WeijiaLianhua โพสต์ 2025-6-11 17:34:13

<style>
        #LianH01 {
          border: 0px solid;
    border-radius: 10px;
    background-image: url("https://i.imgur.com/lL9mqdW.png"); }
        #LianH02 {
          border: 0px solid;
          width: 75%;
    box-shadow: #000000 5px 5px 5em;
    background-color : #0f3648;}
#LianH03 {
          border: 0px solid;
          padding: 0px 50px;
          width: 75%;}
#LianH04 {
          border: 0px solid;
          padding: 30px;
          width: 500px;
          box-shadow: #000000 5px 5px 5em;
              background-image: url("https://i.imgur.com/IFRHQ59.png");}

</style>

<link href="https://fonts.googleapis.com/css2?family=Charmonman:wght@400;700&display=swap" rel="stylesheet">
<link href="https://fonts.googleapis.com/css2?family=Niramit:ital,wght@0,200;0,300;0,400;0,500;0,600;0,700;1,200;1,300;1,400;1,500;1,600;1,700&display=swap" rel="stylesheet">
<link href="https://fonts.googleapis.com/css2?family=Zhi+Mang+Xing&display=swap" rel="stylesheet">

<div align="center">
<font face="Sarabun" size="3" color="#ffffff">
<div id="LianH01">
<div id="LianH02">
<div style="height: 530px; background-image: url('https://i.imgur.com/95FY1QN.png'); background-repeat: no-repeat; background-size: cover;"></div>
<div style="margin-top: -200px; text-align: center;"><b>
<img height="300" src="https://i.imgur.com/8tE9Mcr.png" border="0" alt=""><br>
<span style="text-shadow: #000000 5px 5px 10px"><font size="6"> บันทึกการเดินทางสีครามบทที่ 27</font><br><font size="4"> คำตอบแห่งเส้นทางแสงจันทร์<br></font></span></b>

</div><br><br>
<div style="margin-top: -50px; ">
<div id="LianH03">
    <div align="left">

