[ RPG ] เทศกาลตวนอู่ • เจี้ยนหยวนศกที่ 11
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย WeijiaLianhua เมื่อ 2025-6-21 23:04 <br /><br /><style type="text/css">BODY{background:url("https://img2.pic.in.th/pic/-2b773aad79bb3ec16.png?1; background-attachment:fixed; %7D</style><style>
#Box01 {
border: 0px solid;
border-radius: 50px;
background-image: url("https://i.imgur.com/meLD9VX.png"); }
#Box02 {
border: 0px solid;
width: 75%;
background-color: #355E3B;
box-shadow: #000000 5px 5px 5em;}
#Box03 {
width: 600px;
border: 0px solid #355E3B ;
padding: 50px;
box-shadow: rgb(0,0,0) 2px 2px 1em;
border-radius: 25px;
background-image: url("https://i.imgur.com/pGX3lk9.png");}
table {
border-collapse: collapse;
width: 90%;
vertical-align: middle;
border: 0px solid #011F39 }
th, td {
padding: 15px;
text-align: center;
vertical-align: middle;
border: 0px solid #011F39; }
</style>
<link href="https://fonts.googleapis.com/css2?family=Charmonman:wght@400;700&family=Niramit:ital,wght@0,200;0,300;0,400;0,500;0,600;0,700;1,200;1,300;1,400;1,500;1,600;1,700&family=Zhi+Mang+Xing&family=Niramit:ital,wght@0,200;0,300;0,400;0,500;0,600;0,700;1,200;1,300;1,400;1,500;1,600;1,700&display=swap" rel="stylesheet">
<div style="left: 0px; position: fixed; bottom: 0px;">
<img width="180" src="https://i.imgur.com/wip9mRU.png" border="0" alt=""><br>
<iframe width="180" height="100"
src="https://www.youtube.com/embed/1IJvivB7Fsw?autoplay=1&loop=1&playlist=1IJvivB7Fsw" frameborder="0" allow="autoplay; encrypted-media" allowfullscreen="">
</iframe></div>
<div style="right: 0px; position: fixed; top: -10px;">
<img height="500" src="https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/e3a98d1bfd7c09d60eb21e5eda09355c21035e901175c-sTAQTv_fw658webp.png" border="0" alt=""></div>
<div align="center">
<font face="Niramit" size="3" color="#ffffff">
<div id="Box01">
<div id="Box02">
<div style="height: 1000px; background-image: url('https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/b08465198112b529e88938c6abc6bc65d0663a5325aef-aUyLZK_fw658webp.png');
background-position : center top;
background-size: cover;
background-repeat: no-repeat;"></div>
<div style="margin-top: -950px; margin-right: 0px; text-align: right;">
<div style="height: 400px; background-image: url('https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/c8e5decd46211ac5238153ece248b68c76a2f42b5c4ed-gdKHBG_fw658webp.png');
background-position : right top;
background-size: 500px 400px;
background-repeat: no-repeat;"></div>
</div>
<div style="margin-top: -360px; margin-right: 160px; text-align: right;">
<br><br>
<img style= "height: 200px;" src="https://img2.pic.in.th/pic/325d621287f89ec11cb607b3a03de0a63060065d1447e-BCWx4B_fw658webp.png" border="0" alt="">
<br></div>
<br>
<div style="margin-top: 250px; ">
<img style="border: 5px double rgb(53, 94, 59); border-radius: 25px; box-shadow: rgb(0,0,0) 2px 2px 1em; overflow: auto; width: 700px;" src="https://img2.pic.in.th/pic/3ca136d6878f28b995678662b6d467b6bce80f30a3378-Lgw5v3_fw658webp.png" border="0" alt=""></div>
<br><br>
<marquee direction="up" style=""><div style="text-align: center;"><font size="4" color="#ffffff"><font face="Zhi Mang Xing">
<i>龙鼓震江声未歇</font> <br>
เสียงกลองมังกรดังก้อง ยังไม่จางจากฟากฝั่ง<br>
<font face="Zhi Mang Xing">艾香驱毒护人家</font><br>
กลิ่นโกฐหอมขับพาล ภยันตรายล้วนล่าถอย<br>
<font face="Zhi Mang Xing">忠魂长在千秋里</font><br>
จิตวีรชนดำรงอยู่ ในร้อยปีพันฤดู<br>
<font face="Zhi Mang Xing">众志成城护国华</font><br>
ใจประชารวมมั่น สร้างแผ่นดินให้มั่นคง<br>
<br></i></font>
</div></marquee><br><br>
<img style= "height: 50px;" src="https://i.imgur.com/pm7vOBw.png" border="0" alt=""><img style= "height: 50px;" src="https://i.imgur.com/pm7vOBw.png" border="0" alt=""><br><br>
<div id="Box03">
<font face="Niramit" size="3"><font color="White">
<font face="Zhi Mang Xing" size="7" >端午节</font><br><font face="Niramit" size="5"><b>เทศกาลตวนอู่</b></font><br> <b><i> เฉลิมฉลองคิมหันต์ฤดู </b></i> <br><br><div style="text-align: left;">   ฉางอันยามเทศกาลตวนอู่ คลาคล่ำด้วยไพ่ฟ้าอาภรณ์สดใส ก้อนแป้งน่าชังผูกด้ายห้าสีวิ่งเล่นริมตรอก กลิ่นบ๊ะจ่างหอมกำจายจากหม้อใหญ่หน้าร้านรองต่าง ๆเสียงกลองเรือมังกรดังก้องจากท่าแม่น้ำเว่ย บนประตูบ้านแขวน ชิงเฮา* ไล่สิ่งชั่วร้าย ขุนนางในวังร่ายกลอนสดุดีชวีหยวน ชาวบ้านต่างแลกเปลี่ยนบ๊ะจ่างและคำอวยพรด้วยใจเบิกบาน จึงเป็นความสำคัญของเทศกาลในช่วงเวลาที่ต้าฮั่นต่างถูกปีศาจรุกรานนับไม่ถ้วนผู้เสียสละทั้งหลายต่างถูกเกณฑ์กำลังพลเพื่อปกป้องประเทศชาติขวัญกำลังใจที่ถดถอยต่างทำให้บรรยากาศภายในฉางอันอึมครึมและในช่วงเดือนแห่งพลังหยางอันรุนแรงนี้ การจัดงานเทศกาลตวนอู่เพื่อขับไล่พิษพาล ภูติผี โรคร้าย เคราะห์ภัยของแผ่นดินบูชาลำน้ำเพื่อเสริมศิริมงคลแก่บ้านเมืองเพิ่มพูนขวัญกำลังใจและลดความเศร้าหมองให้แก่ประชาชนภายในเมืองฉางอัน เนรมิตช่วงเวลาแสนอบอุ่นราวกับลืมความทุกข์ยากทั้งปวงทิ้งไปสักครั้งคราว</div><br><br>
<img style= "height: 300px;" src="https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/8786bd632c843600beaf8296aab86b4d1314519e4ecbd0-OL4r1Z_fw658webp.png" border="0" alt=""><br><br>
<font face="Niramit" size="5"><b>กิจกรรมภายในเทศกาลตวนอู่</b></font><br><br>
<table>
<tbody>
<tr>
<th style="width:60%><img style= "height: 50px;" src="https://i.imgur.com/pm7vOBw.png" border="0" alt=""><imgstyle= "height: 300px;" src="https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/b3b9ee98ba3954244c77cee1a2d6f1e82f0a550d28297-jBKjLB_fw658webp.png" border="0" alt=""></th>
<th><div style="text-align: left;"> <b>กิจกรรมที่ 1 ห่อบ๊ะจ่าง</b> <br><br>  กลิ่นบ๊ะจ่างที่กำจายทั่วท้องที่กลายเป็นกลิ่นเอกลักษณ์ของเทศกาลในช่วงเวลานี้ณ ซุ้มหนึ่งในตลาดตะวันออก เปิดโอกาสให้ผู้คนได้ช่วยกันห่อบ๊ะจ่างทั้งแจกแจงวิธีการทำให้ผู้คนได้รู้สึกถึงการเป็นส่วนหนึ่งของการอนุรักษ์ความเชื่อและเป็นดั่งการการเอาใจช่วยปกปักษ์ชวีหยวนผู้ซื่อสัตย์</div></th></tr><table>
<tbody>
<br><div style="text-align: left;">การเข้าร่วมกิจกรรมไม่ยากเพียงโรลเพลย์ร่วมห่อบ๊ะจ่างโดยอธิบายวิธีการห่อตามขั้นตอนดังนี้<br><br><b>วิธีการห่อบ๊ะจ่าง</b><br>
  1. นำใบไผ่แห้งไปต้มจนใบอ่อนนุ่ม ขั้นตอนนี้ทางซุ้มต้มให้แล้วให้หยิบใบที่ชอบมาล้างให้สะอาด เช็ดให้แห้งพอหมาด ๆ <br>
  2. พับใบไผ่เป็นรูปกรวยโดยการวางใบไผ่แนวยาว กดให้โค้งเล็กน้อย พับส่วนล่างให้โค้งขึ้นเป็นทรงกรวยหรือปลายแหลม<br>
  3. ตักข้าวเหนียวใส่ลงไปเล็กน้อย ใส่ไส้ไว้ตรงกลาง (เช่น ถั่ว แปะก๊วย หมูเค็ม) ปิดด้วยข้าวเหนียวอีกชั้นจนเกือบเต็มกรวย<br>
  4. พับปิดและพันเป็นทรงสามเหลี่ยมหรือสี่เหลี่ยม. พับใบไผ่ด้านข้างเข้าหากัน ปิดให้แน่น พับปลายใบลง กดให้เป็นทรงแน่น ไม่ให้ข้าวรั่ว <br>
  5. มัดด้วยเชือกโดยใช้เชือกพันรอบตัวบ๊ะจ่าง 2–3 รอบ มัดแน่นแต่ไม่ต้องแน่นเกินไป ผูกเงื่อนให้พอคลายได้เมื่อต้มสุก <br>   6. นำไปต้ม ต้มในหม้อน้ำเดือดนานหนึ่งชั่วยามผู้ใดต้องการรับบ๊ะจ่างสำเร็จเพื่อออกจากซุ้มเลยสามารถหยิบที่ถาดได้หากผู้ใดต้องการรับบ๊ะจ่างของตนเองสามารถรอข้าวสุกแล้ววนมารับอีกทีได้<br><br><div style="text-align: center;"><b>รางวัลที่ได้เมื่อเข้าร่วมกิจกรรม</b><br> ได้รับ 5 ตำลึงเงิน + บ๊ะจ่าง 1 ชิ้น + 10 EXP </div>
<br><br>
</div><br>
<table>
<tbody>
<tr>
<td><div style="text-align: left;"><font size="3"><b>กิจกรรมที่ 2 ปักถุงหอมและถักสร้อยข้อมือห้าสีเสริมสิริมงคล</b><br> <br>   ขอจงไร้ผู้ใดกล้ำกลายขอจงปกปักษ์คุ้มภัยมิให้แผ้วพาล ขอจงกำจายสุคนธ์จาง ๆ ดั่งเกราะป้องกันจากฟ้าดิน ในเทศกาลตวนอู่นี้มีความเชื่อการปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายออกให้ไกลตัวเช่นนั้นแล้วจึงนิยมห้อยถุงหอมที่เอวเพื่อคุ้มกายทั้งจากสิ่งไม่ดีและแมลงร้ายในคิมหันต์ฤดูส่วนสร้อยข้อมือห้าสีนั้นเป็นสิ่งมงคล ว่ากันว่าจะปกปักษ์บุตรหลานด้วยพลังแห่งฟ้าดินเช่นนั้นแล้วในทุก ๆ ปีจะมีการประกวดถุงหอมและสร้อยข้อมืออยู่เสมอ<br><br> </td>
<td style="width:60%><img style= "height: 50px;" src="https://i.imgur.com/pm7vOBw.png" border="0" alt=""><img height="300" src="https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/26dd8a022ad9c65358d6f3032245227d4f8686011b788-WBLXdS_fw658webp.png" border="0" alt="">
</td> </tr></tbody></table>
<br><div style="text-align: left;">การเข้าร่วมกิจกรรมปักถุงหอมและถักสร้อยข้อมือห้าสี <br>   1. เดินทางเข้ามาภายในซุ้มกิจกรรมเพื่อเข้าร่วม <br>   2. ภายในซุ้มจะมีอุปกรณ์ให้เย็บปักถักร้อยมากมาย และ มีเครื่องหอมสำหรับบรรจุใส่ในถุงหอม <br>   3. ผู้ที่ต้องการเข้าประกวดการปักถุงหอม และ ถักสร้อยข้อมือห้าสี สามารถโรลเพลย์จัดทำถุงหอม หรือ สร้อยข้อมือห้าสีแล้วลงชื่อส่งประกวดพร้อมแนบผลงานส่งประกวด <br><br>
<div style="text-align: center;">รูปภาพ 84x84 <br>
<b>ชื่อผลงาน</b> : <br>
<b>คำอธิบาย</b> : ต้องประกอบด้วยวัสดุของสิ่งที่ทำ ความหมายของลวยลายที่ปักและการตกแต่ง <br>
