ร้านเต้าหู้อันเล่อจ้วน

[คัดลอกลิงก์]







ร้านเต้าหู้อันเล่อจ้วน

{ ถนนสิบลี้ }




【 ร้านเต้าหู้อันเล่อจ้วน 】
ร้านเต้าหู้สาขาฉางอัน

ร้านเต้าหู้เพียงหนึ่งเดียวในย่านถนนสิบลี้ที่ยังไม่มีผู้ใดมาโค่นล้มได้ ที่แห่งนี้คือร้านเต้าหู้อันเล่อจ้วนที่ส่งกลิ่นหอมหวนของเต้าหู้สูตรลับเฉพาะที่ไม่ว่าใครลิ้มลองก็ต้องติดใจ ตัวร้านตั้งอยู่ในเขตคนมีเงิน ขนาดสูงใหญ่เพียงพอต่อการรับรองลูกค้าหลากหลายระดับที่เวียนกันเข้ามาเพื่อติดต่อรับซื้อเต้าหู้เป็นจำนวนมาก ที่นี่ขายเพียงเต้าหู้ ไม่มีอาหารที่ทำจากเต้าหู้ หรือเต้าหู้สารพัดอาหาร กรุณาซื้อไปประกอบอาหารด้วยตัวท่านเอง

[ดูรายการสินค้า]

ตำราดาราศาสตร์หลิวอัน
มูลค่า: 69 ตำลึงทอง
จำนวน: 5 เล่ม







แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 5874 ไบต์และได้รับ 4 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-6-16 22:24
โพสต์ 2025-6-17 19:19:38 | ดูโพสต์ทั้งหมด


วันที่ สิบเจ็ด เดือน ห้า รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11
ยามอู่ เวลา 12.00 - 13.00 น. ร้านเต้าหู้อันเล่อจ้วน


          แสงแดดตรงหัวพอดีกลางย่ามอู่ตกต้องบนแผ่นกระเบื้องสีแดงหม่นของหลังคาร้านเต้าหู้อันเอจ้วนที่ตั้งตระหง่านอยู่บนถนนสายหลักของย่านการค้าที่แสนคึกคัก เขตที่มีแต่ห้องแถวและกิจการของคนที่มีเงิน แบบ เงินหนา ๆ จริง ถึงจะตั้งร้านไหว เสียงจอแจของคนซื้อของ เสียงคนเร่ขายผลไม้และเสี่ยวหลงเปาที่ตั้งอยู่ตรงแฝงริมถนนคลอ
เคลียอยู่ข้างเสียงหัวเราะเจื้อนแจ้วของเด็กน้อยจากโรงเรียนใกล้เคียง กลิ่นเจ้าหู้ทอดใหม่ ๆ ลอยแตะจมูกอย่างยั่วน้ำลายจนแม้แต้คนที่ทานข้าวมาแล้วก็ต้องเหลียวมองอยู่

          หลินหยาเดินอย่างช้า ๆ ผ่านหน้าร้านเต้าหู้ที่แสนคึกตัก ดวงตาคู่โตงามสีน้ำตาลมะพร้าวเหลือบมองไปเห็นแผ่นไม้ไม้ที่เขียนด้วยลายมือสวยงามเสียจนคิดว่าจ้างเขียนแน่ อันเล่อจ้วน แขวนเด่นเป็นสง่า ด้านหน้าเป็นแผงขายเต้าหู้แบบต่าง ๆ ทั้งทอด ทั้งนึ่ง  เต้าหู้พะโล้ เต้าหู้น้ำพริก เต้าหู้แห้ง และแม้แต่เต้าหู้กลิ่นแรงที่คนกล้าลองน้อยคนแต่ขายดิบขายดีอย่างประหลาด เธอชะงักเท้าอยู่ครู่หนึ่ง กะพริบตาเร็ว ๆ แล้วขมวดคิ้วน้อย ๆ อย่างเงียบงัน นี่มันย่านทองคำเลยไม่ใช่หรือ?

          ราคาที่ดินแพงหูฉีก มีแต่ร้านขายผ้าแพร เครื่องหอม เครื่องประดับ กับร้านบะหมี่ดี ๆ อาหารโคตรเริ่สถึงจะตั้งอยู่ได้ แล้วนี่า?..ฮะ? ร้านเต้าหู้ WTF หลินหยายิ้มน้อย ๆ อย่างไม่รู้ตัวพลางส่ายหน้าเบา ๆ อย่างอดขำไม่ได้ในใจ …แหม่ ตาลุงอันเล่อ ไหนบอกไม่มีเงิน แต่ดันมาเปิดร้านกลางย่านแพงขนาดนี้

          ในขณะที่เธอกำลังจะก้าวผ่านไปโดยไม่คิดรบกวนสายลมของคนทำงานก็เหลือบมองเห็นเงาร่างสูงในชุดผ้าไหมสีเข้มเรียบเดินอยู่ตรงหน้าร้านด้านนั้น มือของเขากำลังถือบัญชีรายวันเล่มเล็กไว้ และพนักงานหลายคนก็กำลังเดินพล่านเหมือนกำลังเตรียมของหรือส่งของทั่วเมือง…

          คุณชายอันเล่อ…หึ… เขาเหมือนจะเงยหน้าขึ้นมาในจังหวัเดียวกับที่เธอกำลังชะงักเท้าไม่ได้ขยับต่อ ดวงตานิ่งลึกคู่นั้นสบลเข้ากับดวงตาของหลินหยาที่มีประกายแวววาวของเเธอ ที่ถึงแม้ว่าจะทำงานหนักแต่ก็ยังอารมณ์ดีเหมือนเคยเหมือนสายลมร้อนกลางวันนี้ เธอเบิกตากว้างขึ้นเล็กน้อยเหมือนไม่คิดว่าจะพบกันตรงนี้ ก่อนที่ริมฝีปากจิ้มลิ้มน่ารักจะยกยิ้มขึ้นแล้วขยับมือโบกให้เขานิด ๆ พร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงร่าเริง แต่ยังมีความเคารพอย่างไม่ห่างมารยาท

          “สวัสดีเจ้าค่ะท่านชายอันเล่อ..คนเยอะเลยนะเจ้าคะวันนี้ เหนื่อยไม่เจ้าคะ?” นางเอ่ยถาม เสียงแผ่วแต่กลับสดใส ผ่าความรู้สึกร้อนเข้ามาได้อย่างแนบเนียนในขณะที่จังหวะที่เสียงรอบข้างพลันเบาลงเพราะลมแรงพัดผ่านเหมือนจังหวะให้โลกหยุดฟังเขาตอบ หลิวอันที่เงียบอยู่ครู่หนึ่งมองเธอแน่นิ่ง ใบหน้านั้นไม่แสดงอารมณ์เท่าไร แต่ในแววตาลึก ๆ ของเขาเหมือนกับมีอะไร และเขาก็ยังคงเป็นเขา

          “อืม..” เขาเอ่ยเพียงคำเดียว น้ำเสียงไม่เบา ไม่ดังแต่ก็ง.ตามสไตล์เขาแหละ

          หลินหยาหัวเราะแห้งนิด ๆ แล้วขยับเท้าเหมือนจะงอน ๆ กับคำตอบอีกคนไปครึ่งก้าวพร้อมกับลองยิ้มหวานส่งท้าย ดวงหน้าของเธอเปื้อนแสงแดดสะท้อนความสดใสในแบบที่ของเธอที่แม้จะเหนื่อยแต่ก็ไม่ลืมที่จะทักทายคนรู้จัก “ข้าแค่ผ่านทางมาน่ะเจ้าค่ะ แค่มาเดินตลาด ไม่ได้มารบกวนอะไร ท่านดูแลร้านแล้วกัน ข้าไปล่ะ ฮึ” เธอพูดจบก็ระบายยิ้มให้แล้วขยับตัวเลี้ยวออกมาจากหน้าร้านตรงนั้น ท่ามกลางกลิ่นเต้าหู้ทอดกับเสียงตะโกนของคนขชายข้างทางที่คึกคักสุด ๆ

          ส่วนหลิวอันทำอะไรน่ะหรอ เขาทำเพียงยืนอยู่ที่เดิม มองแผ่นหลังของหลินหยาที่หายลับไปแล้วหันกลับไปเปิดบัญชีร้านต่อด้วยสีหน้าเรียบเฉยเช่นเดิม





พรสวรรค์: ลาภลอย (ไม้)
มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่
อื่น ๆ: -

รางวัล: +5 ความสัมพันธ์สนทนาทั่วไป [NPC-04] หลิว อัน
หัวดี โบนัสเพิ่มความโปรดปราน+20
โบนัส ความสัมพันธ์พิเศษ (VIP) กับ NPC +10 แต้ม
โบนัส ความโปรดปราน NPC เผ่ามนุษย์ (ผู้มีบุญ) +20 แต้ม


แสดงความคิดเห็น

หลิวอันหัวใจตัน 4 ดวงแล้ว หลังจบอีเว้นท์ปลดล็อกหัวใจเถียนเฟิงสามารถยื่นขอปลดได้  โพสต์ 2025-6-17 23:18
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-04] หลิว อัน เพิ่มขึ้น 35 โพสต์ 2025-6-17 23:18
โพสต์ 10773 ไบต์และได้รับ 8 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-6-17 19:19
โพสต์ 10,773 ไบต์และได้รับ +5 คุณธรรม +4 ความโหด จาก ผู้มีบุญ  โพสต์ 2025-6-17 19:19
โพสต์ 10,773 ไบต์และได้รับ +5 คุณธรรม จาก ทักษะนักดนตรีข้างถนน  โพสต์ 2025-6-17 19:19
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
วาสนาเซียน
ด้ายแดงแห่งโชคชะตา
แหวนดาราจรัส(D2)
ตำราอาหารลับของเสี่ยวจ้าวจื่อ
ยอดคีตศิลป์
ปราณกระเรียนขาว(ไม้)
ขลุ่ยพันธะในเงาศาลา
เกราะทองเทวะ
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x16
x16
x16
x30
x1
x35
x5
x27
x2
x10
x8
x10
x2
x1
x3
x114
x5
x5
x5
x5
x6
x4
x4
x4
x21
x1
x159
x20
x21
x1
x5
x34
x7
x246
x1
x1
x1
x145
x5
x6
x66
x20
x6
x93
x79
x5
x209
x5
x50
x5
x85
x6
x196
x56
x75
x78
x4
x105
x5
x8
x4
x3
x12
x11
x8
x15
x69
x1
x1
x5
x53
x42
x47
x16
x140
x10
x11
x10
x26
x9
x10
x4
x15
x60
x55
x2
x1
x104
x64
x9
x10
x167
x55
x28
x70
x78
x49
x5
x3
x120
x12
x9
x11
x5
x3
x3
x9
x5
x6
x1
x1
x6
x13
x8
x135
x70
x20
x11
x14
x48
x3
x1
x4
โพสต์ 2025-6-19 21:37:46 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ สิบเก้า เดือน ห้า รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11
ยามเว่ย เวลา 14.00 เป็นต้นไป


           ยามเว่ยเข้ามาถึงทีแสงแดดฤดูร้อนยังอาบไล้กำแพงจวนโอวหยางหลินหยาออกจากจวนด้วยท่าทางเรียบเฉยแม้ว่าในอกแทบจะพ่นไฟอยู่แล้ว ไม่ใช่เพราะอากาศแต่เป็นเพราะในตรงใบรายการที่เขียนไว้ชัดเจนว่า เต้าหู้สดใส จากถั่วเหลืองคุณภาพดี ขอเต็มเมล็ด ไม่ขึ้นรา ไม่เหม็นหืน นั้นมันหมายความว่ายังไงก็มีที่เดียวที่ซื้อได้คือร้านอันเล่อจ้วน.. ก็ไม่มีที่ไหนที่จะขายได้แล้ว ทุนผูกขาดเวอร์..

           หลินหยาถอนหายใจแล้วเดินไปเรื่อย ๆ ดวงตากรอกไปมาอย่างหมดทุกเยื่อใยในใจ ขณะเดินออกจากซอยของจวนด้วยจังหวะที่ค่อนข้างเร็ว นี้มันอะไรกันนักหนา รอบก่อนเจอหน้าเขาก็แทบจะหลุดคาร์แรคเตอร์เสี่ยวหนาน รอบนี้..โอ้ย อย่าให้เจอได้ไหมเนี้ย ให้เด็กในร้านขายก็ได้ ไม่ต้องเป็นท่านชายอันเล่อเถอะ..ไม่มีหน้าไปเจอเขาตอนนี้เลย

           ทว่าฟ้าช่างไม่เข้าใจฟังเสียงบ่นของมนุษย์เลย เมื่อหลินหยาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าร้านเต้าหู้อันเล่อจวนที่สง่างามเกินร้านค้าธรรมดาเธอกลืนน้ำลายหนึ่งอึก...แล้วผลักบานประตูไม้เข้าไปเบา ๆ อย่างระวัง กลิ่นถั่วบดสดใหม่ลอยมาแตะจมูกทันที บรรยากาศภายในสะอาดสะอ้านราวกับตำหนักใน พระอาทิตย์สะท้อนกับภาชนะทองแดงในร้านเป็นประกาย เธอก้าวเข้าไปเงียบ ๆ แล้วเงยหน้ามองหาคนขาย ก่อนที่จะพบว่า…

           เขายืนอยู่ตรงนั้นจริง ๆ …

           บุรุษร่างสูงในชุดสีเข้มที่คล้ายผ่านการต้มถั่วมาตลอดชีวิตกำลังยืนอ่านรายการคำสั่งซื้ออย่างใส่ใจอยู่ตรงหน้าโต๊ะไม้งาม น้ำเสียงต่ำเย็นของเขาดังขึ้นก่อนที่เธอจะได้เอ่ยคำใด “ถึงกับตามมาถึงร้านเลยหรอ?” เขาพูดโดยไม่เงยหน้าขึ้นแต่ปลายเสียงลากยาวราวกับคนที่ยิ้มอยู่ในใจแม้หน้านิ่ง..หลินหยาเบ้ปากนิด ๆ ในใจแล้วตอบไป

           “เปล่าสักหน่อยเจ้าค่ะ ข้ามาซื้อเต้าหู้ตามคำสั่งของคุณแม่บ้านต่างหาก”

           หลังจากนั้นหลินหยาก็เริ่มซื้อของตามคำสั่งคุณแม่บ้านทันที เธอซื้อถั่วเหลือง 20 ชุด ชุดละ 85 เหรียญอู่จู่ แล้วก็เต้าหู้เท่าที่มี 7 ถ้วย 379 เหรียญอู่จู่ แล้วก็มีซื้อโสมคน 10 ชิ้น ราคาชิ้นละ 1 ตำลึงทอง 1 ตำลึงเงิน แล้วก็ใบชาลิ่วอันกวาเพี่ยน 5 กล่อง กล่องละ 9 ตำลฃึงเงิน แล้วก็สุดท้าย หินเพลิงฟ้าอัพเกรด 1 ราคา 33 ตำลึงทอง..

