[เมืองอู๋]

[คัดลอกลิงก์]














เมืองอู๋ตั้งอยู่ในเขตมณฑลหยางโจว อันเป็นดินแดนที่มีความอุดมสมบูรณ์จากแม่น้ำแยงซี และทะเลสาบไท่หู ซึ่งกลายเป็นทั้งแหล่งอาหาร แหล่งคมนาคม และหัวใจสำคัญในการพัฒนาภูมิภาค


เป็นศูนย์กลางการปกครองของเขตอู๋จวิ้น ซึ่งเป็นหนึ่งใน 13 เขตการปกครองหลักของราชวงศ์ฮั่น ทำเลที่ตั้งของเมืองถูกยกย่องว่าเป็น “จุดยุทธศาสตร์แห่งน้ำและบก” เพราะอยู่บนเส้นทางการค้าที่เชื่อมต่อระหว่างลุ่มแม่น้ำแยงซีตอนล่างกับทะเลตงไห่ 


เป็นแหล่งเพาะปลูกที่อุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะ "ข้าวเจ้า" ที่ขึ้นชื่อเรื่องความนุ่มหอม ชาวบ้านมักปลูกในพื้นที่ชุ่มน้ำรอบทะเลสาบและลำน้ำสาขา นอกจากนี้ยังมีการเพาะเลี้ยงปลาในบ่อร่วมกับนาข้าว การทอผ้าไหมเป็นอุตสาหกรรมสำคัญของเมืองอู๋ เนื่องจากภูมิภาคนี้มีต้นหม่อนชุกชุม ชาวเมืองมีฝีมือในการเลี้ยงไหมและทอผ้าที่ละเอียดอ่อนจนเป็นที่ต้องการของราชสำนักและพ่อค้าแดนไกล อีกทั้งยังมีการผลิต เครื่องสำริด และงานหัตถกรรมโลหะที่ส่งขายไปยังหัวเมืองใหญ่


เมืองอู๋ถูกสร้างขึ้นในรูปแบบ “เมืองกำแพง” มีกำแพงหินสูงใหญ่ล้อมรอบ เพื่อป้องกันการรุกรานจากโจรหรือกองทัพศัตรู รอบเมืองมีคูน้ำและสะพานเชื่อมประตูเมืองทั้งสี่ทิศ








แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 5842 ไบต์และได้รับ 4 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-9-3 22:40
โพสต์ 2025-9-4 03:07:21 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย XueXi เมื่อ 2025-9-4 03:18

กาลครั้งหนึ่งเมื่อนกน้อย
ยังไม่ออกจากรัง


วันที่ 25 อู่เยว่ จงหยวนศก ปีที่ 5

ภายในจวนหลังเล็กทางตอนใต้ของเมืองอู๋ แสงแดดยามสายลอดผ่านระแนงไม้ฉลุลายสวยงาม ส่องลงบนพื้นไม้สะอาดที่ถูกขัดจนมันวาว กลิ่นดอกเหมยแห้งที่แขวนไว้ตามขื่อคลุ้งกระจาย บรรยากาศเงียบสงบ ราวโลกภายนอกถูกปิดกั้นด้วยกำแพงสูง

ในห้องโถงกว้างนั้นมีร่างของเด็กชายอายุสิบปีผู้หนึ่งยืนอยู่กลางห้อง เขามีเรือนร่างผอมบาง ผิวขาวราวหิมะดวงตาสีอำพันกลมโตสุกใสคล้ายประกายทองในยามพระอาทิตย์ตก เส้นผมสีดำยาวประบ่าถูกมัดไว้ลวก ๆ ด้วยเชือกผ้า เด็กชายผู้นั้นคือ ‘เสวี่ยซี’

เสวี่ยซีกำลังยกแขนขึ้นอย่างเก้ ๆ กัง ๆ ฝีเท้าไม่มั่นคงนัก แต่เต็มไปด้วยความพยายาม เขาพยายามเลียนแบบท่าร่ายรำที่แม่ของเขาเคยแสดงให้ดู

