https://img2.pic.in.th/pic/-4_20250603154522.md.png
วันที่ ยี่สิบเอ็ด เดือน ห้า รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11ยามเหม่า เวลา 05.00 น. - 07.00 น. ไปกินข้าวเช้าที่ร้านบะหมี่สามหาว สาขาฉางอัน (พบ ตงฟาง ซั่ว)
ยามเหม่า ฟ้าสว่างไล่ม่านหมอกบางเหนือฉางอันในยามพระอาทิตย์กำลังขึ้นกลางฤดูร้อน สายลมอ่อนพัดกลิ่นหอมจากต้นไม้ที่เบ่งบานตามตรอกเล็ก ๆ ลอยอวลมาตามเส้นทางของถนนก่อนที่จะพัดเข้าไปในตรอกของร้านบะหมี่เล็ก ๆ ที่เปิดม่านรับแสงเช้าตั้งแต่ไก่โห่เหมือนเคย เสียงเจื้อยแจ้วนั้นดังขึ้นจากด้านหลัง ร่างหนึ่งโผล่พรวกเข้ามาอย่่างเคยชิน ผมสีดำน้ำตาลไหม้จนเข้มถูกรวบไว้ลวก ๆ ดวงตากลมโตขี้เล่นวับวิบด้วยประกายความร่าเริอง เห็นเพียงเท่านี้ก็ทำเอาเถ้าแก่หาวปิ่งที่กำลังโรยงาบนถ้วยบะหมี่ก็ส่ายหน้ายิ้ม
“ไง..เถ้าแก่ ข้ากลับมาแล้วนะเจ้าคะ” หลินหยาเอ่ยเสียงสดใสพลางเดินตัวปลิวเข้ามาราวกับเป็นลมของช่วงเวลาเช้าที่เริ่มเย็นแล้วค่อย ๆ อุ่นขึ้นเรื่อย ๆ ไม่มีผลอะไรกับเธอเลยสักนิดเดียว
“อืม..เจ้าหายหัวไปหลายวันเลยนี้น่าแม่นางน้อย” เถ้าแก่ตอบนิ่ง ๆ แต่สายตาอบอุ่นยิ่งกว่าเดิมอย่างปิดไม่มิด “ก็..นะ..ข้าไปเป็นสาวใช้ในจวนคนมีอำนาจมาน่ะสิ..ลำป๊ากกลำบาก” เธอทำเสียงดัด ๆ นิดหน่อยพลางแกล้งยกชายเขนเสื้อแล้วทำท่าเป็นคุณหนูพลางหัวเราะคิกคัก เถ้าแก่หาวปิ่งจึงได้แค่ยกค้วเล็กน้อยแบบคนเหนื่อยกับอีกคน
“แล้วไง..นี้กลับมาเพราะคิดถึงข้าหรือคิดถึงบะหมี่กันแน่ ยัยหนู”
“แน่นอนว่าบะหมี่เจ้าค่ะ จัดมาเลย หนึ่งถ้วยด่วน ๆ ข้าหิวจนไส้กิ่วละ” หลินหยาเอ่ยขึ้นพลางยิ้ม ไม่พูดเปล่าแต่ยังขยิบตาข้างหนึ่งแกล้งอีกฝ่ายก่อนที่จะเดินไปนั่งตรงโต๊ะแบบขาประจำ แล้วเท้าคางมองหม้อซุปที่กำลังเดือดเบา ๆ บนเตาถ่าน “แต่ท่านไม่ต้องห่วงนะ ข้าจะกลับมาทำงานแล้วล่ะ ช่วงบ่ายว่างจัดเลย จะแวะมาเสิร์ฟให้ได้บ้าง ข้าต้องใช้เงิน วันเว้นวันก็ยังดี” เธอเอ่ยต่อเหมือนกำลังคิดไปพูดไป
“เจ้านี้เอาแน่เอานอนไม่ได้สักวัน” เถ้าแก่พ่นลมหายใจทางจมูก
“แหนะ พูดเหมือนตอนอยู่ท่านเดาใจข้าได้อย่างงั้นแหละ คิดว่าข้าเอาแน่เอานอนได้ตลอดหรือไง ไม่มีทาง แต่ตอนนี้ไม่มาทำงานนะ ข้ามากินเฉย ๆ หิวมากเลย ขอเส้นนุ่ม ๆ หมูสามชั้นเยอะ ๆ เลยนะ ไข่ยาวมะตูมอร่อย ๆ” หลินหยาว่าพลางหัวเราะลั่น ก่อนที่จะเอามือรองแก้มตัวเองแบบเด็ก ส่วนเถ้าแก่ก็เดินไปตักบะหมี่เส้นสดอย่างชำนาญขณะบ่นงึมงำ ๆ กับตัวเองอยู่ตรงนั้น
ไม่ถึงห้านาที ชามบะหมี่ร้อน ๆ ก็โดนวางลงตรงหน้าหลินหยา กลิ่นหอมของน้ำซุปกระดูกหมูที่เคี่ยวจนกลมกล่ม ลอยคลุกเคล้ากับกลิ่นหอมของหอมเตียวจนทำให้ท้องไส้ของเธอนั้นร้องหิวเป็นจังหวะเลยล่ะ “นี้แหละที่ชข้าคิดถึงมันที่สุดเลย” เธอว่าพลางรีบจับตะเกียบแล้วคีบเส้นขึ้นมา เป่าปลายเล็กน้อยแล้วดูดเส้นเข้าปากอย่างมีความสุข แก้มทั้งสองข้างพองเหมือนกระรอกเก็บถั่ว ดวงตาเปร่งประกายเมื่อรสชาติอันคุ้นเคยนั้นไหลผ่านปลายลิ้น เถ้าแก่ที่ยืนมองเธออยู่นิ่ง ๆ ก่อนจะส่ายหัวเบา ๆ แต่รอยยิ้มจาง ๆ ยังติดอยู่บนมุมปาก
ไม่นานก็มีสมาชิกใหม่ดังขึ้น ในยามที่หลินหยายังคงดูดเส้นบะหมี่เส้นสุดท้ายเข้าปากพอดิบพอดี พร้อมกับเสียงฝีเท้าที่ไม่เร่งรีบ แต่มั่นคงจนสะดุดโสตประสาทของสาวเจ้าที่มักจับความเคลื่อนไหวรอบตัวได้ไวเกินคนทั่วไป ชายหนุ่มในชุดคลุมยาวสีเทาหม่นตัดขอบน้ำเงินเข้มก้าวเข้ามาภายในร้านอย่างเงียบเชียบ ใบหน้าคมสัน ดวงตาเรียวยาวแฝงประกายยากหยั่งถึง ทั้งสงบทั้งช่างสังเกต คล้ายพวกนักพรตเร้นกายมากกว่าชาวบ้านธรรมดา ไหนจะพัดพับไม้ในมือที่สลักลวดลายซับซ้อนดูมีอายุเก่าแก่ นั่นยิ่งยืนยันภาพลักษณ์ของเขาให้ยิ่งขรึมขลังขึ้นไปอีก
หลินหยาที่กำลังล้างปากด้วยน้ำชาหอมจาง ๆ นั้นเงยหน้าขึ้นมองแล้วเบิกตากว้างขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่จะยิ้มออกมาอย่างสดใสทันควัน “อ้าว ซินแสนี้หน่า” เสียงใสร้องเรียกพร้อมยกมือขึ้นก้มคำนับอีกฝ่าย ชายหนุ่มเพียงผงกศีรษะให้อย่างสุภาพ สายตาอ่านยากของเขายังคงเหมือนสังเกตโลกใบนี้อย่างไร้อารมณ์ แต่ปลายปากมีรอยยิ้มจาง ๆ คล้ายลมต้นฤดูใบไม้ผลิที่ลอดผ่านซุ้มไม้เก่า
“คราวก่อนที่ท่านบอกว่าข้าจะได้พบน่ะ ตอนนี้ยังไม่เห็นนะ ยังไม่มีชายในฝันตจรงใจเลย” เธอว่าพลางเอ่ยบอกผลของเขาหัวเราะอย่างสนุกสนาน "แต่ก็จะรอดูอยู่นะ ถ้าแม่นจริงข้าจะมาขอคำทำนายเพิ่มอีกเป็นชุดเลย!"
ตงฟางซั่วไม่ได้เอ่ยอะไร เพียงแค่พับพัดในมืออย่างแช่มช้า เสียงพัดไม้ลั่นเบา ๆ เป็นจังหวะที่พอเหมาะกับถ้อยคำเย้าแหย่ของหญิงสาว ก่อนจะเอ่ยแผ่วเบาเหมือนกระซิบกับชะตากรรม "หากเป็นโชคชะตา... ไม่ต้องเร่งรัด มันจะมาในยามที่เจ้าประมาทที่สุดเสมอ"
หลินหยาที่ได้ยินเช่นนั้นก็เบ้ปากน้อย ๆ อย่างไม่จริงจัง แต่ก็พยักหน้าอย่างคนที่เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง “ก็หวังว่าจะเป็นเช่นนั้นเจ้าค่ะ เอาเป็นว่าข้าขอตัวก่อนล่ะ ต้องไปทำงานที่อื่นก่อนละ ไปก่อนนะเถ้าแก่” เธอลุกขึ้นจากโต๊ะ หยิบตะเกียบและชามไปวางในอ่างล้างอย่างรู้งาน แล้วก็หันมากล่าวลาสั้น ๆ แต่เต็มไปด้วยพลัง "ไว้พบกันใหม่นะ” ว่าจบก็เดินฉับ ๆ ออกจากร้านไปเลย ทิ้งไว้เพียงกลิ่นหอมอ่อนของน้ำมันงาและเสียงฝีเท้าคึกคักที่ยังคงเป็นสัญลักษณ์เฉพาะของนาง
https://img2.pic.in.th/pic/-4_20250603154522.md.png
@Admin
พรสวรรค์: ลาภลอย (ไม้)มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่อื่น ๆ: -
รางวัล: +5 ความสัมพันธ์สนทนาทั่วไป ตงฟาง ซั่วหัวดี โบนัสเพิ่มความโปรดปราน+20โบนัส ความสัมพันธ์พิเศษ (VIP) กับ NPC +10 แต้มโบนัส ความโปรดปราน NPC เผ่ามนุษย์ (ผู้มีบุญ) +20 แต้ม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย LinYa เมื่อ 2025-6-21 23:55
https://img2.pic.in.th/pic/-4_20250603154522.md.png
วันที่ ยี่สิบเอ็ด เดือน ห้า รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11ยามเว่ย เวลา 13.00 - 15.00 น. ไปทำงานร้านบะหมี่สามหาว - สาขาฉางอัน (พบ จาง ทัง มากินบะหมี่)
หลินหยาส่วนชุดผ้าฝ้ายสีอ่อนเดินอย่างกระฉับกระเฉง กระเป๋าสะพายข้างสีน้ำตาลใบเล็กไกลไปมาตามจังหวะก้าวย่างของเธอ ขณะที่ในมืออีกข้างนั้นมีซาลาเปาไส้ผักร้อน ๆ ที่เธอแวะซื้อมาตั้งแต่หน้าซอยก่อนถึงตรงนี้เสียอีก เจ้าของริมฝีปากเล็ก ๆ แสนน่ารักคาบซาลาเปาเอาไว้ ดวงตาหวานใสสีน้ำตาลมะพร้าวอ่อนยังดูง่วงงุนปนขี้เกียจนิด ๆ ตามประสาคนเพิ่งตื่นได้ไม่นาน เธอกำลังคิดว่าวันนี้จะได้ทำงานปกติไหมนะ..อืมที่ร้านบะหมี่ เจ็บมือหน่อยแต่ก็โอเคแหละ..
"เถ้าแก่เจ้าคะ มาทำงานแล้วววว ปวดมือนิดหน่อย แต่จะพยายามทำงานนะ"
ร้านบะหมี่สาวหาวสาขาฉางอันเสียงน้ำซุปนั้นเดือดปุด ๆ คละคลออยุ่กับกลิ่นหอมของน้ำมันงาอีกครั้ง เครื่องปรุงรสเข้มข้นที่ลอยฟึ้งตลบอบอวลอบู่ทั่วร้าน โต๊ะไม้เรียบง่ายโดนใครคนหนึ่งเช็ดอย่างสะอาดเอี่ยม ลูกค้าทยอยเดินเข้าออกไม่ขาดสาย และในช่วงยามเว่ยที่แสงแดด่อนอลอยผ่านบานไม้เก่าครึ้มก็เริ่มเทมุมเฉียงพาดเข้ามายังโต๊ะด้านในสุดจนได้ ซึ่งเป็นที่นั่งขชองชายคนหนึ่งที่สะดุดตาจนคนในร้านอดที่จะชำเลืองไม่ได้เลย
จางทัง ผู้มีนามสะท้านในศาลแห่งนี้ กำลังวางตะเกียบลงบนถ้วยบะหมี่ถ้วยที่สองของตนเองพอดิบพอดี เขาเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยพยักหน้าเบา ๆ กับเถ้าแก่ร้านเป็นสัญญาณว่าอิ่มดีแล้ว ไม่ต้องมาเติมอีกแล้ว ชายหนุ่มในชุดเรียบนั้นไม่หรูหราฟุ้งเฟ้อแต่ดุดี ร่างสูงโปร่งกับท่าทางนิ่ง ๆ ขรึม ๆ ชวนให้รู้สึกเหมือนอยู่ต่อนห้าผู้ตัดสินความผิดบาปของโลกแม้จะไม่ได้พูดอะไรเลยก็ตาม ราศีจากเขาไม่ได้มาจากอำนาจหรือกิริยาอันอวดดีของตนเอง แต่มาจากสายตาอันคมกริบที่เหมือนมองทะลุเนื้อแท้คนได้อย่างเงียบงันและไร้ความปราณี
หลินหยานั้นเห็นว่าอีกฝ่ายที่กำลังจะเดินออกเธอก็เดินไปที่โต๊ะเพื่อที่จะเก็บชามตามเคย แต่เพราะการที่ตัวเองโดนคนกระแทกไหล่จนมือดันไปฟาดกับเหลียมไม้ของเสาแข็งทำให้มือของเธอไม่ค่อยดีเท่าไร..นั้นเป็นเหตุผลว่าอีกไม่กี่วินาทีต่อจากนี้จะเกิดเหตุการณ์ที่จะทำให้เธอรู้จักท่านชายคนหนึ่งที่ตอนแรกเธอคิดว่าเขาแค่เป็นคนกินจุคนหนึ่งเท่านั้นแม้ว่าจะไม่ทราบชื่อหรือเสียงเรียบนามของอีกคนแม้แต่น้อยก็ตามที..เอาเถอะ อะไรจะเกิด มันก็ต้องเกิด
เขาเดินไปจ่ายเงินกับเถ้าแก่ตามจำนวนชามที่กินสองใบ จากนั้นก็ลุกขึ้นช้า ๆ ออกจตากร้านในเวลาเงียบเชียบเช่นเคย หากแต่ไม่ใช่เพราะเสียงหนึ่งที่ทำให้ฝีเท้าของเขาหยุดชะงัก
“โอ๊ย..อีกแล้ว” เสียงเบาแต่ชัดเจนเพียงพอที่จะทำให้เขาหันกลับมามอง เพราะตอนนี้สาวใช้..ไม่สิ พนักงานของร้านคนหนึ่งตัวเล็ก ๆ ที่กำลังก้มเก็บถ้วยบะหมี่สองใบของเขาที่เพิ่งบางนั้นกำลังชะงักไปชั่วครู่ มือขวาของหลินหยาที่เพิ่งยกถ้วยน้ำซุปร้อน ๆ ไหลล้นออกมาเลอะปลายนิ้ว ร่างบางสะบัดมือน้อย ๆ คล้ายจะกลั้นเสียงร้อง
จางทังหรี่ตาลงเล็กน้อย ไม่ใวช่เพราะตำหนิหรอก แต่เพราะแววตาของเขาไวต่อรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ อยู่เสมอ ชายที่เคยสืบคดีจากรอยหยักบนโต๊ะ กลิ่นน้ำหมึกที่ซุมลงกระดาษ หรือแม้แต่เงาที่ทอดทาบผิดมุมในห้องนั้นย่อมไม่พลาดต่อรอยสะดุดของนิ้วมือที่สั่นเล็ก ๆ หรือแววตาที่ปรือไปด้วยความเจ็บหรอก
เขาไม่ได้พูดคำใดในตอนแรก เพราะเอาตรง ๆ ก็พบเธอหลายรอบเหมือนกัน ทำเพียงเดินเข้ามาหาเธอหนึ่งก้าวแล้วยื่นมือล้วงเข้าไปในแขนเสื้อผ้าหยิบผ้าเช็ดหน้าเนื้อดีสีหมึกออกมาช้า ๆ “ควรระวังหน่อยแม่นาง” เสียงเรียบนุ่มแต่ชัดเจนเอ่ยขึ้น เป็นคำตำหนิที่ไม่มีแววดุด่า หากแต่หนักแน่นพอทำให้หลินหยาชะงัก เหลือบมองขึ้นสบตากับดวงตาสีดำเข้มที่เยือกเย็นแต่แฝงความใส่ใจที่ไม่เปิดเผยตรง ๆ
ชายหนุ่มนั้นยื่นผ้าเช็ดหน้ามาให้ พร้อมกับสายตาที่กวาดมองนิ้วมือของเ้ธอโดยไม่แตะต้องหรือทำท่าทางอวดดีใด ๆ หากแต่แววตานั้นฉายชัดถึงคำถามที่ไม่ได้เปล่งเสียง แต่เขากำลังคิด ว่าเหตุใดมือของนางจึงมีรอยแผลแดงช้ำจาง ๆ อยู่ก่อนหน้านี้แล้วกัน? ….หึ..แกเป็นโคนันเราะ!!