           “เสร็จเรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ ข้าไปล่ะ” เธอเอ่ยกับเถ้าแก่ร้านเช่นนั้นก่อนที่จะเดินกลับไปยังจวนโอวหยางเงียบ ๆ พลางถือของไปด้วย หญิงสาวพ่นลมหายใจกับตัวเองเล็กน้อยเพราะตอนนี้เธอคิดว่าจะกลับไปทำงานอีกแล้วหรอเนี้ย ...ฮือ อยากกลับไปเป็นปกติไว ๆ จังเลย..อีตาใต้เท้าเถียนเฟิง รอบหน้าขึ้นค่าตัวแน่นอน ถ้าไม่ยอมให้ขึ้นค่าตัวจะไม่ทำงานเลยคอยดูสิ ฮึ ..งองอ ๆ หลินหยาอยากงอแงถึงจะทำไม่ได้ก็ตามที แฮปปี้ดีไหมนะ? เอาเถอะ อะไรก็ได้ ไอ้เราก็หน้าตาบ้าน ๆ เหมือนตุ๊กตาเหมือนเด็กเสียด้วยสิ ไม่เหมือนหญิงสาวเลยไม่โดนลวนลามทางสายตาหรอกมั้ง..แต้จ้องจะเอาไปขายให้พวกโรคจิตนี้น่าจะมีอยู่ละมั้ง? หลินหยาคิดก่อนที่จะพ่นลมหายใจกับตัวเอง เพราะทำไมเธอถึงต้องตกไปเป็นเป้าสายตาของพวกอย่างงั้นด้วยน่า..บ่น ๆ ในใจ แล้วก็ได้แต่บ่นแล้วล่ะ




@Admin


พรสวรรค์: ลาภลอย (ไม้)
มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่

อื่น ๆ: ซื้อของ ดังนี้
ถั่วเหลือง ราคา 85 เหรียญอู่จู จำนวน 20 ชิ้น รวม 1,700 เหรียญอู่จู
เต้าหู้ ราคา 379 เหรียญอู่จู จำนวน 7 ชิ้น รวม 2,653 เหรียญอู่จู
โสมคน ราคา 1 ตำลึงทอง 1 ตำลึงเงิน จำนวน 10 ชิ้น รวม 10 ตำลึงทอง 10 ตำลึงเงิน
ใบชาลิ่วอันกวาเพี่ยน ราคา 9 ตำลึงเงิน จำนวน 5 ชิ้น รวม 45 ตำลึงเงิน
หินเพลิงฟ้าอัพเกรด ราคา 33 ตำลึงทอง จำนวน 1 รวม 33 ตำลึงทอง
รวมราคาทั้งหมด
    10+33 = 43 ตำลึงทอง
    10+45 = 55 ตำลึงเงิน
    1700+2653 = 4353 เหรียญอู่จู

รางวัล: -



แสดงความคิดเห็น

ดี: 5.0
ดี: 5
  โพสต์ 2025-6-19 22:22
โพสต์ 10310 ไบต์และได้รับ 8 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-6-19 21:37
โพสต์ 10,310 ไบต์และได้รับ +5 คุณธรรม +4 ความโหด จาก ผู้มีบุญ  โพสต์ 2025-6-19 21:37
โพสต์ 10,310 ไบต์และได้รับ +5 คุณธรรม จาก ทักษะนักดนตรีข้างถนน  โพสต์ 2025-6-19 21:37
โพสต์ 10,310 ไบต์และได้รับ +3 ความชั่ว +5 ความโหด จาก ขลุ่ย  โพสต์ 2025-6-19 21:37
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
วาสนาเซียน
ด้ายแดงแห่งโชคชะตา
แหวนดาราจรัส(D2)
ตำราอาหารลับของเสี่ยวจ้าวจื่อ
ยอดคีตศิลป์
ปราณกระเรียนขาว(ไม้)
ขลุ่ยพันธะในเงาศาลา
เกราะทองเทวะ
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x16
x16
x16
x30
x1
x35
x5
x27
x2
x10
x8
x10
x2
x1
x3
x114
x5
x5
x5
x5
x6
x4
x4
x4
x21
x1
x159
x20
x21
x1
x5
x34
x7
x246
x1
x1
x1
x145
x5
x6
x66
x20
x6
x93
x79
x5
x209
x5
x50
x5
x85
x6
x196
x56
x75
x78
x4
x105
x5
x8
x4
x3
x12
x11
x8
x15
x69
x1
x1
x5
x53
x42
x47
x16
x140
x10
x11
x10
x26
x9
x10
x4
x15
x60
x55
x2
x1
x104
x64
x9
x10
x167
x55
x28
x70
x78
x49
x5
x3
x120
x12
x9
x11
x5
x3
x3
x9
x5
x6
x1
x1
x6
x13
x8
x135
x70
x20
x11
x14
x48
x3
x1
x4
โพสต์ 2025-6-21 17:22:54 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย LinYa เมื่อ 2025-6-21 23:55


วันที่ ยี่สิบเอ็ด เดือน ห้า รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11
ยามอู่ เวลา 11.00 - 13.00 น. ไปซื้อของที่ร้านเต้าหู้อันเล่อจ้วน


          ยามอู่มาถึงแสงแดดยามเที่ยงวันสาดทาบลงบนถนนสีอ่อนอย่างเกียจคร้าน ลมร้อนอบอ้าวพัดวนในย่านการค้าใหญ่ของเมืองแห่งนี้ ริมถนนสายหลักที่เต็มไปด้วยเสียงจอแจของผู้คนและเสียงเรียกลูกค้าของพ่อค้าแม่ขายร้านเต้าหู้อันเล่อจ้วนตั้งตระหง่ายอยู่ในย่านที่ดินแพงอย่างมั่นคงไม่หวั่นไหว ร้านเพียงหนึ่งเดียวด้วย ขอบประตูแกะสลัด ป้ายชื่อถูกจัดขัดเงาวับสะท้อนแสงอาทิตย์ระยิบระยับ

          หลินหยาในชุดผ้าฝ้ายสีอ่อนแบบสบาย ๆ นั้นเดินฝ่าฝูงชนเข้ามาในร้านด้วยการก้าวเท้าแบบไม่รีบ ร้อนนัก ใบหน้าขาวใสเปื้อนเหงื่อบาง ๆ จากอากาศร้อน แค่ยังมีรอยยิ้มบางประกับมุมปากเหมือนเดิม ชายกระโปรงของนางนั้นพลิ้วไปตามแรงลมที่พัดผ่านแม้มันจะร้อนมากกว่าก็ตคาม เธอยืนนิ่งอยู่ด้านหน้ากับบุรุษหลังโต๊ะนั้นอย่างเป็นธรรมชาติ..

          “สวัสดีเจ้าค่ะ คุณชายอันเล่อ” หลินหยาเอ่ยทักอีกฝ่าย น้ำเสียงของเธอแฝงความสุภาพแต่ไม่แปลกแยกเป็นการทักทายของผู้ที่เริ่มเคยชินกันบข้างแล้ว “วันนี้ข้าขอเต้าหู้ 5 ชิ้นเจ้าค่ะ” หลินหยาเอ่ยบอก..เธอกับเขาพึ่งพบกันไม่กี่วันก่อน..เธอไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าตอนนั้นหลังจากที่เขาเลี้ยวตัวไปตรงมุมกำแพงมีบางอย่างเกิดขึ้นมาที่ไม่ธรรมดา.. เพราะคำพูดที่เรียบง่ายนั้นเป็นครั้งแรกที่เขาแสดงความห่วงใยในรูปแบบตรง ๆ …เพราะปกติเขาจะทำเพียงมองเท่านั้น เงียบเช่นเคยดั่งน้ำแข็งที่กระเทาะไม่ออก..

          เหมือนความสัมพันธ์นั้นเปลี่ยนสถานะเป็นคำว่าคุ้นเคยมากกว่าคนแปลกหน้า แต่เธอก็ไม่อาจคิดได้ว่าสิ่งนี้ไม่เกิดจากความรู้สึกผิดที่เขามีได้ แม้ว่าเขาดูจะไม่ใส่ใจมันเลยก็ตามที..หลินหยาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหลังจากนั้นมีคนเฝ้ามองเธอเงียบ ๆ ..ในบางฉาก ในบางครั้ง และเธอไม่เคยรู้ตัวเลยสักนิด เหมือนมีสายตาที่จับจ้อง แต่เป็นใคร..ไม่รู้..

          เขามองเธออย่างเงียบงันครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ ไม่พูดอะไรมากนัก มือใหญ่หยิบตะกราหวายแล้วให้คนงานคีบเต้าหู้สดลงไปอย่างแม่นยำไม่รีบร้อน เส้นผมสีดำยาวของเขามัดหลวมคล้ายคนเพิ่งออกมาด้านหน้นาร้าน จมูกโด่งคมสัน ปรายตาไปทางหลินหยาเล็กน้อยเมื่อรับเงินจากนางแววตาคู่นั้นนิ่งสนิทดังเดิม หากแต่มีบางสิ่งในนั้นที่แฝงคล้ายว่าเขากำลังชั่งใจอยู่

          หลินหยารับถุงตะกราหวานด้วยมือทั้งสองข้าง แล้วเงยหน้าขึ้นสบตาเขาอีกครั้งก่อนที่จะยิ้มบาง ๆ เพราะชินท่าทีที่เขาไม่คิดจะพูดอะไรกับเธอแล้วล่ะ “ขอบคุณเจ้าค่ะ” พอเธอพูดจบก็ผละออกจากตรงนั้นเดินช้า ๆ ไปทางประตูร้านเพื่อเดินออก แต่ไม่ทันไรร่างของใครบางคนก็เดินสวนเข้ามากระแทกเข้ากับที่บ่าเล็กของหลินหยาเต็มแรงจนเธอเซไปข้างหนึ่งแล้วทำตะกร้าหล่นมือกระแทกขอบเสาไม้..

          “โอ๊ย!!” หลินหยาหลุดเสียงเบา ๆ ข้อมือข้างนั้นเหมือนจะปัดโดนเสาไม้จนช้ำเล็กน้อยแต่เจ็บจริงเพราะมันเป็นเหลี่ยม ชายที่เดินชนเธอไม่แม้จะหันกลับมามอง เพียงสะบัดชายเสื้อแล้วเดินต่ออย่างหน้าตาเฉย ขณะที่ผู้คนรอบข้างยังคงจอแจไม่ใส่ใจเพราะมันเป็นเรื่องเล็ก..

          หลินหยาที่กำลังจะพยายามลุกขึ้น เงาร่างสูงของบุรุษเจ้าของร้านเต้าหู้กลับเคลื่อนตัวมาจากโต๊ะอย่างไม่รียบร้อยด้วยซ้ำ มีจังหวะมั่นคงจนเขาหยุดยืนใกล้ ๆ ร่างของหลินหยาที่ตอนนี้กำลังจะพยายามลุกแล้วก้มเก็บของ..

          จากนั้นเขาก็ทรุดตัวลงย่อตัวอย่างไม่แยแสต่อสายตาผู้ใด มือหนานิ่ง ๆ เอื้อมหยิบกล่องเต้าหู้ที่หล่นวางไว้ในตะกร้าอย่างระมัดระวังก่อนที่จะใช้ผ้าเช็ดมือของตัวเองเช็ดคราบฝุ่นที่โดนกล่องและตะกร้าให้ ช้า ๆ และเนียบไม่มีคำพูดใดเลย ทว่าเมื่อยื่นตะกร้าคืนให้แววตาใต้เงาเส้นผมดำยาวกลับมองสบกับหลินหยาโดยตรง เป็นอีกไม่กี่ครั้งที่เขาไม่ได้เลี่ยงสายตาของนาง

          “อย่ามั่นใจว่าโลกจะใจดีเหมือนเมื่อก่อน” เสียงนั้นไม่ดัง ไม่ราบเรียบเกินจนน่ากลัวแต่ก็ไม่ใช่คำเตือนแต่เป็นคำสอนที่บ่งบอกว่าเขามองเธอเป็นเด็ก แล้วลุกขึ้นเต็มความสูงหันหลังกลับไปประจำที่เดิมของตัวเองราวกับทุกอย่างไม่เคยเกิดขึ้น ไม่มีการแสดงออกที่มากเกินพอดี..ไม่มีคำพูดปลอบโยนหรืออ่อยโยนแต่อย่างใด เฉกเช่นที่เขาเคยเป็น เย็นชาแม้จะมองเห็น

          หลินหยาที่กำลังนิ่งอยู่นั้นนิ่งไปเล็กน้อยก่อนที่จะก้มมองตะกร้าในมือ มือที่โดนชนยังแดงระบบนิดหน่อย แต่เธอก็เข้าใจเขาในแบบของเขาแหละ





@Admin


พรสวรรค์: ลาภลอย (ไม้)
มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่
อื่น ๆ: ซื้อของ
เต้าหู้ ราคา 379 เหรียญอู่จู จำนวน 5 ชิ้น รวม 1,895 เหรียญอู่จู

รางวัล: +5 ความสัมพันธ์สนทนาทั่วไป [NPC-04] หลิว อัน
หัวดี โบนัสเพิ่มความโปรดปราน+20
โบนัส ความสัมพันธ์พิเศษ (VIP) กับ NPC +10 แต้ม
โบนัส ความโปรดปราน NPC เผ่ามนุษย์ (ผู้มีบุญ) +20 แต้ม


แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-04] หลิว อัน เพิ่มขึ้น 55 โพสต์ 2025-6-21 18:06
โพสต์ 12940 ไบต์และได้รับ 8 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-6-21 17:22
โพสต์ 12,940 ไบต์และได้รับ +2 EXP +5 คุณธรรม +4 ความโหด จาก กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)  โพสต์ 2025-6-21 17:22
โพสต์ 12,940 ไบต์และได้รับ +5 คุณธรรม +4 ความโหด จาก ผู้มีบุญ  โพสต์ 2025-6-21 17:22
โพสต์ 12,940 ไบต์และได้รับ +5 คุณธรรม จาก ทักษะนักดนตรีข้างถนน  โพสต์ 2025-6-21 17:22
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
วาสนาเซียน
ด้ายแดงแห่งโชคชะตา
แหวนดาราจรัส(D2)
ตำราอาหารลับของเสี่ยวจ้าวจื่อ
ยอดคีตศิลป์
ปราณกระเรียนขาว(ไม้)
ขลุ่ยพันธะในเงาศาลา
เกราะทองเทวะ
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x16
x16
x16
x30
x1
x35
x5
x27
x2
x10
x8
x10
x2
x1
x3
x114
x5
x5
x5
x5
x6
x4
x4
x4
x21
x1
x159
x20
x21
x1
x5
x34
x7
x246
x1
x1
x1
x145
x5
x6
x66
x20
x6
x93
x79
x5
x209
x5
x50
x5
x85
x6
x196
x56
x75
x78
x4
x105
x5
x8
x4
x3
x12
x11
x8
x15
x69
x1
x1
x5
x53
x42
x47
x16
x140
x10
x11
x10
x26
x9
x10
x4
x15
x60
x55
x2
x1
x104
x64
x9
x10
x167
x55
x28
x70
x78
x49
x5
x3
x120
x12
x9
x11
x5
x3
x3
x9
x5
x6
x1
x1
x6
x13
x8
x135
x70
x20
x11
x14
x48
x3
x1
x4
โพสต์ 2025-6-22 13:48:28 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย LinYa เมื่อ 2025-6-22 13:49


วันที่ ยี่สิบสอง เดือน ห้า รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11
ยามอู่ เวลา 12.00 - 13.00 น. มาซื้อเต้าหู้ ณ ร้านเต้าหู้อันเล่อจ้วน (พบ หลิว อัน)


           ยามอู่กลับมาแล้ว ตอนนี้เข้าสู่เส้นทางของมันแล้วล่ะ แสงแดดเหนือหัวเริ่มเอียงเบนคล้ายกำลังจะอ่อนแรงลงในอีกไม่ช้า ผู้คนในย่านการค้าชั้นดีของฉือจิ่งชานยังคงคึกคัก กลิ่นของอาหารร้านริมทางลอยคละคลุ้งปะปนกับกลิ่นผ้าหอมจางร้านโน้นร้านนี้ไปด้วย บรรยากาศเช่นนี้ในฤดูร้อนทำให้การเดินเพียงไม่กี่ก้าวนั้นก็เรียกเหงื่อซึมตามขมับได้แล้วนั้นเอง หลินหยาในชุดผ้าบางระบายอากาศดีสีขาวหม่นแต่งลายดอกไม้เล็กน้อย เดินฝ่าฝูงชนเข้ามาที่หน้าร้านอันเล่อจ้วน ด้วยรอยยิ้มท่าทางดีใจเล็กน้อย ท่าทีสบาย ๆ แต่ก็แฝงจุดมุ่งหมายแน่วแน่ เธอไม่เคยลืมเลยว่าเต้าหู้ร้านนี้อร่อยจนทำเธอ..เกือบ..ตาย..ฮึ.. และวันนี้ เธอก็ตั้งใจจะไม่กินมันอีกแน่นอน เดี๋ยวตุยก่อนวัยอันควร..

           จะทำยังไงอ่ะ แต่งงานก็ยังไม่แต่ง หมักเหล้ายังไม่สะใจเลย แต่จะแวะไปซื้อฝากคนอื่นต่างหากล่ะ ทำไมคนอื่นชอบกินเต้าหู้กันนักวะเนี้ย? งง.. หลินหยาคิดก่อนที่จะเดินไปที่หน้าร้าน แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงสดใส “ข้าอยากซื้อเต้าหู้เจ้าค่ะ..เต้าหู้สักหลาย ๆ ชิ้น…หืม?..เอ๊ะ?!!” คำพูดของเธอสะดุดแทบจะกลายเป็นคำแบบอุสาน เมื่อสายตาเธอหวาดไปยังถาดไม้ตรงหน้า…วะ..ว่างเปล่า?..หืม? ว่างเปล่าเกือบหมด..

           แล้วดวงตาสีน้ำตาลมะพร้าวอ่อนก็เหลือบกรอกไปมา แล้วเห็นว่ามีเต้าหู้เพียงหนึ่งชิ้นที่ยังเหลือ

           ชิ้น?..หนึ่ง?..

           
ชิ้น..เดียว?? ถ้วน?....ฉินจ๊ะะะะะะะ

           เธอยืนค้างอยู่ตรงนั้นประมาณชั่ววินาที มือแตะริมโต๊ะไม้ ดวงตากระพริบปริบ ๆ อย่างไม่เข้าใจ สถานะการณ์ตอนนี้คืออะไรกัน เต้าหู้ทั้งถาดเในร้านที่บอกว่า ทำทุกวัน ทำสดใหม่ทุกเช้า …เหลือ..ชิ้นเดียว.. “หาาาาาา??” เสียงอุทานของหลินหยานั้นเบาจนแทบไม่ได้ยินหลุดออกมาแบบสงสัย เธอค่อย ๆ หันหัวของตนเองไปทางด้านในร้าน สายตาไปหยุดอยู่ที่ร่างสูงในชุดผ้าสีดำเรียบหรูของ คุณชายอันเล่อ..ซึ่งยืนอยู่ที่เดิม ท่าทางเรียบขรึมเหมือนไม่รู้สึกอะไรเลยกับความหายนะที่เกิดขึ้นนี้

           เธอยกนิ้วชี้ไปตรงถาดแบบไม่ตั้งใจ “ท่านชาย..มะ..หมดแล้วหรือเจ้าคะ?”

           หลิวอัน หรือคุณชายอันเล่อในตอนนี้ ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นจากบันทึกบัญชีตรงหน้า เหลือบตามองไปยังถาดแล้วสบตากับหลินหยา สีหน้าของเขานิ่งราวกับหิน น้ำเสียงก็ยังราบเรียบดั่งสายน้ำในช่วงฤดูเหมันต์

          “เหลือ 1 ชิ้น” เขาตอบ

           “ใช่..ข้าเห็นแล้วเจ้าค่ะ” หลินหยาเผลอยิ้มขื่นนิดหน่อยเหมือนจะกัดลิ้นตัวเองให้ได้.. หลิวอันก็พยักหน้าช้า ๆ แล้วเอ่ยอย่างจริงจังจนน่าหงุดหงิด “ข้าก็ว่าเจ้าเป็นคนฉลาด คงนับเลขได้ไม่ผิด”

           “........”
          WTF!!

           หลินหยาเบิกตาโตสะอึกกับน้ำเสียงเยือกเย็นแต่เหมือนเอาไม้หน้าสามมาฟาดกลางหน้ากันต่อหน้าคนอื่น หลินหยายกมือลูบหน้าตัวเองแล้วแก้มแดงนิดหน่อยอย่างหงุดหงิดปนขำจนยากจะแยกออกว่ารู้สึกอะไร ส่วนสิ่งที่หลิวอันทำกลับแค่ปรายตามองนางก่อนที่จะตอบต่อ “แล้วเจ้าจะเอาไหมล่ะ หนึ่งชิ้น หรือจะรอพรุ่งนี้” ก็คือบอกว่า ไม่ทำเพิ่ม มีแค่นี้..

           โอ้ยยย อีตาคุณชายอันเล่อ!!

           หลินหยาแทบจะกลอกตาไปสุดเบ้าใส่อีกคน ถ้าไม่ติดว่าเธอยังต้องรักษาภาพลักษณ์ตอนนี้สักหน่อย อาจจะได้ยินเสียงกัดฟันของเธออกมาเป็นจังหวะดนตรีพื้นบ้านไปแล้ว เธอหันกลับมามองหน้าอีกฝ่ายที่นิ่งขรึมไม่รู้ร้อนอะไรบ้างเลย เขาพึ่งตบหน้าเธอด้วยคำพูดที่สุภาพยัง..ยังจะมายืนแบบไม่แยแสอะไรนั้นอีก..

          “ข้าจะเอา” หลินหยาเอ่ยพน้อมกับเบิกตากว้างอย่างหัวเสียจนเจ้าหนึ่งชิ้นนั้นแทบกลายเป็นตัวปัญหาประจำปีตอนนี้ เธอซื้อเต้าหู้ไปด้วยหน้างอ หน้าตาคล้ายแมวที่โดนราดน้ำเวลาอาบน้ำแบบแมวขนเปียก ยังต้องทำท่าทางเรียบร้อยอีก แต่นั้นไม่ใช่จุดจบของวันนี้

           หลังจากจากที่รับเต้าหู้เสร็จแล้วก็ขยับมือเปิดกระเป๋าเจ็ดสมบัติเสียเลย แล้วยื่นกล่องขนมกุ้ยฮวาเล็ก ๆ สีชมพูเหลืองลวดลายอ่อนออกมาหนึ่งกลอ่ง ขนมที่ทำจากเกสรดอกไม้ รสหวานนวลกลิ่มหอมชวนฝัน แวบแรกก็คงรู้ทันทีว่า ไม่ได้มีให้เจ้าเถ้าแก่ร้านเต้าหู้ที่ปากคอเราะร้ายที่สุดในย่านนี้

           เธอส่งกล่องให้เขา ท่าทางไม่ได้อ่อนหวานแต่ก็ไม่ได้เสียมารยาท “ไม่ได้ให้ท่าน ข้าฝากให้แม่นางหรงเล่อบุตรสาวท่าน แต่ถ้ามันเหลือจะกินก็ได้ตามใจ” หลินหยากล่าวเสียงเรียบ น้ำเสียงชัดเจนหนักแน่นจนเด็กในร้านแทบจะชะงักมือที่ทำงานอยู่ พูดจบเธอก็ผลักกล่องนั้นใส่มืออีกฝ่ายราวกับจะส่งมอบของถวายพระ แต่แววตาที่จ้อง..เหมือนแมวขู่ฟ่อ..

           หลิวอันรับกล่องไว้ในมือ สีหน้ายังคงเรียบนิ่งแต่สายตากลับดูไม่เหมือนเดิม นัยน์ตาเข้มนิ่งเยือกเย็นคล้ายมีประกายบางอย่างวูบไหว คล้ายความรู้สึกที่เคยโดนใครสักคนพูดจากัดลิ้น "อืม" เขาตอบแค่สั้น ๆ พร้อมพยักหน้าน้อย ๆ ไม่ได้ตอบว่า ‘จะให้ถึงมือหรงเล่อ’ หรือ ‘จะเอาไปกินเอง’ เขาแค่พยักหน้า...แค่นั้น

           หลินหยาเบือนหน้าหนีในทันทีคล้ายไม่อยากรอคำตอบเธอก้าวเท้าออกจากร้านแบบเร็ว ๆ แต่อาการหงุดหงิดของเธอที่แสดงออกผ่านแผ่นหลังนั้นชัดเจน หลิวอันหันไปมองกล่องขนมอีกครั้งในมือ มองกล่องที่มีลายดอกกุ้ยฮวาเล็ก ๆ นั้นด้วยสายตาแปลกประหลาดคล้ายจะหัวเราะกับตนเอง แต่ไม่แสดงทางสีหน้าออกมาเลยสักนิด “ยังบอกว่าไม่ได้ให้ข้าอีก…” มือหนาเคาะเบา ๆ บนฝากล่องขนมนั้นหนึ่งที ก่อนที่จะหันหลังกลับไปทำงานของตนเอง


@Admin


พรสวรรค์: ลาภลอย (ไม้)
มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่
อื่น ๆ: ซื้อ เต้าหู้ ราคา 379 เหรียญอู่จู จำนวน 1 ชิ้น รวม 379 เหรียญอู่จู

รางวัล: +5 ความสัมพันธ์สนทนาทั่วไป [NPC-04] หลิว อัน
หัวดี โบนัสเพิ่มความโปรดปราน+20
โบนัส ความสัมพันธ์พิเศษ (VIP) กับ NPC +10 แต้ม
โบนัส ความโปรดปราน NPC เผ่ามนุษย์ (ผู้มีบุญ) +20 แต้ม
มอบ ขนมกุ้ยฮวา ขนมเกรดม่วง ความสัมพันธ์ +15
อาหารปรุง ความสัมพันธ์ +5


แสดงความคิดเห็น

คุณชายอันเล่อแจ้งยอดค้างชำระ จะส่งเต้าหู้ให้เมื่อแม่นางเคลียร์ยอดค้าง  โพสต์ 2025-6-22 14:28
วันที่ 19/5 รวมภาษี 53 ตำลึงเงิน //   โพสต์ 2025-6-22 14:27
วันที่ 21/5 รวมภาษีเหลือ 38 ตำลึงเงิน  โพสต์ 2025-6-22 14:27
((และหลิวอันเช็คบัญชีย้อนหลังก่อนจะเรียกเก็บเงินย้อนหลัง))  โพสต์ 2025-6-22 14:26
คุณชายอันเล่อบอก 7 ตำลึงเงินหายไปไหน!!! ราคาเต้าหู้ 7 ตำลึงเงิน 379 อู๋จู  โพสต์ 2025-6-22 14:24
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
วาสนาเซียน
ด้ายแดงแห่งโชคชะตา
แหวนดาราจรัส(D2)
ตำราอาหารลับของเสี่ยวจ้าวจื่อ
ยอดคีตศิลป์
ปราณกระเรียนขาว(ไม้)
ขลุ่ยพันธะในเงาศาลา
เกราะทองเทวะ
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x16
x16
x16
x30
x1
x35
x5
x27
x2
x10
x8
x10
x2
x1
x3
x114
x5
x5
x5
x5
x6
x4
x4
x4
x21
x1
x159
x20
x21
x1
x5
x34
x7
x246
x1
x1
x1
x145
x5
x6
x66
x20
x6
x93
x79
x5
x209
x5
x50
x5
x85
x6
x196
x56
x75
x78
x4
x105
x5
x8
x4
x3
x12
x11
x8
x15
x69
x1
x1
x5
x53
x42
x47
x16
x140
x10
x11
x10
x26
x9
x10
x4
x15
x60
x55
x2
x1
x104
x64
x9
x10
x167
x55
x28
x70
x78
x49
x5
x3
x120
x12
x9
x11
x5
x3
x3
x9
x5
x6
x1
x1
x6
x13
x8
x135
x70
x20
x11
x14
x48
x3
x1
x4
โพสต์ 2025-6-22 15:19:11 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ ยี่สิบสอง เดือน ห้า รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11
ยามอู่ เวลา 12.30 - 13.00 น. มาซื้อเต้าหู้ ณ ร้านเต้าหู้อันเล่อจ้วน (พบ หลิว อัน)


         หลินหยาที่กำลังก้าวออกจากธรณีประตูพลางเหมือนจะก้นด่าอีตาเจ้าของร้านปากร้ายพูดน้อยต่อยหนัก ทันทีที่เธอหันหลังจะก้าวออกจากร้านเธอได้ยินเสียงต่ำเรียกเรียบนิ่งตามหลังมาทันทีไม่ช้าไม่เร็ว “แม่นางหลินหยารอสักครู่” เสียงฝีเท้าของหลินหยาหยุด เธอหันกลับไปอย่างแปลกใจเล็กน้อย ขณะที่อีกฝ่ายเดินตรงมาพร้อมหยิบสมุดบัญชีปกไม้ขึ้นมาด้วยเช่นเดียวกัน ท่าทางนั้นมัน..ใช่เลย..เป็นเขาแบบเต็มขั้น..คุณชายอันเล่อ หรือจะเรียกว่าเถ้าแก่ร้านเต้าหู้จอมจู้จี้ก็เห็นจะได้

         “ขาดไป 7 ตำลึง”

         “หา?...” หลินหยาเผลอหลุดเสียงเบา สีหน้าเอ๋อเข้าเต็มขั้น ดวงตาใสนั้นซื่อแบบงง ๆ แบบ..ไม่ได้ตั้งใจให้ดูโง่แต่น่าจะโง่จริง เธอจ้องเขาตาโตเหมือนคนที่เพิ่งโดนตีกัวด้วยไม้เรียวแห่างความจริงหรืออะไรที่เธอคาดไม่ถึงสักนิดเลยตอนนี้.. “ข้า..ข้าก็ซื้อชิ้นละ 379 เหรียญอู่จูมาตลอดเลยนี้เจ้าคะ?...นี่ก็จ่ายไปแบบนั้นทุกวัน” หลินหยานั้นพูดพลางมองหน้าเขาแบบงง ๆ ..

