[ทิศเหนือราชวัง] อุทยานเม่าหลิน
<style type="text/css">BODY{background:url("https://i.imgur.com/vCb7Bus.png"); background-attachment:fixed; }</style><style type="text/css">.head1 {background-color:none ;}.head2 {background-color:none ;}</style><style>
#box01 {
border: 0px double ;
padding: 70px;
box-shadow: rgb(97,126,164) 1px 1px 1em;
border-radius: 25px;
background-color: #263220;}
#box02 {
border: 0px double ;
padding: 0px;
box-shadow: rgb(0, 0, 0) 1px 1px 1em;
border-radius: 25px;
background-color: #3a4d47;}
#box03 {
width: 500px;
border: 2px solid #94b270 ;
padding: 30px;
box-shadow: rgb(148,178,112) 2px 2px 1em;
border-radius: 25px;
background-image: url("https://i.imgur.com/pGX3lk9.png");}
</style>
<div align="center">
<div id="box01"><br>
<div align="center">
<div id="box02">
<div style="height: 1500px; background-image: url('https://i.imgur.com/SBcYyjU.png');
background-repeat: no-repeat;
background-size: cover;"></div>
<div style="margin-top: -1300px; text-align: center;">
<img src="https://i.imgur.com/WYOvWZc.png" border="0" alt=""><br><br>
<font color="#b3c796"><span style="text-shadow: #000000 2px 2px 1em;"><b><div style="text-align: center;"><span style="text-align: initial; white-space: initial;"><font size="7" face="JasmineUPC">อุทยานเม่าหลิน</font></span></div></b></span></font>
<br>
<img src="https://i.imgur.com/FUDimZZ.png" border="0" alt=""></div>
<br><br>
<br><br>
<div style="margin-top: -50px; ">
<img style="border: 5px double rgb(0,0,0); border-radius: 25px; box-shadow: rgb(0,0,0) 2px 2px 1em; overflow: auto; width: auto;" src="https://i.imgur.com/Bs1CgME.png" border="0" alt=""></div>
<br>
<br><br>
<div id="box03">
<div style="display: block; width: 100%;"><font face="Kanit" size="3"><font color="White">
<font face="Kanit" size="5"><b>อุทยานเม่าหลิน<br><br></font><font face="Kanit" size="4"> “พงไพรพสุธา วารีลำธาร บุปผาเบ่งบาน งามเหนือกาลแนบจิตคำนึง” </b></font><br><br>เป็นพื้นที่ทางเหนือวังที่ครอบคลุมป่าทั้งหมดตอนเหนือสำหรับหวงตี้หรือเชื้อพระวงศ์ออกประพาสล่าสัตว์ในอุทยาน หรือขุนนาง ที่ได้รับพระราชานุญาต มีทั้งพื้นที่ล่าสัตว์ป่ามากมาย หรือแม้แต่พื้นที่ศาลาชมทิวทัศน์ทุ่งดอกไม้ผลิบานงดงาม ขึ้นชื่อเรื่องความตระการตางดงามของดอกเหมยในฤดูหนาว กลีบสีขาวสะอาดบริสุทธิ์ สัมผัสปุยเกล็ดหิมะ<br><br>
<img style="height: 300px;" src="https://i.imgur.com/uW44mzt.png" border="0" alt=""><br>
</font></font></div></div>
<br><br>
<div style="margin-top: -450px; ">
<div style="height: 700px; background-image: url('https://i.imgur.com/iKZxBIs.png');
background-repeat: no-repeat;
background-size: cover;"></div></div>
</div>
</div></div></div>
<style>
#Hua01 {
border: 0px solid;
border-radius: 10px;
background-image: url("https://i.imgur.com/BQWz3NC.jpg"); }
#Hua02 {
border: 0px solid;
width: 75%;
box-shadow: #000000 5px 5px 5em;
background-color : #262341;}
#Hua03 {
border: 0px solid;
padding: 0px 50px;
width: 75%;}
#Hua04 {
border: 0px solid;
padding: 30px;
width: 300px;
box-shadow: #000000 5px 5px 5em;
background-image: url("https://i.imgur.com/meLD9VX.png");}
</style>
<link href="https://fonts.googleapis.com/css2?family=Charmonman:wght@400;700&display=swap" rel="stylesheet">
<link href="https://fonts.googleapis.com/css2?family=Zhi+Mang+Xing&display=swap" rel="stylesheet">
<div align="center">
<font face="Sarabun" size="3">
<div id="Hua01" style="">
<div id="Hua02" style="">
<div style="color: rgb(255, 255, 255); height: 500px; background-image: url("https://i.imgur.com/CvdPuBr.png"); background-repeat: no-repeat; background-size: cover;"></div>
<div style="color: rgb(255, 255, 255); margin-top: -300px; text-align: center;"><b>
<img height="300" src="https://i.imgur.com/8tE9Mcr.png" border="0" alt=""><br>
<span style="text-shadow: #000000 5px 5px 10px"><font size="6"> ยามเหลียนฮวาเบ่งบาน</font><br><font size="4"> วันที่สามสิบเอ็ด ชีเยว่ เจี้ยนหยวนศกที่สิบ<br>กลางยามเว่ยถึงยามเซิน (14.00 - 17.00 น.)</font></span></b><br><br>
<div style="margin-top: -300px; ">
<div style="height: 378px; background-image: url('https://i.imgur.com/IYOjc3Z.png');
background-position : right top;
background-repeat: no-repeat;"></div></div>
</div><br><br>
<div style="margin-top: -100px;">
<div id="Hua03" style="">
<div align="left" style=""><font color="#ffffff">
</font><font size="5" style="color: rgb(255, 255, 255);">ใช้เวลา</font><font color="#ffffff"> ราว ๆ เกือบครึ่งชั่วยามองค์หวงตี้จึงเริ่มลดความเร็วลงกว่าเดิมที่ควบจากพระราชวังมาทางเหนือจนนางได้รับทราบว่าสถานที่แห่งนี้คือ อุทยานเม่าหลิน หรือก็คือ ป่าส่วนพระองค์สำหรับใช้เชื้อพระองค์เจ้าขุนมูลนายได้มาล่าสัตว์เพื่อความสำราญ
</font><br><br><font color="#ffffff">
และแน่นอนว่าผู้ที่เป็นเจ้าขุนมูลนายที่มาเพื่อความเกษมสำราญในยามนี้คือนางผู้อยู่ในอ้อมแขนของโอรสสวรรค์ เจ้าของอุทยานแห่งนี้
</font><br><br><font color="#ffffff">
บุรุษผู้หนึ่งหาใช่บุรุษช่างเอ่ย สตรีนางหนึ่งหาใช่สตรีช่างจ้อ ไหนเลยจะมีบทสนทนาออกมาหากนางไม่ใคร่รู้สิ่งใดการมาเที่ยวชมในยามนี้จึงเป็นการเที่ยวชมความงามของผืนป่าเขียวชะอุ่มอย่าง ‘ใกล้ชิด’ ในหลาย ๆ ความหมาย ดวงตากลมทอดมองออกไปไกลก่อนจะวกกลับมามองแขนแกร่งที่ยังคงประคองกายไม่ให้นางตกหล่นไปไหน นับว่านี่คงเป็นการปลดประตูความกลัวของนางมาหลายปีที่หวาดผวาอาชาจนไม่อาจขึ้นขี่ได้
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><i style="color: rgb(255, 255, 255);"> แม้ว่าจริง ๆ หากให้นั่งคนเดียวนางก็ยังคงกลัวก็ตามเถอะ
</i><br><br><font color="#ffffff">
ในช่วงเวลานี้เองที่นางได้แลเห็นรอยเปื้อนสีดำที่แขนเสื้อมันคือรอยเปื้อนหมึกอย่างไม่ต้องสงสัยสตรีเจ้าของอาภรณ์นี้ก็ยกขึ้นมาลองพยายามถูก ๆ มันเผื่อจะจางลง แต่ทว่าการปล่อยรั้งไว้เสียนานเช่นนี้แล้วไหนเลยจะออกโดยง่าย— แต่ต่อให้ออกแล้วนางจะเอาไปป้ายเช็ดที่ใดกันเล่า
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#ffff00"> “ไปซนกระไรมา ไยถึงเปื้อนหมึก”
<br><br>
</font><font color="#48d1cc"> “หม่อมฉันนั่งให้หัวขบคิดปริศนาต่างหากเพคะ”
<br></font><br><font color="#ffff00">
“ปริศนา ?”
</font><br><br><font color="#ffff00">
</font><font color="#48d1cc"> “เพคะ ปริศนาหมั่นโถว หม่อมฉันไปรับมาลองไถเมื่อวานนี้เอง ยากใช้ได้เชียว”
</font><br><br><font color="#ffff00">
“ยากเพียงใดกันที่ทำตัวเกียจคร้านกล้าเอ่ยปากเช่นนี้”
</font><br><br><font color="#ffffff">
<i> ผู้ใดเกียจคร้านกัน
</i></font><br><br><font color="#ffffff">
นางอยากจะเอ่ยตอบโต้ออกไปทว่าเมื่อลองย้อนมาเมียงมองพฤติกรรมของตนเองแล้วก็ทำได้เพียงกลืนคำโต้เถียงลงท้องเนื่องเพราะว่าภาพในความทรงจำนั้นมีเพียงภาพของทิวทัศน์ยามเอกขเนก ไม่ก็ตำราอันมีผืนฟ้าเป็นภาพประกอบอีกทีหนึ่งช่าง…แลดูเกียจกร้านจริง ๆ นั่นแหละ
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#ffff00"> “โน้มกายลงกับม้าหน่อย เจิ้นแลเห็นบางสิ่ง”
</font><br><br><font color="#ffffff">
ไม่นานหลังจากนี้สายพระเนตรของโอรสสวรรค์ก็ทรงทอดพระเนตรเห็นบางอย่างมันคือกวางตัวใหญ่ที่กำลังก้มแทะเล็มหญ้าอย่างสงบสุข แม้นว่านางจะรู้สึกสงสารอยู่บ้าง ทว่าในโลกใบนี้ผู้อยู่รอดคือผู้แข็งแกร่ง เช่นนั้นแล้วหากจะสงสาร สู้รับประทานอย่างให้เหลือน่าจะคุ้มกับชีวิตของมันที่กำลังจะถูกคร่าด้วยลูกเกาทัณฑ์ของโอรสสวรรค์พระองค์หยิบลูกเกาทัณฑ์ขึ้นมาตรึงสายกับคันศรง้างดึงจนสุดโดยที่สตรีร่างบางเช่นนางพยายามโน้มกายหลับไม่ให้โดนพระวรกายในช่วงเวลาเช่นนี้
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#ffff00"> “ฝากจัดการด้วย”
</font><br><br><font color="#ffffff">
สุรเสียงทรงอำนาจตรัสแก่องครักษ์ผู้ติดตามมาให้จัดการกวางตัวนั้นให้เรียบร้อยทั้งการลากตามไปและเรื่องการแล่ในอนาคตอันใกล้พวกนางขี่ม้ามาเรื่อย ๆ ชมนกชมไม้ตามประสาก่อนที่จะหยุดพักที่ศาลาใต้ต้นหลิวในระหว่างนี้เองผู้ที่ติดตามมาอย่างใกล้ชิดก็ลงมือแล่กวางคนหนึ่ง อีกคนก็ก่อฟืนไฟตระเตรียมไว้เผื่อได้ทำกระไรอีก
</font><br><br><font color="#ffffff">
<i> ซึ่ง…แน่นอนว่าได้ทำแน่ ๆ
</i></font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#48d1cc"> “ฝ่าบาทเพคะ ไหน ๆ แล้วก็ได้เนื้อกวางมา ให้หม่อมฉันได้้ตระเตรียมสำหรับอาหารให้พระองค์”
</font><br><br><font color="#ffffff">
การพยักหน้ายินยอมถูกส่งมาให้เป็นคำตอบเว่ยเจียเจี๋ยอวี้ก็เดินไปขอรับเนื้อจากผู้ติดตามส่วนพระองค์มาจัดการปรุงอาหารด้วยวัตถุดิบพื้นฐานที่ผู้ติดตามพกใส่กระเป๋าเดินทางสะพายไว้บนหลังม้าอาหารจานนี้จึงกลายเป็น เนื้อกวางผัดพริกชวงเจีย นั่นเอง
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#48d1cc"> “เนื้อกวางผัดพริกชวงเจียเพคะ”
</font><br><br><font color="#ffffff">
นางตระเตรียมหั่นชิ้นพอดีคำเรียบร้อย จัดใส่จานสวยงาม(ที่มีตอนนั้น)ก่อนตรงมาพถวายแด่หวงตี้ผู้ยิ่งใหญ่ จัดวางบนโต๊ะประจำศาลาหยุดพักใต้ต้นหลินใหญ่ทว่าไม่ทันจะได้รับประทานมากมายอะไรดีก็มีเสียงฝีเท้าม้าควบมาแต่ไกลแว่วเข้ามา
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#a0522d"> “ขออภับพะยะค่ะฝ่าบาทกระหม่อมมีเรื่องด่วยมาแจ้ง”
<br></font><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#ffff00"> “ว่ามา”
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#a0522d"> “พบการบุกรุกที่ชายแดนพะยะค่ะ”
</font><br><br><font color="#ffffff">
แม้เป็นนางสนมเช่นนางเองได้ยลยินเช่นนี้แล้วยังรู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่นักแล้วไหนเลยฝ่าบาทจะไม่คิดเช่นนั้นเมื่อพระพักต์ผิวมาสบดวงตากับนางร่างบางพลันเอ่ยขึ้นด้วยความภักดีต่อราชวงศ์และต้าฮั่น
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#ffff00"> “ฝ่าบาทเสด็จไปเถิดเพคะหม่อมฉันจะรั้งรอพระองค์ที่นี่หม่อมฉํนไม่เป็นไรเพคะ”
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#a0522d">“เดี๋ยวเจิ้นกลับมา”
<br></font><br><font color="#ffffff">
พระหัตถ์หนาเลื่อนมากอบกุมมือบางพร้อมกับตรัสอย่างมาดมั่นราวกับต้องการตรัสกับนางอย่างจริงใจไออุ่นที่ทิ้งไว้อย่างอ้อยอิ่งทำเอาดวงใจที่เฉยชามาแสนนานสั่นไหวอยู่ชั่นขณะ ไม่อาจทราบได้เลยว่าความรู้สึกเหล่านี้หรือสิ่งใด ความกลัว ความตระหนก ความประหลาดใจ หรือความหวั่นไหวที่ก่อตัวขึ้นภายในใจนางกันแน่</font></div><div align="left" style=""><font color="#ffffff"><br></font></div><div align="left" style=""><font color="#ffffff"><br></font></div><div align="left" style=""><font color="#ffffff"><br></font></div><div align="left" style=""><div style="text-align: center;"><font color="#ffffff">อาหารกลางวันวันนี้ (?)</font></div><font color="#ffffff"><div style="text-align: center;">รูป : <img src="https://i.imgur.com/IynwbzT.png" border="0" alt=""></div></font><font color="#ffffff"><div style="text-align: center;">https://i.imgur.com/IynwbzT.png</div></font><font color="#ffffff"><div style="text-align: center;">ชื่อ :ล่าจื่อลู่</div></font><font color="#ffffff"><div style="text-align: center;">ประเภท : อาหาร</div></font><div style="text-align: center;"><font color="#ffffff">คำอธิบาย : </font><.b><.font color="#8b0000">“เนื้อกวางผัดพริกชวงเจีย” หรือ “ล่าจื่อลู่ (辣子鹿)”<.font><.b><font color="#ffffff"> เป็นอาหารที่มีวิธีการปรุงไม่ซับซ้อน มีรสชาติอร่อย และจัดจ้านเพิ่มความอยากอาหาร ทำให้เมนูล่าจื่อลู่นี้ได้รับความนิยมจนแพร่หลายไปทั่วทั้งต้าฮั่นว่ากันว่า “ล่าจื่อลู่” ของแต่ละท้องถิ่นก็มีสูตรเฉพาะของตัวเองที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกันไป ส่วนประกอบหลักเป็น “เนื้อกวาง” และตามด้วยการผัดกับพริกชวงเจีย โดยจุดเด่นของอาหารจานนี้ คือ สีน้ำตาลแดงของเนื้อกวางที่เอาไปทอดจนค่อนข้างกรอบ สีแดงจัดจ้านของพริก และรสเผ็ดชาตามแบบฉบับอาหารเจียงหลิง</font></div><div style="text-align: center;"><br></div>
<br>
</div>
<div style="color: rgb(255, 255, 255); text-align: center;"><br><br>
<img style="width: 75%;" src="https://i.imgur.com/LIeqPiH.png" border="0" alt=""> <br><br>
ฮั่นอู่ตี้<br>
+5 พูดคุยประจำวัน<br>
+20 หัวดีโบนัสความสัมพันธ์<br>
<br><br>
+15 บารมี ทำกิจกรรมสันทนาการกับหวงตี้(ขี่ม้าชมอุทยานเอ้อเพลินจิต)<br>
+30 บารมี ปลอมตัวเที่ยวฉางอันกับหวงตี้ตามลำพังสองคน 1 วันเต็ม (แล้วอันนี้เที่ยวเหมือนกันจะได้ไหมอ่ะ)<br><br>
<a href="home.php?mod=space&uid=1" target="_blank">@Admin</a>
<br><br>
</div>
</div>
<div style="color: rgb(255, 255, 255); height: 500px; background-image: url("https://i.imgur.com/hr6FYuR.png"); background-repeat: no-repeat; background-size: cover;"></div>
</div>
</div>
</div></font></div>
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย WeijiaLianhua เมื่อ 2024-8-1 22:04 <br /><br />
<style>
#Hua01 {
border: 0px solid;
border-radius: 10px;
background-image: url("https://i.imgur.com/BQWz3NC.jpg"); }
#Hua02 {
border: 0px solid;
width: 75%;
box-shadow: #000000 5px 5px 5em;
background-color : #262341;}
#Hua03 {
border: 0px solid;
padding: 0px 50px;
width: 75%;}
#Hua04 {
border: 0px solid;
padding: 30px;
width: 300px;
box-shadow: #000000 5px 5px 5em;
background-image: url("https://i.imgur.com/meLD9VX.png");}
</style>
<link href="https://fonts.googleapis.com/css2?family=Charmonman:wght@400;700&display=swap" rel="stylesheet">
<link href="https://fonts.googleapis.com/css2?family=Zhi+Mang+Xing&display=swap" rel="stylesheet">
<div align="center">
<font face="Sarabun" size="3">
<div id="Hua01" style="">
<div id="Hua02" style="">
<div style="color: rgb(255, 255, 255); height: 500px; background-image: url("https://i.imgur.com/CvdPuBr.png"); background-repeat: no-repeat; background-size: cover;"></div>
<div style="margin-top: -300px; text-align: center;"><b style="">
<font color="#ffffff"><img height="300" src="https://i.imgur.com/8tE9Mcr.png" border="0" alt=""></font><br>
<span style="text-shadow: rgb(0, 0, 0) 5px 5px 10px;"><font size="6" style="color: rgb(255, 255, 255);"> ยามเหลียนฮวาเบ่งบาน</font><br><font size="4" style=""><font color="#ffffff"> วันที่</font><font color="#48d1cc">สามสิบเอ็ด</font><font color="#ffffff"> ชีเยว่ เจี้ยนหยวนศกที่สิบ</font><br><font color="#ffffff">กลางยามเซิน (17.00 น.)</font></font></span></b><br><br>
<div style="color: rgb(255, 255, 255); margin-top: -300px;">
<div style="height: 378px; background-image: url('https://i.imgur.com/IYOjc3Z.png');
background-position : right top;
background-repeat: no-repeat;"></div></div>
</div><br><br>
<div style="margin-top: -100px;">
<div id="Hua03" style="">
<div align="left" style=""><font color="#ffffff">
</font><font size="5" style="color: rgb(255, 255, 255);">คล้อยหลังจาก</font><font color="#ffffff"> ที่เสียงฝีเท้าอาชาเงียบลงก็นับว่าเป็นช่วงเวลาที่นางได้อยู่กับตนเองบ้างหลังจากที่ไม่ได้ตัวคนเดียวเช่นนี้มาราว ๆ เกือบหนึ่งเดือนจากอากัปกิริยาที่ยืดกายเหยียดหลังตรงก็ค่อย ๆ หย่อนโค้ง มือทั้งสองที่ประสานที่ตักก็เลื่อนขึ้นมาเท้าคางกับโต๊ะหินอ่อนกลางศาลาหลังงามใต้ต้นหลิวดวงตากลมโตค่อย ๆ เหม่อมองออกไปไกลราวกับว่าห้วงคำนึงของนางนั้นหาได้อยู่กับปัจจุบันไม่ ก่อนหน้านี้แม้นางจะกล้าเอ่ยปากป่าวประกาศยืนยันว่าตำหนักนางนั้นเงียบสงบเพียงใด ทว่ามันก็ยังคงกลิ่นอายของการมีผู้คนเดินในตำหนักทว่าในตอนนี้นั้นราวกับย้อนไปครั้นเมื่อพระสนมเจี๋ยอวี้เป็นเพียงบุตรีคนรองของสกุลเว่ยเจียเท่านั้น ห้วงคำนึงของนางพลันฉายภาพวันวานเสียได้ดวงจิตลึก ๆ บัดนี้นั้นกลับต้องการใคร่รู้ถึงมารดาและเสี่ยวหมิงที่จวนเล็กข้างเรือนหลัก พวกนางจะไม่โดนกระทำกระไรใช่หรือไม่?
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><i style="color: rgb(255, 255, 255);"> สตรีโง่งมในรักเป็นเช่นไร ในใจนางสุดจะรู้ดีนัก
</i><br><br><font color="#ffffff">
ราว ๆ เกือบครึ่งชั่วยามที่นางนั่งเหม่อลอยไปไกล พลันมีแว่วเสียงของฝีเท้าม้าควบเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ ดวงตาที่ล่องลอยไปยังจวนเจ้ากรมโยธาธิการพลันกลับมาสู่ศาลาหลังงามและผินใบหน้าไปมองตามต้นเสียงนี้
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#48d1cc"> “ฉางซานเซียนหวาง ?”
</font><br><br><font color="#ffffff">
ภาพตรงหน้าของนางคือบุรุษรูปงามคุ้นเคย ฉลองพระองค์สีเข้มที่ปลิวสไวตามแรงลมพัดโบกจากการทรงม้า พระเนตรสีราตรีกาลแลเหมือนจะสบเข้ากับดวงตากลมของสตรีในศาลาหลังนี้ เว่ยเจียเหลียนฮวาค่อย ๆ หยัดกายขึ้นพร้อมกับวงคิ้วที่ขยับเข้าใกล้กับจนเกิดรอยย่นด้วยความสงสัยอย่างมากพระองค์คงไม่ตรัสกระไรบ้าบออย่างฝ่าบาทเรียกให้มาอยู่เป็นสหายระหว่างรั้งรอฝ่าบาทหรอกกระมัง—
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#9932cc"> “ตกใจหรือ ?” </font><font color="#ffffff">สุรเสียงทุ้มละมุนแลหวานหูกว่าโอรสสวรรค์เอ่ยขึ้นทันทีที่ทอดพระเนตรเห็นวงคิ้วงามผูกกันเป็นปมเชือกอย่างน่าขัน</font><font color="#9932cc"> “ทายสิว่าเปิ่นหวางมาได้อย่างไร ?”