แม่ของเขา ’เป่าเป้ย’ กำลังยืนอยู่ด้านหน้า ร่างบางสวมชุดผ้าไหมสีฟ้าอ่อนขลิบลายเมฆา ปลายแขนกว้างพริ้วไหวตามทุกจังหวะที่นางก้าวเคลื่อน เธอเป็นสตรีที่งดงามราวดอกเหมยแรกแย้ม ใบหน้างามละมุนแต่แฝงความเหนื่อยล้าซ่อนอยู่ในดวงตา มือนางอ่อนโยนทว่ามักสั่นเบา ๆ ยามเอื้อมแตะไหล่ลูกชาย

“เสี่ยวซี...ท่านี้อย่าขยับเร็วเกินไป ต้องค่อย ๆ ใช้ลมหายใจนำพา” น้ำเสียงนางอ่อนโยน แต่ฟังดี ๆ จะสัมผัสได้ถึงความเศร้าลึกในใจ
เด็กชายก้มหน้าพยักเบา ๆ ก่อนสูดหายใจตามที่แม่สอน พยายามก้าวเท้าตามจังหวะที่ได้เรียนรู้ แม้จะสะดุดบ้าง ล้มบ้าง แต่ก็ลุกขึ้นทำต่อทุกครั้ง

“ข้าจะทำให้ท่านแม่ภูมิใจ...ข้าจะร่ายรำได้งดงามเหมือนท่าน”
ในวัยสิบปีเสวี่ยซียังไม่เข้าใจความหมายของสายตาที่แม่ทอดมอง เขาไม่รู้เลยว่ารอยยิ้มที่อ่อนโยนนั้น แท้จริงแล้วแฝงด้วยความรู้สึกผิดและความเศร้าโศก เป่าเป้ยมักกอดเขาแน่นทุกครั้งหลังเลิกฝึก ราวกับเกรงว่าสักวันลูกชายจะถูกพรากไป

ด้านนอกเรือนหลังเล็ก บางครั้งเสียงฝีเท้าหนักและเสียงหัวเราะห้าวหาญจะดังลอดเข้ามา มันคือเสียงของ ‘จื่อซวาน’ บิดาผู้เป็นโจรป่าผู้กักขังเป่าเป้ยไว้

จื่อซวานมีใบหน้าเคร่งขรึม ตาคมดุราวหมาป่า บุคลิกแข็งกร้าวและดุดัน เขามักปรากฏกายในคราบนักรบผู้ครองพลังอำนาจเหนือผู้คน แต่ภายในใจเต็มไปด้วยความบิดเบี้ยวและความเป็นเจ้าของ เขารักเป่าเป้ยในแบบที่ไม่เปิดโอกาสให้นางได้หายใจเป็นอิสระ ความรักของเขาคือโซ่ตรวนที่พันธนาการทุกชีวิตในเรือน

เสวี่ยซีในวัยสิบปีจึงเติบโตท่ามกลางบรรยากาศที่แปลกประหลาด แม่ผู้โอบอุ้มด้วยความรักอันเปราะบาง และพ่อผู้ครอบงำด้วยเงามืดและความรุนแรง

“มือซ้ายต้องเปิดออกเหมือนดอกไม้บาน...อย่ากำแน่นเช่นนั้น” เป่าเป้ยกล่าวพลางยื่นมือเล็ก ๆ มาซ้อนทับมือของลูกชาย นิ้วเรียวของนางขยับอย่างนุ่มนวล แสดงวิธีที่ถูกต้อง

เสวี่ยซีพยักหน้าพยายามอีกครั้ง แขนเล็กเหยียดออก ปลายนิ้วอ่อนช้อยกว่าก่อน ดวงตาสีอำพันเป็นประกายด้วยความดีใจเมื่อแม่พยักหน้าชม

“ดีมาก เสี่ยวซี...เจ้ามีพรสวรรค์นะ หากวันหนึ่งเจ้าได้ออกไปข้างนอก เจ้าคง...”

คำพูดนั้นขาดหายเป่าเป้ยเม้มปากแน่น สายตาเศร้าลึก นางไม่กล้าพูดต่อ เพราะรู้ดีว่าโลกภายนอกคือสิ่งที่ลูกชายไม่มีสิทธิ์สัมผัส
เสวี่ยซีเงยหน้ามองอย่างไม่เข้าใจ แต่ก็ไม่ถามต่อ เขาเพียงยิ้มกว้าง ดวงตาเป็นประกาย “ท่านแม่...เมื่อข้าเติบโต ข้าจะร่ายรำให้ท่านดูทุกวัน จะทำให้ท่านยิ้มได้ตลอดไป!”