         หลิวอันหรือคุณชายอันเล่อกระพริบตาช้า ๆ หนึ่งครั้ง ดวงตาเรียบนิ่งอย่างกับอ่านท่าทีของเธอเป็นหนังสือแล้วพูดด้วยน้ำเสียงไม่ใส่สี ไม่ประชด ไม่โกรธเพียงแต่นิ่งจนน่าหวั่นใจ “ราคาขายจริงคือ ชิ้นละ 7 ตำลึงเงิน 379 เหรียญอู่จู รวมภาษีแล้ว” เขาเปิดสมุดบัญชีในมือ ใช้นิ้วเรียวข้องามนั้นเคาะเบาะ ๆ บนบรรทัดวันที่ 19 เดือน 5 “วันที่ 19 เดือน 5 ขาด 53 ตำลึงเงิน วันที่ 21 เดือน 5 ขวด 38 ตำลึงเงิน” เขาเงยหน้าขึ้นสบตากับเธอ “รวมวันนี้ที่แม่นางควรจ่ายคือ 98 ตำลึงเงิน 379 เหรียญอู่จู”

         “หา…” หลินหยาอ้าปากค้างยืนตัวตรงเหมือนจะกลายเป็นประติมากรรมภายในร้าน ความเงียบชั่้วอึดใจเหมือนทำให้กลิ่นเต้าหู้ที่ลอยอยู่ในอากาศชัดขึ้นด้วยซ้ำ .. “แต่..แต่ข้าไม่ได้ตั้งใจเบี้ยวท่านนะ ข้าคิดว่ามันคือราคาเต็มแล้ว” เต้าหู้บ้านไหนราคาแพงขนาดนี้เนี้ย รู้ว่ามีร้านเดียวในฉางอัน แต่นี้มัน..พระเจ้า จะบ้าตาย..!! เธอพูดเร็วขึ้นพลางควักถุงเงินของตัวเองแทบจะทันที แล้วหันมองเขาแบบจริงจังเล็กน้อย “แล้วเหตุใดท่านไม่พูดตั้งแต่วันแรกเล่า”

         หลิวอันปิดสมุดบัญชีลงเสียงเบา “เพราะข้าอยากดูว่าเจ้าจะเซ่อซ่าได้นานแค่ไหน” คำตอบนั้นทำเอาหลินหยาแทบอยากเอาหัวโขกเคาน์เตอร์ไม้ เธอเงยหน้าขึ้นอย่างหงุดหงินอแต่ยังติดคำว่า รู้จักรักษามารยาทและเธอก็เบี้ยวเงินเขาจริง ๆ ด้วยในหัว..

         “ข้านึกว่าท่านจะสุภาพเรียบร้อยกว่านี้เสียอีก ที่แท้ก็ชอบซ้ำเติมคนเผลอ” เธอบอกว่าเธอเผลอ แต่เอาความจริงเธอน่าจะซื่อบื้อมากกว่านะเนี้ย

         “ข้าไม่ได้ซ้ำเติม..ข้าแค่ไม่เข้าใจว่าคนที่แม่นยำเวลาเป่าขลุ่ยถึงขั้นหางเสียงไม่เพี้ยน ยังจะคำนวณเศษเหรียญพลาดไปขนาดนี้ได้อย่างไร” คำพูดนั้นทำให้หลินหยาอยากจะตบหน้าตัวเองเบา ๆ แล้วบ่นเสียงอู้อี้ในลำคอ เธอหยิบเศษเงินออกมานับอย่างไวพร้อมกับยัดลงบนเคาน์เตอร์ด้วยท่าทางที่ดูจะอยากจบเรื่องนี้เต็มที

         “ครบ 98 เหรียญตำลึงเงิน 379 เหรียญอู่จูเจ้าค่ะ” เสียงของเธอเน้นคำว่าเจ้าค่ะใส่เขาเหมือนจะกระแทกอารมณ์ที่ทั้งเขิน ทั้งโกรธ ทั้งอาย และทั้งรู้สึกผิด แล้วหลิวอันก็เก็บเหรียญไปเรียบร้อย ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ราวกับนี่คือกิจวัตรธรรมดาที่มีแม่นางหน้าหวานคนหนึ่งมาจ่ายเศษเหรียญตามหลังสามวัน

         หลินหยาเหมือนกับจะอารมณ์ไม่ค่อยคงที่เท่าไร..แต่ระหว่างที่เธอหันหลังกลับเขากลับเอ่ยขึ้นเรียบ ๆ “ข้าไม่ได้โกรธ..เพียงแต่ข้าเฝ้าดูเจ้าทำสิ่งที่เล็กน้อยเสมอ ด้วยความคิด..และไม่รู้เลยว่าตนเองกำลังถูกเฝ้าดูอยู่หรือไม่”

         หญิงสาวที่ได้ยินเช่นนั้นก็เหมือนจะชะงักค้าง ลมหายใจเหมือนติดขัดเล็กน้อย หัวใจของเธอเต้นประหลาดไม่รู้ว่าเพราะความโกรธ ความเขิน ความอาย หรือความสับสนที่ทำให้ตัวเองเป็นเช่นนี้แล้วรีบเดินหนีออกไปจากตรงนี้อย่างรวดเร็ว..เพราะหากเป็นเช่นนี้ เธอจะสู้หน้ากับเขาต่อได้ยังไงล่ะ แม้เธอจะฝืนทำสีหน้าเรียบนิ่ง แต่ภายในกลับโกลาหลราวกับพายุทอร์นาโดขนาดย่อม ความรู้สึกปะปนพวยพุ่งขึ้นมาจนแทบจับต้นชนปลายไม่ถูก ทั้งโกรธเขาที่ไม่เตือน ทั้งเขินอายตัวเองที่พลาดง่าย ๆ อย่างนั้น ทั้งความรู้สึกบางอย่างที่แค่แวบเดียวก็พลุ่งขึ้นมาจนร้อนข้างแก้ม

         มือของเธอที่กำลังจะกำชายกระโปรงแน่นชะงักค้าง สายตาเบิกนิด ๆ ก่อนรีบเบนหนี...ไม่ใช่เพราะกลัว ไม่ใช่เพราะโกรธ ไม่ใช่เพราะยินดีหรือหวั่นไหวอย่างเดียวดาย แต่มัน...มากกว่านั้น มากจนอยากหนีจากตรงนั้นโดยไม่พูดอะไรสักคำ

         หลิวอันยังคงยืนอยู่ตรงที่เดิม มองตามหลังเล็กของเด็กสาวที่เล็กลงเรื่อย ๆ ในสายตาโดยไม่ได้ขยับแววตาของเขาและแววตาก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยสักนิด แต่ลึกในใจของเขากลับเหมือนมีคลื่นระลอกหนึ่งค่อย ๆ ซัดเข้ามากระทบชายฝั่งของตัวเขาเอง ไม่ได้ไล่ตาม ไม่ได้เรียกร้องหรือทำสิ่งใดให้ดูร้อนรน กลับกัน..สิ่งที่เขาทำคือการยืนนิ่งเพียงเท่านั้น คิ้วขยับเข้าหากันช้า ๆ ประหนึ่งมีอะไรบางอย่างสะกิดใจ

         “แปลกจริง…”

         เขาไม่ยิ้ม แต่แววตาเหมือนเปลี่ยนไปช้า ๆ เหมือนบางอย่างในตัวของเขาคลายออก เงียบงันแต่รุนแรงไม่ต่างจากเปลวไฟในเตาถ่านที่ลุกโชติช่วงในร้านอาหาร เขาเดินกลับไปมองกล่องขนมที่พึ่งได้มา เปิดฝาแล้วพบว่าด้านในคือขนมกุ้ยฮวา สีทองอ่อนกลิ่นหอมหวานที่เธอบอกว่า ไม่ได้ให้เขา แล้วขยับมือปิดฝากล่องพลางพูดกับตัวเองเล็ก ๆ ..

         “ข้าจะไม่กินของคนที่ ‘ไม่ได้ให้ข้า’ หรอกนะ”




@Admin


พรสวรรค์: ลาภลอย (ไม้)
มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่
อื่น ๆ: จ่ายเงินคืนให้ครบพร้อมภาษีที่จ่ายเงินช้าด้วย 98 ตำลึงเงิน 379 เหรียญอู่จู

รางวัล: +5 ความสัมพันธ์สนทนาทั่วไป [NPC-04] หลิว อัน
หัวดี โบนัสเพิ่มความโปรดปราน+20
โบนัส ความสัมพันธ์พิเศษ (VIP) กับ NPC +10 แต้ม
โบนัส ความโปรดปราน NPC เผ่ามนุษย์ (ผู้มีบุญ) +20 แต้ม





แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-04] หลิว อัน เพิ่มขึ้น 55 โพสต์ 2025-6-22 16:04
โพสต์ 16459 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-6-22 15:19
โพสต์ 16,459 ไบต์และได้รับ +6 EXP +10 คุณธรรม +8 ความโหด จาก กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)  โพสต์ 2025-6-22 15:19
โพสต์ 16,459 ไบต์และได้รับ +3 EXP +10 คุณธรรม +6 ความโหด จาก ผู้มีบุญ  โพสต์ 2025-6-22 15:19
โพสต์ 16,459 ไบต์และได้รับ +5 คุณธรรม จาก ทักษะนักดนตรีข้างถนน  โพสต์ 2025-6-22 15:19
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
วาสนาเซียน
ด้ายแดงแห่งโชคชะตา
แหวนดาราจรัส(D2)
ตำราอาหารลับของเสี่ยวจ้าวจื่อ
ยอดคีตศิลป์
ปราณกระเรียนขาว(ไม้)
ขลุ่ยพันธะในเงาศาลา
เกราะทองเทวะ
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x16
x16
x16
x30
x1
x35
x5
x27
x2
x10
x8
x10
x2
x1
x3
x114
x5
x5
x5
x5
x6
x4
x4
x4
x21
x1
x159
x20
x21
x1
x5
x34
x7
x246
x1
x1
x1
x145
x5
x6
x66
x20
x6
x93
x79
x5
x209
x5
x50
x5
x85
x6
x196
x56
x75
x78
x4
x105
x5
x8
x4
x3
x12
x11
x8
x15
x69
x1
x1
x5
x53
x42
x47
x16
x140
x10
x11
x10
x26
x9
x10
x4
x15
x60
x55
x2
x1
x104
x64
x9
x10
x167
x55
x28
x70
x78
x49
x5
x3
x120
x12
x9
x11
x5
x3
x3
x9
x5
x6
x1
x1
x6
x13
x8
x135
x70
x20
x11
x14
x48
x3
x1
x4
โพสต์ 2025-6-24 00:42:13 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย LinYa เมื่อ 2025-6-24 03:05


วันที่ ยี่สิบสาม เดือน ห้า รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11
ยามซวี เวลา 19.30 น. เป็นต้นไป ณ ร้านอันเล่อจ้วน


          ร้านอัลเล่อจ้วนในยามค่ำ แม้จะไม่มีเสียงคึกคักของลูกค้า ไม่มีกลิ่นหอมของเต้าหู้ทอดลอยตลบเหมือนยามกลางวัน แต่บรรยากาศกลับเงียบสงบจนน่าประหลาดใจ เหล่าคนงานที่ยังอยู่นั้นทำความสะอาดโดยไม่มีใครถามสักคำเมื่อเห็นเถ้าแก่ผู้มักเข้มงวดกับทุกสรรพสิ่งเดินเข้ามาพร้อมสตรีแปลกหน้า แม้จะไม่ได้แต่งตัวงามดั่งเช่นนางรำในหอมนางโลม แต่แววตาแดงก่ำและอาการเหม่อลอยของนางกลับน่าสงสารมากกว่าอะไรเสียอีก

          หลิวอันเดินนำหลินหยาผ่านบานประตูไม้บานใหญ่เข้ามาในพื้นที่ด้านหน้า ซึ่งเคยเป็นที่ต้อนรับแขกและลูกค้า เขาหุดฝีเท้าแล้วหันหลังกลับมามองหญิงสาวที่เดินตามมาเงียบ ๆ ไม่ได้ก้าวนำหรือเร่งรัด บางครั้งนางก็เดินเชื ่องช้าราวกับแบกบางสิ่งไว้บนบ่า น้ำหนักที่มองไม่เห็นแต่กดร่างให้ทรุดลงได้เพียงด้วยเวลาเท่านั้น

          เมื่อเขาพาเธอมาถึงโต๊ะริมผนังที่ไกลจากสายตาคนงานเล็กน้อย เขาก็ไม่ได้พูดอะไร เพียงใช้มือลูบโต๊ะเบา ๆ เพื่อปัดเศษฝุ่นที่ไม่มีแล้วผายมือให้เธอนั่ง หลินหยาไม่ได้สบตาเขา ไม่ได้ทำหน้ากลบเกลื่อนหรือแสร้างยิ้มอย่างเคย เธอเพียงนั่งลงช้า ๆ เหมือนคนหมดแรง เหมือนคนที่นั่งก็ไม่ใช่เพื่อพัก แต่นั่งเพราะไม่มีเรี่ยวแรงจะยืนอีกต่อไป ดวงตาของเธอแดงก่ำช้ำ เส้นผมที่เคยเรียงตัวงามเรียบร้อยหลุดรุ่นลงเล็กน้อยเพราะฝีเท้าที่นางเดินมา ดวงหน้าซีดเซียวไร้สีเลือด ขอบตาเปียกชื้นเป็นเงาน้ำ นางวางมือซุกไว้บนตัก ไม่กอด ไม่กุม ไม่มีแม้แต่ท่าทีระแวงข้างกาย เพราะดูเหมือนว่าใจของหลินหยา…จะไม่เหลือที่ว่างให้สิ่งใดอีกแล้ว

          หลิวอันยืนนิ่งเงียบอยู่หน้าร่างนั้นอยู่ชั่วครู่หนึ่ง ไม่ได้ถามหรือกระแอมไอ หรือแม้แต่จะถอยหนีสายตารที่ไม่ยอมมองเขา เขาเพียงทอดตามองเธอ ราวกับเห็นสิ่งที่นางไม่พูดทั้งหมดผ่านท่าทางอันเงียบงันนี้ นานหลายนาทีที่ไม่มีใครพูดอะไรสักคำ ไม่มีเสียงใดในโลกที่ดังไปกว่าเสียงใจเต้นเบา ๆ ของคนสองคนที่ต่างก็ยังไม่รู้ว่าตนควรพูดคำไหนก่อนดี เอาความจริงเขารู้จากคนที่ส่งให้ติดตามหลินหยาไปเงียบ ๆ ไม่ให้นางรู้ตัว ว่าตอนนี้นางอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับจางกงกง...ขันทีคนนั้น..

