[ห้อง 3 ชั้น 3] ห้องผีเสื้อสุริยันวสันต์

[คัดลอกลิงก์]
ห้องพักของหลินหยา
Funny imageห้องผีเสื้อสุริยันวสันต์
{ ชั้นที่ 3 ห้องพักหมายเลข 3 }
【 ห้องผีเสื้อสุริยันวสันต์ 】
「 ชั้นที่ 3 ห้องพักหมายเลข 3 」
          ห้องพักผีเสื้อสุริยันวสันต์อยู่ชั้นสามฝั่งตะวันตกของโรงเตี๊ยมชิงหมิง เป็นห้องใหญ่พิเศษที่แบ่งออกเป็นสองห้อง ห้องแรกทำเป็นห้องพักผ่อนกว้างขวาง มีเตียงไม้สักแกะสลักผีเสื้อและดอกเหมย ม่านโปร่งสีชมพูอ่อนล้อมรอบ โต๊ะกลมไม้กับเก้าอี้บุเบาะพาสเทลตั้งกลางห้อง ข้างหน้าต่างมีโซฟาไม้จีนโบราณและแจกันดอกโบตั๋นสด บรรยากาศเย็นสบายเพราะลมพัดผ่านม่านฟ้าอ่อนตลอด ส่วนห้องที่สองใช้เป็นห้องเก็บของและห้องน้ำ มีอ่างไม้ทรงรีเรียบง่ายกับชั้นวางของและผนังเพ้นท์ลายดอกบัว ให้ความรู้สึกสงบและหรูหราอย่างพอดี

ผีเสื้อโบยบินกลางวสันต์อบอุ่น
กลิ่นบุปผาพัดพลิ้วเข้าสู่ความฝัน
ลมเย็นลูบผ่านหน้าต่างฝั่งตะวันตก
ผู้พักพิงหลับใหล ไร้ทุกข์กังวล

ผู้พักอาศัย

หนาน หลินหยา

           หนาน หลินหยา เจ้าของห้องพักผีเสื้อสุริยันวสันต์ เป็นเด็กสาวผู้มีความสดใสธรรมดาแต่แฝงด้วยเสน่ห์อันน่าหลงใหล รอยยิ้มของนางอ่อนหวานราวดอกไม้แรกบานในฤดูใบไม้ผลิ มิใช่โฉมงามล้ำเลิศดังสตรีที่ผู้คนกล่าวขาน แต่ความอ่อนเยาว์และความเป็นธรรมชาติกลับดึงดูดให้ผู้คนอยากเข้าหา ใบหน้าของนางละมุนประหนึ่งตุ๊กตากระเบื้องเคลือบ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนราวเนื้อมะพร้าวสะท้อนความซุกซนและอบอุ่น ผิวพรรณขาวเนียนดูสะอาดสดใส แม้ไม่ต้องอาภรณ์หรูหราก็ยังสะกดสายตาผู้พบเห็นได้เสมอ ในยามว่างนางคือเจ้าของร้านเล็ก ๆ “เซียงเฉินเสี่ยวพู้” ที่ตลาดตะวันออก 

หากผู้ใดอยากติดต่อหรือฝากเรื่องไว้ เพียงเขียนจดหมายแล้วสอดใต้ประตูห้อง ก็จะถึงมือนางในไม่ช้า

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 9028 ไบต์และได้รับ 4 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-8-20 11:33
โพสต์ 2025-8-22 09:16:52 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย LinYa เมื่อ 2025-8-22 10:14


วันที่ 21 - 22 เดือน 7 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11

ยามซวี เวลา 19.00 - 21.00 น. ถึงช่วงเช้า ณ นอกเมืองฉางอัน โรงเตี๊ยมชิงหมิง ห้องพักผีเสื้อสุริยันวสันต์ (พักผ่อน)


ความมืดโรยตัวลงเหนือฉางอัน ไฟโคมตามถนนเริ่มลุกสว่างราวหมู่ดาวบนพื้นดิน ทว่านอกเมืองกลับเงียบสงบกว่ามาก โรงเตี๊ยมชิงหมิงยืนตระหง่านอยู่กลางทุ่งรอบนอก ร่มเงาไม้ใหญ่และลำธารเล็ก ๆ ข้างอาคารทำให้บรรยากาศยามค่ำยิ่งอบอุ่นขึ้น หลินหยาเปิดประตูไม้เลื่อนเข้าสู่ห้องพักของตนห้องผีเสื้อสุริยันวสันต์ห้องที่ประดับด้วยม่านไหมสีอ่อนปักลายดอกไม้และปีกผีเสื้อพลิ้วไหวไปตามลมจากหน้าต่างกว้าง พื้นไม้ถูกขัดจนสะอาดสะท้อนเงาโคมไฟที่แขวนไว้ ผนังมีภาพเขียนดอกท้อแดงเบ่งบาน ยิ่งทำให้ห้องนี้ดูเหมือนโลกเล็ก ๆ แห่งฤดูใบไม้ผลิที่ถูกเก็บรักษาเอาไว้ตลอดกาล


หญิงสาวปลดผ้าคลุมไหล่วางพาดเก้าอี้ไม้ หยิบผ้าเช็ดตัวแล้วก้าวเข้าไปในห้องน้ำด้านข้าง เสียงน้ำไหลกระทบอ่างไม้ดังสม่ำเสมอ เมื่อหลินหยาตักน้ำลูบตัว ความเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางและเหตุการณ์ทั้งวันราวถูกชะล้างออกไปทีละชั้น


เมื่ออาบน้ำเสร็จ นางสวมชุดนอนผ้าฝ้ายสีอ่อน กลิ่นสบู่สมุนไพรยังติดกาย ผมยาวดำขลับยังเปียกหมาด ๆ แผ่ลงบนบ่าขาวสะอาด หญิงสาวเดินมาที่เตียงใหญ่ ปลอกหมอนและผ้าห่มปักลายผีเสื้อคู่กลางดวงอาทิตย์ เมื่อก้าวขึ้นไปนั่งบนที่นอน ความนุ่มของฟูกก็ราวจะกลืนเอาความกังวลทั้งหมดหายไป “ขอให้พรุ่งนี้เป็นวันที่ดีหน่อยเถอะ...” นางพึมพำเบา ๆ ราวอธิษฐานให้ตัวเอง ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนค่อย ๆ ปรือปิดลง