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#48d1cc"> “คงเสด็จประพาสป่ากระมังเพคะอุทยานเม่าหลินนี้เป็นของราชวังนี่เพคะ”
</font><br><br><font color="#9932cc">
“เปิ่นหวางมาอยู่กับเจ้าต่างหาก”
</font><br><br><font color="#ffffff">
สิ้นน้ำเสียงทุ้มมือหนาพลันยกกรดาษใบหน้าที่พับอย่างดีราวกับสานส์ลับส่งต่อทางทหารกระไรสักอย่างอันเป็นสัญลักษณ์กลาย ๆ ว่าเขามิได้มาอยู่ตรงนี้ด้วยตนเอง
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#48d1cc"> “ฝ่าบาท ?”
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#9932cc"> “จะมีใครอีกเล่า”
</font><br><br><font color="#ffffff">
ร่างสูงโยนกายลงจากหลังม้าก่อนจะจูงมันเข้าใกล้ศาลาตอนแรกนั้นเขาก็จะหยุดเพียงนอกศาลาแล้วเอ่ยสนทนากับนางทว่าเมื่อก้าวเข้าใกล้ศาลาพร้อมกับอาชาสง่างาม กายบางพลันขยับถอยอย่างไม่รู้ตัวพร้อมกับดวงตากลมที่ทอดมองอาชาข้างกาย เช่นนั้นแล้วก็พอจะเข้าใจได้ถึงบางสิ่งจึงเลือกหักเลี้ยวไปผูกมัดที่เสาศาลาและก้าวเข้าไปสนทนาในศาลาแทน
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#9932cc"> “หลังจากนี้เปิ่นหวางจะพาเจ้าเที่ยวชมป่าเอง”
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#48d1cc"> “ขอบังอาจทูลถาม จากที่หม่อมฉันแลเห็น มีเพียงต้นไม้ สัตว์ป่า แล้วมีที่ใดให้เชยชมอีกหรือเพคะ”
<br><br>
</font><font color="#9932cc"> “อยากรู้หรือ? ตามเปิ่นหวางมาเสียสิ ไม่ไกลนี้มีบึงไม่กว้างเท่าไหร่ ทว่ากลับโอบล้อมด้วยต้นเหมยราวกับบึงเทพธิดาเชียว”
</font><br><br><font color="#48d1cc">
“ต้นเหมย ?” </font><font color="#ffffff">นางเอ่ยขึ้นมาด้วยความสงสัยพร้อมกับเดินไปหาผู้ที่จะเป็นคนพานางเที่ยวต่อจากนี้</font><font color="#48d1cc"> “เช่นนั้นแล้วหากไปยามนี้จะงดงามหรือเพคะ ?”
</font><br><br><font color="#48d1cc">
</font><font color="#9932cc"> “แต่มันก็ยังสวยอยู่ดี”</font><font color="#ffffff"> เขาเอ่ยก่อนจะดึงปิ่นโตในมือของนางไปผูกไว้กับถุงสัมภาระบนหลังม้าและโอบเอวบางเพื่อถือวิสาสะกระทำบางอย่าง</font><font color="#9932cc"> “ขออภัยพระสนม เปิ่นหวางขอบังอาจ”
</font><br><br><font color="#48d1cc">
“อ๊ะ–”
</font><br><br><font color="#ffffff">
ร่างบางลอยขึ้นตามแรงยกของสองแขนแกร่งไปขึ้นหลังอาชาสูงใหญ่ หลังบางเย็นวาบฉับพลัน ดวงตานั้นสั่นระริกอย่างสับสนและไม่อาจหักห้ามไม่ให้กายสั่นได้นางพยายามอดทนไว้ด้วยคิดว่าหลังจากที่ฉางซานเซียนหวางปลดเชือกที่มัดผูกแล้วคงจะโดดขึ้นหลังม้าเช่นฝ่าบาทกระมัง
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#9932cc"> “พระสนมทำตนให้สบายเดี๋ยวเปิ่นหวางจะพาเดินไปเอง”
<br><br>
</font><font color="#48d1cc">“ประเดี๋ยวเพคะ” นางเอ่ยขึ้นมาทันควัน “พระองค์…จะเดินเท้าหรือ ?”
</font><br><br><font color="#9932cc">
“แม้ในอยู่ในป่า ทว่าการป้องกันไว้ก่อนย่อมเป็นเรื่องที่ดี พระสนมเป็นสตรีของโอรสสวรรค์ ไหนเลยเปิ่นหวางจะล่วงเกินได้”
</font><br><br><font color="#9932cc">
</font><font color="#48d1cc"> “ช–เช่นนั้นแล้วหม่อมฉันขอลงเดินดีกว่าเพคะ”
</font><br><br><font color="#ffffff">
สิ้นวจีหวาน ฉางซานเซียนหวางเงยหน้าขึ้นต้องการเอ่ยถามว่าเหตุใดนางถึงเลือกเช่นนี้ทว่าเมื่อพินิจพิศมองให้ดีก็พบภาพของสตรีร่างบางสั่นเทาอยู่บนหลังอาชาสูงท่าทางที่สั่นกลัวนี้ดูมากเกินกว่าสตรีที่ไม่เคยขี่ม้าเฉย ๆ รอยยิ้มที่มักจะฉายชัดอยู่เสมอพลันจางลง มือแกร่งถือวิสาสะอีกครายกนางลงจากม้าครานี้…นางแลตัวเบาหวิวยิ่งกว่าครั้งก่อนราวกับลูกแมวขลาดโลกกว้าง
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#9932cc"> “ระยะทางอาจจะไกลเสียหน่อย พระสนมเดินได้จริงหรือ ?”
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#48d1cc">“ได้เพคะอย่างน้อยก็คงไปได้ไกลกว่าเมื่อครู่นี้”
</font><br><br><font color="#ffffff">
เรื่องส่วนตัวของสตรีไหนเลยเขาจะเอ่ยถามได้ แม้เป็นสตรีที่เขาสนใจอยู่พอควรราวกับใคร่รู้เรื่องของนางอยู่เรื่อยไปทว่าความรู้สึกนี้หากแสดงออกไปคงไม่เหมาะควรเท่าใดนักในเมื่อสตรีตรงหน้าเขาที่เพิ่งผละกายออกห่างทันทีที่สามารถยืนได้อย่างมั่นคง ทิ้งไว้เพียงไออุ่นในวงแขนและมือหนาดวงตาคมปรายมองมือที่ยังเหลือไออุ่นเพียงชั่วพริบตาก่อนจะเอามือหนึ่งข้างไพล่หลัง อีกข้างดึงสายจูงอาชาตัวเก่งให้เดินตามไปยังสถานที่ที่เขาเอ่ยก่อนหน้านี้
</font><br><br><font color="#ffffff">
ใช้เวลาราว ๆ เกือบหนึ่งก้านธูปได้ ทำเอานางแอบหอบเหนื่อยทีเดียวทว่าภาพบึงน้ำใสล้อมด้วยต้นเหมยที่ยังคงเขียวสดนี้แม้ไม่ใช่ภาพที่งดงามที่สุดในยามนี้ ทว่านางก็พอจะจินตาการออกว่าหากเป็นช่วงเหมันต์สีขาวพิสุทธิ์ ดอกเหมยขาวแย้มบาน บึงน้ำเกาะตัวเป็นแพน้ำแข็งภาพตรงหน้าคงงามงดมิใช่น้อย
</font><br><br><font color="#ffffff">
เว่ยเจียเหลียนฮวาก้าวไปริมบึงก่อนจะย่อกลายลงนั่งข้าง ๆ ยื่นมือบางไปกวักน้ำเย็น ๆ ชื่นใจแม้จะสัมผัสเพียงมือบางก็ตาม ทันใดนั้นเองหัวน้อย ๆ ก็นึกได้ถึงปิ่นโตที่นางเก็บของกินได้มาพร้อมร่างบางยืนขึ้นสะกิดเจ้าของอาชางามที่กำลังผูกมัดไว้กับต้นไม้ใหญ่แข็งแรง
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#48d1cc"> “เอ่อ…หวางเย่เพคะหากไม่เป็นการรบกวน…พระองค์ช่วยหยิบปิ่นโตที่พระองค์เอาไปไว้กับม้าได้หรือไม้เพคะ ?”
<br></font><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#9932cc"> “เปิ่นหวางจำไม่ได้นี่สิว่าผูกไว้ที่ใด”</font><font color="#ffffff"> ปิ่นโตงามผูกไว้ทนโท่ทว่ากลับเอ่ยเช่นนี้ ดวงตากลมเบิกกว้างอย่างไม่ปิดบัง การแสดงอากัปกิริยานี้เองเรียกเสียงหัวเราะจากเขาได้เป็นอย่างดี</font><font color="#9932cc"> “เปิ่นหวางหยอกเจ้าเล่นเอ้า”
</font><br><br><font color="#ffffff">
ด้วยความที่รับรู้ได้ว่าความกลัวของนางคือของจริงไหนเลยจะกล้าเย้าหยอกให้เกินเรื่องเกินราวร่างสูงเจ้าของยศฐาหวางเย่แห่งต้าฮั่นไปแก้มัดปิ่นโตออกมายื่นให้สตรีที่เป็นเจ้าของของมันเว่ยเจียเหลียนฮวาเมื่อได้รับปิ่นโตกลับมาแล้วก็เร่งเปิดดูขนมไหมฟ้าในปิ่นโตแลเห็ฯสภาพยังคงอยู่ดีก็พอใจ แม้มันจะไม่สวยงามเท่าเดิม ทว่ามันยังไม่กระจายแหลกสลายนับว่าสภาพดีแล้วไหนจะใบชาและกาน้ำชาที่ต้มน้ำเดือดได้ ชงชาได้ และถ้วยชาอีกเช่นนั้นแล้วสิ่งที่นางเอ่ยขออีกอย่างหวังว่าจะไม่เกินมือบุรุษตรงหน้า
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#48d1cc"> “...แม้ว่าจะเกินไปเสียหน่อยทว่าพระองค์พอจะก่อไฟให้หม่อมฉันได้หรือไม่ ?”
<br><br>
</font><font color="#9932cc"> “หากเปิ่นหวางทำแล้วจะได้สิ่งใด ?”
</font><br><br><font color="#48d1cc">
“น้ำชาอย่างไรเล่าหม่อมฉันจะได้ชงชาถวายพระองค์ได้”
</font><br><br><font color="#48d1cc">
</font><font color="#9932cc"> “รวมขนมไหมฟ้าสามชิ้น หากเจ้าตกลง กองไฟจะปรากฎสู่สายตาของเจ้าทันใด”
</font><br><br><font color="#48d1cc">
“!?! — ย ย่อมได้เพคะ”
</font><br><br><font color="#ffffff">
การแลกเปลี่ยนอันไม่ค่อยจะเท่าเทียมเท่าใดในสายตาของสตรีชมชอบการรับประทานขนมอยู่เรื่อยทว่าหากต้องรับประทานไหมฟ้าอย่างเดียวเกรงว่าจะบาดคอเอา จำต้องยอมเพื่อมีชาพร้อมจิบไม่นานนักกองไฟก็ปรากฎตรงหน้าอย่างแท้จริงสตรีผู้พ่วงยศพระสนมเจี๋ยอวี้ลงมือตักน้ำจากบึงใสขึ้นมาต้มจนเดือด ค่อย ๆ ลงมือชงชาเบญจมาศและแบ่งปันขนมไหมฟ้าแก่ฉางซานเซียนหวางไปพร้อมกับนั่งชมทิวทัศน์งดงาม</font><br><br>
</div>
<div style="color: rgb(255, 255, 255); text-align: center;"><br><br>
<img style="width: 75%;" src="https://i.imgur.com/LIeqPiH.png" border="0" alt=""> <br><br>
หลิว ชุ่น<br>
+5 พูดคุยประจำวัน<br>
+20 หัวดีโบนัสความสัมพันธ์<br>มีโอกาสได้โบนัสความสัมพันธ์ 10-20 ขึ้นกับโรลเพลย์</div><div style="text-align: center;"><font color="#ffffff">+20 ความสัมพันธ์ ขนมว่างเกรดทอง + (+5) ชาอะไรก็ได้</font><br><br><br>
<a href="home.php?mod=space&uid=1" target="_blank" style="color: rgb(255, 255, 255);">@Admin</a><br><br>
</div>
</div>
<div style="color: rgb(255, 255, 255); height: 500px; background-image: url("https://i.imgur.com/hr6FYuR.png"); background-repeat: no-repeat; background-size: cover;"></div>
</div>
</div>
</div></font></div>
<style>
#Hua01 {
border: 0px solid;
border-radius: 10px;
background-image: url("https://i.imgur.com/BQWz3NC.jpg"); }
#Hua02 {
border: 0px solid;
width: 75%;
box-shadow: #000000 5px 5px 5em;
background-color : #262341;}
#Hua03 {
border: 0px solid;
padding: 0px 50px;
width: 75%;}
#Hua04 {
border: 0px solid;
padding: 30px;
width: 300px;
box-shadow: #000000 5px 5px 5em;
background-image: url("https://i.imgur.com/meLD9VX.png");}
</style>
<link href="https://fonts.googleapis.com/css2?family=Charmonman:wght@400;700&display=swap" rel="stylesheet">
<link href="https://fonts.googleapis.com/css2?family=Zhi+Mang+Xing&display=swap" rel="stylesheet">
<div align="center">
<font face="Sarabun" size="3">
<div id="Hua01" style="">
<div id="Hua02" style="">
<div style="color: rgb(255, 255, 255); height: 500px; background-image: url("https://i.imgur.com/CvdPuBr.png"); background-repeat: no-repeat; background-size: cover;"></div>
<div style="margin-top: -300px; text-align: center;"><b style="">
<font color="#ffffff"><img height="300" src="https://i.imgur.com/8tE9Mcr.png" border="0" alt=""></font><br>
<span style="text-shadow: rgb(0, 0, 0) 5px 5px 10px;"><font size="6" style="color: rgb(255, 255, 255);"> ยามเหลียนฮวาเบ่งบาน</font><br><font size="4" style=""><font color="#ffffff"> วันที่</font><font color="#48d1cc">สามสิบเอ็ด</font><font color="#ffffff"> ชีเยว่ เจี้ยนหยวนศกที่สิบ</font><br><font color="#ffffff">กลางยามโหย่ว (18.30น.)</font></font></span></b><br><br>
<div style="color: rgb(255, 255, 255); margin-top: -300px;">
<div style="height: 378px; background-image: url('https://i.imgur.com/IYOjc3Z.png');
background-position : right top;
background-repeat: no-repeat;"></div></div>
</div><br><br>
<div style="margin-top: -100px;">
<div id="Hua03" style="">
<div align="left" style=""><font color="#ffffff">
</font><font size="5" style="color: rgb(255, 255, 255);">ด้วยราชกิจด่วน</font><font color="#ffffff">เกินหลีกเลี่ยงทำให้โอรสสวรรค์จำต้องผละจากการเสด็จประพาสอุทยานเม่าหลินและเอ่ยปากส่งพระราชสานส์ถึงพระอนุชาให้มาอยู่เป็นเพื่อนนางแทนพระองค์นับจากที่พระองค์ทรงออกจากผืนป่าก็ผ่านไปราวเกือบหนึ่งชั่วยามบุรุษผู้สวมอาภรณ์มังกรทองเร่งควบม้ากลับมายังศาลาเดิมที่นั่งร่วมกับนางล่าสุด หวังในดวงใจลึก ๆ อย่างไม่รู้ตัวว่าจะแลเห็นภาพของสตรีที่นั่งรอพระองค์เพียงใดทว่าเมื่อแลเห็นความว่างเปล่า ห้วงความคิดที่ว่านางไม่รอพระองค์แล้วก็แล่นเข้ามาในห้วงความคิด
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#c0c0c0"> “นางอยู่ที่บึงดอกเหมยพะยะค่ะ”
</font><br><br><font color="#ffffff">
องครักษ์เงาที่เขาเอ่ยสั่งการไว้หนึ่งคนเพื่อจับตาดูแลสตรีผู้ที่พระองค์จำต้องทิ้งไว้หนึ่งเดียวปรากฎกายรายงานแก่โอรสสวรรค์บนหลังม้าสุรเสียทุ้มทรงอำนาจเอ่ยขอบใจก่อนจะควบอาชาตรงไปยังเส้นทางที่คุ้นเคย ตรงเข้าไปทางทิศเหนืออีกไม่ถึงเค่อก็พบกับร่างของหนึ่งบุรุษหนึ่งสตรีกำลังยืนขึ้นเก็บข้าวของโดยมีกองไฟคอยคั่นกลางสร้างระยะห่างระหว่างพวกเขา
</font><br><br><font color="#ffffff">
<i> แลโล่งใจอย่างน่าประหลาด
</i></font><br><br><font color="#ffffff">
ทางเว่ยเจียเหลียนฮวาเมื่อได้ยินแว่วเสียงของอาชาเข้ามาใกล้ก็ผินใบหน้าไปตามต้นเสีย แลเห็นบุรุษในอาภรณ์มังกรทองประดับเกศาสีมะเกลือด้วยพระมาลามงกุฏหยกก็พลันขบขันอยู่ในทีอย่างตลกร้าย
</font><br><br><font color="#ffffff">
ไม่ว่าคนพี่หรือคนน้องนางเป็นใครกันถึงได้มีสองพี่น้องสกุลหลิวเวียนมาประกบไม่ห่างถึงเพียงนี้
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#48d1cc"> “ถวายพระพ—”
<br></font><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#ffff00"> “ค่ำมืดแล้วกลับวัง”
</font><br><br><font color="#ffffff">
ราวกับบอกปัดคำทักทายมากพิธีนี้ทิ้งเสีย พระองค์ลงจากหลังอาชาเดินตรงมาหาสตรีที่เดินชมอุทยานรั้งรอพระองค์ไม่หนีหายกลับวังเสียก่อน นับว่าการกระทำนี้ทั้งโง่งมและซื่อจนโอรสสวรรค์ประหลาดใจเชียวที่ได้ยินรายงานว่านางยังไม่กลับวังพระหัตถ์ผู้ทรงราชกิจอย่างเหน็ดเหนื่อยยื่นมาตรงหน้าสตรีผู้มีศักดิ์เป็นภรรยาตามกฎหมายเพื่อเชื้อเชิญให้นางมาทางร่างสูงก่อนที่จะจบด้วยการยกนางขึ้นไปบนหลังม้าและโยนกายขึ้นตามไป
</font><br><br><font color="#ffffff">
ภาพทั้งหมดนี้แน่นอนว่าล้วนอยู่ในครรลองสายตาขององค์หวางเย่แห่งต้าฮั่นผู้เป็นอนุชาของบุรุษสูงศักดิ์ที่เพิ่งโยนกายขึ้นหลังม้าโอบสตรีบางไปเป็นท่าทีที่ช่างติดอยู่ภายในใจยิ่งด้วยเหตุเพราะหากเป็นตัวเขาเองที่ต้องไปส่งนางถึงตำหนัก คงต้องเดินตลอดทาง ไม่อาจพานางขึ้นขี่อาชาทุ่นแรงได้เป็นแน่
</font><br><br><font color="#ffffff">
<i> ก็นางเป็นสตรีของเสด็จพี่…ไหนเลยจะอาจหาญต้องกายได้
</i></font><br><br><font color="#ffffff">
หลังจากนั้นก็เป็นภาพขบวนเสด็จอันมีเพียงโอรสสวรรค์กับพระสนมขี่อาชาตัวเดียวกับควบนำ ตามด้วยอาชาของฉางซานเซียนหวางผู้เป็นพระอนุชาแห่งองค์จักรพรรดิ ดวงพระเนตรคอมปลาบเหล่สายตากะระยะห่างก่อนจะเอ่ยเพียงเรียบสอบถามสตรีในอ้อมแขน
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#ffff00"> “เป็นอย่างไรบ้าง?”
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#48d1cc"> “อุทยานงดงามดีเพคะ”
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#ffff00"> “...แล้วกับอนุชาของเจิ้น— เจ้าสนทนากระไรบ้างหรือ ?”