          หลิวอันขยับมือเบา ๆ ไปหยิบกาน้ำชาที่มีอยู่ตรงมุมโต๊ะ ไม่ได้ปลอบอะไร แค่รินน้ำชาใส่ถ้วยแล้ววางมันลงตรงหน้าหลินหยาโดยไม่พูดอะไร ท่ามกลางความเงียบที่ถาโถม ไม่ใช่ความอึดอัด ไม่ใช่ความห่างเหิน แต่เป็นความเงียบที่ยอมรับ ว่าบางความเศร้า…มันใหญ่เกินกว่าจะพูดแก้ให้หาย เขาแค่อยู่ตรงนั้น อยู่ใกล้เธอพอจะให้รู้ว่าเธอไม่ได้อยู่คนเดียว แม้ว่าโลกทั้งใบจะเหมือนหายไปจากใจเธอก็ตาม

          ภายในร้านเงียบสงัด มีเพียงเสียงถูพื้นที่เสียดสีกับกระเบื้องหยาบ ๆ ด้านในมุมครัว เสียงหยดน้ำจากอ่างไม้ดังเป็นจังหวะเย็นชา และลมหายใจหนักของหญิงสาวผู้ที่เหมือนโลกทั้งใบดึงลงมาให้พังทลาย หลินหยา..นางยังนั่งนิ่งตรงโต๊ะไม้ตรงนั้น ตอนนี้เธอคือคนเดียวในห้วงความเงียบ นางนั่งตัวตรงเหมือนตุ๊กตาที่หมดลมหายใจ ใบหน้าขาวซีดไร้สีเลือด ดวงตาสีน้ำตาลมะพร้าวอ่อนปิดสนิทอย่างพยายามกลั้นอะไรบางอย่างไว้ใต้เปลือกตานั้น มือสองข้างวางอยู่บนตัก ริมฝีปากเม้มแน่นราวกับกลัวว่าแม้แต่ลมหายใจจะเผยความอ่อนแอออกมาให้ใครได้เห็น

          “ท่านชาย..” น้ำเสียงของหลินหยาเบาหวิวจนแทบคล้ายสายลมที่พัดผ่านรอยร้าวของประตูเก่าที่ใกล้พังเต็มทน “หากโลกใบนี้มืดแปดด้าน ข้าควรทำเช่นไร..”

          หลิวอันเหลือบมองแม้คำพูดจะดูเรียบง่ายแต่กลับมีน้ำหนักมหาศาล หนักจนแทบจะบดบังอากาศทั้งร้านให้หยุดนิ่ง เขาเงียบไปครู่หนึ่ง ไม่พูดหรือยิ้มและขยับตัวแม้แต่นิดเดียว ดวงตาของเขาจ้องจับไปที่เด็กสาวตรงหน้า หญิงสาวที่เคยพูดจาอวดดี หน้างอใส่เขาแทบทุกครั้งที่พบกัน และบ้างครั้งก็ถึงขั้นดื้อรั้นแบบไม่เกรงใจ แต่ตอนนี้ นางดูเปราะบางจนหลิวอันเองยังไม่แน่ใจว่าคนตรงหน้าใช่คนเดียวกับหญิงสาวที่เคยแย่งเต้าหู้ชิ้นสุดท้ายในร้านของเขาหรือไม่

          “ถ้าเจ้าถามข้าในฐานะพ่อค้าเต้าหู้…” เขาเริ่มตอบ น้ำเสียงยังราบเรียบเช่นเคย ทว่าแววตานั้นลึกและแน่นิ่ง “…ข้าคงตอบว่า เมื่อไฟดับ ก็จุดตะเกียง เมื่อถนนหาย ก็เหลาไม้ไผ่ทำไม้ค้ำเดินต่อ เมื่อคนไม่รับฟัง ก็เงียบไว้ รอฟังเสียงหัวใจตนเองแทน”

          “แต่ถ้าเจ้าถามข้าในฐานะคนรู้จัก..ข้าจะบอกว่าอย่ากลัวความมืดนัก เพราะบางครั้งมันอาจช่วยให้เรารู้ว่าดวงตาเรานั้นจะมองเห็นอะไรได้บ้างเมื่อไม่มีใครคอยชี้นำ” เขาอยู่ตรงข้ามกับเธอ ชั่วขณะนั้นไม่มีคำปลอบโยน ไม่มีมุกตลก ไม่มีเต้าหู้ ไม่มีอะไรเลย มีเพียงชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่ตรงข้ามหญิงสาวที่แหลกสลาย เขาหลุบตามองมือของนางบนตัก มือที่เรียวสวยงามบอบบางน่าทะนุถนอมแม้ฝึกดนตรีไม่หยุดหย่อน มือที่เคยส่งขนมกล่องเล็กให้เขาให้ลูกสาวเขา มือที่เคยลนลานจ่ายเงินผิดมาเกือบอาทิตย์โดยไม่รู้ตัว

          หลิวอันไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาเพียงพิงฟลังกับพนักเก้าอี้ไม้ แล้วเอ่ยเสียงเบาราวกับบ่น “เจ้าก็เหมือนคนหลงทางในป่าใหญ่ ถึงไม่พูดอะไรเลย ข้าก็รู้ว่าเจ้ากำลังพยายามเดินอยู่” เขาไม่ยื่นมือออกไป ไม่เอ่ยถามใด ๆ เพราะเขารู้ว่า...ตอนนี้ การอยู่ตรงนี้เฉย ๆ อาจจะเป็นสิ่งเดียวที่หลินหยาต้องการ





@Admin


พรสวรรค์: ลาภลอย (ไม้)
มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่
อื่น ๆ: ปลดหัวใจจจจจจจจจจจจสักที ก่อนนุจะต้องไปเป็นนางกำนัล ฮืออ
รางวัล: -



แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 14642 ไบต์และได้รับ 8 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-6-24 00:42
โพสต์ 14,642 ไบต์และได้รับ +2 EXP +5 คุณธรรม +4 ความโหด จาก กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)  โพสต์ 2025-6-24 00:42
โพสต์ 14,642 ไบต์และได้รับ +5 คุณธรรม +4 ความโหด จาก ผู้มีบุญ  โพสต์ 2025-6-24 00:42
โพสต์ 14,642 ไบต์และได้รับ +5 คุณธรรม จาก ทักษะนักดนตรีข้างถนน  โพสต์ 2025-6-24 00:42
โพสต์ 14,642 ไบต์และได้รับ +3 ความชั่ว +5 ความโหด จาก ขลุ่ย  โพสต์ 2025-6-24 00:42
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
วาสนาเซียน
ด้ายแดงแห่งโชคชะตา
แหวนดาราจรัส(D2)
ตำราอาหารลับของเสี่ยวจ้าวจื่อ
ยอดคีตศิลป์
ปราณกระเรียนขาว(ไม้)
ขลุ่ยพันธะในเงาศาลา
เกราะทองเทวะ
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x16
x16
x16
x30
x1
x35
x5
x27
x2
x10
x8
x10
x2
x1
x3
x114
x5
x5
x5
x5
x6
x4
x4
x4
x21
x1
x159
x20
x21
x1
x5
x34
x7
x246
x1
x1
x1
x145
x5
x6
x66
x20
x6
x93
x79
x5
x209
x5
x50
x5
x85
x6
x196
x56
x75
x78
x4
x105
x5
x8
x4
x3
x12
x11
x8
x15
x69
x1
x1
x5
x53
x42
x47
x16
x140
x10
x11
x10
x26
x9
x10
x4
x15
x60
x55
x2
x1
x104
x64
x9
x10
x167
x55
x28
x70
x78
x49
x5
x3
x120
x12
x9
x11
x5
x3
x3
x9
x5
x6
x1
x1
x6
x13
x8
x135
x70
x20
x11
x14
x48
x3
x1
x4
โพสต์ 2025-6-24 16:00:26 | ดูโพสต์ทั้งหมด


วันที่ ยี่สิบสี่ เดือน ห้า รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11
ยามจื่อ เวลา 23.00 - 01.00 น. เป็นต้นไป ณ ร้านอันเล่อจ้วน


          ห้องเก็บของด้านหลังร้านอันเล่อจ้วนนั้นเล็กมากจนแทบหมุนตัวไม่ถนัดเพราะของเยอะ กำแพงไม้ขึ้นชื้นเย็นจากไอค่ำของเมืองหลวงในฤดูร้อนแห่งนี้ กลิ่นผ้าใบและฟืนเก่า ๆ คลุ้งปนกับกลิ่นหวานของถุงขนมที่วางค้างบนชั้นไม้ ดวงจันทร์ด้านนอกลอยสูง แสงลอดผ่านช่องไม้เข้ามาเป็นเส้นริ้วซีดจาง สาดลงบนร่างบอกบางที่ขดตัวอยู่ใต้ผืนผ้าห่มหยาบสีหม่น หลินหยาไม่ได้หลับสนิท แต่ก็ไม่ลุกขึ้น เธอเพียงขนตัวนิ่ง เงียบงันอยู่ท่ามกลางลังไม้และกองผ้าเก่าที่ซ้อนทับชั้นเป็นอีกที ความเงียบทำให้ความคิดก้องในหัวชัดเจนขึ้นทุกวินาที เสียงหัวใจของเธอเองราวกับสะท้อนอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ แห่งนี้

          เธอไม่ได้กลับไปที่หอว่านหงเหริน ไม่ใช่เพราะอยากหนี แต่เพราะหัวใจของเธอแตกละเอียดเกินกว่าที่จะกลับไปท่ามกลางแสงโคม เสียงหัวเราะ กลิ่นโลหะคาวที่ปะปนกับน้ำหอมพวกนั้นในตอนนี้ เธอไม่รู้ว่าคุณชายอันเล่อรู้หรือไม่ หรือเขารู้มาตั้งแต่แรกแล้วว่าเธอแอบอยู่ตรงนี้หรือเปล่า..

          แต่หลินหยารู้ว่าเมื่อประตูหลังร้านไม่ได้ถูกล็อคไว้ ทั้งที่ควรถูกปิดให้สนิทนับตั้งแต่สามทุ่มของทุกคืน มันหมายความว่ามีคนคนหนึ่ง คนที่ไม่พูด ไม่เอ่ยถาม ไม่เรียกชื่อเธอแม้แต่ครั้งเดียวตั้งแต่ค่ำที่ผ่านมา ได้เฝ้าดูเธอจากอีกด้านหนึ่งอยู่เสมอ ๆ และเลือกที่จะไม่ทำลายความเงียบนี้ลงเลย หลิวอันไม่ปรากฎตัวให้เห็น ไม่พูดให้ได้ยิน แต่เพียงสั่งคนงานเพียงสั้น ๆ ก่อนร้านปิด

          “คืนนี้ไม่ต้องล็อคประตูหลัง ปล่อยไว้แบบนั้น” นั้นคือทั้งหมดที่ไม่มึคำอธิบายหรือแววตาอ่อนโยน แต่สิ่งนั้นสำหรับหลินหยามันมากพอ มากพอที่จะให้เธอซุกหน้าแนบแขน ลมหายใจหนักสะอื้อนเพียงแผ่ว เธอไม่ได้โดดเดี่ยว…ถึงจะเหมือนอยู่คนเดียว ผืนผ้าห่มเก่าเริ่มอบอุ่นขึ้นแม้ไม่ได้มาจากเตาไฟใด ๆ ความเหนื่อยล้าจากร่างกายค่อย ๆ ละลายหายไป เธอซุกกายขดแน่นขึ้น ลมหายใจเริ่มสม่ำเสมอ แม้จะยังเจ็บปวด แม้จะยังไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อไป แต่ในคืนที่เธอไม่อาจกลับไปที่ใดได้อีก

          ในความเงียบสงัดของยามจื่าอ เสียงจิ้งหรีดบางตัวยังไม่หยุดส่งเสียง ลมกลางคืนลูบไล้กระดิ่งที่ห้อยอยู้ใต้ชายคาร้านค้าให้สั่นไหวเบา ๆ เป็นจังหวะเดียวกับที่มือของชายผู้หนึ่งค่อย ๆ วางพิณไม้ลงบนตักอย่างระมัดระวัง ราวกับกลัวมันจะสะเทือนความทรงจำอันเก่าแก่ที่หลับใหลอยู่ในไม้ชั้นบางนั้นให้ลุกขึ้นมาอีกครั้ง..

          หลิวอัน หรืออ๋องหลิวอันแห่งหวยหนาน มักไม่ปรากฎกายยามค่ำคืนโดยไร้สาเหตุจำเป็น แต่ในคืนนีน้เขากลับก้าวเท้าออกมาจากจวนอย่างเงียบเชียบ ผ่านโถงว่างเปล่า ผ่านแสงไฟวูบไหวใต้ร่มไม้ แล้วมาหยุดอยู่ตรงล้านเล็ก ๆ หลังร้านเต้าหู้ที่ไม่มีใครอยู่..นั้นสิ ไม่อยู่ตรงหลังร้าน แต่ไม่ได้หมายความว่าด้านในหลังร้านนั้นไม่มีใครอยู่นี้จริงไหม?..

