;0,700;1,200;1,300;1,400;1,500;1,600;1,700&display=swap" rel="stylesheet">
<link href="https://fonts.googleapis.com/css2?family=Zhi+Mang+Xing&display=swap" rel="stylesheet">
<div align="center">
<font face="Sarabun" size="3" color="#ffffff">
<div id="LianH01">
<div id="LianH02">
<div style="height: 530px; background-image: url('https://i.imgur.com/95FY1QN.png'); background-repeat: no-repeat; background-size: cover;"></div>
<div style="margin-top: -200px; text-align: center;"><b>
<img height="300" src="https://i.imgur.com/8tE9Mcr.png" border="0" alt=""><br>
<span style="text-shadow: #000000 5px 5px 10px"><font size="6"> บันทึกการเดินทางสีครามบทที่ 25</font><br><font size="4"> คาบจันทราพิทักษ์ผกา<br></font></span></b>
</div><br><br>
<div style="margin-top: -50px; ">
<div id="LianH03">
<div align="left">
   <font size="5"></font>
<br><br>
<div align="center">
<div id="LianH04">
<div align="left"><font face="Niramit" size="3" color="#000000">
วันที่ยี่สิบ ซื่อเยว่ เจี้ยนหยวนศกที่สิบเอ็ด
<br><br>
   วันนี้ไม่มีผู้บันทึก
</font>
</div></div></div>
<br><br>
   คิดถึงเกวียนยิ่งนัก…
<br><br>
   เป็นเสียงภายในใจที่ดังขึ้นตลอดการเดินทางในวันนี้ณ เส้นทางดินลัดผ่านป่าในยามอู่เว่ยเจียเหลียนฮวาและสหายนั้นต้องตื่นมาตั้งแต่ยามเหม่าเพื่อเตรียมตัวให้พร้อม เก็บผ้าฟูกนอน เสบียงและเครื่องใช้ต่าง ๆ นับว่าการที่นางมีแหวนดาราจรัสทำให้การเดินทางนี้สบายยิ่งขึ้นในแง่ของการขนสิ่งของจากนั้นก็ใช้เส้นทางลับเลี่ยงเมืองจากฉางซาเพื่อเดินทางไปตามเส้นทางที่นำไปสู่เมืองหย่งโจว
<br><br>
   ใช้เวลาไปสามชั่วยามเปลี่ยนม้าระหว่างทางไปรอบหนึ่งได้ในที่สุดคณะเดินทางก็ได้พักร่างกาย ณ หมู่บ้านเล็ก ๆ ในเขตเมืองหย่งโจวนับว่าการได้แลเห็นหมู่บ้านแม้จะเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ แค่ไหนก็ตามก็นับว่าเป็นสวรรค์ส่งมาโปรด
<br><br>
   “เรื่องม้าที่นี่พอจะมีม้าชั้นยอดอยู่ข้าจะไปจัดการเรื่องเปลี่ยนม้าก่อนออกเดินทางต่ออีกราวชั่วยามค่อยมารวมตัวที่ประตูหน้าหมู่บ้านที่เดิม”
<br><br>
   “ข้าจะช่วยจูงม้าขอรับ”
<br><br>
   โจวจินผู้ที่มักจะช่วยเหลือผู้คนเสมอก็อาสาช่วยเหลือฉางซานเซียนหวางในการจับจูงม้าโดยจะได้แบ่งเบาภาระกันคนละสองตัวปกติแล้วการแบ่งกลุ่มมักจะเป็นฉางซานเซียนหวางกับเว่ยเจียเหลียนฮวาโจวจินกับจื่อเซวียนชิงหลีเช่นนั้นแล้วการได้เห็นการแบ่งกลุ่มเช่นนี้นับว่าแปลกตานักสตรีทั้งสองยืนมองสองบุรุษเดินไปจนลับตาแล้วร่างเล็กที่อายุน้อยกว่าก็แย้มยิ้มอย่างมีเลศนัย
<br><br>
   “เหลียนฮวา เสียดายที่ไม่ได้ไปกับเขาหรือไง”
<br><br>
   “ข้าเริ่มคิดมาสักพักแล้วว่าจะงดวรรณกรรมประโลมโลกพวกนั้นจากเจ้าสักพัก ชิงหลี”
<br><br>
   แม้ว่าจะไม่นานเท่าใดนักทว่าการที่ได้อยู่สองต่อสองกับจื่อเซวียนชิงหลีนับว่าเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศที่ดีไม่ใช่น้อย ทว่าด้วยลักษณะนิสัยร่วมกับก่อนหน้านี้แวะซื้อตำรามาตลอดเลยทำให้พวกนางตัดสินใจที่จะใช้เวลาตลอดหนึ่งชั่วยามไปกับการนั่งร้านชา สั่งขนมหวานและน้ำชามาจิบอย่างสบายใจ หยิบม้วนตำรามาอ่านฆ่าเวลา
<br><br>
   ครั้นเมื่อรู้สึกว่าใกล้ถึงเวลาที่นัดแล้วทั้งสองก็ออกจากร้านชาเพื่อเดินไปยังสถานที่นัดหมายต่อ
<br><br>
   “บอกข้าทีว่าม้าชั้นเลิศพวกนี้ท่านไม่ได้ไปโยนถุงเงินใส่หัวขุนนางมา”
<br><br>
   “คุณหนูก็กล่าวอะไรน่ารักน่าชังยิ่งถ้าต้องทำเช่นนี้ทุกรอบข้าไม่หมดตัวก่อนรึ ?” ฉางซานเซียนหวางตรัสพลางแย้มสรวลออกมา “ที่นี่มีพันธมิตรของข้าข้าก็แค่ไปขอแลกม้าเสียสักหน่อยเพียงเท่านั้น”
<br><br>
