ตลาดตะวันตก

[คัดลอกลิงก์]
ตลาดตะวันตก

ตลาดตะวันตก
{ ตลาดตะวันตกแห่งฉางอัน หรือ "ซีซื่อ" (Xishi) }
【 ตลาดตะวันตก 】
「 ซีซื่อไม่เพียงเป็นตลาดหากคือชีพจรของแผ่นดิน เสียงค้าเสียงขายคือเสียงลมหายใจของต้าฮั่น 」
          ตลาดตะวันตกแห่งฉางอัน ไม่ได้เป็นเพียงแค่ตลาดสินค้าแต่เป็นศูนย์กลางการค้าและวัฒนธรรมที่คึกคักที่สุดแห่งหนึ่งในนครฉางอัน เมืองหลวงอันรุ่งโรจน์ของราชวงศ์ฮั่น ตลาดแห่งนี้ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเมือง ตัดกับ "ตลาดตะวันออก" (ตงซื่อ) ที่อยู่ทางอีกฟากหนึ่ง ซึ่งแต่ละแห่งต่างก็มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจักรวรรดิ

          เมื่อก้าวเข้าสู่ตลาดตะวันตก ผู้มาเยือนจะถูกโอบล้อมด้วยบรรยากาศที่เปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวาและความหลากหลาย เสียงเซ็งแซ่ของการต่อรองราคา กลิ่นหอมกรุ่นของเครื่องเทศจากแดนไกล ผสมผสานกับกลิ่นอายของชาและผ้าไหมฟุ้งกระจายไปทั่วอากาศ ภายในพื้นที่อันกว้างขวางถูกจัดแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ อย่างเป็นระเบียบ มีร้านรวงและแผงลอยนับไม่ถ้วนตั้งเรียงรายตามแนวถนนและตรอกซอกซอยที่ตัดกันเป็นตาราง ร้านค้าแต่ละแห่งประดับประดาด้วยป้ายไม้แกะสลักและธงผ้าสีสันสดใส บ่งบอกถึงชนิดของสินค้าที่วางขาย

          ตลาดตะวันตกมีความโดดเด่นอย่างยิ่งในฐานะแหล่งรวมสินค้าจากทั่วทุกมุมโลก เนื่องจากฉางอันเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางสายไหม บรรดาพ่อค้าจากเปอร์เซีย ซอกเดีย อินเดีย อาหรับ และดินแดนห่างไกลอื่นๆ ได้นำสินค้าแปลกตาเข้ามาแลกเปลี่ยน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเทศหายาก อัญมณีเลอค่า เครื่องแก้วเนื้อดี เครื่องลายครามชั้นสูง ม้าพันธุ์ดี หรือแม้กระทั่งทาสและสัตว์แปลกๆ นอกจากนี้ ยังมีสินค้าหัตถกรรมพื้นเมือง เครื่องแต่งกาย ผ้าไหมชั้นเยี่ยม เครื่องประดับ และอาหารนานาชนิดให้เลือกสรร ผู้คนทุกชนชั้นต่างหลั่งไหลเข้ามายังตลาดแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นขุนนางผู้สูงศักดิ์ พ่อค้าวาณิช ชาวบ้านธรรมดา หรือแม้แต่นักเดินทางจากต่างแดน

นอกจากจะเป็นแหล่งซื้อขายสินค้าแล้ว ตลาดตะวันตกยังเป็นสถานที่พบปะสังสรรค์และแลกเปลี่ยนข่าวสาร ผู้คนสามารถพบเห็นนักเล่านิทาน นักดนตรี นักแสดงข้างถนน ที่มาสร้างความบันเทิงให้กับฝูงชนอย่างไม่ขาดสาย บางมุมอาจมีโรงน้ำชาที่ผู้คนมานั่งพักผ่อน จิบชา และพูดคุยเรื่องราวต่างๆ ด้วยความคึกคักและความสำคัญทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรม ตลาดตะวันตกแห่งฉางอันจึงเป็นดั่งหัวใจที่เต้นรัวของจักรวรรดิฮั่น สะท้อนให้เห็นถึงความรุ่งเรืองและอารยธรรมอันยิ่งใหญ่ในยุคนั้นได้อย่างชัดเจน

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 10812 ไบต์และได้รับ 8 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-7-18 13:09
โพสต์ 2025-7-18 16:14:05 | ดูโพสต์ทั้งหมด


วันที่ 16 เดือน 6 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11

ยามจื่อ เวลา 23.00 - 00.00 น. ณ ถนนสิบลี้ ตลาดตะวันตก

อีเว้นท์ เงาจันทร์เหนือถนนสิบลี้


ตลาดตะวันตกในยามค่ำคืนยังคงคึกคักพอประมาณทั้งกลิ่นหอมของของปิ้งย่างและแสงตะเกียงที่ทอดเงายาวบนพื้นหินเรียบ หลินหยาที่กำลังแบกร่างใต้เท้าผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งวันนี้เหลวเป็นเยลลี่เมาแอ๋แถมยังบ่นไม่หยุดก็ได้แต่ถอนหายใจเฮือกแล้วกัดฟันลากเขาต่อ "คดี...กองเป็นภูเขา...ถิงเวยหายหัวไปไหน...ข้าเป็นต้าซือคงนะ ไม่ใช่คนสะสางกากเดน..." เสียงเถียนเฟิงบ่นกระปอดกระแปดไม่รู้เรื่อง บ่นเหมือนกำลังยืนอยู่หน้าที่ทำการกรมตรวจการทั้งที่ตอนนี้สภาพคือกำลังกอดคอหลินหยาแน่นหนึบจนหล่อนแทบเซไปชนร้านลูกชิ้น


“โธ่...แม่งเอ้ย...” หญิงสาวสบถเบา ๆ ในคอ กลิ่นสุราหึ่ง ๆ ทำเอาเธอแทบอยากจับหัวอีกฝ่ายโขกเสาร้านลูกชิ้นให้รู้แล้วรู้รอด "ท่านมันมหาเสนาบดีไม่ใช่กระสอบทรายของข้า! หนักก็หนัก บ่นก็ไม่หยุด...ถ้าจะพูดก็บอกทีว่าจวนท่านไปทางไหนถ้าไม่บอกก็เงียบไปเลย!"


แต่ไม่มีเสียงตอบกลับที่เป็นประโยชน์นอกจาก "ถิงเวย...ถิงเวย...ข้าจะ...จับเจ้ามาโยนหนังสือราชการให้ดู...หายหัวไป..."