ร่างบางมุดตัวเข้าผ้าห่มสีอ่อนที่อบอุ่น โอบกอดหมอนกลมแน่นเหมือนเด็กน้อยที่อยากหลบภัยจากโลกทั้งใบ ความเหนื่อยล้าสะสมทั้งวันพาให้หลินหยาหลับลึกลงไปอย่างรวดเร็ว หวังเพียงว่าในรุ่งอรุณวันใหม่จะไม่เจอกับการกลั่นแกล้งหรือเรื่องร้ายใด ๆ อีก แต่จะได้พบกับสิ่งดี ๆ ที่โลกจะหยิบยื่นให้ ในห้องผีเสื้อสุริยันวสันต์ มีเพียงเสียงลมหายใจสม่ำเสมอของหญิงสาวที่หลับใหลอยู่ใต้ผ้าห่ม และเงาของผีเสื้อปักบนม่านที่พลิ้วไหวราวกำลังโบยบินอยู่ท่ามกลางแสงจันทร์ภายนอกหน้าต่าง


คืนนี้หลินหยาพักผ่อนอย่างสงบสุขสมกับที่เธอปรารถนา


รุ่งเช้าวันใหม่ แสงแรกสาดลอดผ่านหน้าต่างกระดาษขาวของห้องผีเสื้อสุริยันวสันต์ เสียงนกร้องเบา ๆ แทรกเข้ามากับสายลมเย็น แต่แทนที่หลินหยาจะตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่นเหมือนทุกวัน กลับเป็นอาการปวดหน่วง ๆ บริเวณท้องน้อยที่ทำให้นางขมวดคิ้วทันที “...ชิบหายแล้ว” หลินหยาพึมพำเบา ๆ มือเล็กกดหน้าท้องตัวเองเบา ๆ สีหน้าแสดงถึงความรู้ทันเหตุการณ์ “ไม่ผิดแน่ รอบนี้มันมาอีกแล้วแน่ ๆ ...ประจำเดือนกำลังจะมา”


ถ้าเป็นเมื่อชาติปางก่อนในยุคนี้ สตรีทั้งหลายคงต้องใช้เพียงผ้าผืนใหญ่ ๆ พับทบซ้อนกัน แล้วอาศัยกากไม้หรือสมุนไพรเพื่อซับโลหิต มันทั้งเลอะเทอะ ทั้งอับ ทั้งเสี่ยงต่อการติดเชื้อ แต่หลินหยาหาใช่สตรีธรรมดา เพราะนางยังมี ความทรงจำชาติที่แล้วชาติที่เคยอยู่ในโลกไทยสมัยใหม่ นางกัดริมฝีปากยกยิ้มบาง ๆ ราวกับเห็นแสงสว่างในความมืด “ของกล้วย ๆ ...สมัยมัธยม การงานอาชีพก็เคยทำแล้วนี่นา แต่เราจำอะไรไม่ได้นอกจากภาพของมัน..เอาเป็นว่า มั่ว ๆ ไปก่อนแล้วกัน”


หลินหยาไม่รอช้า ลุกขึ้นจากเตียง คว้ากล่องด้ายกับเศษผ้าที่มีติดห้องพักผ้าฝ้ายโปร่งที่ใช้เช็ดตัว ผ้าเนื้อหนาที่เคยเก็บไว้ทำซับหมอน รวมทั้งเศษผ้าขาวสะอาดจากร้านทั้งหมดถูกคัดออกมาเลือกทีละชิ้น นางนั่งขัดสมาธิบนพื้นโรงเตี๊ยม หยิบเข็มกับด้ายออกมาอย่างคล่องแคล่ว ความทรงจำจากชาติที่แล้วพรั่งพรูขึ้นเหมือนบทเรียนที่ไม่เคยลืม เริ่มจากการวาดผืนผ้าเป็น แผ่นซับกลาง จากนั้นตัดอีกชิ้นใหญ่กว่าเป็น ที่รองด้านนอก เย็บทับเข้าด้วยกันให้เป็นซองที่สามารถสอดแผ่นซับเข้าออกได้ นางทำหลายขนาด เล็ก กลาง ใหญ่ เพื่อให้ใช้ได้ตามปริมาณเลือดประจำวัน


“แบบนี้สิ ใช้ซ้ำได้ ซักได้...ประหยัดกว่ามาก แถมสะอาดด้วย” หลินหยาพึมพำไปเย็บไป เสียงเข็มแทงผ้ากลายเป็นจังหวะคุ้นหู ไม่นานบนตักของนางก็เต็มไปด้วยผ้าอนามัยแบบผ้าเย็บมือหลายผืน สีขาวสะอาด บางผืนปักลายเล็ก ๆ อย่างดอกเหมยหรือใบไม้เพียงเพื่อให้ตัวเองยิ้มได้ในวันที่อึดอัด


หลินหยาลองหยิบขึ้นพับ วางซ้อนกับกางเกงชั้นในแบบผ้าฝ้ายธรรมดาที่นางเคยดัดแปลงไว้ก่อนหน้านี้ ทุกอย่างพอดีราวกับเคยทำมาหลายครั้งแล้ว นางหัวเราะคิกกับตัวเองเบา ๆ แม้หน้าท้องยังปวดหน่วง แต่ความอุ่นใจที่รู้ว่าตัวเองมีของใช้พร้อมทำให้อารมณ์ดีขึ้นมาก “เฮ้อ...ชาติที่แล้วก็ไม่ได้ไร้ประโยชน์เสียทีเดียว อย่างน้อยก็ช่วยให้ข้ารอดพ้นจากความลำบากเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้” ว่าพลางนางก็พับเก็บผ้าอนามัยทำมือทั้งหลายใส่ถุงผ้าเล็ก ๆ จัดเรียงไว้หลายชุด ชุดหนึ่งใช้ อีกชุดเผื่อพกพา อีกสองสามชุดเก็บไว้ซักผลัดเปลี่ยนอย่างมีระบบราวกับคนที่มีประสบการณ์ …. ก็มีอ่ะดิ


เมื่อเสร็จแล้ว หลินหยาล้มตัวลงนอนห่มผ้าบาง ๆ อีกครั้ง กดมือลงบนท้องน้อย สูดหายใจลึก “ไม่เป็นไร...อดทนหน่อย อีกเดี๋ยวมันก็ผ่านไป” ในแววตาอ่อนแรงกลับมีประกายหัวเราะอยู่ในนั้น สตรีธรรมดาอาจคร่ำครวญกับวันลำบากนี้ แต่นางนอกจากไม่ยอมแพ้แล้ว ยังแอบคิดในใจด้วยว่า “ถ้ามีใครรู้ว่าข้ากำลังนั่งเย็บผ้าอนามัยใช้ซ้ำเองอยู่ในห้องพักหรู ๆ ของโรงเตี๊ยม คงอับอายตายเลยล่ะ แต่ใครสน”




@Admin 


พรสวรรค์: ลาภลอย (ไม้) 

มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่

อื่น ๆ: กลับมานอนพร้อมนั่งเย็บผ้าอนามัย---

รางวัล: -


แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 14658 ไบต์และได้รับ 8 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-8-22 09:16
โพสต์ 14,658 ไบต์และได้รับ +2 EXP +2 คุณธรรม จาก ด้ายแดงแห่งโชคชะตา  โพสต์ 2025-8-22 09:16
โพสต์ 14,658 ไบต์และได้รับ +2 EXP [ถูกบล็อค] ความชั่ว +5 คุณธรรม +4 ความโหด จาก แหวนดาราจรัส(D2)  โพสต์ 2025-8-22 09:16
โพสต์ 14,658 ไบต์และได้รับ +4 EXP [ถูกบล็อค] ความชั่ว +4 คุณธรรม จาก ตำราอาหารลับของเสี่ยวจ้าวจื่อ  โพสต์ 2025-8-22 09:16
โพสต์ 14,658 ไบต์และได้รับ +10 EXP [ถูกบล็อค] ความชั่ว +2 คุณธรรม จาก ยอดคีตศิลป์  โพสต์ 2025-8-22 09:16
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
วาสนาเซียน
ด้ายแดงแห่งโชคชะตา
แหวนดาราจรัส(D2)
ตำราอาหารลับของเสี่ยวจ้าวจื่อ
ยอดคีตศิลป์
ปราณกระเรียนขาว(ไม้)
ขลุ่ยพันธะในเงาศาลา
เกราะทองเทวะ
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x16
x16
x16
x30
x1
x30
x5
x27
x2
x10
x8
x10
x2
x1
x3
x114
x5
x5
x5
x5
x6
x4
x4
x4
x21
x1
x158
x20
x21
x1
x5
x34
x7
x246
x1
x1
x1
x145
x5
x6
x66
x20
x6
x93
x79
x5
x209
x5
x50
x5
x85
x6
x196
x55
x68
x78
x4
x105
x5
x8
x4
x3
x11
x9
x8
x15
x69
x1
x1
x5
x53
x42
x47
x16
x140
x10
x11
x10
x26
x9
x10
x4
x15
x60
x55
x2
x1
x95
x62
x9
x10
x167
x55
x28
x70
x78
x49
x5
x3
x120
x12
x9
x11
x5
x3
x3
x9
x5
x6
x1
x1
x6
x13
x8
x135
x70
x20
x11
x14
x48
x3
x1
x4
โพสต์ 2025-8-29 09:37:35 | ดูโพสต์ทั้งหมด


วันที่ 28 เดือน 7 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11

ยามซวี เวลา 19.00 - 21.00 น. ณ นอกเมืองฉางอัน โรงเตี๊ยมชิงหมิง ห้องพักผีเสื้อสุริยันวสันต์ (พักผ่อน)


แสงตะวันยามสนธยาคลี่คลุมโรงเตี๊ยมชิงหมิงด้วยอาบเงาสีทองอ่อน หลินหยาขี่ม้าดำทมิฬนามเยวี่ยเหยียนตรงเข้ามา ใบหน้านางแดงก่ำราวผลทับทิมสุก นัยน์ตาหวานพราวแต่กลับว้าวุ่น มือก็พยายามกระชับสาบเสื้อฮั่นฝูแน่นเพื่อกลบซ่อนร่องรอยที่กระจายอยู่ทั่วร่าง รอยจูบ รอยกัด รอยขบของชายผู้ที่ไม่มีใครในฉางอันกล้ากล่าวชื่อเล่น ๆ ได้ยังคงติดผิวกาย เยวี่ยเหยียนก้าวย่างมั่นคง แต่โสตประสาทรับรู้ถึงความผิดปกติของเจ้านายสาวได้ตั้งแต่ครึ่งทาง มันหยุดยืนหน้าประตูใหญ่ของโรงเตี๊ยม หูตั้งขึ้นน้อย ๆ ก่อนจะเอ่ยเสียงต่ำทุ้มที่บัดนี้พูดภาษามนุษย์ได้อย่างถนัด “นายหญิง...เป็นอันใดหรือไม่ขอรับ? ตลอดทางร่างกายของท่านสั่นไหว ความร้อนในเลือดก็ไม่ปกติ...”


หลินหยาชะงัก หัวใจเต้นโครมครามขึ้นมาทันที นางรีบยกมือปัดผมที่ตกลงข้างแก้มแล้วหัวเราะแห้ง ๆ “มะ...ไม่มีอะไรหรอก ข้าเพียง...เพียงแค่เหนื่อยนิดหน่อยเท่านั้นเอง” คำโกหกเล็ก ๆ หลุดออกมาพร้อมรอยยิ้มเลิ่กลั่ก แต่ยิ่งนางพยายามปิดบังแก้มกลับแดงเข้มจนเห็นได้ชัด


เจ้าม้าปีศาจยังคงจ้องตาไม่วาง “ไม่ใช่เพียงเหนื่อย...แต่หัวใจของนายหญิงสั่นแรงยิ่งกว่าตอนใด ๆ เสียอีก ข้ารับรู้ได้” มันก้าวเข้ามาใกล้ สายตาสีแดงสดลึกจับจ้องราวจะเจาะทะลุความลับที่นางปิดบัง


หลินหยากัดริมฝีปากรีบเบี่ยงสายตาหนี เธอไม่อาจตอบคำถามนั้นได้จริง ๆ จึงทำได้เพียงยกมือแตะลงบนแผงคอสีดำมันวาวแล้วเอ่ยเบา “เงียบเถิด เยวี่ยเหยียน...” จากนั้นนางจึงโน้มศีรษะลง แตะหน้าผากของตนเข้ากับหน้าผากกว้างของมัน กลั่นกรองประสบการณ์ในร่างส่งต่อไปแบบลืมสนิทกับประสบการณ์ที่นางพึ่งได้รับ เพราะไม่รู้ว่ามันจะส่งผ่านเจ้าม้าด้วย ทันทีที่พลังแห่งตบะและความทรงจำหลั่งไหลเข้าสู่ร่างม้าปีศาจ เยวี่ยเหยียนเบิกตากว้างเล็กน้อย หูสะบัดพลัน ร่างกายแข็งค้างไปชั่วขณะ เมื่อมันได้รับรู้ภาพความรู้สึกและสัมผัสที่นายหญิงเผชิญมา รสสัมผัสอันเร่าร้อนที่จางกงกงประทับไว้ทั้งจุมพิตอันบ้าคลั่ง การกัดขบโลภโลมที่แฝงความเป็นเจ้าของ และเสียงหัวใจของนายหญิงที่สะท้านแรงกว่าทุกคราวที่เคยเผชิญการต่อสู้


ม้าปีศาจผงะถอย หายใจแรง สีหน้า...ใช่ มันกำลังเขินอายดวงตาสีแดงที่เคยดุดันกลับวูบไหว ร่างม้าสะบัดหางแรงราวจะระบายความอึดอัด ก่อนจะเอ่ยเสียงแผ่ว “บุรุษผู้นั้น...น่าหวาดหวั่นเกินกว่าปีศาจใด ๆ ที่ข้าเคยเห็น แต่นายหญิง...” มันหยุดคำ พลางก้มต่ำราวหลบซ่อน “ท่านกลับ...ชอบที่เขาทำเช่นนั้นหรือขอรับ...”


