[เขตจางเย่]
<style type="text/css">BODY{background:url("https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/-BG1.jpg"); background-attachment:fixed; }</style><style type="text/css">.head1 {background-color:none ;}.head2 {background-color:none ;}</style>
<div align="center" style="list-style-type: none;">
<style>
#boxsystem01 {
border-radius: 0 px;
border: 0 px double #708090;
padding: 30 px;
box-shadow: #708090 0px 0px 5 em;
background-image: url("https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/-BG.jpg");}
</style>
<style>
#boxsystem02 {
width: 600px;
border-radius: 20px;
padding: 3px;
box-shadow: #708090 0px 0px 1em;
background-image: url("https://img2.pic.in.th/pic/BG9d465f9f4963cd85.png");}
</style>
<div id="boxsystem01">
<p><br></p><p><br><br></p><p><img src="https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/d3af1e761f7816989e6b2c9f06a1dc55.png" border="0"></p><p><br></p><font face="Browallia New"><br>
</font><center>
<div class="jedi0">
<style>
.jedi0 {
border-radius: 0 px;
background: url("https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/4931ab9cf4e22b3762a73dc962a40abc.jpg") no-repeat;
box-shadow: 1px 1px 2px #708090, 0 0 25px #708090, 0 0 5px #708090;
-moz-border-radius:25px;
-webkit-border-radius:25px;
border-radius: 25 px;
height: 539px;
width: 800px;
image-size:cover;
background-repeat: no-repeat;
background-size:cover;
background-position: center center;
.tengah {
position: absolute;
}
</style>
</div>
</center>
<font face="Browallia New"><br><br>
</font><div id="boxsystem02">
<p><font size="5" style="" color="#4169e1" face="Kanit"><br></font></p><p dir="ltr" style="line-height:1.38;text-align: center;margin-top:0pt;margin-bottom:0pt;"><span style="background-color: transparent; font-style: normal; font-variant: normal; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre-wrap;"><font style="" face="Kanit" size="6" color="#92341b"><b style="">เขตจางเย่</b></font></span></p><p dir="ltr" style="line-height:1.38;text-align: center;margin-top:0pt;margin-bottom:0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline;"><font style="" face="Kanit" color="#92341b"><span style="white-space-collapse: preserve;"><b style=""><font size="5">ดินแดนธรณีสีรุ้ง </font></b></span><font size="6"><b style="font-style: normal; font-variant-ligatures: normal; font-variant-caps: normal; text-decoration-line: none; white-space: pre-wrap;"></b></font></font></span></p><p><font face="Kanit" size="6" color="#92341b"><b><span id="docs-internal-guid-1b1d71d7-7fff-52da-26c3-00e402e95cda"></span></b></font></p><p dir="ltr" style="line-height:1.38;text-align: center;margin-top:0pt;margin-bottom:0pt;"><font face="Kanit" color="#92341b"><br></font></p><div style="text-align: left;"><font face="Kanit"><font color="#92341b" size="4">เขตจางเย่ เป็นพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ตั้งอยู่บนที่ราบกว้างขวางล้อมรอบด้วยเทือกเขาสูงหลายแนว ภูมิประเทศส่วนใหญ่ประกอบด้วยที่ราบกว้างและที่ราบสูง มีแม่น้ำสายหลักไหลผ่านเพื่อหล่อเลี้ยงผืนดินทำให้เหมาะแก่การเพาะปลูกและตั้งถิ่นฐานของผู้คน