"ข้าถามว่าไปทางนี้ใช่ไหมทิศนี้?" หลินหยาหันมาถามเสียงกร้าวชี้ไปยังตรอกหนึ่งที่ดูจะมุ่งหน้าสู่เขตพักอาศัยระดับสูง "ทิศนี้..." เถียนเฟิงตอบมั่นใจมากจนเธอเกือบเชื่อ...ถ้าไม่ใช่ว่าเขากำลังชี้ไปทางที่มืดสนิทไม่มีบ้านเรือนอะไรเลยนอกจากบ่อน้ำร้าง


"ท่านแม่งชี้มั่ว!!! ไปกินเข็มทิศไปท่านอ่ะ!" ญิงสาวเบ้ปากบ่นระบาย แต่ก็ต้องพยุงต่อไม่ให้ล้ม เพราะเจ้าของตำแหน่งสูงสุดในราชสำนักตอนนี้กำลังโน้มตัวมากอดเธอแน่นกว่าเดิมอีก แขนข้างหนึ่งโอบรอบบ่าอีกข้างแทบจะยกขึ้นพาดหัว นี่ถ้าไม่ติดว่ารู้จักกันมานาน หลินหยาคงคิดว่ากำลังโดนจีบแน่ ๆ แต่ในสถานการณ์นี้เมาเหมือนหมาขนาดนี้ จีบพ่อง!


"ข้าจะจำไว้...เจ้าคือคนดี...เจ้าคือคนไว้ใจได้..." เสียงพร่าของเถียนเฟิงราวกับคำพึมพำหลอนในความฝัน


น้ำเสียงแหบแห้งปะปนกลิ่นสุราเย็นเฉียบที่ทำให้ใบหน้าของหลินหยาต้องเบ้ "ไว้ใจบ้านท่านสิ! บอกให้บอกทางไปจวนก็ดันจะให้เดินทางเข้ามุมร้าง! ทิศไม่ใช่ปัญหาแล้วล่ะ ตอนนี้ปัญหาคือข้าจะลากท่านเข้าประตูจวนให้ทันก่อนไก่ขันยังไงต่างหาก!" หลินหยาเหลือบมองฟ้า ดาวเหนือยังไม่ขยับเท่าไรบอกเวลาได้ว่าอีกไม่เกินหนึ่งชั่วยามก็จะเปลี่ยนยามจื่อไปสู่ยามโฉ่วแล้ว "โอ้ยยย ท่านอย่าเผลออ้วกใส่ข้านะ ขอบอก!" ยังไม่ทันที่เธอจะพยุงเขาก้าวต่อแต่อีกฝ่ายกลับซุกหน้าลงกับไหล่เธอเหมือนลูกแมวเมาที่หมดแรง...ใครเห็นจะคิดว่าเขาเป็นพ่อบ้านเมาหัวทิ่มกลับจากโรงเตี๊ยมไม่ใช่มหาเสนาบดีคนสำคัญของราชสำนัก


หลินหยาได้แต่ก่นด่าในใจ...ก่อนจะถอนหายใจหนักหน่วง "เอาวะ...ลากศพท่านเข้าไปให้ถึงจวนก่อนละกัน" และการเดินทางที่ทั้งวุ่นวาย ทั้งฮา ทั้งปวดหลังของหลินหยากับผู้บ่นราชการระหว่างเมาหัวทิ่มก็ยังคงดำเนินต่อไปในค่ำคืนนี้...ท่ามกลางแสงไฟของตลาดตะวันตกที่เริ่มมอดลงไปทุกขณะ


ภายใต้แสงจันทร์ที่ทอดตัวบางเบาเหนือหลังคาตลาดตะวันตก เสียงกลองของยามค่ำก็ดังแว่วเตือนชาวเมืองให้กลับสู่เรือน…แต่มิใช่สำหรับหลินหยากับเถียนเฟิง ที่ยังคงตะเกียกตะกายเดินฝ่าค่ำคืนไปพร้อมกันหรือจะให้พูดตามจริง…ก็คือหญิงสาวคนเดียวที่ลากชายหนึ่งคนซึ่งเมาหนักเหมือนปลาถูกทุบหัว! “โอ๊ย…ใต้เท้าเจ้าคะ…” หลินหยาเบ้ปากเหยเกเป็นรอบที่สิบ ตอนที่มือหนาหนักของเถียนเฟิงชี้ออกไปทางขวามืออย่างดุดันราวประกาศิตจากสวรรค์…แต่ทิศนั้น…นางจำได้ดีว่ามีแต่ทางตันอยู่!


"ขอบใจนะร่างกายที่ยังฉลาดกว่าเจ้าของมัน..." หลินหยากระซิบกับตัวเองอย่างประชดประชันแล้วกึ่งลากกึ่งอุ้มอีกคนออกห่างจาก ‘เส้นทางที่มุ่งไปสู่หายนะโดยสมบูรณ์’ ขอบคุณฟ้าที่มีหมวกไม้ไผ่ครอบหัวไว้ เพราะหากใครในตลาดตะวันตกมองดี ๆ แล้วเห็นว่าคนที่ถูกกอดพาเดินตัวเซไปเซมาอยู่นี้คือ ‘ใต้เท้าเถียนเฟิง’ มหาเสนาบดีแห่งราชสำนัก ก็คงเกิดข่าวลือฟ้าถล่มแผ่นดินแยกได้แน่นอน นี่ยังดีที่เขาสวมชุดเรียบง่ายแม้เนื้อผ้าจะดีอย่างน่าเกรงขามก็ยังพอแถเนียนว่าเป็นคุณชายเมาเหล้าจากตระกูลใหญ่ หรือไม่ก็พวกชาวยุทธ์จากหุบเขาไหนสักแห่งที่เมามากเสียจนกลับเรือนไม่ได้แต่ที่ไม่อาจแถได้แน่ ๆ คือ…


"อื้อ…ข้าเหนื่อย…ข้าไม่อยากเป็นทำงานแล้ว...ข้าอยากนอนในไร่ดอกท้อ…อยากนอนตักเจ้า…อยาก..." หลินหยาเบิกตาโต หัวใจแทบหล่นไปอยู่ตรงส้นเท้าเพราะตอนนี้คนเมาเริ่มเปลี่ยนโหมดหรอเนี้ย? "ท่านอย่าได้แม้แต่จะคิด!! ใครเขาจะให้นอนตักกันล่ะหา?!" แต่เสียงบ่นออดอ้อนอย่างกับคนอายุน้อยกว่าสิบปีของอีกฝ่ายก็ยังคงดังขึ้นมาเรื่อย ๆ "เจ้าทำให้ข้ารู้สึกปลอดภัย…เจ้ารู้ไหม ข้าชอบกลิ่นลูกท้อจากเจ้า…กลิ่นนั้นทำให้ข้าไม่ฝันร้าย…"


“...อีตาโคตรจอมวางแผนเอ๊ย…” หลินหยาแทบขมวดคิ้วขยี้หน้าเธอเอง แววตาหญิงสาววูบไหวชั่วครู่ก่อนจะถอนหายใจหนักจนอกสะเทือนเพราะเถียนเฟิงในตอนนี้ไม่ใช่มหาเสนาบดีผู้สุขุม ไม่ใช่จอมบงการรัตนากรอันลึกล้ำหากแต่กลับกลายเป็นคุณชายผู้ไร้ที่พิง ไร้ผู้รับฟัง


"ข้าไม่ได้อ่อนแอหรอกนะ…แค่เหนื่อย…เหนื่อยมาก…" พูดแบบเมา ๆ แล้วก็ซบหน้าลงกับไหล่ของหลินหยาต่ออย่างไม่สนใจฟ้าดินหรือศักดิ์ศรี หญิงสาวถึงกับสะดุดฝีเท้าไปหนึ่งก้าวเพราะแรงทิ้งน้ำหนักเต็มตัวนั่น ก่อนจะโวยลั่นในใจ โว้ยยย นี่มันอะไรกันวะวันนี้! นี่มันอีเวนต์โรแมนซ์ของใครวะ! “โอเค…โอเค...ตอนนี้อย่าทิ้งตัวเหมือนข้าคือเตียงของท่านก็พอ!”