<b>ชื่อผู้จัดทำผลงาน</b> </div><br><br>   4. ในวันงานเทศกาลวันสุดท้าย ( 23 อู่เยว่ เจี้ยนหยวนศกที่ 11 ตามไทม์ไลน์เนื้อเรื่องกิจกรรม / วันที่ 27 มิถุนายน 2568 ตามเวลาจริง ) ผลงานจะถูกตัดสินจากความสวยงาม ความหมาย และความสมบูรณ์ของผลงาน<br><br>  โดยผลงานที่ได้รับเลือกจะได้รับรางวัลเพิ่มเติม และผลงานได้รับเกียรติวางขายทั่วฉางอัน ซึ่งผู้เข้าร่วมกิจกรรมสามารถเลือกได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้นว่าจะส่งประกวดถุงหอมหรือสร้อยข้อมือห้าสี<br><br><div style="text-align: center;"><b>รางวัลที่ได้เมื่อเข้าร่วมกิจกรรม</b><br><br> <b>ผู้ชนะการประกวดปักถุงหอมและถักสร้อยข้อมือห้าสี</b> <br>ได้รับผลที่ตัวเองเสนอ 1 ชิ้น (ถุงหอม หรือ สร้อยข้อมือห้าสี) + 3 ตำลึงทอง + 30 ตำลึงเงิน + 20 EXP + หินอัปเกรดและหินตีบวกอย่างละ 2 ก้อน<br><br> <b>ผู้เข้าร่วมการประกวด</b><br>ได้รับ 10 ตำลึงเงิน</div>
</font></div>
<br><br>
<img style= "height: 300px;" src="https://img2.pic.in.th/pic/16e9bd18e5636414a146196749958a02af51f98c480f3-XblQOw_fw658webp.png" border="0" alt=""><br><br>
<i>“...เขาคือชวีหยวน ขุนนางแห่งรัฐฉู่ ผู้จงรักภักดีจนยอมสละชีพเพื่อชาติ เมื่อเขากระโดดลงแม่น้ำ ประชาชนต่างร่วมพายเรือค้นหา ในช่วงเวลาที่หวาดหวั่นว่าปลาในแม่น้ำจะไต่ตอมกัดกินร่างจนสลายไปจึงโยนข้าวห่อใบไผ่ลงไปป้องกันไม่ให้ปลากินร่างของเขา... นั่นจึงเป็นเหตุที่เราห่อบ๊ะจ่างและแข่งเรือในวันนี้ มิใช่เพียงเพื่อเฉลิมฉลอง ทว่าเพื่อรำลึกถึงผู้ที่ไม่เคยหันหลังให้แผ่นดินเช่นกัน”</i><br><br><div style="text-align: left;">  เทศกาลตวนอู่นี้มิใช่เพียงการขับไล่ปีศาจอย่างเดียวเท่านั้นยังรำลึกถึงบรรพบุรุษผู้มากด้วยคุณธรรมอย่างชวีหยวนขุนนางผู้จงรักภักดีแห่งรัฐฉู่ ในยุคจ้านกว๋อ เขาเป็นกวีผู้เปี่ยมด้วยปัญญาและรักชาติอย่างสุดหัวใจ แต่เพราะถูกใส่ร้าย เขาถูกเนรเทศออกจากราชสำนัก<br>
  ครั้นได้ยินข่าวว่าบ้านเมืองจะล่มสลาย ชวีหยวนเศร้าจนหมดสิ้นความหวัง จึงกระโดดลงแม่น้ำมี่ลั่ว สละชีพเพื่อแผ่นดิน
<br>
  ชาวบ้านที่รักและเคารพเขา ต่างพากันพายเรือออกตามหาร่าง พร้อมโยนข้าวห่อใบไผ่ลงน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้ปลากินร่างของท่าน นั่นจึงเป็นต้นกำเนิดของการแข่งเรือมังกร และการห่อบ๊ะจ่างถวายแด่วิญญาณผู้กล้า</div><br><br>
<table>
<tbody>
<tr>
<td style="width:60%><img style= "height: 50px;" src="https://i.imgur.com/pm7vOBw.png" border="0" alt=""><imgstyle= "height: 300px;" src="https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/88a2b8eb27ad57dc6a92138c92448c40742f5df030a02-h3rWuZ_fw658webp.png" border="0" alt=""></td>
<td><div style="text-align: left;"><font size="3"><b>กิจกรรมที่ 3 ถวายบ๊ะจ่างรำลึกถึงชวีหยวน</b><br><br><b>การร่วมรำลึกถึงชวีหยวน</b><br>1. เดินทางมายังริมแม่น้ำเว่ย ณ บริเวณที่ตั้งแท่นบูชา<br>2. ถวายบ๊ะจ่าง ณ แท่นบูชา (ไม่ต้องโอนบ๊ะจ่างให้ Admin)<br>3. ร่วมเขียนอักษรมงคลโดยเลือกได้ว่าจะเขียนลงแผ่นไม้ผูกกับต้นหลิวริมแม่น้ำหรือ เขียนอักษรลงกระดาษเพื่อรวบรวมเหล่าคำอวยพรทั้งหลายส่งไปถึงชวีหยวนและผู้คนในต้าฮั่น </font></div>
</td>
</tr></tbody></table>
<br><b>รางวัลที่ได้เมื่อเข้าร่วมกิจกรรม</b><br>ได้รับ 5 ตำลึงเงิน + 15 คุณธรรม<br><br><div style="text-align: left;">  ในวันสุดท้ายของเทศกาลทุกปีจะมีการนำกระดาษอวยพรปีที่แล้วมาเผาเพื่อส่งคำอวยพรที่ปกป้องผู้คนในฉางอันตลอดทั้งปีให้กระจายสู่ฟ้าดินป้องกันคุ้มภัยทั้งแผ่นดินต้าฮั่นต่อไป</div>
<table>
<tbody>
<tr><br><br>
<td><div style="text-align: left;"><font size="3"><b>กิจกรรมที่ 4 แข่งขันเรือมังกร</b><br><br><b>การร่วมกิจกรรมแข่งขันเรือมังกร</b> ( แบบฉบับผู้ดีริมน้ำที่ไม่มีกลุ่มก้อนร่วมแข่งขันการพายเรือมังกร… )</div></td>
<td style="width:60%><img style= "height: 50px;" src="https://i.imgur.com/pm7vOBw.png" border="0" alt=""><img height="150" src="https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/4ed06e3c612cc068ea631b8e35b3566b19eb9e841b0aa-mdtRuY_fw658webp.png" border="0" alt="">
</td>
</tr>
</tbody></table><br><div style="text-align: left;">  1. เดินทางมายังริมแม่น้ำเว่ยเพื่อดูการแข่งขันเรือมังกร (ไม่ไกลจากที่ตั้งของแท่นบูชาชวีหยวนเท่าไหร่นัก)<br>  2. บรรยายบรรยากาศของงานแข่งขันเท่านี้เป็นอันจบ สามารถรับของรางวัลได้เลย<br><br><div style="text-align: center;"><b><i>แต่หากท่านใดได้ยินเสียงดังครึกครื้นไม่ไกลแล้วสนใจล่ะก็…</i></b></div><br><br>   3. ไม่ไกลจากที่รับชมกิจกรรมมีชายหนุ่มผู้หนึ่งเปิดวงพนันผู้ชนะเรือมังกร สำหรับผู้ที่ต้องการความเร้าใจและการเสี่ยงดวงให้ผู้เขาร่วมลงพนันแทงข้างเรือที่ต้องการลง โดยให้อธิบายเหตุผลของการเลือกซึ่งต้องบรรยายตามหัวข้อต่อไปนี้ชื่อของเรือมังกรที่เลือก, ลักษณะของเรือและผู้พายเรือ และ สุดท้ายคือการลงพนัน 10 ตำลึงเงิน (โอนให้ Admin)<br><br> <div style="text-align: center;">การลงพนันจะปิด ณ วันที่ 23 อู่เยว่ เจี้ยนหยวนศกที่ 11 กลางยามไห่ ( 22.00 น. )<br>[ วันที่ 27 มิถุนายน 2568 เวลา 22.00 น. ในเวลาจริง ]</div><br>  4. ในท้ายวันกิจกรรมจะรวบรวมรายชื่อเรือมังกรที่ลงพนันมาหมุนวงล้อแห่งโชคชะตา (สามารถติดตามแบบเรียลไทม์ได้ ณ ดิสคอร์ดของคอมมูวันที่ 27 มิถุนายน 2568 เวลา 22.00 น.) เพื่อประกาศชื่อของเรือมังกรที่ชนะการแข่งขันและคนผู้นั้นจะได้จำนวนเงินของผู้คนที่พนันทั้งหมด + สมทบทุนจากผู้ไม่ออกนามอีกจำนวนหนึ่ง</div><br><br><b>รางวัลที่ได้เมื่อเข้าร่วมกิจกรรม</b><br><b>รางวัลชนะพนันแข่งเรือมังกร</b><br>ได้รับค่าลงพนันของทุกคนที่เข้าร่วม + 4 ตำลึงทอง + กุ้งผัดชาหลงจิ่งและปลาเก๋านึงซีอิ๊วอย่างละ 1 จาน ( 1 รางวัล) + 5 point+ หินตีบวก 1 ก้อน + ไหมแก้วแสงจันทร์ 1 ผืน<br><br>รางวัลขวัญใจเรือพาย (ผู้ที่อธิบายเรือมังกรได้สุดเฟี้ยวโดนใจผู้จัดงาน)<br>ได้รับ + 20 ตำลึงเงิน<br><br><b>ผู้เข้าร่วมชมการแข่งขันเรือมังกร ( แค่เข้ารับชมไม่จำเป็นต้องลงพนันก็ได้ )</b> <br>
ได้รับ 10 ตำลึงเงิน<br><br><br>งานเทศกาลในครั้งนี้จัดขึ้นในวันที่ 21 - 23 อู่เยว่ เจี้ยนหยวนศกปีที่ 11<br>(สำหรับไทม์ไลน์เวลาจริงสามารถโรลเพลย์ย้อนหลังได้ตั้งแต่วันที่ 21 - 27 มิถุนายน 2568)<br><br><br>สำหรับผู้ใดที่อยู่นอกฉากอันสามารถสวมร่างNPC ประกอบภายในฉางอัน เพื่อเข้าร่วมงานเทศกาลแทนได้<br><br><br>
</font></font></font></div>
<br><br>
<br><br><br><br>
<div style="margin-top: -350px; ">
<div style="height: 500px; background-image: url('https://img2.pic.in.th/pic/2cfb5bb911fa59af30f4ad9a98c093c111689cc12278eb-b18IFK_fw658webp.png');
background-position : center bottom;
background-size: cover;
background-repeat: no-repeat;"></div></div>
</div>
</div>
</font>
</div>
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย WeijiaLianhua เมื่อ 2025-6-22 09:05 <br /><br /><style>
#WeijiaM01 {
border: 0px solid;
border-radius: 10px;
background-image: url("https://img2.pic.in.th/pic/3b2396e4982f877bf7fcaf92c73ffae722eb84e9e6fb9-cedZ4c_fw658webp_11zon.png"); }
#WeijiaM02 {
border: 0px solid;
width: 75%;
box-shadow: #000000 5px 5px 5em;
background-color : #2B1E18;}
#WeijiaM03 {
border: 0px solid;
padding: 0px 50px;
width: 75%;}
#WeijiaM04 {
border: 0px solid;
padding: 30px;
width: 500px;
box-shadow: #000000 5px 5px 5em;
background-image: url("https://i.imgur.com/IFRHQ59.png");}
</style>
<link href="https://fonts.googleapis.com/css2?family=Charmonman:wght@400;700&display=swap" rel="stylesheet">
<link href="https://fonts.googleapis.com/css2?family=Niramit:ital,wght@0,200;0,300;0,400;0,500;0,600;0,700;1,200;1,300;1,400;1,500;1,600;1,700&display=swap" rel="stylesheet">
<link href="https://fonts.googleapis.com/css2?family=Zhi+Mang+Xing&display=swap" rel="stylesheet">
<div align="center">
<font face="Sarabun" size="3" color="#D3CABD">
<div id="WeijiaM01">
<div id="WeijiaM02">
<div style="height: 750px; background: linear-gradient(rgba(43, 30, 24,0) 20%, rgba(43, 30, 24,1)),url(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/45d79f1f47dedce16f720ec308424f00718d3d6d2b60f-oBnsOq_fw658webp_11zon.png) center/cover no-repeat;"></div>
<div style="margin-top: -550px; text-align: center;"><b>
<img height="300" src="https://img2.pic.in.th/pic/50523a5557a0d15cc0f57d9183d9a1746e8045f2ec643-Bqo5Tr_fw658webp_11zon.png" border="0" alt=""><br>
<span style="text-shadow: #1A100C 2px 2px 3px"><font size="6"> ผู้กลืนฏีกาพันเล่ม </font><br><font size="4"> วันที่ยี่สิบเอ็ด อู่เยว่ เจี้ยนหยวนศกที่สิบเอ็ด <br> ยามซวี( 19.00 น. ) </font></span></b>
</div><br><br>
<div style="margin-top: -50px; ">
<div id="WeijiaM03">
<div align="left">
<font size="4"> ต่อให้ใต้หล้ามืดหม่นสักเพียงใดฉางอันยังคงเป็นฉางอัน</font> โคมไฟประดับฉายแสงนวลผู้คนขวักไขว่กับเทศกาลตวนอู่แลครึกครื้น ความสว่างไสวแม้ยามกลางคืนจะเรียกว่าเป็นสิทธิพิเศษของเมืองหลวงก็ว่าได้ผู้คนสัญจรอย่างปลอดภัยภายใต้การตรวจตราอย่างเข้มงวดของทหารรักษาความสงบภายในฉางอันหากเปรียบกองทหารที่อื่นเป็นรังมดในฉางอันซึ่งป็นที่ตั้งของค่ายพยัคฆ์คงเปรียบได้กับโคตรรังมดกระมัง
<br><br>
ใต้เงาแสงตะเกียงฉายที่แลเหมือนว่าจะเบาแสงกว่าช่วงนี้ของวันไหน ๆ เมื่อเทียบกับโคมไฟประดับในงานเทศกาลนอกหน้าต่างตำหนักสำนักงานกรมตรวจราชการ ( อวี๋ซื่อไถ ) แผ่นกระจกกลมส่องขยายภาพตัวอักษร ณ ดวงเนตรสีครามเข้มข้างซ้ายส่องสะท้อนฏีกาตรงหน้า เรือนเกษาสีหยดหมึกสะท้อนแสงจากไฟตะเกียง ปักเกล้าผมลวก ๆ สมกับที่กวานหยกกำลังร่ำร้องอยู่บนโต๊ะแต่งตัวในบ้านพัก วงคิ้วขนงคมปลาบส่งให้เครื่องนี้ที่ดูอ่อนเยาว์ขึงขังขึ้นมาบ้างจมูกโด่งสันเข่นบุรุษงาม ริมฝีปากกระจับยกมุมปากอยู่เนือง ๆแว่วเสียงดนตรีที่ลองเข้ามากลับเบากว่าเสียงที่ดังในความนึกคิดของ<font color="SandyBrown">ซื่ออวี๋สื่อ ผู้ตรวจการราชการแห่งแผ่นดิน— <b>เว่ยเจียมู่หง</b></font>