หลินหยาใบหน้าแดงจัดแทบระเบิด นางรีบยกมือปิดปากมันทันที “เงียบนะ เยวี่ยเหยียน! อย่าพูดออกมานะ” หญิงสาวถลึงตาแต่ก็เต็มไปด้วยความเขินอายหัวใจเต้นระรัวไม่หยุด เยวี่ยเหยียนมองด้วยแววตาซับซ้อนก่อนจะถอนหายใจยาวต่ำทุ้ม “ข้าไม่เข้าใจหัวใจมนุษย์...แต่หากนายหญิงเลือกข้าก็จะไม่ปฏิเสธ เพียงแต่...ข้าไม่อยากเห็นท่านเจ็บปวด”


หลินหยาหันมาสบตามันอย่างเงียบงันก่อนจะลูบแผงคอมันด้วยรอยยิ้มอ่อนหวาน “ไม่ต้องห่วงหรอกเยวี่ยเหยียน ข้าเข้มแข็งกว่าที่เจ้าคิดมากนัก” ราตรีนั้น ลมเย็นโชยผ่านประตูโรงเตี๊ยม กลิ่นดอกเหมยแตะจมูก หลินหยายืนเคียงข้างม้าดำคู่ใจที่บัดนี้ไม่ใช่เพียงพาหนะ แต่กลายเป็นสหายผู้รู้ความลับลึกที่สุดในใจนางไปแล้ว


หญิงสาวรีบเดินทางขึ้นห้องพักหลังจากที่พาเจ้าม้าไปเข้าคอกให้มันพักผ่อน ห้องพักผีเสื้อสุริยันวสันต์ในโรงเตี๊ยมชิงหมิงส่องประกายอ่อนละมุนด้วยแสงโคมไฟน้ำมันหอม ด้านนอกหน้าต่างม่านโปร่งปักลายปีกผีเสื้อปลิวไหวเบา ๆ ตามลมยามราตรี เสียงน้ำตกจากลำธารหลังคฤหาสน์ดังคลอเคล้ากับเสียงจิ้งหรีดราวกับบทเพลงกล่อม หลินหยาก้าวเข้ามาในห้อง ใบหน้ายังแดงก่ำไม่หายแม้จะพยายามบังคับตนเองให้สงบลง เสื้อคลุมผ้าฝ้ายเนื้อนิ่มถูกนางกระชับแน่นเพื่อปกปิดร่องรอยที่กระจายอยู่ทั่วร่าง ร่องรอยของจางกงกง ที่ทั้งกัด ขบ ดูด และจูบประทับตราไว้จนไม่มีผืนใดเว้นว่าง


นางก้มหน้าซ่อนแก้มแดงจัดไม่กล้าแม้แต่จะสบตากับเงาตัวเองในกระจกทองเหลือง แววตาไหวระริกทั้งเขินทั้งสับสน แต่ลึก ๆ กลับอบอุ่นและเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ปฏิเสธไม่ได้ เมื่อครู่ที่ด้านหน้าของโรงเตี๊ยม ตอนที่เจ้าม้าดำทมิฬเยวี่ยเหยียนถามว่าทำไมนางถึงมีท่าทีผิดปกติ หลินหยายังต้องรีบปฏิเสธเสียงสั่น พยายามบอกว่าไม่มีอะไร ทั้งที่หัวใจเต้นแรงเหมือนจะทะลุออกมา พอขยับหน้าผากชนกับมันเพื่อถ่ายประสบการณ์ ม้าหนุ่มถึงกับสะดุ้งเงียบ ก่อนจะก้มหน้าหลบตาเหมือนจะเขินเองเสียด้วย มันรู้แล้วว่าสิ่งที่จางกงกงทำกับหลินหยานั้นน่าหวาดหวั่นกว่าการประจัญหน้าปีศาจใด ๆ และยิ่งน่าตกใจเพราะเจ้านายสาวกลับชอบ


ในห้องพักหรู กลิ่นบุปผาร้อยแปดลอยตลบผสานกับไอเย็นจากสายน้ำ นางถอดเสื้อคลุมออกวางพาดเก้าอี้ ก่อนทิ้งตัวลงบนเตียงใหญ่ปูผ้าไหมสีทองอ่อน ลมหายใจของนางยังไม่เรียบสนิทนัก แก้มแดงระเรื่อยังไม่จางหาย หลินหยายกมือแตะร่องรอยตรงซอกคอแล้วกัดริมฝีปากเล็กน้อย รู้สึกทั้งเจ็บทั้งวูบวาบในคราวเดียวกัน “นี่หรือคือผลลัพธ์ของการที่เผลอใจให้อสูรใจวิปริตอย่างเขา...” นางพึมพำเบา ๆ แต่รอยยิ้มเล็ก ๆ กลับผุดขึ้นบนใบหน้าที่ซ่อนอยู่ใต้เส้นผมสลวย


เสียงโคมไฟน้ำมันแตกปะทุเบา ๆ เป็นจังหวะเดียวกับหัวใจของนางที่ยังไม่สงบ หลินหยามุดตัวลงในผ้าห่มผืนใหญ่ ความอ่อนล้าทั้งกายและใจถาโถมเข้ามา ความทรงจำร้อนแรงของช่วงกลางวันยังติดตรึงอยู่เต็มอก แต่นางก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่ามันทำให้นางสุขใจอย่างแปลกประหลาด ในค่ำคืนนี้ ที่ห้องพักผีเสื้อสุริยันวสันต์ หลินหยาปิดตาลงช้า ๆ ให้เสียงน้ำตกและสายลมกล่อม จมสู่ห้วงนิทราที่เต็มไปด้วยฝันหวาน…ฝันที่ยังคงถูกตราตรึงด้วยภาพและสัมผัสของชายผู้หนึ่งที่นางทั้งหวาดหวั่นและโหยหาในเวลาเดียวกัน