   “ก็แล้วไป”
<br><br>
   เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาทั้งสี่คนก็ออกเดินทางต่อโดยจุดหมายต่อไปคือกุ้ยหลินเส้นทางตอนแรกนั้นราบเรียบดีอยู่หรอกทว่าผ่านไปสักพักเส้นทางเริ่มคดเคี้ยว ฝ่าโขดหินและลำธารตื้นตัดขวาง ต้องเดินทางฝ่าป่าหุบเขา “เงาภูผา” ซึ่งเล่าขานกันว่าเป็นถิ่นอาศัยของ “เงาไร้วิญญาณ” — สิ่งมีชีวิตเร้นลับที่หลอกล่อวิญญาณนักเดินทางให้หลงทางตลอดกาล แม้ไม่อยากจะยอมรับเท่าใดนักหากต้องเปรียบเทียบทักษะความสามารถการต่อสู้แล้วล่ะก็ เมื่อก่อนนางก็คงจะวางจื่อเซวียนชิงหลีไว้ในจุดที่ต้องปกป้องมากที่สุดทว่าเมื่อได้แลเห็นร่างแท้จริงของนางแล้ว เว่ยเจียเหลียนฮวาจำต้องว่าตนเองไปอยู่ในจุดของผู้อ่อนแอแทนเรียบร้อย…
<br><br>
   ข้ามาทำอะไรที่นี่กันนะ…
<br><br>
   “ระวังตัวให้ดีข้าได้ยินเสียงการเคลื่อนไหว”
<br><br>
   โจวจินผู้อยู่รั้งท้ายเอ่ยออกมาเบา ๆ เตือนให้ทุกคนตั้งสติให้มั่นแม้ว่าสถานการณ์ที่เมฆามืดครึ้ม ท้องนภาร้องก้องนั้นจะทำให้การระบุตัวของสิ่งที่เคลื่อนไหวมันยากขึ้นไปอีก ณ วินาทีที่หยาดพิรุณเม็ดแรกตกกระทบไหล่บางของเว่ยเจียเหลียนฮวาผู้ต้องขยับไปอยู่ตรงกลางของขบวนโดยฝีมือของจื่อเซวียนชิงหลีผู้ห่วงสหายของนางมากกว่าตนเองชั่วขณะนั้นก็มีเข็มเรียวแหลมพุ่งมาจากสองข้างของหุบเขาพวกนางถูกโจมตีแล้ว
<br><br>
   “อย่าให้ทายาทราชวงศ์หนานเจ้ารอดไปได้”
<br><br>
   เสียงของผู้สั่งการตะโกนก้องเจตนาได้เผยอย่างชัดเจนนักฆ่าในอาภรณ์สีดำที่เร้นกายภายใต้ความมืดครึ้มยามเซินที่ฝนพรำพุ่งออกมาเพื่อหวังกำจัดคณะเดินทางให้สิ้นซาก
<br><br>
   “นักฆ่าพวกนี้ไม่ใช่ชาวหนานเจ้าด้วยซ้ำ”
<br><br>
   การที่จื่อเซวียนชิงหลีเอ่ยเช่นนี้ร่วมกับดวงตาและสัมผัสอันแปลกประหลาดของผู้เกิดมาพร้อมพรสวรรค์นี้ทำให้นางได้รับรู้ว่าคนพวกนี้คือมนุษย์นักฆ่าที่ถูกล้างสมองโดยปีศาจเจี๋ยฮว่าผู้ตกอยู่ในห้วงอนธกาลอีกทีการต่อสู้โรมรันโดยที่ฉางซานเซียนหวางและโจวจินคอยออกหน้าปะทะตรง ๆ ส่วนจื่อเซวียนชิงหลีที่เห็นว่าคนพวกนี้มาทำร้ายนางและสหายย่อมไม่อาจปล่อยไว้ได้จึงแปลงกายตวัดหางอสรพิษห้าสีงดงามกระแทกพวกนักฆ่าให้ออกห่างจากเว่ยเจียเหลียนฮวาซึ่งนางที่อยู่ตรงกลางวงนี้อยู่บนม้าคอยยิงเกาทัณฑ์สนับสนุนให้มากที่สุด
<br><br>
   ด้วยการจัดขบวนเช่นนี้ทำให้พวกมันเข้าใจผิดว่าเว่ยเจียเหลียนฮวาเป็นทายาทหนี่วาผู้ได้รับการปกป้องนักฆ่าทั้งหลายจึงทะยานเข้ามามากขึ้นจนกระทั้งมีนักฆ่าหนึ่งคนหลุดเข้ามาหมายใช้กริชแทงเข้าที่อกของสตรีผู้อยู่ใจกลางของการปกป้องฉางซานเซียนหวางแลเห็นเช่นนี้ก็พุ่งเข้ามาตวัดกระบี่ปัดกริชออกไปให้ไกลที่สุดในจังหวะนั้นเองที่ดวงตาเปลือกไม้แลเห็นว่ามีนักฆ่าใช้โอกาสที่เขาเปิดเผยช่องว่างจากการพุ่งเข้ามาปกป้องอย่างไม่ระวังหมายแทงเข้าที่อกแกร่งเว่ยเจียเหลียนฮวาไม่รอช้าควบม้าไปถีบออกไปให้ไกล
<br><br>
   สถานการณ์เหมือนจะดีขึ้นทว่าวินาทีนั้นกลับรู้สึกได้ถึงความเย็นเหยียบที่แทงเข้ามาในบ่าเล็ก ก่อนจะค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นความอุ่นร้อนที่ค่อย ๆ กระจายออกมาพร้อมหยาดโลหิตสีชาดมันคือเหล็กแหลมที่ปักจากข้างหลังนางถูกโจมตีจนได้
<br><br>
   ร่างบางที่ค่อย ๆ ร่วงลงจากอาชาทำให้คณะเดินทางใจร่วงหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มโดยเฉพาะฉางซานเซียนหวางผู้ที่ได้รับการปกป้องจากนางจนนางต้องเหล็กแหลมปักแทงร่างกายกำยำขยับร่างตามสัญชาตญาณพุ่งไปรับร่างบางไม่ให้หล่นกระแทกพื้นพร้อมใช้กระบี่ตวัดปลิดชีพนักฆ่าในอาณาบริเวณนั้นด้วยปราณดาบจนชิ้นชีพ แม้ใจอยากจะอุ้มนางหนีไปให้ไกลเสียก่อนก็ตาม
<br><br>
   “ก้มหัวก่อนนะ”
<br><br>