<br><br>
หากไถ่ถามในห้วงความคิดที่ดึงสายตาของเขาให้ทอดมองออกไปนอกหน้าต่างเสียงนั้นคงจะเป็นเหตุการณ์ในยามอู่ของวันนี้ได้ณ อวี๋ซื่อไถอันศักดิ์สิทธิ์ของเหล่าขุนนางผู้ทรงธรรมมีแว่วเสียงบุรุษร่างสูงโปร่งในอาภรณ์วรยุทธ์สีทะมึนทึบบุกเข้ามาราวกับต้องการระบายความในใจกับเขาความรู้สึกแสนอัดอั้นอันไม่อาจระบายให้ผู้ใดฟังได้…เพราะสารที่พ่นออกมามีแต่ความลับทางราชการทั้งสิ้น
<br><br>
<font color="LightBlue">“เจ้ารู้ไหมว่าวันนี้ข้าไปตรวจตราภารกิจที่ดูแลแล้วก็พบว่าผู้คนกำลังตั้งร้านรวงอยู่ ข้าที่ทำงานจนลืมวันลืมคืนก็เพิ่งจะตระหนักรู้ว่าวันนี้เป็นวันงานเทศกาลตวนอู่ที่เพิ่งจะได้อนุมัติจากฝ่าบาท”
<br><br>
“นั่นหมายความว่าอย่างไรเจ้ารู้ใช่ไหมมู่หงเทศกาลตวนอู่คือเทศกาลครอบครัวข้าที่ไม่ได้กลับลั่วหยางก็มีเพียงเสี่ยวหรั่นของข้าที่อยู่ฉางอันแต่ข้าโดนพรากเหม่ยเหมยคนงามแสนดีของข้าไปแล้วเพราะใคร เพราะกิ้งก่าทองนั่นอย่างไรเล่า !!!”</font>
<br><br>
<font color="SandyBrown">“ทางที่ดีเจ้าควรลดเสียงลงหน่อยนะชางหรง”</font>
<br><br>
เจ้าของเสียงที่สามารถเรียกขานนามอย่างสนิทสนมเช่นนั้นมีเพียงบุรุษผู้เดียวในฉางอันตอนนี้กระมังเขาคือ ลู่ชางหรง ผู้หลงพระสนมลู่กุ้ยเฟยจนโงหัวไม่ขึ้น หากเอ่ยเช่นนี้คงดูเหมือนจะโดนกุดหัวออกจากบ่าอยู่รอมร่อแท้จริงคือเขาเป็นพี่ชายของพระสนมผู้นั้นทั้งยังเป็นผู้สืบราชการลับผู้ขึ้นตรงต่อ <b><i>‘กิ้งก่าทอง’</i></b> ที่เขาเพิ่งพร่ำบ่นถึงไปเมื่อครู่นี้
<br><br>
เรื่องราวนี้มีเพียงขุนนางชั้นสูงผู้ใกล้ชิดเท่านั้นที่ได้รู้ว่าบัดนี้บุรุษผู้เป็นโอรสสวรรค์แห่งต้าฮั่นไม่ได้ประทับอยู่ในตำหนักมังกรของเขา ร่วมกันนั้นสตรีผู้เป็นถึงว่าที่มารดาแห่งแผ่นดินเองก็ไม่ได้อยู่ที่ไหนไกล อยู่ข้างกายโอรสสวรรค์นั่นแหละ ที่หมายถึงว่านางเองก็ไม่อยู่ในตำหนักตงเฉินเช่นกัน… ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เขารู้และข้อมูลไม่ได้มาจากใครมาจากสหายร่วมงานของเขาที่รู้จักตั้งแต่สมัยเข้าเรียนกสำนักศึกษาในลั่วหยาง
<br><br>
<font color="LightBlue">“เจ้ารู้ไหมว่าข้ารอคอยที่จะได้พบนางเพียงใดอยู่วังหลังก็ใช่ว่าจะได้พูดคุยกันเจ้ามีน้องสาวเป็นพระสนมเหมือนกันก็คงจะรู้ดีนี่มู่หงวันเช่นนี้ก็คงจะไปทูลขอพอเป็นพิธีเพื่ออยู่ร่วมกันสามคนบิดา พี่ชายและน้องสาวคนเล็กใช่ไหมล่ะ !!?”</font>
<br><br>
<font color="SandyBrown">“เหมือนเจ้าจะหลงลืมไปว่าน้องข้าก็ไม่ได้อยู่ฉางอันนะ...”</font>
<br><br>
ดวงตาที่มักจะฉายแววแน่วแน่อยู่เสมอนั้นทอประกายความเหนื่อยอ่อนจิตใจเพียงใดความมืดหม่นสะท้อนนัยตาสีครามเข้มจนลู่ชางหรงรับรู้ได้เลยว่าสหายตรงหน้านั้นได้ประสบวิกฤตการ <b>‘น้องสาวหาย’</b> เช่นกันแต่ทว่าสำหรับเว่ยเจียมู่หงนั้นหาใช่เรื่องที่ใหญ่โตไม่เพราะว่าความสัมพันธ์ภายในบ้านหาได้รักกันชื่นมื่นไม่เป็นสิ่งที่ติดอยู่ภายในใจเขาเสมอมาภาพที่สตรีผู้เป็นน้องสาวร่วมมารดากำลังกระทำกลั่นแกล้งน้องสาวต่างมารดาท่ามกลางหิมะหนาวเหน็บเขาผู้อายุมากกว่าสี่ถึงห้าปีอยู่แอบช่วยดึงเว่ยเจียอิงฮวาไปจากเว่ยเจียเหลียนฮวาไปได้ไม่เท่าไหร่ก็จำต้องจากบ้านไปสำนักศึกษา เข้ารับราชการภายในหนึ่งชั่วเหมันต์ ทำให้เขาเป็นหนึ่งในผู้ที่ไม่ได้แตะจวนใหญ่ ณ หนานหยางไม่ต่างจากบิดานัก
<br><br>
นับว่าดีที่เขาได้โอกาสผูกมิตรกับเหลียนฮวาอีกสักคราทว่าดูเหมือนว่าโอกาสในช่วงเวลาที่สำคัญที่ว่านั้นดูจะถูกโชคชะตายึดคืนไปเสียแล้วแว่วข่าวสารที่เอ่ยบอกต่อกันว่านางได้รับราชโองการตรวจสอบแผ่นดินเพื่อช่วยเหลือต้าฮั่นสตรีตัวเล็กเพียงนั้นต้องออกเดินทางไกลขนาดนั้นเชียวหรือ
<br><br>
<i>ทั้งยังมีอาชา…อาชาที่นางหวาดผวาแต่ไหนแต่ไร</i>
<br><br>
แว่วเสียงของลู่ชางหรงที่บ่นอุบในความทรงจำเรื่องเทศกาลทำให้เขาในยามนี้ตระหนักรู้ได่ว่าในช่วงสามวันนับจากวันนี้เป็นต้นไปคงจะเป็นวันที่แสงตะวันจางอ่อน แสงตะเกียงเบาบางเมื่อเทียบกับโคมไฟงานเทศกาลแห่งครอบครัว
<br><br>
<font color="SandyBrown">“ได้เวลาพักผ่อนบ้างแล้วกระมัง?”</font>
<br><br>
มือเรียวที่จับพู่กันด้ามเก่งได้วางสหายผู้อยู่ร่วมการเขียนฎีกาถวายองค์หวงตี้นับพันฉบับลงความรู้สึกที่จดจำสิ่งที่เขาตวัดตัวอักษรได้ทุกคำเป็นบ่อเกิดของสมญานาม<b>ผู้กลืนฎีกาพันเล่ม</b> ที่ยังคงแจ่มชัดดูเหมือนจะได้เวลาวางมันลงเช่นกันหากให้ไปเดินเที่ยวกับบิดาเช่นเยาว์วัยคงจะเก้อเขินกันหมดชายชาตรีอกสามศอกบอกมากับบิดาคงโดนชางหรงล้อเป็นแน่
<br><br>
อาภรณ์ประจำกายสีหมึกทึบ ปักลายเส้นดั่งลมเหนือ — เรียบง่าย ทว่าเด็ดเดี่ยว ทุกเส้นด้ายเป็นดังลมหายใจของผู้คนที่เขาแบกไว้ ผ้าคาดเอวมีหยกห้อยเป็นเพียงเครื่องประดับเดียวที่บ่งบอกตำแหน่งของเขาร่างสูงที่ไร้กวานสวมก็ลุกขึ้นยืนเต็มส่วนสูงก่อนจะปักอะไรให้เรียบร้อยเขาต้องเป้นตัวอย่างที่ดีต่อผู้ตนในฉางอันอย่างน้อยก็เพื่อแสดงตัวว่าขุนนางพวกนี้ไม่ได้ไร้ราศีอะไร
<br><br>
เว่ยเจียมู่หงก้าวเดินออกไปจากภาระและหน้าที่ของตนเพื่อเดินเข้าสู่ความครึกครื้นใต้แสงโคมประดับงดงามของนครฉางอันอันรุ่งโรจน์ชั่วครู่เพียงเสี้ยวพริบตาเท่านั้นเมื่อปะทะเข้ากับสีสัน ดนตรีและเสียงผู้คนโลกทั้งใบของเขาดูสดใสขึ้นเป็นกองเชียวนี่ไม่ใช่ตวนอู่ครั้งแรกก็จริงทว่ามันก็ยังคงเป็นตวนอู่ในฉางอันที่ผู้คนดูตั้งใจจัดงานเทศกาลเช่นนี้เสียงผู้คงเซ็งแซ่ สายลมเชี่ยจื้อ*พัดโบกเอากลิ่นบ๊ะจ่างลอยมาตามลมไม่ไกลจากลานสายตานักก็แลเห็นซุ้มบ๊ะจ่างที่ทั้งให้ลองห่อเองและสามารถซื้อไปเลยได้หากไม่ต้องการรอด้วยบรรยากาศที่ชักชวนให้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงานในครั้งนี้ก็สะกดให้สองขายาวก้าวมายืนอยู่หน้าซุ้มเสียแล้ว
<br><br>
<b>เข้าสู่กิจกรรมที่ 1 ห่อบ๊ะจ่าง</b>
<br><br>
<font color="YellowGreen">“ใบไผ่ต้มเจ้าค่าไปล้างน้ำซับแห้งทางด้านโน้นได้เลยนะเจ้าคะ”</font>
<br><br>
ใบไผ่ต้มพวกนี้มาจากไหนกัน!? รู้ตัวอีกทีเขาก็ถือมันไว้ในมือเสียแล้วก่อนที่สตรีเอย เด็กน้อยเอยจะเดินเข้าไปต่อแถวล้างไผ่นี้ซึ่งเขาที่มีไผ่ในมือจำต้องตามกระแสผู้คนไปกระทำจนได้นึกได้แต่เพียงว่าดียิ่งนักที่ตัดสินใจมาเพียงผู้เดียวหากลู่ชางหรงมาด้วยคงไม่พ้นกลายเป็นหัวข้อจดบันทึกส่งหวงตี้ประจำวันพร้อมทั้งภาพวัดเส้นแสดงความรู้สึกโง่ ๆ เป็นแน่เว่ยเจียมู่หงมาดมั่นไว้ในใจว่าสำหรับซุ้มพวกนี้หากเจอะผู้ใดคุ้นหน้าจะวิ่งเหินอากาศเต็มแรงฝีเท้าม้าหนีหน้าให้หมด
<br><br>
มือแกร่งสีซีดราวกับพันธุกรรมตระกูลบัณฑิตมิได้แต่งแต้มสีชาดฝาดมาให้เยอะกว่านี้สักหน่อยยื่นไปล้างใบไผ่อย่างเบามือก่อนจะขยับตามกระแสผู้คนเนียน ๆ ไปเรื่อย ๆ โดยไม่ได้ตรัสรู้มากนักว่าส่วนสูงและใบหน้าของเขาช่างโดดเด่น ณ ท่ามกลางเหล่า…สตรีเพศ…
<br><br>
<i><b>ม่อจื่อสอนว่าผู้คนเท่าเทียมบุรุษเพศห่อบ๊ะจ่างจะแปลกอันใดเขาเรียกเข้าถึงวัฒนธรรมประเพณี</b></i>
<br><br>
บัดนี้ความคิดของผู้ตรวจการขุนนางได้ปลงตกเสียแล้วว่าเขาไม่อาจจากตรงนี้ได้โดยง่ายเช่นนั้นก็ทำต่อไปให้เสร็จสิ้นเสีย ส่งพุทธองค์ย่อมส่งให้ถึงทิศประจิม กับอีแค่ยืนเคร่งเครียดห่อบ๊ะจ่างมันจะคณามือเขาเชียวหรือมือหนาค่อย ๆ ดัดใบไผ่ให้เป็นกรวยโดยพยายามไม่ให้มันขาดไปเสียก่อนเอื้อมไปตักข้าวเหนียวโปะข้างในก่อนใส่ไส้ที่มีทั้งหมดลงไป… อย่างน้อยเขาก็เลือกว่าพวกที่เขาใส่ต้องเป็นไส้เค็มทั้งสิ้นไม่มีสิ่งใดหวานฉ่ำปะปน
<br><br>
ใกล้จะถึงความจริงที่ว่าเขาจะห่อมันเสร็จแล้วเขาตักข้าวมาโปะกลบอีกชั้นก่อนจะทำสิ่งที่สำคัญที่สุดอย่างการพยายามกดปิดใบไผ่เป็นสามเหลี่ยมเพื่อมักเชือกให้กลายเป็นบ๊ะจ่าง
<br><br>
<font color="SandyBrown">“บ๊ะจ่างแหละ…อืม…”</font>
<br><br>
เขามองบ๊ะจ่างในมือของตัวเองก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ ผู้ดูแลซุ้มเห็นว่าบ๊ะจ่างในมือของบุรุษผู้นี้ห่อมัดเชือกเรียบร้อยแล้วก็ผายมือแนะนำให้เขาเอาไปวางลงถาดที่รอต้มรอบต่อไป
<br><br>
<font color="YellowGreen">“หากคุณชายไม่อยากรอบ๊ะจ่างต้มราว ๆ หนึ่งชั่วยามสามารถซื้อฝั่งนี้ได้นะเจ้าคะ”</font>
<br><br>
จบกิจกรรมซุ้มนี้ด้วยการโยนเหรียญอู่จูซื้อความสบายและลดเวลาการอยู่ภายในที่แห่งนี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เว่ยเจียมู่หงที่ในมือถือห่อบ๊ะจ่างได้เร่งเดินออกจากซุ้มบ๊ะจ่างเพื่อไปเดินเทศกาลต่อ
<br><br>
<font color="Pink">“มาร่วมปักถุงหอมถักเชือกห้าสีมงคล อวยพรให้ครอบครัวไร้เคราะห์ใดแผ้วพานกันเถิด”</font>
<br><br>
วินาทีนั้นในหัวของบุรุษผู้เป็นพี่ชายคนโตของสกุลเว่ยเจียกลับคิดถึงคนไกลอย่างเว่ยเจียเหลียนฮวาทางด้านคนไกล ณ หนานหยางมีผู้คนมากมายช่วยเหลือ ทว่าสตรีผู้ต้องไปที่ไกลห่าง มิใช่บ้าน มิใช่เมืองที่คุ้นเคย จำต้องเดินทางอย่างยากลำบาก การได้ทำอะไรพวกนี้ให้นางสักชิ้นก็หวังว่านางจะไม่มีสิ่งใดมาแตะต้องได้
<br><br>
แต่ทว่าฝีปักด้ายกับการถักสร้อยข้อมือล้วนไม่ใช่สิ่งที่เขาถนัดทั้งสิ้นดังนั้นแล้วสิ่งที่เขาทำคือการเฝ้ารอผู้ชนะและรอซื้อของขวัญให้เหม่ยเหมยคงจะดีกว่า
<br><br>
<b>เข้าสู่กิจกรรมที่ 3 รำลึกถึงชวีหยวน</b>
<br><br>
เส้นทางตลอดทั้งถนนสิบลี้ต่างเต็มไปด้วยกลิ่นบ๊ะจ่างและเสียงผู้คนมากมายเสียงดนตรีผู้คนร้องเล่นเต้นรำ คลอเคล้ากับกลิ่นถุงหอมจาง ๆ ไปตามซุ้มที่จัดขายสินค้าทำมือเขาเดินทางมาจนถึงสถานที่ที่จัดแข่งเรือมังกรในทุก ๆ ปีริมลำน้ำมีแท่นที่วางบ๊ะจ่างเต็มไปหมดสิ่งนี้ย่อมต้องเป็นบ๊ะจ่างถวายแด่ชวีหยวนผู้เป็นขุนนางในเรื่องเล่า ก่อเกิดเทศกาลที่รำลึกถึงความภักดีต่อแผ่นดิน ความซื่อสัตย์แม้นต้องตายเพื่อส่งเสียงเรียกหาความยุติธรรมอันล่าช้าก็ตามสำหรับเขาเรื่องนี้สามารถเป็นบทเรียนที่ดีเรื่องหนึ่งในเมื่อความยุติธรรมที่ร้องขอด้วยความตายมันเสียหายไปมากเพียงใดแล้วใยไม่มอบความตายให้มันผู้นั้นเพื่อทวงคืนความสงบสุขแดใต้หล้าแทนเล่า ?