เถียนเฟิงกระซิบเบา ๆ เหมือนละเมอ "เจ้าไม่ใช่เตียง...เจ้าเป็นหมอน...หมอนที่ข้าไว้ใจ..."


".....จ๊ะ เอาตามที่คุณท่านสะดวกเลยจังหวะนี้"


หลินหยาถอนหายใจรอบที่สิบแปดของวันมือหนึ่งกระชับแขนอีกคนไม่ให้ล้ม ส่วนอีกมือลูบหน้าผากตัวเองเบา ๆ ด้วยความเวทนาทั้งตัวเองและชายผู้เมาหัวทิ่มตรงหน้า…และเพียงไม่นาน ร่างของเถียนเฟิงก็แนบชิดเข้ามากว่าเดิมราวลูกสุนัขขี้หนาวที่ซุกเข้าอ้อมอกอย่างอัตโนมัติ โอเค...นางไม่เคยคิดจะเป็นหมอนใคร...แต่ถ้ามันจะช่วยให้อีกคนไม่ฝันร้ายคืนนี้… "ก็เอาเถอะ" เธอพึมพำ "แค่คืนเดียวนะเว้ย...แค่คืนเดียวจริง ๆ..." ท่ามกลางค่ำคืนที่ถนนสิบลี้เริ่มว่างเปล่า มีเพียงเสียงฝีเท้าของสตรีหนึ่งผู้พาชายเมาเหล้ารายหนึ่งเดินฝ่าราตรีไปอย่างเงียบงัน




@Admin 



พรสวรรค์: ลาภลอย (ไม้) 

มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่

อื่น ๆ: ตีกันตลอดไป

รางวัล: -


แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 30426 ไบต์และได้รับ 24 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-7-18 16:14
โพสต์ 30,426 ไบต์และได้รับ +35 EXP +12 คุณธรรม จาก ยอดคีตศิลป์  โพสต์ 2025-7-18 16:14
โพสต์ 30,426 ไบต์และได้รับ +2 คุณธรรม จาก ปราณกระเรียนขาว(ไม้)  โพสต์ 2025-7-18 16:14
โพสต์ 30,426 ไบต์และได้รับ +12 EXP +12 คุณธรรม +12 ความโหด จาก ดาวนำโชค  โพสต์ 2025-7-18 16:14
โพสต์ 30,426 ไบต์และได้รับ +25 EXP +20 คุณธรรม +9 ความชั่ว +20 ความโหด จาก ขลุ่ยพันธะในเงาศาลา  โพสต์ 2025-7-18 16:14
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
วาสนาเซียน
ด้ายแดงแห่งโชคชะตา
แหวนดาราจรัส(D2)
ตำราอาหารลับของเสี่ยวจ้าวจื่อ
ยอดคีตศิลป์
ปราณกระเรียนขาว(ไม้)
ขลุ่ยพันธะในเงาศาลา
เกราะทองเทวะ
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x16
x16
x16
x30
x1
x30
x5
x27
x2
x10
x8
x10
x2
x1
x3
x114
x5
x5
x5
x5
x6
x4
x4
x4
x21
x1
x158
x20
x21
x1
x5
x34
x7
x246
x1
x1
x1
x145
x5
x6
x66
x20
x6
x93
x79
x5
x209
x5
x50
x5
x85
x6
x196
x55
x68
x78
x4
x105
x5
x8
x4
x3
x11
x9
x8
x15
x69
x1
x1
x5
x53
x42
x47
x16
x140
x10
x11
x10
x26
x9
x10
x4
x15
x60
x55
x2
x1
x95
x62
x9
x10
x167
x55
x28
x70
x78
x49
x5
x3
x120
x12
x9
x11
x5
x3
x3
x9
x5
x6
x1
x1
x6
x13
x8
x135
x70
x20
x11
x14
x48
x3
x1
x4
โพสต์ 2025-7-26 14:11:06 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ 20 ลิ่วเยว่ รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11 

ยามเซิน (เวลา 15.00 - 17.00 น.)



ซูเหยาก้าวเข้ามาในตลาดตะวันตก เสียงเอะอะโวยวายของพ่อค้าแม่ขายดังระงมไปทั่วบริเวณ กลิ่นสมุนไพรหลากหลายปะปนกับกลิ่นเครื่องเทศฉุนกึกอบอวลไปทั่ว ตลาดตะวันตกขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งค้าขายสมุนไพรที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวง แผงลอยไม้เก่าคร่ำคร่าเรียงรายสุดลูกหูลูกตา บางแผงกองสมุนไพรแห้งเป็นภูเขา บางแผงแขวนรากไม้ขนาดใหญ่ที่ดูน่าเกรงขาม ซูเหยาค่อย ๆ เดินลัดเลาะไปตามทางเดินแคบ ๆ ดวงตากลมโตสอดส่ายมองหาแผงค้าที่น่าสนใจ


นางหยุดอยู่ที่แผงหนึ่งซึ่งมีสมุนไพรวางเรียงอย่างเป็นระเบียบ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ก่อนจะเอ่ยปากถามพ่อค้าถึงราคา พ่อค้าหนุ่มผู้มีหนวดเครารุงรังมองนางตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะเอ่ยราคาที่ทำให้ซูเหยาต้องขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจ ราคาสูงลิบลิ่วเกินกว่าที่นางคาดการณ์ไว้มากนัก แม้จะพอทราบมาบ้างว่าที่นี่ราคาจะถูกกว่าที่อื่นเล็กน้อย แต่เมื่อได้ยินด้วยตัวเองแล้ว ก็ยังรู้สึกตกใจอยู่ดี นั่นทำให้ซูเหยาต้องคิดหนักถึงงบประมาณที่มีอยู่จำกัด


นางเดินต่อมาอีกไม่ไกล ก็พบกับแผงค้าที่เต็มไปด้วยสมุนไพรหายาก นางเอื้อมมือไปสัมผัสเบา ๆ รู้สึกได้ถึงความสมบูรณ์ของมัน 