   ทว่า ณ เวลานี้สิ่งที่เขาต้องการกระทำคือการวางนางให้นั่งกับพื้นไว้ก่อนจะเดินลมปราณภายในกายเพื่อกระจายกระแสปราณ รอบกายที่แลเห็นหมอกจาง ๆ โดยมีเขาที่ส่งประกายราวกับจันทราในยามราตรีปราณที่แผ่ออกควบคุมให้นักฆ่าทั้งหลายต้องพบกับจิตรสังหารเกินจะรับมือ ก่อนที่เขาจะพุ่งเข้าไปตวัดกระบี่ปลิดชีพนักฆ่าทั้งหมดราวกับหมาป่าที่ขย้ำฝูงกระต่างในคมเขี้ยวเดียว
<br><br>
   ท่ามกลางพิรุณที่โหมกระหน่ำรอบกายพลันกลายเป็นทะเลสีชาดฉางซานเซียนหวางผู้แลเห็นว่าไร้ผู้ที่มีลมหายใจแล้วก็เร่งฝีเท้ามายังร่างของเว่ยเจียเหลียนฮวาผู้ชุ่มโชกด้วยหยาดฝนและโลหิต ทั่วทั้งร่างสั่นเทาอย่างไม่เคยประสบมานาน ภาพของสตรีที่อยู่ภายในดวงใจเสมอกำลังบาดเจ็บเพราะปกป้องเขา
<br><br>
   “ดึง…ออกไปให้หน่อย…”
<br><br>
   น้ำเสียงหวานสั่นเทาทว่ากลับเอื้อนเอ่ยในสิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับแรกมือเล็กพยายามฉีกชายกระโปรงเปียกชุ่มออกมาให้เป็นเส้นแม้ไร้กำลังในการต่อสู้แต่นางผู้มีปัญญาย่อมมีความรู้ว่าในเรื่องแบบนี้ควรกระทำเช่นไรต่อไป
<br><br>
   นี่ล่ะนะ ประโยชน์ของตำรา
<br><br>
   “ข้าจะดึงแล้ว ทนสักประเดี๋ยว”
<br><br>
   แม้นต้องทำให้นางเจ็บทว่าการปล่อยเอาไว้รังแต่จะทำให้นางทรมานมากขึ้นฉางซานเซียนหวางจำต้องดึงเหล็กปลายแหลมออกจากบ่าเล็กที่กำลังสั่นเทาเขาที่เคยอยู่ในสนามรบย่อมรู้ดีว่าการที่จะรักษาให้เจ็บน้อยที่สุดคือการทำให้มันหายไปในคราเดียวเช่นนั้นแล้วมือแกร่งจึงดึงออกให้หมดภายในครั้งเดียว
<br><br>
   “!!!”
<br><br>
   พหูสูตรน้อย ปราชญ์ในรั้วสีชาด นางเกียจคร้านแห่งเถียนเซี่ย จะคำเอ่ยไหนก็ไม่ได้บ่งบอกเลยสักนิดว่านางจะมีประสบการณ์และความสามารถในการสงครามการต้องมาเผชิญเรื่องเจ็บตัวแม้เตรียมใจแล้วก็ตามความเจ็บปวดย่อมเป็นความเจ็บปวด มือเรียวส่งเศษผ้าที่ฉีกจากกระโปรงไหมชั้นดีให้เขาช่วยกดบาดแผลเอาไว้พร้อมกับใช้มันมัดกดบาดแผลชั่วคราวไปก่อนต่อให้ ณ ตอนนี้จะมีสิ่งใดช่วยนางได้มากกว่านี้ ทว่าท่ามกลางฝนพรำไม่เหมาะควรแก่การรักษาบาดแผล
<br><br>
   “เร่งหาที่หลบฝนรักษาบาดแผลนางก่อนเถิด”
<br><br>
   โจวจินเสนอทางเลือกทุกคนเห็นด้วยกับความคิดนี้ด้วยอาชาที่ล้มไปหนึ่งเหลือเพียงสามร่วมกับการบาดเจ็บของสตรีผู้แสนบอบบางฉางซานเซียนหวางจึงอุ้มเว่ยเจียเหลียนฮวาขึ้นม้าไปพร้อมกัน สองเท้าตบสะโพกแกร่งของอาชาชั้นเลิศ สี่เท้าควบทะยานฝ่าหยาดน้ำที่หลั่งรินราวกับเป็นบทโศกที่ฟ้าดินมอบให้
<br><br>
   “ข้าจะช่วยเจ้าให้ได้ เหลียนฮวา ได้โปรด…อย่าเป็นอะไรเลย”
<br><br>
   น้ำเสียงทุ้มเอ่ยกระซิบหวังให้นางได้ยินและผ่านความเจ็บปวดนี้ไปให้ได้วงแขนแกร่งกระชับอ้อมกอดให้แนบชิดขึ้นราว แบ่งปันไออุ่นเพื่อให้นางสั่นเทาน้อยลงสักเล็กน้อยก็ยังดีพวกเขาใช้เวลาไม่นานอาจด้วยเพราะความร้อนใจของคณะเดินทางทั้งสามคนทำให้การเดินทางครานี้ผ่านไปอย่างว่องไวแม้เสี่ยงอันตรายจากอุบัติเหตุกลางฝนก็ตามพวกเขาเลือกที่จะไปยังหมู่บ้านที่ใกล้ที่สุดในเขตกุ้ยหลินเพื่อตามหาโรงหมอ
<br><br>
   และในปลายยามซวีที่ผู้คนใกล้จะหลับไหลกันหมดแล้วนั้นเว่ยเจียเหลียนฮวาก็ได้รับการรักษาจากหมอยาในกุ้ยหลิน
<br><br>
</div>
<br><br>
<img style= "width: 75%;" src="https://i.imgur.com/LIeqPiH.png" border="0" alt=""> <br><br>
หลิว ชุ่น<br>
+5 พูดคุยประจำวัน<br>
+20 หัวดีโบนัสความสัมพันธ์<br>
โบนัส ความสัมพันธ์พิเศษ (VIP) กับ NPC +10 แต้ม<br>
<br>
- สามารถโรลเพลย์ค้นคว้าหาความรู้จากการฟัง หรือ อ่าน +30 EXP (วันละครั้ง)<br><br>
@Admin
<br><br>
</div>
</div>
<div style="margin-top: -200px; ">
<div style="height: 450px; background-image: url('https://i.imgur.com/82qGh6z.png');
background-repeat: no-repeat;
background-size: cover;
"></div></div>
</div>
</div>
</div></font></div>