&emsp;&emsp; <font size="5"></font>
<br><br>
<div align="center">
<div id="LianH04">
    <div align="left"><font face="Niramit" size="3" color="#000000">
วันที่ยี่สิบสอง ซื่อเยว่ เจี้ยนหยวนศกที่สิบเอ็ด
<br><br>
&emsp;&emsp; ดูเหมือนวันนี้จะไม่ได้จับพู่กันเลยนะ ?
</font>
</div></div></div>
        <br><br>
&emsp;&emsp; เมืองหนานหนิงเป็นเมืองสุดท้ายที่ใกล้เขตแดนของหนานเจ้ามากที่สุดแล้วในยามทิวาฉายรัศมีกลับทะลุเมฆครึ้มเพียงแค่สว่างไร้แดดส่องกระทบสดใสม่านหมอกจาง ๆ กระจายไปทั่วท้องที่ ผู้คนในเมืองหนานหนิงต่างเก็บตัวอยู่ภายในบ้านอย่างเดียวเท่านั้น หากไม่จำเป็นจะไม่ออกมาจากจวนกันเสียเท่าไหร่
<br><br>
&emsp;&emsp; ในส่วนของคณะเดินทางผู้มาพักโรงเตี๊ยมเมื่อคืนเสียยามไห่ก็ตื่นสายหน่อยเอายามเฉิน ปกติแล้วพวกนางจะพักโรงเตี๊ยมโดยแบ่งเป็นสตรีหนึ่งห้อง บุรุษหนึ่งห้องทว่าการที่เว่ยเจียเหลียนฮวาบาดเจ็บนี้ทำให้ทั้งกลุ่มดูไม่สบายใจเท่าใดนักจนต้องเปิดห้องในโรงเตี๊ยมที่ใหญ่ที่สุดหนึ่งห้องนอนร่วมกันในห้องเดียวเพื่อผลัดเวรคอยดูแลสตรีผู้เป็นดั่งศูนย์รวมใจคณะเดินทางก็ว่าได้
<br><br>
&emsp;&emsp; เช่นนั้นแล้วในยามเฉินที่ไร้แสงแดดสาดส่องภาพที่เว่ยเจียเหลียนฮวาแลเห็นจึงเป็นภาพของจื่อเซวียนชิงหลีนอนอยู่ข้างเตียงโจวจินและฉางซานเซวียนหวางนั่งพิงนอนคนละมุมห้อง
<br><br>
&emsp;&emsp; “อ่ะ…”
<br><br>
&emsp;&emsp; ด้วยความที่คิดว่าตนเองไม่ได้เป็นอะไรมากนักก็พยายามจะฝืนกายขยันลุกขึ้นนักทว่าความปวดของบาดแผลที่ยาแก้ปวดสิ้นฤทธิ์ไปแล้วไม่สามารถดูแคลนได้เลย อาการปวดที่บ่าซ้ายแล่นเข้ามาจนทำให้ร่างเล็กร้องเบา ๆ
<br><br>
&emsp;&emsp; เสียงร้องและเสียงขยับกายของสตรีบนเตียงนี้เองที่ทำให้จื่อเซวียนชิงหลีผู้ที่อยู่ใกล้ที่สุดรู้สึกตัวตื่นจากห้วงนิทราโดยพลันร่างเล็กดีดกายมามองสหายของนางก่อนจะรีบลุกขึ้นมาประคองตัวไม่ให้เว่ยเจียเหลียนฮวาต้องเกร็งเนื้อตัวจนเจ็บแผล
<br><br>
&emsp;&emsp; “เจ้าไม่เป็นอะไรใช่ไหม”
<br><br>
&emsp;&emsp; “นอกจากเจ็บแผลก็ไม่มีอะไรแล้ว”
<br><br>
&emsp;&emsp; เสียงของจื่อเซวียนชิงหลีที่ตระหนกเกินกว่าเหตุเป็นเสียงที่ปลุกบุรุษทั้งสองอีกทอดหนึ่งโจวจินและฉางซานเซียนหวางขยับลุกจากมุมของพวกเขาและตรงมาสำรวจอาการของเว่ยเจียเหลียนฮวา
<br><br>
&emsp;&emsp; “เมื่อวานนี้ดีที่แผลไม่ได้ฉีกมาก มันนี้ทำแผลอีกรอบคงสมานตัวมากขึ้นเทียบยาหมอเห็นผลชะงัดนัก”
<br><br>
&emsp;&emsp; ด้วยเหตุนี้เองบุรุษทั้งหลายจำต้องรับหน้าที่เอาเทียบยาระงับปวดไปบอกให้โรงเตี๊ยมช่วยต้มยาให้และออกจากห้องไปในช่วงเวลาแกะผ้าเปลือยไหล่มนเหลือเพียงเว่ยเจียเหลียนฮวาและจื่อเซวียนชิงหลีที่ช่วยกันทำแผลใส่ยาบาดแผลของนางในวันนี้กลับมาสมานอีกคราไม่มีเลือดไหลซึมเปื้อนผ้าพันแผลอีกแล้วด้วยเหตุนี้เองจื่อเซวียนชิงหลีก็ช่วยเปลี่ยนอาภรณ์เปลี่ยนถุงหอมห้อยเอวให้เรียบร้อยก่อนที่เหล่าบุรุษจะกลับมา
<br><br>
&emsp;&emsp; ในการเตรียมตัวทั้งหลายนี้ใช้เวลาราว ๆ เกือบชั่วยามต่างจากปกติ ท้งสี่คนเดินออกจากโรงเตี๊ยมก็ได้พินิจเมืองหนานหนิงอย่างชัดแจ้ง เต็มตา เมืองนี้ไร้ผู้คนสัญจรมีเพียงไม่กี่คนที่แลเหมือนจะคอยส่งของตามบ้านราวกับผู้มาโปรดในช่วงเวลานี้ช่างน่าหดหู่ยิ่งกว่าสิ่งไหนทั้งสสิ้น
<br><br>
&emsp;&emsp; ทั้งห่างไกลจากแสงสุริยัน ทั้งต้องทนในม่านหมอกชวนให้หวาดกลัวไร้ผู้ใดมาช่วยเหลือดูแลไม่อาจทราบได้เลยว่าหากต้องขอความช่วยเหลือนั้นจะเดินทางมาถึงเมื่อใดกันความสิ้นหวังช่างแผ่กระจายไปทั่วท้องที่อย่างแท้จริง
<br><br>
&emsp;&emsp; “วันนี้ก็น่าจะได้เข้าสู่หนานเจ้าแล้วล่ะ”
<br><br>
&emsp;&emsp; โจวจินผู้ถือแผนที่ภูมิศาตร์เอ่ยขึ้นมาเมื่อดูสถานที่ที่พวกนางกำลังยืนอยู่ ณ ตอนนี้เรื่องต่อไปที่ต้องจัดการต่อไปก็คือการไปรับม้าจากโรงพักม้าในเมืองและเริ่มการเดินทางต่อ
<br><br>
&emsp;&emsp; “ซื้อม้าใหม่ให้ข้—”
<br><br>
&emsp;&emsp; “ขอปฏิเสธง้างคันศรเพียงคราเดียวก็ปวดเช่นนี้อย่าริอ่านคิดถึงกาารควบม้าเด็ดขาด”
<br><br>
&emsp;&emsp; จบที่เว่ยเจียเหลียนฮวาต้องขึ้นขี่ม้าร่วมกับฉางซานเซียนหวางต่อไป
<br><br>