“สมุนไพรพวกนี้ราคาเท่าไหร่หรือเจ้าคะ?” นางเอ่ยถาม 


หญิงชราเจ้าของแผงมองซูเหยาด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่มก่อนจะบอกราคาที่ ทำให้ซูเหยาลอบถอนหายใจอีกครั้ง ราคานี้ก็ยังคงสูงลิบลิ่วสำหรับนาง แม้สมุนไพรจะดูมีคุณภาพดีเยี่ยมก็ตาม นางรู้ดีว่าสมุนไพรหายากเหล่านี้เป็นที่ต้องการของบรรดาขุนนางและเศรษฐีผู้มั่งคั่งในเมืองหลวง แต่สำหรับคนธรรมดาอย่างนางแล้ว การจะซื้อหามาได้แต่ละอย่างนั้นเป็นเรื่องยากลำบากยิ่งนัก


ขณะที่ซูเหยากำลังจะจากไป หญิงชราเจ้าของแผงก็กระซิบเสียงเบา 


“ท่านหมอหญิงคงไม่ทราบว่าสมุนไพรเหล่านี้ มิใช่สูงด้วยความต้องการอย่างเดียว แต่เป็นเพราะมีมือที่มองไม่เห็น กำลังกว้านซื้อกักตุนเอาไว้เจ้าค่ะ” ซูเหยาหันขวับ ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ หญิงชราพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะผายมือไปทางด้านหลังแผงค้าที่มีประตูไม้เก่า ๆ บานหนึ่ง 


“ตรงจุดนั้นเป็นที่ที่พวกเขาชอบนัดพบกันเจ้าค่ะ”


ซูเหยาใช้เวลาอีกพักใหญ่ในการสำรวจตลาด นางถามราคาของสมุนไพรอีกหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นชนิดที่หายากหรือแม้แต่ชนิดที่หาได้ทั่วไปในท้องตลาด แต่ทุกอย่างล้วนมีราคาที่สูงเกินกว่าที่นางจะคาดคิดไว้ และเมื่อสังเกตดูดี ๆ ก็พบว่าแผงค้าใหญ่ ๆ หลายแผงดูเหมือนจะมีสายสัมพันธ์กับกลุ่มคนที่หญิงชรากล่าวถึง


นางเดินออกมาจากตลาดตะวันตกด้วยความรู้สึกท่วมท้น ไม่เพียงแต่ผิดหวังกับราคาที่สูงเกินเอื้อม แต่ยังรู้สึกถึงความอับจนหนทาง เมื่อได้รู้ว่าปัญหาที่แท้จริงมิได้มาจากกลไกตลาดตามปกติ แต่เป็นเพราะการกักตุนของคนกลุ่มหนึ่ง ตลาดแห่งนี้เป็นเหมือนรังไหมที่ถักทอด้วยเส้นใยแห่งความมั่งคั่งก็จริง แต่กลับมีใยแมงมุมที่มองไม่เห็นกำลังรัดรึงและบงการอยู่เบื้องหลัง สิ่งหนึ่งที่นางเริ่มมั่นใจได้แล้วคือจากทุกที่ที่นางไปมาต่างให้ข้อมูลตรงกันว่ามีการกักตุนสินค้าจริง 


ซูเหยาเดินกลับไปทางด้านหลังแผงค้าของหญิงชราอีกครั้ง เสียงจอแจของตลาดค่อย ๆ จางหายไปเมื่อนางก้าวเข้าสู่ตรอกแคบ ๆ ที่มืดสลัว กลิ่นอับชื้นของผนังดินผสมกับกลิ่นสมุนไพรแห้งรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ดวงตาของนางกวาดมองไปรอบ ๆ อย่างระมัดระวัง แม้จะรู้ว่าอันตรายอาจซุ่มซ่อนอยู่ แต่นางก็ไม่สามารถห้ามความอยากรู้อยากเห็นได้ ไม่นานนักซูเหยาก็เห็นประตูไม้เก่า ๆ บานหนึ่งตามที่หญิงชราบอก นางหลบอยู่หลังกองลังไม้ที่ส่งกลิ่นสมุนไพรฉุนกึก พยายามกลมกลืนไปกับเงามืด


ผ่านไปไม่นานประตูไม้บานนั้นก็เปิดออกช้า ๆ ชายร่างใหญ่กำยำสามคนเดินออกมา แต่ละคนแบกหีบไม้ขนาดใหญ่ที่ดูเหมือนจะหนักอึ้ง ตามมาด้วยชายอีกสองคน หนึ่งในนั้นดูเหมือนจะเป็นหัวหน้ากลุ่ม เขาสวมเสื้อผ้าเนื้อดี ท่าทางภูมิฐาน แต่แววตาฉายความเย็นชา


ซูเหยาลอบกลั้นหายใจเมื่อชายกลุ่มนั้นเริ่มขนย้ายหีบไม้ขึ้นเกวียนที่จอดรออยู่ใกล้ ๆ นางสังเกตเห็นว่าหีบไม้เหล่านั้นถูกปิดผนึกอย่างแน่นหนา แต่ก็ยังพอได้กลิ่นสมุนไพรบางอย่างเล็ดลอดออกมา เมื่อเกวียนเริ่มเคลื่อนตัวอย่างช้า ๆ ซูเหยาจึงตัดสินใจสะกดรอยตาม นางพยายามรักษาระยะห่าง ไม่ให้ใกล้เกินไปจนถูกจับได้ และไม่ให้ห่างเกินไปจนคลาดสายตา


ขณะที่ซูเหยากำลังสะกดรอยตามเกวียนบรรทุกสมุนไพรออกจากตลาดตะวันตก นางหารู้ไม่ว่าเงาอีกเงากำลังทาบทับอยู่เบื้องหลัง ห่างออกไปไม่ไกลนักใต้เท้าเถียนต้าซือคงแห่งราชสำนักฮั่นได้ส่งคนของตนออกติดตามซูเหยาอย่างลับ ๆ ตั้งแต่ตอนที่ทั้งคู่แยกจากกันที่ขบวนคหบดีลู่ 


แม้เถียนเฟิงจะกำชับหมอหญิงซูเหยาว่าหากพบเบาะแสสำคัญใด ๆ ให้มาแจ้งเขา แต่ทว่าลึก ๆ แล้ว เขากลับอ่านขาดถึงความเป็นไปได้ที่หมอหญิงผู้นี้คงไม่รอแจ้งเบาะแสตามคำสั่ง แต่จะต้องแอบไปสืบเสาะหาความจริงด้วยวิธีของตนเอง ซึ่งอาจนำพาตัวเองไปสู่ความเสี่ยงอันตรายอย่างแน่นอน เพื่อป้องกันเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ใต้เท้าเถียนจึงตัดสินใจส่งคนของตนออกติดตามซูเหยาล่วงหน้าไว้ก่อน