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย WeijiaLianhua เมื่อ 2025-6-10 22:38 <br /><br /><style>
#LianH01 {
border: 0px solid;
border-radius: 10px;
background-image: url("https://i.imgur.com/lL9mqdW.png"); }
#LianH02 {
border: 0px solid;
width: 75%;
box-shadow: #000000 5px 5px 5em;
background-color : #0f3648;}
#LianH03 {
border: 0px solid;
padding: 0px 50px;
width: 75%;}
#LianH04 {
border: 0px solid;
padding: 30px;
width: 500px;
box-shadow: #000000 5px 5px 5em;
background-image: url("https://i.imgur.com/IFRHQ59.png");}
</style>
<link href="https://fonts.googleapis.com/css2?family=Charmonman:wght@400;700&display=swap" rel="stylesheet">
<link href="https://fonts.googleapis.com/css2?family=Niramit:ital,wght@0,200;0,300;0,400;0,500;0,600;0,700;1,200;1,300;1,400;1,500;1,600;1,700&display=swap" rel="stylesheet">
<link href="https://fonts.googleapis.com/css2?family=Zhi+Mang+Xing&display=swap" rel="stylesheet">
<div align="center">
<font face="Sarabun" size="3" color="#ffffff">
<div id="LianH01">
<div id="LianH02">
<div style="height: 530px; background-image: url('https://i.imgur.com/95FY1QN.png'); background-repeat: no-repeat; background-size: cover;"></div>
<div style="margin-top: -200px; text-align: center;"><b>
<img height="300" src="https://i.imgur.com/8tE9Mcr.png" border="0" alt=""><br>
<span style="text-shadow: #000000 5px 5px 10px"><font size="6"> บันทึกการเดินทางสีครามบทที่ 26</font><br><font size="4"> ข้ามผ่านหมื่นฉันทาทลายภาพลวง<br></font></span></b>
</div><br><br>
<div style="margin-top: -50px; ">
<div id="LianH03">
<div align="left">
   <font size="5"></font>
<br><br>
<div align="center">
<div id="LianH04">
<div align="left"><font face="Niramit" size="3" color="#000000">
วันที่ยี่สิบเอ็ด ซื่อเยว่ เจี้ยนหยวนศกที่สิบเอ็ด
<br><br>
   ดูเหมือนวันนี้จะไม่ได้จับพู่กันเลยนะ ?
</font>
</div></div></div>
<br><br>
   หากให้เอ่ยว่าบบัดนี้คณะเดินทางเป็นเช่นไรคงกล่าวเปรียบได้กับเมฆที่ครึ้มฝนในยามนี้โดยเฉพาะบุรุษผู้ที่ยังคงสวมอาภรณ์เปื้อนโลหิตนั่งเฝ้าข้างเตียงในโรงหมอไม่ยอมลุกไปไหนทั้งนั้นทำเอาสหายร่วมเดินทางอีกสองคนของสตรีผู้นอนบนเตียงหลับไหลด้วยพิษบาดแผลหมอยผู้ที่รักษาได้เอ่ยไว้ว่าการที่รักษาขั้นต้นได้ทันท่วงทีอย่างน้อยก็ช่วยทำให้นางเสียเลือดน้อยลงแม้จะน่ากังวลที่ฝนตกทำให้บาดแผลมันแห้งและหมดไหลยากทว่าต้องขอบคุณผ้ายาพันแผลที่ฉางซานเซียนหวางได้รับครั้นตอนไปแลกเปลี่ยนม้ากับตระกูลพันธมิตร
<br><br>
   ยามนี้เว่ยเจียเหลียนฮวาพอทุเลาความเจ็บปวลงไปากจนหลับได้สนิทแม้มันจะเกิดร่วมกับความอ่อนล้าก็ตาม อย่างน้อยสิ่งที่เขาได้แลเห็นคือใบหน้าซีดเซียวที่ดูสงบลงจนเบาใจไปได้เปราะหนึ่ง
<br><br>
   “คุณชายจีหยานท่านยังไม่ได้พักตั้งแต่เมื่อคืนเลยนะขอรับอย่างน้อยก็ไปอาบน้ำชำระกายผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าที่โรงเตี๊ยมข้าง ๆ นี้เถิดข้ากับคุณหนูจื่อเซวียนจะเฝ้านางในระหว่างนี้เอง”
<br><br>
   “ข้า…ไม่วางใจ…”
<br><br>
   “ข้าเองก็ไม่วางใจเช่นกันทว่าหากนางต้องตื่นมาพบกับท่านในสภาพเช่นนี้แม้กระทั่งคนบาดเจ็บเองก็คงไม่อาจสบายใจที่ทำให้ท่านเป็นเช่นนี้หรอกขอรับ” โจวจินเอ่ยออกมาด้วยความเป็นห่วงบุรุษผู้นี้ที่ดูเหมือนจะเสียสติไปชั่วขณะท่ามกลางสายฝน “แม้จะไม่เชื่อข้าทว่าท่านลองทบทวนแล้วเชื่อความทรงจำของท่านดูนางที่ชมชอบบุรุษงดงามจะไม่ห่อเหี่ยวเวลาต้องจ้องมองท่านที่มีสภาพเช่นนี้จนลงไปนอนกองอีกหรอกรึ ?”