<br><br>
ริมฝีปากที่มักจะยกขึ้นเป็นบุรุษผู้แย้มยิ้มเสมอดูเหมือนจะเจือความเย้นหยันต่อโชคชะตาของบุรุษผู้เป็นตำนานไม่ว่าจะเรื่องจริง เรื่องแต่ง เรื่องใดก็ตาม เขาคงไม่ขอเจริญรอยตามวิถีของผู้ผดุงความยุติธรรมแสนอ่อนแอ
<br><br>
<font color="SandyBrown">“หากเพลิงโหมกระหน่ำเกินควบคุมก็จำต้องถอนฟืนใต้หม้อ**อย่าให้สิ่งใดมาพังใต้หล้าฟ้าดิน”</font>
<br><br>
เสียงทุ่มเอ่ยอย่างแผ่วเบาก่อนจะวางบ๊ะจ่ายที่ซื้อมาถวาย ณ แท่นบูชาชวีหยวนริมแม่น้ำยืนรำลึกชั่วครู่ก่อนจะร่วมเขียนแผ่นไม้ห้อยกับต้นหลิวที่ลู่ไปตามแรงลมในช่วงเชี่ยจื้อตวัดพู่กันเขียนหมึกเข้มเป็นอักษรที่คาดหวังให้ทุกสิ่งเที่ยงแท้เท่าเทียมแม้ว่าจะไม่จีรังก็ตาม
<br><br>
<div align="center">
<font face="Zhi Mang Xing" size="5" color="#2B1E18">
<div id="WeijiaM04"><b>衡</b><br>(héng)<br>"ตาชั่ง/ ความสมดุล"</div></font></div>
<br><br>
<b>เข้าสู่กิจกรรมที่ 4 แข่งขันเรือมังกร</b>
<br><br>
ครั้นเมื่อเขาผูกอักษรมงคลเรียบร้อยก็มีเสียงกู้ร้องลายมากระทบหูเรียกร้องความสนใจขุนนางหนุ่มให้ผินใบหน้าไปตามเสียงไม่ไกลนั้นมีการแข่งขันเรือยาวที่ดูเหมือนว่าจะประกาศรายชื่อกลุ่มผู้เข้าแข่งขันพายเรือมังกรที่แข่งขันกันในทุก ๆ ปีทว่าสิ่งที่เรียกให้ผู้คนแตกตื่นกันมากกว่านั้นคือการลงพนันแทงข้างผู้ที่จะชนะในเทศกาลตวนอู่ซึ่งจะแข่งขันรู้ผลรู้แพ้ชนะในวันที่ยี่สิบสามอู่เยว่นี้
<br><br>
ดวงตาคมปลาบไล่มองคณะผู้เข้าร่วมการแข่งขันแต่ละกลุ่มวิเคราะห์การตกแต่งเรือมังกรที่ดูเรียวยาวทว่าสิ่งที่ทำให้เขาต้องสะดุดคือ<b><i>เรือยาวที่…เรียกว่ามีงบพอได้ตกแต่งเรือที่บรรจุผู้เข้าแข่งขันได้เพียงตามเงื่อนไขเท่านั้นการตกแต่งจากการใช้ไม้มาตอกเพิ่มก่อนจะวาดลวดลายกิ้งก่าทอง ? ไม่ มันคือมังกร แล้วที่เป็นเรียวที่งอกออกมาราวกับหมวดมังกรคือกิ่งใบหลิวที่คงไม่พ้นต้นแถว ๆ นี้ที่แหว่งไปโดยไม่รู้เรื่องราวปลายหางเรือก็ตกแต่งได้ดู…เศร้าสร้อยไม่ต่างกัน</i></b>
<br><br>
ว่ากันว่าเรือที่ดีคือเรือที่เน้นลำเรือเพรียวการที่การตกแต่งน้อยขอเพียงให้มองเป็นมังกรก็ถือว่าสิ่งนี้ดูเหมือนว่าจะช่วยให้การตกแต่งน้อยชิ้นพวกนี้ไม่ต้ามกระแสน้ำและสายลมตอนที่จ้ำอ้าวแจวเรือเช่นนั้นแล้ว…
<br><br>
<font color="SandyBrown">“ข้าขอลงพนัน <b><i>เรือมังกรผงาด(ได้เท่านี้)</i></b>”</font>
<br><br>
ตำลึงเงินสิบตำลึงเงินถูกยื่นลงพนันไปเรียบร้อยตามระเบียบใบหน้าของเขาแม้ว่าจะไม่หวัง ทว่าสิบตำลึงเงินที่ไม่ได้ระคายหน้าแข้งเขาเท่าไหร่ก็ถือว่าสนองความใคร่รื่นเริงงานในเทศกาลก็แล้วกันเว่ยเจียมู่หงเมื่อยืนซึมซับบรรยากาศเพียงไม่นานเท่านั้นก็เดินกลับไปทางเดิมแลเห็นสิ่งใดน่าสนใจก็ซื้อติดมือไว้ก่อนจะหวนกลับคืนสู่กองฎีกาและภาระหน้าที่ของซื่ออวี๋สื่อ
<br><br>
<i> * 夏至 เชี่ยจื้อ : กลางคิมหันต์ฤดู : 21-22 มิถุนายนอ้างอิงจาก <a href="https://han.mooorp.com/blog/3/7">ตำราเรื่องรอบตัวต้าฮั่น</a>
<br>
** ถอนฟืนใต้หม้อ หมายถึง แก้ปัญหาที่ต้นตอ (ตัดไฟแต่ต้นลม) อ้างอิงจาก <a href="https://han.mooorp.com/blog/3/11">ตำราเรื่องสำนวนต้าฮั่น</a></i>
<br><br><br>
<div align="center"><b>รางวัลที่ได้เมื่อเข้าร่วมกิจกรรมที่ 1 3 และ 4</b><br>
ได้รับ 5 ตำลึงเงิน + บ๊ะจ่าง 1 ชิ้น + 10 EXP<br>
ได้รับ 5 ตำลึงเงิน + 15 คุณธรรม<br>
ได้รับ 10 ตำลึงเงิน<br>
รวมทั้งหมด 20 ตำลึงเงิน + บ๊ะจ่าง 1 ชิ้น + 10 EXP + 15 คุณธรรม<br><br>ลงพนัน 10 ตำลึงเงิน</div>
<br><br>
</div>
<br><br>
<img style= "width: 50%;" src="https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/24257f5d5d3f09168.png" border="0" alt=""> <br><br>
<br><br><br><br><br><br><br>
</div>
</div>
<div style="margin-top: -200px; ">
<div style="height: 250px; background-image: url('https://img2.pic.in.th/pic/8a8f27d80c2bba08bf5db05ae4d4fa1d710a30f148f14-T6oGzL_fw658webp_11zon.png');
background-repeat: no-repeat;
background-size: cover;
"></div></div>
</div>
</div>
</div></font></div> <p><br></p><p></p><div align="center" style="list-style-type: none;">
<style>
#Xiuying01 {
border-radius: 30px;
border: 6px double #DAA520;
padding: 3px;
box-shadow: #DAA520 0px 0px 3em;
background-image: url("https://i.imgur.com/gmUaOyu.jpg");}
</style>
<style>
#Xiuying02 {
width: 800px;
border-radius: 20px;
padding: 3px;
box-shadow: #DAA520 0px 0px 1em;
background-image: url("https://i.imgur.com/APTIUqY.png");}
</style>
<style>
#Xiuying03 {
width: 520px;
border-radius: 20px;
border: 6px double #DAA520;
padding: 3px;
box-shadow: #DAA520 0px 0px 3em;
background-image: url("https://i.imgur.com/O01jmYP.png");}
</style>
<div id="Xiuying01">
<p>
<br><br></p>
<div id="Xiuying02">
<p>
<font face="Kanit"><font color="#fff" style="" size="5">
<br></font></font></p><p></p><div style="text-align: center;"><br></div><div style="text-align: center;"><font face="Kanit"><br></font></div><div style="text-align: center;"><div style="outline-style: none; color: rgb(255, 165, 0); font-weight: 700;"><div style="outline-style: none;"><font face="Kanit" style="" size="5">วันที่ 21 อู่เยว่ เจี้ยนหยวนศกที่ 11</font></div><div style="outline-style: none;"><font face="Kanit" style="" size="5">ยามโหย่ว (เวลา 17.00 – 19.00 น.)</font></div></div></div><div style="text-align: center;"><font face="Kanit"><img src="https://i.imgur.com/VgeiQeN.png" border="0"><font size="5" color="#000000"><b><br></b></font></font></div><div style="text-align: center;"><font color="#000000" face="Kanit"><br></font></div><div style="text-align: center;"><font color="#000000" face="Kanit"><br></font></div><div style="text-align: left;"><div style="text-align: left;"><div><div><font color="#000000" face="Kanit" size="3">ยามโหย่วแสงตะวันคล้อยต่ำแผ่ไล้ผ่านชายคาร้านรวงทั่วฉางอัน เมืองหลวงในยามเทศกาลตวนอู่เปี่ยมด้วยชีวิตชีวา แม้จะเผชิญภาวะปีศาจรุกราน หากแต่เทศกาลนี้ก็เปรียบประหนึ่งประหนึ่งหยาดฝนโปรยปรายกลางฤดูแล้ง เติมชีวิตชีวาให้กับหัวใจอันแห้งผากของผู้คน ธงหลากสีสั่นไหวเหนือศีรษะของชาวบ้าน กลิ่นบ๊ะจ่างหอมกรุ่นลอยคลุ้งไปตามลม พร้อมเสียงหัวเราะและบทกลอนที่ดังก้องเป็นระยะ</font></div><div><font color="#000000" face="Kanit" size="3"><br></font></div><div><font color="#000000" face="Kanit" size="3">หรงป๋อเหวินในอาภรณ์แพรสีฟ้าหม่นพิมพ์ลายเมฆคราม เดินทอดน่องอย่างสงบท่ามกลางฝูงชน ใบหน้าราบเรียบแฝงรอยอ่อนโยน มือหนึ่งถือพัดด้ามยาวที่เขาพกติดตัวเสมอ อีกมือไขว้หลังอย่างเป็นธรรมชาติ</font></div><div><font color="#000000" face="Kanit" size="3"><br></font></div><div><font color="#000000" face="Kanit" size="3">สายตาเขากวาดผ่านร้านขายบ๊ะจ่าง ร้านเครื่องหอม เครื่องประดับด้ายห้าสีและตุ๊กตาแป้งรูปเสือ เด็กเล็กหัวเราะคิกคักเมื่อได้ของเล่นใหม่ บ้างก็วิ่งไล่กันริมร่องน้ำอย่างร่าเริง</font></div><div><font face="Kanit" size="3" color="#ff00ff"><br></font></div><div><font face="Kanit" size="3" color="#ff00ff">“พี่ชาย ท่านอยากแลกด้ายห้าสีกับข้าหรือไม่?”</font><font face="Kanit" size="3" color="#ffc0cb"> </font><font color="#000000" face="Kanit" size="3">เด็กหญิงตัวน้อยกล่าวพลางยื่นข้อมือที่ร้อยเชือกหลากสีออกมาให้</font></div><div><font color="#000000" face="Kanit" size="3"><br></font></div><div><font color="#000000" face="Kanit" size="3">หรงป๋อเหวินชะงักเล็กน้อย ก่อนคลี่ยิ้มบาง เขาหยิบเชือกห้าสีเส้นเล็กจากร้านข้างทาง ยื่นให้นางพลางผูกข้อมืออีกฝ่ายอย่างเบามือ</font></div><div><font color="#000000" face="Kanit" size="3"><br></font></div><div><font face="Kanit" size="3" color="#ff8c00">“เส้นนี้สีใกล้กับของเจ้านะ”</font></div><div><font color="#000000" face="Kanit" size="3"><br></font></div><div><font color="#000000" face="Kanit" size="3">เด็กหญิงหัวเราะเสียงใส ก่อนหมุนตัววิ่งจากไปโดยไม่ลืมตะโกน</font></div><div><font face="Kanit" size="3" color="#ff00ff"><br></font></div><div><font face="Kanit" size="3" color="#ff00ff">“ขอบคุณเจ้าค่ะ!”</font></div><div><font color="#000000" face="Kanit" size="3"><br></font></div><div><font color="#000000" face="Kanit" size="3">ฝีเท้าของหรงป๋อเหวินยังไม่หยุดลงแม้บทสนทนากับเด็กหญิงตัวน้อยจะจบสิ้นลงแล้ว เขาเดินผ่านกลุ่มนักขับกลอนผู้สวมอาภรณ์เขียวสลับขาว ข้างทางมีหญิงสาวหัวเราะคิกขณะหยอดลูกข่างไม้ลงถ้วยน้ำชาตามความเชื่อโบราณ แต่แล้วสายตาเขาก็สะดุดกับซุ้มขนาดกลางซุ้มหนึ่ง </font></div><div><font color="#000000" face="Kanit" size="3"><br></font></div><div><font color="#000000" face="Kanit" size="3">ผู้คนรายล้อมซุ้มอย่างคึกคัก พ่อค้า แม่บ้าน เด็กเล็ก ขุนนางชั้นปลาย ๆ ต่างก็ได้รับการเชื้อเชิญให้มาร่วมกิจกรรมด้วย ทุกคนมีใบไผ่ในมือ บ้างห่อได้สวยงาม บ้างห่อจนข้าวทะลักออกมานอกใบไผ่ เสียงหัวเราะครื้นเครงปะปนไปกับกลิ่นหอมกรุ่นของข้าวเหนียวและไส้หมูเค็มที่ลอยอบอวล</font></div><div><font color="#000000" face="Kanit" size="3"><br></font></div><div><font face="Kanit" size="3" color="#9932cc">“คุณชายสนใจลองห่อดูสักลูกหรือไม่เจ้าคะ?”</font><font color="#000000" face="Kanit" size="3"> น้ำเสียงหนึ่งเอ่ยถามทันทีที่เขามาถึงหน้าซุ้ม</font></div><div><font color="#000000" face="Kanit" size="3"><br></font></div><div><font color="#000000" face="Kanit" size="3">หรงป๋อเหวินชะงักเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้าช้า ๆ</font></div><div><font color="#000000" face="Kanit" size="3"><br></font></div><div><font face="Kanit" size="3" color="#ff8c00">“สักหน่อยก็ดี”</font><font color="#000000" face="Kanit" size="3"> เขาตอบสุภาพ พลางก้าวเข้าไปยังที่นั่งว่างด้านหน้า</font></div><div><font color="#000000" face="Kanit" size="3"><br></font></div><div><font color="#000000" face="Kanit" size="3">หญิงสาวยื่นใบไผ่และเชือกส่งให้ เขารับมาอย่างเบามือ</font></div><div><font color="#000000" face="Kanit" size="3"><br></font></div><div><font face="Kanit" size="3" color="#9932cc">“เลือกไส้ตรงนี้ได้เลยเจ้าค่ะ ถั่ว แปะก๊วย หรือหมูเค็มก็มีนะเจ้าคะ”</font></div><div><font color="#000000" face="Kanit" size="3"><br></font></div><div><font color="#000000" face="Kanit" size="3">เขาพยักหน้าอีกครั้ง หยิบใบไผ่ลวกมาอย่างพิถีพิถัน ล้างด้วยน้ำสะอาดในขัน แล้วใช้ผ้าขาวบางซับให้แห้งหมาด เขาพยายามพับใบให้เป็นทรงกรวยตามที่เห็นคนอื่นทำ มือขยับช้าและระมัดระวัง ทว่าใบไผ่กลับโค้งผิดมุมจนปลายรั้งเบี้ยว เขาลองพับใหม่อีกครั้งแต่ก็ยังไม่ได้ทรงที่ต้องการนัก</font></div><div><font color="#000000" face="Kanit" size="3"><br></font></div><div><font color="#000000" face="Kanit" size="3">หญิงสาวข้างซุ้มเอียงคอมองแล้วแอบยิ้ม</font></div><div><font color="#000000" face="Kanit" size="3"><br></font></div><div><font face="Kanit" size="3" color="#9932cc">“คุณชาย...พับตรงนี้โค้งขึ้นอีกหน่อยจะได้มุมพอดีนะเจ้าคะ”</font></div><div><font color="#000000" face="Kanit" size="3"><br></font></div><div><font color="#000000" face="Kanit" size="3">เขายิ้มบาง ๆ อย่างไม่ถือสา</font></div><div><font color="#000000" face="Kanit" size="3"><br></font></div><div><font face="Kanit" size="3" color="#ff8c00">“ขอบใจแม่นาง ข้าไม่คุ้นมือเรื่องครัวนัก ปกติจะให้บ่าวจัดการ”</font></div><div><font color="#000000" face="Kanit" size="3"><br></font></div><div><font color="#000000" face="Kanit" size="3">เมื่อเริ่มพับได้เป็นทรงแล้ว เขาตักข้าวเหนียวใส่ชั้นล่างอย่างเบามือ ใส่ไส้แปะก๊วยและหมูเค็มกลางข้าวแล้วกลบด้วยข้าวอีกครั้ง ทว่าพอถึงขั้นตอนพับปิด ฝ่ามือของเขากลับลังเลอยู่พักหนึ่งก่อนพับปลายใบเข้าหากัน ขอบใบด้านหนึ่งกลับทับไม่สนิทจนเห็นไส้โผล่ออกมาน้อย ๆ</font></div><div><font color="#000000" face="Kanit" size="3"><br></font></div><div><font color="#000000" face="Kanit" size="3">หญิงสาวช่วยเลื่อนบ๊ะจ่างกลับมาตรงหน้า</font></div><div><font color="#000000" face="Kanit" size="3"><br></font></div><div><font face="Kanit" size="3" color="#9932cc">“อนุญาตนะเจ้าคะ” </font><font color="#000000" face="Kanit" size="3">นางใช้ปลายนิ้วเรียวจัดมุมใบไผ่ให้แน่นขึ้น</font></div><div><font color="#000000" face="Kanit" size="3"><br></font></div><div><font face="Kanit" size="3" color="#9932cc">“พับมุมซ้ายให้ครอบขึ้นอีกนิด จากนั้นพันเชือกตรงนี้เจ้าค่ะ... ข้างล่างไม่ต้องดึงแรง เดี๋ยวไส้ทะลัก”</font></div><div><font color="#000000" face="Kanit" size="3"><br></font></div><div><font color="#000000" face="Kanit" size="3">เขาผูกเชือกตามที่นางแนะนำ พันรอบบ๊ะจ่างด้วยมือที่แม้ไม่ชำนาญ แต่พยายามจะให้เป็นระเบียบที่สุด</font></div><div><font color="#000000" face="Kanit" size="3">เมื่อเสร็จแล้วจึงค่อยยื่นให้นางด้วยสีหน้าสงบนิ่ง</font></div><div><font face="Kanit" size="3" color="#ff8c00"><br></font></div><div><font face="Kanit" size="3" color="#ff8c00">“แม้จะดู...พอถูไถ แต่ก็คงไม่ถึงกับต้องโยนทิ้งกระมัง”</font><font color="#000000" face="Kanit" size="3"> เขากล่าวกลั้วหัวเราะแผ่ว ๆ</font></div><div><font color="#000000" face="Kanit" size="3"><br></font></div><div><font color="#000000" face="Kanit" size="3">หญิงสาวหัวเราะบ้าง</font></div><div><font face="Kanit" size="3" color="#9932cc"><br></font></div><div><font face="Kanit" size="3" color="#9932cc">“ไม่เลวเลยเจ้าค่ะ อย่างน้อยก็ไม่รั่วเหมือนของเด็กชายคนก่อนหน้า”</font></div><div><font color="#000000" face="Kanit" size="3"><br></font></div><div><font face="Kanit" size="3" color="#ff8c00">“ขอรับคืนภายหลังได้หรือไม่”</font></div><div><font face="Kanit" size="3" color="#9932cc"><br></font></div><div><font face="Kanit" size="3" color="#9932cc">“ได้เลยเจ้าค่ะ ท่านเก็บป้ายไม้นี้ไว้ แสดงเมื่อมารับอีกทีนะเจ้าคะ”</font></div><div><font color="#000000" face="Kanit" size="3"><br></font></div><div><font color="#000000" face="Kanit" size="3">หรงป๋อเหวินพยักหน้ารับ เขารับป้ายไม้มาแล้วเก็บไว้ในแขนเสื้ออย่างเป็นระเบียบ ลุกขึ้นพลางปัดรอยแป้งออกจากชายแขนเสื้อ</font></div><div><font color="#000000" face="Kanit" size="3"><br></font></div><div><font color="#000000" face="Kanit" size="3">หญิงสาวยังมองตามอยู่เล็กน้อย ก่อนเอ่ยตามหลัง</font></div><div><font face="Kanit" size="3" color="#9932cc"><br></font></div><div><font face="Kanit" size="3" color="#9932cc">“คราวหน้าหากห่ออีก ท่านอาจห่อได้เรียบร้อยยิ่งกว่าคนที่นี่ก็เป็นได้นะเจ้าคะ”</font></div><div><font color="#000000" face="Kanit" size="3"><br></font></div><div><font color="#000000" face="Kanit" size="3">หรงป๋อเหวินยิ้มเพียงเล็กน้อยโดยไม่หันกลับ ก่อนเดินจากไป ในหัวก็พลางคิดถึงน้องสี่ หากนางไม่ต้องไปทำศึกเทศกาลวันนี้ อาจได้มาห่อบ๊ะจ่างด้วยกันก็คงจะดีไม่น้อยเลย</font></div></div><div><br></div><div><br></div></div><div style="text-align: left;"><font color="#000000" face="Kanit" size="3"><br></font></div><div style="text-align: center;"><font face="Kanit" size="4" color="#ff0000"><b style="">กิจกรรมที่ 1 ห่อบ๊ะจ่าง</b></font></div><div style="text-align: center;"><div><font face="Kanit" size="4" color="#ff0000"><b>รางวัลเข้าร่วมกิจกรรม</b></font></div><div><font face="Kanit" size="4" color="#ff0000"><b>ได้รับ 5 ตำลึงเงิน + บ๊ะจ่าง 1 ชิ้น + 10 EXP</b></font></div></div><div style="text-align: center;"><br></div></div><div style="text-align: left;"><font color="#000000"><br></font></div><div><br></div><div><br></div><p>