ภูเขาสีสันสดใสที่รู้จักกันในชื่อ “ตันเซี๋ย” ตั้งตระหง่านเป็นฉากหลังของภูมิภาคนี้ โดยมีชั้นหินหลากสีสวยงามซึ่งเกิดจากการสะสมแร่ธาตุและกระบวนการทางธรณีวิทยามายาวนาน เขตนี้เป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญของเส้นทางสายไหม ที่ช่วยเปิดประตูสู่การค้าขายและแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างต้าฮั่นและดินแดนทางตะวันตก รวมถึงมีบทบาทเป็นเขตป้องกันชายแดนที่สำคัญในเชิงยุทธศาสตร์ ภูมิประเทศของจางเย่จึงเป็นการผสมผสานระหว่างความอุดมสมบูรณ์ของที่ราบและความงามตามธรรมชาติของภูเขาสีสันสะดุดตาอย่างลงตัว</font></font></div><div style="text-align: left;"><font face="Kanit"><font color="#92341b" size="4"><br></font></font></div><p><img src="https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/b5f6119433b1d45d546282fe83faa67f.png" border="0"></p><p><br></p>
</div><font face="Kanit"><font size="3"><font color="black">
<br><br><br><br>
</font></font></font><p></p></div><font face="Kanit"><font size="3"><font color="black"><b>
<br><br>
</b></font></font></font></div> <p></p><p><font face="Kanit"><br></font></p><p></p><div align="center" style="list-style-type: none;">
<style>
#Xiuying01 {
border-radius: 30px;
border: 6px double #DAA520;
padding: 3px;
box-shadow: #DAA520 0px 0px 3em;
background-image: url("https://i.imgur.com/gmUaOyu.jpg");}
</style>
<style>
#Xiuying02 {
width: 800px;
border-radius: 20px;
padding: 3px;
box-shadow: #DAA520 0px 0px 1em;
background-image: url("https://i.imgur.com/APTIUqY.png");}
</style>
<style>
#Xiuying03 {
width: 520px;
border-radius: 20px;
border: 6px double #DAA520;
padding: 3px;
box-shadow: #DAA520 0px 0px 3em;
background-image: url("https://i.imgur.com/O01jmYP.png");}
</style>
<div id="Xiuying01">
<p>
<font face="Kanit"><br><br></font></p><div id="Xiuying02"><div style="text-align: center;"><font face="Kanit"><br></font></div><div style="text-align: center;"><font color="#fab452" face="Kanit" size="5"><b><br></b></font></div><div style="text-align: center;"><font face="Kanit" size="5" color="#ffa500"><div style=""><b><div style=""><div style=""><div style=""><div>วันที่ 5 จิ่วเยว่ รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11 </div><div>ตลอดทั้งวัน</div></div></div></div><div style=""><span style="color: rgb(105, 105, 105);"><img src="https://i.imgur.com/VgeiQeN.png" border="0"></span></div></b></div></font></div><div style="text-align: center;"><br></div><div style="text-align: left;"><div style="text-align: center;"><div style="text-align: left;"><span id="docs-internal-guid-1099c606-7fff-e437-e745-a6bfcd8f8106"><font face="Kanit"><div style="text-align: center;"><div style="text-align: center;"><div style="text-align: left;"><div><div><font size="3">การเดินทางภายใต้ดวงตะวันอันแผดเผาและความหนาวเหน็บยามค่ำคืนดำเนินไปอย่างต่อเนื่องและไม่หยุดยั้ง ซิ่วอิงลืมตาขึ้นในยามที่แสงอรุณยังคงเป็นเพียงเส้นขอบสีทองเรื่อ ๆ อยู่ทางทิศตะวันออกในทุก ๆ วัน นางเก็บสัมภาระอย่างรวดเร็ว ดับกองไฟที่มอดลงจนเหลือเพียงเถ้าถ่าน และเริ่มก้าวย่างออกเดินทางอีกครั้งก่อนที่ความร้อนระอุจะกลับมาทวงคืนอาณาเขตเหนือผืนทราย