<br><br>
   คำกล่าวของโจวจินนั้นช่างบรรยายได้เห็นภาพยิ่งนักในบางครานางก็มักจะเมียงมองใบหน้าของบุรุษโฉมงามแล้วหลงในภวังค์ไปชั่วครู่
<br><br>
   โชคดีนักที่อย่างน้อยเขาก็หน้าตาดี
<br><br><img style= "width: 75%;"src="https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_74346abf9e8a157a7768.jpeg" border="0"><br><br>
   ครั้นตระหนักรู้ได้แล้วว่าเขาผู้ไม่อาจปล่อยมือนางได้ย่อมต้องทำให้นางจับมือเขาไว้เช่นกันร่างสูงศักดิ์ค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะตบบ่าของสหายที่นางนับว่าเป็นคนที่รู้ใจนางที่สุดเพื่อเป็นการฝากฝังให้เขาได้ดูนางต่อ
<br><br>
<img style= "width: 75%;" src="https://i.imgur.com/LIeqPiH.png" border="0" alt="">
<br><br>
   ความเจ็บที่ถาโถมบ่าซ้ายของร่างเล็ก กลิ่นสมุนไพรยาต้ม ไอร้อนจาง ๆ ที่ให้ความอบอุ่นผ้าห่มแม้ไม่ได้นุ่มเช่นในตำหนักทว่ากลับคลายหนาวได้อย่างดีทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เว่ยเจียเหลียนฮวารับรู้ตอนที่นางลืมตาตื่นขึ้นมา
<br><br>
   “เหลียนฮวาเจ้าฟื้นแล้ว”
<br><br>
   เสียงหวานเป็นเสียงแรกที่นางได้ยินหลังจากหลับไหลจนเต็มอิ่มดวงตากลมสีเปลือกไม้ค่อย ๆ มองไปรอบ ๆ ก็พอจะตระหนักได้ว่าบัดนี้นางคงอยู่ที่โรงหมอสักแห่งทว่าอยู่ในเขตเมืองไหนไม่อาจตอบได้ชัดนักสองแขนของนางค่อย ๆ ขยับร่างเล็กค่อย ๆ เออนไปด้านขวาเพื่อค่อยๆ ลุกขึ้นมานั่งดี ๆ
<br><br>
   วินาทีนั้นประตูโรงหมอก็เปิดพอดีใบหน้างามที่อ่อนล้าสักหน่อยค่อย ๆ ผินใบหน้าไปพิศมองแสงยามอรุณรุ่งทอดผ่านร่างสูงผู้สง่างามแสนคุ้นเคยนั้นเองที่เป็นคนเปิดประตูโรงหมอยามเมื่อนัยเนตรสบสายตาเขาก็ค่อย ๆ ก้าวเท้าเข้ามายืนข้างเตียงไม้ไผ่ปูผ้าบุนานวมใยฝ้ายดวงตาสีรัตติกาลของเขาสะท้อนความกังวล ความโล่งใจ ความโกรธ ความสุข และความเศร้าออกมาเต็มไปหมดชั่วขณะนั้นรอบข้างพลันเงียบสงบจื่อเซวียนชิงหลีผู้เจนโลก(วรรณกรรมประโลมโลก)ก็ดึงโจวจินออกจากฉากโรงงิ้วบทละครลึกซึ้งไปรอนอกโรงหมอ
<br><br>
   “จีหยา—”
<br><br>
  น้ำเสียงหวานเอ่ยออกมาไม่ถึงครึ่งคำพลันมลายหายไปเมื่อบุคคลที่แข็งแกร่งที่สุดในยามนี้ก้มกายลงโอบกอดร่างบางราวกับว่าเขาทำนางหล่นหายไปครึ่งราตรีใบหน้างดงามฝังลงบ่าเล็ก ความสั่นเทาที่สัมผัสได้ทำให้นางตระหนักว่าคนผู้นี้เจ็บปวดเพียงใด
<br><br>
   “ใยเจ้าต้องมาเจ็บแทนข้าด้วย”
<br><br>
   น้ำเสียงทุ้มเอ่ยอย่างแผ่วเบาและสั่นเทา ความอ่อนแอเมื่อต้องเผชิญกับความสูญเสียตรงหน้าช่างโหดร้ายนัก ความรู้สึกสมเพศที่ไม่อาจปกป้องสตรีคนเดียวได้แผ่กระจายทั่วอกแกร่งตลอดทั้งคืนเช่นโลหิตที่ซึมเป็นวงกว้างไม่ต่างจากสตรีผู้หลับไหล
<br><br>
   “เจ้าไม่ควรมาที่นี่จริง ๆ เจ้าควรอยู่ข้างกายเขาเขาต้องปกป้องเจ้าได้ดีกว่าข้าเป็นแน่”
<br><br>
   สิ้นวจีตัดพ้อมือเรียวพลันดันอกแกร่งออกเพื่อประคองใบหน้าที่กำลังสบสัน สมเพช สิ้นหวังให้ตั้งสติและสบดวงตาเมล็ดซิ่งสีเปลือกไม้งดงามให้ดี
<br><br>
   “หากเช่นนั้น แล้วผู้ใดกันจะปกป้องท่าน”
<br><br>