“ขอบคุณเจ้าค่ะท่านชาย” หลินหยาเอ่ยเสียงแผ่วเบา เบี่ยงตัวหลบเล็กน้อยขณะยื่นมือไปรับผ้า แล้วเหมือนจะบ่นว่าวันนี้แม่งโคตรซวย …จริง ๆ น่าจะเป็นเหตุผลว่าทำไมวันนี้เธอเลยทำงานผิดพลาด
คำอธิบายของเด็กสาวไม่ได้ทำให้เขายิ้ม หากแต่สีหน้าก็ผ่อนคลายลงน้อย ๆ ดวงตาของเขาทำเพียงเหลือบมองมือของเธออีกครั้ง ราวกับจะประเมินอาหารว่าไม่ถึงขั้นต้องส่งไปโรงหมอหรอกจากสภาพนี้ “น้ำร้อนอาจทิ้งรอยไว้ พรุ่งนี้จะยังเจ็บอยู่ แม่นางอย่าหยิบของหนักนัก” เขาเว้นจังหวะ ยืนอยู่ตรงนั้นอย่างไม่รีบร้อนแต่ก็จากไป แล้วพอเห็นว่าหลินหยาเอาผ้ามาซับไว้ตรงนั้นเขาก็ถอยหลังไปหนึ่งก้าว หันหลังออกจากร้านไป
“ท่านชาย..เอ่อ เดี๋ยวขช้าจะเอาผ้าไปซักนะ ถ้ามาอีกพรุ่งนี้ข้าจะเอามาให้” นางเอ่ยบอกกับอีกฝ่ายเช่นนั้น หลินหยายกผ้านั้นแล้วโบกเบา ๆจางทังหยุดชะงักเล็กน้อยสีหน้าไร้แววเป็นปกติคล้ายไม่ได้ยินอะไรเป็นพิเศษ แต่หากสังเกตดี ๆ จะเห็นว่าปลายคิ้วของเขาขยับน้อย ๆ ริมฝีปากยกขึ้นเพียงเสี้ยววินาที ก่อนจะกล่าวเสียงเบาราวกับกล่าวกับตัวเอง
"...ยังไม่ต้องคืนหรอก"
https://img2.pic.in.th/pic/-4_20250603154522.md.png
@Admin
พรสวรรค์: ลาภลอย (ไม้)มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่อื่น ๆ: -
รางวัล: 180 เหรียญอู่จู - 10 EXP+5 ความสัมพันธ์สนทนาทั่วไป จาง ทังหัวดี โบนัสเพิ่มความโปรดปราน+20โบนัส ความสัมพันธ์พิเศษ (VIP) กับ NPC +10 แต้มโบนัส ความโปรดปราน NPC เผ่ามนุษย์ (ผู้มีบุญ) +20 แต้ม
https://img2.pic.in.th/pic/-4_20250603154522.md.png
วันที่ ยี่สิบสอง เดือน ห้า รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11ยามเฉิน เวลา 07.00 - 09.00 น. ณ ร้านบะหมี่สามหาว สาขาฉางอัน
แสงแดดทอยามเฉินกลับเข้ามา แสงส่องจากท้องฟ้าลงมายังพื้นดิน เหล่านกน้อยนั้นส่งเสียงรองกระจิบกระจาบอยู่บนหลังคากระเบื้อง ร้านบะหมี่สามหาวเปิดกิจการในช่วงเวลาเช้าเหมือนเช่นเคย ควันจาง ๆ ลอยขึ้นจากหม้อต้นกระดูกหมู หอมกลิ่นซุปที่ผ่านคืนอันยาวนาน เถ้าแก่ห่าวปิงในชุดเสื้อกั๊กผ้าฝ้ายยังคงง่วนอยู่กับการเตรียมวัตถุดิบตั้งหม้อ ตั้งชามวางเครื่องเคียงอย่างคล่องมือเช่นเคย ดวงตาเล็กเรียบแบบคนตาตี๋นั้นเหมือนวันนี้เป็นวันที่สดใส แล้วเมื่อเห็นเงาร่างของหญิงสาวที่เดินผ่านร้านนั้น ใบหน้าก็ยิ้มกว้างทันที
“โอ้ยยย แม่นางน้อยหลินหยา!! ไปไหนน่ะ” เสียงเขาเอ่ยกระชับขณะยกชามออกมาจากชั้นวาง ก่อนที่จะเช็ดมือแล้วเดินตรงออกมานอกร้านพอดิบพอดี “เจ้าจะแวะกินบะหมี่หน่อยไหมล่ะเช้านี้” เถ้าแก่เอ่ยถามหลินหยาที่กำลังจะเดินผ่านทางตรงนี้ก็หยุดเท้าพอดีเหมือนเดิมอย่างงุนงงเล็กน้อยเมื่อถูกเรียก ดวงตาใสสีน้ำตาลมะพร้าวอ่อนนั้นเหลือบมองพลางระบายยิ้มเจื่อน ๆ “วันนี้ข้าอยากรีบไปทำงานเจ้าค่ะ นี้เห็นว่ามีเทศกาลตวนอู่ด้วย กะว่าจะรีบทำงานให้เสร็จแล้วไปงานเทศกาลเจ้าค่ะ” หลินหยาเอ่ยบอกเช่นนั้น ดวงตาของนางระบายกร้าวราวกับคนที่มีเป้าหมายในใจของวันนี้อยู่เต็มอกไม่มีทางปิดบังแต่อย่างใด
“งั้นข้าจะไม่รั้ง แต่อย่าพึ่งไปสิแม่นาง เมื่อวานนี้มีชายคนหนึ่งมาฝากของไว้ บอกว่าถ้าเจ้าผ่านมาให้หยุดแล้วรับไปหน่อย”
หลินหยานั้นขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วเหลือบมองไปทางมือของเถ้าแก่ที่ชี้ไปยังด้านข้างห้องร้านที่อยู่ใกล้หม้อต้มน้ำชา หลินหยาไม่เข้าใจเท่าไรแต่ก็เดินไปตามจุดชี้ ดวงตาของเธอสอดส่องลงก่อนที่จะหยุดอยู่ที่กล่องไม้ไผ่ขนาดเล็กตรงนั้น ที่วางไว้อย่างเรียบง่ายข้างกาต้มน้ำ กล่องทรงสี่เหลี่ยมผูกด้วยเชือกป่านเรียบร้อย ดูไม่ใช่ของมีค่าแต่บรรจงจัดวางอย่างน่าระแวงแปลก ๆ แต่สิ่งที่อดขำไม่ได้นั้นคือป้ายเล็ก ๆ ที่ห้อยติดหน้ากล่องนั้นมันเขียนด้วยหมึกแบบเข้มสวยเป็นระเบียบ..
‘แม่นางหลินหยาผู้เชี่ยวชาญการเลือกแตงโม’ และด้านใต้ของข้อความนั้น มีรูปแตงโมลูกจิ๋วที่วาดด้วยเล่นเส้นขึงขังแถมสีเส้นประกอบรัศมีแตงโมราวกับเป็นผลไม้มหัศจรรย์เสียอย่างงั้น
“อะไรเนี้ย..ใครกันส่งมาให้..” เธอเหมือนจะหลุดหัวเราะออกมาเบา ๆ แต่เอาความจริงเธอนั้นเหมือนจะเดาได้เพราะเมื่อวานตัวเองดันมีเหตุการณ์เลือกแตงโมกับใครบางคน
เถ้าแก่ห่าวปิงที่ยืนอยู่ตรงนั้นหัวเราะเล็ก ๆ ร่าระหว่างทำงาน “ข้าไม่กล้าถามหรอกว่าเขาเป็นใคร แต่งตัวดูดีนะ สุภาพมาก หน้าตาคุ้นนิดหน่อย ไม่ใช่คนธรรมดามั้ง พวกทหารละมั้ง? อย่างกับพวกทหารมือดีน่ะ แต่กลับฝากกล่องนี้ให้เจ้าด้วยสีหน้าจริงจังนะ ข้าก็จนใจที่จะเข้าใจความหมายของเขา”
หลินหยานั้นใช้ปลายนิ้วของตนเองแตะกล่องไม้ไผ่นั้นเบา ๆ พลางเอียงหน้าเล็กน้อย ดวงตาวูบไหวไปด้วยความรู้สึกอันหลากหลาย รอยยิ้มของเธอผุดขึ้ันแบบช้า ๆ แบบแปลก ๆ หากเป็นคนที่เหมือนกับนายทหาร..ก็ท่านชายเว่ยจ้งชิงนี้? “เขาจริงจังกับการเลือกแตงโมขนาดนั้นเลยหรอ?..ฮ่ะ ๆ น่ารักจริง ๆ” หลินหยานั้นขยับนิ้วของเธอเอื้อมไปแกะเชือกป่านนั้น เปิดฝากล่องขึ้นช้า ๆ และไม่รู้ว่าด้านในมันมืออะไรกันแน่นะ?
ทันทีที่เปิด กลิ่นอ่อนละมุนของกฤษณาเจือกลิ่นหวานของแตงโมแช่เย็นลอยขึ้นแตะปลายจมูกของเธอทันที..ภายในกล่องนั้นเป็นกล่องไม้ไผ่ปรากฎแตงโมนที่โดนหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ สีแดงสดวางเรียงเรียบร้อยบนแผ่นผ้าขาวบางที่รองไว้บนน้ำแข็งบดละเอียด เม็ดแตงโมถูกคัดออกทุกเม็ดอย่างตั้งใจ ข้างกันนั้นคือกระดาษที่พับบางแนบอยู่ริมข้างกล่องด้วย
แม่นางน้อยหลินหยานั้นขยับหยิบขชึ้นมา ปลายนิ้วสัมผัสได้ถึงเนื้อกระดาษที่ไม่ใช่ของหรูตราแต่ถูกพับอย่างเรียบร้อย ลายมือที่เขียนลงตรงนั้นไม่ถึงกับสวยงามนักแต่มันสุภาพเรียบร้อยและมีร่องรอยของคนมีความพยายามจะเลือกคำอย่างระมัดระวังจนบางคำนั้นเธอเห็นรอยตัดคำจากหมึกจางเล็กน้อย คล้ายคนที่ไม่คุ้นชินกับการเขียนข้อความถึงใครบางคนเท่าใดนัก
‘ลูกที่เลือกให้เมื่อวาน กินเองหรือเปล่า?’
‘ถ้ายัง…ข้าจัดไว้ให้เจ้าด้วยแล้ว’
(ปล.หากไม่อร่อย ข้าจะลองเรียนรู้วิธีเคาะเปลือกแตงโมดูสักที)
— เว่ย ชิง
พอถึงตรงชื่อที่เขาเซ็นไว้ด้านล่าง หลินหยาถึงกัยเงียบไปเล็กน้อยชะงักไปนิดหนึ่ง ดวงตาคู่นั้นกะพริบช้า ๆ พลางเอียงหน้าคล้ายครุ่นคิดนัก เว่ยชิงเช่นนั้นหรือ? เอ๊ะ คล้ายชื่อของต้าซือหม่าเลยนี้หน่า? หลินหยานั้นเม้มปากเข้าหากันนิด ๆ ขณะดวงตาของเธอจ้องอยู่ที่ตัวอักษรที่ปลายจดหมาย แต่มันคงจะเป็นชื่อที่พ้องกันเสียละมั้ง คนสกุลเว่ยมีมากมายในแผ่นดิน …นั้นคือความคิดของหลินหยา แม้จะมีอะไรบางอย่างในใจเริ่มรู้สึกคล้ายคลึงจนเธออยากรู้มากกว่านี้อยู่ลึก ๆ
ริมฝีปากสีอ่อนของนางคลี่ยิ้มช้า ๆ พลางถอนหายใจนิดหน่อย “เฮ้ย..จริงจังกับแตงโมเสียเหลือเกิน ท่านชาย” เธอบ่นเบา ๆ แต่แววตากลับไหวระริก ไม่ใช่เพราะแตงโม แต่เพราะข้อความนั้น มันไม่ใช่แค่การฝากผลไม้ มันคือความใส่ใจเงียบ ๆ ที่ไม่ต้องเรียกร้องอะไรเลยสักนิด หลินหยาหยิบแตงโมขึ้นมาหนึ่งชิ้น ลิ้มรสความเย็นฉ่ำที่ผสานกลิ่นหอมจาง ๆ ของไม้กฤษณารสชาติหวานละมุน สดชื่นราวกับคืนก่อนถูกเก็บไว้ในกล่องของความห่วงใยที่ไม่มีใครเห็น
หลินหยานั้นเก็บกล่องลงกระเป๋าเจ็ดสมบัตรของตนเอง แล้วหันไปทางเถ้าแก่ “ข้าไม่กินแล้ว ได้ของกินแล้วเจ้าค่ะ ไปก่อนนะเถ้าแก่” เอ่ยบอกเช่นนั้น ก่อนที่จะหมุนตัวออกจากร้าน หอบเอากลิ่นหอมของผลไม้และข้อความลับจากผู้ชายคนหนึ่งไว้ ผู้ที่เธอยังไม่รู้จักในวันนี้ว่าเขาคือผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพต้าฮั่น
https://img2.pic.in.th/pic/-4_20250603154522.md.png
@Admin
พรสวรรค์: ลาภลอย (ไม้)มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่อื่น ๆ: ปลดหัวใจ 2 ดวงของเว่ยชิง พี่ชายอะไรจะธงเขียนเป็นป่าอะแมซอนขนาดนี้รางวัล: -
https://img2.pic.in.th/pic/-4_20250603154522.md.png
วันที่ ยี่สิบสอง เดือน ห้า รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11ยามเว่ย เวลา 13.00 - 13.30 น. ณ ร้านบะหมี่สามหาว สาขาฉางอัน (เอาผ้าเช็ดหน้าคืนให้จาง ทัง)
แสงแดดยามเว่ยคล้ายจะเมตตากว่าทุกวัน เมื่อลำแสงสีทองอมส้มโรยตัวเฉียดพานชายคาร้านบะหมี่สามหาว ณ ฉางอัน ที่คุ้นเคย ริมถนนตรงนี้ยังพลุกพล่านไปด้วยเสียงเรียกลูกค้า แล้วก็กลิ่นน้ำซุปกระดูกหมูโชยหอมแตะจมูกคนที่อ่านไปมาอย่างเคย แต่สำหรับหญิงสาวเจ้าประจำที่เคยวิ่งวุ่นเสิร์ฟบะหมี่หรือล้างจานอย่างร่าเริงวันนี้เงาของเธอกับแผ่วกว่าปกติ
หลินหยาก้าวเท้าเข้ามาในร้านโดยไร้ซึ่งความร่าเริงและความทะเล้น รอยยิ้มซุกซนแบบเดิมเหมือนเมื่อเช้า ดวงตาเปล่งประกายดูหม่อนลงเล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัด เธอก้มหน้าลงเล็กน้อยอย่างไม่รู้ตัว “เถ้าแก่เจ้าคะ วันนี้ข้าจะไม่ทำงานนะ…ข้าขอพักงานสักวัน…ไม่สิ อาจหลายวันด้วย” เสียงของเธอไม่ได้เศร้าแบบร่ำไห้ หากแต่เต็มไปด้วยความห่อเหี่ยวของคนที่เพิ่งเผชิญความน่าอายชนิดอยากเอาหัวมุดโอ่ง
เถ้าแก่ห่าวปิวงที่กำลังใช้ตะเกียบคีบเส้นบะหมี่ชิมน้ำซุปขมวดคิ้วนิด ๆ พอเห็นท่าทางของเด็กสาวที่เคยเต็มเปี่ยมไปด้วยนพลังงานวันนี้กลับดูเหมือนลูกแมวเหมือนโดนฝน เขาจึงวางของแล้วพยักหน้าเบา ๆ อย่างเข้าใจ “ไม่ต้องบอกข้าหรอกว่าเกิดอะไรขึ้น...หน้าเจ้ามันฟ้อง” เถ้าแก่ถอนหายใจพลางเท้าคางมองนาง “แต่ถ้าเจ้าขอพักงานก็พักเถอะ ข้าไม่ว่าอะไร แค่อย่าไปหายหัวไปเฉย ๆ ก็พอ กลับมาเมื่อพร้อม เข้าใจหรือไม่?”