การมีวินัยในการเดินทางเช่นนี้ทำให้นางสามารถรุดหน้าไปได้ไกลกว่านักเดินทางคนอื่น ๆ ที่มักจะพักผ่อนจนกระทั่งดวงอาทิตย์ขึ้นสูงแล้ว</font></div><div><font size="3"><br></font></div><div><font size="3">วันแล้ววันเล่าที่ทิวทัศน์รอบตัวมีเพียงทะเลทรายที่กว้างใหญ่ไพศาล ผืนทรายสีทองละเอียดทอดยาวไปจนสุดสายตา ถูกพัดพาให้เป็นระลอกคลื่นเล็ก ๆ ตามแรงลมที่โชยมาเป็นระยะ ในยามกลางวัน ความร้อนระอุของผืนทรายทำให้เกิดภาพลวงตาของโอเอซิสที่อยู่ห่างไกล ซึ่งเป็นภาพที่ทั้งเย้ายวนและหลอกลวง นักเดินทางที่ขาดสติอาจวิ่งเข้าหาภาพลวงตาเหล่านั้นจนหมดแรง แต่สำหรับซิ่วอิงนางกลับใช้สัญชาตญาณบางอย่างในตัวเป็นเครื่องชี้นำ นางรู้สึกราวกับว่าพลังงานบริสุทธิ์ที่ไหลเวียนอยู่ในกายได้เชื่อมโยงกับธาตุตามธรรมชาติ ทำให้นางสามารถแยกแยะระหว่างความจริงและความเท็จได้อย่างง่ายดาย</font></div><div><font size="3"><br></font></div><div><font size="3">การหยุดพักของนางเป็นไปตามแผน นางค้นพบโอเอซิสเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่หลังพุ่มไม้หรือร่องหินตามที่ระบุไว้บนแผนที่อย่างแม่นยำ น้ำสะอาดจากแหล่งเหล่านี้ไม่เพียงช่วยดับกระหายและเติมเสบียงน้ำให้เต็มกระบอกเท่านั้น แต่ยังเป็นเสมือนพลังงานชีวิตที่หล่อเลี้ยงความมุ่งมั่นของนางให้คงอยู่ นางใช้เวลาเพียงสั้น ๆ เพื่อพักผ่อน กินอาหารแห้งและสำรวจพื้นที่รอบ ๆ อย่างระมัดระวัง ก่อนจะออกเดินทางต่ออย่างรวดเร็วราวกับกลัวว่าความล่าช้าเพียงเสี้ยววินาทีจะทำให้นางพลาดการนัดหมายที่ชะตากรรมกำหนดไว้ ร่องรอยของการค้าขาย บนเส้นทางเริ่มมีความหนาแน่นขึ้น มีคาราวานอูฐขนาดใหญ่และเกวียนบรรทุกสินค้าที่เต็มไปด้วยชา ผ้าไหม และเครื่องเทศเดินทางผ่านไปมา บ่งบอกถึงการเข้าใกล้สู่จุดเชื่อมต่อสำคัญของเส้นทางสายไหม</font></div><div><font size="3"><br></font></div><div><font size="3">ในช่วงคืนที่เจ็ดของการเดินทางนับจากเมืองรื่อเล่อ ขณะที่ซิ่วอิงกำลังนั่งสมาธิอยู่ข้างกองไฟเล็ก ๆ นางรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของบรรยากาศอย่างชัดเจน ไอเย็นที่พัดพามาไม่ได้มีเพียงความแห้งแล้งของทะเลทรายอีกต่อไป แต่มันมีกลิ่นอายของความชุ่มชื้น และกลิ่นดินที่เพิ่งถูกไถพรวนซึ่งเป็นกลิ่นที่หายไปนานนับตั้งแต่ก้าวออกจากป้อมปราการริมทะเลทราย รุ่งเช้าของวันถัดมาเมื่อดวงอาทิตย์เริ่มทอแสง นางก็ได้เห็นความแตกต่างที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าอย่างชัดเจน</font></div><div><font size="3"><br></font></div><div><font size="3">แสงแรกของดวงตะวันในวันนี้ไม่ได้สาดส่องกระทบเพียงผืนทรายสีทองอีกต่อไป แต่เป็นผืนดินที่เริ่มมีสีเข้มขึ้น มีพุ่มไม้เตี้ย ๆ และหญ้าที่ดูอุดมสมบูรณ์ขึ้นเป็นแนวทางยาวสุดสายตาทางทิศเหนือและทิศใต้ เทือกเขาสูงใหญ่ที่มียอดเขาปกคลุมไปด้วยหมอกหนาทึบเริ่มปรากฏตัวเป็นฉากหลังอันโอ่อ่าและน่าเกรงขาม สันเขาสีเทาเข้มตัดกับสีครามของท้องฟ้าในยามเช้า ทำให้ทิวทัศน์มีความหลากหลายและมีชีวิตชีวาขึ้นอย่างมาก</font></div><div><font size="3"><br></font></div><div><font size="3">ซิ่วอิงเร่งฝีเท้าไปตามถนนดินที่กว้างขึ้นเรื่อย ๆ เส้นทางนี้มีนักเดินทางและชาวบ้านสัญจรไปมาอย่างคับคั่ง บ่งบอกถึงการเข้าสู่เขตที่มีผู้คนอาศัยอยู่หนาแน่นขึ้น จนกระทั่งในช่วงสายนางก็สามารถมองเห็นที่ราบกว้างใหญ่ของจางเย่แผ่กว้างอยู่เบื้องหน้า ที่นี่คืออาณาบริเวณที่ได้รับการหล่อเลี้ยงจากแม่น้ำสายหลักซึ่งทำให้น้ำในแม่น้ำแตกสาขาออกเป็นคลองส่งน้ำเล็ก ๆ นับไม่ถ้วน เพื่อหล่อเลี้ยงผืนนาข้าวสาลีและพืชพรรณอื่น ๆ นาข้าวและทุ่งข้าวสาลีสีเขียวอ่อนและเหลืองทองสลับกันเป็นลวดลายบนผืนดินอย่างน่าอัศจรรย์ใจ สายลมที่พัดผ่านนำพาเอากลิ่นหอมของดินที่อุดมสมบูรณ์และกลิ่นพืชพรรณมาปะทะใบหน้าของนางอย่างจัง ทำให้ความอ่อนล้าจากการเดินทางหลายวันได้มลายหายไปเกือบหมดสิ้น</font></div><div><font size="3"><br></font></div><div><font size="3">เบื้องหลังของที่ราบแห่งนี้ ภูเขาสีสันสดใส อันน่าตื่นตาตื่นใจที่รู้จักกันในนามตันเซี๋ย ตั้งตระหง่านอยู่ราวกับงานศิลปะที่เทพเจ้าบรรจงสร้างสรรค์ ชั้นหินทรายสีแดง สีส้ม สีเหลือง และสีเขียวอ่อนซ้อนทับกันเป็นริ้วลายอย่างเป็นระเบียบตามธรรมชาติ ความงดงามที่เกิดจากกระบวนการทางธรณีวิทยาที่กินเวลานับล้านปีนี้สร้างความประทับใจให้กับซิ่วอิงอย่างลึกซึ้ง มันเป็นภาพที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับความว่างเปล่าของทะเลทรายที่นางเพิ่งจากมาและเป็นสัญญาณที่ชัดเจนของการเข้าถึงเขตชายแดนที่เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์และความสำคัญทางยุทธศาสตร์ของต้าฮั่น</font></div><div><font size="3"><br></font></div><div><font size="3">ที่ปลายขอบฟ้าด้านหน้ากำแพงเมืองของจางเย่ปรากฏให้เห็นอย่างเด่นชัด กำแพงดินอัดสีน้ำตาลเข้มที่สูงใหญ่และแข็งแกร่งทอดยาวเป็นเส้นตรงอย่างน่าเกรงขาม ที่ส่วนบนของกำแพงมีหอสังเกตการณ์และ ป้อมปราการที่ทำจากไม้และอิฐตั้งเรียงรายเป็นระยะ บ่งบอกถึงการเป็น เขตป้องกันชายแดนที่สำคัญ ทหารยามในชุดเกราะประจำการอยู่บนหอสังเกตการณ์อย่างเข้มงวด พวกเขาคือผู้ที่คอยรักษาความสงบและสกัดกั้นภัยคุกคามจากชนเผ่าทางเหนือและตะวันตก เป็นภาพที่ยืนยันว่าจางเย่คือประตูสู่ดินแดนทางตะวันตก และเป็นหัวใจของการค้าขายอย่างแท้จริง</font></div><div><font size="3"><br></font></div><div><font size="3">ซิ่วอิงปรับเครื่องแต่งกายและสัมภาระของตนเองให้เรียบร้อย นางหยุดยืนอยู่บนเนินดินเล็ก ๆ มองดูภาพเบื้องหน้าที่เป็นการผสมผสานระหว่างความงดงามตามธรรมชาติและความยิ่งใหญ่ที่มนุษย์สร้างขึ้น การเดินทางอันยาวนานและโดดเดี่ยวของนางได้มาถึงจุดสิ้นสุดแล้วอย่างสมบูรณ์ ความรู้สึกตื่นเต้นและความมุ่งมั่นที่ถูกปลดปล่อยออกมาด้วยพลังแห่งเทพเมื่อหลายวันก่อนยังคงเด่นชัดในจิตใจของนาง นางรู้ดีว่าบุรุษชุดขาวปริศนาที่นำทางนางมายังที่แห่งนี้ ไม่ได้เลือกเมืองจางเย่โดยไม่มีเหตุผลอย่างแน่นอน เมืองที่ตั้งอยู่บนรอยต่อของความอุดมสมบูรณ์กับความแห้งแล้ง เมืองที่เต็มไปด้วยการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและเป็นแนวป้องกันที่สำคัญของอาณาจักร</font></div><div><font size="3"><br></font></div><div><font size="3">นางสูดหายใจเข้าลึก ๆ รับเอาอากาศที่สดชื่นของที่ราบสูงก่อนจะก้าวเดินต่อไปอย่างมั่นคง มุ่งตรงไปยัง ประตูเมืองที่เปิดกว้าง ประตูที่ดูราวกับกำลังรอคอยการมาถึงของนางอย่างเงียบ ๆ จางเย่ไม่ได้เป็นเพียงแค่จุดหมายปลายทาง แต่เป็นจุดเริ่มต้นของปริศนาที่แท้จริง ชะตากรรมที่บุรุษชุดขาวได้พยากรณ์ไว้กำลังจะเริ่มต้นขึ้น ณ ที่แห่งนี้แล้ว…</font></div></div><div><br></div><div><br></div><div><br></div><div style="text-align: center;"><font color="#ff0000" size="4"><b>เดินทางถึงเขตจางเย่</b></font></div><div style="text-align: center;"><font color="#ff0000" size="4"><b>...รอแอดส่งเควส...</b></font></div></div></div></div><div style="text-align: center;"><div style="text-align: center;"><br></div><div style="text-align: center;">@Watcher </div></div><div style="text-align: center;"><br></div></font></span></div></div></div><p>
</p>
</div><font face="Kanit"><font size="3"><font color="black">
<br>