<img style= "width: 75%;" src="https://i.imgur.com/LIeqPiH.png" border="0" alt="">
<br><br>
&emsp;&emsp; คณะเดินทางออกจากเมืองหนานหนิงในยามซื่อ เร่งฝีเท้าควบอาชาผ่านเส้นทางที่ไม่ค่อยมีร่องรอยผู้คนสัญจรมานานเพียงใดแล้วจากที่ราบสู่ป่าไผ่ต้องค่อย ๆ ควบผ่านไปแม้จะช้าลงสักหน่อยเพราะต้องระวังทางหินชันยิ่งเดินทางเท่าไหร่หมอกหนายิ่งหนักขึ้นจนกระทั่งใจกลางหมอกนั้นแลเห็นกระท่อมไม้หลักเล็กและมีผู้เฒ่านั่งอยู่หน้ากระท่อมราวกับเซียนผู้สันโดษรอคอยการมาเยือนแห่งโชคชะตา
<br><br>
&emsp;&emsp; “มาถึงแล้วสินะผู้ถือครองมุกวารี”
<br><br>
&emsp;&emsp; น้ำเสียงเจนโลกได้เอ่ยกับคณะเดินทางโดยเฉพาะการกล่าวถึงผู้ถือครองไข่มุกวารีการกระทำนี้ทำให้ทั้งหมดตัดสินใจลงจากหลังอาชาเพื่อเข้าไปหาชายชราผู้สันโดษจากโลกทั้งใบ
<br><br>
&emsp;&emsp; “ในแดนหมอกนิรันดร์ที่เกิดขึ้นโดยภูติแห่งขุนเขาหลังจากหนานเจ้าพบภัยพิบัติใหญ่ มันเป็นทั้งปราการป้องกันและกรงขังของชาวหนานเจ้าองค์หญิงเอ๋ย องค์หญิงเพื่อบรรลุเงื่อนไขการเดินผ่านทวารธรณีนี้ จงตอบคำถามข้าผู้แก่ชราเถิด”
<br><br>
&emsp;&emsp; “หากว่าคำตอบของข้าไม่ได้เป็นที่น่าพอใจจะเกิดสิ่งใดขึ้นหรือ”
<br><br>
&emsp;&emsp; “ทุกคำตอบที่เจ้าผิดพลั้งสหายของเจ้าจะไม่อาจออกจากขุนเขาแห่งนี้ได้ทีละคนทว่าหากไม่ตอบสิ่งใดเลย…ก็ไม่อาจก้าวเดินไปได้ ทั้งเดินหน้าและถอยหลังโปรดตริตรองให้ดี”
<br><br>
&emsp;&emsp; คำตอบที่ชายชรามอบให้สร้างความตระหนกแก่คณะเดินทางมิใช่น้อยนั่นหมายความว่าภายในหมอกนิรันดร์แห่งนี้ ไม่มีทางใดที่จะออกไปได้นอกจากการเอ่ยคำตอบที่ถูกต้องเท่านั้น
<br><br>
&emsp;&emsp; “เช่นนั้นก็เอ่ยคำถามมา”
<br><br>
&emsp;&emsp; “สิ่งใดขาวดั่งจันทร์ แข็งดั่งศิลา แต่เมื่อถึงคราวต้องคืนฟ้า กลับอ่อนโยนดั่งสายฝน”
<br><br>
&emsp;&emsp; ชะตากรรมของสหายนั้นอยู่ในกำมือของนางภายในชั่วพริบตาตลอดระยะทางที่ผ่านมานางนั้นเป็นแม่นางน้อยผู้อ่นเยาว์แม้จะไม่ใช่ผู้ที่เยาว์วัยที่สุดก็ตามนางมักจะได้รับความช่วยเหลือมากมาย ทั้งการปกป้อง การยอมรับ การปรึกษา การพึ่งพิงแม้แต่สตรีที่ไร้ซึ่งวรยุทธ์มากมายนางแลเห็นสิ่งที่ดวงตานางสะท้อนความรู้สึกไม่อาจปล่อยมือจากผู้คนตรงหน้าความต้องการปกป้องสิ่งสำคัญที่ฉายชัดตลอดทุกคราที่เว่ยเจียเหลียนฮวาทอดมองไปยังที่ไกลแสนไกลในช่วงเริ่มต้นการเดินทางด้วยกันนางที่ได้เรียนรู้หลาย ๆ อย่างจากนางในวันนี้สิ่งที่นางเท่านั้นที่ทำได้จะเป็นการปกป้องพวกเขาในที่สุด
<br><br>
&emsp;&emsp; ดวงตากลมงดงามทอดมองมุกวารีที่ส่องแสงอยู่กลางฝ่ามือ สีขาวนวลนั้นมิได้ต่างจากจันทร์ยามข้างขึ้น แข็งเย็นเมื่อแตะต้อง แต่ภายในกลับแฝงไว้ด้วยแรงสั่นสะเทือนบางอย่าง — คล้ายหัวใจที่กำลังจะเต้นครั้งสุดท้าย
<br><br>
&emsp;&emsp; "สิ่งใด...ขาวดั่งจันทร์ แข็งดั่งศิลา..."นางพึมพำกับตนเองเบา ๆ ในขณะดวงใจเต้นระส่ำราวกับคลื่นในบึงลึก