</p>
</div><font face="Kanit"><font size="3"><font color="black">
<br>
</font></font></font><p></p></div><font face="Kanit"><font size="3"><font color="black"><b>
<br><br>
</b></font></font></font></div>
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย LuBairan เมื่อ 2025-6-22 03:57 <br /><br /> <style>
/* Response Container */
.response-container {
max-width: 850px;
margin: 40px auto;
background: linear-gradient(to bottom, #3e1254, #c3b5ca);
border: 2px solid #d4a373; /* Gold border */
border-radius: 15px;
box-shadow: 0 10px 20px rgba(0, 0, 0, 0.6);
overflow: hidden;
padding: 20px;
}
/* Header */
.response-header {
text-align: center;
font-size: 2em;
color: #d4a373; /* Gold accent color */
font-weight: bold;
margin-bottom: 15px;
}
/* Character Info */
.character-info {
display: flex;
align-items: center;
background: #c3b5ca; /* Dark brown for contrast */
border: 1px solid #805e3b; /* Subtle decorative border */
padding: 15px;
border-radius: 10px;
margin-bottom: 20px;
}
.character-info img {
width: 150px;
height: 150px;
border-radius: 50%;
margin-right: 15px;
border: 3px solid #d4a373;
}
.character-info .details {
display: flex;
flex-direction: column;
}
.character-info .name {
font-size: 1.8em;
color: #490a69;
}
.character-info .status {
font-size: 1em;
color: #490a69;
margin-top: 5px;
}
/* Dialogue Box */
.dialogue-box {
background: #ede8f9;
border: 1px solid #805e3b;
padding: 100px;
border-radius: 10px;
color: #a0a0a0;
font-size: 1.2em;
line-height: 1.8;
position: relative;
}
.dialogue-box:before {
content: '“';
font-size: 3em;
color: #d4a373;
position: absolute;
left: 10px;
top: -10px;
font-family: serif;
}
.dialogue-box:after {
content: '”';
font-size: 3em;
color: #d4a373;
position: absolute;
right: 10px;
bottom: -10px;
font-family: serif;
}
/* Footer */
.response-footer {
text-align: center;
padding: 10px;
color: #c6b197;
font-size: 0.9em;
margin-top: 10px;
border-top: 1px solid #805e3b;
}
.fade-out-image {
display: inline-block; /* หรือบล็อกตามต้องการ */
position: relative;
overflow: hidden;
width: 850px; /* กำหนดขนาดภาพ */
height: auto;
}
.fade-out-image img {
width: 100%;
height: auto;
/* ทำให้ขอบขวาจางด้วย mask-image */
-webkit-mask-image: linear-gradient(to right, rgba(0,0,0,1) 50%, rgba(0,0,0,0) 100%);
mask-image: linear-gradient(to right, rgba(0,0,0,1) 50%, rgba(0,0,0,0) 100%);
}
/* Hover effects */
.response-container:hover {
box-shadow: 0 12px 20px rgba(0, 0, 0, 0.15);
}
.dialogue-box:hover {
background: #f1f1f1;
}
</style>
<style type="text/css">@import url('https://fonts.googleapis.com/css?family=Chonburi'); Chonburi {font-family: 'Chonburi';} </style>
<style type="text/css">@import url('https://fonts.googleapis.com/css?family=Sriracha'); Sriracha {font-family: 'Sriracha';} </style>
<div class="response-container">
<!-- Header -->
<div class="response-header"><font face="Chonburi"><font size="6"><font color="#ffffff">
<span style="text-shadow: rgb(148, 130, 162) 1px 4px 3px;"><div class="fade-out-image"><img src="https://i.postimg.cc/g2PVpDz6/image.png" alt="ภาพตัวอย่าง" /></div>
</font></font></font></span></div>
<!-- Character Info -->
<div class="character-info">
<img src="https://i.postimg.cc/7ZQz7cQT/0c6aa30546b9067f0326c36fc5fffce9.jpg" alt="Character Avatar">
<div class="details">
<div class="name"><font face="Chonburi"><font size="5"><font color="#490a69">
<span style="text-shadow: rgb(241, 241, 241) 1px 4px 3px;"><b>ลู่ชางหรง</span> ཐིཋྀ ตวนอู่พิสดาร</b></font></font></font></div>
<div class="status"><font face="Sriracha"><font size="2">จิวหลิ่งอินคอเปอร์เรชั่น(?) ⋆ จอมโวยวายอันดับหนึ่งแห่งลั่วหยางช่วงค่ำ - 21 อู่เยว่ รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11</font></font></div>
</div>
</div>
<!-- Dialogue Box -->
<div class="dialogue-box">
<p><font face="Sarabun"><font size="3">
<p style="text-indent: 2.5em;">
บัดซบ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
จอกดินเผากระแทกลงกับโต๊ะน้ำชาเป็นเสียงดังปัง กังวานสะนั่นแต่ก็ใช่ว่าจะมีใครสนใจ ชางหรงอยากจะหัวเราะ แต่เสียงที่ออกมากลับเสียงคำราม — เทศกาลตวนอู่ ช่วงเวลาแห่งครอบครัว ตลอดหลายปีที่เขาไม่มีโอกาสได้กลับบ้านไปพบครอบครัวในหลาย ๆ เทศกาลเพราะต้องคอยดูแลหอจิวหลิ่งอินให้คนบางคนที่ไม่แม้แต่จะสำนึกบุญคุณ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#8E9CC3">‘ฮั่น อู่ ตี้! เจ้ามังกรเคลือบทอง!’</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
เสี่ยวหรั่นของเขามาหาถึงฉางอันแล้วแท้ ๆ เจ้านั่นกลับกักนางไว้เสียดื้อ ๆ!
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#8E9CC3">“เหอะ..”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ได้ ตวนอู่ปีนี้เขาจะไปคนเดียว
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
มือหนากำจอกชาแน่นจนแทบแตก เส้นเลือดผุดขึ้นที่ขมับเป็นสัญญาณของความเคียดแค้น ไม่ว่าสุดท้ายจะเป็นอย่างไร เรื่องเล่าเกี่ยวกับเทศกาลของเขาต้องน่าฟังมากกว่าเรื่องของคนป่วยกระเซาะกระแซะจนต้องออกว่าราชการหลังม่านอย่างเจ้ากิงก่าทองคำนั่นอยู่แล้ว
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
มุมปากของคนแซ่ลู่ยกขึ้นเพียงเล็กน้อยแต่กลับเสริมความร้ายกาจให้ยิ่งเด่นชัด อาจเป็นเพราะรูปลักษณ์ที่โดดเด่น ผิวขาวราวหยก พักตร์คมดั่งรูปสลัก แต่กลับสวมแต่อาภรณ์ดำขลับ ดู ๆ ไปแล้วยิ่งคล้ายจิ้งจอกจำแลง ไม่เสียแรงที่เป็นถึงพี่ชายของสาวงามอันดับหนึ่งแห่งลั่วหยาง
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ชายรูปงามยืนขึ้นท่ามกลางตาหลายคู่ที่แอบเหลือบมอง ก่อนจะโยนตำลึงทองทิ้งไว้บนโต๊ะและคว้าหมวกไผ่ผ้าคลุมดำมาสวมปิดใบหน้า เจ้ามนุษย์ฎีกา (เว่ยเจียมู่หง) กล่าวไว้ถูกต้องแล้ว ถึงเวลาต้องพักผ่อน แต่เมื่อตนก้าวออกจากโรงเตี๊ยม สองไหล่กลับหนักอึ้ง ใบหน้าใต้หมวกไผ่เงยขึ้นมองนภาสดใส
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ถ้าเช่นนั้นข้าพเจ้าควรทำสิ่งใด , ใช้ชีวิตอย่างนี้มาหลายปี วิธีพักผ่อน.. เหมือนจะลืมไปเสียแล้ว
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#8db567">“บ๊ะจ่างจ้า บ๊ะจ่าง ! เข้าตวนอู่ก็ต้องทำบ๊ะจ่าง ใครยังไม่ได้ลอง เร่มาทางนี้เร็ว ~”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ทำบ๊ะจ่าง? คุณชายสีนิลหันตามเสียงตะโกนและความโหวกเหวกของผู้คนจนพบกับซุ้มหนึ่งที่จัดวางโต๊ะและเก้าอี้ให้ประชาชนได้ร่วมชมการสาธิตและลงมือทำไปพร้อม ๆ กัน ชางหรงหลุบตาลงมองสองมือของตัวเอง สองมือนี้ถูกใช้มาสารพัดวิธีแต่กลับไม่เคยถูกใช้เพื่อทำอาหาร
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
น่าหงุดหงิดเหลือเกินที่ความธรรมดาของปุถุชนแลดูจะห่างไกลจากตัวเขานัก หากลองสักครั้งพวกนางคงดีใจ , ชางหรงโคลงศีรษะด้วยความอ่อนใจ ก่อนจะก้าวขาเข้าไปด้านในซุ้ม แต่แทนที่จะนั่งปลายแถวอย่างสงบเสงี่ยม ชางหรงเบียดตัวแทรกฝูงชนเข้านั่งอยู่ด้านหน้าบริเวณสาธิตราวกับบัณฑิตดีเด่นในสถานศึกษาที่กระตือรือร้นเกินความจำเป็น
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#8db567">“ขั้นแรก นำใบไผ่แห้งไปต้มจนอ่อนนุ่ม จากนั้นนำไปล้างให้สะอาดแล้วเช็ดให้พอแห้งหมาด ๆ”</font> ผู้นำขณะทำบ๊ะจ่างบรรยายไปพร้อมหยิบใบไผ่ออกจากกองที่วางอยู่ข้างโต๊ะ <font color="#8db567">“ขั้นตอนต้ม ซุ้มเราจัดการไว้แล้ว เชิญทุกท่านเลือกใบที่ชอบไปล้างทำความสะอาดแล้วซับน้ำออกเถิด”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ลูกเป็ด
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
เนตรคมใต้เงาแพรเหลือบมองสตรีกรีดกรายจับจูงแขนและมือชายไปเลือกใบไผ่กันเป็นขบวน โดยไม่ได้ดูเลยว่าข้างโต๊ะแต่ละตัวมีใบไผ่แบ่งมาวางไว้ให้อยู่ก่อนแล้ว <font color="#8E9CC3">‘คนอื่นโง่แล้วเหตุใดข้าจักต้องโง่ไปกับพวกเขา?’</font> ชางหรงใช้สองนิ้วคีบใบไผ่ขึ้นมาวางบนโต๊ะ ท่าทางดูเหมือนจะรังเกียจทั้งที่เขายังไม่ทันได้คิดสิ่งใด
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#8E9CC3">“จากนั้นให้พับเป็นกรวย ทำอย่างนี้นะ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ผู้ดูแลเริ่มสาธิตการพับใบไผ่ที่ถูกต้องพร้อมคอยอธิบายด้วยคำพูดกำกับควบคู่กันไปเหมือนกำลังสอนเด็กวัยไม่กี่หนาว รอบข้างต่างก็พากันขานตามผู้ดูแลประหนึ่งว่าเป็นคนเสียสติ ทว่าชางหรงกลับขยับแค่นิ้วไม่คิดขยับปากไปตลอดขั้นตอนพับใบไผ่ไปจนถึงการใส่ข้าวเหนียวและไส้ แต่บางทีอาจต้องโทษว่าเป็นเพราะสัญชาตญาณชายที่มักไม่ละเอียดอ่อนแล้วยังตะกละ ไหนจะแรงเยอะชนิดที่ไม่รู้ว่าควรใช้แรงเท่าไหร่ไปกับการมัดบ๊ะจ่างให้แน่น โพละ — เสียงใบไผ่ขาดกระจุยพร้อมข้าวเหนียวแล้วไส้ที่ทะลักเปื้อนไปทั้งบนโต๊ะและอกเสื้อของเขา สภาพเวทนาของชายที่หน้ามืดครึ้มเพราะทำบ๊ะจ่างแหลกคามือ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
<font color="#8db567">“คุณชายท่านนี้.. ไปซื้อบ๊ะจ่างที่ด้านนั้นได้นะเจ้าคะ” </font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
… ตวนอู่บัดซบ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ภารกิจที่ 1 ลองทำบ๊ะจ่าง — ล้มเหลวไม่เป็นท่า
<br><br>
<div align="center">
<img width="450" src="https://i.imgur.com/F56Ani1.png" border="0" alt=""><br><br>
ได้รับ 5 ตำลึงเงิน + บ๊ะจ่าง 1 ชิ้น + 10 EXP
</div>
</font></font></p>
</div>
<!-- Footer -->
<div class="response-footer">Presented by the House of Jade</div>
</div>
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย LinYa เมื่อ 2025-6-26 18:25
https://img2.pic.in.th/pic/-4_20250603154522.md.png
(พิเศษ) วันที่ ยี่สิบสาม เดือน ห้า รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11ยามเฉินถึงยามอู่ เวลา 07.00 - 13.00 น. ณ งานเทศกาลตวนอู่
แสงตะวันของยามเช้าสาดส่องลงมายัง นครฉางอันที่เปลี่ยนโฉมราวกับถูกย้อมด้วยสีสันแห่งพิธีกรรม เมื่อถึงวันเทศกาลตวนอู่ เมืองทั้งเมืองก็ราวกับพลิกกลายเป็นอีกโลกหนึ่ง บรรยากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของข้าวเหนียวหมักเครื่องสมุนไพรน่ากิน กลิ่นควันของชิงเฉาที่แขวนอยู่ตามหน้าบ้านเรือน แห้งมันเป็นช่อแขวนรวมกับสมุนไพรอย่างชะเอมหรือบอระเพ็ด ใบไม้แหลมคมลู่ลมเบา ๆ ราวกับกำลังไล่ลมอัปมงคลที่เคยวนเวียนอยู่ในจรอกซอกซอยออกไปให้พ้นยังต้าฮั่น
หลินหยาสวมเสื้อคลุมผ้าฝ้ายบางสีอ่อน สอดแถบลายดอกไม้งามปัดสีอ่อนทับด้วยผ้าคลุมไหล่โปร่ง มวยผมขึ้นหลวม ๆ แล้วเสียบปิ่นไม้ลายดอกไม้ ข้อมือผูกของตามประเพณี สายสีแดงเขียวเหลืองน้ำเงินม่วงทาบผิดขาวจัดของนางอย่างมีชีวิตชีวา เสียงหังเราะจากเด็กเล็กที่วิ่งเล่นพร้อมตุ๊กตาที่ทำจากหน้าและก้อนแป้งรูปสัตว์ปีเกิดยังคงมี จนเรียกเสียงรอยยิ้มบางจากริมฝีปากของหลินหยาได้ตลอด ดวงตาสีน้ำตาลมะพร้าวนั้นกวาดไปยังร้านค้าริมทางที่ประดับด้วยผ้าสีแดงและโคมรูปเรือมังกรห้อยระย้าเหนือศีรษะ
ตามตรอกเล็กบ๊ะจ่างนับสิบ ๆ หม้อแขวนห้อยระย้าไว้รอจำหน่าย ห่อด้วยใบไผ่สีมรกตมัดด้วยตอกไม้ไผ่กลิ่นหอมฉุย บ้างเป็นไส้หมูหวาน บ้างเป็นไส้ถั่วแดง หรือไส้ไข่เต็มกับเห็ดหอม หลินหยาชะเง้อมองหม้อเหล็กใบโตที่ตั้งอยู่หน้าร้านบ๊ะจ่างเจ้าเก่า ควันสีขาวพวยพุ่งพร้อมกลิ่นหอมร้อน ๆ ยามฝานฝ้าสัมผัสปลายจมูก มันชวนให้ท้องร้องเบา ๆ ทั้งที่ยังไม่ได้เดินเทศกาลให้ครบถึงครึ่งด้วยซ้ำไป
“ขอบ๊ะจ่างไส้เกาลัดไข่เต็มลูกหนึ่งเจ้าค่ะ” เสียงของเธอดังขึ้นอย่างเสียใสกับคุณป้าคนขาย ก่อนที่จะจ่ายเงินแล้วรับห่อที่ยังร้อนอยู่ไว้แนบอกไว้ กลิ่นหอมหวานจนใจอ่อนแทบจะอดใจไม่ไหวต้องเดินหาที่นั่งกินมันเสียเดี๋ยวนี้ ระหว่างที่นางเดินเลียบถนนไปตามเส้นทางที่ทอดยาวจนเกือบถึงสะพานหิน หน้าทางเข้าท่าเรือก็มีเวทีชั่วคราวตั้งขึ้น ผู้คนเบียดเสียดดูการประลองกลอง ขุนนางบางคนแต่งชุดเต็มยศขึ้นไปอ่านบนกวีด้วยเสียงอันทรงพลัง บ้างก็ยืนร่ายคำข้างล่างจนเสียงแทบแทรกกลับกันไปมา หลินหยาเดินไปหัวเราะไปอย่างอแดไม่ได้ เมื่อเห็นคนลืมกลอนตัวเองแล้วหน้าแดงเถือก น่าสงสารยิ่งนัก..