</font></font></font><p></p></div><font face="Kanit"><font size="3"><font color="black"><b>
<br><br>
</b></font></font></font></div>
<p></p><p><font face="Kanit"><br></font></p><p></p><div align="center" style="list-style-type: none;">
<style>
#Xiuying01 {
border-radius: 30px;
border: 6px double #DAA520;
padding: 3px;
box-shadow: #DAA520 0px 0px 3em;
background-image: url("https://i.imgur.com/gmUaOyu.jpg");}
</style>
<style>
#Xiuying02 {
width: 800px;
border-radius: 20px;
padding: 3px;
box-shadow: #DAA520 0px 0px 1em;
background-image: url("https://i.imgur.com/APTIUqY.png");}
</style>
<style>
#Xiuying03 {
width: 520px;
border-radius: 20px;
border: 6px double #DAA520;
padding: 3px;
box-shadow: #DAA520 0px 0px 3em;
background-image: url("https://i.imgur.com/O01jmYP.png");}
</style>
<div id="Xiuying01">
<p>
<font face="Kanit"><br><br></font></p><div id="Xiuying02"><div style="text-align: center;"><font face="Kanit"><br></font></div><div style="text-align: center;"><font color="#fab452" face="Kanit" size="5"><b><br></b></font></div><div style="text-align: center;"><font face="Kanit" size="5" color="#ffa500"><div style=""><b><div style=""><div style=""><div style=""><div>วันที่ 10 จิ่วเยว่ รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11 </div><div>ยามเฉิน ถึง ยามซวี (เวลา 07.00 - 19.00 น.)</div></div></div></div><div style=""><span style="color: rgb(105, 105, 105);"><img src="https://i.imgur.com/VgeiQeN.png" border="0"></span></div></b></div></font></div><div style="text-align: center;"><br></div><div style="text-align: left;"><div style="text-align: center;"><div style="text-align: left;"><span id="docs-internal-guid-1099c606-7fff-e437-e745-a6bfcd8f8106"><font face="Kanit"><div style="text-align: center;"><div style="text-align: center;"><div style="text-align: left;"><div><div><font size="3">หลายวันผ่านไปนับตั้งแต่ซิ่วอิงก้าวเข้าสู่เขตจางเย่ เมืองค้าขายที่คับคั่งไปด้วยคาราวานอูฐและผู้คนจากดินแดนตะวันตกที่สัญจรไปมาอย่างไม่ขาดสาย นางใช้เวลาเดินสำรวจไปทั่วทุกตรอกซอกซอยของเมืองชายแดนแห่งนี้อย่างละเอียดถี่ถ้วนที่สุดเท่าที่สตรีผู้เดียวจะกระทำได้ ในทุกร่องรอยของการค้าขาย ในทุกเสียงเจรจาภาษาแปลก ๆ ในทุกอาคารดินอัดและศาลาไม้ นางเฝ้ามองหา...รูมิติสีดำทะมึนที่บุรุษชุดขาวผู้นั้นกล่าวถึงอย่างตั้งอกตั้งใจ ทว่าความพยายามทั้งหมดของนางกลับจบลงด้วยความว่างเปล่าที่หนักอึ้ง</font></div><div><font size="3"><br></font></div><div><font size="3">ความผิดหวังเริ่มก่อตัวขึ้นในใจของซิ่วอิงราวกับหมอกควันสีเทาที่ปกคลุมความหวังของนางให้มืดมิดลง นางนั่งอยู่ที่มุมหนึ่งของห้องพักในโรงเตี๊ยมเล็ก ๆ ที่นางเช่าไว้ใกล้กับประตูเมือง สายตาจับจ้องไปที่ ตะเกียงน้ำมันดินที่ให้แสงสลัว ๆ พลางนึกถึงเหตุการณ์ที่ชายผู้นั้นปรากฏตัวและคำพูดอันคลุมเครือที่นำนางเดินทางมาไกลแสนไกลถึงเพียงนี้</font></div><div><font size="3"><br></font></div><div><font size="3">‘บ้าจริง! หรือว่า…ข้าโดนบุรุษผู้นั้นต้มเอาเสียแล้ว? ชายผู้ที่มีรัศมีแห่งเซียนนั้นดูสูงส่ง แต่คำกล่าวของเขากลับนำข้ามาสู่ความว่างเปล่าเสียได้’ ความคิดที่ทั้งขุ่นเคืองและน่าอับอายผุดขึ้นมาในห้วงคำนึง หากบุรุษผู้นั้นไม่มีอยู่จริงหรือหากเขาเป็นเพียงนักต้มตุ๋นที่เก่งกาจ นางก็คงกลายเป็นเพียงผู้หญิงโง่คนหนึ่ง ที่ถูกชะตากรรมเล่นตลกให้ต้องเดินทางพันลี้โดยไร้จุดหมายอันแท้จริง</font></div><div><font size="3"><br></font></div><div><font size="3">ทว่า...