<br><br>
&emsp;&emsp; <i>คือมุกวารีหรือ?</i>

<br><br>
&emsp;&emsp; สิ่งที่ดูสงบนิ่งในยามนี้ แต่กลับบรรจุความรุนแรงที่สามารถชะล้างปีศาจร้ายลงทั้งผืนแผ่นดิน ดวงจิตที่ถูกสร้างขึ้นจากบรรพกาล ขาวสะอาดเหมือนโชคชะตาอันสูงส่ง — แต่เมื่อถึงเวลาต้องปล่อย…จะกลายเป็นเพียงสายฝนบางเบาที่คืนสู่สวรรค์
<br><br>
&emsp;&emsp; นางกัดริมฝีปากแน่น จนริมฝีปากบางขาวซีดและปวดหนึบแม้มีคำตอบที่คิดคิดไว้ภายในหัวน้อย ๆ ทว่าความลังเลที่จะต้องเอ่ยตอบช่างมากมายนักความหวาดกลัวในผลลัพธ์ทำให้กายบางสั่นอย่างไม่อาจควบคุมได้
<br><br>
&emsp;&emsp; นางกลัวเหลือเกิน
<br><br>
&emsp;&emsp; “ไม่เป็นไรต่อให้ข้าต้องท่องในแดนนี้สักปีสองปี ก็คิดเสียว่าให้เวลาข้านอนอ่านตำราก็แล้วกัน”
<br><br>
&emsp;&emsp; ในช่วงเวลาที่แสนกดดันนี้มีน้ำเสียงของสตรีผู้ที่เป็นดั่งพี่สาวของนางเอ่ยขึ้นข้างกายภาพของสตรีพันผ้าพันแผลที่เหลียวเห็นพ้นชายขอบอาภรณ์แสนธรรมดาช่วงไหล่ซ้ายได้ปรากฎข้างกายของนางมือแสนอบอุ่นกอบกุมมือเล็กที่สั่นเทาเพื่อให้นางคลายแรงกำมือจนขาวน้ำเสียงที่เรียบนิ่งกลับเอ่ยราวกับไม่ได้เคร่งเครียดอะไรเพื่อปลอบดวงใจไม่ให้กดดันเพียงผู้เดียว
<br><br>
&emsp;&emsp; สตรีผู้นี้สำหรับนางแล้วช่างเปล่งประกายแม้อยู่ใต้หมอกทึมทึบ
<br><br>
&emsp;&emsp; การอยู่เคียงข้างช่างเป็นการมอบความกล้าหาญได้อย่างมหาศาลต่อให้นางจะแสร้งทำเป็นไม่ใส่ใจมากนักทว่านางจะไม่ปล่อยให้ผู้ใดต้องถูกทิ้งในหมอกนี้เป็นอันขาดองค์หญิงแห่งหนานเจ้าเงยหน้าขึ้นสู้ท้องนภาแสนมัวหมอง สูดลมหายใจแสนเย็นเยียบเข้าสู่ปอด
<br><br>
&emsp;&emsp; “ข้าจะไม่ยอมให้คำตอบใด...เป็นการบูชาด้วยชีวิตของสหายเด็ดขาด” นางเอ่ยอย่างฉะฉานและมั่นคง “สิ่งใดขาวดั่งจันทร์ แข็งดั่งศิลา แต่เมื่อถึงคราวต้องคืนฟ้า กลับอ่อนโยนดั่งสายฝน… หากมันคือคำตอบที่ถามไถ่ข้าว่าเหมาะสมอย่างไรเช่นนั้นแล้วสิ่งที่เป็นคำตอบภายในใจข้าคือ ไข่มุกวารี”
<br><br>
&emsp;&emsp; “แสงนวลประกายส่องนำทางสู่ผืนดิน ขอให้เจ้าโชคดี ทายาทแห่งหนี่วา”
<br><br>
&emsp;&emsp; บัดนั้นเซียนเฒ่าก็เคาะไม้เท้าลงกับพื้นเกิดกระแสพลังงานส่องประกาย ณ ผืนดินราวกับเส้นทางแสงจันทร์นำทางแหวกหมอกหนาให้พวกนางเข้าสู่ดินแดนที่ล่มสลายอย่างปลอดภัยคณะเดินทางทั้งผองต่างทำความเคารพเซียนเฒ่าด้วยความขอบคุณก่อนจะออกเดินทางต่อโดยที่ดวงใจนั้นเต้นระส่ำอย่างอดไม่ได้
<br><br>
&emsp;&emsp; ทุกย่างก้าวต่อจากนี้คือดินแดนอันเป็นต้นตอแห่งภัยพิบัติหากสิ่งที่ให้การเดินทางของนางเกิดขึ้นนั้นล้วนมาจากที่ตรงนี้แล้วไซร้การเดินทางของนางนับจากนี้ก็จะถึงจุดจบ ณ ที่แห่งนี้ในไม่ช้า
<br><br>
&emsp;&emsp; ณ ยามโหย่วแห่งแสงสนธยาย้อมหมอกเป็นสีอำพันหม่นคณะเดินทางได้เดินทางสู่เมืองต้าหลี่ ใจกลางเมืองหลวงของหนานเจ้าเป็นที่เรียบร้อย

<br><br>

</div>

<img style= "width: 75%;" src="https://i.imgur.com/LIeqPiH.png" border="0" alt=""> <br><br>

@Admin

<br><br>

</div>

        </div>
<div style="margin-top: -200px; ">
<div style="height: 450px; background-image: url('https://i.imgur.com/82qGh6z.png');
background-repeat: no-repeat;
background-size: cover;
"></div></div>

        </div>
        </div>
</div></font></div>

WeijiaLianhua โพสต์ 2025-6-11 20:00:32

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย WeijiaLianhua เมื่อ 2025-6-12 15:33 <br /><br /><style>
        #LianH01 {
          border: 0px solid;
    border-radius: 10px;
    background-image: url("https://i.imgur.com/lL9mqdW.png"); }
        #LianH02 {
          border: 0px solid;
          width: 75%;
    box-shadow: #000000 5px 5px 5em;
    background-color : #0f3648;}
#LianH03 {
          border: 0px solid;
          padding: 0px 50px;
          width: 75%;}
#LianH04 {
          border: 0px solid;
          padding: 30px;
          width: 500px;
          box-shadow: #000000 5px 5px 5em;
              background-image: url("https://i.imgur.com/IFRHQ59.png");}

</style>

<link href="https://fonts.googleapis.com/css2?family=Charmonman:wght@400;700&display=swap" rel="stylesheet">
<link href="https://fonts.googleapis.com/css2?family=Niramit:ital,wght@0,200;0,300;0,400;0,500;0,600;0,700;1,200;1,300;1,400;1,500;1,600;1,700&display=swap" rel="stylesheet">
<link href="https://fonts.googleapis.com/css2?family=Zhi+Mang+Xing&display=swap" rel="stylesheet">