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#48d1cc"> “ก็เพียง…เพียงแค่ต่อกลอนสักเล็กน้อย นั่งชมนกชมไม้ ชิบชาแกล้มขนมไหมฟ้าที่พระองค์พระราชทานให้ เพียงแค่นี้เพคะ”
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#ffff00"> “งั้นรึ”
</font><br><br><font color="#ffffff">
</font><font color="#48d1cc"> “เพคะ”
</font><br><br><font color="#ffffff">
แล้วก็กลับสู่ความเงียบเช่นเดิม ร่างบางที่เกาะแขนแกร่งอยู่เนือง ๆ พยายามปรับตัวให้ชินชากับการอยู่บนหลังอาชานางต้องทำใจแล้วกระมังว่าหากต้องเดินทางกับโอรสสวรรค์ หากไม่ขึ้นเกี้ยวไปเลยก็ควบอาชาไปเลย
</font><br><br><font color="#ffffff">
<i> รถม้าเล่า ราชรถพระองค์มีไว้ไยไม่ใช้งาน—
</i></font><br><br><font color="#ffffff">
แล้วก็เป็นเช่นนี้ตลอดทางกลับพระราชวัง ไปยังตำหนักเถียนเซี่ยอันเป็นตำหนักของสตรีผู้มียศฐาเป็นพระสนมเจี๋ยอวี้ของโอรสสวรรค์
</font><br><br>
</div>
<div style="color: rgb(255, 255, 255); text-align: center;"><br><br>
<img style="width: 75%;" src="https://i.imgur.com/LIeqPiH.png" border="0" alt=""><br><br>
ฮั่นอู่ตี้<br>
+20 หัวดีโบนัสความสัมพันธ์<br>
<br>
หลิว ชุ่น<br>
+20 หัวดีโบนัสความสัมพันธ์<br>
<br><br>
+15 บารมี ทำกิจกรรมสันทนาการกับหวงตี้(ขี่ม้าอีกแล้ว (?))<br><br>
<a href="home.php?mod=space&uid=1" target="_blank">@Admin</a><br><br>
</div>
</div>
<div style="color: rgb(255, 255, 255); height: 500px; background-image: url("https://i.imgur.com/hr6FYuR.png"); background-repeat: no-repeat; background-size: cover;"></div>
</div>
</div>
</div></font></div>
<style>
#boxcorecenter {
border: 0px solid #152cd5;
padding: 15px;
box-shadow: #504C4E 0px 0px 1em;
background-image: url("https://i.imgur.com/J5ZfEJ2.png");
}
</style>
<style>
#boxR0LE {
width: 600px;
border: 0px solid #cbb989;
padding: 35px;
box-shadow: #504C4E 0px 0px 1em;
background-image: url("https://i.imgur.com/PNPim8Q.png");}
</style>
<div id="boxcorecenter">
<div align="center">
<br><br>
<div id="boxR0LE">
<img width="450" src="https://i.imgur.com/aDtIaPZ.png" border="0" alt="">
<br><font face="Chonburi"><font size="5"><font color="#994D7B"><span style="text-shadow: #ffffff 0px 0px 0.7px, #ffffff 0px 0px 25px, #ffffff 0px 0px 10px;">
<i><b>อาชาหาญกล้ากับนางฟ้าฝูหรง</span></b><br><font face="Sarabun"><font size="2">วันที่ 4 เดือน 8 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 10<br>เวลาสิบห้านาฬิกาเป็นต้นไป</i><br></font></font></font></font></font>
<br>
<div align="left">
<font face="Sarabun"><font size="3">
<p style="text-indent: 2.5em;">ราชรถมังกรเคลื่อนตัวช้า ๆ ตลอดเส้นทางทิศเหนือพร้อมด้วยขบวนยาวห้อมล้อมทั้งหน้าหลังนำพาพวกเขาสู่พื้นที่ซึ่งเปี่ยมไปด้วยแมกไม้และสิ่งมีชีวิตนานาพันธุ์อันน่าพิศวง กว่าจะมาถึงมุดหมายที่เหมาะสำหรับตั้งกระโจม เวลาก็ล่วงเลยมาถึงกลางยามเซินแล้ว หลังจากวนไปวนมาอยู่สองสามรอบในที่สุดโอรสสวรรค์ก็ต้องละทิ้งเป่าหมายบุกเบิกพื้นที่แถบใหม่สำหรับยึดเป็นจุดพำนัก และเลือกใช้ที่ราบสูงแห่งเดิมตามธรรมเนียมการเสด็จประพาสป่าที่มักจะมีพื้นที่อันเหมาะสำหรับตั้งกระโจมรองรับไว้อยู่แล้ว
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
แม้ฝ่าบาทจะทิ้งสนมรักไว้กับรถม้าเพียงเพราะมีบทสนทนาลับกับสหายที่ไม่ควรแพร่งพรายก็ไม่วายเหลือเพื่อนแก่เหงาไว้ให้นางถึงหนึ่งคน เพื่อนแก้เหงาผู้นี้ถูกคัดสรรมาอย่างดีผ่านการยอมรับจากรอบข้างรวมไปถึงช่วยเสริมภาพลักษณ์จักรพรรดิผู้โปรดปรานในตัวนางได้ดีเพิ่มขึ้นไปอีกขั้น …เพราะอะไรนะหรือ?
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#980000">
“ ตลอดระยะเวลานับจากนี้ลู่เจี๋ยยวี่จะต้องพำนักร่วมกับฝ่าบาทภายในกระโจมใหญ่ซึ่งจะตั้งอยู่บริเวณนี้… ”</font> เพราะเขาถึงกับทิ้งจางกงกงขันทีคนสนิทผู้อยู่ชิดติดกายตลอดหลายปีไว้ให้ดูแลนงคราญน้อย เหล่าขุนนางที่ไม่มีโอกาสได้รับรู้เรื่องของฝ่ายในไหนเลยจะทราบว่าเหตุที่จางกงกงประพฤติตัวนอบน้อมกับนางถึงเพียงนี้ย่อมเป็นเพราะทั้งสองมีข้อตกลงช่วยเหลือจุนเจือในแบบที่ผู้อื่นยากจะเข้าใจ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#994D7B">
“ มีอะไรที่ข้าต้องระวังหรือไม่? ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#980000">
“ ตราบเท่าที่ท่านอยู่ในสายตาของฝ่าบาทและคนของฝ่าบาทย่อมไร้เภทภัยอย่างแน่นอน ”</font> จางกงกงตอบกลับด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มทว่าแววของความสำราญนั้นกลับไปไม่ถึงดวงตาของเขา.. ไป๋หรั่นลอบขมวดคิ้วทีละน้อย นางเติบโตมาพร้อมกับการจับวี่แววบนใบหน้าและสายตาของผู้คนแล้วทำไมจึงจะไม่ทราบว่าประโยคนั้นของเขาแฝงไว้ซึ่งคำเตือน แต่เมื่อคิดจะเอ่ยปากถาม กลับไร้จังหวะที่เหมาะสม
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#D4AC0D"><b>
“ เจี๋ยยวี่ ”</font></b>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
สุรเสียงมังกรร้องเรียกโฉมงามให้หันมาพบหน้าสบตา โอรสสวรรค์ในภูษาสีนิลยังคงองอาจน่าเกรงขามทว่าสิ่งที่เปลี่ยนไปนั้นมีเพียงรูปแบบฉลองพระองค์ที่ไม่ได้รุ่มร่ามอลังการเท่าแต่ก่อน ในเมื่อผู้เป็นสวามีปรากฏตัวขึ้นเช่นนี้แล้ว ภรรยาในโอวาทเช่นนาง(?)จะให้ยืนสนทนากับชายอื่นต่อไปก็คงชวนให้คนรู้สึกผิดหูผิดตาเกินไปหน่อย นงคราญหยกเยื้องย่างเข้าหากายของผู้เปรียบดั่งมังกร <font color="#994D7B">“ กระโจมพึ่งเริ่มตั้ง ยามนี้ยังไม่พร้อมให้รับรองนัก ฝ่าบาทประทับที่รถม้าก่อนดีหรือไม่เพคะ? ” </font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
หลิวเช่อเมื่อได้ฟังคำนางแล้วก็ชำเลืองตาไปมองกลุ่มคนที่ช่วยกันตั้งกระโจม ส่วนมากแล้วขุนนางทั้งหลายในราชสำนักกำลังง่วนอยู่กับการจัดกระโจมของตัวเอง ส่วนขันทีที่ติดสอยห้อยตามมากับขบวนก็กำลังรับหน้าที่ตั้งกระโจมใหญ่ของจักรพรรดิแต่ก็อย่างที่เห็น .. จนถึงตอนนี้ก็ยังตั้งได้ไม่เสร็จดี
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#994D7B">
“ กระโจมของใต้เท้าซานกงทั้งสามเองก็ยังไม่เรียบร้อย ข้าให้นางกำนัลจัดชาให้พวกท่านดื่มสักชุดก่อนดีหรือไม่? ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
หากเป็นสตรีอื่นเชื่อว่ายามนี้คงปรี่ไปเอาอกเอาใจฝ่าบาทแค่เพียงผู้เดียว นึกไม่ถึงว่าจะยังมีใจหันมาเหลียวแลสามคุณชายอันดับแรก ๆ ของฉางอัน การตอบสนองของซานกงทั้งสามล้วนแตกต่างกันไปตามลักษณะนิสัยของพวกเขา ผิดกับครั้งก่อน ๆ หนนี้ตงฟางซั่วเป็นชายคนแรกที่ตอบปฏิเสธออกมาด้วยท่าทางสงบนิ่ง <font color="#6C94B0">“ ไม่ขอรบกวนลู่เจี๋ยยวี่ ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#CE8E42">
“ ข้าว่าจะไปช่วยพวกเขาตั้งกระโจมพอดี พระสนมอย่าได้ลำบากเลย ”</font> คนต่อมาคือเว่ยชิงที่กล่าวอย่างสัตย์จริงพร้อมรอยยิ้มอบอุ่นในฉบับของนายพลที่ชวนให้สาวงามนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง ทั้งที่เขาไม่ใช่บัณฑิตผู้ชำนาญในจารีตประเพณีแต่กลับสามารถให้ความรู้สึกปลอดโปร่งสบายใจได้ท่ามกลางดงอัจฉริยะเหนือหมู่มวลมนุษย์ คนเช่นนี้ทั้งที่ไม่จำเป็นต้องพยายามยังสามารถเรียกว่าโดดเด่นมากเอกลักษณ์ได้โดยท่องแท้
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#4D8563">
“ เช่นเดียวกับพวกเขา ข้าน้อยไม่ขอรบกวน ”</font> ผู้เคยลิ้มลองรสชาติจากยอดฝีมือไหนเลยจะโลภในชาหนึ่งป้านของนางกำนัลน้อยเพียงผู้เดียว ชายผู้ครองดวงหน้าสลักเสลาเคล้าแววงดงามเหลือบมองโฉมสะคราญที่ยิ้มรับและหันไปถามไถ่คู่สมรสของตนด้วยความเป็นห่วงเป็นใยอีกเล็กน้อย น่าเสียดายที่นางไม่ทันได้รู้ตัวเลยว่าการปฏิเสธครั้งนี้มีเงื่อนงำ แต่ก็อย่างว่า.. วิธีการแสดงความเป็น <b>‘ เจ้าข้าวเจ้าของ ’</b> ของโอรสสวรรค์นั้นเงียบงันทว่าได้ผลชะงัดนัก ใครเล่าจะกล้าหืออือ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#994D7B">
“ เข้าใจแล้ว.. เช่นนั้นให้ใต้เท้าซานกงทั้งสามแยกตัวไปก่อนดีหรือไม่เพคะฝ่าบาท? ” </font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#D4AC0D">
“ อืม ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ดูท่าโอรสสวรรค์จะชอบใจในการตัดสินใจของสนมรักอยู่ไม่น้อยที่นางยังไม่มองข้ามตนทั้งยังสามารถพลิกตัวกลับมาถามไถ่ความเห็นได้อย่างแนบเนียน ในขณะนี้ที่พวกเขาต่างหยุดนิ่งอยู่กับที่ ย่อมเป็นการปล่อยให้สายตาราวเหยี่ยวของขุนนางทั้งหลายจดจ้องประหนึ่งหมายที่จะมุ่งเข้ามาแทรกกายฟังบทสนทนานี้ นางเป็นคนฉลาด ให้เกียรติซานกงก็เหมือนต่อทางรอดให้ตัวเอง หลิวเช่อหลุบตาลงมองนางหนึ่งครั้ง เมื่อเห็นว่าเจี๋ยยวี่ที่ยศยังถือว่าต่ำกว่าซานกงทั้งสามต้องเป็นฝ่ายย่อกายลงอำลาก่อนก็พลันขมวดคิ้ว
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#994D7B">
“ บทสนทนาของสตรีค่อนข้างน่าเบื่อ เดิมทีหม่อมฉันมิทราบว่าสมควรทำให้พระองค์เกษมสำราญอย่างไร ใต้เท้าทั้งสามที่ร่วมผ่านศึกทั้งนอกและในมากับพระองค์จึงเป็นตัวเลือกของคู่สนทนาที่เหมาะสม แต่ในบริบทที่พระองค์ทรงพาสนมมาด้วยแล้วนี่.. หากรั้งตัวขุนนางไว้สนทนาเกรงว่าจะไม่เหมาะ ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ตลอดทางที่เดินเคียงข้างประหนึ่งนกยวนยางโบยบินเคียงคู่ โอรสสวรรค์เฝ้าฟังความเห็นที่ลอดมาจากกลีบปากน้อยสีสดนั้นด้วยความสงบนิ่ง สิ่งที่นางคาดการณ์ล้วนถูกต้อง ทั้งสามคือไม่กี่ชีวิตที่เหมาะแก่การสนทนา แต่ภายใต้สายตาหลายคู่ที่จับจ้อง หนนี้เขาพก <b>‘ คนของตัวเองมา ’</b> ย่อมสมควรอยู่กับคนของตัวเอง แม้การกระทำของนางจะมีส่วนที่ไม่ได้ปรึกษาก่อน แต่ก็เป็นการทำโดยคำนึงถึงเขา อีกทั้งเรื่องก็ไม่ได้ส่งผลมาในด้านลบ กลับกันยังเป็นผลดีต่อนางที่สามารถแสดงความเมตตาต่อหน้าผู้คนได้
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#D4AC0D"><b>
“ ทำได้ดี ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#D4AC0D">
“ ทว่าคราวหลังมิต้อง ”</font></b>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ประโยคนี้สะกิดให้ผู้ฟังใบหน้าชาวาบ ไป๋หรั่นเก็บสายตาลงทีละน้อยอย่างเจียมตัว อากัปกิริยานี้ไม่ได้ชวนให้รู้สึกเวทนาแต่กลับส่งเสริมให้นงคราญดูสงบนิ่งไม่ไหวติงคล้ายรับได้กับทุกบริบทที่ยัดเยียดให้นางเดิน จนทำให้ฮั่นอู่ตี้ที่เดิมขมวดคิ้วอยู่แล้วก็ยิ่งมุ่นคิ้วเข้าหากัน
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#D4AC0D"><b>
“ เหตุใดจึงโง่งมนัก ”</font></b>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
คำถามนี้ของเชาทำเอานางเองก็ไปไม่เป็น ในระหว่างที่ริมฝีปากน้อยเผยอออกอย่างงุนงง ทั้งสองก็เดินมาจนถึงราชรถหลวงคันเดิมที่เคยนั่งเมื่อครั้งเดินทางมาที่อุทยาน แต่แทนที่จะมีใครก้าวเข้าไปด้านในราชรถ หนึ่งในสองที่เปี่ยมไปด้วยอำนาจบารมีรวมไปถึงรูปโฉมทรัพย์สินก็ออกปากสั่งมาแค่คำเดียวก่อนจะสะบัดแขนเสื้อเร่งเดินเลยไปอีกทาง
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#D4AC0D">
“ เอาของในกล่องของเจ้าออกมาเสีย เจ้ามีที่ที่ต้องไปกับเจิ้น ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
อย่างที่คิด ผู้ชายอย่างฮั่นอู่ตี้.. เข้าใจยากยิ่งกว่าใครในใต้หล้านี่แล้ว
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
เรือนร่างอรชรราวจิ้งจอกจำแลงเคลื่อนตามรอยเท้ามังกรเพียงหนึ่งในบริเวณนี้ด้วยความฉงนใจ ข้างเอวอ้อนแอ้นมีกระบี่คู่ขาวราวหยกแขวนไว้พร้อมกับมีดแล่เนื้อสัตว์ที่ค่อนไปทางด้านหลังดูไม่ต่างอะไรจากชาวยุทธ์พเนจรอันแสนปราดเปรียวที่โดดเด่นในหน้าตาชนิดที่ควรเรียกว่าเป็น <b>‘ เซียนหญิงพเนจร ’</b> สุดปลายทางที่นางกำลังเดินไปนอกจากร่างสูงเพรียวของสวามีแล้วยังมีม้าสูงใหญ่ที่ทั้งกายแดงฉานราวกับถ่านเพลิงดูแล้วดุร้ายทั้งยังพยศเก่งเป็นอย่างมาก
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ลู่ไป๋หรั่นมองแผ่นหลังกว้างที่ใช้มือจับสายขลุมบนหน้าม้ารั้งให้สิ่งมีชีวิตตัวโตไม่ตื่นตระหนกหรือเตลิดหนีไปแห่งหนอื่น ภาพเช่นนี้ใช่ว่านางไม่เคยเห็น.. พูดให้ถูกคือเคยเห็นมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน อย่างไรเสียนางก็เป็นธิดาตระกูลที่ทำการค้าขายหลายครั้งต้องพึ่งพาอาศัยม้าเป็นพาหนะในการเดินทางไม่ว่าจะระยะสั้นหรือไกล แม้ตัวนางจะไม่ใช่คนที่ขี่ม้าเก่งอย่างพี่ชายแต่ก็เคยเห็นอีกฝ่ายปราบพยศสิ่งมีชีวิตสี่ขาสูงใหญ่นี่มาหลายตัว
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ราวกับรับรู้ได้ว่ามีผู้อื่นมาถึงที่บริเวณนี้ ม้าสีชาดกู่ร้องก้องกังวานคล้ายไม่ยินดีที่มีผู้อื่นมาพบเห็นมันกับเจ้านาย ผิดกับฝ่ายชายผู้บงการสรรพสิ่งที่กล่าวแม้จะไม่ได้หันมองว่า <font color="#D4AC0D">“ มาใกล้ ๆ ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
นางไม่มีทางเลือกอื่นมากนัก สาวงามก้าวเท้าเข้าไปทีละก้าว ทีละน้อยจนกระทั่งยืนอยู่ห่างจากทั้งสองไม่ถึงหนึ่งช่วงแขนถึงสัมผัสได้ถึงความงดงามน่าเกรงขามของม้าใหญ่พันธุ์ประหลาดที่คล้ายจะ.. มีเหงื่อแดงราวโลหิต <font color="#994D7B"><i>“ เป็นม้าดีนัก.. ”</i></font> เมื่อเห็นว่าผู้มาใหม่ไม่มีเจตนาร้ายทั้งยังชื่นชมเทิดทูน สิ่งมีชีวิตสี่ขาที่กระจ่างแจ้งในการรับรู้ห้วงอารมณ์ก็เชิดหน้าขึ้นรับคำชมนั้นราวกับรู้ดีอยู่แก่ใจ สร้างความขบขันระคนหมั่นไส้ได้เป็นอย่างดี
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#D4AC0D">
“ พูดอีก ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#994D7B">
“ เพคะ? ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
หลิวเช่อตอบกลับเสียงขานรับสูงของสนมตนด้วยการปรายตามองเพียงหนึ่งครั้ง
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
แล้วทำไมถึงต้องเป็นนางที่ยินยอมให้เขาบงการได้ดั่งใจอยู่เรื่อย สาวงามผุดผาดราวหยกขาวสูดหายใจเข้าก่อนจะเริ่มพูดต่อในแบบที่คาดว่าอีกฝ่ายคงต้องการให้นางพูด <font color="#994D7B">“ หม่อมฉันไม่เคยพบม้าใดงามเท่านี้มาก่อนเลยเพคะ ทั้งท่วงท่า หน้าตา รูปลักษณ์ องอาจกำยำยิ่ง ”</font> นับเป็นเรื่องมหัศจรรย์มากที่ยิ่งพูดไปบรรยากาศโดยรอบของม้าโลหิตก็ยิ่งอ่อนลง ดูท่ามันคงต้องการที่จะรับฟังคำชมเชยเช่นนี้มานานแล้วแต่กลับไม่สามารถได้รับคำพูดใด ๆ เหล่านี้จาก.. <i>ผู้เป็นนาย</i>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ไป๋หรั่นชำเลืองตามองโอรสสวรรค์เองที่ก็คลายท่าทางตึงเครียดลงด้วยความประหลาดใจ การปราบพยศม้าหนึ่งตัวหากเป็นปกติแล้วฮั่นอู่ตี้คงไม่เสียเวลามาประนีประนอมเช่นนี้แน่แล้วเหตุใ—-
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ร่างของนางจิ้งจอกหิมะผุดผาดถลาเข้าสู่อ้อมแขนเขา เพียงแค่มือหนาทาบลงคว้าหลังฝ่ามือขาวแล้วดึงให้ก้าวมายืนตรงด้านหน้าโดยมีร่างสูงของเขาซ้อนหลังอย่างแนบชิดก็คล้ายร่างกายจะไร้เรี่ยวแรงขึ้นมาเสียดื้อ ๆ ใจดวงน้อยเต้นระส่ำอย่างยากจะอธิบายว่าเป็นการสั่นไหวที่มาจากความตื่นตระหนกเมื่อถูกลากให้เผชิญหน้ากับสัตว์สูงใหญ่โดยกระทันหัน หรือเป็นเพราะการแนบชิดเกินความจำเป็นที่ช่วยปลุกปั่นให้ความคิดแตกกระเจิง
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
มือนุ่มนิ่มของนางแนบอยู่กับหน้าผากม้าที่ก้มหน้าลงรับสัมผัสโดยมีมือหยาบกร้านของเขาทาบกดไม่ให้นางชักมือหนี <font color="#D4AC0D"><b>“ มันรั้นนัก ”</b></font> เขาพูด <b><font color="#D4AC0D">“ แม้จะแข็งแรงแต่ก็ดุร้าย ไม่ปลอดภัยหากพาเจ้าขึ้นขี่โดยไม่รู้จักกับมันก่อน ”</b></font> ทั้งเสียงทุ้มเรียบไร้อารมณ์กับลมหายใจกรุ่นร้อนที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายหยางของบุรุษเพศรดอยู่เหนือใบหูและเรือนกายที่เย็นฉ่ำนิ่มนวลราวกับต้องการจะฝังตัวตนนี้ทับลงกับเอกลักษณ์ที่งามอย่างยิ่งยวด
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ไป๋หรั่นพูดบางอย่างออกมาทว่าเสียงของนางเบาหวิวยากจะฟังออก จนผู้ที่ซ้อนอยู่ด้านหลังต้องโน้มลงมาผนวกกับใบหน้าหวานที่หันไปหมายจะบอกให้เพิ่มระยะห่างสักหน่อยจนกลายเป็นเปิดช่องให้ปลายจมูกเชิดรั้นนั้นสัมผัสเฉียดเนื้อแก้มของโอรสสวรรค์ไปแค่เพียงนิด ก่อนที่ทั้งสองจะหยุดนิ่งราวกับถูกแช่แข็งด้วยความตกใจ หนึ่งเนตรมังกร กับหนึ่งเนตรหงส์สบมองในระยะประชิดด้วยความรู้สึกที่กระจัดกระจายกันไปคนละทาง หลิวเช่อไม่โปรดปรานการใกล้ชิดสตรี ลู่ไป๋หรั่นก็มิเคยต้องตัวชายใดชิดใกล้ถึงเพียงนี้ ทว่าต่างฝ่ายกลับสัมผัสได้ถึงกระแสความคิดที่เงียบงันแต่กลับอันตรายยิ่งนัก
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><i>