สัญชาตญาณอันบริสุทธิ์ที่ไหลเวียนอยู่ในสายเลือดของนางกลับไม่ยอมให้ความรู้สึกสิ้นหวังเข้ามาครอบงำ สัญชาตญาณบางอย่างนั้นเองที่กระซิบอย่างแผ่วเบาแต่หนักแน่นว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะยอมแพ้!</font></div><div><font size="3"><br></font></div><div><font size="3">‘ในเมื่อในเมืองที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของมนุษย์และควันไฟจากการค้าขายไม่มีร่องรอย…เช่นนั้นข้าก็ควรค้นหาในสถานที่ที่ห่างไกลจากผู้คน...สถานที่ที่พลังแห่งธรรมชาติยังคงแข็งแกร่ง!’</font></div><div><font size="3"><br></font></div><div><font size="3">ความคิดของซิ่วอิงผุดขึ้นมาอย่างฉับพลัน ดวงตาของนางหันไปจับจ้องยังทิศทางหนึ่งอย่างไม่ลังเล ที่นั่นคือทิวทัศน์ที่นางเคยยืนตะลึงมองในวันแรกที่มาถึงภูเขาตันเซี๋ยหรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าภูเขาสายรุ้ง! ยอดเขาที่ซ้อนทับกันด้วยชั้นหินทรายหลากสีสัน คือภาพที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากกำแพงดินอัดสีทึมและบ้านเรือนสีน้ำตาลของเมืองจางเย่ ทิวเขานั้นเปรียบเสมือนงานศิลปะชั้นเอกของเทพเจ้าที่ถูกทอดทิ้งไว้ ณ ชายขอบฟ้าแฝงไว้ด้วยความลึกลับที่ไม่มีใครหยั่งถึง</font></div><div><font size="3"><br></font></div><div><font size="3">นางรีบจัดการเก็บสัมภาระอย่างรวดเร็ว ง้าวคู่ใจถูกมัดไว้กับด้านหลังแน่นหนา เสื้อผ้าสีทึมที่ใช้ในการเดินทางถูกเปลี่ยนเป็นชุดที่ทะมัดทะแมงยิ่งขึ้น นางจ่ายค่าห้องพักให้กับเจ้าของโรงเตี๊ยมและออกเดินทางทันที ก่อนที่ตะวันจะขึ้นสูงจนผู้คนพลุกพล่าน</font></div><div><font size="3"><br></font></div><div><font size="3">การเดินทางสู่ขุนเขาสายรุ้งนั้นต้องผ่านพื้นที่เพาะปลูกที่อุดมสมบูรณ์ในเขตของจางเย่ก่อน เมื่อห่างออกจากคลองส่งน้ำและทุ่งข้าวสาลีไปไกลขึ้นเรื่อย ๆ ผืนดินใต้ฝ่าเท้าก็เริ่มแห้งแล้งอีกครั้ง ฝุ่นสีน้ำตาลอมแดง เริ่มฟุ้งกระจายตามแรงลมที่พัดมาจากทะเลทรายที่อยู่ไม่ไกล ซิ่วอิงเดินลัดเลาะไปตามทางแคบ ๆ ที่ตัดผ่านเนินดินและกรวดหินที่ปกคลุมด้วยพุ่มไม้เตี้ย ๆ ที่แกร็นแห้ง ไม่มีเงาไม้ใหญ่ให้ร่มเงาอีกต่อไป มีเพียงความร้อนที่ระอุจากอากาศและจากพื้นดินที่แผ่ขึ้นมาปะทะร่าง</font></div><div><font size="3"><br></font></div><div><font size="3">เมื่อเข้าสู่เขตภูเขาทิวทัศน์ก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ชั้นหินทรายสีแดงสด สีส้มแสด และสีเหลืองอ่อนที่ถูกแกะสลักด้วยสายลมและกาลเวลาปรากฏอยู่เบื้องหน้าอย่างตระการตา ยอดเขาเหล่านี้เปลือยเปล่า ปราศจากต้นไม้ใด ๆ ขึ้นอยู่ มีเพียงริ้วลายของแร่ธาตุที่ถูกเปิดเผยออกมาอย่างงดงาม ความงดงามที่เกิดจากความแห้งแล้งและแร่เหล็กที่จับตัวกันเป็นเวลาหลายล้านปี ซิ่วอิงต้องปีนป่ายขึ้นสู่ยอดเขาที่สูงที่สุดอย่างระมัดระวัง ผิวหินที่สัมผัสกับมือมีความหยาบกร้านและแห้งแล้งแต่ก็ให้ความมั่นคงแก่นางได้อย่างดีเยี่ยม นางใช้เวลาค้นหาอยู่นานหลายชั่วยาม ดวงอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำลงไปทางทิศตะวันตกจนท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีทองแดงเข้ม แต่ก็ไม่มีสิ่งใดที่บ่งชี้ถึงรูมิติเลยแม้แต่น้อย</font></div><div><font size="3"><br></font></div><div><font size="3">ในที่สุดเมื่อแสงอาทิตย์เกือบจะลับขอบฟ้าซิ่วอิงก็มาถึง อดเขาที่โดดเด่นที่สุดซึ่งมีหินทรายรูปร่างประหลาดตั้งตระหง่านอยู่เป็นกลุ่มก้อน ทันใดนั้นสายตาของนางก็จับจ้องไปยังสิ่งที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ชะง่อนหินยื่นออกมา...