หลินหยาเงยหน้าขึ้นมองเขาแววตาคล้ายอยากจะบอกว่าเธอโคตรซึ่งในแบบเข้าใจคนตรงหน้าเลยพลางเม้มริมฝีปากแน่นเหมือนพยายามกลั้นอาการอยากพร่ำบ่น เธอพ่นลมหายใจแล้วเบะปากนิด ๆ “ข้าคิดเงินผิดไปตั้งเกือบร้อยตำลึงเงินแน่ะ…” น้ำเสียงนั้นทั้งประชดตัวเองทั้งกลุ้มใจ “ไอ้เจ้าก้อนเต้าหู้นั้นมันทำให้ข้าแทบจะขายตัวใช้หนี้ ฮึ่ย…เขาน่าจะบอกข้าตั้งแต่แรกว่า 7 ตำลึงกับอีก 378 เหรียญอู่จู ไม่ใช่ 378 เหรียญอู่จูเฉย ๆ เสียหน่อย! ตาบ้าบ้าชะมัด!”
ขณะที่หลินหยากำลังยกถ้วยน้ำขิงขึ้นจิบ กลิ่นขิงร้อนระอุช่วยให้หัวใจที่ร้อนรุ่มอันเนื่องจากเรื่องเต้าหู้ดูจะสงบลงเล็กน้อย หญิงสาวที่เคยดูห่อเหี่ยวอย่างเสียรูปก็คล้ายจะมีจังหวะลมหายใจใหม่ “จริงสิ ตอนแรกข้าก็ไม่ได้คิดว่าจะมาพักงานเฉย ๆ หรอก ท่านจำท่านชายเมื่อวานนั้นได้ไหม ที่ชอบนั่งตรงมุมร้านเมื่อวานน่ะ วันนี้เขามากินบะหมี่หรือยังเจ้าคะ?” เธอไม่พูดชื่อเขา เพราะเธอไม่รู้ชื่อเขาเลยแม้แต่น้อย เพียงจำได้แค่เงาร่างสูงโปร่งในชุดขุนนางสีน้ำหมึก ใบหน้าคมเข้มสุขุมที่แม้จะไม่เอื้อนเอ่ยมากความ แต่กลับยื่นผ้าเช็ดหน้าผืนนี้ให้เธอในวินาทีที่เธอเจ็บน้ำร้อนราดมือ
“หืม? อ้อ..คนที่มาเมื่อวาน เขาก็มาแทบทุกวันนะ วันนี้ยยังไม่โผล่มาเลย ทำงานหนักมั้ง ข้าไม่รู้เหมือนกัน เจ้านี้ช่างเก่งจริง ๆ พวกคุณชายหน้าตาคล้ายกันมีเยอะแยะ” เขาว่าพลางหัวเราะเบา ๆ ท่าทางไม่ได้ล่อเลียนอะไรหรอกแต่เห็นเรื่องนี้เป็นความน่ารักของคนที่เขามองเป็นน้องสาวหรือลูกสาวมากกว่า
หลังจากนั้นที่กำลังคุยกันอยู่เธอก็เห็นเงาร่างสูงใหญ่ในชุดขุนนางสีเข้มแต่งเมยศกำลังก้าวเข้ามาอย่างสงบยสำหรับทำงาน หลินหยาเบิกตากว้างสักคร(ู่แล้วเธอก็ก้าวขึ้นเร็วนิดหน่อยแล้วเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าอีกคนอย่างไม่ลังเล ดวงตากลมใสซื่อของคนที่น่าจะโง่จริงนั้นสบแววตากับชายหนุ่มอย่างกล้าหาญโดยที่ไม่รู้เลยว่าเขาพาเธอเข้าซังเตได้เลยนะหากคิดเงินผิดอแีกครั้ง มือเรียวคว้าล้วงเข้าไปในเสื้อแล้วคลี่ห่อผ้าเช็ดหน้าที่ซักสะอาดแดดหอมฉุยส่งให้อีกคน
“คุณชายเจ้าคะ นี้ผ้าเช็ดหน้าของท่าน ข้าบอกว่าจะคืนให้หลังซัก ข้าซักเรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ เชิญรับไปด้วย” หลินหยาเอ่ยก่อนที่จะยื่นให้ทั้งสองมือแบบเป็นมารยาท เธอพูดเสียงนุ่มมากพร้อมยื่นผ้าให้
จางทังที่เดินเข้าร้านมาด้วยใบหน้าเรียบเฉยตั้งใจจะสั่งบะหมี่เป็นอาหารกลางวันเหมือนทุกวัน แต่คราวนี้เขาอยู่ในชุดทำงาน เพราะช่วงนี้ทำงานหนักกว่าเดิมเพราะเป็นช่วงเทศกาลตวนอู่ จำเป็นต้องตรวจอะไรก็ไม่รู้ หลายส่วน ในศาลเองก็ยังคงมีคดีติดค้างรอความคืบหน้า ทว่าแม้จะเหนือยล้าเพียงใด เมื่อเห็นเด็กสาวร่างเล็กหน้าตาแจ่มใสยืนอยู่ตรงหน้า พร้อมรอยยิ้มที่ฝืนไม่ให้ตัวเองดูเก้อเขิน ก็อดที่จะหยุดชะงักไม่ได้ สายตาคมกริบมองผ้าเช็ดหน้าอันสะอาดในมือนาง ก่อนจะค่อย ๆ เอื้อมมือไปรับไว้อย่างไม่แสดงท่าทีรังเกียจแม้แต่น้อย แล้วรับไว้โดยที่ไม่แม้แต่จะสัมผัสปลายนิ้วกับนางสักนิด
"แม่นางช่างใส่ใจและมีน้ำใจ…แม้จะเป็นเรื่องเล็กเช่นนี้ก็ไม่ละเลย" น้ำเสียงของเขานุ่มลึก ช้าและสุขุม "ข้าขอบใจ" คำพูดนั้นไม่ได้มีเสียงสูงหรือต่ำ แต่กลับให้ความรู้สึกมั่นคงเหมือนภูเขา
หลินหยานั้นเหลือบมองเขาแล้วยิ้มให้ “ไม่หรอกเจ้าค่ะ ข้าแค่ไม่อยากให้ใครมาหาว่าข้าไม่รับผิดชอบต่อคำพูดตัวเองแค่นั้น ยังไงก็ต้องคืนให้แบบสะอาดเจ้าค่ะ เช่นนั้นข้าขอตัว ขอให้ท่านมีวันที่ดีนะเจ้าคะ” เธอพูดพลางยิ้มให้ จากนั้นก็หมุนตัวออกจากร้านอย่างรวดเร็ว หญิงสาวแค่รู้สึกว่าการอยู่ใกล้เขาเหมือนอยู่ใกล้ซังเตไปเสียทุกที เพราะงั้น ขอโทษนะท่านชาย ข้าไม่ได้อยากจะรู้สึกอย่างงี้หรอก เธอแค่รู้สึกหวาดหวั่นกับคนที่เป็นขุ่นนางน่ะ ไม่มากก็น้อยตอนนี้รู้สึกเข็ดกับขุนนางตั้งแต่ท่านเถียนเฟิงแล้ว สาธุ ต่อไปก็คือ..คำขอจากขุนนางแทบจะเป็นงานของชาติ พยายามไม่ตอบรับดีกว่า
https://img2.pic.in.th/pic/-4_20250603154522.md.png
@Admin
พรสวรรค์: ลาภลอย (ไม้)มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่อื่น ๆ: -
รางวัล: +5 ความสัมพันธ์สนทนาทั่วไป จาง ทังหัวดี โบนัสเพิ่มความโปรดปราน+20โบนัส ความสัมพันธ์พิเศษ (VIP) กับ NPC +10 แต้มโบนัส ความโปรดปราน NPC เผ่ามนุษย์ (ผู้มีบุญ) +20 แต้ม
https://img2.pic.in.th/pic/-4_20250603154522.md.png
วันที่ 26 เดือน 5 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11ยามเว่ย เวลา 13.00 - 15.00 น. ณ ถนนสิบลี้ ร้านบะหมี่สามหาว
ยามเว่ยลมร้อนกลางวันพัดวนเป็นวงแคบภายในตลาดตะวันออก ริมปากตรอกที่ตั้งร้านบะหมี่สามหาวสาขาฉางอัน ยังคงมีเสียงดัง โหวกเหวกของพ่อค้าแม่ค้าและลูกค้าที่ต่อคิวออยาวรอชามบะหมี่อันลือชื่อ ภายในร้านที่กลิ่นน้ำซุปกระดูกหมูต้มจนหอมโชยผสานกับเสียงกระบวยตักน้ำซุปกระทบชามดังกรุ๋งกริ๋ง เถ้าแก่ห่าวปิงยังคงคล่องแคล่วอยู่หน้าหม้อต้ม เสียงตะโกนเรียกลูกน้องชัดเจนดุจนักรบกลางสนามรบ… และท่ามกลางความวุ่นวายเช่นนี้ สตรีร่างบางคนหนึ่งก้าวเข้ามาอย่างเงียบเชียบ
“อ้าว…” เถ้าแก่ห่าวปิงหันไปเห็นก็แทบจะยิ้มจนหูฉีก เขาวางตะหลิวลงก่อนมองหลินหยา “กลับมาแล้วหรือไงเแม่นางน้อย” เขาไม่ถามเรื่องผมสั้นที่ยาวพอถึงต้นคอแล้วโดนรวบขึ้นให้เหมือนคนที่ยังผมยาวอยู่ในตอนนี้ ไม่พูดถึงสายตาแข็งแกร่งที่ดูต่างจากก่อนหน้านี้เล็กน้อย เขาเพียงยกมือหนาขึ้น ลูบหัวเธอเบา ๆ พลางหัวเราะ "ไปไหนก็ไปได้แต่อย่าหักโหมนัก ข้ารอคนมาช่วยซอยต้นหอมอยู่นานเลยนะ"
หลินหยาระบายยิ้มออกมาก่อนที่จะยกมือตอบรับทั้งที่ในใจก็รู้สึกเหมือนว่าเธอโล่งใจแปลก ๆ ที่ได้ยินเสียงของเถ้าแก่ที่สนิทด้วย ได้กลิ่นน้ำซุปที่คุ้นเคย และได้กลับมาอยู่ในห้องครัวแคบ ๆ ที่มีควันตลบแต่ให้ความรู้สึกอุ่นในเหมือนบ้าน หลินหยาเริ่มช่วยงานทันที ซอยผัก ตักน้ำชา ล้างถ้วย บางครั้งก็ยกถาดอาหารเดินสวนลูกค้าไปยังโต๊ะ บางครั้งก็เดินไปตักน้ำซุปให้เถ้าแก่ ท่ามกลางความร้อนอบอ้าวและเสียงอึกทึกเหล่านั้น หลินหยาทำงานอย่างคล่องแคล่วเหมือนเคย…หากแต่ไม่นาน…
โลกของหลินหยาพลันเหมือนเบี้ยวบิดชั่วครู่ ดวงตาของเธอพร่ามัวอย่างรวดเร็ว มือที่กำลังยกถาดบะหมี่นั้นสั่นน้อย ๆ จนช้อนกระดกไปมา หลินหยารีบวางถาดบนโต๊ะก่อนที่จะยืนพิงข้างฝาผนังอย่างแนบเนียน
ไม่ร้อน..ตัวไม่ร้อนเลย แม้จะรู้สึกวิงเวียนเหมือนคนเป็นไข้ ดวงตาคู่งามเริ่มพร่าเล็กน้อย ชั่วแวบหนึ่งหลินหยาสัมผัสได้ถึงความเย็นเฉียบราวกับน้ำแข็งแช่ร่างไหลเอื่อยจากปลายนิ้วไปจนถึงต้นแขน อากาศรอบกายกลับอึดอัีดทั้งที่ภถายนอกยังคงมีเสียงหัวเราะหรือเสียงตะโกน
หลินหยาก้มมองมือตัวเองเล็กน้อยแต่กลับเห็นแต่เพียงผ้าขาวสะอาดที่พันแขนทั่วแน่น ไม่เห็นสิ่งใดเลยนอกจากนั้น หากแต่นางสัมผัสได้ ความรู้สึกตึงน้อย ๆ ใต้ผิวหนัง ความเย็นเฉียบปะทะเหมือนกระแสเลือดกลับไหลทวนย้อนขึ้นมา ทว่ามันไม่ใช่เลือดธรรมดา มันคล้ายบางสิ่งที่กำลังไหลซึม นางพยายามกลั้นหายใจลึกหนึ่งที ไม่อยากให้เถ้าแก่หรือลูกค้าคนไหนต้องสังเกตเห็น ใบหน้าของเธอยังคงแต้มรอยยิ้มอ่อน ๆ ที่พยายามจะแข็งแรง แม้มันจะสั่นเล็กน้อยตรงหางตาก็ตาม
"ขอโทษนะเจ้าคะเถ้าแก่…ขอข้านั่งพักตรงนี้หน่อย…" หลินหยาว่าแผ่วเบา ริมฝีปากยังมีรอยยิ้มแต่ดวงตาเริ่มพร่าไหว ร่างบางผละออกจากครัวเดินมานั่งตรงมุมโต๊ะริมกำแพงที่เจ้าของร้านเอาไว้พักของชั่วครู่คราว มือหนึ่งยังจับขอบแขนเบา ๆ เพื่อคลายแน่นและอาการเจ็บลึกที่เริ่มร้าวขึ้นทีละน้อย ด้านนอกแดดยังคงสาดเข้ามาจากช่องไม้เหนือหน้าต่าง แต่ภายในร่างกายของหลินหยากลับเย็นเยียบราวจมหิมะ นางนั่งนิ่งหลบอยู่หลังฉากของความวุ่นวาย หอบหายใจช้า ๆ เพื่อข่มอาการ
เสียงฝีเท้าทางด้านหน้าทำให้หลินหยาเงนหน้าขึ้นมาเธอเห็นเขา ชายร่างสูงในชุดขุนนางประจำตำแหน่ง เดินเข้าร้านมาราวกับไม่เร่งรีบ ทุกฝีก้าวของเขาแน่นอน หัวไหล่ตั้งตรง ร่างกายที่ดูประหนึ่งสงยเย็นแต่กลับแผ่รังสีข่มขวัญกลาง ๆ คล้ายพยัคฆ์ที่สงยนิ่งในถ้ำมืดไม่เคลื่อนไหว เว้นเสียแต่มีผู้บุกรุก..