ฮี่ ~</i>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
เสียงร้องของม้าช่วยชีวิตโดยแท้ .. คราวนี้ผู้ที่ได้สติก่อนคือฮั่นอู่ตี้ที่รั้งแผ่นหลังให้กลับไปเหยียดตรงดังเช่นเคย โอรสสวรรค์คลายแววขึงขังที่หว่างคิ้วพลางใช้แขนโอบรอบเอวบางและอุ้มนางขึ้นกลางอากาศ ด้านหญิงสาวที่อยู่ดี ๆ ก็ถูกยกกายขึ้นถึงกับหลงลืมบรรยากาศบีบรัดหัวใจเมื่อครู่เปลี่ยนมาเป็นหวีดร้องสั้น ๆ ก่อนที่ทั้งร่างจะถูกโยนให้พลิกเปลี่ยนเป็นหันไปอีกด้านอยู่ภายในอ้อมแขนของเขา
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><i>
อะไร?? นี่มันอะไร??? </i>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ไม่ทันได้คำตอบของสิ่งที่ค้างคาอยู่ในใจ รู้อีกทีนางก็ถูกยกให้ขึ้นไปนั่งคร่อมอยู่บนหลังม้าทั้งที่สติยังไม่ครบถ้วน
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#D4AC0D">
“ นั่งให้ดี ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
หลิวเช่อกำชับเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะเหวี่ยงตัวเองขึ้นมาร่วมนั่งบนหลังม้า ยังคงเป็นการใกล้ชิดเกินงามของชายหญิงที่ถูกปัดให้เข้าสู่เกณฑ์เข้าใจได้เพียงเพราะนางเป็นสนมของเขา.. ไป๋หรั่นลอบหัวเราะเสียงเย็นอยู่เพียงลำพัง นางไม่ได้แข็งทื่อเป็นตอไม้หรือขัดขืนอย่างผู้ที่เขลาจนไม่เข้าใจสถานการณ์ เทพธิดาหยกขาวปล่อยกายนั่งบนหลังม้าอย่างมั่นคงและใช้มือจับบริเวณที่นูนขึ้นของอานม้าด้วยความเคยชินโดยมีสองแขนแกร่งลอดผ่านวงแขนบางเพื่อขยับไปจับสายบังเหียน
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#D4AC0D">
“ กลัวหรือไม่ ”</font> เขามีเด็กสาวที่หวาดกลัวม้าถึงขนาดตัวสั่นเป็นลูกนกยามที่อยู่เฉียดมัน ทั้งยังมีเด็กสาวประหลาดอีกคนหนึ่งที่ขับเคี่ยวเชี่ยวชาญถึงขนาดเคยเร่งม้าหนีเงื้อมมือตนจนเกือบเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโต แล้วสตรีผู้นี้เล่า..? คนที่โดดเด่นถึงขนาดมีชื่อลอยมาให้ได้ยินไม่เว้นวัน แต่กลับใช้ชีวิตอย่างสงบเสงี่ยมอยู่เป็นลมใต้ปีกเขาอย่างเงียบเชียบ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#994D7B">
“ ไม่เพคะ ”</font> ถึงจะสงสัยอยู่ไม่น้อยว่าเหตุใดถึงมีการถามไถ่ที่ดู..ไม่คล้ายนิสัยเขาเท่าใดนัก แต่ก็พอเข้าใจได้ว่าคงเป็นความต้องการที่จะลดเรื่องน่ารำคาญอย่างเช่นทำให้นางตระหนกจนเป็นลมเป็นแร้งอยู่บนหลังม้ากระไรแบบนี้กระมัง? ดังนั้นนางจึงตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ไม่แฝงไว้ทั้งความสงสัยหรือหวั่นใจ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#D4AC0D">
“ พิงมา ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#994D7B">
“ เพคะ? ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
สถานการณ์อะไรแบบนี้เหมือนจะวนมาเป็นรอบที่สองแล้ว หลิวเช่อไม่สบอารมณ์เล็กน้อยที่คนว่าง่ายอย่างนางมักมีท่าทีสับสนก่อนทุกครั้งที่จะยอมคล้อยตามเขาเช่นเดียวกับคนอื่น ๆ ที่โดดเด่นไม่แพ้กัน .. เด็กสาวพวกนี้เป็นอะไรกันหมด เหตุใดถึงชอบให้เขาต้องออกคำสั่งซ้ำ ๆ นัก ฉะนั้นครั้งนี้เมื่อมาถึงขีดจำกัดที่มีไว้สำหรับรับมือสตรี ในที่สุดหลิวเช่อก็เลือกวิธีการดั้งเดิมด้วยการ <b>‘ ทำโดยไร้คำอธิบาย ’</b>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
เสียงหวีดร้องของนางดังขึ้นพร้อมเสียงควบม้าให้โลดแล่นในเส้นทางของป่าใหญ่ไปอย่างรวดเร็ว ลู่ไป๋หรั่นยกมือข้างหนึ่งตะครุบปิดริมฝีปากเพื่อห้ามไม่ให้เสียงใดเล็ดลอดออกมาสร้างความตื่นตระหนกให้ผู้อื่น ในขณะเดียวกันนั้นร่างบางก็เอนพิงแนบชิดไปกับอกกว้างซึ่งพร้อมเป็นที่พักพิง ตลอดทั้งร่างฝ่าไปกับสายลมและหมู่แมกไม้โดยมีผู้ร่วมเผชิญประสบการณ์นี้ไปพร้อมกับนาง สำหรับเขาการเคลื่อนไหวราวพายุที่ซัดมาและผ่านไปนับว่าเป็นความเคยชินอย่างหนึ่ง แต่ทั้งหมดนี้ไม่ใช่สำหรับนาง
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
จากความเร็วที่ควบคุมได้ยากจนเผยให้เห็นความสามารถของผู้ที่บงการทุกการเคลื่อนไหวของอาชากำยำค่อย ๆ เปลี่ยนมาเป็นความเร็วที่พอให้มองทิวทัศน์รอบตัวผ่านตาได้แบบไว ๆ ก่อนที่ความเร็วจะลดลงอีกเมื่อหลิวเช่อสัมผัสได้ถึงกระแสกลิ่นหอมจรุงจิตของดอกฝูหรงเร้นลับที่คละคลุ้งไปทั่วบริเวณคล้ายว่าลอยมาตามลม
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#994D7B">
“ กลิ่นหอมนี้มัน.. ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
เสียงพึมพัมต่ำลงจากช่วงสายตาทำให้หลิวเช่อก้มลงไปมองผู้ที่ตนพามาร่วมเดินทาง จากความงามน่ารักเมื่อเข้าสู่วัยสะคราญของเหล่านวลนางเพียงพริบตาก็ผลิบานเป็นยั่วเย้ายวนใจ ยามที่ได้เห็นโฉมงามระบายยิ้มจรรโลงใจพลางหลับตาพริ้มเพื่อสูดรับอากาศที่อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของทุ่งดอกไม้หากมิใช่หินผาก็คงต้องมีสั่นไหวเป็นธรรมดา ทว่าฮั่นอู่ตี้หลิวเช่อกลับเป็นสิ่งมีชีวิตที่เติบโตมาเยี่ยงเหล็กกล้า เขาพิศมองคราแรกคล้ายไม่ใส่ใจกระทั่งมองคราที่สองถึงได้มีแววสั่นไหวในเนตรคมก่อนจะเลือนหายคล้ายไม่เคยมี
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><i>
ราวกับหากมองมากกว่านี้จะจมลงสู่ห้วงทะเลหยกงามนับอนันต์ <br><p style="text-indent: 2.5em;">
ราวกับหากคิดเฟ้นหาต้นตอของกลิ่นบุปผาแล้วจะยากถอนไถ่ตัวกลับมาได้ </i>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
เปลือกตาของโอรสสวรรค์ปิดลงพลางสูดหายใจเข้ารับกลิ่นหวานที่มอมเมาสติ เขากระชับสายบังเหียนในมือและกระตุกนำม้าหันเบี่ยงไปอีกทาง ทั้งสองหันหลังให้กับเส้นทางพิศวงที่เปิดออกรับการผจญภัยของหนึ่งผู้ครองอาณัติสวรรค์และอีกหนึ่งเทพธิดาที่คล้ายจะมีวาสนาชะตาต้องกัน ทว่าหลิวเช่อไม่ยินยอม เส้นทางของเขา เขาย่อมเป็นผู้ขีดเขียน ทางเลือกของเขาเองก็เช่นกัน
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#D4AC0D"><b>
“ เจิ้นไม่เบื่อ ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#D4AC0D">
“ เจ้าพูดมาเถอะ ”</font></b>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
โอรสสวรรค์ยังคงจดจำคำพูดของนางได้ว่าบทสนทนาของสตรีนั้นน่าเบื่อเพียงใด ถึงกระนั้นเขาก็ยังกล่าวขึ้นมาด้วยท่าทางสงบที่ไม่บ่งบอกว่าคิดหรือรู้สึกอะไรถึงได้ตัดสินใจเช่นนี้.. อาจเป็นเพราะต้องการทำความรู้จัก? หรือไม่ก็เป็นอารมณ์ชั่ววูบจากความสบายใจที่มีต่ออีกฝ่าย อาชาโลหิตหันกลับมาในทางที่พวกเขาเคยผ่าน หลิวเช่อตั้งเวลาไว้ให้ตัวเอง.. ตลอดเส้นทางที่มุ่งมาวิ่งเร็วสลับช้าก็ยังกินเวลาไปไม่มากไม่น้อย ถ้าเช่นนั้นขากลับก็คงไม่มากไม่น้อยพอกัน
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
โดยไม่หวนนึกขึ้นมาเลยว่าตลอดทั้งทางตั้งแต่วกม้ากลับพลางฟังเสียงโฉมงามบอกเล่าเรื่องราวชีวิตไปอย่างแช่มช้าเขาจะไม่เคยเร่งความเร็วม้าให้มากไปกว่าการเดินเหยาะ ๆ เลยแม้แต่นิดเดียว
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
…
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
“ ฝ่าบาทยังไม่เสด็จกลับมา หรือว่ามีเหตุร้ายเกิดขึ้น? ”
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
เสียงซุบซิบของขุนนางขั้นจิ่วชิงทำให้สีหน้าของซานกงบางส่วนหม่นลงตามท้องนภาก็เริ่มเข้าสู่ยามสนธยาจึงได้ระบายสีหม่นผสานเข้ากับแสงระเรื่อสีส้มอันเป็นสัญญาณบอกถึงดวงตะวันที่ใกล้จะลาขอบฟ้าไปทุกที เหล่าคนสนิทของฝ่าบาทล้วนทราบว่าอีกฝ่ายเก่งกาจสามารถรับมือได้กับทุกสถานการณ์โดยลำพัง ทว่าหากปลีกตัวออกไปเนิ่นนานถึงเพียงนี้ย่อมสร้างแรงสะเทือนให้กับขุนนางได้เป็นวงกว้าง
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#6C94B0">
“ เกรงว่าฝ่าบาทคงลืมไปแล้วว่ายังมีคนรอให้เขากลับมา ”</font> ตงฟางซั่วกล่าวขึ้นในขณะที่กำลังจิบชาเบญจมาศที่ได้มาจากลู่เจี๋ยยวี่ก่อนหน้านี้ช้า ๆ โดยมีกระดานหมากคั่นกลางระหว่างเขาและเถียนเฟิง
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#4D8563">
“ ประเดี๋ยวพระองค์ก็กลับมา ”</font> ต้าซือคงคลึงหมากดำในมือข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างก็มีชาเบญจมาศที่ไม่พ้นได้มาจากลู่เจี๋ยยวี่ นอกจากชาแล้ว ค่อนไปทางด้านหลังของพวกเขายังมีอาหารชั้นดีที่ถูกส่งมาให้เสร็จสรรพ เสียก็แต่ฝ่าบาทยังไม่กลับมาพวกเขาจึงไม่สามารถทานอาหารได้อย่างวางใจ แม้จะมีปลาเปรี้ยวหวานจากตำหนักตงเฉินรอให้ลิ้มลองกันอยู่คนละจาน ตั้งแต่เขา ตงฟางซั่ว เว่ยชิง รวมไปถึง— พ่อหนุ่มถิงเว่ย จางทังผู้นั้นด้วย
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#CE8E42">
“ … ”</font> ผู้ที่ร้อนใจยิ่งกว่าใครยังคงเป็นต้าซือหม่าเว่ยชิงที่เดี๋ยวลุกเดี๋ยวนั่งมาเป็นเวลาพักใหญ่ ๆ แล้ว หากไม่ใช่ว่าข้างกายเขามีถิงเว่ยที่นั่งจิบชาอย่างสงบในทุกช่วงลมหายใจคงไม่พ้นรีบขึ้นม้าควบออกตามหา <font color="#CE8E42">“ ไม่ได้การแล้ว ข้าว่าข้าลองออกไปดูรอบ ๆ หน่อยดีกว่าเผื่อว่าจะพบตัวพระองค์ไวขึ้น ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
พูดเสียเหมือนคนหาย.. ทั้งที่จักรพรรดิองค์ปัจจุบันแห่งต้าฮั่นต่างหากที่เหมาะแก่การไปลักพาตัวผู้อื่น อย่างไรเสียครั้งนี้ก็ไม่มีใครห้ามเขา เพราะมันก็คล้ายว่าจะนานเกินไปแล้วจริง ๆ ต้าซือหม่าที่เห็นแบบนั้นก็รีบพุ่งไปทางที่ตัวเองผูกม้าไว้ ใครจะไปนึกว่าขยับได้ไม่ถึงสองก้าวดี เสียงย่ำเท้าช้า ๆ ของม้าตัวหนึ่งก็ดังเข้ากระทบโสตประสาทเรียกให้ซานกงบวกจิ่วชิงอีกหนึ่งท่านเงยหน้าขึ้นโดยทันที
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#980000">
“ ฝ่า—- ”</font> จางกงกงคือผู้แรกที่เปล่งเสียงขึ้นหมายจะประกาศการกลับมาของโอรสสวรรค์ ทว่ายังไม่ทันกล่าวได้จบคำแรกก็มีสายตาพิฆาตปรามให้เงียบ ทีแรกพวกเขา … ถูกต้อง พวกเขาทั้งหมดตรงนี้ก็ฉงนใจอยู่บ้างว่าเหตุใดถึงไม่อาจทำได้ กระทั่งจางกงกงที่ตาดีหลุบลงไปเห็นเสี้ยวใบหน้าหนึ่งพิงแนบอยู่กับบริเวณภูษาที่ปักเป็นลายมังกรบนอกพอดี อีกทั้งร่างนั้นยังหลับตาพริ้มโดยมีเสื้อคลุมหวงตี้ห่อล้อมกายอย่างดี
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#980000">
“ ฝ่าบาทออกไปชมอุทยานร่วมกับลู่เจี๋ยยวี่เกรงว่ายามนี้คงเหนื่อยอ่อนมากแล้ว ”</font> คราวนี้เขาเปลี่ยนน้ำเสียงทันควันเป็นสัญญาณให้คนอื่น ๆ เริ่มสังเกตจุดที่ผิดปกติ จนเมื่อพบก็พากันเบือนหน้าหรือไม่ก็เก็บสายตาลงเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนหวงตี้ที่ลงจากม้าและยกร่างของสาวงามใต้เสื้อคลุมตัวใหญ่มาอุ้มไว้ในอ้อมแขน หลิวเช่อไม่ได้รั้งตัวรอฟังคำพูดของจางกงกง หลังจากส่งอาชาโลหิตให้เว่ยชิงดูแลต่อตามความเคยชินจากหน้าที่เก่า ๆ ตัวเขาก็พาร่างในอ้อมแขนเดินไปอีกทางโดยมีจางกงกงก้าวตามมาติด ๆ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#980000">
“ อยากให้กระหม่อมเรียกนางกำนัลมาช่ว—- ” </font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#994D7B">
“ อืม.. ”</font> หลังจากผลอยหลับไปบนหลังม้าเพราะอากาศรอบข้างที่ค่อนข้างเย็นผนวกกับความเบื่อที่ต้องคอยพูดคนเดียวเป็นเวลานาน ในที่สุดไป๋หรั่นก็รู้สึกตัวขึ้นอีกครั้งในยามที่รอบข้างกลับมาคึกคักไปด้วยเสียงสิ่งมีชีวิต ศีรษะที่แนบอยู่กับช่วงบ่ากว้างจนแก้มนุ่มรู้สึกชาค่อย ๆ ยกขึ้นกลับมาตั้งตรงได้ด้วยตัวเองเช่นเดียวกับเนตรหงส์ที่เปิดปรือขึ้นทีละน้อย เสมือนกับงุนงงในระยะการมองเห็นที่แปลกไป เทพธิดาหยกขาวหันมองซ้ายขวาก่อนจะสะดุดเข้ากับภาพผ่านไหล่ที่มองไปถึงกลุ่มสามซานกงและ.. จิ่วชงที่ยกมือป้องปากกระแอมเล็กน้อย
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
นางไม่เคยมองพวกเขาด้วยความสูงในระดับนี้แล้ว..
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#D4AC0D">
“ ตื่นแล้ว? ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
เสียงทุ้มในระยะใกล้ทำให้นางหันขวับไปมองตามต้นเสียงในทันที ยังคงเป็นเขา โอรสสวรรค์ผู้เดิมที่ปล่อยให้นางชักแม่น้ำทั้งห้าสายเกี่ยวกับเรื่องของครอบครัวและพี่ชายออกมาพูดจนแทบไม่มีอะไรหลงเหลือให้พูดจนต้องเป็นนางที่พาตัวเองหนีออกมาโดยอาศัยวิธีหลับหนีความจริง <font color="#994D7B">“ ฝ่าบาท? ”</font> หลิวเช่อที่อุ้มนางไว้เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยคล้ายจะถามว่าเรียกไปเพื่ออะไร แต่นางเองก็สงสัยเช่นกันว่าเขาอุ้มนางมาเพื่ออะไร
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#994D7B">
“ ปล่อยหม่อมฉันลงเถิดเพคะ ทำให้พระองค์ลำบากเช่นนี้ หม่อมฉัน.. ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ในเมื่อนางได้สติแล้วก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องมาคอยแบกหามกันต่อไป ฮั่นอู่ตี้ปล่อยให้คนงามกลับไปยืนด้วยสองขาของตัวเองเพื่อเป็นการตัดเรื่องน่ารำคาญที่เกิดจากความเข้าใจผิดของเหล่าคนสนิทเขาทั้งหลาย เหล่าชายชาตรีล้วนเข้าถึงห้วงอารมณ์นึกคิดของกันและกันได้เพียงแค่สบมอง หลิวเช่อไม่ชอบเรื่องไร้สาระอยากการหยอกล้อเรื่อยเปื่อยรวมไปถึงความเข้าใจผิดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเขาและสตรี ดังนั้นแทนที่จะต้องมานั่งอธิบายให้มากความ เขาปล่อยให้นางเดินเหินด้วยตัวเองเป็นการพิสูจน์เสียก็สิ้นเรื่อง
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
และลู่ไป๋หรั่นก็ไม่เคยทำให้เขาผิดหวัง นางกลับไปตั้งหลักด้วยตัวเองได้อย่างไว อีกทั้งยังสามารถยอบกายลงแสดงความเคารพต่อเขา <font color="#D4AC0D">“ อย่างที่เห็นนางตื่นแล้ว ”</font> ครั้งนี้โอรสสวรรค์กล่าวขึ้นโดยหันไปทางจางกงกง หากเป็นผู้ที่มีตาแต่ไร้ซึ่งแววป่านนี้คงถามกลับว่าพระองค์หมายถึงสิ่งใด แต่ในเมื่อนี่คือจงฉางชื่อผู้เคียงข้างฝ่าบาทมาแรมปีมีหรือจะไม่เข้าใจในความหมายนี้
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#980000">
“ ทราบแล้วพ่ะย่ะค่ะ ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
หลิวเช่อปรายตามองการตอบรับของจางกงกงด้วยหางตาก่อนจะเป็นฝ่ายสะบัดแขนเดินมุ่งเข้ากระโจมใหญ่ไปโดยไม่รอผู้ใด ถึงขนาดที่ลู่เจี๋ยยวี่ยังยืนนิ่งด้วยความสับสนไปอีกราว ๆ หนึ่งถึงสองช่วงหายใจ จากนั้นจึงค่อยหันมายอบกายอำลาพวกเขาและรีบย่ำเท้าตามเข้าไป
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
“ … ”
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#980000">
“ อย่างไรเสียฝ่าบาทก็กลับมาแล้ว ปลาเปรี้ยวหวานจากลู่เจี๋ยยวี่เหล่านั้น.. <i>ทานได้แล้วล่ะ</i> ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
เพราะดูท่าจะได้พบหน้าทั้งสองอีกครั้งคงไม่พ้นเช้าตรู่ในวันพรุ่งเป็นแน่
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
…
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#994D7B">
“ ฝ่าบาทจะสรงน้ำเลยหรือไม่เพคะ ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ฮั่นอู่ตี้อดไม่ได้ที่จะชื่นชมในความสามารถด้านการปรับตัวที่ถูกบ่มเพาะมาอย่างดีของเจี๋ยยวี่แซ่ลู่ที่เขาเลือกให้มารับหน้าที่เป็นไม้กันอุปสรรค ก่อนหน้านี้นางพึ่งหลับคอพับอยู่กับอกเขา แล้วดูต่อมา .. เพียงพริบตาก็ฟื้นกลับมาเป็นคนที่รู้จักสงวนกิริยาและท่าทีเหมือนอย่างเคย
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#D4AC0D">
“ ชงชา ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
หลิวเช่อเอ่ยปากบอกความต้องการของตัวเองในระหว่างที่เดินไปนั่งบนตั่งที่ตั้งอยู่ใกล้ใจกลางกระโจม ฝั่งที่รับหน้าที่ปรนนิบัติดูแลได้ยินแบบนั้นก็ค่อย ๆ ปลดเสื้อคลุมมังกรออกจากตัว และคลี่พาดลงกับราวแขวนเสื้อ ก่อนจะย้ายร่างมานั่งอยู่หน้าเตาชงชาด้วยท่าทางสมบูรณ์แบบ <font color="#994D7B">“ ระหว่างหลงจิ่งกับไป๋หาวอิ๋นเจิน.. ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#D4AC0D">
“ เจ้าอยากใช้ของที่พึ่งได้มาไม่ใช่หรือ ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
คำถามที่ดูไม่ยี่หระของเชาแฝงมาด้วยความใส่ใจที่ยากจะปรากฏออกมาให้เห็น มือน้อยคู่งามนิ่งงันไปครู่หนึ่ง ไป๋หรั่นช้อนตาขึ้นมองโอรสสวรรค์ที่เมื่อได้นั่งบนตั่งก็ไม่พ้นหยิบม้วนงานขึ้นมาอ่านตามความเคยชินเกิดเป็นภาพทับซ้อนระหว่างที่นี่กับตำหนักเว่ยหยางในครั้งที่นางมีโอกาสได้ไปเฝ้าปรนนิบัติ ในตอนนั้นเขาไม่สนใจนาง นางเองก็ใช่ว่าจะสนใจเขา ความสัมพันธ์ราบเรียบที่สองฝ่ายต่างไม่ได้คาดหวังอะไรจากกันและกัน ทีละน้อยกลายมาเป็นความเชื่อมั่นอย่างในปัจจุบันได้อย่างไรก็ไม่ทราบ..
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ใบชาไป๋หาวอิ๋นเจินถูกชงขึ้นอย่างประณีตและใส่ใจตามแบบฉบับของยอดฝีมือจนออกมาเป็นชาขาวเข็มเงินหอมกรุ่นหนึ่งกาที่มาพร้อมกับขนมไหมฟ้าหนึ่งชุดชวนให้คนที่ไม่โปรดของรสหวานจัดอย่างหลิวเช่อถึงกับกดสายตาลงมองผู้ที่นำมาถวายด้วยแววตาที่ถามย้ำว่า.. ตั้งใจจับคู่มาเช่นนี้จริงหรือ?
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#994D7B">
“ ขนมไหมฟ้าหวานจัด ทว่ารสชาติของชาขาวเข็มเงินนั้นเบาบางเจือกลิ่นควัน ” </font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
สาวงามเช่นหยกแสร้งทำเป็นมองข้ามแววจริงจังในสายพระเนตรนั้นก่อนจะรินชาลงจอกสองจอก ถือวิสาสะครองอีกจอกเป็นของตัวเอง ทั้งยังหยิบขนมไหมฟ้าก้อนหนึ่งมาถือไว้ <font color="#994D7B">“ ที่บ้านหม่อมฉันมีวิธีหนึ่งช่วยลดหลั่นความหวานของขนมไหมฟ้าลง และช่วยชูรสใสกระจ่างของชาขาวเข็มเงินได้มากขึ้น ”</font> ไป๋หรั่นไม่บอกว่าเป็นวิธีใด สิ่งที่นางทำคือการส่งขนมไหมฟ้าก้อนนั้นเข้าสู่โพรงปาก ก่อนจะจิบชาขาวใสตามลงไป พลางปล่อยให้สองสิ่งผสมกลมกลืนกันอยู่ในนั้น
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
แม้นางจะบอกว่าช่วยลดความหวานลง.. แต่ดูแล้วก็ยัง<b>หวานมาก</b>อยู่ดี
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
เนตรมังกรหลุบลงมองกลีบปากบางที่ฉ่ำวาวนั้นด้วยสายตาเรียบนิ่ง นางไม่อธิบาย เขาเองก็ไม่ได้คิดถามเพิ่มเติม แต่ถึงอย่างนั้นหลังจากใช้เข็มเงินตรวจสอบจนแน่ใจแล้วว่าไร้พิษ ก้อนไหมฟ้าแสนหวานก้อนหนึ่งก็ถูกส่งเข้าละลายอยู่ในโพรงปาก รสชาติหวานของน้ำผึ้งผสมมากับความมันของถั่ว เมื่อจิบชาขาวตามลงไปกลับช่วงชะล้างความหวานให้เลือนลงแทนที่มาด้วยความหอมและมันติดที่ปลายลิ้น แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใดยามเมื่อเงยหน้าขึ้นพบว่านางกำลังจ้องมองมาอย่างรอคอยก็ไม่พ้นรู้สึกขึ้นมาว่า <b>‘ หวานนัก ’</b> เหมือนอย่างเคย
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#D4AC0D">
“ หวาน ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#994D7B">
“ …? ทานคู่กับชาขาวแล้วมิน่าหวานถึงเพียงนั้น หรือว่ารสชาติของขนมไหมฟ้าไม่สม่ำเสมอหรือเพคะ ”</font> เห็นนางร้อนรนเพียงเพราะกลัวว่าเขาจะมีประสบการณ์ที่ไม่ดีกับการจับคู่ชั้นเยี่ยมเช่นนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะจุดรอยยิ้มมุมปากเล็ก ๆ ขึ้นมาบนพระพักตร์ของโอรสสวรรค์ในเสี้ยววิก่อนที่จะเลือนหาย
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#D4AC0D">
“ ไปเรียกให้คนยกน้ำเข้ามา เจิ้นจะพักแล้ว ”</font> เดิมทีไป๋หรั่นคิดอยากจะอ้าปากแย้งเรื่องของว่างก็ไม่พ้นกลืนคำพูดของตัวเองกลับไปเมื่อเห็นหวงตี้หลับตาลงพลางใช้มือคลึงหว่างคิ้ว ตลอดหลายวันมานี้บางทีเขาคงใช้ความคิดไปกับหลายเรื่องแล้ว ยังไงนี่ก็ใกล้ถึงช่วงวันคล้ายวันประสูติของไท่โฮ่ว พวกกำหนดการ หรือคำร้องของขุนนาง ใด ๆ ทั้งหลายคนพากันมุ่งเข้ามาให้ขวัก.. ลู่เจี๋ยยวี่ไม่ปล่อยให้สวามีต้องรอนาน นางก้าวออกไปบอกความต้องการแค่ครู่เดียว ไม่ถึงครึ่งเค่อนางกำนัลก็ยกอ่างน้ำอุ่นขนาดกลางพร้อมผ้าสะอาดเข้ามาวางไว้ให้ด้านใน
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
เพราะเป็นการมาประพาสป่า คนที่ผ่านสงครามมาแล้วอย่างฮั่นอู่ตี้นั้นไม่ใช่คนติดหรูอยู่สบาย เขาเลยไม่ได้สั่งการให้คนงานต้องลำบากหอบอ่างสรงน้ำติดมากับขบวน ฉะนั้นการสรงน้ำในครานี้ย่อมเป็นการใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดเนื้อเช็ดตัวพอให้สะอาดสะอ้าน ทั้งเขาและนางต่างก็มีเวลาที่แยกย้ายกันไปจัดการตนเอง ในฝั่งเขาค่อนข้างสะดวกไม่น้อยเพราะยังมีนางคอยช่วยปลดเสื้อผ้ารวมไปถึงสางผม ในขณะที่คราวของนางเรียกได้ว่าแทบจะไร้คนช่วยเหลือ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
แต่อย่างไรก็ตามในขณะที่สองร่างย้ายมานอนเคียงกันบนฟูกในกระโจมที่ค่อนข้างแคบกว่าเตียงในวังหลวงจนทำให้เจี๋ยยวี่แซ่ลู่เลือกนอนตะแคงเพื่อที่จะได้ไม่เป็นการเบียดเสียดกับกายหนามากจนเกินไปก็ไม่พ้นมีหนึ่งคำถามลอดผ่านความมืดมาเสียงเบา..
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#994D7B">
“ มันหวานจริง ๆ หรือเพคะ? ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ถึงจะขบขันระคนแปลกใจที่นางยังฝังใจอยู่กับเรื่องนั้นแต่หลิวเช่อก็หาได้หัวเราะเพื่อเป็นการตอกย้ำนาง มังกรสุริยาที่ฉาบทับตนเองด้วยกลิ่นอายรัตติกาลปิดเปลือกตาลงช้า ๆ พร้อมตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ไม่จริงจังนัก
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#D4AC0D"><b>
“ อืม.. ”</font></b>
</font>
<br><br><div align="center">
<img width="450" src="https://i.imgur.com/F56Ani1.png" border="0" alt=""> <br><br><font face="Sarabun"><font size="3">
<b> ฮั่นอู่ตี้</b><br>
+5 ความสัมพันธ์สนทนาประจำวัน<br>
+20ความสัมพันธ์โบนัสหัวดี<br>
+20 ความสัมพันธ์ ขนมว่างเกรดทอง และ +10 ชาเกรดทอง <br>
+5 โบนัสอาหารประเภทอาหารปรุง<br>
+5 โบนัสชาประเภทชงชา<br><br>
<b> ตงฟาง ซั่ว</b><br>
+5 ความสัมพันธ์สนทนาประจำวัน<br>
+20ความสัมพันธ์โบนัสหัวดี<br>
+20 ความสัมพันธ์อาหารเกรดม่วง และ +5 ชาอะไรก็ได้<br>
+5 โบนัสอาหารประเภทอาหารปรุง<br>
+5 โบนัสชาประเภทชงชา<br><br>
<b> เถียน เฟิง</b><br>
+5 ความสัมพันธ์สนทนาประจำวัน<br>
+20ความสัมพันธ์โบนัสหัวดี<br>
+20 ความสัมพันธ์อาหารเกรดม่วง และ +5 ชาอะไรก็ได้<br>
+5 โบนัสอาหารประเภทอาหารปรุง<br>
+5 โบนัสชาประเภทชงชา<br><br>
<b> เว่ย ชิง</b><br>
+5 ความสัมพันธ์สนทนาประจำวัน<br>
+20ความสัมพันธ์โบนัสหัวดี<br>
+20 ความสัมพันธ์อาหารเกรดม่วง และ +5 ชาอะไรก็ได้<br>
+5 โบนัสอาหารประเภทอาหารปรุง<br>
+5 โบนัสชาประเภทชงชา<br><br>
<b> จาง ทัง</b><br>
+5 ความสัมพันธ์สนทนาประจำวัน<br>
+20ความสัมพันธ์โบนัสหัวดี<br>
+20 ความสัมพันธ์อาหารเกรดม่วง และ +5 ชาอะไรก็ได้<br>
+5 โบนัสอาหารประเภทอาหารปรุง<br>
+5 โบนัสชาประเภทชงชา<br><br>
ทำกิจกรรมสันทนาการกับหวงตี้ +15 บารมี<br>
ปรนนิบัติหวงตี้ยามค่ำคืน +20 บารมี<br>
ปรนนิบัติค่ำคืน + 1 ปรนนิบัติ<br>
( ปลอมตัวเที่ยวยังได้ค่าบารมี แล้วนี่มาโต้ง ๆ มีไหมคะโบนัสบารมี โบนัสปรนนิบัติ .ยื่นหน้ามอง )
</div>
</div>
<br><br>
</font></font></div></div><br><br></div><br><br>
<style type="text/css">@import url('https://fonts.googleapis.com/css?family=Chonburi'); Chonburi {font-family: 'Chonburi';}
</style>
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย LuBairan เมื่อ 2024-8-9 22:32 <br /><br /><style>
#boxcorecenter {
border: 0px solid #152cd5;
padding: 15px;
box-shadow: #504C4E 0px 0px 1em;
background-image: url("https://i.imgur.com/J5ZfEJ2.png");
}
</style>
<style>
#boxR0LE {
width: 600px;
border: 0px solid #cbb989;
padding: 35px;
box-shadow: #504C4E 0px 0px 1em;
background-image: url("https://i.imgur.com/PNPim8Q.png");}
</style>
<div id="boxcorecenter">
<div align="center">
<br><br>
<div id="boxR0LE">
<img width="450" src="https://i.imgur.com/aDtIaPZ.png" border="0" alt="">
<br><font face="Chonburi"><font size="5"><font color="#994D7B"><span style="text-shadow: #ffffff 0px 0px 0.7px, #ffffff 0px 0px 25px, #ffffff 0px 0px 10px;">
<i><b>วันแรกในอุทยานกับเหตุการณ์ไม่คาดคิด</span></b><br><font face="Sarabun"><font size="2">วันที่ 5 เดือน 8 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 10<br>เวลาสามนาฬิกาสามสิบนาทีเป็นต้นไป<br>และข้ามเข้าช่วงเจ็ดนาฬิกาเป็นต้นไป</font></font>
</i><br></font></font></font>
<br>
<div align="left">
<font face="Sarabun"><font size="3">
<p style="text-indent: 2.5em;">แม้แต่วันที่เสด็จออกมาประพาสนอกวังก็ยังมีกิจวัตรเช่นเคย แทนที่นางจะได้พักผ่อนกลับต้องลุกขึ้นมาปรนนิบัติดูแลสวามีตั้งแต้ต้นยามหยินที่เต็มไปด้วยน้ำค้างและเสียงจิ้งหรีด <font color="#994D7B">“ เช้านี้มีแววว่าอากาศจะสดใส ฝ่าบาทประสงค์จะเสวยสิ่งใดเป็นพิเศษหรือไม่เพคะ? ”</font> หลิวเช่อกวาดตามองตามร่างบางในชุดสีขาวปลอดที่ก้าวไปมาจุดเทียนตรงนั้นทีตรงนี้ทีเพื่อช่วยเพิ่มแสงให้กับพื้นที่ภายในกระโจมใหญ่ทั้งที่นางยังมีแววง่วงงุนแฝงอยู่บนสีหน้าและการเคลื่อนไหวแต่ก็ยังกัดฟันลุกขึ้นมาดูแลเขาตามหน้าที่ภรรยา
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
.. ส่วนนี้เหมือนว่าสมควรจะต้องชื่นชมในความทุ่มเทที่นางมีให้กับตน
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#D4AC0D">
“ ไม่มี ” </font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
แต่จะชื่นชมหรือไม่อย่างไร สุดท้ายก็ไม่มีผล โอรสสวรรค์ไม่ใช่จำพวกที่หยิบยื่นคำชมให้ทุกครั้งที่มีคนทำอะไรเข้าท่า ครั้งนี้เองก็เช่นกัน แม้ภาพรวมจะไม่คล้ายหนก่อนที่ตำหนักตงเฉินสักเท่าใดนักแต่นี่ก็เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งการปรับตัวที่จำเป็นต้องเกิดขึ้นในสักวันอยู่แล้ว หลิวเช่อลุกขึ้นแต่งเนื้อแต่งตัวหลังจากที่เขาเช็ดกายด้วยตัวเองจนเสร็จแล้ว ผู้ครองบัลลังก์มังกรปล่อยให้เจี๋ยยวี่ที่ร่วมเตียงมาตลอดค่อนคืนได้ช่วยแต่งเนื้อแต่งตัวให้กับเขา ก่อนจะปล่อยให้นางได้จัดการตัวเองให้เรียบร้อย จากนั้นทั้งสองจึงได้เริ่มรับประทานอาหารเช้าชุดใหญ่อย่างหม้อไฟชั้นเลิศที่ต่อให้มีเงินก็ใช่ว่าจะสามารถทำทานกันได้ทุกคน
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#D4AC0D">
“ หม้อไฟแปดเซียน? ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
สิ่งที่นางเตรียมไว้ให้เขาเป็นถึงหม้อไฟชั้นเลิศที่ยากจะมีใครทำ เพราะวัตถุดิบที่ใช้ล้วนกระจัดกระจายทั้งยังมีวิธีการนำมาประกอบอาหารที่แตกต่างกันไป บ่งบอกให้เห็นถึงฝีมือละเอียดอ่อนรวมไปถึงความใส่ใจในทุกขั้นตอน <font color="#994D7B">“ โชคดีที่ห้องเครื่องเตรียมวัตถุดิบบางส่วนไว้ อีกส่วนเป็นหม่อมฉันเคยให้ครอบครัวจัดหาส่งมาให้ คนเฒ่าคนแก่กล่าวกันว่าทานของร้อนที่เต็มไปด้วยวัตถุดิบหลากหลายชนิดเช่นนี้ช่วยส่งเสริมสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ในฐานะที่พระองค์ทรงต้องออกนำขบวนล่ากวาง อย่างน้อยก็ใช้หม้อไฟแปดเซียนนี้ถือเป็นการเอาฤกษ์เอาชัยก่อนเป็นอย่างไรเพคะ? ”</font> นางจัดการไว้พร้อมสรรพ ทั้งยังคิดเหตุผลมาอย่างถี่ถ้วนไหนเลยจะปฏิเสธได้
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#D4AC0D">
“ …กินข้าว ” </font>เห็นเขาไม่ได้ต่อต้านการนำเสนอนั่นก็เป็นสิ่งที่ดีมากแล้ว.. พักหลังมานี้ไป๋หรั่นคลายความเข้มงวดกับตัวเองลง นางยังคงเป็นภรรยาที่ตักอาหารให้สามี รอเขาทานก่อนสักคำสองคำจากนั้นจึงค่อยเป็นฝ่ายเริ่มทานตามเขาบ้างทำให้บรรยากาศรอบข้างคลายความห่างเหินลงจากเมื่อก่อนจนแทบไม่เหลือ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ทว่ามื้ออาหารฉันสามีภรรยาดำเนินไปได้ไม่เท่าไหร่ จู่ ๆ ก็มีเสียงจากด้านนอกร้องรายงานเข้ามา
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#980000">
“ ฝ่าบาท ซานกงทั้งสามขอเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ ” </font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
เพราะนี่ไม่ใช้ตำหนักเว่ยหยางที่กำหนดการยังคงเป็นไปตามเดิม ยามนี้พวกตนอยู่ ณ ใจกลางป่าเขาโดยมีจุดหมายเป็นการล่าสัตว์ ดังนั้นการจะวางแผนหารือหากไม่สนทนาในยามเช้าตรู่ก็ควรต้องเป็นตั้งแต่เมื่อคืน.. เนตรหงส์ชำเลืองมองคนข้างกายที่ยังคงมีสีหน้าเรียบเฉยขณะที่กำลังตักเป่าฮื้อในถ้วย <font color="#994D7B">“ ให้หม่อมฉันออกไปก่อนดีหรือไม่เพคะ.. ”</font> มือของเขาชะงักไปเล็กน้อย หลิวเช่อไม่ได้ตอบกลับด้วยคำพูด โอรสสวรรค์อาศัยการกระทำอย่างการวางเป่าฮื้อไว้ในชามน้ำแกงของหญิงสาวเป็นการบอกกล่าวที่ไม่ชัดเจนนัก
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#D4AC0D">
“ ให้เข้ามา ” </font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
แม้แต่จางกงกงยังประหลาดใจ ฉะนั้นแล้วซานกงทั้งสามที่มาเยือนก็เรียกได้ว่าตะลึงไม่ต่างกัน ไม่บ่อยนักที่หลิวเช่อจะปล่อยให้มีคนนอกอยู่ร่วมในเวลาที่ขุนนางขอเข้าเฝ้าแถมบรรยากาศก็ดู.. ไม่แย่เลยด้วย? เหล่าต้าซือทั้งหลายหลังจากเข้ามาด้านในได้ประมาณหนึ่งแล้วก็ประสานมือโค้งลงพร้อมกับกำลังจะคุกเข่าทว่ากลับมีเสียงเย็นถามขึ้นชวนให้เสียวสันหลัง
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#D4AC0D">
“ อะไรทำให้พวกเจ้าเร่งมารบกวนเวลาอาหารของเจิ้น ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ปกติแล้วท่านไม่เสวยพระกระยาหารเช้านานขนาดนี้ด้วยซ้ำ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ทั้งตงฟางซั่วและเถียนเฟิงต่างก็ขมวดคิ้วกันทันควัน ด้านเว่ยชิงที่แต่ไหนแต่ไรซื่อสัตย์ภักดีไม่ขุ่นเคืองในตัวนายเร่งเงยขึ้นกราบทูล<font color="#CE8E42"> “ ระยะเวลาการออกล่าสัตว์ครั้งนี้มีจำกัด แม้อุทยานเม่าหลินจะอุดมสมบูรณ์แต่เกรงว่าจะมีพื้นที่กว้างใหญ่ ยากจะหาแหล่งที่สัตว์ป่าอาศัยอยู่ได้โดยง่าย ฉะนั้นแล้วพวกกระหม่อมจึงมาเพื่อหารือเรื่องการเตรียมความพร้อมก่อนออกล่าในช่วงกลางวันพ่ะย่ะค่ะ ”</font> เหตุผลเหล่านี้ใคร ๆ ก็รู้ ซานกงอีกสองท่านที่ฟังเสียงชัดถ้อยชัดคำของเว่ยชิงบ้างก็ส่ายศีรษะ บ้างก็ยิ้มอย่างเคยชิน ไม่เว้นแม้แต่เจี๋ยยวี่ที่ฟังอยู่ยังกะพริบตาปริบ ๆ ด้วยความทึ่งปนชื่นชม
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#D4AC0D">
“ งั้นก็พูดมา ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
หลังจากนี้มีเรื่องอะไรบ้างนางก็ไม่แน่ใจ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ไป๋หรั่นอยู่ฟังการหารือตั้งแต่ช่วง<b>ปลายยามหยินลากเข้าต้นยามเฉิน</b>ในที่สุดหวงตี้ที่มีอำนาจสั่งการก็เอ่ยปากบอกให้นางออกไปเดินเล่นหรือพักผ่อนแถวอื่นก่อนได้เพราะเขาจำเป็นต้องเรียกรวมเหล่าขุนนางมาหารือกันอีกรอบ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
นงคราญหยกเยื้องย่างออกจากกระโจมใหญ่ด้วยท่าทางไม่รีบร้อนโดยมีนางกำนัลหลายนางปรี่เข้ามาประชิดตัวทันทีที่พ้นเขตกระโจมใหญ่ <font color="#994D7B">“ หลังพวกเขาหารือกันเสร็จแล้ว เจ้าก็เอาของเหล่านี้เข้าไปมอบให้ซานกงทั้งสาม แล้วก็.. ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
กลิ่นกระจ่างใสติดปลายจมูกของต้นสนอ่อนเคลื่อนผ่านโดยไร้การเหลียวกลับ ที่สวนไปเมื่อครู่นี้คือจางถิงเว่ยผู้ครองสีหน้าสงบนิ่งราวกำแพงหิน ยามนี้นางและเขาไร้ซึ่งเหตุผลให้ข้องเกี่ยวกันแล้ว ทว่า.. <font color="#994D7B">“ เอาขนมกุ้ยฮวากับชามอบให้ใต้เท้าจางด้วย ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#784373">
“ ใต้เท้าจางท่านใดเจ้าคะ? ห หรือ.. ลู่เจี๋ยยวี่หมายถึง.. ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#994D7B">
“ อืม จางถิงเว่ยเมื่อครู่นี้นั่นแล ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ตอบแทนในฐานะที่อีกฝ่ายไล่สืบเสาะหาเบาะแสตลอดหลายวัน.. <br><p style="text-indent: 2.5em;">
กำหนดการล่าสัตว์ครั้งนี้ให้นางดูแลเขาสักนิดก็คงไม่ผิดแปลกอะไร
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ได้ยินว่าใกล้กับจุดตั้งกระโจมมีลำธารสายหนึ่งไหลผ่านเหมาะแก่การไปชมทิวทัศน์ .. จางกงกงกล่าวว่ามันอยู่ไม่ไกลมาก นางสามารถไปนั่งเล่นได้หากต้องการ ฉะนั้นหลังจากกำชับนางกำนัลเรื่องการดูแลเหล่าจิ่วชงทั้งหลายจนครบถ้วน ลู่ไป๋หรั่นก็แยกตัวเดินออกมาตามเส้นทางที่ห้อมล้อมด้วยต้นไม้สูง พร้อมกับทางเดินที่ถูกถางหญ้าออกจนเรียบร้อยสมกับที่เป็นทางเชื่อมลานตั้งกระโจมหลวงเสียจริง ๆ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ใต้ท้องนภาแจ่มใส หมู่สัตว์น้อยใหญ่วิ่งเล่นไปมา กระทั่งฝูงไก่ยังขันรับการมาเยือนของเทพธิดาจำแลงผู้นี้ที่เมื่ออยู่กลางป่าใหญ่ไร้คนโอบล้อมก็มิต่างอะไรไปจากภูตไม้นางพรายประจำป่าเขาที่มักออกมาอวดโฉมลวงใจคน ชีวิตของไป๋หรั่นโดยมากล้วนติดอยู่กับกลางเมืองที่คึกคักและสุขสบาย ที่ต้องออกมาตกระกำลำบากในป่าไหนเลยจะเคยมีประสบการณ์ นางต่างจากชางหรง.. ฝ่ายนั้นห้าวหาญเก่งกาจ เดินทางนับครั้งไม่ถ้วน ส่วนนางที่เปรียบเสมือนหน้าตาและชื่อเสียงของชุนหลันฉีก็ทำได้เพียงอยู่เป็นรูปสลักประจำหอ พบปะแขกผู้มาเยือนที่ดั้นด้นมาจากแดนไกล
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ลำธารสายนี้กว้างพอประมาณทั้งยังมีกระแสน้ำไหลเชี่ยวทั้งที่ใสจนเห็นเกือบถึงก้นลำธารเมื่อมาถึงลู่เจี๋ยยวี่ก็พับแขนเสื้อขึ้นในขณะที่ย่อกายลงเอื้อมมือสัมผัสกับผิวน้ำ <font color="#994D7B"><i>‘ เย็นมาก.. ผิดกับอากาศในช่วงคิมหันต์นี้เสียจริง ๆ ’</font></i> คงเป็นการดีไม่น้อยหากนางสามารถแช่เท้าที่นี่ได้สักครู่..