<div align="center">
<font face="Sarabun" size="3" color="#ffffff">
<div id="LianH01">
<div id="LianH02">
<div style="height: 530px; background-image: url('https://i.imgur.com/95FY1QN.png'); background-repeat: no-repeat; background-size: cover;"></div>
<div style="margin-top: -200px; text-align: center;"><b>
<img height="300" src="https://i.imgur.com/8tE9Mcr.png" border="0" alt=""><br>
<span style="text-shadow: #000000 5px 5px 10px"><font size="6"> บันทึกการเดินทางสีครามบทที่ 28</font><br><font size="4"> จื่อเซวียนชิงหลี กษัตรีย์แห่งหนานเจ้า<br></font></span></b>

</div><br><br>
<div style="margin-top: -50px; ">
<div id="LianH03">
    <div align="left">

&emsp;&emsp; <font size="5"></font>
<br><br>
<div align="center">
<div id="LianH04">
    <div align="left"><font face="Niramit" size="3" color="#000000">
วันที่ยี่สิบสาม ซื่อเยว่ เจี้ยนหยวนศกที่สิบเอ็ด
<br><br>
&emsp;&emsp; เช้าวันนี้เป็นเช้าที่ข้าคิดว่าอาจจะเป็นเช้าสุดท้ายของการเดินทางแสนยาวนานต้องยอมรับเลยว่ากรเดินทางนี้เริ่มต้นจากสิ่งที่ไม่แน่นอนที่สุดอย่างนิมิตรแห่งเซียนทว่ากลับเป้นสิ่งที่ยิ่งใหญ่เหนือเกินกว่าจะหยั่งถึงทั้งปีศาจเจี๋ยฮว่าฝูงชาวบ้านที่กลายเป็นผีร้ายมารทั้งหลายระหว่างทาง ทั้งหมดนี้ใครจะไปคิดว่าสตรีผู้เป้นพระสนมจะต้องมาเจออะไรเช่นนี้แน่นอนว่าเป็นเพราะข้าเลือกด้วยตนเองด้วย…
<br><br>
&emsp;&emsp; แต่สิ่งที่ข้าไม่ขอปิดบังเลยคือความรู้สึกของอิสรภาพการเดินทางจากตะวันออกสู่ตะวันตกจากเหนือลงใต้ดินแดนที่ไม่เคยพบตำราที่ไม่เคยเห็นเป็นเช่นนี้สินะผู้คนถึงได้ชมชอบสิ่งที่เรียกว่าโลกยุทธภพข้าที่เป็นสตรีในห้องหอได้สัมผัสการเดินทางแสนอิสระคราแรกทว่ามันคงจะเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวของข้าด้วยเมื่อกลับไปเหยียบรั้วสีชาดควไม่อาจหวนคืนสู่โลกภายนอกได้โดยง่ายเป็นแน่
<br><br>
&emsp;&emsp; บางคราข้าก็คิดนะว่าหรือข้าจะหนีออกไปที่ไหนทักที่ ไปยังสถานที่ที่พ้นเอื้อมมือของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ไปเป็นเพียงสตรีเพศผู้เรียนรู้สรรพสิ่งใต้หล้า ทว่าความปรารถนาของข้ามิใช่สิ่งที่เรียบง่าย
<br><br>
&emsp;&emsp; อย่างน้อยข้าก็ต้องได้ก้มหน้ายลโฉมนางตัวดียามคุกเข่าใต้ฝ่าเท้าของข้า
</font>
</div></div></div>
        <br><br>
&emsp;&emsp; วันนี้เป็นวันที่คณะเดินทางต่างนอนไม่หลับกันเป้นส่วนใหญ่ทั้งบรรยากาศน่าหวาดระแวงทั้งความรู้สึกกังวลที่ถาโถม เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นนับรุ่งอรุณเบิกฟ้าต่อจากนี้จะเป็นตำนานในใจของเหล่าคณะเดินทางสืบต่อไป
<br><br>
&emsp;&emsp; เว่ยเจียเหลียนฮวาตื่นเช้ามาในยามเฉินอันทะมึนทึมท้องฟ้ามืดดั่งเมฆฝนครึ้มทว่าแท้จริงแล้วมันคือม่านหมกที่กั้นหนานเจ้าจากโลกภายนอกภาพของสถานที่ที่เป็นซากเพิ่งพังได้ไม่นานนี่ไม่ใช่การพังทลายด้วยอายุและกาลเวลามันคือภัยพิบัติอย่างแท้จริง นี่ขนาดว่าพวกนางอยู่นอกเมืองต้าหลี่เท่านั้นยังสัมผัสได้ถึงปีศาจมากมาย
<br><br>
&emsp;&emsp; “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นข้าขอตำราฝังไปพร้อมข้าด้วย”
<br><br>
&emsp;&emsp; ท่ามกลางความเงียบที่นางตระหนักรู้ได้ถึงสหายทั้งผองอยู่ด้วยกันและเตรียมจะเดินทางต่อไปในยามนี้คำพูดปลุกใจนั้นไม่อาจเป็นตัวตนที่นางจะสามารถเอ่ยออกมาได้สิ่งที่ออกมาจึงกลายเป้นการฝากฝังเรื่องสุดท้ายอย่างตลกร้ายเสียมากกว่า
<br><br>
&emsp;&emsp; “ข้าต้องสั่งเสียต่อหรือไม่”
<br><br>
&emsp;&emsp; หากถามว่าผู้ใดกันที่กล้าต่อปากต่อคำกับพระสนมในยามนี้ก็มีเพียงผู้เดียวก็คือโจวจินผู้เป็นสหายคนสนิทของนางเองครั้งเมื่อวาจาหยอกล้อได้เอ่ยออกมา ทุกคนก็พลันหัวเราะได้อย่างสบายใจ
<br><br>
&emsp;&emsp; สบายใจเพราะว่ามีกันและกันอยู่เคียงข้าง แต้ทางข้างหน้าเป็นขวากหนามก็พร้อมจะฟันฝ่าและก้าวเดิน