@Admin 


พรสวรรค์: ลาภลอย (ไม้

มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่

อื่น ๆ: ม้ารู้ ม้าเห็น เซียนเฉ่าคงบอกว่า ทำใจเจอแบบนี้ประจำ


มอบพลังแก่สัตว์อสูร

ใช้ได้เฉพาะคน Level Max เท่านั้น และ EXP ตัน 99

เปิดติดตามสัตว์อสูรและต้องปิดการใช้งานสกิลทั้งหมด

สัตว์อสูรจะได้รับ 99 EXP จากผู้ถ่ายโอน

(-50 ตบะฝึกฝน -99 EXP ในการถ่ายโอนพลังฝีมือแก่สิ่งมีชีวิต) 


สรุปรางวัลที่ได้ : +500 คุณธรรม, +100 พลังใจ


แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับ +500 คุณธรรม โพสต์ 2025-8-29 11:29
โพสต์ 31598 ไบต์และได้รับ 24 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-8-29 09:37

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังน้ำใจ +100 ตบะฝึกฝน -50 ย่อ เหตุผล
Watcher + 100 -50

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
วาสนาเซียน
ด้ายแดงแห่งโชคชะตา
แหวนดาราจรัส(D2)
ตำราอาหารลับของเสี่ยวจ้าวจื่อ
ยอดคีตศิลป์
ปราณกระเรียนขาว(ไม้)
ขลุ่ยพันธะในเงาศาลา
เกราะทองเทวะ
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x16
x16
x16
x30
x1
x30
x5
x27
x2
x10
x8
x10
x2
x1
x3
x114
x5
x5
x5
x5
x6
x4
x4
x4
x21
x1
x158
x20
x21
x1
x5
x34
x7
x246
x1
x1
x1
x145
x5
x6
x66
x20
x6
x93
x79
x5
x209
x5
x50
x5
x85
x6
x196
x55
x68
x78
x4
x105
x5
x8
x4
x3
x11
x9
x8
x15
x69
x1
x1
x5
x53
x42
x47
x16
x140
x10
x11
x10
x26
x9
x10
x4
x15
x60
x55
x2
x1
x95
x62
x9
x10
x167
x55
x28
x70
x78
x49
x5
x3
x120
x12
x9
x11
x5
x3
x3
x9
x5
x6
x1
x1
x6
x13
x8
x135
x70
x20
x11
x14
x48
x3
x1
x4
โพสต์ 2025-8-29 23:34:42 | ดูโพสต์ทั้งหมด


วันที่ 29 เดือน 7 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11

ยามจื่อ เวลา 23.00 - 01.00 น. ณ นอกเมืองฉางอัน โรงเตี๊ยมชิงหมิง ห้องพักผีเสื้อสุริยันวสันต์ (พักผ่อน)


แสงจันทร์ปลายยามจื่อทอดตัวอาบพื้นทางแคบ ๆ ที่นำสู่โรงเตี๊ยมชิงหมิง บรรยากาศเย็นยะเยือกของปลายฤดูใบไม้ร่วงกลับไม่อาจกลบลบอารมณ์สดใสร่าเริงของหลินหยาได้เลย ร่างบอบบางในชุดหนาทบซ้อนกุมบังเหียนม้าเยวี่ยเหยียนแน่นพลางฮัมเสียงเพลงเบา ๆ ที่ติดปากมาเองโดยไม่รู้ตัว แก้มที่ยังคงแดงระเรื่อบ่งบอกว่าใจของนางยังคงอบอวลไปด้วยความสุขจากเรื่องราวที่พานพบมาตลอดทั้งวัน


เมื่อมาถึงหน้าประตูใหญ่ของโรงเตี๊ยม ชายหนุ่มม้าดำทมิฬค่อย ๆ ชะลอฝีเท้าลงพลางหันดวงตาลึกลับคู่นั้นมองนาง น้ำเสียงทุ้มแผ่วในหัวใจดังขึ้น “นายหญิง…วันนี้ท่านไปพบอะไรมาหรือขอรับ? เหตุใดจึงแลดูเปี่ยมสุขนัก” หลินหยาหัวเราะคิกเบา ๆ แล้วเอียงกายลงจากหลังม้าอย่างนุ่มนวล เธอยกมือลูบแผงคอเงางามของเยวี่ยเหยียน ละสายตาอ่อนโยนจ้องมองมัน ก่อนจะขยับตัวโน้มใบหน้าลงแตะหน้าผากมนกับกระบังหน้ากว้างของอาชาดำ ทันใดนั้นคลื่นตบะอุ่นละมุนก็ไหลบ่าจากกายของหลินหยาส่งตรงเข้าสู่จิตวิญญาณของมัน


แสงจาง ๆ จากตะเกียงข้างโรงเตี๊ยมสะท้อนประกายพลังที่แผ่วพริ้วล้อมรอบสองร่างชั่วครู่ ความทรงจำและความรู้สึกอบอุ่นในวันนี้ เสียงหัวเราะ บทสนทนาที่จริงใจ ความอาทรที่ได้รับ และแม้กระทั่งรสชาติของขนมที่นางเพิ่งได้มีส่วนร่วมทำด้วยมือน้อย ๆ ของตน ล้วนถ่ายโอนเข้าสู่จิตวิญญาณของเยวี่ยเหยียน


เจ้าม้าปีศาจสะท้านกายเบา ๆ ขณะรับเอาพลังและความทรงจำ ดวงตาคมวาวที่เคยดุดันเผยแววสั่นสะเทือนปนเขินอาย “นี่หรือ…คือความสุขของมนุษย์…” น้ำเสียงในใจของมันพร่ำเบาหวิว ร่างอาชาทมิฬค่อย ๆ รู้สึกถึงพลังที่แผ่ซ่านตามกล้ามเนื้อ แข็งแกร่งขึ้นอย่างชัดเจน แต่ที่สั่นไหวมากกว่านั้นกลับเป็นอารมณ์หวานละมุนแปลกใหม่ที่นางมอบให้ หลินหยายิ้มอ่อนเอียงหน้าเบา ๆ กับแผงคอม้าคู่ใจ “เยวี่ยเหยียน…เจ้าคือสหายที่ข้าร่วมเดินทางไปด้วย ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าอยู่เพียงลำพัง ความเข้มแข็งที่เจ้าต้องการ…ข้าจะให้มันเอง”


เยวี่ยเหยียนสูดลมหายใจแรงจนแผงอกแกร่งขยายออก หางสะบัดพริ้วในยามราตรี รู้สึกทั้งภาคภูมิใจ ทั้งโอบอุ้มด้วยความอบอุ่นจนต้องก้มศีรษะลงประหนึ่งทำความเคารพ “นายหญิง…ข้าเข้าใจแล้วขอรับ ข้าจะเป็นดั่งเงาที่คุ้มครองท่านไปทุกหนแห่ง”