ชายหนุ่มสองคนในชุดชาวบ้านธรรมดา เดินปะปนไปกับฝูงชนในตลาดอย่างแนบเนียน สายตาของพวกเขาจับจ้องไปที่ซูเหยาไม่คลาดสายตา พวกเขาคือองครักษ์ฝีมือดีที่ใต้เท้าเถียนไว้วางใจให้มาคอยคุ้มกันและรายงานความเคลื่อนไหวของซูเหยาทุกย่างก้าว โดยไม่ให้ซูเหยาล่วงรู้ถึงการมีอยู่ของพวกเขาแม้แต่น้อย องครักษ์ทั้งสองเป็นผู้เชี่ยวชาญในการสะกดรอยและพรางตัว พวกเขาเคลื่อนไหวราวกับเงา ไม่ส่งเสียง ไม่ดึงดูดความสนใจ และไม่ทิ้งร่องรอยใด ๆ ไว้เบื้องหลัง


พวกเขามุ่งเน้นไปที่การประเมินสถานการณ์อย่างรอบคอบ แต่ละคนต่างแยกแยะบทบาท องครักษ์คนหนึ่งคอยจับตาดูซูเหยาและเกวียนอย่างใกล้ชิด ขณะที่อีกคนหนึ่งคอยสอดส่องและประเมินสภาพแวดล้อมโดยรอบ มองหาสัญญาณของอันตรายที่อาจเกิดขึ้น เช่น การซุ่มโจมตี หรือบุคคลน่าสงสัยที่อาจกำลังสะกดรอยตามซูเหยาอีกชั้นหนึ่ง การเคลื่อนไหวของพวกเขาประสานงานกันอย่างเงียบเชียบและแม่นยำราวกับเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติรอบตัว


ไม่ว่าเส้นทางที่ซูเหยาจะนำพาพวกเขาไปสู่ที่ใด องครักษ์ทั้งสองก็พร้อมเสมอที่จะเผชิญหน้ากับอันตราย และทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องความปลอดภัยของหมอหญิงคนสำคัญผู้นี้ พวกเขารู้ดีว่าเรื่องราวการกักตุนสมุนไพรนี้อาจใหญ่กว่าที่คิด และเบื้องหลังอาจมีบุคคลผู้มีอำนาจและอิทธิพลมืดเข้ามาเกี่ยวข้อง ใต้เท้าเถียนได้กำชับพวกเขาไว้แล้วว่า หากพบเจอสถานการณ์ที่สุ่มเสี่ยงถึงชีวิตของซูเหยา ให้เข้าแทรกแซงได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องรอคำสั่งเพิ่มเติม แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องพยายามรวบรวมข้อมูลให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เกี่ยวกับกลุ่มคนที่กำลังขนย้ายสมุนไพรเหล่านี้ รวมถึงปลายทางของพวกเขา


ขณะที่ซูเหยายังคงจดจ่อกับการสะกดรอยตามเกวียน โดยไม่รู้เลยว่ามีสายตาอีกคู่หนึ่งคอยจับจ้องคุ้มกันอยู่ตลอดเวลา การเดินทางครั้งนี้จึงไม่ได้มีเพียงซูเหยาผู้เดียวที่กำลังเสี่ยงอันตรายเพื่อเปิดโปงความจริง แต่ยังมีองครักษ์สองคนที่กำลังติดตามนางอย่างเงียบ ๆ และยิ่งไปกว่านั้นยังมีอีกคนที่แอบตามมาด้วยความเป็นเช่นกันนั่นคือ ไต้ซือจื่อหลิง…



เควสปลดหัวใจ: สัจธรรมแห่งการเยียวยา (3)

เป้าหมาย : สะกดรอยตามกลุ่มคนที่กักตุนยา


รางวัล

ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ซ่อนยา


แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 20,398 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] ความชั่ว +10 ความโหด จาก มีดแล่เนื้อ  โพสต์ 2025-7-26 14:11
โพสต์ 20,398 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] ความชั่ว +10 คุณธรรม +5 ความโหด จาก อาภรณ์พร่ำพิรุณ (ญ)  โพสต์ 2025-7-26 14:11
โพสต์ 20,398 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] ความชั่ว +8 คุณธรรม +10 ความโหด จาก หมวกไผ่ผ้าคลุม  โพสต์ 2025-7-26 14:11
โพสต์ 20,398 ไบต์และได้รับ +5 EXP +12 คุณธรรม +10 ความโหด จาก หมอฝึกหัด  โพสต์ 2025-7-26 14:11
โพสต์ 20398 ไบต์และได้รับ 16 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-7-26 14:11
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ชุดทิวาเมฆาล่อง
หมอพเนจร
หมวกถังเจียน
ศาสตร์การบำเพ็ญ
ตำราสมุนไพรหายาก
แหวนดาราจรัส(D)
จี้หยกรูปปลา
มีดแล่เนื้อ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x1
x6
x8
x2
x6
x8
x2
x11
x28
x50
x90
x90
x1
x2
x2
x10
x12
x42
x18
x20
x1
x14
x2
x100
x2
x2
x442
x1
x32
x2
x2
x1
x20
x30
x30
x20
x10
x10
x6
x23
x34
x20
x4
x2
x30
x15
x6
x9
x10
x4
โพสต์ 2025-8-30 13:35:06 | ดูโพสต์ทั้งหมด


วันที่ 30 เดือน 7 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11

ยามอู่ เวลา เวลา 12.00 - 13.00 น. ณ ถนนสิบลี้ ฝั่งตะวันตก ตลาดตะวันตก


แสงแดดยามอู่ทอดสาดลงมาบนถนนหินสีซีดที่ทอดเข้าสู่ตลาดตะวันตกเสียงผู้คนจอแจผสานกับกลิ่นเครื่องเทศจากแผงค้าสะท้อนความคึกคักที่ไม่เคยหยุด หลินหยาเดินเคียงกับเยี่ยเหยียน ม้าดำทมิฬที่ก้าวไปด้วยท่วงท่าหนักแน่น ดวงตาของมันเป็นประกายทอแสงราวเข้าใจความคิดเจ้านายสาวทุกประการ หญิงสาวหัวเราะเบา ๆ พลางเงยหน้ามองมัน “เจ้าไม่เคยเจอหรงเล่อสินะ?” เสียงของนางเต็มไปด้วยความเอ็นดู “อยากรู้ไหมว่าหรงเล่อสำคัญกับข้าขนาดไหน?”