<br><br>
&emsp;&emsp; คณะเดินทางได้เดินทางจากนอกเมืองเข้ามาในตัวเมืองต้องยอมรับเลยว่าหากต้องปะทะกับปีศาจทั้งหลายเกรงว่าคงจะเหนื่อยจนภารกิจล่มไปเสียก่อนคณะเดินทางจึงต้องเดินทางฝ่าเมืองรกร้างให้เงียบที่สุดห้ามส่งเสียงเด็ดขาด จนกระทั่งเดินทางมายังใจกลางเมืองต้าหลี่อันเป็นที่ตั้งของวิหารหนี่วา
<br><br>
&emsp;&emsp; “ที่นั่นสินะที่เจ้าต้องเข้าไปน่ะชิงหลี”
<br><br>
&emsp;&emsp; “ใช่”
<br><br>
&emsp;&emsp; “ไปกันเถิด”
<br><br>
&emsp;&emsp; ทว่าเพียงก้าวเดียวที่เหยียบลงบันไดหินอ่อนเท่านั้นพลันได้ยินเสียงหยดน้ำสะท้อนก้องในหัวราวกับการมาของพวกนางคือหยดน้ำที่หยดลงวารีไร้คลื่น ร่างของผู้คนทั้งหลายที่บาดเจ็บล้มตายค่อย ๆ ลุกขึ้นมาทว่าสิ่งที่ต่างออกไปมิใช่การที่พวกเขากลายเป็นผีร้ายหากแต่ความมืดมิดแผ่ล้นออกจากร่าง ผิดกายที่มอดไหม้ดั่งเถ้าถ่าน มันกลายเป็นปีศาจเพลิงทมิฬไปกันหมดแล้วพร้อมกับ ณ ทวารธรณีแห่งวิหารหนี่วาร่างของมารปีศาจปลาที่คุ้นเคยได้ปรากฎกายขึ้นเป็นดั่งจ้าวแห่งมารทั้งปวง ณ ที่แห่งนี้
<br><br>
&emsp;&emsp; “เหอะ ! ทายาทแห่งหนี่วาเอ๋ย รนหาที่ตายถึงเพียงนี้เลยรึ วันนี้จะเป็นวันตายของพวกเจ้า”
<br><br>
&emsp;&emsp; “โอหังสิ้นดี ! ปีศาจปลา แน่จริงก็เข้ามาเสีย”
<br><br>
&emsp;&emsp; ไม่อาจทานทนได้ต่อการต่อปากต่อคำนักเว่ยเจียเหลียนฮวาเอ่ยออกไปตอบโต้มารปีศาจปลาอย่างทันควันราวกับว่ามันคือบทพูดที่นางจะไม่ปล่อยให้มันจางไปแค่รับฟังคำกล่าวเสนียดใบหูอย่างเดียวเป็นแน่
<br><br>
&emsp;&emsp; ราวกับมีคนตบลูกขนไก่มานางก็ต้องโต้กลับ…
<br><br>
&emsp;&emsp; เมื่อได้ยินเสียงสตรีที่มันคุ้นเคยก็เริ่มเพ่งมองคณะเดินทางที่มาร่วมกันกับทายาทหนี่วาสองในสามเป็นมนุษย์ที่ทำให้มันรู้สึกอับอายและสมเพชจนเคืองแค้นมานานนับปีไฟในการเข็นฆ่าเดือดพล่าย จิตสังหารกำจายไปทั่วอาณาบริเวณเมื่อนั้นมนุษย์มารต่างคลุ้มคลั่ง
<br><br>
&emsp;&emsp; “เจ้ามนุษย์น่ารังเกียจ ดี ดียิ่งวันนี้ต่อให้ข้าต้องตายด้วยน้ำมือของทายาทหนี่วาสทว่าข้าก็จะเด็ดหัวเจ้าสองคนให้ได้”
<br><br>
&emsp;&emsp; สองคนที่ไม่ใช่ทายาทหนี่วา ???
<br><br>
&emsp;&emsp; บัดนั้นเว่ยเจียเหลียนฮวากับโจวจินก็มองหน้ากันโดยพลันอย่าบอกนะว่าเจ้านี่คือปีศาจปลากามราคะที่เกือบจะลวนลามนางใต้วังบาดาลนั่นเช่นนั้นแล้วก็ไม่ต้องสืบว่าเหตุใดต่อให้จื่อเซวียนหนีออกไปได้พวกนางก็จะต้องจมใต้เท้ามันจื่อเซวียนชิงหลีกับฉางซานเซียนหวางก็มองสองคนนี้อย่างสงสัย
<br><br>
&emsp;&emsp; “โจวจินเหมือนเราจะต้องมาชดใช้กรรมแล้วหรือ”
<br><br>
&emsp;&emsp; “ก่อนใช้กรรมก็สู้ก่อนเถิดชีวิตเจ้ายังไม่สิ้นจำต้องดิ้นต่อไป”
<br><br>
&emsp;&emsp; แล้วการต่อสู้พลันเปิดฉากขึ้น ฉางซานเซียนหวางและโจวจินเป็นฝ่ายนำทัพรับมือกับมนุษย์มารที่เข้ามาใกล้จื่อเซวียนชิงหลีแปลงร่างเป็นครึ่งอสรพิษเพื่อเพิ่มแรงทางกายภาพปะทะเข้ากับมนุษย์มารทั้งหลายแม้จะต้องเจ็บปวดเพราะว่าพวกเขาเนื้อในคือไพร่ฟ้าของนางเองก็ตามเว่ยเจียเหลียนฮวาหยิบเกาทัณฑ์ไม้จันทน์ขึ้นมายิงเพื่อหวังปลิดชีพทีละตัวอย่างแม่นยำการเดินทางนี้ทำให้นางได้รู้ว่าพวกมันแพ้ลูกศรจากมือของนางขนาดไหน
<br><br>
&emsp;&emsp; ปีศาจปลาเห็นพวกนางโรมรันฟันแทงกับลูกน้องก็ผายมือขอหากแหลมจากลูกน้องเพื่อปามาเสริมกำลังและหวังดับสิ้นลมหายใจมนุษย์อ่อนแอพวกนี้เสียการต่อสู้ที่ต้องแบ่งรับแบ่งสู้ช่างกินพลังกายเหลือคณานับนัก
<br><br>
&emsp;&emsp; มือเล็กของจื่อเซวียนชิงหลีพลันกำแน่นแล้วความคับแค้นในอกที่แห่งนี้คือบ้านเกิดของนางสถานที่ของนาง ประเทศของนาง นางไม่อาจคุกเขา่ให้ผู้ใดนางไม่อาจยอมแพ้ให้มารปีศาจทั้งหลายได้
<br><br>
&emsp;&emsp; บัดนั้นที่ความืดมิดโหมกระหน่ำจนอ่อนล้ามุกวารีพลันเปล่งประกายต่อปณิธานแห่งทายาทผุ้ปกป้องดินแดนสายเลือดหนี่วามุกวารีที่ถักเชือกเป็นสร้อยคอมิให้ผู้ใดแตะต้องได้พลันสว่างทะลุเส้นเชือกที่บดบังล่องลอยตรงหน้าทายาทเพื่อส่องสว่างชำระล้างทั่วอาณาบริเวณใกล้เคียง