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><b>
สวบ สาบ ..</b>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
เสียงฝีเท้าไม่หนักไม่เบาดังขึ้นตามหลังนางที่คิดไปเรื่อยเปื่อย ไป๋หรั่นชำเลืองตาไปมองเล็กน้อยเห็นเป็นเงาการเคลื่อนไหวไว ๆ ก็ขมวดคิ้ว คนของนางถูกสั่งให้แยกย้ายกันไปทำหน้าที่หมดแล้ว.. ฉะนั้นไม่สมควรเหลือคนที่ตามมาได้ แล้ว—
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><b>
พรึ่บ</b>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#994D7B">
“ ..! ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
หนึ่งฝ่ามือมุ่งเข้ามาคล้ายต้องการจะผลักให้นางตกลงไปในลำธาร เคราะห์ยังดีที่จังหวะนั้นมาในตอนที่นงคราญหยกเบี่ยงกายไปอีกทางโดยที่เดิมทีตั้งใจจะหันไปสอบถามแต่เมื่อเห็นการกระทำนั้นสิ่งที่คิดจะพูดก็ถูกกลืนลงไปในลำคอนางกำนัลคนที่สองเมื่อเห็นว่าคนแรกทำพลาดก็หน้าซีด หญิงที่ร่างกายไม่ได้ต่างไปจากนางมากรีบปรี่มาใช้มือปิดปากไป๋หรั่นแน่น<font color="#BD9D87"> “ ล ลู่เจี๋ยยวี่ บ่าวขออภัยจริง ๆ ” </font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#C4560A">
“ รออะไรอยู่ รีบ ๆ ผลักนางไปได้แล้ว !! ”</font> คนแรกที่พลาดโอกาสนอกจากจะถลาจนเกือบตกน้ำแล้วยังเสียหน้าอย่างมาก นางพูดเสียงดังด้วยสีหน้าร้อนรีบปนไม่พอใจที่เห็นว่าเพื่อนร่วมอุดมการณ์คนหนึ่งเอาแต่หวาดกลัว
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#8AAD59">
“ อย่าได้โทษพวกบ่าวเลยลู่เจี๋ยยวี่ ”</font> นางกำนัลคนที่สามซึ่งดูเหมือนจะเป็นหัวโจกของกลุ่มที่สาวเท้าเข้ามาใกล้ช้า ๆ ด้วยใบหน้าที่เชิดขึ้นด้วยความเย่อหยิ่งจนแทบจะแหงนมองฟ้า <font color="#8AAD59"><b>“ จะโทษก็โทษที่ท่านบังอาจมาแข่งบารมีกับพระสนมเว่ยเจียเถิด ”</font></b>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><i>
อะไรนะ?</i>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
จบคำนั้นร่างบางก็ถูกผลักอย่างแรง เสี้ยววินาทีหนึ่งในแววตาของเหล่านางกำนัลสั่นระริกด้วยความหวาดกลัวเมื่อพบว่าท้ายที่สุดแล้วคนที่ผลัดตกลงไปในน้ำ.. กลับวาดยิ้มมุมปากขึ้นมาในแบบที่ยากจะตีความหมาย
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><b>
ตู้ม !!!</b>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
เสียงน้ำแตกกระเซ็นดังขึ้นก่อนเสียงฝีเท้าหลายคู่ที่วิ่งจากไปอย่างเร่งรีบ มวลวารีเย็นเฉียบไหลทะลักครอบคลุมทั่วทุกส่วนของร่างกาย โดยที่ไร้ซึ่งการเปล่งเสียงหรือการตะเกียดตะกาย ลู่ไป๋หรั่นปิดเปลือกตาลงใต้กระแสน้ำเชี่ยวกราด ปล่อยให้ร่างที่หล่นลงในลำธารได้ใช้เวลาปรับตัวกระทั่งสัมผัสได้ว่าทั้งร่างเริ่มมั่นคงก็ลืมตาขึ้นพลางวาดแขนออกส่งตัวเองกลับขึ้นไปบนผิวน้ำ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#994D7B"><i>
“ เฮือก.. ”</font></i>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ทันทีที่ใบหน้าโผล่พ้นน้ำในลำธาร เสียงอ้าปากหอบหายใจเข้าก็ดังขึ้นเป็นอย่างแรก ไป๋หรั่นพยายามหันกลับไปทางเดิมพร้อมตีขาตั้งใจว่าหากว่ายเข้าฝังได้สักนิดก็ยังดี แต่ด้วยกระแสน้ำไหลเชี่ยวอันมีเหตุมาจากที่ตรงนี้เกือบจะเรียกได้ว่าเป็นบริเวณต้นน้ำ ไหนเลยที่แรงของสตรีในห้องหอที่ขาดซึ่งการใช้กำลังอย่างสม่ำเสมอจะต้านทานได้ อีกทั้งยังไม่รวมความเย็นฉ่ำของน้ำที่เสียดแทงเข้ามาในผิวชวนให้ร่างกายชาวาบเพราะยังไม่สามารถปรับตัวรับกับอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงกะทันหัน
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
แม้ในใจจะเริ่มตระหนกแต่ก็ยังดีที่นางมีพื้นฐานว่ายน้ำอยู่นิดหน่อย.. ไป๋หรั่นพลิกกายให้หงายขึ้นปล่อยร่างไหลไปตามเส้นของลำธารพลางตะโกนออกมาเป็นคำว่า <font color="#994D7B"><b><font size="#6">“ ช่วยด้วย !!!!! ”</font></b></font> วนอยู่อีกหลายครั้ง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังพยายามเอื้อมมือไปจับสัมผัสเหล่ากิ่งไม้ที่ยื่นต่ำลงมาและน่าจะเป็นที่ยึดเกี่ยวได้
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
..แต่ถ้าทุกอย่างแก้ปัญหาได้ง่ายถึงเพียงนั้น มันจะสมกับเป็นหญิงผู้อาภัพโชคได้อย่างไรเล่า จริงไหม?
</font>
<br><br><div align="center">
<img width="450" src="https://i.imgur.com/F56Ani1.png" border="0" alt=""> <br><br><font face="Sarabun"><font size="3">
<b> ฮั่นอู่ตี้</b><br>
+5 ความสัมพันธ์สนทนาประจำวัน<br>
+20ความสัมพันธ์โบนัสหัวดี<br>
+30 ความสัมพันธ์ อาหารเกรดแดง และ +5 ชาอะไรก็ได้ <br>
+5 โบนัสอาหารประเภทอาหารปรุง<br>
+5 โบนัสชาประเภทชงชา<br><br>
<b> ตงฟาง ซั่ว</b><br>
+5 ความสัมพันธ์สนทนาประจำวัน<br>
+20ความสัมพันธ์โบนัสหัวดี<br>
+20 ความสัมพันธ์อาหารเกรดม่วง และ +5 ชาอะไรก็ได้<br>
+5 โบนัสอาหารประเภทอาหารปรุง<br>
+5 โบนัสชาประเภทชงชา<br><br>
<b> เถียน เฟิง</b><br>
+5 ความสัมพันธ์สนทนาประจำวัน<br>
+20ความสัมพันธ์โบนัสหัวดี<br>
+20 ความสัมพันธ์อาหารเกรดม่วง และ +5 ชาอะไรก็ได้<br>
+5 โบนัสอาหารประเภทอาหารปรุง<br>
+5 โบนัสชาประเภทชงชา<br><br>
<b> เว่ย ชิง</b><br>
+5 ความสัมพันธ์สนทนาประจำวัน<br>
+20ความสัมพันธ์โบนัสหัวดี<br>
+20 ความสัมพันธ์อาหารเกรดม่วง และ +5 ชาอะไรก็ได้<br>
+5 โบนัสอาหารประเภทอาหารปรุง<br>
+5 โบนัสชาประเภทชงชา<br><br>
<b> จาง ทัง</b><br>
+5 ความสัมพันธ์สนทนาประจำวัน<br>
+20ความสัมพันธ์โบนัสหัวดี<br>
+15 ความสัมพันธ์ ขนมว่างเกรดม่วง และ +5 ชาอะไรก็ได้ <br>
+5 โบนัสอาหารประเภทอาหารปรุง<br>
+5 โบนัสชาประเภทชงชา<br><br>
ทำกิจกรรมสันทนาการกับหวงตี้ +15 บารมี<br>
ปรนนิบัติสวมเสื้อผ้า + 1 ปรนนิบัติ<br>
ทุกครั้งที่ความสัมพันธ์หัวใจหวงตี้หรือไท่โฮ่วเพิ่มขึ้น 1 ดวง +50 บารมี
</div>
</div>
<br><br>
</font></font></div></div><br><br></div><br><br>
<style type="text/css">@import url('https://fonts.googleapis.com/css?family=Chonburi'); Chonburi {font-family: 'Chonburi';}
</style>
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย LuBairan เมื่อ 2024-8-12 16:38 <br /><br /><style>
#boxcorecenter {
border: 0px solid #152cd5;
padding: 15px;
box-shadow: #504C4E 0px 0px 1em;
background-image: url("https://i.imgur.com/J5ZfEJ2.png");
}
</style>
<style>
#boxR0LE {
width: 600px;
border: 0px solid #cbb989;
padding: 35px;
box-shadow: #504C4E 0px 0px 1em;
background-image: url("https://i.imgur.com/PNPim8Q.png");}
</style>
<style>
#boxLEETTER {
width: 350px;
border: 0px solid #cbb989;
padding: 35px;
box-shadow: #504C4E 0px 0px 1em;
background-image: url("https://i.imgur.com/1VhFLiD.png");}
</style>
<div id="boxcorecenter">
<div align="center">
<br><br>
<div id="boxR0LE">
<img width="450" src="https://i.imgur.com/aDtIaPZ.png" border="0" alt="">
<br><font face="Chonburi"><font size="5"><font color="#994D7B"><span style="text-shadow: #ffffff 0px 0px 0.7px, #ffffff 0px 0px 25px, #ffffff 0px 0px 10px;">
<i><b>สามีภรรยา</span></b><font face="Sarabun"><font size="2"><br>วันที่ 5 เดือน 8 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 10<br>เวลาเจ็ดนาฬิกาเป็นต้นไป ( จนกระทั่งหมดวัน )</font></font>
<br></i></font></font></font>
<br>
<div align="left">
<font face="Sarabun"><font size="3">
<p style="text-indent: 2.5em;">ท่ามกลางลำธารยาวไม่รู้จบกระแสน้ำเย็นเชียบพัดพาสติของนงคราญปลิวหายไปพร้อมกัน หลังจากการพยายามเอื้อมไปคว้ากิ่งไม้ตลอดสามครั้งที่ผ่านมาล้มเหลวไม่เป็นท่า ไป๋หรั่นก็เริ่มที่จะหมดหวังแล้วบางทีการลอยหายไปตามกระแสน้ำนี้คงไม่แย่อย่างที่คิด กระทั่งแผ่นหลังกระแทกเข้ากับโขดหินก้อนใหญ่ นางถึงได้กลับมาคร่ำครวญอีกครั้งว่าจะอย่างไรก็ไม่ดีทั้งนั้น แม้จะดีที่ไม่กระแทกถูกในส่วนสำคัญแต่ด้วยแรงปะทะที่ได้รับก็ทำเอาร่างบางในสายธารเริ่มสองตาพร่าไปทีละน้อย
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><i>
บางทีวาสนาและบุญของนางคงจบที่ตรงนี้</i>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ใบหน้างามจมหายลงใต้ผิวน้ำเช่นเดียวกับเสียงร้องขอความช่วยเหลือ เปลือกตาบางนั้นเริ่มที่จะหย่อนลงคลุมเนตรรัตติกาลให้จมลงสู่ความมืด นางไม่ใช่สายเลือดเจียงหนานที่เกิดมาพร้อมน่านน้ำ ประสบการณ์ชีวิตที่มีมากสุดคือพี่ชายกวดขันให้พอประคองตัวในสถานการณ์คับขัน ฉะนั้นในยามที่มวลน้ำแทรกซึมเข้าร่างผ่านโพรงจมูกบีบให้นางต้องเผชิญกับความทรมาณของการไร้ซึ่งอากาศหายใจควบคู่มากับความแสบซ่านไปทั่วร่าง ลู่ไป๋หรั่นไม่ทราบจริง ๆ ว่านางควรรับมืออย่างไร
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#CE8E42"><b>
“ ฝ่าบาท ตรงนั้นพ่ะย่ะค่ะ !! ”</font></b>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ก่อนที่สติสัมปะชัญญะของนางจะมอดมลายจนหมดสิ้น ที่เหนือน้ำมีเสียงก้องกังวานของชายผู้หนึ่งดังขึ้นและตามมาด้วยเสียงแตกกระเซ็นของมวลน้ำเมื่อร่างสูงโปร่งพุ่งทะยานราวมังกรวารีที่ได้หวนคืนสู่ถิ่นกำเนิด เงาสีดำแหวกว่ายตามสายน้ำเข้ามาคว้าร่างอรชรก่อนโผขึ้นสูดอากาศหายใจเหนือผิวน้ำอีกครั้ง
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#D4AC0D">
“ เจี๋ยยวี่ เจี๋ยยวี่? ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ท่อนแขนหนาข้างหนึ่งโอบรัดที่รอบเอวนวลนาง ส่วนอีกข้างประคองไหล่บางเขย่าไปมาเพื่อเรียกให้ได้สติ หลิวเช่อ ยังได้ยินเสียงหายใจออกมาจากร่างนี้แม้จะแผ่วเบาจึงเท่ากับเขาไม่ได้มาช้าไปเสียทีเดียว ถึงการเขย่าเพื่อปลุกคนจมน้ำจะไม่ใช่ทางเลือกยอดนิยมหรือสิ่งที่ควรทำ ทว่าครั้งนี้กลับได้ผลอย่างน่าประหลาดลู่เจี๋ยยวี่ที่เกือบได้ข้ามแม่น้ำเหลืองถึงจะยังไม่ลืมตาแต่ก็คายน้ำออกมารอบใหญ่พร้อมเสียงไอค่อกแค่กอีกหลายทีชวนให้คนที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือได้นึกอุ่นใจขึ้นว่าหนึ่งร่างในอ้อมแขนนี้ยังไม่ถูกพรากจากไป
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ดวงหน้าหวานล้ำซีดเซียวประดุจหิมะตกลงซบบนบ่ากว้างเช่นเดียวกับเรือนกายกรุ่นไอหอมฝูหรงฮวาที่แนบอยู่กับลำตัวแกร่งของโอรสสวรรค์ ฮั่นอู่ตี้ค่อย ๆ ว่ายพาสนมของตนกลับขึ้นฝั่ง ส่วนเว่ยชิงที่ติดตามมาด้วยก็เก็บสายตาของตนไปอีกทางอย่างรู้ความ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#D4AC0D">
“ ไปแจ้งคนของกระโจมใหญ่ให้ตามหมอหลวง ตลอดทั้งทางเจิ้นต้องไม่เห็นผู้ใดสอดหน้ามาขวาง ”</font> รับสั่งนี้แข็งกร้าวทั้งยังเฉียบขาดเป็นอย่างมาก สตรีของเขาไหนเลยจะให้ผู้อื่นมาพิศมองได้โดยง่าย ในขณะที่หลิวเช่อกระชับแขนที่โอบกายบางเข้าหาตัวมากขึ้น เว่ยชิงก็ประสานมือรับคำสั่งก่อนจะหันหลังวิ่งเหยาะ ๆ กลับไปอีกทาง ทิ้งให้พระเจ้าแผ่นดินได้มีเวลากดใบหน้าลงก้มมองร่างที่กำลังหลับตาพริ้มอย่างสงบ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ปลายนิ้วหยาบกร้านทาบลงที่แอ่งชีพจรบริเวณลำคอระหงส์ของสาวงามช้า ๆ เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจ ก่อนจะไล่สายตาลงไปตามร่างอ้อนแอ้นที่เดิมก็สวมอาภรณ์เข้ารับกับรูปร่าง ยามนี้เมื่อหลายส่วนลู่ลงตามทรวดทรงก็เท่ากับเปิดเผยให้เห็นถึงความเย้ายวนแต่กำเนิดที่สตรีแต่ละนางล้วนมีแตกต่างกันออกไป โชคดีที่สามีของนางไม่ใช่คนหมกมุ่น หลิวเช่อปลดเสื้อคลุมของตัวเองออกและจำต้องใช้เสื้อคลุมตัวใหญ่นั้นพันทับร่างแสนสะโอดสะองค์ของนงคราญพลางอุ้มนางขึ้นและเร่งก้าวเท้าไปตามเส้นทางกลับกระโจมใหญ่
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#81B877">
“ ฝ่าบาท นี่มันเกิดอันใดขึ้นพ่ะย่ะค่ะ พระองค์บาดเจ็—- !! ”</font> เมื่อมาถึง หมอหลวงประจำราชสำนักรีบเดินเข้ามาด้วยสีหน้าคร่ำเครงราวฟ้าถล่มดินทลาย การที่ฝ่าบาทมีรับสั่งเรียกตัวหมอหลวงในทุกครั้งล้วนเป็นเรื่องใหญ่ทั้งสิ้น ฉะนั้นแล้วนอกจากความตื่นตระหนกเจือเป็นห่วง ยังแทรกมาด้วยความหวาดเกรงว่าภาระหน้าที่ในครั้งนี้อาจเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้หนก่อน ๆ แต่เมื่อสายตาของหมอหลวงได้สบกับสายพระเนตรของมังกรหนุ่มที่พึ่งก้าวเข้ามาในกระโจม คำพูดของคนต่ำศักดิ์กว่าก็ขาดช่วงไปทันที
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
งามปราดเปรียวดุจหงส์ตื่น ชดช้อยดั่งมังกรท่องเวหา ท่วงท่าคือจันทร์เร้นเมฆา พลิ้วไหวคล้ายหิมะพัดหวนคืน.. เคยมีผู้บัญญัติการชมโฉมของโอรสสวรรค์องค์ปัจจุบันไว้เช่นนี้ ซึ่งตัวเขาก็หาได้ปฏิเสธ แต่เมื่อได้พบกันอีกครั้งในยามที่ผู้สูงส่งเหนือใครเปียกชื้นไปด้วยหยาดน้ำ กระทั่งแพขนตายังมีไอเย็นแผ่ออกมา ความงามที่อยู่ตรงหน้าย่อมไม่มีมนุษย์ใดเทียบเคียงได้
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#D4AC0D">
“ ต้าซือหม่า มัดตาเขาซะ ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#81B877">
“ พ่ะย่ะค่ะ? ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
หมอหลวงร้องรับเสียงสูง ส่วนต้าซือหม่าที่รู้สาเหตุดีได้แต่กระชับผ้าผูกผมเส้นหนึ่งที่ขนาดพอคาดดวงตาได้พอดีในมือ <font color="#CE8E42">“ ท่านหมอหลวงโปรดเข้าใจด้วย นี่เป็นเรื่องสำคัญ ”</font> เว่ยชิงพูดในขณะที่ชำเลืองตามองนายเหนือหัวที่เดินย่ำเท้าไปยังเตียงด้านในพร้อมกับวางม้วนเสื้อคลุมและค่อย ๆ คลี่ผ้าที่ดูเปียกชื้นออกเป็นร่างที่หลับใหลของเจ้าตำหนักตงเฉิน
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#81B877">
“ อ อ้อ ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ในระหว่างที่ต้าซือหม่ากำลังดำเนินการมัดตาให้เรียบร้อย.. หลิวเช่อทอดสายตาลงกับร่างที่จมอยู่กับนิทราพลางคิดไปถึงสาเหตุที่ตนออกตามหานาง ตอนนั้นมันผ่านเวลามาพักใหญ่หลังจากที่นางเดินออกไป เดิมทีเขาเองก็เกือบจะลืมนางอยู่รอมร่อหากไม่ใช่ว่ามีนางกำนัลที่ได้รับมอบหมายใฟ้ดูแลลู่เจี๋ยยวี่ตลอดการเสด็จประพาสครั้งนี้เดินมามอบอาหารให้ซานกงทั้งสาม
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ยามที่ดูบนหลังม้าคล้ายว่าภาระหน้าที่ของนางถูกปลดออกเหลือเพียงความอิสระและบริสุทธิ์อย่างสาวงามวัยแรกแย้ม ไม่รู้ว่าหากเปลี่ยนจากการขี่ม้ากินลมชมทิวทัศน์มาเป็นการขี่ม้าเพื่อไล่ล่าสิ่งมีชีวิต.. นางจะยังนึกสำราญกับมันได้อยู่หรือไม่ ที่จริงแล้วโอรสสวรรค์ไม่จำเป็นต้องใส่ใจกับความคิดไร้สาระเช่นนี้เลย หากไม่ใช่เพราะว่าตลอดหลายครั้งที่ผ่านมาทีละน้อยเขาเริ่มรู้สึกผ่อนคลายยามที่ได้อยู่ใกล้นาง เริ่มสนใจ.. กับการเฝ้ามองการตัดสินใจที่เงียบสงบเหล่านั้น
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ฉะนั้นหลิวเช่อจึงตัดสินใจจะทดสอบนางอีกสักครั้ง เหมือนกับที่ทดสอบตัวของเขาเอง
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
เสียดายที่ดันมามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นตัดหน้าจนเสียกระบวนไปหมด
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#81B877">