          พิณไม้เก่าที่เก็บไว้ไม่รู้กี่ปี ถูกถือออกมาด้วยมือที่มักจะทำแต่งาน จดแต่ตัวเล็ก ตวัดปากกา บงการเกมการเมืองหรือบัญชาความตาย แต่ค่ำคืนนี้มือคู่นั้นกลับค่อย ๆ ปรับสาย คลึงลูบ และดีดลงไปอย่างเงียบงัน ราวกับทุกเสียงที่เขาเคยกลืนไว้ กำลังค่อย ๆ ถักทอเป็นทำนอง เสียงแรกที่เปล่งออกมา แห้งกรอบ และสั่นไม่ต่างจากเสียงหัวใจของเขาที่ไม่เคยพูดกับใครเลย เสียงต่อมาเริ่มเข้าที่เข้าทาง แว่วเบาแต่มั่นคง มีความลังเลในจังหวะแรก ๆ แล้วแปรเปลี่ยนเป็นท่วงทำนองอันเรียบง่าย ไม่มีการเสแสร้ง ไม่มีความพยายามโอ้อวดฝีมือเพราะเขาไม่ได้เล่นเพื่ออวดใครเลย

          เขาแค่เล่น..เพราะใจอยากให้ใครบางคนได้ยิน..

          ท่ามกลางแสงโคมไฟเก่าที่สาดแสงนวลส้มลงบนเงาด้านหนึ่งของชายหนุ่ม ริมฝีปากของเขาไม่เอื้อนเอ่ยใด ๆ ดวงตาคมเข้มนั้นมองเหม่อไปยังเงามืดใต้ชายไม้หลังร้านตรงที่เขารู้ว่านางกำลังหลับอยู่หรืออย่างน้อยก็อาจกำลังฟังอยู่ หลิวอันไม่ได้ต้องการคำตอบตอนนี้ ไม่ต้องการให้เธอออกมาหาในตอนนี้ หรือไม่ต้องการให้เธอรู้ด้วยซ้ำว่าเขามานั่งตรงนี้

          แต่เขารู้ดี..ว่าคนที่บาดเจ็บมักหลับได้ยาก และคนที่ร้องไห้จนอ่อนแรงมักไม่กล้าพูดความจริงใด ๆ ออกมาอีกในคืนนั้น เขาจึงเลือกใช้เสียงพิณนี้ เล่นอย่างเงียบ ๆ ไม่ใช่เพราะอยากให้เธอรู้สึกดี แต่เพราะเขาไม่รู้ว่าจะอยู่ข้างเธอในฐานะอะไร

          พ่อค้าเถ้าหู้..ที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย?
          อ๋องหลิวอันที่ไม่เคยชายตามองผู้ใด
         
หรือชายคนหนึ่งที่ไม่เคยหยิบยื่นอะไรให้เธอได้นอกจากความเงียบ

          เสียงพิณที่แผ่วเบาแต่เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ในยามค่ำคล้ายสายลมต้องกลีบดอกไม้หล่น เสียงนั้นไหลผ่านใจที่เหี่ยวแห้งของหลินหยา เธอลืมตาขึ้นอย่างช้า ๆ ใต้ผ้านอนที่ยังอุ่นกลิ่นฝุ่นไม้ผสมกลิ่นเต้าหู้จาง ๆ ในห้องเก็บของของหลังร้านอันเล่อจ้วน ดวงตาที่เคยแดงก่ำคล้ายยังบวมช้ำเล็กน้อยจากการร้องไห้ที่ผ่านมากลับมองผ่านม่านความฝันเข้าสู่เสียงจริงที่ลอดผ่านผนังไม้เข้ามาอย่างอ่อนโยน..

          เธอไม่พูดอะไร ไม่เรียกหาใคร ไม่ผลีผลามออกไปด้วย ไม่แม้แต่จะปัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย เธอเพียงแค่ลุกขึ้นจากเสื่อเก่า ๆ แล้วเดินไปเปิดบานประตูไม้บานเล็ก ๆ อย่างแผ่วเบาเสียงกรอบแกรบของกลอนขัดกึกก้องอยู่เพียงในใจของเธอเท่านั้น เธอแง้มประตูไว้นิดเดียวเท่านั้น ไม่พอให้คนข้างนอกเห็น ไม่พอให้แสงลอดเข้ามาจนแสบตา แต่พอให้เธอเห็นและได้ยินเขาเท่านั้น

          เงาของชายหนุ่มผู้นั้นนั่งอยู่ภายใต้โคมผ้าผืนหนึ่ง แสงส้มอ่อนทาบเงาของเขายาวออกไปถึงริมกำแพง เห็นเพียงเสี้ยวหน้าที่โน้มต่ำลงเล็กน้อย คล้ายเงี่ยหูฟังเสียงของตนเองขณะดีดสายพิณทีละวรรคในบทเพลง นิ้วเรียวยาวขยับอย่างมั่นคง ราวกับมือของพ่อค้าที่ฝึกควบคุมความเรียบง่ายในทุกการเคลื่อนไหวได้อย่างสงบงัน และช่ำช่องในความเงียบเฉพาะของตนเอง หลินหยาไม่รู้ว่าเขาเล่นเพลงนี้ให้ใคร อาจะไม่ใช่เธอ อาจเป็นความเศร้าของเขาเอง อาจเป็นใครสักคนที่เขาเคยสูญเสีย หรืออาจเป็นตัวเขาในวันที่อ่อนแอเกินกว่าจะพูดกับใครได้..

          แต่เธอรู้…รู้ว่าเขารู้ว่าเธอกำลังฟังมันอยู่

          เธอมั่นใจในสิ่งนั้นพอ ๆ กับความจริงที่ว่าเขาไม่เอ่ยอะไรเลยตั้งแต่ที่เธอเดินเข้าร้านของเขา ไม่ถามหรือซักไซร้ ไม่ถึงขั้นพูดชื่อของเธอออกมาด้วยซ้ำ เขาตอบเมื่อเธอถามเพียงเท่านั้น แต่ตอนนี้ เขากำลังพูดอยู่ ผ่านเสียงพิณ..

          และเธอก็กำลังตอบผ่านดวงตาที่มองเขาอยู่เงียบ ๆ จากหลังบานไม้ที่ยังคงแง้มอยู่อย่างงั้น ไม่ใช่คำพูด ไม่ใช่น้ำตา ไม่ใช่สัมผัส แค่การอยู่เงียบ ๆ ตรงนี้ให้เขารู้ว่าเธอได้ยิน ให้เธอรู้ว่าเขารู้ โลกอาจมืดแปดด้าน แต่ในยามจื่อของคืนนี้มีเสียงหนึ่งที่ดังลอดออกมาจากหลังร้านแห่งนี้ในย่านกลางกรุงต้าฮั่น เสียงที่บอกว่าบางครั้ง ‘การรับฟัง’ ก็เพียงพอแล้ว สำหรับหัวใจที่หล่นกระจายจนไม่รู้จะเริ่มเก็บจากตรงไหนก่อน

          บานไม้เล็กที่แง้มอยู่เงียบงันยังคงนิ่ง เงาของเด็กสาวด้านในยังนั่งอยู่ในท่าเดิม เธอไม่ได้พูดอะไรออกมาหรือเสียงสะอื้นก็ไม่มี ไม่ขยับตัว ไอเบา ๆ ก็ไม่มี แต่หลิวอันก็ยังอยากทำยางอน่าง ราวกับรู้ว่าเธอกำลังฟังมันอยู่ และอาจจะต้องการคำพูดเหล่านั้นจริง ๆ มากกว่าที่เธอเองจะยอมรับเสียด้วยซ้ำ เสียงของเขาราบเรียบ เย็นและสม่ำเสมอเช่นเคย ไม่ใคร่ในความโอบอ้อมอารี ไม่ยืดยาดเอื้อนเอ่ยดั่งพ่อพระ ไม่หยิบยื่นความปลอบโยนเหมือนผู้รู้ทุกอย่างในโลก เขาไม่ยื่นมือมาหรือเข้าไปลูบหัว ตอนนี้เขาไม่แม้แต่จะหันเหลียวกลับไปมองเธอ แต่กลับพูดด้วยน้ำเสียงเช่นนั้น

          “ข้าฝึกดีดพิณเพราะอยากสอนลูกสาว..แต่ลูกข้าไม่ได้สนใจดนตรีเลย” มือที่ยังคงจับคอพิณแน่นอยู่เล็กน้อยนั้นดูมั่นคงกว่าที่เคย เงาของเขาบนกำแพงยืดยาวมันนิ่งพอ ๆ กับความเงียบที่ตามหาหลังจากนั้น “สุดท้ายมันเลยกลายเป็นเสียงที่เอาไว้พูดกับตัวเองเสียมากกว่า”... และนั้นมันกลับดังชัดยิ่งกว่าเสียงพิณเมื่อครู่ที่เพิ่งจบไปเสียอีก

          ในความเงียบที่คตล้ายจะอบอวลไปด้วยความว่างเปล่า เสียงนั้นกลับหยั่งลึกถึงขั้วหัวใจของหญิงสาวที่นั่งฟังอยู่ด้านหลังบานประตู เธอหลุบตาลงช้า ๆ คล้ายจะกลั้นบางอย่างที่ปริ่มขึ้นมาอีกระลอก แต่ไม่มีหยาดน้ำตาหยดใหม่หล่นลงมาแล้วในตอนนี้ มีเพียงความเงียบที่แผ่ซ่าน เงียบแบบที่เข้าใจจริง ๆ ไม่ใช่เงียบแบบโดดเดี่ยว

          “บางครั้งข้าไม่รู้จะปลอบเจ้ายังไง…ก็เลยดีดดูแทน”

          คำพูดนี้เหมือนมีบางอย่างร่วงหล่นลงกลางอกของหลินหยา เธอไม่รู้ว่าทำไมถึงเจ็บนัก แต่ก็ดันอบอถ่นเหลือเกินในเวลาเดียวกัน น้ำเสียงของเขาไม่หวาน ไม่แฝงความอาทรสิ่งใดให้คล้อยตาม ไม่เอ่ยคำว่าห่วงหรือพยายามที่จะเป็นที่พึ่งพา ไม่ปลอบประโลมด้วยคำโกหกหรือหว่านล้อมใด ๆ แต่กลัยกลายเป็นคำพูดที่มีอาณุภาพมากพอที่จะทำให้ความเศณ้าอันแหลมคมของเธอชะลอลงได้ชะงักนัก

          และก่อนที่เธอจะตอบหรือก้าวออกไปข้างนอก เขาก็พูดต่ออย่างไม่เร่งเร้า “หากคืนนี้ยังนอนไม่หลับ..เจ้าจะฟังอีกสักหน่อยก็ได้นะ..ข้าไม่คิดเงิน” ประโยคนั้นทำให้มุมปากของหลินหยาเผลอยกขึ้นนิดหนึ่งโดยไม่รู้ตัว ยิ้มที่แทบจะมองไม่เห็นยิ้มที่มาจากความรู้สึกเดียวกับตอนที่คนเรารู้จักคำว่าตัวเอง..ไม่ได้ถูกปล่อยให้สู้กับโลกคนเดียวเสียทีเดียวใช่ไหมนะ?

          เงาเงียบของหลินหยานั้นเริ่มลุกขึ้น เธอเดินออกมาจากห้องเก็บของ ค่อย ๆ ปรากฎใต้แสงโคม เธอไม่ส่งเสียงหรือขาดเรียก หรือกระทั่งสบตา แค่เดินมาช้า ๆ แล้วหย่อนตัวลงนั่งข้างเขาอย่างสงบแทบจะไร้เสียง ไม่ได้นั่งตรงที่นั่ง แค่นั่งบนพื้นแทน ให้อีกฝ่ายนั่งสูงกว่าตนเองไป ทุกอย่างเกิดขึ้นราวกับความฝันที่ละมุนในยามค่ำ แต่ทว่ากลับแฝงไว้ด้วยความสั่นไหวอย่างน่าหวาดหวั่นเกินจะมองข้ามได้เลย

          หญิงสาวนั่งกอดเข่ากับตัวเองแน่นเหมือนต้องการให้โลกทั้งใบเหลือเพียงพื้นที่เล็ก ๆ ระหว่างแขนของตนเองกับหัวใจที่แตกสลาย เธอเอาหน้าซุกกับหัวเข่าแน่น เธอไม่กล้ามองเขา ไม่กล้ารับความอ่อนโยนมากนักในตอนนี้…

          “ได้โปรด..เล่นอีกเถอะเจ้าค่ะ..” แต่เธอก็เอ่ยออกมาในที่สุด น้ำเสียงขาดห้วง เหมือนลมหายใจร้าว ๆ ของคนที่แบกรับสิ่งเกินจะรับหรือทนไหว ..เสียงของเธอเบาราวกับจะหลุดลอยไปกับสายลมของเวลากลางคืน “ข้าอาจมีเวลาไม่มากแล้ว”

          เสียงนั้นสั่นเล็ก ๆ เธอกัดปากแน่นราวกับจะกลั้นเสียงเอาไว้จนเลือดแทบซึมในเรียวริมฝีปากของเธอก่อนที่จะกลั้นใจพูดต่อ แผ่วเหมือนคำสาปที่เปล่งผ่านลมหายใจของตนเองในเฮือกสุดท้าย “วันนี้อาจเป็นวันสุดท้ายที่ข้าพบท่านก็ได้..เพราะข้ามีเวลาถึงแค่วันพรุ่งนี้..แต่หากหาทางได้ ข้าจะพยายามใช้ชีวิตอยู่ให้มีความสุขแล้วกลับมาพบทุกคนนะ”

          หลินหยาพูดเช่นนั้น..ราวกับเธอยังคงมีหวังเสมอแม้มันจะริบหรี่ มือของหลินหยาเล็กและยังซีด มือเรียวงามนั้น..กำผ้าชุดของตัวเองแน่นจนมันยับย่น ดวงตานั้นแดงก่ำแต่ไม่หลั่งน้ำตาออกมาในทันที มันรั้งไว้ เหมือนรอคำบางอย่างจากเขา

         “และทุกอย่าง..สำหรับข้า..มันคง…”

          เธอกัดคำสุดท้ายไว้..น้ำตาเหมือนจะซึมออกมาเล็กน้อย แต่กลับทำให้เสียงในลำคอของเธอขมราวกับชุบอยู่ในเหล็กกล้ากลิ่นสนิม เธอพูดไม่ออกมันขมในปากเหลือเกินไป มันร้าวในอกจนคำใด ๆ ที่ติดอยู่ก็เพียงในใจที่แตกสลาย “ท่านคงเป็นอีกหนึ่งไม่กี่คน..ที่ไม่ได้มองข้าเป็นหมากหนึ่งบนกระดานนั้น” เธอพูดมันออกมาในที่สุด ราวกับกลั้นไม่ไหวอีกต่อไป..แต่ก็ไม่ได้หมดทั้งขนาดนั้น..