เยี่ยเหยียนเอียงศีรษะ พลางกระทืบเท้ากับพื้นหินเบา ๆ ราวตอบกลับด้วยความกระตือรือร้น “อยากรู้ขอรับนายหญิง” เสียงที่ลอดออกมานั้นทุ้มต่ำแต่นอบน้อม


หลินหยาหลุดหัวเราะจนตาหวานหยี “ถ้าอย่างนั้น…เจ้าจะได้รู้” นางหยุดก้าวท่ามกลางความพลุกพล่านของตลาด ตรึงสายตาเยี่ยเหยียนให้ก้มศีรษะลง แล้วขยับเอาหน้าผากของตนแนบเข้ากับหน้าผากกว้างของมัน ความร้อนอุ่นแผ่วจากปราณในกายไหลซึมผ่านเข้าสู่ร่างม้าปีศาจ ตบะของนางกลั่นกรองกลายเป็นภาพความทรงจำเสียงหัวเราะสดใสของหรงเล่อ, มือที่กุมกันไว้ยามเดินเล่นในสวน, น้ำใจที่หลั่งไหลระหว่างเพื่อนสนิท และความรักใคร่จริงใจที่ไม่มีสิ่งใดบดบังได้ เยี่ยเหยียนสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อภาพเหล่านั้นไหลทะลักเข้าสู่จิตใจของมัน แต่ในวินาทีนั้นความอบอุ่นปกคลุมหัวใจม้าหนุ่มจนกีบเท้าแข็งแรงยิ่งกว่าเดิม


“เป็นไงล่ะ อบอุ่นไหม?” หลินหยาเอ่ยถามพร้อมรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ


เยี่ยเหยียนขยับพ่นลมหายใจออกแรง ๆ พลางโน้มศีรษะลงราวยอมรับ “อบอุ่นยิ่งกว่าความอบอุ่นของแสงตะวันขอรับ นายหญิง…ข้าจะจำความสำคัญของนางไว้ในหัวใจนี้เช่นกัน” หลินหยาหัวเราะร่ายกมือตบเบา ๆ ที่แผงคอดำมันปลาบของม้า “ดีมาก เจ้าเยี่ยเหยียน…ถ้าเจ้าจะอยู่เคียงข้าก็ต้องเข้าใจว่าหรงเล่อสำคัญต่อข้าแค่ไหน”


ในขณะนั้นตลาดยังคงเซ็งแซ่อยู่รอบตัว แต่สำหรับหญิงสาวและม้าปีศาจคู่นี้ โลกกลับเหมือนหยุดนิ่งอยู่เพียงการแลกเปลี่ยนหัวใจและความทรงจำ ที่ผูกมัดกันแน่นหนายิ่งกว่าพันธะใด ๆ




@Admin 


พรสวรรค์: ลาภลอย (ไม้) 

มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่


อื่น ๆ: มาทำให้ม้ารู้ว่าผมรักหรงเล่อมาก


มอบพลังแก่สัตว์อสูร

ใช้ได้เฉพาะคน Level Max เท่านั้น และ EXP ตัน 99

เปิดติดตามสัตว์อสูรและต้องปิดการใช้งานสกิลทั้งหมด

สัตว์อสูรจะได้รับ 99 EXP จากผู้ถ่ายโอน

(-50 ตบะฝึกฝน -99 EXP ในการถ่ายโอนพลังฝีมือแก่สิ่งมีชีวิต) 


สรุปรางวัลที่ได้ : +500 คุณธรรม, +100 พลังใจ


แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับ +500 คุณธรรม โพสต์ 2025-8-30 19:09
โพสต์ 18990 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-8-30 13:35
โพสต์ 18,990 ไบต์และได้รับ +4 EXP +5 คุณธรรม จาก ตำราขนมหวานสูตรลับ  โพสต์ 2025-8-30 13:35

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังน้ำใจ +100 ตบะฝึกฝน -50 ย่อ เหตุผล
Watcher + 100 -50

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
วาสนาเซียน
ด้ายแดงแห่งโชคชะตา
แหวนดาราจรัส(D2)
ตำราอาหารลับของเสี่ยวจ้าวจื่อ
ยอดคีตศิลป์
ปราณกระเรียนขาว(ไม้)
ขลุ่ยพันธะในเงาศาลา
เกราะทองเทวะ
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x16
x16
x16
x30
x1
x30
x5
x27
x2
x10
x8
x10
x2
x1
x3
x114
x5
x5
x5
x5
x6
x4
x4
x4
x21
x1
x158
x20
x21
x1
x5
x34
x7
x246
x1
x1
x1
x145
x5
x6
x66
x20
x6
x93
x79
x5
x209
x5
x50
x5
x85
x6
x196
x55
x68
x78
x4
x105
x5
x8
x4
x3
x11
x9
x8
x15
x69
x1
x1
x5
x53
x42
x47
x16
x140
x10
x11
x10
x26
x9
x10
x4
x15
x60
x55
x2
x1
x95
x62
x9
x10
x167
x55
x28
x70
x78
x49
x5
x3
x120
x12
x9
x11
x5
x3
x3
x9
x5
x6
x1
x1
x6
x13
x8
x135
x70
x20
x11
x14
x48
x3
x1
x4
โพสต์ 2025-9-26 21:53:31 | ดูโพสต์ทั้งหมด
วันที่ 26 เดือน 9 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11
ยามไห้ เวลา 21.00 - 23.00 น.
╰┈➤ พบเจอหลี่หยาง



เสียงลมกลางคืนพัดลอดกำแพงอิฐที่สูงตระหง่าน กลิ่นหอมของดอกเหมยซึ่งปลิดปลิวตามฤดูกาลเจือจางอยู่ในอากาศ บรรยากาศเงียบสงัดนอกหอว่านหงเหรินต่างจากความอึกทึกในด้านในราวฟ้ากับดิน ยิ่งทำให้เสียงหัวใจเต้นของเสวี่ยซีดังชัดเจนกว่าที่เคย

เขายืนนิ่ง ดวงตาสีอำพันทอดมองลงบนพื้นหินเย็นที่สะท้อนเงาจันทร์ เสี้ยวหน้าที่ขาวราวหิมะซ่อนความลังเลสับสนภายในอย่างยากเกินบรรยาย มือเรียวที่เคยสวมแหวนหยกจากเถียนเฟิงบีบเข้าหากันแน่นเพื่อกดเก็บความรู้สึก แต่กระนั้นก็ไม่อาจหยุดความสั่นไหวที่แผ่วเบาในอกได้เลย

หลี่หยางเอ่ยขึ้นอีกครั้ง ครานี้เสียงนุ่มทุ้มแฝงความอาวรณ์ ยิ่งฟังยิ่งทำให้หัวใจสั่นไหว "เจ้ารู้หรือไม่ตลอดเวลาที่ผ่านมา ข้าไม่เคยลืมรอยยิ้มของเจ้าแม้เพียงวันเดียว"

ถ้อยคำนั้นทิ่มแทงเข้าไปในส่วนลึกของความทรงจำ เสวี่ยซีรู้สึกเหมือนถูกพาให้ย้อนกลับไปยังวันวานวันที่เขายังเป็นเด็กหนุ่มวัยสิบห้า บอบบาง อ่อนไหว และต้องพึ่งพิงคนผู้นี้ยิ่งกว่าสิ่งใด หลี่หยางคือทั้งที่พักพิงและผู้ชี้ทาง เขาคือผู้มอบความอบอุ่น ความมั่นใจ และคำหวานที่หล่อเลี้ยงให้เสวี่ยซีมีแรงจะก้าวต่อไป

สิบปี...มันไม่ใช่เวลาสั้น ๆ เลยสำหรับชีวิตของคนผู้หนึ่ง โดยเฉพาะคนที่ไร้ซึ่งที่พึ่งพาใด ๆ