<br><br>
&emsp;&emsp; จอมมารผู้สัมผัสได้ถึงพลังและกระแสคลื่นที่แปรทิศก็ร้อนใจจนปาหอกลงมาทีเดียวถึงสองเล่มโจวจินและฉางซานเวียนหวางเร่งพุ่งเข้ามาตวักกระบี่เบี่ยงทิศให้ออกไปจากสตรีทั้งสองเว่ยเจียเหลียนฮวามือมองน้อย ๆ ของนางแล้วก็ได้แต่คิดว่านางจะทำได้หรือไม่
<br><br>
&emsp;&emsp; ไม่ใช่ว่าทำได้หรือไม่ทว่านางต้องทำให้ได้ต่างหาก
<br><br>
&emsp;&emsp; “ชิงหลีได้โปรดมอบพลังให้ข้าที”
<br><br>
&emsp;&emsp; สตรีผู้สูงศักดิ์ก้าวขึ้นมา ณ สนามรบมือเล็กง้างเกาทัณฑ์ขึงสายจนตึงลูกศรแหลมเตรียมพร้อมโจนทะยานปลิดดวงวิญญาณแห่งความมืดมิดพลังของหนี่วาที่ตอบรับได้โอบล้อมกายบางจนเกิดกระสมพัดโบกนัยน์ตายสีเปลือกไม้พลันวาวโรจน์เรืองเรืองสีอำพันงดงาม
<br><br>
&emsp;&emsp; ในชั่วขณะที่สูดลมหายใจจนเต็มปวด ชั่นพริบตาที่กลั้นลมหายใจเพื่อเพ่งสมาธิบัดนั้นศรสีขาวประกายพุ่งออกไปด้วยแรงมหาศาลเกินกว่าที่สตรีตัวเล็ก ๆ จะทำได้ศรแห่งหนี่วาโจนทะพานไปด้วยความเร็วเหนือสายฟ้าฟาดหวังแทงทะลุขั้วหัวใจ
<br><br>
&emsp;&emsp; ทว่ามันยังไม่เร็วมากพอและยังอ่อนกำลังนักสิ่งที่ดวงตาสีอำพันพิศเห็นคือภาพของปีศาจที่หลบกายจนบาดเจ็บเพียงแค่แขนซ้ายมันขาดวิ่นโลหิตสีชาดทะลักออกมาก่อนที่มันจะกุมบาดแผลและเร้นกายหายไปมนุษย์มารทั้งหลายที่เหลืออยู่พลันลงไปนอนกองเป้นซากเถ่าสีทมิฬ
<br><br>
&emsp;&emsp; “มันยังไม่ตาย…”
<br><br>
&emsp;&emsp; เมื่อพลังนี้มาพร้อมกับแรงสะท้อนนางผู้ไม่เคยใช้พลังเหนือธรรมชาติใด ๆ ก็กระอักเลือดออกมาเล็กน้อยร่างเล็กถูกประคองแล้วร่างสูงของฉางซานเซียนหวางผู้บาดเจ็บสาหัสนักต้องบอกว่าสภาพของคณะเดินทางก็ไม่ได้ดูดีกันเท่าไหร่เลย
<br><br>
&emsp;&emsp; “ถึงเวลาแล้วชิงหลีเข้าไปกันเถิด”
<br><br>
&emsp;&emsp; แม้จะเจ็บใจที่ไม่อาจสังหารมันได้จนสิ้นซากทว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าคือการกอบกู้บ้านเมืองจื่อเซวียนนำมุกวารีไปยังใจกลางวิหารหนี่วา แท่นหินอ่อนกลางวงวารีอันว่างเปล่าเป็นสถานที่ประทับของมุกวารีเป็นแน่ภาพของความทรงจำในถ้ำพลันกระจ่างชัดขึ้นสถานที่ที่นางคุ้นเคยนี้ได้รับรู้แล้วว่าคุ้นเคยจากแห่งหนใดกัน
<br><br>
&emsp;&emsp; มือเล็กของทายาทหนี่วากำมุกวารีสีขาวนวลก่อนจะค่อยๆ วางมันลงไปบนแท่นประดิษฐานแห่งมุกวารีบัดนั้นอัญมณีเม็ดงามพลันเปล่งประกายออกมาส่งพลังพุ่งขึ้นทะเลเพดานวิหารไปยังเหนือฟากฟ้า สร้างเป้นกำแพงป้องกันและขับไล่ไอปีศาจจนหายไปจากหนานเจ้า
<br><br>
&emsp;&emsp; “สำเร็จแล้ว”
<br><br>
&emsp;&emsp; จื่อเซวียนชิงหลีเอ่ยพร้อมกับกระโจนข้ามากอดเว่ยเจียเหลียนฮวาที่อยู่ข้างกายเป็นความรู้สึกที่มีความสุขจนล้นในอกไม่อาจเอ่ยสิ่งใดได้นอกจากน้ำตาแห่งความปิติมือเล็กของเว่ยเจียเหลียนฮวายกขึ้นโอบกอดร่างเล้กตรงหน้าในช่วงเวลาที่แสนสำคัญ ขอบคุณนางเช่นกันที่แบ่งปันร่วมกัน
<br><br>
&emsp;&emsp; ช่วงเวลาที่แสนยินดีนี้ผ่านไปไม่นานก็ได้เวลากลับมาสู่สิ่งที่ต้องทำต่อจากนี้
<br><br>
&emsp;&emsp; “ชิงหลีแล้วต่อจากนี้เจ้าจะเอาเยี่ยงไรเล่า”
<br><br>
&emsp;&emsp; “ก่อนอื่นเลยข้าต้องขอบคุณพวกท่านมาก”นางผละออกจากอ้อมอกของสหายที่รักที่สุดของหัวใจในตอนนี้ “สงครามนี้ทำให้หนานเจ้าสูญเสียอย่างหนัก หากต้องบูรณะทุกสิ่งข้าต้องเป็นผู้นำแห่งหนานเจ้าข้าจะขึ้นเป็นกษัตรีย์”
<br><br>
&emsp;&emsp; ราวกับไข่มุกวารีได้เลือกผู้เป็นนาย ณ ช่วงชีวิตหนึ่งนี้คลื่นชำระล้างแผ่ขยายอีกคราพร้อมกับวิหารที่ค่อย ๆ ฟื้นฟูความเจ็บปวดที่ได้รับจากการต่อสู้พลันมลายจนสิ้นเปิดหน้าศักราชใหม่แห่งหนานเจ้าในบรรดล
<br><br>
&emsp;&emsp; ช่วงเวลาหลังจากกอบกู้เอกราชจากมารปีศาจทั่วทั้งหนานเจ้าก็ปรากฎผู้รอดชีวิตทีละนิด ทีละหน่อยใช้เวลาช่วยเหลือจื่อเซวียนชิงหลีอยู่สักพักใหญ่ ทั้งต้องพักรักษาตัวด้วยแล้วการกลับฉางอันคงจะเป็นเรื่องที่ปล่อยให้ตัวนางในอนาคตเป็นตริตรองเองกระมัง ?
<br><br>
&emsp;&emsp; จบบันทึกการเดินทางสีคราม