จางทัง..คนที่หลินหยาไม่เคยถามชื่อ ชายหนุ่มทรุดตัวนั่งยังโต๊ะเดิมโดยไม่ต้องให้ใครกล่าวนำ พนักเก้าอี้ไม้รองรับแผ่นหลังในมุมที่เคยเคย ดวงตาคู่นั้นทอดมองไปข้างหน้าในทีท่าไร้พิษภัย หากแต่ไม่มีสิ่งใดในร้านนี้เล็ดรอดสายตาเขาไปได้ หนึ่งในนั้นคือหลินหยาที่นั่งอยู่ตรงมุมกำแพงอีกฝั่ง
ดวงตาคมของเขาดั่งมีดสลัดสบเจ้ากับดวงหน้าของหลินหยาเพียงชั่วครู่เดียว รอยยิ้มริมฝีปากของนางก็ยกขึ้นมา เสียงในอกแผ่วลงแล้ว หากแต่ใบหน้าก็ไม่แผยอาการใดออกมา “วันนี้ข้าขอพักก่อนนะเจ้าคะ ท่านสั่งบะหมี่กับคนอื่นก่อนนะเจ้าคะท่านชาย”
เขาไม่ตอบทันที ดวงตาคู่นั้นจับจ้องเรือนร่างของนางราวกับวิเคราะห์ชั้นใต้ผิว ดวงหน้าเรียบไม่กล่าวอะไร แต่จางทังก็ลุกขึ้นก่อนที่จะก้าวมายืนตรงหน้าหลินหยาดังที่นางไม่เคยคิดหรือทันตั้งตัว “หากวันนี้ยังไม่ทำงาน แล้วเหตุใดใบหน้าของแม่นางจึงซีดเผือกถึงเพียงนี้” น้ำเสียงเรียบแต่ทุ้มกังวานเหมือนกินก้อนหนึ่งที่ตกลงกลางบอน้ำ
หลินหยาชะงักไปเล็กน้อยก่อนที่จะระบายยิ้มอีกครั้งหนึ่ง “ข้าแค่เหนื่อยนิดหน่อยเจ้าค่ะ เดี๋ยวก็คงจะดีขึ้น”
“อย่าลดค่าร่างกายตนเองลงด้วยคำว่านิดหน่อยเลยแม่นาง” เขาพูดขฯะดวงตายังจับจ้องใบหน้าของนางราวกับสังเกตตลอดเวลา “แม่นางคิดว่าข้าไม่สังเกตหรือ? เหตุใดมีความผิดปกติในร่างกายแม่นางหรือ?”
หลินหยานั้นเอียงคอนางไม่รู้จริง ๆ ว่ามันหมายความว่ายังไง ในหัวของตนเองนั้นเหมือนคิดว่าน่าจะเพราะความเครียดที่ยังตกค้างจากเหตุการณ์รอบก่อน “ข้าไม่รู้เจ้าค่ะ..เพียงแต่แบบ อาจจะเพราะช่วงก่อนหน้านี้ข้าเครียดมากจนล้มป่วย..” นางตอบในที่สุด เสียงที่เบาราวกระซิบและจริงใจที่สุดในครานี้
จางทังมองนางนิ่ง เขาไม่พูด ไม่ขยับ ก่อนจะยื่นผ้าเช็ดหน้าเล่มเดิมที่เคยยื่นให้นาง คราวนี้ไม่ได้ยื่นเพราะแผลน้ำร้อนลวก แต่เหมือนจะยื่นเพราะความเงียบสงบที่เขาอยากให้นางได้มีไว้แนบมือ “ถือไว้..เวลาหนาวจะได้มีอะไรแนบใจ” คำพูดเรียบง่ายแต่แฝงด้วยแรงอุ่นอย่างประหลาดดังขึ้นมา..
หลินหยายื่นมือไปรับอย่างเงียบ ๆ ปลายนิ้วสัมผัสผ้าแล้วนิ่งงันไปชั่วพักหนึ่ง ดวงตากลมไหวแววเบา ๆ แบบแปลกใจ แปลกใจในสิ่งที่เขาทำ เขาสงบนิ่งแต่แสนลึกล้ำต่อสิ่งที่ตนเองเลือกทำ “ท่านชาย..นี่มันเจ้าบนเจ้ากลอนจริง ๆ นะเจ้าคะ” นางว่าแผ่วเบา ก่อนจะยิ้มออกมาเต็มริมฝีปาก
https://img2.pic.in.th/pic/-4_20250603154522.md.png
@Admin
พรสวรรค์: ลาภลอย (ไม้)มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่อื่น ๆ: เอาไปปลดจางทังงงง
รางวัล: 180 เหรียญอู่จู - 10 EXP+5 ความสัมพันธ์สนทนาทั่วไป จาง ทังหัวดี โบนัสเพิ่มความโปรดปราน+20โบนัส ความสัมพันธ์พิเศษ (VIP) กับ NPC +10 แต้มโบนัส ความโปรดปราน NPC เผ่ามนุษย์ (ผู้มีบุญ) +20 แต้ม
<p style="text-align: center;"><font face="Kanit" size="5" color="#556b2f"><b style="">วันที่ 10 ลิ่วเยว่ รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11 </b></font></p><p style="text-align: center;"><font face="Kanit" size="5" color="#556b2f"><b>ยามเฉิน (เวลา 07.00 - 09.00 น.)</b></font></p><p style="text-align: center;"><font face="Kanit" size="5" color="#556b2f"><b><br></b></font></p><p style="text-align: center;"><img src="https://img2.pic.in.th/pic/111953632.gif" border="0"></p><p><font face="Kanit" size="3"><br></font></p><p><font face="Kanit" size="3">แสงอรุณรำไรต้องผิวน้ำค้างบนหลังคาโรงหมอเจิ้งเทียน ซูเหยาบิดขี้เกียจเล็กน้อยก่อนจะลุกจากที่นอน นางไม่รีรอให้แสงตะวันสาดส่องเต็มที่ก็รีบปฏิบัติกิจวัตรประจำวันของตน</font></p><p><font face="Kanit" size="3"><br></font></p><p><font face="Kanit" size="3">นางเริ่มต้นวันด้วยการจัดเตรียมโรงหมอให้พร้อมสำหรับผู้ป่วย เตาต้มยาที่ส่งกลิ่นสมุนไพรหอมกรุ่นถูกจุดไฟอุ่นไว้ตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง หม้อดินเผาสำหรับต้มยาถูกจัดเรียงเป็นระเบียบตามขนาดและชนิดของยาที่จะใช้ ชั้นวางสมุนไพรที่สูงจรดเพดานเต็มไปด้วยหีบห่อสมุนไพรนานาชนิดถูกตรวจตราความเรียบร้อยเพื่อให้หยิบใช้ได้สะดวก สมุนไพรแห้งที่ตากไว้เมื่อวานถูกเก็บเข้าที่อย่างเป็นระเบียบ </font></p><p><font face="Kanit" size="3"><br></font></p><p><font face="Kanit" size="3">เมื่อทุกอย่างจัดเตรียมเรียบร้อยโรงหมอเจิ้งเทียนก็พร้อมเปิดรับผู้ป่วย ทว่ายังพอมีเวลาว่างก่อนที่ผู้คนจะเริ่มหลั่งไหลเข้ามา ซูเหยาจึงตัดสินใจออกไปหางานเล็ก ๆ น้อย ๆ ทำเพื่อหารายได้พิเศษ นางก้าวเท้าออกจากโรงหมอ เดินทอดน่องไปตามถนนที่เริ่มมีผู้คนสัญจรมากขึ้นเรื่อย ๆ เสียงรถม้าบดถนนและเสียงพ่อค้าเร่ขายของดังสลับกันไปทั่ว</font></p><p><font face="Kanit" size="3"><br></font></p><p><font face="Kanit" size="3">ขณะที่นางเดินไปเรื่อย ๆ จมูกพลันได้กลิ่นหอมกรุ่นลอยมาตามลม กลิ่นหอมนั้นไม่ใช่กลิ่นดอกไม้หรือเครื่องหอม แต่เป็นกลิ่นที่ชวนให้ท้องไส้ปั่นป่วน ซูเหยาเดินตามกลิ่นนั้นไปเรื่อย ๆ จนมาหยุดอยู่ที่ปากตรอกเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในเมือง กลิ่นหอมยิ่งชัดเจนขึ้นเมื่อนางก้าวเข้าไปในตรอกแคบ ๆ แห่งนั้น และสิ่งที่พบก็คือร้านบะหมี่เล็ก ๆ ที่มีผู้คนยืนรอหน้าร้านอยู่ไม่น้อย ป้ายไม้เก่า ๆ แกะสลักอักษรจีนว่า ‘ร้านบะหมี่สามหาว’</font></p><p><font face="Kanit" size="3"><br></font></p><p><font face="Kanit" size="3">ซูเหยามองเข้าไปในร้าน เห็นผู้คนแน่นขนัดตั้งแต่เช้า แต่ละคนต่างก้มหน้าซดบะหมี่อย่างเอร็ดอร่อย นางสูดกลิ่นหอมลึก ๆ อีกครั้ง แล้วตัดสินใจเดินเข้าไปในร้าน เดินตรงไปหาเถ้าแก่ร้านแล้วเอ่ยปากถามด้วยน้ำเสียงนอบน้อม </font></p><p><font face="Kanit" size="3"><br></font></p><p><font face="Kanit" size="3" color="#006400">“ขออภัยเจ้าค่ะ ที่นี่พอจะมีงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ข้าทำบ้างหรือไม่เจ้าคะ?”</font></p><p><font face="Kanit" size="3"><br></font></p><p><font face="Kanit" size="3">เถ้าแก่หาวปิ่งเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวตรงหน้า เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ เพราะใบหน้าของนางดูคุ้นตาคลับคล้ายคลับคลาจะเป็นหมอหญิงจากโรงหมอเจิ้งเทียนที่ชาวบ้านร่ำลือถึงความเมตตาและฝีมือการรักษา</font></p><p><font face="Kanit" size="3"><br></font></p><p><font face="Kanit" size="3"><font color="#9932cc">“อ้อ...แม่นางนี่เอง” </font>หาวปิ่งเอ่ยขึ้นช้าๆ<font color="#9932cc"> “ใช่แม่นางที่เป็นหมอหญิงจากโรงหมอเจิ้งเทียนหรือไม่เล่า?”</font></font></p><p><font face="Kanit" size="3"><br></font></p><p><font face="Kanit" size="3">ซูเหยาโค้งศีรษะเล็กน้อย </font></p><p><font face="Kanit" size="3"><br></font></p><p><font face="Kanit" size="3" color="#006400">“เจ้าค่ะ ข้าคือซูเหยาเจ้าค่ะ แต่ช่วงนี้ที่โรงหมอยังไม่วุ่นวาย ข้าเลยอยากจะหางานเล็ก ๆ น้อย ๆ ทำเพิ่ม”</font></p><p><font face="Kanit" size="3"><br></font></p><p><font face="Kanit" size="3">หาวปิ่งพยักหน้าเข้าใจ พลางเหลือบมองไปยังหม้อซุปขนาดใหญ่ที่ส่งกลิ่นหอมกรุ่น </font></p><p><font face="Kanit" size="3"><br></font></p><p><font face="Kanit" size="3" color="#9932cc">“อืม...เช่นนั้นก็ดีเลย ที่ร้านข้างานเล็กงานน้อยมีให้ทำไม่ขาด ตั้งแต่ช่วยจัดชาม ล้างถ้วยชาม หรือไม่ก็ช่วยเสิร์ฟบะหมี่ให้ลูกค้า หากแม่นางไม่รังเกียจงานเช่นนี้ ก็เชิญช่วยงานได้เลย”</font></p><p><font face="Kanit" size="3"><br></font></p><p><font face="Kanit" size="3">ซูเหยาคลี่ยิ้มอย่างโล่งใจ </font></p><p><font face="Kanit" size="3"><br></font></p><p><font face="Kanit" size="3" color="#006400">“ไม่รังเกียจเจ้าค่ะ ข้ายินดีอย่างยิ่ง”</font></p><p><font face="Kanit" size="3"><br></font></p><p><font face="Kanit" size="3">หาวปิ่งชี้ไปยังกองชามที่รอการจัดเรียงอยู่มุมหนึ่งของร้าน </font></p><p><font face="Kanit" size="3"><br></font></p><p><font face="Kanit" size="3" color="#9932cc">“เช่นนั้นแม่นางช่วยจัดชามให้เรียบร้อยก่อนได้หรือไม่ ส่วนถ้วยชามที่ใช้แล้วก็กองไว้ตรงนั้น รอข้าว่างจะมาสอนวิธีการล้างให้สะอาด”</font></p><p><font face="Kanit" size="3"><br></font></p><p><font face="Kanit" size="3">ซูเหยารีบเดินไปที่มุมร้าน เริ่มต้นจัดเรียงชามอย่างคล่องแคล่ว มือเรียวขาวที่เคยใช้จับเข็มและสมุนไพร บัดนี้กำลังจัดเรียงชามกระเบื้องอย่างทะมัดทะแมง แม้จะเป็นงานที่แตกต่าง แต่แววตาของนางก็ยังคงเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจ</font></p><p><font face="Kanit" size="3"><br></font></p><p><font face="Kanit" size="3">งานในร้านบะหมี่สามหาวนั้นมีให้ซูเหยาทำไม่ขาดมือ นางช่วยจัดเรียงชาม เสิร์ฟบะหมี่ และคอยเช็ดโต๊ะให้สะอาดสะอ้าน นางทำงานอย่างตั้งอกตั้งใจ แม้จะเหงื่อผุดพรายอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะบ่นหรือท้อถอย การเคลื่อนไหวของนางแคล่วคล่องและเป็นธรรมชาติ ราวกับงานบริการเหล่านี้เป็นสิ่งที่นางคุ้นเคยมาแต่เดิม </font></p><p><font face="Kanit" size="3"><br></font></p><p><font face="Kanit" size="3">จนกระทั่งพ้นช่วงสาย ผู้คนเริ่มซาลงบ้างแล้ว หาวปิ่งก็เดินมาหาซูเหยา</font></p><p><font face="Kanit" size="3"><br></font></p><p><font face="Kanit" size="3"><font color="#9932cc">“แม่นางซู วันนี้คงเหนื่อยมากแล้วกระมัง”</font><font color="#800080"> </font>เขาว่าพลางยื่นถุงผ้าเล็ก ๆ ให้ <font color="#9932cc">“นี่คือค่าแรงสำหรับวันนี้ ถือเป็นสินน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ จากข้า”</font></font></p><p><font face="Kanit" size="3"><br></font></p><p><font face="Kanit" size="3">ซูเหยาเปิดถุงออกดู พบว่าเป็นเหรียญทองแดงจำนวนหนึ่ง แม้จะไม่มากนัก แต่ก็เพียงพอสำหรับค่าครองชีพในแต่ละวัน นางรีบโค้งคำนับด้วยความซาบซึ้งใจ </font></p><p><font face="Kanit" size="3"><br></font></p><p><font face="Kanit" size="3" color="#006400">“ขอบคุณท่านเถ้าแก่มากเจ้าค่ะ”</font></p><p><font face="Kanit" size="3"><br></font></p><p><font face="Kanit" size="3"><font color="#9932cc">“ไม่เป็นไร ๆ” </font>หาวปิ่งโบกมือ <font color="#9932cc">“พรุ่งนี้เช้าหากไม่ติดอันใด ก็เชิญมาช่วยงานที่ร้านข้าอีกนะ”</font></font></p><p><font face="Kanit" size="3"><br></font></p><p><font face="Kanit" size="3">ซูเหยายิ้มตอบรับ </font></p><p><font face="Kanit" size="3" color="#006400"><br></font></p><p><font face="Kanit" size="3" color="#006400">“เจ้าค่ะท่านเถ้าแก่”</font></p><p><font face="Kanit" size="3"><br></font></p><p><font face="Kanit" size="3">เมื่อซูเหยาเดินออกจากร้านบะหมี่สามหาว แสงตะวันสายสาดส่องลงมายังตรอกแคบ ๆ ให้ความรู้สึกอบอุ่น นางรู้สึกเหนื่อยล้าจากการทำงานที่ไม่คุ้นเคย แต่ในใจกลับเปี่ยมด้วยความรู้สึกพึงพอใจที่หาเงินเล็กน้อยได้ในวันนี้ งานต่อไปก็คงจะเป็นการรักษาผู้ป่วย แล้วตกเย็นค่อยไปหางานอื่น ๆ ทำต่ออีก</font></p><p><font face="Kanit" size="3"><br></font></p><p style="text-align: center;"><img src="https://img2.pic.in.th/pic/111953632.gif" width="500" _height="50" border="0"><font face="Kanit" size="3"></font></p><p style="text-align: center;"><font face="Kanit" size="4" color="#ff0000"><b><br></b></font></p><p style="text-align: center;"><font face="Kanit" size="4" color="#ff0000"><b>โรลเพลย์ทำงานพาร์ทไทม์ประจำวัน</b></font></p><p style="text-align: center;"><font face="Kanit" size="4" color="#ff0000"><b>ค่าจ้าง: 180 อู่จู - 10 EXP</b></font></p><div><br></div><p></p>