ใต้เงาแสงจันทร์เสียงหัวเราะใสกังวานของหลินหยาดังสะท้อนกับกำแพงหินของโรงเตี๊ยม นางเก็บสายบังเหียนไว้เรียบร้อยก่อนจูงม้าเข้าที่พักด้านใน ใบหน้าเปื้อนยิ้มยังคงบอกเล่าชัดเจนว่า สำหรับคืนนี้ ต่อให้โลกภายนอกเต็มไปด้วยเล่ห์กลหรือความอันตรายเพียงใด หัวใจนางก็ยังคงอบอุ่นเพราะมีทั้งสหายผู้ภักดีและความทรงจำแสนหวานเป็นพลังหล่อเลี้ยง


ภายในห้องพักผีเสื้อสุริยันวสันต์ของโรงเตี๊ยมชิงหมิง แสงตะเกียงน้ำมันที่วางอยู่มุมห้องทอดแสงส้มอ่อน ๆ กระทบเงาเคลื่อนไหวของร่างหญิงสาวที่กำลังปลดเสื้อผ้าของตนออก หลินหยายืนอยู่หน้ากระจกบานเงา ใบหน้างามที่ปกติสดใสร่าเริงยามนี้กลับซับซ้อนด้วยความอายปนความสุข สายตาของนางสะดุดกับร่องรอยสีแดงที่ยังชัดเจนกระจายไปทั่วลำคอ ไหล่ และแผ่นอก รอยกัด รอยดูด และรอยจูบที่ไม่อาจปิดบังได้ สะท้อนกลับมาในเงากระจกจนทำให้หลินหยาเผลอยกมือแตะเบา ๆ ราวกับจะยืนยันว่านี่มิใช่ความฝัน ใบหน้าขาวจัดของนางพลันแดงก่ำเหมือนผลทับทิมสุก นัยน์ตาสีน้ำตาลมะพร้าวอ่อนพราวระยับไปด้วยความอับอาย แต่ลึก ๆ ในหัวใจกลับรู้สึกอบอุ่นและเต็มตื้น


“จางกงกง…ท่านเองก็ยังเป็นมนุษย์เหมือนทุกคน มีความรัก มีความอ่อนโยนอยู่ในนั้น…” เสียงกระซิบเบาราวกับกลัวว่าใครจะได้ยิน นางยกมือปิดริมฝีปากตัวเอง ยิ่งคิดก็ยิ่งหัวใจเต้นแรง แต่รอยยิ้มเล็ก ๆ กลับคลี่ออกมาไม่อาจห้ามได้ “ข้าดีใจนัก…ที่อย่างน้อยก็ได้อยู่เคียงข้างท่านในตอนนี้”


หลังจากนั้นหลินหยาคลี่ผ้าบางเดินไปยังห้องน้ำด้านใน เสียงน้ำจากอ่างไม้ก้องสะท้อนในความเงียบของค่ำคืน ไอน้ำอุ่นลอยฟุ้งปกคลุมผิวกายขาวเนียน ราวจะชะล้างความเหนื่อยล้าที่เกาะกุมร่าง นางหลับตาลงปล่อยให้สายน้ำอุ่นพาดผ่านไหล่ ลูบไปตามรอยที่ยังคงฝังแน่นบนผิว และยิ่งทำให้นึกถึงสัมผัสที่ทิ้งร่องรอยเหล่านั้นไว้ ความอายยังไม่คลาย แต่ความรู้สึกอบอุ่นกลับท่วมท้นยิ่งกว่า


เมื่ออาบเสร็จ นางเช็ดกายแผ่วเบาแล้วห่มชุดนอนเนื้อผ้าสบาย ๆ เดินมาล้มตัวลงบนเตียงกว้าง กลิ่นกุหลาบแห้งในหมอนรองศีรษะชวนให้ผ่อนคลาย หลินหยานอนตะแคงกอดผ้าห่มแนบอก แก้มยังคงแดงอยู่แต่ดวงตาเปี่ยมสุข ก่อนที่สติจะค่อย ๆ เลือนหายไปกับห้วงนิทรา ภายในห้องพักที่เงียบสงบ มีเพียงลมหายใจเบา ๆ ของหญิงสาวดังสม่ำเสมอ ในค่ำคืนที่ทั้งเหน็ดเหนื่อยและเต็มไปด้วยความหมายหลินหยาเผลอหลับไปพร้อมกับความรู้สึกอบอุ่นในหัวใจที่ไม่เคยชัดเจนเท่านี้มาก่อน


หลินหยาที่นอนพลิกไปพลิกมาอยู่บนเตียงนุ่มแห่งห้องพักผีเสื้อสุริยันวสันต์กลับไม่อาจข่มตาหลับได้เลย ความคิดวนเวียนเต็มไปหมด ทั้งร่องรอยแดงชัดบนผิวกายที่ยังแสบร้อนประหนึ่งเปลวไฟ ทั้งคำพูดสายตาของจางกงกงที่ทำให้หัวใจนางสั่นสะท้านไม่หยุด แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือความอยากรู้อยากลองที่มักทำให้หลินหยามีชีวิตชีวาเสมอ นางจึงขยับลุกขึ้นจากเตียงอย่างแผ่วเบา ก้าวไปหยิบห่อผ้าไหมสีเก่าซีดที่นางเก็บไว้ในหีบข้างเตียง มันคือตำราสูตรขนมหวานลับของเสี่ยวจ้าวจื่อที่เธอพึ่งได้มา


เพียงปลายนิ้วสัมผัสปกผ้าไหมเก่าที่เย็บอย่างประณีตแต่ผ่านกาลเวลาจนซีดจาง ความรู้สึกบางอย่างก็ไหลทะลักเข้ามาในอก หลินหยากอดมันไว้แนบอกครู่หนึ่ง ราวกับตำรานี้มีชีวิตมีจิตวิญญาณ นางค่อย ๆ คลี่ออก ภายในเป็นหน้ากระดาษที่เหลืองนวลตามวัย แต่กลับเต็มไปด้วยตัวอักษรที่เขียนอย่างบรรจง ลายมือไม่ใหญ่ไม่เล็กเกินไป เป็นลายมือที่เต็มไปด้วยความพยายามและความตั้งใจ ทุกถ้อยคำเหมือนเปล่งเสียงเล่าเรื่องราวจากก้นบึ้งหัวใจของเด็กชายขันทีที่ครั้งหนึ่งเคยไร้ตัวตน