ไหนจะไฮไลต์ของเทศกาลที่ทุกคนเฝ้ารอคือเสียงกลองเรือมังกรที่ดังลั่นมาจากทางท่าเรือของแม่น้ำเว่ยอีกล่ะ บรรดาเด็กชายวัยรุ่นยกอกถือไม้พายเรืออย่างกระฉับกระเฉง เรือไม้ที่ตกแต่งเป็นมังกรยาวดูลื่นไหลไปตามผิวน้ำเหมือนพญางูทองใต้สายน้ำ ชาวบ้านสองข้างทางต่างยิ้มแย้มแจ่มใส แลกเปลี่ยนบ๊ะจ่างกับคำอวยพร “ให้แข็งแรงปราศจากปีศาจร้าย!” “ให้ลูกหลานปลอดภัยแคล้วคลาด!” กลายเป็นเสียงประสานทั่วเมือง แม้แต่หญิงสาวคนหนึ่งก็ได้รับบ๊ะจ่างจากป้าแก่ที่จำเธอได้จากการเคยมาซื้อของ นางรับไว้ยิ้ม ๆ พลางขอบคุณด้วยเสียงอ่อนโยน ก่อนจะหยิบเหรียญอู่จูจากถุงใบเล็กที่ผูกเอวแน่น แลกของเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นของฝากไปให้คนที่โรงเงินตรา
ฉางอันในวันตวนอู่จึงเหมือนดินแดนในความฝัน...ซึ่งแม้ปีศาจจะกล้ำกรายมาในรอยแผลของแผ่นดิน แต่ความอบอุ่น ความรัก และรอยยิ้มของมนุษย์ก็ยังคงเป็นเกราะมนตราที่ยิ่งใหญ่กว่าสิ่งใดในใต้หล้า
https://img2.pic.in.th/pic/-4_20250603154522.md.png
กิจกรรมที่ 1 ห่อบ๊ะจ่าง
เสียงหัวเราะเจือกลิ่นข้าวเหนียวลอยพลุ้งในอากาศ บรรยากาศอบอุ่นจากไอแดดยามสายปะปนกับกลิ่นสมุนไพรและกลิ่นหมูตุ๋นซึมซาบเข้าสู่หัวใจของผู้คนที่มารวมตัวกัน ณ ซุ้มไม้ไผ่ขนาดกลางซึ่งจัดเป็นจุดสาธิตการห่อบ๊ะจ่างริมตลาดตะวันออก ซุ้มนี้มีผ้าพลิ้วผูกเป็นชายระบาย ด้านบนมีป้ายผ้าลายมือเขียนสีหมึกชัดแจ้งชัดเจนว่า ‘เชิญห่อบ๊ะจ่าง เอาฤกษ์เอาชัย สืบสายวัฒนธรรม ปกป้องบ้านเมือง’
ภายในซุ้มโต๊ะไม้เรียงกันเป็นแถวมีใบไผ่สดเขียวเรียงซ้อนในอ่างน้ำ ใกล้กันคือข้าวเหนียวแช่ปรุงสมุนไพรจนมีกลิ่นและสีชัด ข้าวมีสีอ่อนเขียวเรืองด้วยน้ำใบเตยหรือสมุนไพรมีสีทั้งหลาย ถัดไฟคือเนื้อหมูตุ๋นสีแดงเข้ม ไข่แดงเค็มที่แห้งแต่อวบอิ่มน่าเอาเข้าปากเสียเดี๋ยวนี้ เห็ดหอมสีดำมันและถั่วต้มจนนุ่มเรียงรายกันอยู่ในถาดไม้ ทุกอย่างจัดอย่างเป็นระเบียบชวนให้คนผ่านไปมาทั้งน้ำลายไหลและใจเต้นตาม
เสียงเจ้าหน้าที่หญิงวัยกลางคนทำหน้าที่เป็นคนสาธิตการห่อบ๊ะจ่าง พูดไปหัวเราะไปเรื่อย ๆ “ก่อนอื่นต้องเอาใบไผ่มาวางซ้อนกันนะลูก ปลายหนึ่งสั้นกว่าปลายหนึ่งแล้วพับเป็นกรวยแบบนี้ เอ้า ลองดู!” นางบอกกับเด็กตัวน้อยที่รู้ประสาคนหนึ่ง
“ง่ำ ๆ ง่ำ ๆ ข้าอยากลอง! ข้าอยากห่อ!” เสียงเล็ก ๆ ราวแมวพูดตอนปากเต็มไปด้วยอาหารดังขึ้นเบา ๆ จากด้านข้าง ก่อนที่ร่างเล็กของหญิงสาวในเสื้อคลุมบางสีขาวครีมจะพุ่งเข้ามาในขอบสายตาทุกคน หลินหยาโผล่มาในสภาพที่สองแก้มพองราวลูกกระรอก ปากง้ำงำเต็มไปด้วยบ๊ะจ่างไส้เกาลัดและไข่เค็มที่ซื้อมาก่อนหน้า มือหนึ่งยังกำห่อกระดาษใบไผ่ที่ห่ออยู่ ส่วนมืออีกข้างก็กำลังดึงแขนเสื้อให้เลิกขึ้นเหนือข้อศอกเพื่อเตรียมทำงาน ผู้คนรอบข้างหัวเราะเอ็นดู มีเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งนั้นกำลังกระตุกชายเสื้อแม่ของตนพลางกระซิบว่าหากนางกินแล้วเหตุใดจะมาห่ออีกเล่า?
หลินหยาหลังจากเคี้ยวอาหารจนหมดรีบวางห่อบ๊ะจ่างที่กัดไปครึ่งลงบนผ้าผูกเอวของตน “เอาไว้ก่อนนะเจ้าคะ เดี๋ยวกินต่อ เสร็จแล้วข้าจะกินหมดเลย!” พลางหยิบใบไผ่ขึ้นมาทำตามคำสอนอย่างตั้งอกตั้งใจ
นางมองใบไผ่ที่เรียงซ้อนกันในอ่างน้ำต้มจนกลิ่นหอมธรรมชาติ แล้วยืนอยู่หน้าซุ้มไม้ไผ่ด้วยดวงตาเปล่งประกายราวกับเด็กหญิงที่เพิ่งได้เห็นเรื่องมหัศจรรย์ครั้งแรก ทั้งที่ด้านข้างยังถือบ๊ะจ่างที่พึ่งกินไปครึ่งตรงเอว เธออยากทำของตัวเองให้เสร็จสักชิ้น หลินหยาเลือกใบไผ่เส้นหนึ่ง สีเขียวอมทองข้างใบช้ำ ๆ เหมือนโดนแดด แต่ยืดหยุ่นดี นางล้างด้วยน้ำสะอาดจากอ่างน้ำ เช็ดด้วยผ้าขาวบางสะอาดจนหมาดแล้ววางบนโต๊ะอย่างปราณีต ปลายนิ้วยาวเรียวเริ่มพับจากก้นใบขึ้นเป็นกรวยคว่ำ ปลายแหลม นางกดให้โค้งนิด ๆ แล้วพับจนได้เป็นรูปทรงแล้วยิ้มบางออกมา..
"เอาล่ะ...เจ้าอย่าหลุดนะ" เธอพูดกับกรวยใบไม้ราวกับมันมีชีวิต ก่อนจะตักข้าวเหนียวหอมสมุนไพรใส่ลงไปทีละช้อน อุ่น ๆ ยังพอมีไอไหลขึ้นมาบาง ๆ กลิ่นใบเตยกับเห็ดหอมลอยคลุ้ง จากนั้นก็ถึงขั้นตอนใส่ไส้ ซึ่งหญิงสาวตักหมูตุ๋นแทรกลงไปด้านในอย่างเบามือ ตามด้วยไข่แดงและถั่วลิสง แต่แทนที่จะใส่กระจัดกระจาย เธอกลับค่อย ๆ จัดเรียงไส้รูปดอกไม้ในกลางข้าว "แหมะ ต้องมีศิลปะหน่อยสิ บ๊ะจ่างของข้าจะต้องงดงามทั้งรสและรูป" เสียงเล็กของนางบ่นเบา ๆ
เมื่อจัดเสร็จแล้วก็โรยข้าวเหนียวทับจนเกือบเต็ม นางใช้นิ้วกดข้าวลงให้แน่นอย่างอ่อนโยนแล้วจึงค่อย ๆ พับใบไผ่ด้านข้างเข้าหากัน ขมวดปลายและพับทบลงเหมือนห่อของขวัญอันเล็กจิ๋ว จากนั้นจึงหยิบเชือกที่เป็นทางซุ้มเตรียม แต่หลินหยาหยิบเชือกสีชมพูอ่อนซึ่งโดดเด่นในสายตาของเธอจากกล่ิงทันทีไม่ลังเลแม้แต่น้อย
“มันก็ต้องสีนี้สิ” นางบอกกับตัวเองแล้วหัวเราะเบา ๆ แล้วก็มัดเชือกรัดบ๊ะจ่างตัวน้อยอย่างตั้งอกตั้งใจสุด ๆ พันหนึ่งรอบ สองรองแล้วก็สามรอบแล้วผูกเงื่อนอบบที่นางเคยใช้ผูกเวลาทำงานของตนเอง เมื่อเสร็จแล้วก็ชูบ๊ะจ่างขึ้นในระดับหน้า เสร็จจจจ สักกกก ทียว์ ใบหน้าเล็ก ๆ ยิ้มจนตาโค้งราวกับพระจันทร์เสี้ยว
สตรีวัยกลางคนคนเดิมพยักหน้าเอ็นดู “เจ้ามัดสวยมากแม่นางน้อย ถ้าอยากต้มก็วางถาดนี้เลย เดี๋ยวต้มเสร็จค่อยมารับก็ได้” หลินหยาที่ได้ยินเช่นนั้นก็รีบวางบ๊ะจ่างของตนบนถาพที่ติดป้ายว่า สำหรับผู้ต้องการรับของตัวเอง" แล้วใช้ปลายนิ้วแตะเชือกชมพูเล็กน้อยเหมือนเป็นคำอำลาเบา ๆ "ไว้เจอกันนะ ข้าวของข้า" เธอกระซิบก่อนจะหันหลัง เดินไปจากซุ้มด้วยหัวใจที่ฟูฟ่อง เหมือนกลิ่นข้าวเหนียวที่กำลังระเหยขึ้นจากหม้อใหญ่กลางตลาด...อบอุ่น อ่อนโยน และเต็มไปด้วยเรื่องเล่า
https://img2.pic.in.th/pic/file_00000000cb6061f8b6d5b1b604348449.md.png
https://img2.pic.in.th/pic/-4_20250603154522.md.png
กิจกรรมที่ 2 ปักถุงหอมและถักสร้อยข้อมือห้าสีเสริมสิริมงคล
ภายในซุ้มปักถุงหอมกับสร้อยข้อมือห้าสี ผู้คนแวะเวียนเข้ามาไม่วาดสาย กลิ่นอายของเทศกาลตวนอู่ปะปนกับกลิ่นหอมอบอวลจากเครื่องหอมหลากชนิดคล้ายกลิ่นดอกไม้แห้งและสมุนไพรโบราณ สายลมฤดูร้อนพัดลอดชายผ้าโปร่งของหลังคาซุ้มเข้ามาเบา ๆ คล้ายกับปลุกเร้าให้อารมณ์ศิลป์ของทุกคนโลดแล่นขึ้นมาทันที หลินหยาสวมผ้าคลุมบางสีครีมเหมือนเคย สีหน้าของเธอสดใสราวกับกำลังจะเข้าไปตักขนมหวานแบบเด็ก ๆ เสียเต็มประดา เด็กสาวผู้นั้นเบื่องตัวลอดม่านผ้าเข้ามาในซุ้ม ดวงตากลมโตเป็นประกายในทัทีที่เห็นเครื่องไม้เครื่องมือที่จัดวางละลานตาบนโต๊ะ
“ว้ายยย..มีด้ายสีชมพูกุหลาบด้วยล่ะ” เธอพูดออกมาเบา ๆ พลางพุ้งตัวไปหยิบด้านผืนเล็กสีหวานขึ้นมาดูด้วยความกระตือรือร้น จากนั้นก็กวาดสายตาไปทั่วซุ้มอย่างมีชีวิตชีวา โต๊ะยาวแผ่เป็นรูปแบ่งเป็นสองฝั่ง ด้านหนึ่งเต็มไปด้วยผืนฟ้าหลากเนื้อหลายชนิดพร้อมรอยปักลวดลายเบื้องต้นก็มีเหมือนกัน บ้างเป็นลายเมฆ บ้างเป็นรูปสัตว์มงคลอย่างกิเลน เฟิงหวง มังกร..ด้านหนึ่งมีถุงหอมที่เย็บขึ้นรูปแล้วในทรงต่าง ๆ ทั้งแบบซองเรียบง่าย หรือแบบผูกพู่ระย้าไว้ด้านล่าง และอีกด้านเป็นโต๊ะเรียงขวดเครื่องหอม ทั้งกำยานบด ดอกไม้แห้ง กานพลู ผิวส้มซุ่น เฉาก๊วยแห้ง มดยอบ และแม้แต่ผงกฤษณาชั้นดีที่กลิ่นอบอุ่นติดหวานนวลจาง ๆ
หลินหยานั้นยืนคิดอยู่สักพักหนึ่ง.."จะทำแบบที่มีพู่ยาว ๆ ด้านล่าง แล้วก็ต้องมีเชือกถักห้อยเอวด้วยนะ จะได้สะบัดให้ดูสวยเวลาเดิน" เธอพึมพำกับตัวเองก่อนจะคว้าผ้าผืนเล็กสีงาช้างและชมพูอ่อนขึ้นมา นางกดมุมผ้าเล็กน้อย ราวกับวัดว่าสามารถปักลายเล็ก ๆ ด้านหน้าได้หรือไม่ ก่อนจะคว้ากล่องเข็มกับด้ายสีอ่อนหลายหลอดมากระจายเรียงไว้บนโต๊ะ
นางเอียงหน้าเล็กน้อยแล้วคลี่ยิ้มหว้าง สายตาแฝงแววของความคิดเจือเล่นสนุก ริมฝีปากเล็กเหมือนคิดอะไรอยู่ “ทำเป็นรูปผลท้อกับดอกท้อบานเสียดีกว่า แล้วก็ใส่ผ้าพู่ห้อยสวย ๆ หนึ่งช่อ” พูดรัวด้วยเสียงตื่นเต้น ปลายนิ้วบางหยิบเข็มขึ้นมาแล้วเริ่มปัก...ด้วยหัวใจที่เต้นตุบ ๆ เหมือนกับเด็กหญิงในฤดูใบไม้ผลิที่เพิ่งหัดเย็บผ้าครั้งแรก ความสุขเล็ก ๆ เรียบง่ายเช่นนี้กลับกลายเป็นสายลมหวานพัดผ่านหัวใจผู้คน…
สิ่งที่หลินหยาปักในวันเทศกาลนั้น มิใช่เพียงถุงหอมธรรมดา หากแต่เป็นถุงหอมที่ซ่อนตัวตน ความรักในชีวิต และความฝันของเด็กสาวผู้หนึ่งไว้จนเกินกว่าจะบรรยายเป็นเพียงคำพูดธรรมดา...เนื้อผ้าสำหรับถุงนั้น เธอเลือกผ้าไหมย้อมสีพีชโทนหวานละมุน เย็บขึ้นทรงกลมเล็กขนาดเท่าฝ่ามือ ด้านล่างแต่งพู่ไหมยาวประณีตสีชมพูแสงทับทิมสลับเส้นสีทองอ่อน ห้อยลู่ลงราวกับหางนกยูงที่ปลิวล้อลมทุกย่างก้าวเมื่อสะพายติดกับสายเอวของเสื้อผ้าสตรี
บนผ้าผืนนั้น หลินหยาปักลวดลายตรงกลางถุง เป็นลาย ลูกท้อสุก สีส้มอมชมพูสดใส กลีบพีชดูอวบอิ่มคล้ายผลไม้ที่พร้อมหยิบมากัด ดอกท้อบานชูช่อในฤดูใบไม้ผลิกลางสวนหลวง เส้นด้ายที่ใช้ปักเป็นไหมเบาบางหลากเฉดตั้งแต่ชมพูจางจนถึงชมพูเข้มปลายกลีบ ไล่โทนละเอียดประหนึ่งใช้แสงวาด ภายในเกสรดอกมีลูกปัดแก้วขนาดจิ๋วสอดแทรกระยิบระยับจับแสง เพื่อสื่อถึงชีวิตที่ผลิบาน ความอบอุ่นแห่งฤดูที่นำพาความอ่อนโยน ความสุข ความรัก และโชคลาภมาให้ ดอกท้อในลัทธิเต๋าคือสัญลักษณ์แห่งการขจัดปีศาจ อายุยืน และโชคดีในความรัก การที่เธอเลือกปักเช่นนี้...ย่อมบอกอะไรหลายอย่างมากกว่าที่ใครรู้
การตกแต่งนั้นเธอร้อยลูกปัดสีชมพูใสเล็กจิ๋วแซมรอบถุง เหมือนดาวที่ล้อมจันทรา ลูกปัดสมชมพู ดุจหยดน้ำหวานจากผลไม้ที่ใสสะอาดในตำนาน ว่ากันว่าโรสควอตซ์นำพาความสงบในใจ และช่วยเยียวยาจิตวิญญาณจากความทุกข์เก่า ๆ ระหว่างชั้นของปักเย็บ เธอสอดลูกปัดหยกขนาดเล็กเพียงปลายนิ้วก้อยเข้าไปในชั้นผ้าด้านหน้า เป็น หยกเผิงจู่สีเขียวใส ซึ่งเป็นหยกบริสุทธิ์เกรดดี มีประกายเมื่อกระทบแสงจันทร์ สีเขียวของมันสื่อถึงความสมดุล เยียวยา สุขภาพดี และความมั่นคงในชีวิต ในขณะเดียวกันก็ให้พลังในการตัดสินใจอย่างมั่นคง พู่สีชมพูยาวแต่งปลายด้วยลูกปัดทรงกลมและเส้นไหมจีนเกรดสูงทิ้งตัวอ่อนละมุนพอดีจังหวะ สายพู่เมื่อขยับตามลมจะเปล่งเสียงเสียดสีเบา ๆ ราวกับเสียงสายฝนตกกระทบหลังคาไม้ในวันฝนพรำ ฟังแล้วให้ความรู้สึกสงบ สมบูรณ์ และอบอุ่น
หลังจากนั้นภายในถุงหอมเธอก็ใส่สมุนไพรอบแห้งและเครื่องหอมที่ตัวเองชอบไว้มากมาย..กลีบกุหลาบแห่ง หอมหวานคล้ายรักแรก ช่วยประโลมใจที่เหนื่อยล้าให้กลับมาอบอุ่น กลิ่นหอมของดอกไม้ม่วงหอมเย็นอ่อนช่วยคลายความกังวน นอนกลับฝันดีและพื้นฟูจิตใจ..รากโสมป่น หอมเผื่อนช่วยให้จิตใจสดชื่อสำหรับต่อสู้กับวันที่เหนื่อยล้า อบเชยบดหยาบเครื่องเทศอุ่นให้ปลอดภัยเพิ่มพลังงานชีวิต..เปลือกส้มแห้งหวานซ่อนเปรี้ยวซ่าแทนความกระฉับกระเฉย..สุดท้ายคือกลิ่นที่นางชอบที่สุด กฤษณา..กลิ่นไม้หอมนุ่มลึก สื่อถึงฐานะ ความมสงบและความศรัทธา..