<span id="docs-internal-guid-5e24a810-7fff-dfbb-e228-3b388bbc6345"><p dir="ltr" style="text-align: center; line-height: 1.38; margin-top: 0pt; margin-bottom: 0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><img src="https://img2.pic.in.th/pic/-4_20250603154522.md.png" width="500" _height="57" border="0"><font face="Sarabun" style="" size="4" color="#4169e1"><b></b></font></span></p><p dir="ltr" style="text-align: center; line-height: 1.38; margin-top: 0pt; margin-bottom: 0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><font face="Sarabun" style="" size="4" color="#4169e1"><b><br></b></font></span></p><p dir="ltr" style="text-align: center; line-height: 1.38; margin-top: 0pt; margin-bottom: 0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><font face="Sarabun" style="" size="4" color="#4169e1"><b>วันที่ 21 เดือน 7 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11</b></font></span></p><p dir="ltr" style="text-align: center; line-height: 1.38; margin-top: 0pt; margin-bottom: 0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><font face="Sarabun" size="4" color="#4169e1"><b>ยามเว่ย เวลา 13.00 - 14.00 น. ณ ถนนสิบลี้ ฝั่งตะวันออก ร้านบะหมี่สามหาว (พบ จางเซียน)</b></font></span></p><font face="Sarabun"><div style="text-align: center;"><br></div></font><p dir="ltr" style="line-height:1.38;margin-top:0pt;margin-bottom:0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><font face="Sarabun" size="3"> แสงแดดยามเว่ยส่องลงมาทอดเงาเฉียงบนถนนสิบลี้ที่เต็มไปด้วยเสียงเจรจาของพ่อค้าและกลิ่นหอมจากร้านอาหารมากมาย หลินหยาสวมอาภรณ์ผ้าฝ้ายโปร่งเบาสีฟ้าอมเขียว เดินทอดน่องออกจากจวนของเถียนเฟิง ตั้งใจว่าจะแวะไปที่ร้านเต้าหู้ของท่านหลิวอัน แต่เพราะผ่านมาหน้าร้านบะหมี่สามหาว ร้านที่คึกคักเสมอด้วยเสียงตะโกนสั่งบะหมี่ เสียงน้ำซุปเดือด และกลิ่นหอมของกระเทียมเจียว นางเลยชะลอฝีเท้าลงทว่ายังไม่ทันได้ก้าวหลบผู้คนที่แน่นขนัด ก็มีชายร่างใหญ่ด้านหลังเดินชนกระแทกให้นางเซถลาไปข้างหน้า ร่างบางเสียหลักพลันชนเข้ากับอกกว้างของบุรุษผู้หนึ่งเข้าเต็มแรง</font></span></p><font face="Sarabun" size="3"><br></font><p dir="ltr" style="line-height:1.38;margin-top:0pt;margin-bottom:0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><span style="font-family: Sarabun; font-size: medium;"> </span><font face="Sarabun" size="3"><b><font color="#dda0dd">“อ๊ะ!”</font></b> หลินหยาร้องเบา ๆ ด้วยความตกใจ หน้าสั่นเล็กน้อยก่อนนางจะก้มหน้าก้มตารีบผละออก หัวใจเต้นระส่ำเพราะความอาย</font></span></p><font face="Sarabun" size="3"><br></font><p dir="ltr" style="line-height:1.38;margin-top:0pt;margin-bottom:0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><span style="font-family: Sarabun; font-size: medium;"> </span><font face="Sarabun" size="3">บุรุษผู้นั้นสูงโปร่ง อาภรณ์สีฟ้าอ่อนประดับลายกลีบดอกไม้เรียบหรู พวงหน้าสงบนิ่งจนดูเข้มขรึม แต่แววตากลับอ่อนโยนเป็นประกาย เขายกมือประคองไหล่หญิงสาวเอาไว้ไม่ให้ล้ม ก่อนจะเอ่ยเสียงทุ้มนุ่ม <b><font color="#8b0000">“ต้องขออภัย...เป็นความผิดของข้าเองที่ยืนขวางอยู่ตรงนี้ แม่นางเป็นอะไรหรือไม่?”</font></b></font></span></p><font face="Sarabun" size="3"><br></font><p dir="ltr" style="line-height:1.38;margin-top:0pt;margin-bottom:0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><span style="font-family: Sarabun; font-size: medium;"> </span><font face="Sarabun" size="3">หลินหยาเงยหน้าขึ้นสบเพียงครู่ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนกะพริบถี่เมื่อเห็นโฉมหน้าชายหนุ่มที่ไม่เคยพบมาก่อนรูปโฉมเรียบสงบคล้ายบุรุษนักปราชญ์ หากแต่มีบางสิ่งซ่อนเร้นไว้ใต้รอยยิ้มบาง ๆ ที่ประดับริมฝีปาก นางรีบก้มหน้าลงอีกครั้ง ถอนหายใจเบา ๆ พยายามเก็บอาการ<b><font color="#dda0dd"> “มิเป็นไรเจ้าค่ะ เป็นข้าเองที่ไม่ระวัง ขอบคุณท่านที่ช่วยพยุง”</font></b></font></span></p><font face="Sarabun" size="3"><br></font><p dir="ltr" style="line-height:1.38;margin-top:0pt;margin-bottom:0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><span style="font-family: Sarabun; font-size: medium;"> </span><font face="Sarabun" size="3">ชายหนุ่มหัวเราะเบา ๆ ส่ายหน้าน้อย ๆ แววตาไม่ถือสา<b><font color="#8b0000"> “มิเป็นไรเช่นกัน โลกภายนอกวุ่นวายนัก หากมัวแต่โทษกันคงสิ้นเปลืองเวลาเปล่า...”</font></b> เขาพูดพลางปล่อยไหล่นางแล้วถอยก้าวครึ่งอย่างสุภาพ หลินหยาเหลือบตามอง เห็นเขาแบกม้วนแผนที่ยาวไว้ข้างเอว เครื่องแต่งกายแม้สะอาดสะอ้าน แต่ร่องรอยฝุ่นจากทางไกลยังติดอยู่ที่ชายแขนเสื้อ บ่งบอกว่าบุรุษผู้นี้เป็นคนชีพจรลงเท้า ใช้ชีวิตเดินทางมากกว่าพำนัก นางไม่รู้ตัวเลยว่าตนเองกำลังจ้องอยู่นานเกินไป จนอีกฝ่ายยกคิ้วเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ</font></span></p><font face="Sarabun" size="3"><br></font><p dir="ltr" style="line-height:1.38;margin-top:0pt;margin-bottom:0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><span style="font-family: Sarabun; font-size: medium;"> </span><font face="Sarabun" size="3">หลินหยายืนอยู่ตรงนั้นเพียงอึดใจ ก่อนจะเหลือบตาลงไปเห็นหยดน้ำใส ๆ ค่อย ๆ ไหลซึมออกจากปากไหสุราที่วางข้างเท้าของบุรุษผู้นั้น ใจดวงน้อยของนางสะท้านวาบ ตายจริง! นางชนแรงเกินไปจนทำให้ฝาของไหเหล้าเปิดออกเล็กน้อย น้ำสุราสีอำพันหอมกรุ่นรินออกมาเป็นทาง..ดินอร่อยเลยอ่ะดิ <b><font color="#dda0dd">“อ๊ะ! ตายแล้วสุราของท่าน! ข้าขอโทษจริง ๆ เจ้าค่ะ!” </font></b>หลินหยาร้องเสียงหลง ใบหน้าซีดเผือดแทบไม่เหลือเลือด นางรีบยอบกายลงต่ำ มือเล็กกดฝาไหกลับเข้าที่ แต่หยดที่ไหลออกมาแล้วก็ไม่อาจกอบคืน</font></span></p><font face="Sarabun" size="3"><br></font><p dir="ltr" style="line-height:1.38;margin-top:0pt;margin-bottom:0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><span style="font-family: Sarabun; font-size: medium;"> </span><font face="Sarabun" size="3">สายตาของจางเซียนเพียงทอดมองด้วยแววตาสงบ รอยยิ้มบางบนริมฝีปากไม่ได้จางหายไป เขาเพียงก้มลงช่วยพยุงไหกลับขึ้นตั้งตรง น้ำเสียงทุ้มเอื้อนเอ่ยเรียบง่าย <b><font color="#8b0000">“มิเป็นไร ของแตกของหายยังหามาใหม่ได้” </font></b>แต่หลินหยาไม่อาจทำใจนิ่งเฉยเหมือนเขาได้ นางกัดริมฝีปากพลางขยับนิ้วตรงแหวนดาราจรัส ก่อนหยิบไหสุราขนาดเล็กสีน้ำตาลหวานออกมาแล้วยื่นให้ด้วยสองมือ ดวงตาเป็นประกายทั้งอายทั้งลนลาน</font></span></p><font face="Sarabun" size="3"><br></font><p dir="ltr" style="line-height:1.38;margin-top:0pt;margin-bottom:0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><span style="font-family: Sarabun; font-size: medium;"> <b><font color="#dda0dd"></font></b></span><font face="Sarabun" size="3"><b><font color="#dda0dd">“ท่านชายเจ้าคะ แม้สุราของข้าจะมิอาจเปรียบเทียบกับของท่านได้ แต่ขอได้โปรดรับไว้แทนคำขอโทษเถิดเจ้าค่ะ...เป็นสุราเบญจมาศที่ข้าหมักไว้เอง รสออกหวานกลมกล่อม มีกลิ่นดอกเก๊กฮวยชัดเจน กลั่นผสมกับเหล้าหมักจนไม่เลี่ยนเกินไป ดื่มแล้วชุ่มคอเจ้าค่ะ”</font></b> ถ้อยคำพรั่งพรูออกมาพร้อมท่าทีลุกลี้ลุกลนจนแก้มแดงระเรื่อ ราวกับเกรงใจสุดขีดหากเขาปฏิเสธ</font></span></p><font face="Sarabun" size="3"><br></font><p dir="ltr" style="line-height:1.38;margin-top:0pt;margin-bottom:0pt;"><span style="font-family: Sarabun; font-size: medium; white-space-collapse: preserve;"> </span><font face="Sarabun" size="3"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;">จางเซียนเลิกคิ้วเล็กน้อย ยื่นมือรับไหเล็กอย่างไม่ขัดขืน สายตาลึกซึ้งแต่กลับมีรอยยิ้มขำบาง ๆ แฝงอยู่ใต้ดวงตาสงบ<font color="#8b0000"> </font></span><span style="background-color: transparent; font-style: italic; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><font color="#8b0000">“เด็กสาวผู้นี้...น่าสนใจนัก”</font></span><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"> เขาคิดในใจ แต่ไม่เอ่ยสิ่งใดนอกจากรับไว้เงียบ ๆ หลินหยาเมื่อเห็นเขารับแล้วก็ ใจโล่งลงครึ่งหนึ่ง แต่ความอายก็ถาโถมเต็มอก นางรีบโค้งคำนับอีกครั้ง ชนเขายังจะทำเหล้าราคาแพงเขาแตกอีก คงเป็นของนอกด่านหายากแน่ ๆ </span></font></p><font face="Sarabun" size="3"><br></font><p dir="ltr" style="line-height:1.38;margin-top:0pt;margin-bottom:0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><span style="font-family: Sarabun; font-size: medium;"> <b><font color="#dda0dd"> </font></b></span><font face="Sarabun" size="3"><b><font color="#dda0dd">“ข้าต้องขอโทษอีกครั้งจริง ๆ เจ้าค่ะ! ข้า...ข้าไปก่อนดีกว่า ขออภัยอีกครั้งนะเจ้าคะ”</font></b> สิ้นคำ นางก็รีบสาวเท้าลนลานออกมาจากหน้าร้านบะหมี่สามหาว แก้มยังแดงก่ำด้วยความขวยเขิน รู้สึกว่าตนเองทำหน้าแตกยับเยิน ทั้งชน ทั้งทำของเขาหก สุดท้ายยังทิ้งสุราของตนให้เขาอีกโดยไม่ทันรู้ด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายชื่ออะไร ทิ้งไว้เพียงบุรุษหนุ่มรูปงามผู้หนึ่งยืนอยู่กับไหสุราเบญจมาศในมือ รอยยิ้มสงบไม่เร่งร้อนปรากฏขึ้นที่ริมฝีปาก เขาเอียงศีรษะเล็กน้อยพลางพึมพำเบา ๆ ราวกับเป็นคำสัญญากับตัวเอง</font></span></p><font face="Sarabun" size="3"><br></font><p dir="ltr" style="line-height:1.38;margin-top:0pt;margin-bottom:0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><span style="font-family: Sarabun; font-size: medium;"> <b><font color="#8b0000"> </font></b></span><font face="Sarabun" size="3"><b><font color="#8b0000">“อะไรกันนะ?...เด็กสาวคนนั้น” </font></b>สุดท้ายใบหน้าของนางก็ถูกจดจำอย่างมั่นคงในใจนักเดินทางหนุ่มผู้สำราญแต่แฝงคมผู้นี้</font></span></p><font face="Sarabun" size="3"><div style="text-align: center;"><span><font face="Sarabun" size="3"><br></font></span></div><div style="text-align: center;"><img src="https://img2.pic.in.th/pic/-4_20250603154522.md.png" width="500" _height="57" border="0"></div><div style="text-align: center;"><br></div><div style="text-align: center;"><br></div><div style="text-align: center;">@Admin </div><div style="text-align: center;"><br></div></font><p dir="ltr" style="text-align: center; line-height: 1.38; margin-top: 0pt; margin-bottom: 0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><font face="Sarabun" size="3"><b>พรสวรรค์: </b>ลาภลอย (ไม้) </font></span></p><p dir="ltr" style="text-align: center; line-height: 1.38; margin-top: 0pt; margin-bottom: 0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><font face="Sarabun" size="3">มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่</font></span></p><p dir="ltr" style="text-align: center; line-height: 1.38; margin-top: 0pt; margin-bottom: 0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><font face="Sarabun" size="3">อื่น ๆ: มาทำชาเล้นจ์รู้จักทุกคนอย่างเท่าเทียม 555+ กรี๊ดเซียวเซ่ออออ</font></span></p><p dir="ltr" style="text-align: center; line-height: 1.38; margin-top: 0pt; margin-bottom: 0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><font face="Sarabun" size="3"><br></font></span></p><p dir="ltr" style="text-align: center; line-height: 1.38; margin-top: 0pt; margin-bottom: 0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><font face="Sarabun" size="3"><b>รางวัล: </b>+5 ความสัมพันธ์สนทนาทั่วไป จาง เชียน</font></span></p><p dir="ltr" style="text-align: center; line-height: 1.38; margin-top: 0pt; margin-bottom: 0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><font face="Sarabun" size="3">หัวดี โบนัสเพิ่มความโปรดปราน+20</font></span></p><p dir="ltr" style="text-align: center; line-height: 1.38; margin-top: 0pt; margin-bottom: 0pt;"><span style="font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><font face="Sarabun" size="3">โบนัส ความสัมพันธ์พิเศษ (VIP) กับ NPC +10 แต้ม</font></span></p><p dir="ltr" style="text-align: center; line-height: 1.38; margin-top: 0pt; margin-bottom: 0pt;"><span style="font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><font face="Sarabun" size="3">โบนัส ความโปรดปราน NPC เผ่ามนุษย์ (ผู้มีบุญ) +20 แต้ม</font></span></p><p dir="ltr" style="text-align: center; line-height: 1.38; margin-top: 0pt; margin-bottom: 0pt;"><span style="font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><font face="Sarabun" style="" size="3">มอบ สุราดอกเบญมาศ สุราเกรดม่วง ความสัมพันธ์ +15</font></span></p><div style="text-align: center;"><span style="font-size: 12pt; font-family: Sarabun, sans-serif; color: rgb(0, 0, 0); font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><br></span></div></span><p></p>