"เจ้าพูดเช่นนี้...เพื่ออะไร" เสวี่ยซีพึมพำเสียงเบา แม้คำพูดจะแฝงความโกรธ แต่แววตากลับหวั่นไหวอย่างเห็นได้ชัด

"เพื่อให้เจ้ารู้ว่าข้าไม่เคยทอดทิ้งเจ้าในใจจริง ๆ" หลี่หยางก้าวเข้ามาใกล้อีกเพียงก้าว แสงจันทร์ทอดลงบนดวงหน้าเรียบคมทำให้เงาของเขาทาบทับเสวี่ยซีราวกับกำลังโอบล้อม "สิ่งที่ผ่านไป ข้าอาจพลาดพลั้งไปบ้าง แต่หัวใจข้ายังคงมีเจ้าเพียงผู้เดียว"

เสวี่ยซีหลุบตาลงช้า ๆ มือข้างหนึ่งยกขึ้นแตะแหวนหยกบนปลายนิ้วที่ยังคงสวมไว้ สัญลักษณ์แห่งสัญญาระหว่างเขากับเถียนเฟิงเจิดจ้าภายใต้แสงจันทร์ แต่แสงนั้นกลับดูเลือนรางลงทันทีที่เสียงทุ้มนุ่มยังคงกระซิบไม่ห่างหู

"เจ้าจำได้หรือไม่ ที่เราพักพิงกันในกระท่อมเก่า ๆ ริมป่า เจ้าหนาวจนตัวสั่น ข้าต้องก่อไฟให้เจ้า ต้องโอบกอดเจ้าไว้ทั้งคืน เจ้าเคยบอกข้าว่า หากไร้ข้า…เจ้าคงไม่รอดมาถึงวันนี้"

ความทรงจำผุดพรายขึ้นมาเป็นภาพชัดเจนในใจเสวี่ยซี ดวงหน้าเขาแดงเรื่อ สับสนทั้งอับอายทั้งเจ็บปวด ใช่...เขาเคยพูดคำเหล่านั้นจริง ๆ ด้วยความโง่เขลาของวัยเยาว์ และเขาก็เคยเชื่อว่าหลี่หยางคือทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต

หัวใจที่พยายามมอบให้เถียนเฟิง เริ่มสั่นคลอนอีกครั้งด้วยภาพอดีตที่หลี่หยางรื้อฟื้นขึ้นมา

"เจ้าไม่ควรพูดถึงสิ่งเหล่านั้นอีก" เสียงสั่นพร่าเล็ดลอดจากริมฝีปาก เสวี่ยซีรู้ตัวว่าตนกำลังสั่นเทิ้มไม่ต่างจากกิ่งไม้ต้องลม

หลี่หยางก้าวเข้ามาใกล้อีกจนแค่เอื้อมก็แตะปลายผมสีดำสนิทของเสวี่ยซีได้ เขาเอื้อมมือเกลี่ยปอยผมที่ตกลงบนแก้มซีดใสนั้นออกไปเบา ๆ "เพราะเจ้ากลัวหรือ...ว่าหัวใจเจ้าจะยังคงจดจำข้าอยู่?"

คำถามนั้นเหมือนคมดาบที่เฉือนลึกลงไปในใจ เสวี่ยซีสะท้านเฮือก ก่อนที่ดวงตาสีอำพันจะพร่ามัวด้วยน้ำใสที่เอ่อคลอ ไม่ใช่เพราะโกรธ แต่เป็นเพราะความสับสนและความอ่อนแอที่ไม่เคยหายไป

"สิบปี...หลี่หยาง สิบปีที่ข้าใช้ชีวิตกับเจ้า เจ้าให้ข้าทุกสิ่ง แม้กระทั่งความเจ็บปวดที่ฝังรากลึก...แต่ต่อให้เจ็บสักเพียงใด ข้าก็ยังลืมไม่ได้เสียที"

เสียงนั้นเบาราวกระซิบ แต่เต็มไปด้วยความจริงอันโหดร้ายที่เสวี่ยซีไม่อาจปฏิเสธได้

หลี่หยางยิ้มบาง เอื้อมมือกอบกุมมือเรียวที่สั่นอยู่เบา ๆ "หากเช่นนั้นเหตุใดเราจะไม่ลองเริ่มต้นใหม่เล่า ซีเอ๋อร์ เจ้าคือคนของข้าอยู่เสมอ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเพียงใด"

แหวนหยกเย็นเยียบในมือเสวี่ยซีสั่นสะท้อนกับสัมผัสนั้น ราวกับกำลังบอกว่าเขากำลังทรยศต่อสัญญาใจ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 11953 ไบต์และได้รับ 8 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-9-26 21:53
โพสต์ 11,953 ไบต์และได้รับ +2 EXP +5 คุณธรรม +5 ความโหด จาก โดดเด่นมีเอกลักษณ์  โพสต์ 2025-9-26 21:53
โพสต์ 11,953 ไบต์และได้รับ +5 EXP +4 คุณธรรม +4 ความโหด จาก แหวนหยกสลักนาม   โพสต์ 2025-9-26 21:53
โพสต์ 11,953 ไบต์และได้รับ +4 EXP +4 คุณธรรม จาก ยาหยกบูรพา  โพสต์ 2025-9-26 21:53
โพสต์ 11,953 ไบต์และได้รับ +4 EXP +4 คุณธรรม +4 ความโหด จาก พู่หยกสลักลายมังกร  โพสต์ 2025-9-26 21:53
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ปิ่นปักผมหยกขาว
 มีดสั้นเงาจันทร์
ชุดวสันต์ลีลา
คัมภีร์ดาราศาสตร์ตงฟาง
โดดเด่นมีเอกลักษณ์
พู่กันดาราศาสตร์
แหวนหยกสลักนาม
ยาหยกบูรพา
พู่หยกสลักลายมังกร
กระบี่คู่สลักจันทรา
แหวนดาราจรัส(D)
เกราะทองแดง
อาภรณ์พร่ำพิรุณ (ช)
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x1
x40
x2
x7
x1
x2
x2
x1
x6
x1
x8
x2
x10
x7
x12
x26
x48
x8
x24
x24
x5
x2
x10
x1
x2
x12
x30
x21
x5
x6
x2
x1
x10
x5
x60
x90
x60
x5
x2
x120
x6
x17
x20
x2
x20
x2
x2
x2
x3
x2
x2
x3

1

กระทู้

91

ตอบกลับ

1161

เครดิต

ผู้ใฝ่รู้

พลังน้ำใจ
888
ตำลึงทอง
39
ตำลึงเงิน
114
เหรียญอู่จู
9349
STR
0+6
INT
0+1
LUK
0+5
POW
0+0
CHA
20+5
VIT
5+7
คุณธรรม
130
ความชั่ว
694
ความโหด
1563
โพสต์ 2025-9-27 11:02:54 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ 27 เดือน 8 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11