กลิ่นที่ออกมาจากถุงหอมนั้นไม่หวาดจัดหรือฉุนจัดจนเกินไป หากแต่คล้ายกลิ่นของช่วงบ่ายฤดูใบไม้ผลิที่มีลมพัดอ่อนจากแนวไผ่ หอมอบอวลด้วยกลิ่นไม้ กลิ่นดอกไม้ และเงาเงียบของความสุขที่มองไม่เห็น ดมแล้วคล้ายกับนั่งอยู่ใต้ต้นท้อกลางหุบเขาแห่งหนึ่ง หลับตาฟังเสียงขลุ่ยเป่าจากชายคาที่ไกลโพ้น มันเป็นถุงหอมที่หลินหยานั้นปักเพื่อตนเอง..นางชอบมัน
แม้ไม่มีใครรับรู้ถึงความหมายในทุกรายละเอียดที่เธอใส่ลงไป...แต่ทุกเข็ม ทุกด้าย ทุกกลิ่นหอม ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของเด็กสาวผู้แบกโลกทั้งใบไว้ในดวงตาคู่นั้น โลกที่ทั้งสดใส ทั้งเหน็ดเหนื่อย ทั้งหวาน ทั้งเปราะบาง และในขณะเดียวกัน...ก็งดงามเหนือกว่าทุกสิ่ง หลังจากนั้นก็วนกลับไปเอาบ๊ะจ่างที่ตัวเองทำเอาไว้เหมือนกัน
https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/-11_20250624034359.md.png
[รูปภาพ 48*48]
ชื่อผลงาน : ถุงหอมดอกท้ออร่อย
คำอธิบาย : ถุงหอมเรียบง่าย ตรงกลางถุง เป็นลาย ลูกท้อสุก สีส้มอมชมพูสดใส กลีบพีชดูอวบอิ่มคล้ายผลไม้ที่พร้อมหยิบมากัด ดอกท้อบานชูช่อในฤดูใบไม้ผลิกลางสวนหลวง เส้นด้ายที่ใช้ปักเป็นไหมเบาบางหลากเฉดตั้งแต่ชมพูจางจนถึงชมพูเข้มปลายกลีบ ไล่โทนละเอียด เพื่อสื่อถึงชีวิตที่ผลิบาน ความอบอุ่นแห่งฤดูที่นำพาความอ่อนโยน ความสุข ความรัก และโชคลาภ ร้อยลูกปัดสีชมพูใสเล็กจิ๋วแซมรอบปากถุง เหมือนดาวที่ล้อมจันทรา ลูกปัดสมชมพู ดุจหยดน้ำหวานจากผลไม้ที่ใสสะอาดในตำนาน ว่ากันว่าโรสควอตซ์นำพาความสงบในใจ และช่วยเยียวยาจิตวิญญาณจากความทุกข์เก่า ๆ ระหว่างชั้นของปักเย็บสอดลูกปัดหยกขนาดเล็กเพียงปลายนิ้วก้อยเข้าไปในชั้นผ้าด้านหน้า เป็น หยกเผิงจู่สีเขียวใส ซึ่งเป็นหยกบริสุทธิ์เกรดดี มีประกายเมื่อกระทบแสงจันทร์ สีเขียวของมันสื่อถึงความสมดุล เยียวยา สุขภาพดี และความมั่นคงในชีวิต ในขณะเดียวกันก็ให้พลังในการตัดสินใจอย่างมั่นคง พู่สีชมพูยาวแต่งปลายด้วยลูกปัดทรงกลมและเส้นไหมจีนเกรดสูงทิ้งตัวอ่อนละมุนพอดีจังหวะ สายพู่เมื่อขยับตามลมจะเปล่งเสียงเสียดสีเบา ๆ ราวกับเสียงสายฝนตกกระทบหลังคาไม้ในวันฝนพรำ ฟังแล้วให้ความรู้สึกสงบ สมบูรณ์ และอบอุ่น ภายในมีสมุนไพรอบแห้งและเครื่องหอม กลีบกุหลาบแห่ง หอมหวานคล้ายรักแรก ช่วยประโลมใจที่เหนื่อยล้าให้กลับมาอบอุ่น กลิ่นหอมของดอกไม้ม่วงหอมเย็นอ่อนช่วยคลายความกังวน นอนกลับฝันดีและพื้นฟูจิตใจ รากโสมป่น หอมเผื่อนช่วยให้จิตใจสดชื่อสำหรับต่อสู้กับวันที่เหนื่อยล้า อบเชยบดหยาบเครื่องเทศอุ่นให้ปลอดภัยเพิ่มพลังงานชีวิต เปลือกส้มแห้งหวานซ่อนเปรี้ยวซ่าแทนความกระฉับกระเฉย สุดท้ายคือกลิ่นกฤษณาไม้หอมนุ่มลึก สื่อถึงฐานะ ความมสงบและความศรัทธา
ชื่อผู้จัดทำผลงาน : หนาน หลินหยา
https://img2.pic.in.th/pic/-4_20250603154522.md.png
กิจกรรมที่ 3 ถวายบ๊ะจ่างรำลึกถึงชวีหยวน
เสียงกลองเรือมังกรที่ดังสนั่นจากเบื้องล่างท่าเรือกลายเป็นฉากหลังอันคึกคักทว่า ณ ริมแม่น้ำเว่ย ประดับธงผ้าหลากสีพริ้วไหวเคลื่อนตัวตามแรงลม ท่ามกลางเสียงผู้คนที่เบาบางลงและบรรยากาศที่เหมือนจะชะลอลมหายใจทั้งเมือง หลินหยายืนอยู่ตรงหน้าบันไดหินซึ่งทอดยาวลงสู่ริมน้ำ ราวกับเป็นทางเดินอันศักดิ์สิทธิ์สู่แท่นบูชา มือเล็กของเธอกำบ๊ะจ่างที่เธอลงมือห่อด้วยตนเองไว้แน่น บ๊ะจ่างลูกกลมแต่งลายใบไผ่ขลิบด้วยด้ายชมพู ผูกด้วยเงื่อนเล็กอย่างตั้งใจ เธอก้าวอย่างระมัดระวังขึ้นไปบนแท่นบูชาไม้ไผ่ สายตากวาดมองรอบกาย เห็นหญิงชาย ชาวบ้าน ขุนนาง และเด็กน้อยต่างเข้ามาสักการะผู้ล่วงลับด้วยใจจริง
หลินหยาก้มหัวลงช้า ๆ แล้ววางบ๊ะจ่างลงบนจานไม้เคลือบขาวอย่างแผ่วเบา เสียงของเธอที่เปล่งออกมาแทบจะกลืนไปกับสายลม “ข้าหวังว่าพวกท่านจะไม่โดดเดี่ยว แม้เวลาผ่านไปนานเพียงใด ชื่อของท่านก็ยังคงดงงามในแผ่นดินและใจคน” หลังจากนั้นหลินหยาจึงเดินไปที่ต้นหลิวที่แผ่กิ่งสยายลงแนบริมแม่น้ำ กิ่งหลิวหลายกิ่งมีแผ่นไม้แขวนห้อยระย้า ด้านบนมีตัวอักษรมากมายเขียนไว้ หลินหยาเลือกแผ่นไม้ขนาดพอดีมือ เธอหยิบพู่กันจุ่มหมึกแล้วเขียนอักษรตัวเดียวกลางแผ่นไม้ด้วยลายมือที่..ไก่เมายาบ้านิดหน่อย..
樂 - ความสุข
ไม่ใช่ความสำเร็จ ชื่อเสียง ชัยชนะ แต่คือความสุขเล็ก ๆ ที่หล่อเลี้ยงชีวิตในทุกวันของผู้คนไม่ว่าจะต่ำหรือสูงเท่าใด..หลังจากผูกแผ่นไม้นั้นเข้ากับปลายกิ่งหลิวที่แกว่งไกวตามลม หลินหยาก็เงยหน้าขึ้นมองมันเบา ๆ แล้วหลับตาลงครู่หนึ่ง ราวกับเธอกำลังส่งคำขออันเรียบง่ายนี้ไปถึงชวีหยวน และผู้คนทั้งต้าฮั่น รวมถึงใครสักคนที่ไม่อยู่ตรงนี้ในเวลานี้ แต่เธออยากให้เขามีความสุขเช่นกัน
https://img2.pic.in.th/pic/-4_20250603154522.md.png
กิจกรรมที่ 4 แข่งขันเรือมังกร
แสงแดดยามเที่ยงคล่อยสาดทาบผืนน้ำของแม่น้ำเว่ยราวโลหะขัดเงา แวววาวจนตาพร่าไปด้วยกัน เสียงโห่ร้องดังกระหึ่มไปทั่วฟากฝั่น จวันสีทองถูกจุดขึ้นเหนือพื้นส่งสัญญาณเริ่มต้นกิจกรรมที่ผู้คนทั้งเมืองต่างรอคอยตลอดหนึ่งปี การแข่งบันเรือมังกรอันศักดิ์สัทธิ์..ริมแม่น้ำเว่ยคลาคล่ำไปด้วยผู้คนตั้งแต่ขุนนางจนถึงชขาวบ้าน เด็กเล็กบนบ่าพ่อแม่ ผู้เฒ่าผู้แก่ที่นั่งเก้าอี้ไม้ไผ่ หญิงสาวชายหนุ่มสวมชุดสีสันสดใสเดินกันขวักไขว่า หลินหยายืนแอบใต้ร่มไม้หลิวเงียบ ๆ ไม่แทรกฝูงชนมากนัำก เพียงขยับมือมาบังแดดเบา ๆ
สายตาเธอมองออกไปยังแม่น้ำที่บัดนี้กลายเป็นเวทีอันยิ่งใหญ่ เรือมังกรหลายลำเรียงแถวลอยนิ่งอยู่บนผิวน้ำ ลำเรือแต่ละลำยาวเหยียดท้องเรือท่าสีเข้มตัดลายทองอย่างวิจิตรงดงามก็มี หัวเรือหลายลำสลักเป็นรูปมังกรทะบานขึ้นจากฝืนน้ำ ลำตัวยาวราวกับเกล็ดสะท้อนแสง เสียงกลองสามใบดังขึ้นเป็นหัวใจของมังกรที่ออกล่า นักพายเรือมากหน้าหลายตา ต่างสวมผ้าคาดศีรษะสีเดียวกัน แขนเปลือยโชว์กล้ามแน่นจากการฝึกฝน บางกลุ่มเป็นทหารจากค่ายบางซ้าย บางกลุ่มคือคนงานก่อสร้างริมเขื่อน บางกลุ่มกลับเป็นเหล่าพ่อค้าในตลาดตะวันออกที่จับมือรวมกลุ่มสมัครใจ
“...กล้ามเป็นมัด ๆ…” เรือแต่ละลำล้วนมีวิญญาณของหมู่คณะ ผสานกับเสียงกลองเป็นจังหวะ แม้ว่าสายตาของหลินหยาจะมองอย่างอื่นมากกว่าก็ตาม
เรือลำหนึ่งเริ่มพายเริ่มเร่ง พุ่งนำคนอื่นไปครึ่งลำ แข่งกับลมและเสียงกู่เชียร์ของเหล่าผู้ชมที่ดังสนั่น ท้องฟ้าเหนือแม่น้ำเว่ยเริ่มโปรยสายลมเย็นลงมา กลิ่นชิงเฮสจากสะบายรอบบ้านผสมกลิ่นหอมละมุนของถุงหอมที่ห้อยแนบเอว หลินหยากระชับชายเสื้อแล้วมองแสงสะท้อนจากผืนน้ำทาบเงาบนแก้มขาวนวลอมชมพูของนาง มองเรือมังกรที่พุ่งไปด้านหน้ากับคนทั้งลำเรือที่พากันใช้ไม้พายไปพร้อมกันราวกับว่าความศรัทธพา ความกล้า ความเหนื่อยากเป็นหนึ่งเดียวกันตอนนี้..
“สู้ ๆ นะเจ้าคะ..พวกท่านทั้งหลาย” เธอกระซิบให้กับเหล่านักพายที่มิได้ยิน..ได้แต่เพียงยิ้มบาง ๆ แล้วมองไปด้านหน้า ในวันแห่งศรัทธาและมังกรที่กำลังเร่งรัดแข่งขันกัน..
https://img2.pic.in.th/pic/-4_20250603154522.md.png
เสียงเชียร์จากฝั่งแม่น้ำเว่ยยังคงดังระงม บรรยากาศความฮึกเหิมและความขลังแห่งการแข่งขันลอยกรุ่น ๆ กลางลมร้อนของฤดูเทศกาลตวนอู่ แต่ในมุมหนึ่งของสนามริมน้ำนั้น ใต้ร่มผ้ามีชายหนุ่มใบหน้าระรื่นผูกผ้าโบกศีรษะกำลังตะโกนเชิญชวนผู้คนรอบข้างให้เข้าร่วม วงพนันเรือมังกร.. "สิบตำลึงเงิน สิบตำลึงเงินเท่านั้น! ทายถูกรับคืนสามเท่า! คนสวยคนหล่อเดินมาเลย! ใครว่าแน่ ใครว่าแม่น พยากรณ์ผลจากใจเจ้ามา!" เขาตะโกนพร้อมกระดกสุราหอมคลุ้งเบา ๆ ดวงตาพราวระยับราวหมาป่าตลาดล่างที่เกิดมาเพื่อการเสี่ยง
หลินหยานั้นจ้องมองตรงที่เขาตะโกนกันด้วยดวงตาไหววับเมื่อเห็นป้ายชื่อเรือที่มีการวาดลายมังกรแต่ละสี..หืม??