   ไร้ซึ่งคำตอบเอื้อนเอ่ยรู้อยู่แก่ใจว่าผู้ใดกันจะปกป้องตัวเขาเขาเป็นถึงเงามืดแห่งบัลลังก์มังกรไฉนเลยจะต้องการคนป้องกันคุ้มกายให้รั้งมือเท้ายามฟาดฟันทว่าสี่เท้ายังรู้พลาดนักปราชญ์ยังรู้พลั้งฉันใด ผู้เยี่ยมยุทธ์เองย่อมไม่อาจหลีกหนีเรื่องที่เกิดคาดเดาได้ฉันนั้นเช่นเมื่อคืนนี้ที่นางต้องไปรับเข็มเหล็กแหลมเพื่อปกป้องผู้แข็งแกร่ง
<br><br>
   สำหรับนางที่กระทำเช่นนั้นก็สามารถเอ่ยว่าเพื่อให้เขาไม่บาดเจ็บและสามารถต่อสู้ได้จนดับลมหายใจให้หมดสิ้นได้ทว่าลึก ๆ ในใจย่อมรู้ดีว่าเป็นเพราะร่างกายที่ตอบสนองไปก่อนเหตุผลเสียแล้วจึงได้เป็นเช่นนี้
<br><br>
   ฉนั้นแล้ว…ไยนางต้องบอกปัดไปด้วย ในเรื่องที่มันชัดแจ้งแก่ใจ
<br><br>
   “ถึงจะลึกก็เถิดทว่ามันมิได้เป็นบาดแผลใหญ่นักไม่ได้เจ็บอะไรมากวันนี้เราต้องออกเดินทางต่อให้ได้”
<br><br>
   “เช่นนั้นแล้วก่อนออกเดินทางเจ้าต้องให้ข้าตรวจบาดแผลเสียก่อน”
<br><br>
   ด้วยเหตุนี้เองการสนทนาของสองบุรุษสตรีจำต้องจบลงและคืนตัวเว่ยเจียเหลียนฮวาให้หมอยาได้ตรวจบาดแผลบาดแผลของนางนั้นกว้างราว ๆ เกือบชุ่น ความลึกจากที่คาดคะเนด้วยตาคนราว ๆ เกือนสองชุ่นนับว่าเป็นบาดแผลหนักของสตรีที่ดูเป็นผู้สูงศักดิ์นัก ทว่าเมื่อได้แลเห็นบาดแผลดูเริ่มสมานและแห้งไวกว่าที่ควรเป็นก็ทำให้หมอยารู้สึกงุนงงนัก
<br><br>
   “แม้ไม่อยากจะเชื่อสายตาเท่าใดนักทว่าด้วยแผลของเจ้าในยามนี้ดูดีขึ้นผิดวิสัยเชียว เลือดหยุดหลั่ง แผลเริ่มแห้ง เนื้อเริ่มสมาน ขอเพียงเจ้ารับปากว่าจะไม่ใช้งานบ่าซ้ายของเจ้าไปสักพักก็วางใจออกเดินทางได้”ท่านหมอเอ่ยก่อนจะเดินไปหยิบห่อเทียบยามายื่นให้นาง “ห่อผงสีเขียวนั้นเป็นผงไป่จี๋บดผงผสมกับโหย่วจินสำหรับใส่ยาที่แผลในตอนที่เจ้าแกะผ้าใหม่ทุกวัน ส่วนอีกห่อที่เป็นผงสีน้ำตาลเป็นห่อยาโหย่วจินกับเม่าเย่า ต้มระงับปวด”
<br><br>
   “ขอบพระคุณท่านหมอมากเจ้าค่ะบุญคุณนี้ข้าจะไม่ลืม”
<br><br>
   เว่ยเจียเหลียนฮวาที่ได้เรียนรู้เรื่องสมุนไพรกลาย ๆ ก็คำนับก่อนจะจ่ายค่ารักษาและค่าเทียบยานางเดินออกมาแจ้งแก่ทุกคนว่านางไม่ได้เป็นอะไรร้ายแรงนักอย่างน้อยท่านหมอยาก็อนุญาตให้นางเดินทางต่อได้แล้วเช่นนั้นคณะเดินทางก็เร่งเดินทางต่อจากกุ้ยหลินมุ่งหน้าสู่หนานหนิงโดยที่นางต้องขึ้นหลังอาชาตัวเดียวกับฉางซานเซียนหวางเพราะด้วยอาชาที่ลดลงเหลือเพียงสามตัวและนางที่บาดเจ็บไม่อาจบังคับเองได้
<br><br>
   เอวัง…ไม่น่าเลยเว่ยเจียเหลียนฮวา
<br><br>
   คณะเดินทางออกจากกุ้ยหลินในช่วงต้นยามซื่อเดินทางออกจากเมืองได้ราว ๆ ชั่วยามก็พบว่าเส้นทางต่อจากนี้หากขี่มาขึ้นเขาคงลำบากทว่าจะให้ล่องแพไปตามเส้นทางปกติก็ไม่ได้เร็วไปกว่ากันแถมยังจะช้ากว่าเดิมเพราะต้องอ้อมเขาตามเส้นทางแม่น้ำการปรึกษาของคณะเดินทางนั้นได้เลือกทางน้ำที่อย่างน้อยก็ไม่ทำให้ร่างกายของผู้บาดเจ็บต้องทนกับแรงสะเทือนของฝีเท้าม้าจนเจ็บแผลทำเอาเว่ยเจียเหลียนฮวาต้องถอนหายใจว่านางนั้นกำลังกลายเป็นตัวถ่วงของคณะเดินทางอย่างแท้จริงขึ้นไปอีก
<br><br>
   “พวกเจ้าอยากไปหนานหนิงให้ไวที่สุดงั้นหรือ ข้ามีเส้นทางล่องแพที่ไวกว่าเดินเขาเสียอีก”
<br><br>
   ในขณะที่คณะเดินทางกำลังเดินไปยังแพที่ให้ม้าแลกมันมาพร้อมกับเสบียงจำนวนหนึ่งได้ปรากฎสตรีงดงามปานนางจิ้งจอกเดินนวยนาดเข้ามายังปลายแพการปรากฎตัวเช่นนี้นับว่าก่อเกิดความแคลงใจให้ทั้งสี่มิใช่น้อยทว่าสิ่งที่ทำให้เว่ยเจียเหลียนฮวานิ่งเฉยไม่ใช่ใบหน้าของนางแต่อย่างใดเป็นคำว่าเส้นทางการล่องแพที่ไวกว่าการเดินเขาต่างหาก