<span id="docs-internal-guid-9b1fcf70-7fff-e5db-437c-2e649255b528"><p dir="ltr" style="text-align: center; line-height: 1.38; margin-top: 0pt; margin-bottom: 0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><img src="https://img2.pic.in.th/pic/-4_20250603154522.md.png" width="500" _height="57" border="0"><font face="Sarabun" style="" size="4" color="#4169e1"><b></b></font></span></p><p dir="ltr" style="text-align: center; line-height: 1.38; margin-top: 0pt; margin-bottom: 0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><br></span></p><p dir="ltr" style="text-align: center; line-height: 1.38; margin-top: 0pt; margin-bottom: 0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><font face="Sarabun" style="" size="4" color="#4169e1"><b>วันที่ 28 เดือน 7 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11</b></font></span></p><p dir="ltr" style="text-align: center; line-height: 1.38; margin-top: 0pt; margin-bottom: 0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><font face="Sarabun" size="4" color="#4169e1"><b>ยามเว่ย เวลา 13.00 - 14.00 น. ณ ถนนสิบลี้ ฝั่งตะวันออก ร้านบะหมี่สามหาว (พบ จางเซียน)</b></font></span></p><font face="Sarabun" size="3"><br></font><p dir="ltr" style="line-height:1.38;margin-top:0pt;margin-bottom:0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><font face="Sarabun" size="3"> หลินหยาเดินจูงเจ้าเยวี่ยเหยียนที่แผงคอสะบัดเงางามราวเงาจันทร์คลอหมอก ย่างเท้าเข้ามาในย่านคึกคักของถนนสิบลี้ กลิ่นน้ำซุปบะหมี่หอมฉุยอบอวลตลบอบอวลในลมยามบ่าย ท่ามกลางเสียงตะโกนเชื้อเชิญของพ่อค้าแม่ค้า และเสียงกึกก้องของผู้คนที่พลุกพล่าน เธอตั้งใจเพียงจะแวะผ่าน แต่ดวงตากลับสะดุดเข้ากับบุรุษหนุ่มในชุดสีน้ำเงินฟ้าอ่อนที่กำลังยืนสั่งบะหมี่อยู่ด้านหน้า เมื่อเขาหันมาทั้งสองสบตากันโดยบังเอิญ หลินหยาก็จำได้ทันทีนี่คือบุรุษที่เธอเคยเดินชนจนทำเหล้าของเขาหกในครั้งก่อน คนผู้นั้นยังคงมีท่าทางสงบเสงี่ยม นิ่งขรึมราวกับทะเลลึก หากแต่รอยยิ้มบางเบาที่ผุดขึ้นตรงมุมปากกลับทำให้ความเย็นชาดูอบอุ่นขึ้นมา</font></span></p><font face="Sarabun" size="3"><br></font><p dir="ltr" style="line-height:1.38;margin-top:0pt;margin-bottom:0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><span style="font-family: Sarabun; font-size: medium;"> <b><font color="#8b0000"> </font></b></span><font face="Sarabun" size="3"><b><font color="#8b0000">“แม่นาง…เราพบกันอีกแล้ว”</font></b> เสียงทุ้มเรียบของเขาเอ่ยขึ้น พลางกวาดตามองไปยังเจ้าเยวี่ยเหยียนที่ยืนอยู่ข้างหลินหยา ใบหน้าของเขาแม้ไม่แสดงความประหลาดใจมากนัก แต่ประกายตากลับฉายแววสนใจอย่างเห็นได้ชัด หลินหยาอดยกยิ้มตอบไม่ได้ เธอยกมือขึ้นแตะปอยผมที่ปรกแก้มเบา ๆ ก่อนจะโค้งเล็กน้อยตามมารยาท<b><font color="#dda0dd"> “อ่ะ...ท่านนี้เอง ท่านยังจำข้าได้อีกหรือเจ้าคะ ข้าก็นึกว่า…ท่านคงลืมเรื่องที่ข้าเคยทำเหล้าของท่านเสียหายไปแล้วเสียอีก”</font></b></font></span></p><font face="Sarabun" size="3"><br></font><p dir="ltr" style="line-height:1.38;margin-top:0pt;margin-bottom:0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><span style="font-family: Sarabun; font-size: medium;"> </span><font face="Sarabun" size="3">จางเซียน หรือ เหลียนเจี๋ย ส่งแววตาแฝงความอ่อนโยนขณะตอบกลับ<b><font color="#8b0000"> “เรื่องเล็กน้อยเพียงนั้น ข้ามิใช่คนเจ้าคิดเจ้าแค้น มิหนำซ้ำยังได้สุราเบญจมาศที่ท่านยกให้แทน… รสชาติก็ยังติดลิ้นไม่ลืม”</font></b> คำพูดนั้นทำให้หลินหยารู้สึกหน้าร้อนขึ้นมาน้อย ๆ นางจึงแสร้งเบือนหน้าไปลูบแผงคอเยวี่ยเหยียนพลางหัวเราะเบา ๆ<b><font color="#dda0dd"> “เช่นนั้นก็ดีแล้วเจ้าค่ะ ข้าคงไม่ต้องติดหนี้บุญคุณท่านอีก”</font></b></font></span></p><font face="Sarabun" size="3"><br></font><p dir="ltr" style="line-height:1.38;margin-top:0pt;margin-bottom:0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><span style="font-family: Sarabun; font-size: medium;"> </span><font face="Sarabun" size="3">จางเซียนยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย พลันหันไปสั่งบะหมี่เพิ่มอีกชาม ราวกับเป็นเพียงเรื่องปกติ แต่เมื่อหันกลับมามองหลินหยาอีกครั้ง แววตาของเขากลับฉายประกายสนุกสนาน เหมือนนักเดินทางผู้พบสิ่งน่าสนใจระหว่างทางยาวไกล <b><font color="#8b0000">“แม่นาง…หากไม่รังเกียจ จะนั่งร่วมโต๊ะบะหมี่กับข้าสักชามหรือไม่ ข้าว่ามันคงเข้ากับการเดินเล่นจูงม้าในยามบ่ายได้ดีทีเดียว”</font></b></font></span></p><font face="Sarabun" size="3"><br></font><p dir="ltr" style="line-height:1.38;margin-top:0pt;margin-bottom:0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><span style="font-family: Sarabun; font-size: medium;"> </span><font face="Sarabun" size="3">หลินหยาก้มหน้าลงเล็กน้อยระบายรอยยิ้มอาย ๆ ราวกับเด็กที่กำลังทำบางสิ่งเกินคาดหมาย นางลังเลอยู่ชั่วขณะ แต่เมื่อสบกับสายตาอ่อนโยนของบุรุษตรงหน้าหัวใจกลับเต้นแรงจนนางไม่อาจปฏิเสธได้จึงพยักหน้าเบา ๆ <b><font color="#dda0dd">“หากท่านชวนด้วยความตั้งใจ เช่นนั้นข้าคงมิอาจปฏิเสธได้เจ้าค่ะ” </font></b>นางเอื้อมมือแตะเชือกบังเหียนเยวี่ยเหยียนให้ไปยืนสงบอยู่มุมหนึ่ง ก่อนจะก้าวตามจางเซียนเข้าไปในร้านบะหมี่สามหาว เสียงโหวกเหวกโวยวายของเหล่าลูกค้าผสมกลิ่นน้ำซุปต้มกระดูกที่หอมฉุยปะปนกับเครื่องเทศลอยอวลเต็มไปหมด</font></span></p><font face="Sarabun" size="3"><br></font><p dir="ltr" style="line-height:1.38;margin-top:0pt;margin-bottom:0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><span style="font-family: Sarabun; font-size: medium;"> </span><font face="Sarabun" size="3">ทันทีที่หลินหยาเลือกนั่งลงตรงโต๊ะหินมุมหนึ่ง เถ้าแก่หาวปิ่งก็เหลือบตามาเห็นเข้าพอดี ชายวัยกลางคนผู้มีพุงน้อย ๆ และรอยยิ้มอบอุ่นกว้างแทบเต็มใบหน้าตะโกนเอ่ยทักทันที <b><font color="#006400">“อ้าว! นี่มันหลินหยานี่นา! …เจ้าใช่หรือไม่ ข้าจำได้แน่ ๆ เคยมาช่วยล้างจานเสิร์ฟบะหมี่ให้ร้านข้าอยู่พักหนึ่งนี่นา” </font></b>หลินหยาเงยหน้าขึ้นยิ้มกว้าง เอียงศีรษะเล็กน้อยเหมือนจะเก้อเขิน <b><font color="#dda0dd">“เจ้าค่ะเถ้าแก่หาวปิ่ง ข้ายังจำวันนั้นได้ดีหากมิได้ท่านยื่นมือช่วย ข้าคงไม่มีที่ให้ยืนอยู่บ้างเลยในเมืองฉางอัน”</font></b></font></span></p><font face="Sarabun" size="3"><br></font><p dir="ltr" style="line-height:1.38;margin-top:0pt;margin-bottom:0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><span style="font-family: Sarabun; font-size: medium;"> </span><font face="Sarabun" size="3">เถ้าแก่หาวหัวเราะเสียงดังลั่น มือที่หยาบกร้านจากการจับตะหลิวและหม้อต้มบะหมี่ทุกวันยกขึ้นปัดอากาศ<b><font color="#006400"> “โถ่เอ๊ย เด็กน้อยอย่างเจ้านี่กินอิ่มนอนหลับได้ ข้าก็สุขใจแล้ว เห็นตอนนี้เจ้าแต่งตัวดี นั่งกินบะหมี่อย่างสบาย ข้าก็สบายอกสบายใจเสียยิ่งกว่าได้ขายบะหมี่เพิ่มอีกสิบชามเสียอีก” </font></b>ถ้อยคำนั้นทำเอาหลินหยาอมยิ้ม ดวงตาเป็นประกายใสด้วยความจริงใจ ก่อนที่บะหมี่ร้อน ๆ จะถูกยกมาเสิร์ฟตรงหน้า น้ำซุปร้อนควันฉุย เส้นนุ่มเหนียวกำลังดี หอมกลิ่นกระเทียมเจียวและเครื่องเทศที่เข้มข้น นางคีบเส้นขึ้นมาเป่าเบา ๆ แล้วซดเข้าปากอย่างไม่เกรงใจใคร</font></span></p><font face="Sarabun" size="3"><br></font><p dir="ltr" style="line-height:1.38;margin-top:0pt;margin-bottom:0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><span style="font-family: Sarabun; font-size: medium;"> <b><font color="#dda0dd"> </font></b></span><font face="Sarabun" size="3"><b><font color="#dda0dd">“อร่อยเจ้าค่ะ…เหมือนเดิมไม่มีผิด” </font></b>หลินหยาเอ่ยอย่างพอใจ เสียงหัวเราะคิกคักหลุดออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ จางเซียนที่นั่งตรงข้ามได้แต่สังเกตเธอเงียบ ๆ รอยยิ้มจาง ๆ ประดับอยู่บนริมฝีปาก ขณะมองสตรีตรงหน้าที่กินบะหมี่ด้วยท่าทางสดใสราวกับเด็กน้อย นัยน์ตาเขากลับแฝงด้วยประกายความอบอุ่นที่มิอาจปิดบัง</font></span></p><font face="Sarabun" size="3"><br></font><p dir="ltr" style="line-height:1.38;margin-top:0pt;margin-bottom:0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><span style="font-family: Sarabun; font-size: medium;"> </span><font face="Sarabun" size="3">จางเซียนคีบเส้นบะหมี่เข้าปากด้วยท่าทางสงบก่อนวางตะเกียบลงช้า ๆ แล้วเอ่ยขึ้น น้ำเสียงไม่ดังไม่เบาแต่หนักแน่นด้วยความรู้ <b><font color="#8b0000">“ม้าตัวนั้นของแม่นาง…แค่เห็นหน่วยก้านก็รู้แล้วว่าเป็นม้าดำทมิฬ ยอดอาชาแห่งทุ่งหญ้าตอนเหนือแน่นอน”</font></b> แววตาเขาฉายประกายคมเฉียบดุจคนที่ผ่านการเดินทางมาเนิ่นนาน หลินหยาที่กำลังซดน้ำซุปอยู่ถึงกับชะงักเงยหน้าขึ้นตาปริบ ๆ ยิ้มแหย<b><font color="#dda0dd"> “ท่านมองออกหรือเจ้าคะ…ท่านเก่งจังเลยท่านชาย ใช่เลยเจ้าค่ะ ข้าพึ่งประมูลมาได้เมื่อวานก่อนนี้เอง…แพงจนแทบกระอักเลือดแน่ะ”</font></b> น้ำเสียงของนางคร่ำครวญปนขบขัน จนจางเซียนหัวเราะเบา ๆ</font></span></p><font face="Sarabun" size="3"><br></font><p dir="ltr" style="line-height:1.38;margin-top:0pt;margin-bottom:0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><span style="font-family: Sarabun; font-size: medium;"> </span><font face="Sarabun" size="3"><b><font color="#8b0000">“อย่างไรก็คุ้ม หากแม่นางดูแลและฝึกมันให้เหมาะสม” </font></b>เขาโน้มตัวเล็กน้อย สีหน้าจริงจังขึ้นราวกับกำลังถ่ายทอดความลับ </font></span></p><font face="Sarabun" size="3"><br></font><p dir="ltr" style="line-height:1.38;margin-top:0pt;margin-bottom:0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><span style="font-family: Sarabun; font-size: medium;"> <b><font color="#8b0000"></font></b></span><font face="Sarabun" size="3"><b><font color="#8b0000">“หน่วยก้านมันดีนัก หากได้บ่มเพาะอีกสักหน่อย จะเดินทางได้ไกลและเร็วโดยแทบไม่เหนื่อยเลย แต่การจะเลี้ยงดูอาชาเช่นนี้ต้องพิถีพิถันกว่าม้าธรรมดา เจ้าควรหา ‘หญ้าน้ำค้าง’ มาป้อน อาหารเบื้องต้นที่ช่วยให้ปราณสงบนิ่ง หรือถ้าโชคดีเจอ ‘หญ้าแสงจันทร์’ ก็ยิ่งดี”</font></b> เขาหยุดไปครู่หนึ่ง ก่อนก้มเสียงต่ำราวกับไม่อยากให้ใครรอบตัวได้ยิน <b><font color="#8b0000">“แต่สิ่งที่ดีที่สุด…คือหญ้าโลหิตมังกร ข้าพบเพียงไม่กี่ครั้งในดินแดนทุ่งหญ้า หายากราวกับเพชรพลอยในโคลน หากสัตว์ใดได้ลิ้มลอง ไม่ว่าจะม้า กวาง หรือแม้แต่กิเลน พลังชีวิตของพวกมันจะเพิ่มพูนมหาศาล กล้ามเนื้อแข็งแกร่งทนทานต่อการเดินทางยาวไกล ประสาทสัมผัสเฉียบคม เห็นในความมืดราวกับกลางวัน และจิตใจสงบนิ่งไม่หวั่นไหวต่อสิ่งใด”</font></b></font></span></p><font face="Sarabun" size="3"><br></font><p dir="ltr" style="line-height:1.38;margin-top:0pt;margin-bottom:0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><span style="font-family: Sarabun; font-size: medium;"> </span><font face="Sarabun" size="3">หลินหยายกมือเท้าคาง ตาเป็นประกายวาวทันที<b><font color="#dda0dd"> “หญ้าโลหิตมังกร…เชี่ย ฟังดูโคตรจะสุดยอดเลย เจ้าค่ะ แต่ของแบบนั้นมันต้องหายากใช่ไหมเจ้าคะ? อย่าบอกนะว่าต้องปีนเขา ตัดเลือดมังกรจริง ๆ มาหยดบนหญ้าอะไรแบบนั้นน่ะ?” </font></b>นางหัวเราะพลางเบ้หน้า</font></span></p><font face="Sarabun" size="3"><br></font><p dir="ltr" style="line-height:1.38;margin-top:0pt;margin-bottom:0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><span style="font-family: Sarabun; font-size: medium;"> </span><font face="Sarabun" size="3">จางเซียนยิ้มบาง ๆ ดวงตาลึกล้ำราวกับเก็บความลับมากมายในใจ<b><font color="#8b0000"> “ใครจะว่าอย่างไรก็ช่าง แต่ข้าเคยเห็นกับตา มันขึ้นอยู่ตามไหล่เขาที่มีดินแดงปนหินแร่พิเศษ พื้นที่พวกนักล่ามักไม่อยากเข้าใกล้ ว่ากันว่ามันจะขึ้นในพื้นที่สนามรบที่เคยนองเลือดมาก่อนหากแม่นางอยากให้ม้าของแม่นางทรงพลังจริง ๆ วันหนึ่งอาจต้องเสี่ยงเดินทางไปหามัน”</font></b></font></span></p><font face="Sarabun" size="3"><br></font><p dir="ltr" style="line-height:1.38;margin-top:0pt;margin-bottom:0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><span