ดวงตากลมโตของหลินหยาค่อย ๆ กวาดมองไปตามบรรทัดเห็นทั้งสูตรทั้งสัดส่วนวัตถุดิบที่แม่นยำราวกับจับต้องได้ แต่สิ่งที่สะกดนางไม่ใช่แค่คำบอกวิธีทำ หากแต่เป็นบันทึกสั้น ๆ ที่แทรกอยู่แทบทุกหน้า เรื่องราวในแต่ละวันความรู้สึกทั้งสุขทั้งทุกข์ที่เสี่ยวจ้าวจื่อจารึกลงไป เช่นในหน้าที่เขียนสูตรขนมบัวหิมะจันทราตัวอักษรข้าง ๆ จารึกว่า "วันที่อาจารย์เติ้งชมว่ารสนี้คล้ายกับหิมะบนเขา…เป็นครั้งแรกที่หัวใจของข้ามีแสงสว่างเจิดจ้า" หลินหยาพลันยกมือขึ้นปิดริมฝีปาก น้ำตาเอ่อคลออย่างไม่รู้ตัว รู้สึกเหมือนได้เห็นภาพเด็กชายผู้ขี้กลัวแต่แฝงด้วยความมุ่งมั่นที่ไม่เคยยอมแพ้


นางเปิดหน้าถัดไป พบสูตรซาลาเปาเกสรเมฆาที่ยากลำบากยิ่งกว่า บรรยายถึงการหมักแป้งให้เนื้อนุ่มละมุนดั่งกลีบดอกเมฆา และการกวนไส้เกสรที่ต้องใช้ความร้อนในระดับพอดี หญิงสาวอ่านไปพลางถอนหายใจ 


"โอ้ย…สูตรบ้าอะไรเนี่ย ทำไมมันยากขนาดนี้นะ ต้องใช้เวลาอ่านสักหนึ่งถึงสองสัปดาห์ถึงจะเข้าใจหมดแน่ ๆ" แต่มุมปากของนางกลับคลี่ยิ้ม ไม่ใช่เพราะกลัว แต่เพราะมันคือความท้าทาย ความยากนี่แหละคือสิ่งที่ทำให้นางอยากลอง 


ในแสงตะเกียงอุ่น ๆ หลินหยานั่งกอดเข่า วางตำราไว้บนตัก พลิกอ่านช้า ๆ ทีละบรรทัด ราวกับกลัวว่าจะพลาดแม้แต่ตัวอักษรเดียว ความงดงามของลายมือ ความอบอุ่นของเรื่องเล่า ความหวานหอมของสูตรขนมที่ราวกับส่งกลิ่นออกมาจากหน้ากระดาษ หลอมรวมกันเป็นความรู้สึกที่ทำให้หัวใจนางอบอุ่นเหลือเกิน


“เสี่ยวจ้าวจื่อเอ๋ย…เจ้าช่างมีหัวใจงดงามนัก” หลินหยาเอ่ยพึมพำ นัยน์ตาสีน้ำตาลมะพร้าวอ่อนเป็นประกายระยับ นางรู้ทันทีว่าตำราเล่มนี้มิใช่เพียงคู่มือทำขนม หากแต่เป็นพยานแห่งชีวิต เป็นเสมือนวิญญาณอีกส่วนหนึ่งของขันทีผู้ใช้ขนมหวานหล่อเลี้ยงความฝันและคุณค่าของตนเอง แม้จะรู้ว่าต้องใช้เวลามากมายกว่าที่นางจะทำได้สำเร็จหลินหยาก็พลันกำหมัดแน่น “ข้าจะลอง…ไม่ว่ายากเพียงใด ข้าจะทำให้ได้” ความมุ่งมั่นผุดขึ้นจากใจอย่างแรงกล้า และด้วยความคิดนั้น นางค่อย ๆ วางตำราไว้ข้างหมอน เอนกายลงบนเตียงอีกครั้ง คราวนี้ดวงตาหลับพริ้มด้วยหัวใจที่อุ่นและแน่วแน่กว่าทุกครั้งที่ผ่านมา




@Admin 

พรสวรรค์: ลาภลอย (ไม้) 

มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่


อื่น ๆ: ดีจุงเลยยย เควสวันนี้


ศึกษาสูตร ซาลาเปาเกสรเมฆา (1/6)


มอบพลังแก่สัตว์อสูร

ใช้ได้เฉพาะคน Level Max เท่านั้น และ EXP ตัน 99

เปิดติดตามสัตว์อสูรและต้องปิดการใช้งานสกิลทั้งหมด

สัตว์อสูรจะได้รับ 99 EXP จากผู้ถ่ายโอน

(-50 ตบะฝึกฝน -99 EXP ในการถ่ายโอนพลังฝีมือแก่สิ่งมีชีวิต) 


สรุปรางวัลที่ได้ : +500 คุณธรรม, +100 พลังใจ

แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับ +500 คุณธรรม โพสต์ 2025-8-30 09:54
โพสต์ 37720 ไบต์และได้รับ 24 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-8-29 23:34
โพสต์ 37,720 ไบต์และได้รับ +9 EXP +10 คุณธรรม จาก ตำราขนมหวานสูตรลับ  โพสต์ 2025-8-29 23:34

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังน้ำใจ +100 ตบะฝึกฝน -50 ย่อ เหตุผล
Watcher + 100 -50

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
วาสนาเซียน
ด้ายแดงแห่งโชคชะตา
แหวนดาราจรัส(D2)
ตำราอาหารลับของเสี่ยวจ้าวจื่อ
ยอดคีตศิลป์
ปราณกระเรียนขาว(ไม้)
ขลุ่ยพันธะในเงาศาลา
เกราะทองเทวะ
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x16
x16
x16
x30
x1
x30
x5
x27
x2
x10
x8
x10
x2
x1
x3
x114
x5
x5
x5
x5
x6
x4
x4
x4
x21
x1
x158
x20
x21
x1
x5
x34
x7
x246
x1
x1
x1
x145
x5
x6
x66
x20
x6
x93
x79
x5
x209
x5
x50
x5
x85
x6
x196
x55
x68
x78
x4
x105
x5
x8
x4
x3
x11
x9
x8
x15
x69
x1
x1
x5
x53
x42
x47
x16
x140
x10
x11
x10
x26
x9
x10
x4
x15
x60
x55
x2
x1
x95
x62
x9
x10
x167
x55
x28
x70
x78
x49
x5
x3
x120
x12
x9
x11
x5
x3
x3
x9
x5
x6
x1
x1
x6
x13
x8
x135
x70
x20
x11
x14
x48
x3
x1
x4
โพสต์ 2025-8-30 20:21:27 | ดูโพสต์ทั้งหมด


วันที่ 30 เดือน 7 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11

ยามไห่ เวลา 21.00 - 23.00 น. ณ นอกเมืองฉางอัน โรงเตี๊ยมชิงหมิง ห้องพักผีเสื้อสุริยันวสันต์ (พักผ่อน)