“ ฝ่าบาท??? ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#CE8E42">
“ ฝ่าบาท เรียบร้อยแล้วพ่ะย่ะค่ะ ”</font> ต้าซือหม่าเว่ยชิงเดินกลับเข้ามาแจ้งหลังฉากกั้นพร้อมพาตัวหมอหลวงที่ถูกปิดตาให้ก้าวตามมาด้วย อาศัยสายตาที่ชวนให้เสียวสันหลังวาบทั้งที่ไม่ทันได้มองเห็นจากองค์หวงตี้ หมอหลวงก็ลอบกลืนน้ำลายพลางถามเสียงเบา
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#81B877">
“ ส สรุปแล้วมีเหตุใด..เกิดขึ้นพ่ะย่ะค่ะ? ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#D4AC0D">
“ นางจมน้ำ ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
หนึ่งคำตอบนี้มีหรือหมอหลวงจะไม่เข้าใจ หญิงสาวเพียงผู้เดียวที่มีศักดิ์พอทำองค์จักรพรรดิเป็นเดือดเป็นร้อนได้หากไม่ใช่โฉมสะคราญลู่เจี๋ยยวี่ผู้นั้นแล้วจะเป็นใครอีก<font color="#81B877">“ ถ้าเช่นนั้นโปรดอนุญาตให้กระหม่อมตรวจอาการสักหน่อย.. ”</font> คำขอนี้เมื่อได้รับการอนุญาต ทางหมอหลวงที่เห็นรอบด้านแบบลาง ๆ ก็คลำทางไปจนถึงข้างเตียงนอน
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#81B877">
“ กระหม่อมขออนุญาต.. ”</font> เขาเกริ่นเสียงอ่อยพลางวางผ้าผืนหนึ่งลงบนข้อมือบางแล้วจากนั้นค่อยจรดปลายนิ้วลงตรงจุดชีพจรอย่างแม่นยำ หมอหลวงที่ทำงานให้ราชสำนักมาเกือบตลอดชีวิตเดี๋ยวขมวดคิ้วเดี๋ยวคลายออกท่ามกลางความกดดันที่มากล้น จนผ่านไปได้สักครึ่งจิบชาในที่สุดก็ถึงได้กล่าวออกมาด้วยความโล่งใจ <font color="#81B877">“ ชีพจรอ่อนแต่ไม่ถึงขนาดเป็นอันตรายต่อชีวิตแล้วพ่ะย่ะค่ะ เกรงว่าคงเป็นเพราะได้รับความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที ยามนี้ให้นางพักผ่อนเสียก่อน ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#81B877">
“ ร่างกายนางรับไอหยินมากเกินไปถึงได้เฉียบเย็นเช่นนี้ สิ่งที่ทำได้คือให้นางกำนัลมาช่วยผลัดชุดและเตรียมสำรับอุ่น ๆ ให้นางทานตอนที่ฟื้น ประเดี๋ยวกระหม่อมจะเขียนเทียบยาปรับสมดุลร่างกายเผื่อไว้ให้สักฉบับ จากนั้นรอลู่เจี๋ยยวี่ฟื้นคืนสติเสียก่อน ค่อยมาตรวจสอบอีกครั้งพ่ะย่ะค่ะ ”</font> อาการของนางเป็นการบอบช้ำที่ภายใน ไร้ซึ่งกลิ่นคาวเลือดก็เท่ากับหาได้มีแผลหนักที่ภายนอก แต่มีรอยช้ำหรือไม่นั้น.. จะให้ไปพลิกสำรวจร่างสตรีของจักรพรรดิก็ใช่เรื่อง
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#81B877">
“ พระองค์เองได้รับไอหยินกะทันหัน สมควรผลัดเปลี่ยนฉลองพระองค์และซดน้ำแกงสักถ้วย ส่วนกำหนดการล่าสัตว์ในวันนี—- ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#D4AC0D"><b>
“ เลื่อนออกไป ”</font></b>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
นึกว่าต้องโน้มน้าวมากกว่านี้เสียอีก อย่าว่าแต่หมอหลวงที่งุนงง แม้แต่เว่ยชิงก็ยังงุนงง <font color="#CE8E42">“ ฝ่าบาท แต่ว่า- ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#D4AC0D">
“ ถ่ายทอดคำสั่งออกไป เลื่อนเวลาออกขบวนอย่างไม่มีกำหนดจนกว่านางจะฟื้น ผู้ใดไม่พอใจก็เชิญกลับไปด้วยสองเท้าของตัวเอง ” </font>ถ้อยคำของเขาไร้ความเมตตา ขาดซึ่งความเห็นใจสมกับเป็นมังกรผู้ปราดเปรื่องเรืองอำนาจโดยไร้คู่ต่อกร <font color="#D4AC0D">“ เทียบยานั่นเจ้าก็รีบ ๆ เขียนเสีย แจ้งจางกงกงว่าลู่เจี๋ยยวี่ผลัดตกน้ำให้ตามคนมาดูแล ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#D4AC0D">
“ และหากมีผู้ใดประพฤติตนผิดแปลก.. <b>จับตาดูไว้อย่าให้คลาดสายตา</b> ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
…
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ธูปหอมมอดดับไปดอกแล้วดอกเล่า.. จากยามเฉินล่วงเข้าสู่ยามซื่อ ถัดมาเป็นยามอู่และเมื่อก้าวเข้าสู่ยามเว่ย ในที่สุดผู้ที่ครองเตียงโดยลำพังมานานก็เริ่มขยับ <font color="#D7BFDD"><b>“ ลู่เจี๋ยยวี่! เจ้า เจ้ารีบไปแจ้งฝ่าบาท ลู่เจี๋ยยวี่ฟื้นแล้ว ”</font></b> เสียงสตรีเจื้อยแจ้วลอยเข้ากระทบโสตประสาท ไป๋หรั่นปรือตาขึ้นมองผืนผ้าที่ถูกขึงตรึงเป็นกระโจมใหญ่ด้วยสายตาเลื่อนลอย เทพธิดาจำแลงผู้นี้สัมผัสได้ถึงอาการปวดหัวอย่างรุนแรงรวมไปถึงความรู้สึกหนักอึ้งที่ทำให้ยากจะขยับ แต่ถึงกระนั้นเมื่อหางตาเหลือบไปเห็นร่างในชุดคล้ายกับกลุ่มคนสุดท้ายที่นางพบ ใบหน้างามนั้นก็ผงะซีดไปโดยทันที
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
แต่แล้วอยู่ ๆ จากบรรยากาศตื้นตันซาบซึ้งประหลาดใจก็พลันเปลี่ยนมาเป็นกดทับเย็นเยียบ เมื่อเงาร่างของของโอรสสวรรค์ปรากฏขึ้นภายในส่วนในของกระโจมใหญ่ หลิวเช่อเดินนำจางกงกงและเว่ยชิงเข้ามาด้วยท่าทางไม่เร่งร้อนแต่ก็ใช่ว่าจะเยือกเย็นอย่างที่เคย สองเนตรมังกรหลุบลงเห็นสีหน้าไม่สู้ดีของสนมตนในยามที่มองนางกำนัลข้างเตียงก็ลอบขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจ <font color="#D4AC0D">“ เจี๋ยยวี่ ”</font> เสียงเรียกของเขาทำให้กายบางสะดุ้งเฮือก ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมายังไม่เคยมีช่วงเวลาใดที่นางหันขวับมองเขาอย่างตกใจเช่นนี้ นับว่ามีสิ่งที่..แปลกไปอยู่บ้างจริง ๆ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#994D7B">
“ ฝ่าบาท ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#D4AC0D">
“ เหตุใดจึงตกน้ำ ”</font> หากนางอยากก้าวลงไปด้วยตัวเองย่อมปลดเสื้อตัวนอกหรือรองเท้าวางไว้ริมฝั่ง แต่นี้ทั้งหมดยังอยู่กับตัวนาง หลิวเช่อปล่อยให้สนมของตนได้มีเวลาคิดทบทวนในระหว่างที่เขาหันไปรับน้ำแกงที่ถูกเคี่ยวเตรียมไว้ตลอดหลายชั่วยามจากจางกงกงมาคนเล็กน้อย หลิวเช่อปักใจเชื่อว่าเรื่องนี้ไม่ธรรมดา สัญชาติญาณมังกรเฉียบคมเช่นเดียวกับสองตาที่ไม่เคยปล่อยให้รายละเอียดเล็กน้อยได้หลุดรอด
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#994D7B"><i>
“ หม่อมฉัน.. ”</font></i>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
โฉมสะคราญเลิศล้ำกดใบหน้าลงพร้อมหลับตา นางใช้เวลาอยู่พักหนึ่งกว่าจะร้อยเรียงเรื่องในหัวได้จนเข้าที่เข้าทาง ตอบว่าเป็นอุบัติเหตุไม่ได้ แต่แรกเรื่องนี้มีเงื่อนงำหากปิดบังในตอนนี้อนาคตย่อมยากจะหันกลับได้ แต่ในขณะเดียวกันนางก็ไม่สามารถเล่าเรื่องทั้งหมดอย่างตรงไปตรงมา ชื่อของบุคคลที่สามค่อนข้างสุ่มเสี่ยงเกินไป ไป๋หรั่นไม่เชื่อว่านี่คือฝีมือของน้องสาวคนสนิท .. เว่ยเจียเหลียนฮวาที่นางรู้จักเป็นคนเจ้าแผนการก็จริงแต่หยิ่งทะนงในศักดิ์ศรีมาก วิธีการที่นางเลือกใช้ไม่มีทางเป็นการลอบกัดทำร้ายรุนแรง ต้องเป็นวิธีแยบยลกว่านี้และส่งผลต่อสภาพจิตใจมากกว่านี้
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
เป็นชั่วขณะหนึ่งที่ไร้ซึ่งเสียงตอบกลับ ลู่เจี๋ยยวี่ลอบช้อนตาขึ้นชำเลืองมอง <b>‘ คนนอก ’</b> อย่างไม่สบายใจ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ประจวบเหมาะกับในยามที่สายพระเนตรของหลิวเช่อยังคงจรดมองลงมาทำให้สวามีดีเด่นผู้นี้ทราบในความต้องการของนางโดยทันที <font color="#D4AC0D">“ ออกไปก่อน ”</font> โอรสสวรรค์ออกปากไล่คนอื่นให้ออกนอกกระโจมไป เหลือเพียงหนึ่งมังกรสุริยาและหนึ่งเทพธิดาหยกให้อยู่ร่วมกันในร่มเงาของกระโจมขนาดใหญ่
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#994D7B">
“ ระหว่างที่หม่อมฉันสลบไป มีนางกำนัลหายไปหรือไม่เพคะ? ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
เพียงหนึ่งคำถามไถ่ เนตรมังกรเรืองโรจน์ขึ้นด้วยแรงโทสะ ถ้วยน้ำแกงในมือเขาสั่นจนของร้อนที่อยู่ด้านในกระฉอกรดฝ่ามือทว่าสิ่งที่ผู้ซีดเซียวกระทำลงไปกลับนุ่มนวลแผ่วเบาเป็นอย่างยิ่ง.. ไป๋หรั่นวางปลายนิ้วลงกับขอบถ้วยน้ำแกงก่อนจะเคาะเบา ๆ พอให้ผู้ที่ถือรู้สึกตัว ริมฝีปากบางหยักเป็นรอยยิ้มเบาบาง <font color="#994D7B">“ เบื้องหน้าพระพักตร์มีคลื่นลมซัดสาดเรื่องราวในบ้านยังไม่สงบ.. ฝ่าบาทไม่โปรดการแก่งแย่งของฝ่ายใน เรื่องนี้หม่อมฉันทราบอยู่แก่ใจ ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ชามน้ำแกงถูกยกออกจากมือสากที่กระจายไอร้อนทั้งที่ยังไม่ทันได้สัมผัส ลู่ไป๋หรั่นยกชายแขนภูษาสีนิลของโอรสสวรรค์ขึ้นและใช้มันเป็นตัวกลางคั่นสัมผัสระหว่างมือนุ่มที่รองใต้พระหัตถ์นั้นพลางยกขึ้นเป่าในบริเวณที่ถูกของร้อนลวกช้า ๆ สัมผัสแผ่วเบาผสานกับกลุ่มลมที่รดลงกลางอุ้งมือชวนให้รู้สึกหยุบหยิบไปทั้งร่าง หว่างคิ้วที่เคยยับย่นเริ่มคลายลงช้า ๆ หลงเหลือไว้เพียงแต่การเฝ้าคอยว่าหยกขาวนางนี้จะโน้มน้าวตนอย่างไรอีก
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#994D7B">
“ ท้องพระโรงมีการฟาดฟันของขุนนางฉันใด ที่ส่วนในก็มีการแย่งชิงฉันนั้น ทว่าเรื่องนี้.. <i>หาใช่สิ่งที่พระองค์ควรต้องใส่ใจเพคะ</i> ”</font> มีอย่างที่ไหนบอกว่าเรื่องสามภรรยาสี่อนุสำหรับฝ่ายสามีไม่นับว่าเป็นเรื่องที่ควรต้องใส่ใจ หลิวเช่อกลับมาขมวดคิ้วอีกครั้งผิดกับร่องรอยความปลอดโปร่งบนหน้านงคราญ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#D4AC0D">
“ หมายความว่าอย่างไร ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#994D7B">
“ ผู้ที่รับมือกับสตรีได้ดียิ่ง.. ย่อมเป็นสตรีด้วยกัน ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
อีกฝ่ายคงลืมสิ้นไปแล้วว่าลู่ไป๋หรั่นไม่ใช่คนหัวอ่อนโดยธรรมชาติ ตัวตนของนางถูกป้ายสีย้อมขาวจนจรัสจ้าดั่งจันทรา แต่ใครเล่าจะทราบว่าลึกลงไปใต้กำแพงขาวนั้นจะมีสีสันในรูปแบบใด <font color="#994D7B">“ เรื่องครั้งนี้ใช่ว่าเกี่ยวพันเพียงหม่อมฉัน ยังมีชื่อเสียงของสหายเป็นเดิมพัน .. ”</font> เจี๋ยยวี่หยกขาวปล่อยมือของผู้ครองรัศมีมังกรลงก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นการประคองชามน้ำแกงขึ้นซดเป็นคำเล็ก ๆ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#D4AC0D"><b>
“ เจิ้นปกป้องเจ้าได้ ”</font></b>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><i>
ปกป้อง? </i>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
หากนางเป็นคนบ้าบิ่นกว่านี้อีกหน่อย..
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
เนตรหงส์งามหยดที่ประกอบด้วยนัยน์ตาดำขลับอย่างท้องฟ้ายามรัตติกาลสั่นระริกด้วยความเย้นหยันต่อโลกหล้า<font color="#994D7B"> “ จะทรงปกป้องหม่อมฉันอย่างไรเพคะ? ดำเนินคดีสืบหาตัวผู้ร้าย ปล่อยให้ผู้วางแผนสบโอกาสปล่อยข่าวว่าหม่อมฉันเป็นคนเจ้าแผนการแสร้งถูกกระทำทับถมลงอีกทอดเช่นนั้นหรือ? ” </font>ทว่าคำถามนี้ของนางคล้ายจะสัมผัสถูกเส้นความอดทนของหลิวเช่อเข้าอย่างพอดิบพอดี
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#D4AC0D">
“ ทุกสิ่งดำเนินการไปตามที่ควร เหตุใดจึงไม่พอใจ ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
การนึกคิดของสตรีเข้าใจยากยิ่งกว่ากฏหมายบ้านเมืองหรือกลยุทธ์การศึก น้ำเสียงของโอรสสวรรค์เจือไว้ซึ่งโทสะ เขาสามารถลุกเดินจากไปได้เลยนับตั้งแต่ตอนนี้เพราะอย่างไรก็ได้รู้คำตอบที่ต้องการแล้ว แต่เพราะเหตุผลบางอย่างที่เขาเองก็ยังไม่มั่นใจ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#994D7B"><b>
“ หากหม่อมฉันกล่าวว่านี่คือฝีมือของเว่ยเจียเสียนอี๋เล่าเพคะ ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#D4AC0D">
“ ..!! ”</font></b>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
แม้แต่ลมหายใจของเขายังถึงกับหยุดชะงัก เนตรหงส์ของเจี๋ยยวี่แซ่ลู่เรืองขึ้นด้วยความเวทนา
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#D4AC0D"><b>
“ เจ้าล้ำเส้นมากเกินไปแล้ว ! ”</font></b>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#994D7B">
“ หม่อมฉันถามว่าหากเป็นฝีมือของเว่ยเจียเสียนอี๋เล่าเพคะ ”</font> ครั้งนี้ลู่ไป๋หรั่นถามซ้ำด้วยน้ำเสียงที่จริงจังยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ ที่จริงแล้วไม่จำเป็นเลย.. นางไม่จำเป็นต้องกล่าวชื่อน้องสาวคนสนิทขึ้นมาทั้งที่รู้ว่าอันตราย แต่สิ่งที่นางทำอยู่ในตอนนี้นับเป็นการทดสอบครั้งแรกและครั้งเดียวที่มีต่อสวามี แค่ครั้งเดียวที่นางอยากจะทราบถึงมุมมองของเขาเพื่อไตร่ตรองให้ดีว่าสมควรทุ่มเททั้งชีวิตนับจากนี้เพื่อคนเพียงผู้เดียวดีหรือไม่
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#994D7B">
“ เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์เจิ้นย่อมส่งคดีนี้ให้จางทังตรวจสอบ หากผิดก็ว่ากันไปตามผิด หากถูกใส่ร้ายย่อมต้องเยียวยาให้แก่นาง ”</font> หลิวเช่อไม่เสียเวลาคิดเลยแม้แต่น้อย ด้วยใจที่ร้อนเร่าเขามองนางราวกับจะแผดเผาให้สิ้นซาก แต่ในพริบตาต่อมาก็ไม่อาจฝืนใจถือสานางได้นานนัก.. หากมีผู้ใดสามารถมีโทสะต่อผู้ที่ถือครองทั้งใบหน้าและบรรยากาศเช่นนี้ได้ก็คงต้องเรียกว่าเป็นยักษ์มารไร้ใจแล้ว แต่คำตอบนี้กลับสร้างเสียงหัวเราะใสกระจ่างดังขึ้นช้า ๆ คล้ายเสียงกระซิบของภูตพราย ไป๋หรั่นสูดหายใจเข้าด้วยใบหน้าสงบนิ่ง แม้ว่ามันจะเป็นความสงบราวนภาโปร่งทว่าเศร้าซึมราวฝนพรำ <font color="#994D7B"><i>“ นี่หรือเพคะ.. สิ่งที่ฝ่าบาททรงตรัสว่าปกป้องได้ ” </i></font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
บนพักตร์มังกรมีความสงสัยฉายเอาไว้ <font color="#994D7B">“ ในสายตาของพระองค์.. เว่ยเจียเสียนอี๋ และลู่เจี๋ยยวี่ต่างกันอย่างไรเพคะ ”</font> ครั้งนี้หลิวเช่อเริ่มที่จะพูดไม่ออกบ้างแล้วจริง ๆ เขาไม่ใช่คนโง่ถึงขนาดตามไม่ทันว่าสนมผู้นี้ต้องการสื่อสิ่งใด
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#994D7B">
“ หม่อมฉันและนางเป็นสนมยศสูงไม่กี่คนเช่นเดียวกัน มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับพระองค์มากกว่าผู้อื่นเช่นเดียวกัน มีข่าวลือนับไม่ถ้วนทั้งที่จริงและเท็จเช่นเดียวกัน มักถูกลากไปอยู่ในใจกลางความวุ่นวายเช่นเดียวกัน”</font> ความคล้ายคลึงแต่ละข้อถูกร้อยเรียงออกมาผ่านริมฝีปากบางที่ขยับอย่างน่ามอง <font color="#994D7B">“ กระทั่งการตัดสินใจของพระองค์ยามเมื่อเราสองเผชิญหน้ากับปัญหาก็ยังเป็นเช่นเดียวกัน.. ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#994D7B"><b>
“ ฮั่นอู่ตี้บริสุทธิ์เกรียงไกร จริงเป็นจริง เท็จเป็นเท็จ นับเป็นแบบอย่างของคนทั่วหล้ารวมไปถึงขุนนาง หม่อมฉันทราบดีว่าเรื่องนี้สมเหตุสมผลเป็นอย่างมาก ให้ชาวประชาได้ประจักษ์ชัดในความจริงผ่านหลักฐานผ่านคำให้การ แล้วพวกหม่อมฉันเล่าเพคะ? ตกเป็นที่ครหาของคนหมู่มากทั้งยังต้องเผชิญหน้ากับความจริงที่ว่าแม้แต่ชายที่ร่วมเรียงเคียงหมอนมิแม้แต่จะเชื่อมั่นในตัวพวกนาง สิ่งนี้เป็นการปกป้องหรือทำร้ายกันแน่ ”</b></font> ถึงคราวนางบ้างแล้วที่ขมวดคิ้วจนใบหน้ายับยุ่ง น้ำเสียงของไป๋หรั่นไม่ดังไม่เบา มันไม่ได้สั่นเครืออย่างคนระเบิดอารมณ์แต่กลับเป็นการใช้หนึ่งมุมมองที่เขาไม่เคยนึกใส่ใจย้อนเข้ามาตบหน้าอีกฝ่ายอย่างจัง <font color="#994D7B">“ ในสายพระเนตรจวบจนถึงตอนนี้ยังคงเห็นว่าสตรีทุกคนดาษดื่นเหมือนกัน ไร้ซึ่งความแตกต่างอยู่อีกหรือเพคะ? ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ประโยคนี้บาดหูนัก หลิวเช่อสัมผัสได้ว่าทั้งสองล้วนต่างออกไป ทว่า..