เวลา 6.00-6.30

ช่วงเช้าของฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้สีทองร่วงหล่นลงบนถนนดินแดง ตีวงรอบร้านรวงแห่งตลาดตะวันตกของฉางอัน แสงอาทิตย์คล้ายไม่เต็มใจจะสาดส่อง แทรกผ่านม่านฝุ่นจากเกวียนม้าและฝูงคน เส้นแสงพาดผ่านซุ้มประตูไม้ผุ และมาหยุดอยู่บนร่างหนึ่ง ที่นอนนิ่งอยู่มุมเงาของลานหิน



จี เทียนเต้า ชายแก่หัวล้าน เครารุงรัง เสื้อผ้าหลุดลุ่ย ผ้าคลุมขาดวิ่นปูใต้หลังเขาอย่างลวก ๆ แทบแยกไม่ออกว่านั่นคือขอทานเร่ร่อน หรือเศษไม้พังจากแผงขายของเก่า เสียงหัวเราะจากนักเล่านิทานเด็ก บดบังเสียงลมหายใจอันแผ่วเบาของเขา เขานอนคุดคู้ ศีรษะหนุนเชือกเก่า มือซุกไว้ในอกเสื้อ และข้างกายมีถุงผ้าเล็ก ๆ ใบหนึ่ง ภายในบรรจุหมั่นโถวแข็งดั่งหิน ในยามที่โลกภายนอกยังเคลื่อนไหว เขาได้หลุดเข้าสู่โลกภายในที่วนซ้ำ



ในห้วงแห่งฝัน เสียงแรกที่ปรากฏ มิใช่เสียงมนุษย์ แต่เป็นเสียง สายลมบนผืนทราย ลมที่มิใช่ลมธรรมดา หากเป็นเสียงที่คล้ายคำกระซิบของอดีต ล่องลอยจากปลายฟ้าทะเลทราย ราวกับมีถ้อยคำต้องการบอกแก่เขา เขายืนอยู่กลางทุ่งทรายอันไร้สิ้นสุด ผืนฟ้าเป็นสีเทาซีด ไม่มีเมฆ ไม่มีตะวัน ไม่มีดวงจันทร์





เพียงแต่เบื้องหน้าปรากฏ เงา เงาของสิ่งก่อสร้างขนาดมหึมา รูปทรงแปลกตา เสาหินตั้งเรียงคล้ายประตูพิธีกรรม มีสัญลักษณ์โบราณสลักอยู่ ลวดลายที่เขาไม่รู้จัก ไม่เคยเห็น และไม่รู้ว่ามันหมายถึงอะไร ที่แห่งนั้น ไม่ใช่ความฝันครั้งแรก


จี เทียนเต้า จำได้ เขาเคยมาแล้วในความฝัน  ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในหลายคืนที่หนาวเหน็บ บนฟูกผ้าขี้ริ้วริมลานเกวียน แต่ไม่มีครั้งใดเลยที่เขาได้ก้าวเท้าเข้าไปถึงในซากปรักหักพังนั้น ทุกครั้งที่เขาใกล้ ลมจะพัดแรงขึ้น เสียงจะดังขึ้น และพื้นทรายจะยุบลงราวกับหุบเขากลืนฝัน



"หลงซี เมืองแห่งฝุ่นทราย" เสียงหนึ่งดังขึ้นในฝัน  เสียงที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่กลับรู้สึกคุ้นเคยเสียงที่ทั้งห่างไกลและใกล้ชิดดั่งอยู่ในอก



เขาพยายามหันซ้ายแลขวา แต่ไม่มีทิศ ไม่มีภูเขา ไม่มีเครื่องหมายใดที่จะบอกว่าซากนี้อยู่แห่งหนใดเพียงแค่รู้. ว่าอยู่ในเมืองหลงซี กลางทะเลทราย ที่ซึ่งไม่มีเส้นทาง ไม่มีชื่อบนแผนที่ และไม่มีใครจำได้ว่ามันเคยมีอยู่จริง



"ทำไมเจ้า จึงเรียกข้า" จี เทียนเต้าถามออกมาในฝัน


ไม่มีผู้ใดตอบ นอกจากสายลมที่พัดจนฝุ่นทรายกระแทกหน้า กลิ่นคาวเหล็ก ลอยแผ่วจากเงาซากนั้นราวกับมันไม่ได้ถูกฝังเพียงด้วยทราย แต่มันฝัง บางสิ่ง ไว้ในกาลเวลา




เขาสะดุ้งตื่น ตาของจี เทียนเต้าเบิกกว้าง แดงฉานและพร่าแสง ลมหายใจหอบช้าเหมือนคนถูกปลุกจากฝันลึก เสียงรอบตัวกลับมาอีกครั้ง  เสียงเด็กวิ่ง เสียงพ่อค้าตะโกน เสียงหม้อต้มน้ำร้อง เงาดวงอาทิตย์เคลื่อนมาถึงขอบขาเขาแล้ว อบอุ่นจนเขาต้องยกผ้าคลุมขึ้นมาบัง



เขานั่งเงียบอยู่ครู่หนึ่ง มือหนึ่งล้วงไปในถุง หยิบหมั่นโถวแข็งขึ้นมา แล้ววางไว้บนตัก สายตาเหม่อมองไปยังฝูงชนที่เดินผ่านหน้าเขาอย่างไม่สนใจ



“หลงซี” เขาพึมพำเบา ๆ “เมืองบัดซบอะไรของมัน ข้าไม่รู้จักด้วยซ้ำ แต่ข้า รู้สึกเหมือนข้าเคยฝังชีวิตไว้ที่นั่น ใช่ไหม”



เขานั่งพิงลังเกวียนเก่า สายลมพัดเฉียดใบหู คล้ายกระซิบคำบางคำจากแดนไกลที่ไม่มีใครได้ยิน มีเพียงชายแก่คนเดียวในตลาดที่เงยหน้าขึ้น และยิ้มให้กับความฝันที่ไม่มีใครสนใจ



“ซากอะไรนั่น เรียกข้า ข้าจะไปหามัน ถ้าข้ายังไม่ตายเสียก่อน”



แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 9391 ไบต์และได้รับ 3 EXP!  โพสต์ 2025-9-27 11:02
โพสต์ 9,391 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] คุณธรรม +2 ความชั่ว +3 ความโหด จาก มีดแล่เนื้อ  โพสต์ 2025-9-27 11:02
โพสต์ 9,391 ไบต์และได้รับ +2 ความชั่ว +2 ความโหด จาก หมวกไผ่ผ้าคลุมดำ  โพสต์ 2025-9-27 11:02
โพสต์ 9,391 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] คุณธรรม +2 ความโหด จาก เอ้อหู  โพสต์ 2025-9-27 11:02
โพสต์ 9,391 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] คุณธรรม +2 ความโหด จาก น่ารัก  โพสต์ 2025-9-27 11:02
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กระบี่คู่สลักจันทรา
เกราะทองแดง
เครื่องรางไหมถักแห่งมิตรภาพ
มีดแล่เนื้อ
หมวกไผ่ผ้าคลุมดำ
พู่กันคัดอักษร
น่ารัก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x3
x1
x1
x1
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้