ห้องพักผีเสื้อสุริยันวสันต์เงียบสงัด มีเพียงเสียงลมพัดลอดผ่านหน้าต่างที่เปิดแง้มไว้พอให้กลิ่นไม้สนและกลิ่นน้ำตกนอกโรงเตี๊ยมลอยเข้ามา หลินหยาโยนร่างเล็กลงบนเตียงนุ่ม รอยยิ้มหวานแต้มใบหน้าอย่างไม่อาจกลั้นได้ วันนี้ทั้งวันหัวใจนางเบาสบายเหมือนปลิดภาระออกจากบ่า ราวกับโลกทั้งใบหมุนตามจังหวะของความสุขที่เรียบง่าย


นางคว้าตำราขนมหวานที่เสี่ยวจ้าวจื่อฝากไว้มาเปิดอ่าน พลางใช้ปลายนิ้วไล้ไปตามอักษรลายมือของเขาที่เขียนด้วยความตั้งใจจนเส้นหมึกแทบมีชีวิต หลินหยาพึมพำเบา ๆ “เจ้านี่จริงจังเสมอเลยนะ เสี่ยวจ้าวจื่อ…” ดวงตานางหยุดอยู่ที่สูตรซาลาเปาเกสรเมฆาที่ซับซ้อนเกินจะทำได้ในทีเดียว แต่กลับทำให้นางอยากท้าลองขึ้นมา จากนั้นจึงหัวเราะคิกอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะปิดตำราแล้ววางไว้ข้างหมอนอย่างทะนุถนอม เธอลุกจากเตียงเดินทอดน่องไปยังห้องด้านข้ามุ่งหน้าสู่อ่างไม้รินน้ำอุ่นที่พนักงานจัดเตรียมไว้ลงร่างกาย ล้างคราบเหนื่อยจากวันยาว ๆ ให้ไหลหายไปกับสายน้ำ กลิ่นดอกเหมยจากสบู่สมุนไพรหอมอวลไปทั่ว ทำให้ผิวกายสดชื่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หลินหยาล้างหน้า แปรงฟันด้วยรากไม้หอมสดจนได้กลิ่นเย็น ๆ สะอาดเต็มปากเต็มคำ


เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จสิ้น นางห่มชุดนอนผ้าไหมเรียบ ๆ แล้วกระโจนขึ้นเตียงอีกครั้ง ร่างบางกลิ้งไปมาบนผ้าห่มนุ่ม ๆ จนผมที่เริ่มยาวสยายปกใบหน้าที่แดงระเรื่อ นางยกมือกอดหมอนแน่น พลางกลั้นเสียงหัวเราะเพราะความเขินอายของตัวเอง ภาพของจางกงกง เสี่ยวจ้าวจื่อ และสหายทั้งหลายวนเวียนในหัวราวกับความฝันงดงามที่ต่อเนื่องไม่รู้จบ


“อื้ม…คืนนี้สบายใจเหลือเกิน” หลินหยาเอ่ยพึมพำ ก่อนจะซุกหน้าลงบนหมอน กลิ้งตัวไปมาอีกสองสามครั้งแล้วค่อย ๆ หลับตาลง เสียงลมหายใจสม่ำเสมอของนางดังก้องท่ามกลางความสงบสุขของห้องพักหรูหรา คืนนี้เป็นคืนที่แม่นางหนาน หลินหยาได้หลับไปพร้อมกับรอยยิ้มอบอุ่นที่สุดในรอบหลายวัน




@Admin 

พรสวรรค์: ลาภลอย (ไม้) 

มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่


อื่น ๆ: สักทีโว้ยยยยยยยยยยย


ศึกษาสูตร ซาลาเปาเกสรเมฆา (2/6)


อัพพรสวรรค์ จาก ดาวนำโชค (ทอง)(+20) เป็น วาสนาเซียน (แดง)(+30)


เงื่อนไขพัฒนาคลาส:
- Level 80 เป็นต้นไป (ผ่าน)
- สเตตัส LUK 80 ขึ้นไป (แน่นอน)
- สเตตัส POW 40 ขึ้นไป (แท้ๆ)
- อัปเกรด ดาวนำโชค ถึงระดับสูงสุด 20 (ใช้หินอัปเกรด) (ดูได้เลย)
- สร้างเครือข่ายความสัมพันธ์กับ NPC หัวใจ 8 ดวง อย่างน้อย 5 คนขึ้นไป
(ผู้เฒ่าจันทรา (เยว่เหล่า), หลิว อัน, เถียน เฟิง, จางกงกง, เสี่ยวจ้าวจื่อ)
- ผ่านบันทึกท่องยุทธจักรอย่างน้อย 1 บันทึก (ผมทำไปสองอันอ่ะ)

อัพแล้วโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

สรุปรางวัลที่ได้ : อัพพรสวรรค์ค้าบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ

แสดงความคิดเห็น

ดี: 5.0
ดี: 5
  โพสต์ 2025-8-30 23:28
โพสต์ 17280 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-8-30 20:21
โพสต์ 17,280 ไบต์และได้รับ +4 EXP [ถูกบล็อค] ความชั่ว +5 คุณธรรม จาก ตำราขนมหวานสูตรลับ  โพสต์ 2025-8-30 20:21
โพสต์ 17,280 ไบต์และได้รับ +5 EXP +5 คุณธรรม จาก ด้ายแดงแห่งโชคชะตา  โพสต์ 2025-8-30 20:21
โพสต์ 17,280 ไบต์และได้รับ +2 EXP [ถูกบล็อค] ความชั่ว +5 คุณธรรม +4 ความโหด จาก แหวนดาราจรัส(D2)  โพสต์ 2025-8-30 20:21
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
วาสนาเซียน
ด้ายแดงแห่งโชคชะตา
แหวนดาราจรัส(D2)
ตำราอาหารลับของเสี่ยวจ้าวจื่อ
ยอดคีตศิลป์
ปราณกระเรียนขาว(ไม้)
ขลุ่ยพันธะในเงาศาลา
เกราะทองเทวะ
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x16
x16
x16
x30
x1
x30
x5
x27
x2
x10
x8
x10
x2
x1
x3
x114
x5
x5
x5
x5
x6
x4
x4
x4
x21
x1
x158
x20
x21
x1
x5
x34
x7
x246
x1
x1
x1
x145
x5
x6
x66
x20
x6
x93
x79
x5
x209
x5
x50
x5
x85
x6
x196
x55
x68
x78
x4
x105
x5
x8
x4
x3
x11
x9
x8
x15
x69
x1
x1
x5
x53
x42
x47
x16
x140
x10
x11
x10
x26
x9
x10
x4
x15
x60
x55
x2
x1
x95
x62
x9
x10
x167
x55
x28
x70
x78
x49
x5
x3
x120
x12
x9
x11
x5
x3
x3
x9
x5
x6
x1
x1
x6
x13
x8
x135
x70
x20
x11
x14
x48
x3
x1
x4
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้