style="font-family: Sarabun; font-size: medium;"> </span><font face="Sarabun" size="3">คำพูดนั้นทำให้หลินหยาถึงกับชะงัก ช้อนบะหมี่ในมือหยุดกลางอากาศ ก่อนจะยิ้มมุมปาก <b><font color="#dda0dd">“เฮ้อ…ได้ม้าดำทมิฬมาก็ว่าต้องเจ็บตัวอีกแน่ ๆ แล้วก็จริงสินะ ข้าว่าข้าชักเริ่มคุ้นชะตาแบบนี้เข้าแล้วล่ะเจ้าค่ะ”</font></b></font></span></p><font face="Sarabun" size="3"><br></font><p dir="ltr" style="line-height:1.38;margin-top:0pt;margin-bottom:0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><span style="font-family: Sarabun; font-size: medium;"> </span><font face="Sarabun" size="3">ทว่าหลินหยากลับเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยก่อนขมวดเข้าหากันอย่างกะทันหัน ดวงตากลมโตสั่นระริกไปมาเหมือนกำลังนึกบางสิ่งขึ้นได้ นางทุบฝ่ามือลงเบา ๆ กับหน้าผากตัวเอง <b><font color="#dda0dd">"อ้าวเฮ้ย! ข้าลืมไปสนิทเลยนี่หว่า…ข้ามีหญ้าโลหิตมังกรอยู่นี่เอง ตั้ง 4 มัดแน่ะเจ้าค่ะ</font></b>!" เสียงของนางดังจนคนในร้านเหลียวมองไปหมด หลินหยาหัวเราะแห้ง ๆ รีบเอามือปิดปากแล้วหันไปยิ้มแหย ๆ ให้เถ้าแก่หาวปิ่งกับลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ ๆ ก่อนจะก้มตัวลงกระซิบกับจางเซียน <b><font color="#dda0dd">"…ข้าลืมไปได้ยังไงกันนะ ข้าซื้อมาจากหมู่บ้านลูไห่ ตอนนั้นหมดไปเป็นร้อย ๆ ตำลึงทอง เจ็บตัวแทบตาย คิดแล้วเจ็บใจไม่หายเลยเจ้าค่ะ แต่ก็ดีแหละ อย่างน้อยก็มีของอยู่แล้ว"</font></b></font></span></p><font face="Sarabun" size="3"><br></font><p dir="ltr" style="line-height:1.38;margin-top:0pt;margin-bottom:0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><span style="font-family: Sarabun; font-size: medium;"> </span><font face="Sarabun" size="3">นางยกมือพนมเล็กน้อยกับจางเซียน เอียงศีรษะระบายยิ้มสดใส<b><font color="#dda0dd"> "ขอบคุณท่านมากจริง ๆ ที่บอกนะเจ้าคะ ข้าเลยนึกออกว่ามีอยู่แล้วนี่เอง ไม่งั้นคงได้ไปปีนเขาฝ่าแดนปีศาจให้ลำบากอีกแน่ ๆ ฮ่า ๆ" </font></b>เสียงหัวเราะของนางใสกังวานจนบรรยากาศรอบโต๊ะคลายลง ก่อนที่หญิงสาวจะประนมมือคารวะเล็กน้อยอีกครั้ง<b><font color="#dda0dd"> "ขอบคุณสำหรับบะหมี่วันนี้ด้วยเจ้าค่ะ อร่อยที่สุดในฉางอันเลย ท่านนี่ช่างใจดีจริง ๆ"</font></b></font></span></p><font face="Sarabun" size="3"><br></font><p dir="ltr" style="line-height:1.38;margin-top:0pt;margin-bottom:0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><span style="font-family: Sarabun; font-size: medium;"> </span><font face="Sarabun" size="3">จางเซียนมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยสายตาผสมผสานระหว่างความเอ็นดูและความขบขัน รอยยิ้มบางประดับบนใบหน้าสงบนิ่งของเขา<b><font color="#8b0000"> "แม่นางมีของล้ำค่าอยู่กับตัวเองแท้ ๆ แต่กลับลืมเสียได้ ท่านนี้นะ…แม่นางหลินหยา" </font></b>คำพูดของเขานั้นเต็มไปด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แต่แฝงด้วยความจริงใจที่ยากจะหาได้จากผู้ชายทั่วไปในยุทธภพ ทำให้หลินหยาถึงกับกะพริบตาปริบ ๆ หัวใจเต้นวูบวาบอย่างไม่รู้ตัว ก่อนจะรีบก้มหน้าหัวเราะกลบเกลื่อน</font></span></p><font face="Sarabun" size="3"><br></font><p dir="ltr" style="line-height:1.38;margin-top:0pt;margin-bottom:0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><span style="font-family: Sarabun; font-size: medium;"> </span><font face="Sarabun" size="3">หลินหยาก้มศีรษะคำนับเล็กน้อย น้ำเสียงนุ่มนวลแฝงรอยยิ้มสดใส <b><font color="#dda0dd">"ข้าคงต้องขอตัวไปก่อนเจ้าค่ะ มีที่ที่ต้องไปต่อ หวังว่ารอบหน้าเราคงได้พบกันอีก" </font></b>นางเอ่ยพลางถอยออกจากโต๊ะหินอ่อนอย่างสุภาพ ท่วงท่ากระฉับกระเฉงแต่ไม่เสียกิริยา จางเซียนเพียงพยักหน้าเบาบาง รอยยิ้มยังไม่เลือนจากริมฝีปากราวกับเข้าใจในธรรมชาติชีพจรลงเท้าของสตรีตรงหน้าเช่นกัน</font></span></p><font face="Sarabun" size="3"><br></font><p dir="ltr" style="line-height:1.38;margin-top:0pt;margin-bottom:0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><span style="font-family: Sarabun; font-size: medium;"> </span><font face="Sarabun" size="3">เมื่อเดินออกมาหน้าร้าน บรรยากาศตลาดตะวันออกยังคงจอแจ เต็มไปด้วยเสียงพ่อค้าแม่ค้าตะโกนเรียกลูกค้า กลิ่นอาหารและเครื่องเทศตลบอบอวลในอากาศ ทว่าในดวงตาของหลินหยา โลกทั้งมวลกลับเงียบลงในขณะมองเห็นเจ้าม้าดำทมิฬเยวี่ยเหยียนยืนรออยู่ตรงมุมถนน ดวงตาสีแดงทมิฬส่องประกายดุดันทว่าจงรักภักดี</font></span></p><font face="Sarabun" size="3"><br></font><p dir="ltr" style="line-height:1.38;margin-top:0pt;margin-bottom:0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><span style="font-family: Sarabun; font-size: medium;"> </span><font face="Sarabun" size="3">หญิงสาวยกยิ้มบาง ๆ ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ เธอเอื้อมมือแตะสันจมูกของมัน ลูบเบา ๆ แล้วเอาหน้าผากตัวเองโน้มไปชนหน้าผากกว้างของมันอย่างแนบแน่น ปราณอุ่นละมุนจากร่างหลินหยาคล้ายไหลรินผ่านสัมผัสนั้น ราวกับเส้นใยที่มองไม่เห็นถูกถักทอเข้าหากัน พลังตบะและประสบการณ์การต่อสู้ของหลินหยา กลั่นกรองช้า ๆ แทรกซึมเข้าสู่ดวงจิตของม้าปีศาจ เยวี่ยเหยียนสะบัดหัวเบา ๆ กีบเท้าไถพื้นหินกระแทกดังตุบ เสียงหอบหายใจต่ำกังวานเหมือนแผดคำรามเบา ๆ สัญญาณว่ามันกำลังซึมซับสิ่งที่นายหญิงถ่ายทอดให้ ขนสีดำสนิทแวววาวยิ่งขึ้น แววตาที่ดุดันกลับฉายแสงคมกล้าและมั่นคง</font></span></p><font face="Sarabun" size="3"><br></font><p dir="ltr" style="line-height:1.38;margin-top:0pt;margin-bottom:0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><span style="font-family: Sarabun; font-size: medium;"> <b><font color="#dda0dd"> </font></b></span><font face="Sarabun" size="3"><b><font color="#dda0dd">"จากนี้ไป เจ้าจะแข็งแกร่งขึ้นอีกก้าวแล้วนะ เยวี่ยเหยียน"</font></b> หลินหยาเอ่ยเบา ๆ เสียงคล้ายคำสัญญาระหว่างมนุษย์และอสูรม้า ดวงตาสีแดงคู่นั้นสบตอบส่องแสงเข้าใจถ้อยคำ นั่นทำให้หญิงสาวหัวเราะเบา ๆ แล้วลูบคอของมันด้วยความเอ็นดู ก่อนจะตวัดชายเสื้อเดินนำมันออกจากตลาด มุ่งหน้าสู่เส้นทางใหม่ที่รออยู่เบื้องหน้า</font></span></p><p dir="ltr" style="line-height:1.38;margin-top:0pt;margin-bottom:0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><font face="Sarabun" size="3"><br></font></span></p><font face="Sarabun" size="3"><div style="text-align: center;"><img src="https://img2.pic.in.th/pic/-4_20250603154522.md.png" width="500" _height="57" border="0"></div><div style="text-align: center;"><br></div><div style="text-align: center;"><br></div><div style="text-align: center;">@Admin </div><div style="text-align: center;"><br></div></font><p dir="ltr" style="text-align: center; line-height: 1.38; margin-top: 0pt; margin-bottom: 0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><font face="Sarabun" size="3"><b>พรสวรรค์:</b> ลาภลอย (ไม้) </font></span></p><p dir="ltr" style="text-align: center; line-height: 1.38; margin-top: 0pt; margin-bottom: 0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><font face="Sarabun" size="3">มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่</font></span></p><p dir="ltr" style="text-align: center; line-height: 1.38; margin-top: 0pt; margin-bottom: 0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><font face="Sarabun" size="3"><b>อื่น ๆ: </b>หรือ…หรือหลินหยาจะหวั่นไหวกับผู้ชายสกุลจางกันนะ?</font></span></p><font face="Sarabun" size="3"><div style="text-align: center;"><br></div></font><p dir="ltr" style="text-align: center; line-height: 1.38; margin-top: 0pt; margin-bottom: 0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><font face="Sarabun" size="3"><b>มอบพลังแก่สัตว์อสูร</b></font></span></p><p dir="ltr" style="text-align: center; line-height: 1.38; margin-top: 0pt; margin-bottom: 0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><font face="Sarabun" size="3">ใช้ได้เฉพาะคน Level Max เท่านั้น และ EXP ตัน 99</font></span></p><p dir="ltr" style="text-align: center; line-height: 1.38; margin-top: 0pt; margin-bottom: 0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><font face="Sarabun" size="3">เปิดติดตามสัตว์อสูรและต้องปิดการใช้งานทั้งหมด</font></span></p><p dir="ltr" style="text-align: center; line-height: 1.38; margin-top: 0pt; margin-bottom: 0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><font face="Sarabun" size="3">สัตว์อสูรจะได้รับ 99 EXP จากผู้ถ่ายโอน</font></span></p><p dir="ltr" style="text-align: center; line-height: 1.38; margin-top: 0pt; margin-bottom: 0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><font face="Sarabun" size="3">(-50 ตบะฝึกฝน -99 EXP ในการถ่ายโอนพลังฝีมือแก่สิ่งมีชีวิต) </font></span></p><font face="Sarabun" size="3"><div style="text-align: center;"><br></div></font><p dir="ltr" style="text-align: center; line-height: 1.38; margin-top: 0pt; margin-bottom: 0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><font face="Sarabun" size="3"><b>สรุปรางวัลที่ได้</b> : +500 คุณธรรม, +100 พลังใจ</font></span></p><p dir="ltr" style="text-align: center; line-height: 1.38; margin-top: 0pt; margin-bottom: 0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><font face="Sarabun" size="3">+5 ความสัมพันธ์สนทนาทั่วไป จาง เชียน</font></span></p><p dir="ltr" style="text-align: center; line-height: 1.38; margin-top: 0pt; margin-bottom: 0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><font face="Sarabun" size="3">หัวดี โบนัสเพิ่มความโปรดปราน+20</font></span></p><p dir="ltr" style="text-align: center; line-height: 1.38; margin-top: 0pt; margin-bottom: 0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><font face="Sarabun" size="3">โบนัส ความสัมพันธ์พิเศษ (VIP) กับ NPC +10 แต้ม</font></span></p><p dir="ltr" style="text-align: center; line-height: 1.38; margin-top: 0pt; margin-bottom: 0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><font face="Sarabun" style="" size="3">โบนัส ความโปรดปราน NPC เผ่ามนุษย์ (ผู้มีบุญ) +20 แต้ม</font></span></p><div style="text-align: center;"><span style="font-size: 12pt; font-family: Sarabun, sans-serif; color: rgb(0, 0, 0); background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><br></span></div></span><p></p>