</font></div><div><font size="3"><br></font></div><div><font size="3">มันคือศิลาเจ็ดสี!</font></div><div><font size="3"><br></font></div><div><font size="3">ศิลาก้อนหนึ่งถูกฝังอยู่ครึ่งหนึ่งในผืนดินที่อัดแน่นไปด้วยแร่ธาตุและทราย ทว่าส่วนที่โผล่พ้นดินขึ้นมานั้นกลับเปล่งประกายระยิบระยับด้วยสีสันที่ยากจะพรรณนา ทั้งสีแดงเพลิง สีส้มอำพัน สีเหลืองบุษราคัม สีเขียวมรกต สีครามน้ำทะเล สีน้ำเงินเข้ม และสีม่วงไพลิน ราวกับว่ารุ้งกินน้ำ ทั้งสายได้ถูกบดอัดและผนึกไว้ในก้อนหินเพียงก้อนเดียว มันไม่ได้มีรูปร่างดำทะมึนเหมือนที่บุรุษชุดขาวกล่าว แต่พลังงานบริสุทธิ์ที่แผ่ออกมาจากมันนั้นเข้มข้นจนทำให้ พลังภายในของซิ่วอิงเต้นระรัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน</font></div><div><font size="3"><br></font></div><div><font size="3">ด้วยความอยากรู้อยากเห็นที่เหนือกว่าความลังเลใด ๆ ซิ่วอิงค่อย ๆ เอื้อมมือที่บอบบางแต่แข็งแกร่ง ออกไปสัมผัสกับพื้นผิวที่เย็นเยียบและเรียบเนียนของศิลาสายรุ้งก้อนนั้น เพียงปลายนิ้วสัมผัส...</font></div><div><font size="3"><br></font></div><div><font size="3"><b><i>วูบ!</i></b></font></div><div><font size="3"><br></font></div><div><font size="3">พลังงานมหาศาลที่ซ่อนอยู่ภายในศิลาก็พลุ่งพล่านเข้าสู่ร่างกายของนางผ่านทางปลายนิ้วราวกับกระแสน้ำเชี่ยวกราก ทันใดนั้นสติของซิ่วอิงก็ถูกดึงออกจากร่างกายอย่างฉับพลัน ในห้วงความคิดของนางภาพนิมิตก็ปรากฏขึ้นอย่างรุนแรงและชัดเจนราวกับสายฟ้าฟาดที่ผ่าลงกลางความมืดมิด</font></div><div><font size="3"><br></font></div><div><font size="3">เบื้องหน้าของนางคือภาพของหุบเขาลึกที่ถูกปกคลุมไปด้วยไอหมอกสีเลือดและกลิ่นอายของความเน่าเปื่อย ทว่าสิ่งที่น่าตกตะลึงที่สุดไม่ใช่บรรยากาศที่น่าสะพรึงกลัวนั้น แต่เป็นสิ่งที่ตั้งตระหง่านอยู่ภายในหุบเขา...</font></div><div><font size="3"><br></font></div><div><font size="3">มันคือซากปรักหักพังที่ยิ่งใหญ่และแปลกตาอย่างถึงที่สุด สิ่งปลูกสร้างสูงเสียดฟ้าที่ทำจากวัสดุที่ไม่รู้จัก ถูกทิ้งร้างไว้จนผุกร่อนไปตามกาลเวลา โครงสร้างเหล็กและปูนที่คล้ายกับหอคอยที่นางไม่เคยเห็นมาก่อนตั้งเรียงรายเป็นทิวแถวราวกับ สุสานของยักษ์ใหญ่ หน้าต่างกระจกที่เคยมีอยู่แตกละเอียดจนเหลือแต่เพียงร่องรอย ผนังคอนกรีตที่แตกร้าวเต็มไปด้วย ตะไคร่น้ำสีเข้มและเถาวัลย์ที่เลื้อยพันจนดูราวกับซากโบราณสถานที่มีอายุนับล้าน ๆ ปี นี่คืออารยธรรมที่สูญหายที่ล้ำหน้าเกินกว่าจินตนาการใด ๆ ของชาวฮั่น</font></div><div><font size="3"><br></font></div><div><font size="3">ภายในภาพนิมิตที่สั่นสะเทือนนั้น ซิ่วอิงได้เห็นว่าซากตึกสูงเหล่านี้ไม่ได้ว่างเปล่า ฝูงปีศาจและสัตว์ประหลาดที่น่าเกลียดน่ากลัวชุกชุมอยู่ในหุบเขาบรรลัยแห่งนั้น พวกมันมีรูปร่างที่วิปริตผิดรูป บ้างก็มีปีกสีดำที่ฉีกขาดบ้างก็มีดวงตาสีแดงฉานที่จ้องมองมาอย่างหิวกระหาย พวกมันทำรังอยู่ตามซอกมุมของ ซากตึกสูงเหล่านั้น บ้างก็กำลังกัดกินซากสิ่งมีชีวิตที่ไม่สามารถระบุได้ในลานกว้างที่เป็นถนนดำที่ถูกทำลายจนหมดสิ้น</font></div><div><font size="3"><br></font></div><div><font size="3">ซิ่วอิงรู้สึกราวกับถูกพลังงานเยือกเย็นจู่โจมจนกระดูกสันหลังชาหนึบ นี่ไม่ใช่แค่ภาพลวงตาแต่เป็น ความเป็นจริงที่น่ากลัวที่ถูกซ่อนไว้หลังม่านของกาลเวลา</font></div><div><font size="3"><br></font></div><div><font size="3">ริมฝีปากของซิ่วอิงสั่นระริกนางพยายามหายใจเข้าลึก