<br><br>
   “เส้นทางของเจ้าจะทำให้พวกข้าไปถึงหนานหนิงได้ภายในกี่ชั่วยาม”
<br><br>
   “นับจากนี้ราวห้าชั่วยาม ต่อม้าอีกสักชั่วยามก็ถึงหนานหนิงพอดี”
<br><br>
   นับว่าเป็นการเดินทางที่รวดเร็วยิ่งขึ้นกว่าการเดินทางเดิมที่น่าจะไปถึงหนานหนิงได้ไวที่สุดก็อีกสิบชั่วยามการที่มันสามารถประหยัดได้ครึ่งต่อครึ่งทำให้แววตาของเว่ยเจียเหลียนฮวาเย็นเหยียบด้วยความมาดมั่นและจริงจัง
<br><br>
   “ได้ขึ้นแพมา”
<br><br>
   “เหลียนฮวา เจ้ากำลังทำอะไรน่ะ”
<br><br>
   โจวจินเอ่ยทักท้วงทันควันฉางซานเซียนหวางและจื่อเซวียนชิงหลีเองก็กังวลไม่แพ้กันทว่าเจ้าตัวไม่คิดจะยอมถอยจากความคิดที่ว่านางต้องการไปในเส้นทางที่ไวที่สุด
<br><br>
   “พวกเจ้าบอกว่าขึ้นเขาแล้วข้าอาจจะต้องเจ็บแผลตลอดทางข้าก็จะยอมล่องแพ”
<br><br>
   ร่างเล็กไม่รอช้าครั้งและเห็นว่าหากต้องมานั่งฟังทุกคนต่อไปการเดินทางนี้จะช้ากว่าเดิมนางก้าวไปปลดเชือกผูกหลักริมท่าน้ำใช้ยันต์คุมวารีที่นางกว้านเหมามาจากร้านต่อแพเพื่อเร่งกระแสน้ำพัดพาแพไปตามทางที่ต้องการในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้วทั้งสามก็ไม่อาจทักท้วงใด ๆ ได้อีกกระทำเพียงตื่นตัวให้มากที่สุดและจับตาดูการกระทำของสตรีนางนี้ให้มากที่สุดก็เท่านั้น
<br><br>
   “ใยพวกเจ้าจดจ้องกันปานจะกลืนกินเช่นนั้นพ่อรูปงาม”
<br><br>
   ขึ้นชื่อว่านางจิ้งจอกไม่ใช่แค่ใบหน้าของนางเท่านั้นทว่ากลับรวมถึงการกระทำที่ทำท่าทีจะล่อลวงบุรุษรูปงามในแพนี้ตลอดนั่นทำให้เว่ยเจียเหลียนฮวาเริ่มอยากกระทำสิ่งที่โหดร้ายอย่างการถีบนางลงจากแพเสียให้สิ้นเรื่อง
<br><br>
   คนงามคนเดียวที่นางยกย่องคือสตรีผู้มีนามว่าลู่ไป๋หรั่น
<br><br>
   “หากเจ้า—”
<br><br>
   “โอ๊ะ ๆ ข้ามีนามว่าเหม่ยหลิน”
<br><br>
   “...ได้ เหม่ยหลินกู่เหนียงหากเจ้าไม่บอกทางก็ลงจากแพไป”
<br><br>
   “นี่กลางน้ำนะเสี่ยวกู่เหนียง”
<br><br>
   “แล้วอย่างไรนี่แพข้า”
<br><br>
   แทนที่จะทำให้นางจิ้งจอกรู้สึกโกรธเคืองทว่ามันกลับทำให้นางหัวเราะอารมณ์ดีที่สตรีนางนี้มีน้ำโหออกมาเบา ๆ แววตาของสตรีผู้เต็มไปด้วยความน่าสงสัยนั้นวาวโรจน์ยามจ้องมองเว่ยเจียเหลียนฮวาหากให้เปรียบตบะบุรุษรูปงามคืออาหารโอชาดวงวิญญาณของสตรีนางนี้เป็นดั่งโสมพันปีสำหรับนางปีศาจเช่นกันครั้นเมื่อถึงทางแยกสองทางหนึ่งคือทางหลักที่จะไปตามเส้นแม่น้ำใหญ่ทว่าอีกทางนั้นคือเส้นทางลัดเลาะไปตามช่องเขาหมื่นฉันทาที่คณะเดินทางไม่อาจรู้ตัวได้เลยว่าพวกนางโดนพาเข้ามาสู่กับดักเสียแล้ว
<br><br>
   “เหลียนฮวา…”
<br><br>
   แว่วเสียงที่ขานนามของนางทำให้สตรีผู้เป็นเจ้าของนามนั้นเอ่ยหันตามต้นเสียทว่าสิ่งที่นางได้แลเห็นกลับเป็นภาพของฉางซานเซียนหวางในอาภรณ์ธรรมดาสามัญกำลังโอบอุ้มร่างเล็กราวกับก้อนแป้งตัวน้อยทว่าใบหน้านั้นกลับละม้ายเขาจนแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาเว่ยเจียเหลียนฮวาค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้ ๆ เพื่อพิศมองให้จัดแจ้งยิ่งขึ้น
<br><br>
<img style= "width: 75%;"src="https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/9a8b1b920ecdf5f6d5cfbc87aec73d62.jpg" border="0">