เรือมังกรชมพู..นางมังกรซานเย่ว์…
“อุบ๊ะ..” หลินหยาถึงกับหลุดอุทานในใจ สีชมพูระเรื่อเป็นเนื้อผ้าพริ้ว ผสมแถบลายดอกไม้ปักไว้ที่ท้ายเรือราวกับกลีบบุปผาที่ปลิวไหว ดอกไม้สีอ่อนประดับปลายหางมังกรประหนึ่งจะกล่อมศัตรูให้ตายใจเสียมากกว่าทำสงครามกลางน้ำ ทั้งหัวเรือยังเป็นมังกรน้อยหน้าหวาน ดวงตากลมโต หางขนงอนเป็นสายริบบิ้นประดับกล่องของขวัญ แถมยังติดกระดิ่งเล็ก ๆ ที่ส่งเสียงกรุ๊งกริ๊ง ๆ ตอนที่เรือพาย..
และสิ่งที่น่ารักเชียร์จนห้ามใจ..อ๊าาาาาา ทีมพายเรือเป็นสตรีทั้งหมด เกิร์ลกรุ๊ปหรอคะ? กลุ่มหญิงสาวชุดแขนกุดแบบนักรบ มัดผมหางม้าไว้เรียบร้อยแต่มีริบบิ้นปลายผม ทั้งหมดใส่ผ้าคาดศีรษะสีชมพูอ่อน มีลายคำว่า ใจเด็ดเกินบรรยาย เย็บไว้ด้วยแวววับ หัวเราะเอิ๊กอ๊ากระหว่างซ้อมชูไม้พายซ้ายขวา บ้างมีแอบส่งเสียง “เย้~!” ท้าทายกลุ่มนักพายชายล่ำบึ้กที่อยู่ไม่ไกล
หลินหยายิ้มแป้นออกมาราวกับจะระเบิดเสียงหัวเราะร่าของเธอ ก่อนเดินปรี่มาที่โต๊ะพนันอย่างว่องไว “ข้า! ข้าขอลงเรือนางมังกรซานเย่ว์เจ้าค่ะ” เธอกล่าวก่อนที่จะมีประกาศของความสนุกก่อนที่จะส่งเงิน 10 ตำลึงเงินให้เต็มมือชายเจ้าเมือ และเธอก็ไม่หวังอะไรว่าจะชนะด้วยนะ ชายคนนั้นหัวเราะร่าเพราะนางเลือกเรือแปลกกว่าชาวบ้าน
“เหตุใดมาเลือกเรือนี้กันเล่าแม่นางน้อย” เขาถาม
“เหตุผลก็ไม่มีอะไรซับซ้อนเจ้าค่ะ” หลินหยาพูดเสียงใส “เพราะนางน่ารักที่สุด!”
https://img2.pic.in.th/pic/-4_20250603154522.md.png
อื่น ๆ : ลงพนัน 10 ตำลึงเงิน (โอนแล้วจ้า)
รางวัล:กิจกรรมที่ 1 ห่อบ๊ะจ่าง ได้รับ 5 ตำลึงเงิน + บ๊ะจ่าง 1 ชิ้น + 10 EXPกิจกรรมที่ 2 ปักถุงหอมและถักสร้อยข้อมือห้าสีเสริมสิริมงคล ได้รับ 10 ตำลึงเงินกิจกรรมที่ 3 ถวายบ๊ะจ่างรำลึกถึงชวีหยวน ได้รับ 5 ตำลึงเงิน + 15 คุณธรรมกิจกรรมที่ 4 แข่งขันเรือมังกร ได้รับ 10 ตำลึงเงิน
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย WeijiaLianhua เมื่อ 2025-6-28 09:22 <br /><br /><style type="text/css">BODY{background:url("https://img2.pic.in.th/pic/-2b773aad79bb3ec16.png?1; background-attachment:fixed; %7D</style>
<style>
#Box01 {
border: 0px solid;
border-radius: 50px;
background-image: url("https://i.imgur.com/meLD9VX.png"); }
#Box02 {
border: 0px solid;
width: 75%;
background-color: #355E3B;
box-shadow: #000000 5px 5px 5em;}
#Box03 {
width: 600px;
border: 0px solid #355E3B ;
padding: 50px;
box-shadow: rgb(0,0,0) 2px 2px 1em;
border-radius: 25px;
background-image: url("https://i.imgur.com/pGX3lk9.png");}
</style>
<link href="https://fonts.googleapis.com/css2?family=Charmonman:wght@400;700&family=Niramit:ital,wght@0,200;0,300;0,400;0,500;0,600;0,700;1,200;1,300;1,400;1,500;1,600;1,700&family=Zhi+Mang+Xing&family=Niramit:ital,wght@0,200;0,300;0,400;0,500;0,600;0,700;1,200;1,300;1,400;1,500;1,600;1,700&display=swap" rel="stylesheet">
<div align="center">
<font face="Niramit" size="3" color="#ffffff">
<div id="Box01">
<div id="Box02">
<div style="height: 1000px; background-image: url('https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/b08465198112b529e88938c6abc6bc65d0663a5325aef-aUyLZK_fw658webp.png');
background-position : center top;
background-size: cover;
background-repeat: no-repeat;"></div>
<div style="margin-top: -950px; margin-right: 0px; text-align: right;">
<div style="height: 400px; background-image: url('https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/c8e5decd46211ac5238153ece248b68c76a2f42b5c4ed-gdKHBG_fw658webp.png');
background-position : right top;
background-size: 500px 400px;
background-repeat: no-repeat;"></div>
</div>
<div style="margin-top: -300px; margin-right: 160px; text-align: right;">
<img style= "height: 200px;" src="https://img2.pic.in.th/pic/325d621287f89ec11cb607b3a03de0a63060065d1447e-BCWx4B_fw658webp.png" border="0" alt=""></div>
<br>
<br><br><br><br><br><br>
<img style= "height: 50px;" src="https://i.imgur.com/pm7vOBw.png" border="0" alt=""><img style= "height: 50px;" src="https://i.imgur.com/pm7vOBw.png" border="0" alt=""><br><br>
<div id="Box03">
<font face="Niramit" size="3"><font color="White">
<font face="Zhi Mang Xing" size="7" >端午节</font><br><font face="Niramit" size="5"><b>เทศกาลตวนอู่</b></font><br> <br><br><b><i><font face="Niramit" size="6"> ประกาศผลงานเทศกาลตวนอู่ </font></b></i> <br><br><div style="text-align: left;">    สุริยันเหนือฟ้ามอดดับ จันทราฉายวนซ้ำไม่รู้คลาย เมื่อกาลเวลาดำเนินมาถึงช่วงสุดท้ายของงานเทศกาลตวนอู่ ผู้คนคลาคล่ำ แขกเรื่อต่างเมืองมากมายณ เวทีประกวดของเครื่องรางประจำปีนี้ผู้คนมากมายมีมติเป็นเอกฉันท์ ณ ถุงหอมใบน้อยแสนดึงดูดและใจพร้อมทั้งช่วยอวยพรให้ปีนี้อย่าได้มีสิ่งใดทุกข์ยาก ขอให้อ่อนละมุนและอิ่มหนำสำราญดั่งถุงหอมนี้
<div align="center">
<br><br>ผู้ชนะการประกวดถุงหอม
<br><br>หนาน หลินหยา (LinYa)
<br><br>ผลงานถุงหอมดอกท้ออร่อย
<br><br>ผู้ชนะการประกวดปักถุงหอมและถักสร้อยข้อมือห้าสี<br>
ได้รับผลที่ตัวเองเสนอ 1 ชิ้น (ถุงหอม หรือ สร้อยข้อมือห้าสี) + 3 ตำลึงทอง + 30 ตำลึงเงิน + 20 EXP + หินอัปเกรดและหินตีบวกอย่างละ 2 ก้อน
<br><br>
<img style= "height: 300px;" src="https://img2.pic.in.th/pic/16e9bd18e5636414a146196749958a02af51f98c480f3-XblQOw_fw658webp.png" border="0" alt=""><br><br></div>
<i>“...เขาคือชวีหยวน ขุนนางแห่งรัฐฉู่ ผู้จงรักภักดีจนยอมสละชีพเพื่อชาติ เมื่อเขากระโดดลงแม่น้ำ ประชาชนต่างร่วมพายเรือค้นหา ในช่วงเวลาที่หวาดหวั่นว่าปลาในแม่น้ำจะไต่ตอมกัดกินร่างจนสลายไปจึงโยนข้าวห่อใบไผ่ลงไปป้องกันไม่ให้ปลากินร่างของเขา... นั่นจึงเป็นเหตุที่เราห่อบ๊ะจ่างและแข่งเรือในวันนี้ มิใช่เพียงเพื่อเฉลิมฉลอง ทว่าเพื่อรำลึกถึงผู้ที่ไม่เคยหันหลังให้แผ่นดินเช่นกัน”</i><br><br><div style="text-align: left;">  เทศกาลตวนอู่นี้มิใช่เพียงการขับไล่ปีศาจอย่างเดียวเท่านั้นยังรำลึกถึงบรรพบุรุษผู้มากด้วยคุณธรรมอย่างชวีหยวนขุนนางผู้จงรักภักดีแห่งรัฐฉู่ ในยุคจ้านกว๋อ เขาเป็นกวีผู้เปี่ยมด้วยปัญญาและรักชาติอย่างสุดหัวใจ แต่เพราะถูกใส่ร้าย เขาถูกเนรเทศออกจากราชสำนัก<br>
  ครั้นได้ยินข่าวว่าบ้านเมืองจะล่มสลาย ชวีหยวนเศร้าจนหมดสิ้นความหวัง จึงกระโดดลงแม่น้ำมี่ลั่ว สละชีพเพื่อแผ่นดิน
<br>
  ชาวบ้านที่รักและเคารพเขา ต่างพากันพายเรือออกตามหาร่าง พร้อมโยนข้าวห่อใบไผ่ลงน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้ปลากินร่างของท่าน นั่นจึงเป็นต้นกำเนิดของการแข่งเรือมังกร และการห่อบ๊ะจ่างถวายแด่วิญญาณผู้กล้า<br>
<br><br>
   ณ ริมลำน้ำเว่ยอันทอดผ่านเมืองฉางอันในช่วงที่ดวงตะวันทอแสงได้มีการจัดการแข่งขันพายเรือมังกรครั้งสำคัญของปีนี้
<br><br>
   ตึง! ตึง! ตึง!
<br><br>
   “โอ๊ยยยยย! มาแล้วขอรับท่านผู้ชม!! ศึกปะทะพลังแขน บุกลำน้ำเว่ยกลางเมืองฉางอัน! ศึกนี้ มิใช่แค่แรง…แต่ต้องแซ่บ!!! เราจะได้เห็นเรือมังกรที่ ‘ตบด้วยตา สะกิดด้วยใจ’ ปะทะกับเรือที่...อืม เรียกได้ว่ามีงบจำกัดแต่ใจมันได้!!”
<br><br>
   ณ จังหวะนั้นเสียงกลองก็เร่งจังหวะเร้าฝูงชนร้องเฮลั่นก้องทั่วริมน้ำ
<br><br>
   “ขอเสียงให้กับ ‘เรือนางมังกรซานเย่ว์’! มาในรูปลักษณ์...สตรีงามแห่งลำน้ำ โอ้โห! หัวเรือเป็นมังกรน้อยหน้าหวาน ตานี่กลมป๊อกยิ่งกว่าลูกชิ้นปลาร้านเจ๊อันเจียง! หางงอนเป็นริ้วผ้าสุดฟรุ้งฟริ้ง(?)กระดิ่งกรุ๊งกริ๊งกรุ๊งกริ๊ง~ กล่อมใจคนดูเหมือนกล่อมให้ตายก่อนจะลงสู้! เรือไม่พายก็หวานอยู่แล้วววว!”
<br><br>
   เฮฮฮฮฮฮฮฮ!!!!!!
<br><br>
   กรี๊ดดดดดดดดดดด!!!!
<br><br>
   “ส่วนลูกเรือ โอ้ยแม่คุณ! …เกินต้าน!! ผ้าคาดหัวปักคำว่า ‘ใจเด็ดเกินบรรยาย’...แต่ท่าทางดูแล้ว แสบเกินบรรลัย มากกว่า! นี่คือเรือที่พายพร้อมเสียง ‘เย้~!’ จิกตาให้ทีมชายข้าง ๆ อย่างอหังการ!”
<br><br>
   “และฝั่งตรงข้าม…นั่นไง มาแล้วจ้า ‘เรือมังกรผงาด (ได้เท่านี้)’!!! เอ๊าาาาาาาาา เอ๊าาาาาา เอ่อ…อ่าาา โอเค…เรือมันก็...ผงาดแหละ แต่ผงาดแบบ ‘ฮึบ ๆ จะร่วงรึเปล่าไม่รู้’ แม่เจ้า!! หัวเรือวาดลายมังกร...หรือกิ้งก่าทอง!? ไม่แน่ใจ เพราะหางมันงอกกิ่งหลิวมาแบบไม่ได้ขออนุญาตเจ้าของต้น!! ข้างซ้ายแหว่ง ข้างขวาแหว่ง แถมหางเรือก็เหมือนอกหักมาเมื่อคืน! โอ๊ย ลำนี้สายมโนภาพทว่าใจมาเต็ม!”
<br><br>
   เมื่อแนะนำเรือผู้เข้าแข็งขันอีกราว ๆ สามลำเสร็จเสียงฆ้องก็ดังขึ้นเป็นการประกาศเริ่มต้นการแข่งขันกลางแสงสุริยันยามอู่ในยามที่ร้อนที่สุดของปี
<br><br>
   “และการแข่งขันเริ่มแล้ว!!! เรือนางมังกรซานเย่ว์พุ่งออกตัว โอ๊ยแม่คุณ! พายเร็วแต่ยังไม่วายส่งเสียงหวาน ‘สู้ ๆ ๆ เย้~!’ พายพร้อมยิ้มพร้อมจิกตามองชายเรือฝั่งตรงข้าม”
<br><br>
   “ส่วนฝั่งผงาด...ฮึบ ๆ โอ๊ยพ่อคุณ...แถวหน้าเหมือนยังลังเลชีวิต แถวหลังพายสวนทาง!! กิ่งหลิวยังปัดหน้าไม่หยุด เจ้ากรรม!”
<br><br>
  “เฮ้ยเฮ้ยเฮ้ย!! เรือนางมังกรแซงแล้ว!! ไปแล้วจ้าาาาาา ลอยลิ่ว ๆ ๆ กลีบดอกไม้ปลิวว่อน กระดิ่งดังกุ๊งกิ๊งเป็นจังหวะหัวใจ!!”
<br><br>
   เรือหนึ่งจัดเต็ม แต่อีกเรือแสนเศร้าผลงานที่เป็นประจักษ์ปานนี้คงไม่ต้องสืบแล้วกระมังว่าผู้ใดจะชนะเมือเสียงประทัดจุดฉลองแตกระเบิดเป็นกลีบบุปผาเมื่อนั้นผู้ชนะก็ถึงเส้นชัย
<br><br>
   “และสุดท้าย! เสียงระฆังดัง! ตุ๊ง!
เรือนางมังกรซานเย่ว์ เข้าถึงเส้นชัยไปด้วยท่าทางที่...เอ่อ...สะบัดไม้พายแบบหญิงงามชั้นสูงขึ้นเวที โบกมือทักคนดู! ส่วนเรือผงาด…ยังผงาดอยู่ตรงโค้ง…กระมัง?”
<br><br>
   “ศึกนี้สอนให้รู้ว่า…หัวใจแกร่ง บวกริ้วผ้าชมพู มันเอาชนะกิ้งก่าทองได้เสมอ!!! ขอยกมือปรบมือให้สาว ๆ แห่งเรือนางมังกรซานเย่ว์!! เย้~!!”<br><br><br><br>
<div align="center">
รางวัลชนะพนันแข่งเรือมังกร<br><br>
@LinYa <br><br>
ได้รับค่าลงพนันของทุกคนที่เข้าร่วม 20 ตำลึงเงิน + 4 ตำลึงทอง + กุ้งผัดชาหลงจิ่งและปลาเก๋านึงซีอิ๊วอย่างละ 1 จาน ( 1 รางวัล) + 5 point + หินตีบวก 1 ก้อน + ไหมแก้วแสงจันทร์ 1 ผืน
<br><br>
รางวัลขวัญใจเรือพาย (ผู้ที่อธิบายเรือมังกรได้สุดเฟี้ยวโดนใจผู้จัดงาน)<br><br>WeijiaLianhua (???)<br><br>
ได้รับ + 20 ตำลึงเงิน
<br><br><br><br>
<img style= "width: 75%;" src="https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/-2025-06-28-083705.png" border="0" alt=""> <br><br></div>
</div></font></font></div></div>
<br><br>@Admin
<br><br><br><br>
<div style="margin-top: -250px; ">
<div style="height: 500px; background-image: url('https://img2.pic.in.th/pic/2cfb5bb911fa59af30f4ad9a98c093c111689cc12278eb-b18IFK_fw658webp.png');
background-position : center bottom;
background-size: cover;
background-repeat: no-repeat;"></div></div>
</div>
</div>
</font>
</div>
หน้า:
[1]