ๆ แต่ในห้วงนิมิตนั้นกลับไม่มีอากาศใด ๆ ให้สูดดม ความคิดเดียวที่วิ่งวนอยู่ในสมองของนางคือความสับสนอย่างรุนแรง</font></div><div><font size="3"><br></font></div><div><font size="3"><font color="#008080">“นี่…นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย!” </font>เสียงของนางดังขึ้นในความว่างเปล่าของนิมิต ราวกับเสียงกระซิบที่แสนแตกตื่นต่อหน้าความจริงอันโหดร้ายที่เหนือจินตนาการทั้งหมดของนาง</font></div><div><font size="3"><br></font></div><div><font size="3"><b><i>ตูม!</i></b></font></div><div><font size="3"><br></font></div><div><font size="3">ภาพนิมิตแตกสลายลงอย่างฉับพลันราวกับโคมแก้วที่ถูกทุบด้วยค้อน จิตวิญญาณของซิ่วอิงถูกกระชากกลับมาสู่ร่างอีกครั้งอย่างรุนแรงจนนางแทบจะสำลักอากาศ นางเซถอยหลังไปสองสามก้าว มือที่สัมผัสศิลาเจ็ดสีเมื่อครู่ชาหนึบและสั่นเทา</font></div><div><font size="3"><br></font></div><div><font size="3">ซิ่วอิงล้มลงนั่งกับพื้นหินที่เย็นเฉียบ ในที่สุดนางก็ได้พบกับสัญญาณที่บุรุษชุดขาวกล่าวถึงแล้ว แต่มันกลับเป็นสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวเกินกว่าที่นางจะจินตนาการถึงได้</font></div><div><font size="3"><br></font></div><div><font size="3">รูมิติสีดำทะมึนอาจจะอยู่ที่ไหนสักแห่งในหุบเขาแห่งซากปรักหักพังนั้น...และหุบเขานั้น...เต็มไปด้วย ปีศาจที่น่ากลัวเหล่านั้น ชะตากรรมที่รอคอยนางอยู่ไม่ได้สวยงามเหมือนทุ่งข้าวสาลีของจางเย่ แต่มันคือ เส้นทางสายเลือดที่นำไปสู่ยุคบรรลัยที่ถูกซ่อนไว้</font></div><div><font size="3"><br></font></div><div><font size="3">ซิ่วอิงเงยหน้ามองภูเขาสายรุ้งที่เริ่มถูกกลืนกินด้วยเงาของยามค่ำคืน สายลมพัดเอาไอเย็นแห่งทะเลทรายกลับมาอีกครั้ง แต่มันไม่ได้ทำให้ร่างกายนางรู้สึกหนาวเย็นเท่ากับความหวาดผวาที่เพิ่งก่อตัวขึ้นในจิตใจ คำพยากรณ์ของบุรุษชุดขาวนั้นเป็นจริง แต่มันมาพร้อมกับปริศนาที่ยิ่งใหญ่กว่า</font></div><div><font size="3"><br></font></div><div><font size="3">ศิลาเจ็ดสีได้เผยให้เห็นถึงนิมิตที่นำไปสู่โลกที่ถูกทำลายโดยอำนาจมืดและชะตากรรมของนางอาจเกี่ยวข้องกับการผนึกหรือทำลายโลกแห่งซากปรักหักพังนั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้…</font></div><div><font size="3"><br></font></div><div><font size="3">นางค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนอย่างช้า ๆ ง้าวถูกจับแน่นในมือ ดวงตาของนางที่เคยอ่อนโยนบัดนี้กลับเต็มไปด้วย ประกายแห่งความมุ่งมั่นที่แข็งกร้าว นางรู้แล้วว่าสิ่งที่ต้องค้นหาคืออะไรและหนทางข้างหน้าเต็มไปด้วยภัยอันตรายอย่างไรบ้าง เหลือแค่ว่า…นางต้องทำอย่างไรต่อไปนี่สิ</font></div></div><div><br></div><div><br></div><div><br></div><div><br></div><div style="text-align: center;"><font color="#ff0000" size="4"><b>รับภารกิจเดินทางระดับ Heroes</b></font></div><div style="text-align: center;"><font color="#ff0000" size="4"><b>เควสมายัง? รออ่านเควสค่ะ</b></font></div></div></div></div><div style="text-align: center;"><div style="text-align: center;"><br></div><div style="text-align: center;">@Watcher </div></div><div style="text-align: center;"><br></div></font></span></div></div></div><p>
</p>
</div><font face="Kanit"><font size="3"><font color="black">
<br>
</font></font></font><p></p></div><font face="Kanit"><font size="3"><font color="black"><b>
<br><br>
</b></font></font></font></div>
หน้า:
[1]