<br><br>
   ทว่าไม่ทันไรอีกฟากฝั่งก็มีเสียงเรียกเมื่อหันไปแลเห็นภาพบิดา มารดายืนเคียงรักใคร่กลมเกลียว ช่างเป็นภาพที่ปราศจากความไร้กังวลทั้งปวงที่นางประสบมาทั้งชีวิตเมื่อนั้นแล้วนางพลันกระจ่างแจ้งขึ้นมาชั่วขณะที่ฉางซานเซียนหวางกำลังจะยื่นมือที่ว่างจากการอุ้มก้อนแป้งน่าชังมาวางไว้ที่บ่าเล็กมือเรียวพลันหยิบลูกเกาทัณฑ์มาหวังแทงที่มือของเขาและออกมาห่างมาง้างคันศรทันใด
<br><br>
   “นี่น่ะ…ไม่ใช่เวลาให้ข้าฝันกลางวันหรอกนะ”
<br><br>
   เว่ยเจียเหลียนฮวาเอ่ยออกมาราวกับเตือนใจตนเองให้มั่นคงยิ่งขึ้นนางไม่มีทางที่จะได้ครองคู่กับเขาราวกับเป้นด่านเคราะห์ที่ต้องข้ามผ่านครอบครัวที่รักของนางไม่มีทางกลมเกลียวราวกับบาดแผลที่เรื้อรังไม่มีวันหายเช่นนั้นแล้วข้อสรุปเดียวที่ได้คือภาพลวงตาทั้งสิ้นเมื่อนั้นมือเรียวก็ปล่อยลูกเกาทัณฑ์ไปทางฉางซานเซียนหวางที่ยังคงแจ่งชัดเพียงผู้เดียว
<br><br>
   ภาพฝันตรงหน้าพังทลายสิ่งที่แลเห็นเป็นสิ่งสุดท้ายคือภาพของสตรีงดงามทิ้งกายชุ่มโชกโลหิตลงไปใต้แม่น้ำแม้ว่าจะไม่อาจคร่าชีวิตปีศาจนั่นได้ทว่าอย่างน้อยนางก็ไล่นางปีศาจออกไปจากแพนี้ได้สำเร็จดวงตาเมล็ดซิ่งวาวใสรีบเลื่อนสายตาไล่สำรวจสหายของนางทุกคนที่ดูเหมือนว่าจะตื่นจากภวังค์กันหมดดั่งกระจกสะท้อนฉันทาที่แตกสลายไปพร้อมกันเมื่อนั้นร่างบางก็ทรุดลงจากความโล่งใจ
<br><br>
   “เมื่อครู่เกิดอะไรขึ้นไยแผลเจ้าปริออกมาเช่นนี้”
<br><br>
   ด้วยความที่ต้องออกแรงง้างสายเกาทัณฑ์ทำให้แผลที่กำลังจะสมานกันได้ปริขาดและเริ่มหลั่งโลหิตสีชาดซึมเป็นวงน้อย ๆ มือเล็กที่พยายามเอื้อมไปกดบาดแผลทำได้เพียงจิกเข้าที่ไหล่มนราวกับต้องข่มความเจ็บปวดให้ได้
<br><br>
   “ไม่มีอะไรแค่กำจัดนางตัวดีออกจากแพก็เท่านั้น”
<br><br>
   จื่อเซวียนชิงหลีที่เป็นสตรีเพียงคนเดียวจพต้องมาช่วยนางทำแผลใหม่ใส่ยาห้ามเลือดและเพิ่มการสมานแผลเข้าไปตามที่หมอยาให้มาและพันเพื่อกดบาดแผลเอาไว้ไม่ให้แน่นหรือหลวมมากเกินไปโจวจินที่ใช้ทักษามองเส้นทางก็มาคอยควบคุมยันต์คุมวารีเพื่อให้แพเดินทางล่องไปอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดใช้เวลาต่อจากนั้นอีกราว ๆ หนึ่งชั่วยามก็ได้รู้ว่าพวกนางนั้นมาถึงที่หมายตามที่นางจิ้งจอกบอกโดยไม่มีผิดพร้อมทั้งรู้ตัวอีกทีก็พบว่าบัดนั้นยามซวีแล้วก็เดินทางผ่านเกวียนค้าขายไปยังหนานหนิงถึงช่วงยามไห่พอดี
<br><br>
   ตลอดการเดินทางหลังจากทลายภาพเงาฉันทาได้แล้วนั้นเว่ยเจียเหลียนฮวาก็หลับด้วยความอ่อนล้าโดยมีฉางซานเซียนหวางอุ้มนางตลอดการเดินทางจนมาถึงเมืองหนานหนิงและหาที่พำนักให้ผู้บาดเจ็บได้พักผ่อนอย่างสบายที่สุด
<br><br>
</div>
<br><br>
<img style= "width: 75%;" src="https://i.imgur.com/LIeqPiH.png" border="0" alt=""> <br><br>
)<br><br>
- สามารถโรลเพลย์ค้นคว้าหาความรู้จากการฟัง หรือ อ่าน +30 EXP (วันละครั้ง) (ฟังความรู้สมุนไพร)
<br><br>
@Admin
<br><br>
</div>
</div>
<div style="margin-top: -200px; ">
<div style="height: 450px; background-image: url('https://i.imgur.com/82qGh6z.png');
background-repeat: no-repeat;
background-size: cover;
"></div></div>
</div>
</div>
</div></font></div>