<br><br>

</div>
<img style= "width: 75%;" src="https://img2.pic.in.th/pic/-2025-06-11-183653.png" alt="สกรีนช็อต 2025 06 11 183653" border="0"><br>
<img style= "width: 75%;" src="https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/-2025-06-11-184650.png" alt="สกรีนช็อต 2025 06 11 184650" border="0"><br>

<br><br>

<img style= "width: 75%;" src="https://i.imgur.com/LIeqPiH.png" border="0" alt=""> <br><br>

<b><i>รางวัลสำเร็จภารกิจ</i></b>
<br><br>
+200 พลังใจ , +1500 ตำลึงเงิน , หินตีบวกกับหินอัปเกรดอย่างละ20 ก้อน , หินเซียนคนละ 1 ก้อน ที่ทายาทหนี่วากลั่นออกมาตอนชำระล้างหมู่บ้านชิวปี้ , +1 Level up<br><br> +50 บารมี, +200 คุณธรรม, +100 ความโหด<br><br>

+2 หัวใจ กับฉางซานเชียนหวาง<br>
+4 หัวใจ กับทายาทหนี่วา<br>
+ไข่หมาป่าหิมะ 1 ฟอง<br><br>


@Admin

<br><br>

</div>

        </div>
<div style="margin-top: -200px; ">
<div style="height: 450px; background-image: url('https://i.imgur.com/82qGh6z.png');
background-repeat: no-repeat;
background-size: cover;
"></div></div>

        </div>
        </div>
</div></font></div>
หน้า: 1 2 3 [4]
ดูในรูปแบบกติ: [บันทึกการเดินทาง] : การเดินทางตามหามุกวารี