          “ข้าดีใจที่เป็นเช่นนั้นนะ…”

          เธอเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยแต่ไม่มองเขา ดวงตาเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาที่สาดทับแสงโคมให้ละมุนนุ่มเกินบรรยาย เสียงเธอเบาและแตกพร่า..

          “ขอให้ท่านกับหรงเล่อมีความสุขนะ”

          นั้นไม่ใช่คำอวยพรธรรมดา นั้นคือการส่งท้ายของใครคนหนึ่งที่ไม่มีสิทธิ์เลือกอนาคตของตนเองได้ มันเหมือนกับเป็นเสียงสุดท้ายของหัวใจแม้จะถูกเหยียบย่ำโดยใครบางคน แต่มันก็ยังคงรักและยังคงอาทร และยังคงปรารถนาให้ผู้อื่นได้พบความสุขที่เธออาจจะไม่มีวันได้แตะ เธอไม่รู้ว่าเขาจะตอบอะไรไหม หรืออยู่ตรงนี้ได้อีกนานขนาดไหน แต่ ณ ตอนนี้ เวลานี้..

          ความเงียบที่เธอทิ้งไว้ให้เขาเผชิญ มันกลับไม่ใช่ความว่างเปล่า แต่มันคือความรู้สึกทั้งหมดที่เธอมี ที่เธอกล้าเอ่ยให้เขาได้ยินได้เท่านี้ แม้จะไม่มีดอกไม้ ไม่มีดวงตะวัน ไม่มีเพลงบรรเลงใดในยามนี้ แต่จิตใจบางอย่างของหลินหยาจะยังคงเดินต่อ..ประกายเล็ก ๆ ไม่หมดลงง่าย ๆ นักหรอก



@Admin


พรสวรรค์: ลาภลอย (ไม้)
มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่
อื่น ๆ:  -

รางวัล: +5 ความสัมพันธ์สนทนาทั่วไป [NPC-04] หลิว อัน
หัวดี โบนัสเพิ่มความโปรดปราน+20
โบนัส ความสัมพันธ์พิเศษ (VIP) กับ NPC +10 แต้ม
โบนัส ความโปรดปราน NPC เผ่ามนุษย์ (ผู้มีบุญ) +20 แต้ม


แสดงความคิดเห็น

หลิวอันจะเสียสละและพาครอบครัวกับคุณกลับหวยหนาน ทำให้จางกงกงอาศัยจังหวะนี้สร้างเรื่องหลิวอันวางแผนกบฎ และจะเข้าสู่ประวัติศาสตร์ หลิวอันกบฎ  โพสต์ 2025-6-24 16:10
((หากคุณเลือกทางเลือกนี้คุณจะกลายเป็นผู้เล่น เมืองในเขตหวยหนานเป็นหลัก ไม่สามารถออกจากหวยหนานได้เว้นทำภารกิจบันทึกเดินทาง))  โพสต์ 2025-6-24 16:10
พาร์ทต่อ ก่อนจากหลิวอันพูดกับคุณว่า "สามารถปรึกษาข้าได้นะหากมีเรื่องไม่สบายใจ"  โพสต์ 2025-6-24 16:09
โพสต์ 33634 ไบต์และได้รับ 24 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-6-24 16:00
โพสต์ 33,634 ไบต์และได้รับ +10 EXP +25 คุณธรรม +20 ความโหด จาก กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)  โพสต์ 2025-6-24 16:00
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
วาสนาเซียน
ด้ายแดงแห่งโชคชะตา
แหวนดาราจรัส(D2)
ตำราอาหารลับของเสี่ยวจ้าวจื่อ
ยอดคีตศิลป์
ปราณกระเรียนขาว(ไม้)
ขลุ่ยพันธะในเงาศาลา
เกราะทองเทวะ
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x16
x16
x16
x30
x1
x35
x5
x27
x2
x10
x8
x10
x2
x1
x3
x114
x5
x5
x5
x5
x6
x4
x4
x4
x21
x1
x159
x20
x21
x1
x5
x34
x7
x246
x1
x1
x1
x145
x5
x6
x66
x20
x6
x93
x79
x5
x209
x5
x50
x5
x85
x6
x196
x56
x75
x78
x4
x105
x5
x8
x4
x3
x12
x11
x8
x15
x69
x1
x1
x5
x53
x42
x47
x16
x140
x10
x11
x10
x26
x9
x10
x4
x15
x60
x55
x2
x1
x104
x64
x9
x10
x167
x55
x28
x70
x78
x49
x5
x3
x120
x12
x9
x11
x5
x3
x3
x9
x5
x6
x1
x1
x6
x13
x8
x135
x70
x20
x11
x14
x48
x3
x1
x4
โพสต์ 2025-6-24 16:47:00 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ ยี่สิบสี่ เดือน ห้า รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11
ยามจื่อ เวลา 23.00 - 01.00 น. เป็นต้นไป ณ ร้านอันเล่อจ้วน


          เงาของโคมผ้าผืนเก่าที่ไหววูบเล็กน้อยตามแรงลมในยามดึกนั้นทาบทอลงบนใบหน้าของหลินหยา ดวงตาที่เคยหม่นแรงกลับค่อย ๆ เงยขึ้นสบตากับอีกคนอย่างเงียบงันเมื่อได้ยินประโยคของเขา “หากมีเรื่องไม่สบายใจ เจ้าสามารถปรึกษาข้าได้” เป็นคำพูดเรียบง่ายเหมือนไม่มีอะไรเลย แต่สำหรับหลินหยาที่โลกทั้งใบเหมือนกำลังจะล่มสลาย…

          มันกลับเหมือนเสียงที่ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบงันอันแสนทรมาร เป็นถ้อยคำที่เธอไม่กล้าหวังว่าจะได้ยินจากใครหน้าไหนในช่วงเวลาแบบนี้ เธอหันมองหน้าเขาอย่างแปลกใจนิดหน่อย ขมวดคิ้วน้อย ๆ อย่างคนที่ไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายพูดแบบนั้นทำไมทั้งที่ควรปล่อยให้เธอผ่านไปเงียบ ๆ ไม่ข้องแวะกันอีกเลยก็ยังได้..

          นางอยากพูดถามว่าท่านจะทำอะไรหรือช่วยอะไรนางได้..เธอเกือบหลุดพูดคำนี้ออกไป แต่สุดท้ายนางทำเพียงถอนลมหายใจออกมาแล้วส่ายหัวแทนคำตอบของตนเอง

          “ข้าต้องจัดการด้วยตนเองเจ้าค่ะ” เสียงของหลินหยานั้นหนักแน่นเหลือเกิน ไม่อ่อนแออย่างที่ใครอาจคาดคิดไว้ เธอไม่ใช่หญิงสาวที่จะรอให้ใครมาช่วย ไม่ใช่คนที่จะหวังพึ่งพาใครได้ง่าย ๆ เพราะในโลกของเธอ มันโหดร้ายกว่านั้นเยอะ..เธอไม่มีทางมาลากพ่อค้าเต้าหู้อย่างเขาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเด็ดขาด ดวงตาเรียวใสของหลินหยาที่เงยขึ้นอีกครั้งภายใต้แสงโคมนั้น มีประกายแข็งกล้าที่ไม่ยอมดับลงง่าย ๆ อยู่ภายใน แม้มันจะเป็นเพียงแสงเล็ก ๆ ในความมืด…แต่มันก็เป็นแสงของคนที่ไม่ยอมถูกความโหดร้ายกัดกินจนหมดสิ้น

          “ข้าจะกัดฟัน…จะดิ้นรน…จะไม่พ่ายให้โชคชะตา ไม่ว่าเส้นทางข้างหน้าจะซับซ้อนมากแค่ไหน” น้ำเสียงของเธอในวินาทีนั้นมั่นคงยิ่งกว่าที่หลิวอันเคยได้ยินจากเธอมา มันคือเสียงของคนที่แม้จะเคยล้ม เคยอ่อนแอ เคยร้องไห้จนอาบแก้ม แต่กลับยังเลือกจะยืนขึ้นใหม่อีกครั้งด้วยขาของตนเอง

          “และหากวันใดข้าต้องการ..” เธอเงียบไปชั่วขณะหนึ่ง ไม่ใช่เพราะกำลังลังเล แต่เหมือนกำลังคัดครองคำพูดของตนเองให้ชัดเจนที่สุดเท่าที่จะพูดออกมาได้ “…ข้าขอเพียงท่านอยู่นิ่ง ๆ แล้วฟังข้า ฟังคำของข้า ฟังเพลงของข้า หรือเล่นดนตรีให้ข้าสักเพลงก็เพียงพอแล้ว” เธอไม่ขอมากกว่านั้น เพราะเธอไม่ต้องการให้เขาแบกรับอะไรจากเธอเลย เธอไม่คิดว่าเขาจะทำได้ หรือควรต้องทำ และหากเขายังมีอยู่ตรงนี้ เพียงนั่งฟังเงียบ ๆ เวลาที่โลกทั้งใบของเธอกำลังพังทลายอีกครั้ง..แค่นั้น..

          แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว

          แววตาของเธอยังจับจ้องเขาเหมือนจะฝังคำพูดไว้กับตัวเขาให้ลึกที่สุด ก่อนเธอจะเบือนหน้ากลับไปยังความเงียบตรงนั้นอีกครั้ง ส่วนหลิวอันที่นั่งนิ่งอยู่ข้างเธอ…เขาไม่ได้ตอบในทันที เขาเพียงรับรู้ รับฟัง แล้วมองหญิงสาวตรงหน้าเหมือนกับว่าตัวเขาเอง…เพิ่งจะเข้าใจอะไรบางอย่าง..นางคนนี้เช่นนั้นหรือ?...เหมือนแมวตัวเล็กที่เปียกป้อน..แต่หัวใจกลับเต้นแรงราวกับพยักฆ์

          สำหรับหลิวอัน..เขารู้และเดาได้อย่างง่ายดายว่าหากช่วยนางจะเกิดอะไรขึ้น..ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าชายคนนั้น..เอาแต่ใจตนเองขนาดไหน เขารู้ดีจางกงกงไม่ใช่เพียงขันทีผู้รับใช้เบื้องพระยุคลบาท แต่คือผู้วางกลและลงมืออย่างเลือดเย็นได้อย่างไม่มีใครคาดคิด ที่ผ่านมานางยังมีโชคที่ไม่ถูกกัดจนหมดทั้งตัว แต่จากคืนนี้ หลินหยาไม่มีทางรอด หากยังอยู่ภายใต้สายตาของเขาคนนั้น และเขาเองก็เช่นกัน…หากเขาแตะต้องเรื่องนี้แม้เพียงปลายนิ้ว แม้จะใช้ชื่ออ๋อง แม้จะเคลื่อนคนเพียงเพื่อ ‘ปกป้องครอบครัวของนาง’ เท่านั้นก็ตาม เขาก็จะถูกผลักเข้าสู่กับดักของการเมือง เขาจะไม่มีทางกลับไปเป็นแค่เจ้าของร้านเต้าหู้อีกต่อไป

          เขาไม่ได้คิดเลือกความปลอดภัยมากนัก แต่ตอนนี้ก็เหมือนหันหลังให้กับเรื่องนี้ปล่อยให้นางหายไปตามเส้นทางโชคชะตาที่ถูกขีดไว้เช่นนั้นหรือ? แต่นี่ไม่ใช่เพียงหญิงสาวที่มาซื้อเต้าหู้ ไม่ใช่เพียงแขกประจำที่ชอบพูดจาดื้อดึงทุกครั้งที่เขาพบ นางคือหลินหยา..คนที่ฝากขนมหวานให้บุตรสาวเขาเหมือนคนในครอบครัว คนที่สบตากับเขาแล้วร้องไห้อย่างเงียบงันโดยไม่ต้องการคำปลอบใด ๆ และยังเป็นคนเดียวที่มองเขาเป็นมนุษย์ เป็นชายคนหนึ่ง ไม่ใช่อ๋องหรือเครื่องมือ หรือสัตว์ประหลาดที่เร้นเงามือของอำนาจและราชสำนัก

          แต่นางกลับ..บอกว่าจะไม่พ่ายให้โชคชะตา..และนางต้องการเพียงความเงียบของเขาที่ฟังนางก็เพียงพอแล้ว..ช่างน่าขำนัก นางช่าง..เขาจำคำวันนั้นได้ ที่เทือกเขาฉินหลิน..