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#D4AC0D">
“ หากไร้ความผิดไยต้องหวั่นเกรง หน่วยราชการตรวจสอบนับเป็นการดำเนินการที่สะอาดบริสุทธิ์และมีเกียรติมากสุดในแผ่นดิน ทำเช่นนี้เท่านั้นถึงจะสามารถยืนยันความบริสุทธิ์ให้นางอย่างไร้ผู้คิดแย้ง ”</font>หลิวเช่อสวนกลับด้วยแนวคิดอย่างปัญญาชนที่เปิดเผยจริงใจ หลักการการปกครองหล่อหลอมให้ตัวตนร้ายกาจนี้ไขว่คว้าความน่าเชื่อถือในการพิสูจน์อันแน่ชัดทุกทาง
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#994D7B">
“ แล้วหากหลักฐานที่ทรงเชื่อมั่นนั้นคือหลักฐานเท็จ? ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#D4AC0D">
“ นี่เจ้าดูหมิ่นความสามารถของบ้านเมืองหรืออย่างไร ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#994D7B"><b>
“ เป็นเพราะผู้ที่ทราบดีว่าเล่ห์หลวงนี้หนักหนาได้ถึงเพียงไหนคือตัวพระองค์เองต่างหากเพคะ ”</b></font> โอรสสวรรค์ชะงักนิ่งงันไป สบโอกาสให้เจี๋ยยวี่หยกขาวถอนหายใจเฮือกพลางขยายความต่อ <font color="#994D7B">“ ฝ่าบาทคือนักปกครอง ทว่ารูปแบบของการปกครองบ้านเมืองมิอาจใช้กับเรื่องในบ้านได้เพคะ ” </font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#D4AC0D">
“ เหตุใดจึงไม่ได้ สตรียังสามารถเข้าบ้านมาพร้อมความคาดหวังของบิดา ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
นงคราญหยกเลิกคิ้วขึ้นอย่างประหลาดใจ <font color="#994D7B"><i>‘ นี่เขาประชด? ’</i></font> น่าเสียดายนักที่ความเห็นของสามีกับผู้เป็นภรรยาคัดค้านกันมากเกินไป <font color="#994D7B">“ เกรงว่าในสายตาพระองค์หม่อมฉันเป็นได้เพียงเท่านั้นหรือเพคะ.. ”</font> เป็นได้เพียงสตรีที่เข้ามาพร้อมความคาดหวังของบิดา ไป๋หรั่นเค้นหัวเราะออกมาดูเชื่องช้าและเยือกเย็นเป็นอย่างมาก
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#994D7B">
“ ตำแหน่งหวงตี้คล้อยตามคำคนไม่ได้ ฝ่าบาททรงปรีชาสามารถถึงเพียงนี้ ย่อมถูกต้องแล้วที่จะตัดสินใจดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ดูแล้วหม่อมฉันคงยังไม่มีความสามารถมากพอให้ฝ่าบาทเชื่อมั่นในความสามารถและการตัดสินใจ ”</font> สองเท้าเปลือยเปล่าหย่อนลงจากเตียงช้า ๆ ลู่ไป๋หรั่นยืนกับพื้นโดยที่เท้าบางไร้ซึ่งการห่อหุ้ม นางก้าวห่างออกมาด้วยสีหน้าสงบราว ๆ สามเก้า ก่อนจะทิ้งเข่าลงคำนับทูลแด่สวามีผู้เป็นถึงพระเจ้าแผ่นดิน
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#994D7B">
“ หม่อมฉันน้อมรับการตัดสินใจของฝ่าบาท ทว่ามิยินดีมอบคำให้การใดทั้งสิ้น ฉะนั้นโปรดเมตตาปล่อยผ่านเรื่องครั้งนี้สักครั้งเถิดเพคะ ”</font> มือของโอรสสวรรค์ขยับเข้ากำหมัดเพื่อสะกัดกั้นความคุกกรุ่นในใจ ไร้คำตอบที่เปล่งออกไป ชายภูษาสีนิลพัดผ่านร่างนางพาลจากไปทิ้งไว้เพียงรัศมีแผดเผาที่อาจผลาญสิ่งรอบกายให้ไหม้เป็นจุณ ต่อมาไม่ถึงหนึ่งก้านธูป ด้านนอกพลันมีเสียงฝีเท้าม้าควบไปไกลพร้อมกับมีผู้เลิกม่านกระโจมเดินเข้ามาด้านใน
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#CE8E42">
“ ลู่เจี๋ยยวี่ ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
เป็นต้าซือหม่า..
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ไป๋หรั่นระบายยิ้มเบาบางด้วยใบหน้าซีดขาวในขณะที่มือน้อยกำลังจับพู่กันขีดเขียนบางสิ่งลงบนพัดผ้าขาวผืนบาง <font color="#994D7B">“ เหตุใดต้าซือหม่าจึงไม่ร่วมขบวนล่าสัตว์กับหลาย ๆ ท่าน มิใช่ว่าท่านได้รับการจับตามองว่าอาจเป็นผู้ที่ล่าได้มากรองจากฝ่าบาทหรอกหรือ? ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ชายแสนสุภาพที่ได้รับคำสั่งและถูกกำชับไม่ให้แพร่งพรายความลับยกมือขึ้นเกาแก้มด้วยสีหน้าครุ่นคิด ก่อนจะตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่ดูลำบากใจ<font color="#CE8E42"> “ ม้าของข้าน้อยอาการมิสู้ดี สมควรให้มันได้พัก จากนั้นก็ได้ยินจางกงกงกล่าวว่าลู่เจี๋ยยวี่หาได้ตามเสด็จ ข้าน้อยจึงแวะมาเผื่อว่าสามารถให้ความช่วยเหลือท่านได้ ”</font> ทั้งหมดนี้ฟังแล้วดูสมกับเป็นต้าซือหม่าคนปัจจุบันแห่งราชสำนักมาก ทว่าชายชาตรีจะสามารถช่วยอะไรหญิงสาวได้ หากไม่ใช่การดูแลความเรียบร้อยและปลอดภัย
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#994D7B">
“ ถ้าเช่นนั้นใต้เท้าเว่ยมาทานของว่างสักถ้วยก่อนเถิด ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
โฉมงามพยักเพยิดไปทางถ้วยบัวลอยที่วางอยู่ไม่ไกล <font color="#994D7B">“ ข้าทานไม่ลง.. ทำมาแล้วจะปล่อยให้เสียเปล่าคงไม่ได้ คงต้องวานใต้เท้าเว่ยช่วยแบ่งเบาภาระนี้แล้ว ”</font> คนงามกล่าวโดยที่สองตาจรดลงอยู่กับตัวอักษรข่ายซูบนพัดขาว
<br><br>
<div align="center"><font face="Ma Shan Zheng"><font size="5">
少小离家老大回,乡音无改鬓毛衰。<br>
儿童相见不相识,笑问客从何处来。</font></font></div>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#CE8E42">
“ นี่คือ..? ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#994D7B">
“ ของขวัญวันคล้ายวันประสูติของเซียวจื่อไท่โฮ่วน่ะ ”</font> ปลายพู่กันแต้มลงเป็นใบหลิวที่เฉียบคม แม้นไม่อาจเรียกว่าเป็นยอดภาพล้ำเลิศ แต่ตัวอักษรที่ขีดเขียนอยู่ตรงมุมพัดนั้นนับว่าล้ำค่าเป็นอย่างมาก <font color="#994D7B"><i>“ สิ่งที่ข้าทำได้ดีก็มีเพียงการรังสรรของใช้เล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น ”</font></i>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ไม่น่าใช่ ลู่เจี๋ยยวี่ท่านมีพรสวรรค์ในการโน้มน้าวใจคนทั้งยังเป็นผู้แรกที่ทำให้ฝ่าบาทมีโทสะแต่ก็ยังนึกห่วง เว่ยชิงครุ่นคิดพลางพยักหน้าราวกับมีส่วนร่วมในบทสนทนานี้แม้ในใจจะยังเสียดายนักที่ไม่อาจแถลงหนึ่งข้อเท็จจริงให้นางได้ทราบ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
…
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#994D7B">
“ ฝ่าบาท ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ดึกดื่นค่ำคืนแล้ว ผู้ที่ออกมารอรับเสด็จที่หน้ากระโจมตามธรรมเนียมย่อมไม่พ้น<b> ‘ ลู่เจี๋ยยวี่ ’</b> ผู้เดิมที่พักรักษาตัวในกระโจมตลอดวัน เนตรหงส์งามหยดนั้นช้อนมองเหล่าขุนนางที่ตามเสด็จช้า ๆ เมื่อเห็นได้ว่าหลายชีวิตเหนื่อยหอบผิดกับผู้เป็นสามีที่ดูอารมณ์ดีขึ้นเล็กน้อย? คล้ายว่าได้ปลดปล่อยความขุ่นเคืองออกไปผ่านการล่าสัตว์ที่… <font color="#980000">“ ฝ่าบาททรงหักโหมล่าสัตว์ไว้มาก รบกวนลู่เจี๋ยยวี่ช่วยดูแลด้วย ”</font> เป็นจางกงกงที่กล่าวอย่างอ่อนแรง โดยที่ด้านหลังยังมีเหล่าทหารและขันทีบางส่วนช่วยกันแบกหามร่างสัตว์ไร้ชีวิตมากองรวมกันเป็นเนินใหญ่
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#994D7B">
“ ลำบากทุกท่านแล้ว ข้าให้นางกำนัลเตรียมอาหาร ของว่างและสุรารับรองไว้ในกระโจมแล้ว กลับไปพักผ่อนกันก่อนเถิด ”</font> ยังคงเป็นลู่เจี๋ยยวี่ที่จัดการรับรองผู้คนได้อย่างดีเยี่ยมสมกับที่เป็นบุตรสาวคหบดีรู้วิธีการว่าควรต้องทำอย่างไร แม้ว่าการตกอยู่ภายใต้สายตาของคนหมู่มากจะไม่ใช่เรื่องที่นางอึดอัด แต่การตกอยู่ภายใต้สายตาของโอรสสวรรค์ที่ยากหยั่งถึงชีวิตจิตใจนั้นต่างหากที่ทำให้รอยยิ้มบนใบหน้านางดูแข็งกระด้างขึ้นได้หลายส่วน <font color="#994D7B">“ หม่อมฉันให้ขันทีเตรียมขั้นตอนสรงน้ำไว้แล้วเพคะ มิทราบทรงอยากเสวยสิ่งใดก่อนหรื— ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#D4AC0D">
“ ไม่จำเป็น ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ฮั่นอู่ตี้กล่าวกับนางเป็นคำสุดท้ายของคืน.. คำสุดท้ายจริง ๆ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
หลังจากนั้นไม่ว่าจะปรนนิบัติปลดเสื้อผ้าหรือช่วยสวมใส่ รวมไปจนถึงตอนที่สองร่างเอนขนาบข้างบนเตียงแคบก็ยังไม่มีคำพูดใดหลุดมาสักประโยค จวบจนสัมผัสได้ว่าสตรีข้างกายผลอยหลับไปแล้วถึงได้หันกลับมามองช้า ๆ <font color="#D4AC0D">“ คล้ายพี่ชายเจ้าเสียไม่มีผิด ”</font> เป็นวาจาแผ่วเบาเคล้าเสียงถอนหายใจ หลิวเช่อผุดกายขึ้นจากเตียงหมายจะเดินไปจิบชาสักจอก ทว่าสายตาพลันเห็นไหสุราวางทับกระดาษเล็ก ๆ แผ่นหนึ่งอยู่กลางโต๊ะ โอรสสวรรค์มุ่นคิ้วเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจพลางสาวเท้าเข้าไปหยิบไหสุรานั้นขึ้นสำรวจ ฉับพลันสิ่งแรกที่ปะทะเข้ากับสายพระเนตรกลับเป็นตัวอักษรคุ้นตาที่เขียนอยู่บนกระดาษนั้น
<br><br>
<div align="center"><div id="boxLEETTER"><br>
<div align="center">หม่อมฉันขอโทษจริง ๆ เพคะ
<br><br></div>
</div></div>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#D4AC0D">
“ … ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
มีคนอย่างนี้อยู่เคียงข้าง เขาจะไปขุ่นเคืองนานได้อย่างไร?
</font>
<br><br><div align="center">
<img width="450" src="https://i.imgur.com/F56Ani1.png" border="0" alt=""> <br><br><font face="Sarabun"><font size="3">
<b> ฮั่นอู่ตี้</b><br>
+5 ความสัมพันธ์สนทนาประจำวัน<br>
+20ความสัมพันธ์โบนัสหัวดี<br>
+25 ความสัมพันธ์ สุราเกรดแดง <br><br>
<b> ตงฟาง ซั่ว</b><br>
+5 ความสัมพันธ์สนทนาประจำวัน<br>
+20ความสัมพันธ์โบนัสหัวดี<br>
+20 ความสัมพันธ์อาหารเกรดม่วง<br>
+5 โบนัสอาหารประเภทอาหารปรุง<br><br>
<b> เถียน เฟิง</b><br>
+5 ความสัมพันธ์สนทนาประจำวัน<br>
+20ความสัมพันธ์โบนัสหัวดี<br>
+20 ความสัมพันธ์อาหารเกรดม่วง<br>
+5 โบนัสอาหารประเภทอาหารปรุง<br><br>
<b> เว่ย ชิง</b><br>
+5 ความสัมพันธ์สนทนาประจำวัน<br>
+20ความสัมพันธ์โบนัสหัวดี<br>
+20 ความสัมพันธ์ของว่างเกรดม่วง<br>
+5 โบนัสอาหารประเภทอาหารปรุง<br><br>
<b> จาง ทัง</b><br>
+5 ความสัมพันธ์สนทนาประจำวัน<br>
+20ความสัมพันธ์โบนัสหัวดี<br>
+15 ความสัมพันธ์ ขนมว่างเกรดม่วง<br>
+5 โบนัสอาหารประเภทอาหารปรุง<br><br>
ทำกิจกรรมสันทนาการกับหวงตี้ +15 บารมี<br>
ปรนนิบัติยามค่ำคืน + 1 ปรนนิบัติ<br>
ก็อยากจะรู้ว่าทะเลาะกันแล้วได้โบนัสไหม <br>
และกรุณาบวกรางวัลจบอีเว้นท์ด้วยค่ะ .ไหว้<br><br>
โรลเพลย์คราฟพัดชิงหลิ่ว
</div>
</div>
<br><br>
</font></font></div></div><br><br></div><br><br>
<style type="text/css">@import url('https://fonts.googleapis.com/css?family=Chonburi'); Chonburi {font-family: 'Chonburi';}
</style>
<style type="text/css">@import url('https://fonts.googleapis.com/css?family=Ma Shan Zheng'); Ma Shan Zheng {font-family: 'Ma Shan Zheng';}
</style>
<style>
#boxcorecenter {
border: 0px solid #152cd5;
padding: 15px;
box-shadow: #504C4E 0px 0px 1em;
background-image: url("https://i.imgur.com/J5ZfEJ2.png");
}
</style>
<style>
#boxR0LE {
width: 600px;
border: 0px solid #cbb989;
padding: 35px;
box-shadow: #504C4E 0px 0px 1em;
background-image: url("https://i.imgur.com/PNPim8Q.png");}
</style>
<style>
#boxLEETTER {
width: 350px;
border: 0px solid #cbb989;
padding: 35px;
box-shadow: #504C4E 0px 0px 1em;
background-image: url("https://i.imgur.com/1VhFLiD.png");}
</style>
<div id="boxcorecenter">
<div align="center">
<br><br>
<div id="boxR0LE">
<img width="450" src="https://i.imgur.com/aDtIaPZ.png" border="0" alt="">
<br><font face="Chonburi"><font size="5"><font color="#994D7B"><span style="text-shadow: #ffffff 0px 0px 0.7px, #ffffff 0px 0px 25px, #ffffff 0px 0px 10px;">
<i><b>รุ่งสาง</span></b><font face="Sarabun"><font size="2"><br>
วันที่ 6 เดือน 8 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 10<br>เวลาสามนาฬิกาสามสิบนาทีเป็นต้นไป</font></font>
</i><br></font></font></font>
<br>
<div align="left">
<font face="Sarabun"><font size="3">
<p style="text-indent: 2.5em;">รุ่งสางมาเยือนอีกครั้งในที่สุดบรรยากาศของสามีภรรยาก็ดูเบาบางลงหลังจากที่นิ่งขึงกันมาตลอดคืน ยามนี้โอรสสวรรค์นั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวหนึ่งในสภาพที่เสื้อผ้ายังสวมใส่ไม่เรียบร้อยดี พร้อมหลับตาลงปล่อยให้เกศาดำขลับนั้นถูกสางโดยหวีในมือของคนผู้หนึ่ง <font color="#994D7B">“ ฝ่าบาทมุ่นคิ้วเช่นนี้.. ทรงปวดพระเศียรหรือเพคะ? ”</font> เสียงนุ่มละมุนเรียบเกริ่นขึ้นเหนือศีรษะเขา หลิวเช่อปรือตาขึ้นมองเงาสะท้อนในคันฉ่องเผยให้เห็นผู้งามสะคราญเลิศล้ำช้อนตาขึ้นสบกันผ่านภาพในเงา
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#D4AC0D">
“ อืม ”</font> เช้านี้เมื่อตื่นมารอบด้านก็ถูกจัดการเตรียมพร้อมไว้เสร็จสรรพ ทั้งยังมีร่างเล็กนั่งคอยรอเขาตื่นอย่างสงบเสงี่ยม ต่อมาถึงจะมีผู้ยอมถอยหลังลงถึงหนึ่งก้าวก็ไม่วายกระอักกระอ่วนลึก ๆ จนเขาต้องเอ่ยปัดให้นางรอเกล้าผมเขาเพียงอย่างเดียว
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
แม้ว่าสุดท้ายแล้วในยามที่ร่างมังกรเดินออกจากฉากกั้นจะต้องชำเลืองตาไปพบกับสีหน้าพูดไม่ออกบอกไม่ถูกของสนมตัวน้อยที่อึ้งไปในความจงใจของเขา แม้ว่าทุกส่วนจะถูกต้องสมบูรณ์รวมไปถึงอยู่ในที่ในทาง แต่ก็ยังเว้นบางส่วนไว้เช่นของประดับสายคาดเอว หรือแผงพาดขอบชายภูษาที่ยังไม่ได้พาดไปอย่างถูกต้อง
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#994D7B">
“ ให้หม่อมฉันนวดบรรเทาอาการสักนิดดีหรือไม่? ” </font>อ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
เห็นเขาจมอยู่ในความคิดมาพักใหญ่แล้ว.. แม้จะไม่ทราบว่าเรื่องที่อยู่ในห้วงคนึงของเขานั้นคือสิ่งใด ทว่าไป๋หรั่นไม่อยากทำให้เรื่องของตนเองกลายเป็นส่วนหนึ่งในนั้น สาวงามเฉิดฉันสูดหายใจเข้าช้า ๆ เมื่อเห็นว่าโอรสสวรรค์พยักหน้าเป็นการตอบรับ
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#994D7B">
“ เมื่อวานฝ่าบาททรงล่าสัตว์มาได้มาก ถ้าเช่นนั้นวันนี้มีกำหนดการอย่างไรบ้างเพคะ ”</font> นางเคยดูแลคนเฒ่าคนแก่ แม้แต่พี่ชายยังเคยผ่านมือมา หลังจากรวบเส้นผมของฮั่นอู่ตี้ขึ้นเป็นมวยพลางสวมกวานจนเรียบร้อย สิ่งต่อมาที่ทำย่อมเป็นการจรดอุ้งนิ้วเย็นลงกับขมับอุ่นพลางลงน้ำหนักนวดคลึงไปทีละน้อย
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#D4AC0D">
“ หารือกับขุนนาง และคัดแยกประเภทสัตว์ที่จะนำถวายเสด็จแม่ ตอนเย็นค่อยเดินทางกลับวังหลวง ”</font> สุรเสียงมังกรเด็ดขาดมั่นคง คล้ายว่ากำหนดการเล่านี้สามารถกินเวลาตลอดทั้งวันและไม่อาจแทรกเติมสิ่งใดเพิ่มเข้าไปได้อีก
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#994D7B">
“ ถ้าอย่างนั้นระหว่างที่คัดแยกประเภทสัตว์ก็คงต้องเริ่มเก็บกระโจมแล้ว ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ข้าวของนางไม่นับว่ามาก อย่างไรที่หยิบมาใช้ก็ไม่ได้เยอะ จะลำบากก็เพียงการหาจุดเหมาะ ๆ ในระหว่างนั่งรอการเก็บข้าวของนี้ที่อาจทำให้รอบด้านวุ่นวายไปได้อีกพักใหญ่ ๆ ซึ่งหลิวเช่อก็กำลังพิจารณาในส่วนนี้อยู่พอดี.. หลังจากต่างฝ่ายต่างเงียบไปพักหนึ่งในที่สุดคนที่กล่าวออกมาก็เป็นชายที่หลับตารับการนวดศีรษะอย่างเบามือ <font color="#D4AC0D">“ อยากขี่เจ้าสวีอีกหรือไม่ ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
คำถามนี้มาโดยไม่ทันตั้งตัว ความคิดของลู่เจี๋ยยวี่วิ่งแล่นอย่างรวดเร็วเพื่อหาคำตอบว่าเจ้าสวีนั้นคือสิ่งใด กระทั่งนึกถึงวันแรกในอุทยานเม่าหลินที่ตนถูกอีกฝ่ายพาขึ้นบนหลังม้าแล้วพาไปท่องชมโลกกว้าง <font color="#994D7B">“ ทรงหมายถึงอาชาเหงื่อโลหิตตัวนั้นหรือเพคะ? ”</font> คำถามนี้ของนางเจือความมั่นใจอยู่เจ็ดส่วนถึงขนาดที่หลิวเช่อผู้รับฟังยังรู้สึกได้ถึงความคิดนั้น
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#D4AC0D">
“ ใช่ ”</font> มาอุทยานเม่าหลินทั้งที่ วันแรกนางได้ชมแค่ผิวเผิน วันถัดมาก็อยู่เฝ้าในกระโจมทั้งวัน หากวันสุดท้ายยังไร้ภาพจำดี ๆ ต่อที่นี่ หลิวเช่อก็คิดว่าอนาคตการมาเยือนคงได้ทำให้นางรู้สึกลำบากใจ แม้ความปรารถนาดีนี้จะไม่กระจ่างชัดในใจผู้ฟัง แต่อย่างน้อย ๆ มันก็ช่วยจุดรอยยิ้มให้กลับขึ้นมาประดับบนใบหน้างาม
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#994D7B">
“ แล้วการคัดแยกประเภทสัตว์เล่าเพคะ? ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#D4AC0D">
“ จางกงกงจัดการได้ ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
มีตัวตายตัวแทนแล้วนี่เอง
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;">
ไป๋หรั่นพยักหน้าน้อย ๆ ในระหว่างที่มือเคลื่อนจากขมับมาเป็นการวางลงบนสองบ่ากว้าง <font color="#994D7B">“ รู้สึกดีขึ้นบ้างหรือยังเพคะ? ” </font>อาศัยเพียงรอยยิ้มของนงคราญก็เพียงพอแล้วต่อการปลอบประโลมใจ ทว่าหลิวเช่อมีมารตราฐานที่สูงเฉียดฟ้า ต่อให้สั่นไหวอย่างไรก็ไม่ยอมรับโดยง่าย
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#D4AC0D">
“ ไม่เท่าไหร่ ”</font>
<br><br><p style="text-indent: 2.5em;"><font color="#994D7B">
“ แล้วหากได้ขี่ม้าชมบรรยากาศจะทรงดีขึ้นอีกหรือไม่เพคะ ”</font> ใบหน้าหวานโน้มลงหาอย่างเชื่องช้า ผสานกับเปลือกตาหนาของหลิวเช่อที่เปิดขึ้น เกิดเป็นวาระการสบตาที่ไร้คำกล่าวขานใด ๆ <font color="#994D7B">“ หากทรงคิดว่าดีขึ้น.. ถ้าเช่นนั้นให้หม่อมฉันยืมเวลาของฝ่าบาทสักชั่วยามเถิดเพคะ ”</font>
</font>
<br><br><div align="center">
<img width="450" src="https://i.imgur.com/F56Ani1.png" border="0" alt=""><br><br><font face="Sarabun"><font size="3">
ทำกิจกรรมสันทนาการกับหวงตี้ +15 บารมี<br>
ทุกครั้งที่ความสัมพันธ์หัวใจหวงตี้หรือไท่โฮ่วเพิ่มขึ้น 1 ดวง +50 บารมี<br>
ปรนนิบัติผลัดเสื้อผ้า (เวลา 03.30 - 04.30 น.)= 1 ปรนนิบัติ
</div>
</div>
<br><br>
</font></font></div></div><br><br></div><br><br>
<style type="text/css">@import url('https://fonts.googleapis.com/css?family=Chonburi'); Chonburi {font-family: 'Chonburi';}
</style>
หน้า:
[1]