<span id="docs-internal-guid-9093c38b-7fff-2fb3-0de6-70f626bc7b36"><p dir="ltr" style="text-align: center; line-height: 1.38; margin-top: 0pt; margin-bottom: 0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><img src="https://img2.pic.in.th/pic/-4_20250603154522.md.png" width="500" _height="57" border="0"><font face="Sarabun" style="" size="4" color="#4169e1"><b style=""></b></font></span></p><p dir="ltr" style="text-align: center; line-height: 1.38; margin-top: 0pt; margin-bottom: 0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><br></span></p><p dir="ltr" style="text-align: center; line-height: 1.38; margin-top: 0pt; margin-bottom: 0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><font face="Sarabun" style="" size="4" color="#4169e1"><b style="">วันที่ 28 เดือน 7 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11</b></font></span></p><p dir="ltr" style="text-align: center; line-height: 1.38; margin-top: 0pt; margin-bottom: 0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><font face="Sarabun" size="4" color="#4169e1"><b style="">ยามเว่ย เวลา 13.00 - 14.00 น. ณ ถนนสิบลี้ ฝั่งตะวันออก ร้านบะหมี่สามหาว (พบ จางเซียน)</b></font></span></p><font face="Sarabun" size="3"><br></font><p dir="ltr" style="line-height:1.38;margin-top:0pt;margin-bottom:0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><font face="Sarabun" size="3"> หลินหยากำลังจะจูงเยวี่ยเหยียนออกจากหน้าร้านบะหมี่ แต่ทันใดนั้นก็มีเงาหนึ่งก้าวพรวดเข้ามา หญิงสาวหยุดชะงักโดยไม่ทันตั้งตัว ชายผู้นั้นแต่งกายด้วยอาภรณ์เรียบ ๆ แบบผู้รับใช้แต่ทว่ากิริยาท่าทางกลับเต็มไปด้วยความสำรวมและระมัดระวัง เขาโค้งคำนับหลินหยาอย่างลึกและยาวกว่าที่ควร จนหลินหยาต้องเลิกคิ้วขมวดมองด้วยความสงสัย<b><font color="#006400"> “แม่นางหลินหยา” </font></b>น้ำเสียงของเขานุ่มนวลแต่หนักแน่นและรู้ว่านางคือใคร ขณะก้มศีรษะต่ำจนแทบจะไม่กล้าเงยขึ้นมองหน้า <b><font color="#006400">“ข้า…มาจากหอว่านหงเหรินขอรับ นายท่านสั่งให้มาตามตัวท่านด่วน”</font></b></font></span></p><font face="Sarabun" size="3"><br></font><p dir="ltr" style="line-height:1.38;margin-top:0pt;margin-bottom:0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><span style="font-family: Sarabun; font-size: medium;"> </span><font face="Sarabun" size="3">ดวงตากลมโตของหลินหยาเบิกกว้างทันที ร่างทั้งร่างแข็งทื่อ ความเย็นวูบแล่นไปทั่วแนวสันหลังเหมือนถูกใครเอามีดน้ำแข็งกรีดลงกลางหลัง เส้นขนทั่วกายลุกตั้งชันในบัดดล ใจเต้นโครมครามจนหูอื้อ</font></span></p><font face="Sarabun" size="3"><br></font><p dir="ltr" style="line-height:1.38;margin-top:0pt;margin-bottom:0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><span style="font-family: Sarabun; font-size: medium;"> <b><font color="#dda0dd"> </font></b></span><font face="Sarabun" size="3"><b><font color="#dda0dd">“นายท่าน…?”</font></b> หลินหยาพึมพำแผ่วเบาดวงหน้าเริ่มซีดเผือด เพราะนางรู้ดีว่านายท่านที่กล่าวนั้นไม่มีทางหมายถึงเถ้าแก่หลิวไค่ผู้ผู้เป็นฉากหน้าแน่นอน หากแต่หมายถึง <i><b>“เถ้าแก่ใหญ่”</b></i> ตัวจริงของหอว่านหงเหริน ผู้ที่ไม่ค่อยออกหน้าในสายตาผู้คน…และบุรุษผู้นั้นก็คือ จางกงกง จงฉางชื่อแห่งราชสำนัก ชื่อที่ผุดวาบขึ้นในห้วงสติ ทำให้ความทรงจำมากมายกระแทกเข้ามาพร้อมกัน สายตาเย็นเยียบที่เคยตรึงนางไว้ ความใกล้ชิดที่อบอุ่นจนแทบหายใจไม่ออก และความจริงอันโหดร้ายที่เขาคือทั้งผู้คุ้มครองและผู้คุมขังชีวิตของนางในเวลาเดียวกัน</font></span></p><font face="Sarabun" size="3"><br></font><p dir="ltr" style="line-height:1.38;margin-top:0pt;margin-bottom:0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><span style="font-family: Sarabun; font-size: medium;"> </span><font face="Sarabun" size="3">หลินหยาไม่ได้กลัวอะไรแต่ทว่าเมื่อครู่นางพึ่งกินบะหมี่กับท่านชายคนนั้นหรือว่า..!?</font></span></p><font face="Sarabun" size="3"><br></font><p dir="ltr" style="line-height:1.38;margin-top:0pt;margin-bottom:0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><span style="font-family: Sarabun; font-size: medium;"> </span><font face="Sarabun" size="3">มือเรียวที่กำเชือกบังเหียนเยวี่ยเหยียนสั่นสะท้านเล็กน้อย แต่หญิงสาวพยายามฝืนยิ้มบางเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม้ในใจจะอยากตะโกนหนีไปไกลเท่าไร <b><font color="#dda0dd">“เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ…ข้าจะไปเดี๋ยวนี้” </font></b>นางเอ่ยเบา ๆ พยายามรักษาน้ำเสียงให้เรียบ เยวี่ยเหยียนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ สะบัดหัวต่ำ ฮึดฮัดออกมาเล็กน้อย เหมือนสัมผัสได้ถึงความตึงเครียดของนายหญิง เสียงกีบเท้าของมันกระทบพื้นแข็งราวกับประกาศว่าจะปกป้องเธอทุกทาง แต่หลินหยาเพียงเอื้อมมือลูบลงบนลำคอมันเบา ๆ สบตาแดงทมิฬนั้น <b><font color="#dda0dd">“ไม่เป็นอะไรเด็กดี…ข้าแค่ต้องคุยกับเขาดี ๆ เท่านั้นเอง”</font></b></font></span></p><p dir="ltr" style="line-height:1.38;margin-top:0pt;margin-bottom:0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><font face="Sarabun" size="3"><br></font></span></p><p dir="ltr" style="text-align: center; line-height: 1.38; margin-top: 0pt; margin-bottom: 0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><img src="https://img2.pic.in.th/pic/-4_20250603154522.md.png" width="500" _height="57" border="0"><font face="Sarabun" size="3"></font></span></p><p dir="ltr" style="text-align: center; line-height: 1.38; margin-top: 0pt; margin-bottom: 0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><font face="Sarabun" size="3"><br></font></span></p><p dir="ltr" style="text-align: center; line-height: 1.38; margin-top: 0pt; margin-bottom: 0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><font face="Sarabun" size="3"><br></font></span></p><p dir="ltr" style="text-align: center; line-height: 1.38; margin-top: 0pt; margin-bottom: 0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><font face="Sarabun" size="3">@Admin </font></span></p><p dir="ltr" style="line-height:1.38;margin-top:0pt;margin-bottom:0pt;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><font face="Sarabun" size="3"><br></font></span></p><p dir="ltr" style="margin-top: 0pt; margin-bottom: 0pt; text-align: center; line-height: 1.38;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><font face="Sarabun" size="3"><b>พรสวรรค์:</b> ลาภลอย (ไม้) </font></span></p><p dir="ltr" style="margin-top: 0pt; margin-bottom: 0pt; text-align: center; line-height: 1.38;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><font face="Sarabun" size="3">มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่</font></span></p><p dir="ltr" style="line-height:1.38;margin-top:0pt;margin-bottom:0pt;"><font face="Sarabun" size="3"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"></span></font></p><p dir="ltr" style="margin-top: 0pt; margin-bottom: 0pt; text-align: center; line-height: 1.38;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><font face="Sarabun" size="3" style=""><b style="">อื่น ๆ: </b>กรี๊ดดดดดด อ๊าเกหรนฟ่วเำกหพฟไร</font></span></p><p dir="ltr" style="margin-top: 0pt; margin-bottom: 0pt; text-align: center; line-height: 1.38;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><font face="Sarabun" size="3" style=""><br></font></span></p><p dir="ltr" style="margin-top: 0pt; margin-bottom: 0pt; text-align: center; line-height: 1.38;"><span style="background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><font face="Sarabun" size="3" style=""><b>รางวัล:</b> (กลิ้งไปหาจางกงกง)</font></span></p><div><span style="font-size: 12pt; font-family: Sarabun, sans-serif; color: rgb(0, 0, 0); background-color: transparent; font-variant-numeric: normal; font-variant-east-asian: normal; font-variant-alternates: normal; font-variant-position: normal; font-variant-emoji: normal; vertical-align: baseline; white-space-collapse: preserve;"><br></span></div></span><p></p>
วันที่ 13 เดือน 9 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11ยามไห้ เวลา 21.00 - 23.00 น.╰┈➤ พบเจอเถียนเฟิง
แสงไฟตะเกียงน้ำมันที่แขวนเรียงรายตามทางในตรอกเล็ก ๆ ของฉางอันค่อย ๆ สว่างไสวขึ้น เมื่อดวงตะวันลาลับหลังขอบฟ้า กลิ่นหอมอบอวลของน้ำซุปกระดูกหมูที่เคี่ยวจนข้นกำลังลอยคลุ้งไปทั่วบริเวณตรอกแห่งนั้น แม้ร้าน “บะหมี่สามหาว” จะตั้งอยู่ในซอกแคบ ๆ มิได้หรูหราโอ่อ่าเหมือนร้านใหญ่ในย่านตะวันออก แต่กลับมีผู้คนมานั่งกันแน่นขนัดจนแทบหาที่ว่างมิได้ ทุกคนล้วนเป็นชาวบ้านทั่วไปแรงงาน กุลี พ่อค้าเล็ก ๆที่ยิ้มแย้มเอื้อนเอ่ยเสียงหัวเราะขณะซดบะหมี่ร้อน ๆ ในชามดินเผา
เถียนเฟิงกับเสวี่ยซีเดินเข้ามา ทันทีที่เจ้าของร้านเงยหน้าขึ้นเห็นบุรุษสองคนก็ชะงักเล็กน้อย ก่อนจะรีบยกมือทักทายด้วยใบหน้าประหลาดใจปนยินดี “เชิญ ๆ ข้างในเลยขอรับ โต๊ะด้านมุมยังว่างอยู่พอดี!”
เถียนเฟิงมิได้แสดงท่าทีเย่อหยิ่งอย่างที่ผู้คนคาดหวังจากตำแหน่ง “ต้าซือคง” กลับยกมือโบกเล็กน้อยแล้วเดินตามพ่อครัวเข้าไปนั่งที่โต๊ะไม้เก่า ๆ ซึ่งตั้งชิดฝาผนัง ดวงตาคมกริบทอดมองรอบร้าน แววตาแฝงความสงบที่หาได้ยากยิ่ง
เสวี่ยซีมองเถียนเฟิงแล้วพลันหัวเราะเบา ๆ “ไม่คิดเลยว่าท่านจะยอมมานั่งร้านเช่นนี้กับข้า”
เถียนเฟิงหันมาสบตา แววตานั้นคลายความคมลงจนแทบมองเห็นความอ่อนโยนที่ซ่อนอยู่ “เจ้าชอบหรือไม่ ข้าเพียงอยากให้เจ้าสบายใจ”
“ข้าชอบสิ” เสวี่ยซียิ้มอ่อน ดวงตาสีอำพันวาววับราวกับหยาดน้ำผึ้งต้องแสงตะเกียง “การได้กินอาหารเรียบง่ายท่ามกลางเสียงหัวเราะเช่นนี้ มันอบอุ่นกว่าการนั่งในห้องโถงกว้างใหญ่เสียอีก”
ไม่นานนักพนักงานก็ยกบะหมี่ร้อน ๆ มาวางตรงหน้าบะหมี่เนื้อวัวชามใหญ่สำหรับเถียนเฟิง และบะหมี่น้ำกุ้งทะเลสำหรับเสวี่ยซี ไอร้อนลอยขึ้นพัดกลิ่นน้ำซุปเข้าจมูกชวนให้น้ำลายสอ
เสวี่ยซีคีบเส้นบะหมี่ขึ้นมาเป่าเบา ๆ ก่อนจะซดเข้าไป เสียงซดเบา ๆ ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบสงบชั่วครู่ เขาหลับตา พลางเผลอยิ้มออกมาอย่างพอใจ “อร่อย…รสชาติเข้มข้นแต่ไม่เลี่ยนเลย”
เถียนเฟิงมองใบหน้างามที่กำลังเปล่งประกายด้วยรอยยิ้มจริงใจ รอยยิ้มนั้นไม่เหมือนกับยามเสวี่ยซีอยู่ในหอว่านหงเหริน หรือยามถูกบังคับให้สวมหน้ากากแห่งความเย้ายวน มันคือรอยยิ้มของชายหนุ่มผู้กำลังได้ชิมความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตจริง ๆ และภาพนั้นเองทำให้มุมปากเถียนเฟิงยกขึ้นโดยไม่รู้ตัว
เสวี่ยซีเหลือบตามอง เขาเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าคมคายของเถียนเฟิง รอยยิ้มที่แท้จริงไม่ใช่รอยยิ้มเยาะ ไม่ใช่รอยยิ้มแฝงเลศนัย แต่เป็นรอยยิ้มที่อบอุ่นเรียบง่าย ราวกับชายธรรมดาคนหนึ่ง “ท่านยิ้มแล้วนะ”
เถียนเฟิงชะงักเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะในลำคอ “เจ้ามีตาดีนัก”
เสวี่ยซีคีบเส้นบะหมี่ขึ้นมาอีกคำ แล้วเอียงคอมองอย่างหยอกเย้า “ข้าเพียงคิดว่าท่านควรยิ้มบ่อย ๆ มันทำให้ท่านดู…เป็นมนุษย์ขึ้นมาก”
“เจ้า” เถียนเฟิงแสร้งทำเสียงเข้ม แต่แววตาที่มองกลับมาเต็มไปด้วยความเอ็นดู
เพื่อไม่ให้บรรยากาศกลับเข้าสู่ความเคร่งเครียด เสวี่ยซีจึงรีบเปลี่ยนเรื่องถาม “ท่านต้าซือคง บอกข้ามาหน่อยเถิด ในแต่ละวันท่านทำอะไรบ้าง ข้าอยากรู้เรื่องชีวิตของท่าน ไม่ใช่แค่สิ่งที่โลกภายนอกรู้จัก”
คำถามนั้นทำให้เถียนเฟิงนิ่งไปครู่หนึ่ง เขาค่อย ๆ วางตะเกียบลง เสียงในร้านยังคงคึกคัก แต่ในห้วงเวลานั้นเสมือนมีเพียงสองคนอยู่ด้วยกัน
“ชีวิตข้า” เถียนเฟิงทวนคำ สายตาเหม่อมองไปไกล “ตั้งแต่เช้า ก็มีแต่ราชกิจ งานบ้านงานเมือง การตัดสินคดี การสั่งทหารออกลาดตระเวน ข้าคุ้นเคยกับความเหนื่อยล้าจนแทบไม่รู้สึกแล้ว”
เสวี่ยซีพยักหน้า คีบเส้นบะหมี่ขึ้นช้า ๆ ดวงตาฉายประกายครุ่นคิด ก่อนจะเอ่ยต่อ “แล้วสิ่งที่ท่านชอบเล่า เช่น อาหารโปรด หรือสิ่งที่ทำให้ท่านผ่อนคลาย”
เถียนเฟิงเลิกคิ้วเล็กน้อย ราวกับไม่เคยมีใครถามเช่นนี้มาก่อน “อาหารโปรดหรือ…ข้าชอบรสเรียบง่าย เช่นเกี๊ยวน้ำ หรือบะหมี่ชามเช่นนี้ ส่วนสิ่งที่ทำให้ผ่อนคลาย…บางทีคือการได้อ่านตำราที่มิใช่ราชกิจ”
“ตำรา” เสวี่ยซีโน้มตัวมาข้างหน้าอย่างสนใจ “ตำราแบบใด”
“กลอน…บทกวีบ้าง เรื่องเล่าบ้าง ข้ามิได้อ่านบ่อยนัก แต่ยามใดที่อ่าน ก็ทำให้หัวใจสงบ”
เสวี่ยซีหัวเราะเบา ๆ “ข้าไม่คิดเลยว่าท่านผู้เข้มงวด จะชอบกลอนกับบทกวี”
“ก็อย่าลืมว่า ข้าก็ยังเป็นคน” เถียนเฟิงตอบพลางยิ้มอีกครั้ง
รอยยิ้มที่สองนั้นทำให้เสวี่ยซีรู้สึกเหมือนหัวใจอุ่นวาบ เขารู้แล้วว่าภารกิจเล็ก ๆ ของตนในค่ำคืนนี้สำเร็จเขาสามารถทำให้บุรุษผู้แข็งกร้าวที่สุดในต้าฮั่น ได้หัวเราะและยิ้มอย่างเป็นธรรมชาติ
เสียงก๊องแก๊งของชามดินเผา เสียงหัวเราะของผู้คนรอบร้าน และไอร้อนจากบะหมี่ที่ยังคงลอยขึ้นมา ราวกับโอบล้อมทั้งคู่ไว้ในบรรยากาศที่เรียบง่ายแต่แฝงด้วยความสุขที่แท้จริง
เถียนเฟิงยกถ้วยสุราที่เจ้าของร้านยกมาเสิร์ฟให้ขึ้นดื่ม รสขมฝาดไหลผ่านคอ ก่อนจะเอ่ยเบา ๆ “ข้าไม่ค่อยได้สัมผัสบรรยากาศเช่นนี้มานานแล้วเจ้าทำให้ข้านึกได้ว่า ข้างนอกตำหนัก ข้างนอกจวน ยังมีโลกที่เรียบง่ายและอบอุ่นรออยู่”
เสวี่ยซีสบตาเขา ริมฝีปากโค้งยิ้ม “หากท่านอยากสัมผัสมันอีก ข้าจะอยู่เคียงข้างพาท่านออกมาหา”
เถียนเฟิงไม่ตอบ เพียงแต่มองใบหน้าที่งดงามตรงหน้า ดวงตาสีอำพันส่องแสงท่ามกลางแสงตะเกียง ในใจเขาได้คำตอบแล้ว คำตอบที่ทำให้หัวใจที่เคยแข็งดุจเหล็กค่อย ๆ อ่อนละมุนลง
ไอเทมเควสปลดหัวใจ เถียนเฟิง