@Admin


พรสวรรค์: ลาภลอย (ไม้)
มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่
อื่น ๆ:

รางวัล: +5 ความสัมพันธ์สนทนาทั่วไป [NPC-04] หลิว อัน
หัวดี โบนัสเพิ่มความโปรดปราน+20
โบนัส ความสัมพันธ์พิเศษ (VIP) กับ NPC +10 แต้ม
โบนัส ความโปรดปราน NPC เผ่ามนุษย์ (ผู้มีบุญ) +20 แต้ม



แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-04] หลิว อัน เพิ่มขึ้น 55 โพสต์ 2025-6-24 17:30
โพสต์ 13144 ไบต์และได้รับ 8 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-6-24 16:47
โพสต์ 13,144 ไบต์และได้รับ +2 EXP +5 คุณธรรม +4 ความโหด จาก กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)  โพสต์ 2025-6-24 16:47
โพสต์ 13,144 ไบต์และได้รับ +5 คุณธรรม +4 ความโหด จาก ผู้มีบุญ  โพสต์ 2025-6-24 16:47
โพสต์ 13,144 ไบต์และได้รับ +5 คุณธรรม จาก ทักษะนักดนตรีข้างถนน  โพสต์ 2025-6-24 16:47
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
วาสนาเซียน
ด้ายแดงแห่งโชคชะตา
แหวนดาราจรัส(D2)
ตำราอาหารลับของเสี่ยวจ้าวจื่อ
ยอดคีตศิลป์
ปราณกระเรียนขาว(ไม้)
ขลุ่ยพันธะในเงาศาลา
เกราะทองเทวะ
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x16
x16
x16
x30
x1
x35
x5
x27
x2
x10
x8
x10
x2
x1
x3
x114
x5
x5
x5
x5
x6
x4
x4
x4
x21
x1
x159
x20
x21
x1
x5
x34
x7
x246
x1
x1
x1
x145
x5
x6
x66
x20
x6
x93
x79
x5
x209
x5
x50
x5
x85
x6
x196
x56
x75
x78
x4
x105
x5
x8
x4
x3
x12
x11
x8
x15
x69
x1
x1
x5
x53
x42
x47
x16
x140
x10
x11
x10
x26
x9
x10
x4
x15
x60
x55
x2
x1
x104
x64
x9
x10
x167
x55
x28
x70
x78
x49
x5
x3
x120
x12
x9
x11
x5
x3
x3
x9
x5
x6
x1
x1
x6
x13
x8
x135
x70
x20
x11
x14
x48
x3
x1
x4
โพสต์ 2025-6-26 14:41:31 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ 26 เดือน 5 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11
ยามอู่ เวลา 12.00 - 13.00 น. ณ ถนนสิบลี้ ร้านอันเล่อจ้วน


           ลมต้นเวลากลางของของฤดูร้อนยามบ่ายพัดเบา ๆ ผ่านปากตรอกเข้าสู่ร้านอันเล่อจ้วน กลิ่นน้ำแช่เต้าหู้และไอหม้อยังอุ่นลอยคลุ้งอยู่ในอากาศ ราวกับเวลาหยุดหมุนอยู่ตรงนั้นเมื่อหญิงสาวร่างเล็กในชุดธรรมดาเดินเข้ามาด้วยท่าทีที่สบายใจ ท่ามกลางแสงแดดที่ส่องผ่านผ้าแถบตรงประตูไม้ เงาของหลินหยาก้าวข้ามประตูมาโดยไร้การหลบซ่อน ไม่มีความลับเล ไม่มีโซ่ตรวจในดวงตาเหมือนก่อนอีก

           หลิวอันหรือคุณชายอันเล่อซึ่งนั่งอยู่ด้านในของร้านกำลังก้มหน้าดูสมุดบัญชีเล่มหนึ่งข้างกล่อง เขาได้ยินเสียงระฆังเล็ก ๆ ที่ประดับด้านหน้าดังขึ้นก่อนเงยสายตาขึ้นโดยไม่แสดงสีหน้าแต่แววตาที่ยังแน่นิ่งกลับสะท้อนความแปลกใจอันเงียบเชียบ..นาง..

           กลับมา?..

           หลินหยาไม่ได้พูดอะไรในทันที เธอเดินตรงไปที่วางเก้าหู้ห้องกล่องไม้ที่ใส่เต้าหู้ยิ้ม ๆ พอเห็นว่ามีเหลือก็ระบายยิ้ม ใบหน้ากลมของเธอก็เผลอยิ้มอย่างไม่ปิดบังเลย หยิบกล่องไม้มากอดไว้ในอ้อมแขนเหมือนสมบัติล้ำค่า แล้วจึงเหลือบตาไปมองเจ้าของร้านที่นั่งเงียบอยู่ตรงนั้น “วันนี้ข้าไม่ได้ทำตัวเป็นขโมยเบี้ยวเงินท่านนะ..แต่ข้ามาเพราะแค่อยากซื้อเต้าหู้ของท่านเท่านั้นเอง” หลินหยาพูดเสียงแผ่วแต่นิ่ง แน่นอนว่ารอยยิ้มของนางยังคงอยู่เสมอไม่มีเปลี่ยน

           หลิวอันมองหญิงสาวตรงหน้าเงียบ ๆ ไม่แม้จะยกคิ้ว ไม่พูดตอบรับหรือไถ่ถามสิ่งใดคงยังเป็นเหมือนเคย แต่แววตาใต้คิ้วเข้มที่มองผ่านไอน้ำร้อนกลับจดจ้องอยู่ที่บางสิ่ง เส้นผมที่สั้นลงอย่างไม่สมบูรณ์ของนางเอง..

           ผมสั้น..ลง?..

           เขาไม่พูดว่ารู้หรือเห็นอะไร รอยตัดนั้นไม่เนียนตาพอที่จะหลอกตาคนเฉียบแหลมเพราะเมื่อนางยกเส้นผมมัดไว้ด้านบนเพื่อหลอกตาแต่เขาก็มองออกอยู่ดี โดยเฉพาะเขา ผู้เติบโตมากับวงในของราชสำนัก รู้ดีว่าการตัดผม..ไม่สิทุกคนรู้ว่าการตัดเส้นผมสำหรับชาวต้าฮั่นนั้นคือสิ่งใด.. ไม่ใช่เพียงแค่การเปลี่ยนทรงผม แต่มันเหมือนกับการเปลี่ยนเลือดเนื้อหรือกระทั่งใจ..ไม่ใช่เรื่องของความงามแต่นางตัดบางสิ่งของอดีต

           หลิวอันก็ยังคงไม่เอ่ยถ้อยคำใด ตลอดระยะเวลาที่นางเลือกกล่องเต้าหู้หลิวอันเพียงก้มหน้ากลับไปยังบัญชีตรงหน้าอีกครั้ง ก่อนที่จะพูดเสียงเรียบโดยไม่เงยหน้า “5 ชิ้น 35 ตำลึงเงิน 1895 เกรียญอู่จู” เรียบง่ายเหมือนเคย ไม่ใส่อารมณ์แต่ก็ไม่มีรอยประชดหรือเยาะเย้ย นั้นเพราะเขารู้ว่าสิ่งที่นางตัดไปไม่ใช่แค่เส้นผม แต่มันคือ..ความลังเล ความไร้หนทางและความกลัว

           หลินหยาที่เห็นเธอยกยิ้มมุมปาก “วันนี้ไม่มีขาดนะเจ้าคะ ข้าเตรียมมาครบเลย” ว่ากล้วก็ค่อย ๆ หยิบเหรียญจากกระเป๋าผ้าสีซีดแล้ววางลงตรงนั้นให้ครบ จนครบถ้วนก่อนที่จะมองเขาอีกครั้งเพราะตอนนี้อยู่ในระยะใกล้กันมากขึ้น แววตาของเธอไม่มีคำถามหรือคำขอ แต่เต็มไปด้วยความตั้งใจที่ไม่จำเป็นต้องพูดเป็นคำ

           “ท่านยังคำนวณได้แม่นเหมือนเดิมเลย กำลังชั่งน้ำหนักสิ่งที่เกิดขึ้นจากสายตาหรือ”

           “ข้าแค่ชินกับการมองเห็นรอยร้าวก่อนจะหัก” หลิวกันตอบแสียงแผ่ว

           “อืม..ข้ารู้แล้วล่ะ ว่าคนที่ดูเหมือนเย็นชาเช่นท่าน ก็อาจจะมีอะไรซ่อนอยู่..ยิ่งบางครั้งที่ท่านทำบางสิ่งแล้วอาจจะต้องเสียใครไป แต่ไม่เป็นอะไรหรอก..วันนี้ข้ากลับมาสบายใจแล้ว และต่อให้พรุ่งนี้ข้าต้องจากไป อย่างน้อยข้าก็ไม่เสียดายชีวิตกับสิ่งที่ข้าทำลงไป และมีเต้าหู้ของท่านเต็มสองมือด้วยนะ” หลินหยายิ้มให้กับเขา เหมือนเด็กดื้อคนเดิมแต่นัยน์ตานางเติบโตขึ้น แน่นขึ้น หลิวอันเงียบอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะยื่นห่อผ้าเล็ก ๆ ให้ “ระวังอย่าอย่าให้มันรสเปลี่ยน”

           “ท่านรู้ว่าข้าไม่ได้จะกินมันหรอก ไม่งั้นก็ตายสิ..แค่เต้าหู้ท่านมีคนแย่งกันเยอะเกินไปหน่อยแค่นั้นเอง” นางกล่าวด้วยสีหน้าล้อเลียนในที ยิ้มตาโค้งราวกับเจ้าแมวน้อยที่พึ่งกลับจากล่าสิ่งล้ำค่ามาในป่าใหญ่ และไม่มีความจำเป็นต้องขอการยอมรับจากใครอีก หลิวอันนั้นไม่ได้ตอบทันที แต่สายตาเขานิ่งเฉยไม่หลบเลี่ยง ขณะมองนางอย่างพินิจพิเคราะห์อยู่เนิ่นนาน เงาของเปลวเฟลิงใต้หม้อต้มน้ำร้อนสะท้อนแววตาเรียบเฉย

          “ก็ดีแล้ว…อย่างน้อยข้าก็ไม่ต้องใส่ส่วนลด..เพราะเจ้าสลบหรือร้องไห้อีก” น้ำเสียงของเขายังเรียบเรื่อยเหมือนทุกครั้ง ไม่มีโทนเสียงอ่อนโยน ไม่ได้ยิ้ม ไม่ได้แสดงความห่วงใยแบบโจ่งแจ้ง แต่คนที่รู้จักเขาดีจะเข้าใจว่านั่นคือคำพูดที่อบอุ่นที่สุดจากหวยหนานหวางหลิวอัน ส่วนหลินหยาเห็นแบบนั้นก็หัวเราะเสียงใส เธอหรี่ตาใส่เขาแล้วตอบกลับทันที “ส่วนลดนั้นท่านไม่เคยให้จริง ๆ สักที..อย่าแทรงทำเป็นใจดีไปหน่อยเลยเจ้าค่ะ” นางทำหน้ายู่ใส่อีกคน

           เขาขยับริมฝีปากเล็กน้อยเหมือนอยากหัวเราะเมื่อเห็นหน้ายู่ ๆ ตรงนั้น “เจ้าพูดแบบนี้แสดงว่าอาการหายดีแล้วสิ?”

          “ไม่เคยป่วยสักหน่อยหนิ” เธอพูดแบบดื้อดึงต่อหน้าเขาแบบที่เคยเป็นความจริงก็คือป่วยบ่อยพอสมควรแหละ “แค่เหนื่อย..แค่เดินหลงทางในกรงไปพักใหญ่ แต่ตอนนี้ข้ารู้แล้วว่าทางที่ข้าต้องเดินคืออะไรเจ้าคึ่ะ”

           “แล้วเจ้าจะเดินไปไหน” หลิวอันถาม

           หลินหยาระบายยิ้ม.. “เดินอย่างมีความสุขเจ้าค่ะ..และข้าก็รู้ว่าข้าไม่ต้องก้มหน้าอีกแล้ว และข้าก็จะไม่หนี ไม่เคยหนีแบบนั้น..” หลินหยาเงยหน้ามองอีกคนระบายยิ้มงามตามฉบับของนาง หลิวอันไม่ตอบ เขามองหญิงสาวตรงหน้าอีกครั้งด้วยสายตาของคนที่เห็นภาพบางอย่าง ไม่ใช่แต่เพียงหญิงสาวที่ซื้อเต้าหู้ แต่เป็นคนที่เลือกด้วยขาและหัวใจตัวเอง

          “เต้าหู้นี่จะอยู่ถึงค่ำหรือเปล่า” เขาถามพลางปรายตามองกล่องไม้ที่เธอกอดไว้แน่น “อืม..ถ้าท่านไม่แอบสะกดรอยข้า ก็จะไม่ต้องห่วงว่าจะโดนปาทิ้งทางข้างหรอกเจ้าค่ะ ไอ้เจ้าก้อนนุ่มของเข้ามันแพงขนาดนี้ใครจะไปละลายเงินทิ้งกัน”

           เขาไม่ตอบเช่นเคย เพียงยกน้ำชาขึ้นดื่มเงียบ ๆ อย่างรู้ทันทุกประโยค โดยไม่แสดงความรู้สึกใด ๆ ออกมาเหมือนชายที่คุ้นชินกับการเห็นคนเจ็บ และคุ้นชินกับการเฝ้ามองให้พวกเขาเติบโตจนกลับมาแข็งแรงอีกครั้งด้วยตัวเอง




@Admin

พรสวรรค์: ลาภลอย (ไม้)
มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่
อื่น ๆ: ซื้อ เต้าหู้ ราคา 7 ตำลึงเงิน 379 เหรียญอู่จู
จำนวน 5 ชิ้น รวม 35 ตำลึงเงิน 1895 เหรียญอู่จู

รางวัล: +5 ความสัมพันธ์สนทนาทั่วไป [NPC-04] หลิว อัน
หัวดี โบนัสเพิ่มความโปรดปราน+20
โบนัส ความสัมพันธ์พิเศษ (VIP) กับ NPC +10 แต้ม
โบนัส ความโปรดปราน NPC เผ่ามนุษย์ (ผู้มีบุญ) +20 แต้ม


แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-04] หลิว อัน เพิ่มขึ้น 55 โพสต์ 2025-6-26 15:03
โพสต์ 18090 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-6-26 14:41
โพสต์ 18,090 ไบต์และได้รับ +6 EXP +10 คุณธรรม +8 ความโหด จาก กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)  โพสต์ 2025-6-26 14:41
โพสต์ 18,090 ไบต์และได้รับ +3 EXP +10 คุณธรรม +6 ความโหด จาก ผู้มีบุญ  โพสต์ 2025-6-26 14:41
โพสต์ 18,090 ไบต์และได้รับ +5 คุณธรรม จาก ทักษะนักดนตรีข้างถนน  โพสต์ 2025-6-26 14:41
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
วาสนาเซียน
ด้ายแดงแห่งโชคชะตา
แหวนดาราจรัส(D2)
ตำราอาหารลับของเสี่ยวจ้าวจื่อ
ยอดคีตศิลป์
ปราณกระเรียนขาว(ไม้)
ขลุ่ยพันธะในเงาศาลา
เกราะทองเทวะ
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x16
x16
x16
x30
x1
x35
x5
x27
x2
x10
x8
x10
x2
x1
x3
x114
x5
x5
x5
x5
x6
x4
x4
x4
x21
x1
x159
x20
x21
x1
x5
x34
x7
x246
x1
x1
x1
x145
x5
x6
x66
x20
x6
x93
x79
x5
x209
x5
x50
x5
x85
x6
x196
x56
x75
x78
x4
x105
x5
x8
x4
x3
x12
x11
x8
x15
x69
x1
x1
x5
x53
x42
x47
x16
x140
x10
x11
x10
x26
x9
x10
x4
x15
x60
x55
x2
x1
x104
x64
x9
x10
x167
x55
x28
x70
x78
x49
x5
x3
x120
x12
x9
x11
x5
x3
x3
x9
x5
x6
x1
x1
x6
x13
x8
x135
x70
x20
x11
x14
x48
x3
x1
x4
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้