เป่าเป้ยหัวเราะทั้งน้ำตา มือบางลูบศีรษะลูกชายอย่างแผ่วเบา “เจ้าช่างเป็นเด็กน้อยที่บริสุทธิ์ยิ่งนัก เสี่ยวซี...ได้โปรดรักษาหัวใจเช่นนี้ไว้ให้นานที่สุด”


เสียงประตูถูกผลักออกอย่างแรง ปัง! จื่อซวานก้าวเข้ามาใบหน้าคมเข้มเคร่งขรึม ดวงตาสีดำดุดันกวาดมองทั้งแม่และลูก

“เจ้าสอนอะไรเด็กนี่อีก?” เสียงห้าวต่ำกดดันทั้งห้อง

เป่าเป้ยสะดุ้ง แต่ยังคงกอดลูกไว้แน่น “ข้าเพียง...เพียงสอนร่ายรำเท่านั้น มิได้เป็นสิ่งผิดใด...”

จื่อซวานหัวเราะหยัน ดวงตาหันมาจับจ้องเสวี่ยซี “ร่ายรำหรือ? ของพวกคุณหนูตระกูลสูงส่งนั่นน่ะหรือ? ไร้สาระ! เด็กผู้ชายควรรู้จักจับดาบ จับธนู ไม่ใช่มาโบกไม้โบกมือประหนึ่งสตรี!”

เสวี่ยซีเม้มปากแน่น ก้มหน้าลงไม่กล้าสบสายตาพ่อ

เป่าเป้ยโต้ตอบเสียงเบา “เขายังเด็ก...การร่ายรำช่วยฝึกสมาธิและกายา ให้เขาได้เติบโตด้วยหัวใจอ่อนโยนบ้าง...”

จื่อซวานก้าวเข้ามาใกล้แววตากรุ่นโทสะ แต่เมื่อสบตากับดวงตาสีอำพันของลูกชายที่ฉายแววหวาดกลัว ความกรุ่นโกรธกลับแปรเปลี่ยนเป็นความหงุดหงิด เขาเพียงโบกมือ “ตามใจเจ้า! แต่วันหนึ่ง...เด็กนี่ต้องเป็นลูกชายข้า มิใช่แค่ลูกในอ้อมกอดของเจ้า!”
สิ้นคำเขาหันหลังเดินจากไป ทิ้งเงาหนักอึ้งปกคลุมบรรยากาศ

เป่าเป้ยกอดเสวี่ยซีแน่นขึ้น น้ำตาหยดลงบนเรือนผมดำของลูกน้อย “เจ้าคือชีวิตเดียวที่แม่ยังเหลืออยู่ เสี่ยวซี...แม้โลกนี้จะโหดร้ายเพียงใด จงอย่าให้หัวใจเจ้ามืดมนเหมือนเขา”

เด็กชายกอดตอบเงียบ ๆ ดวงตาสีอำพันไหวระริก แม้จะยังไม่เข้าใจความหมายทั้งหมด แต่ก็จดจำคำพูดนั้นไว้ในใจ

เมื่ออาทิตย์คล้อยต่ำ เป่าเป้ยยังคงให้เสวี่ยซีร่ายรำต่อ นางตีจังหวะเบา ๆ ด้วยมือ เปรียบดังเสียงพิณนำพา เด็กชายก้าวเท้าอย่างไม่มั่นคง แต่ในทุกการเคลื่อนไหวเต็มไปด้วยความตั้งใจ

ดวงอาทิตย์อัสดงทอดแสงสีทองผ่านหน้าต่าง ตกกระทบดวงตาสีอำพันของเสวี่ยซี จนเหมือนประกายเพลิงอุ่นที่ส่องสว่างกลางเงามืด
และในความมืดที่ปกคลุมจวนหลังเล็กนั้น เสียงหัวเราะใสซื่อของเด็กชายวัยสิบปีก็ยังดังก้อง

เสียงที่ต่อมา...จะค่อย ๆ ถูกโลกกลืนหายไปทีละน้อย


ปลดความชำนาญ
ศาสตร์การร่ายรำ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 17502 ไบต์และได้รับ 9 EXP!  โพสต์ 2025-9-4 03:07
โพสต์ 17,502 ไบต์และได้รับ +3 EXP +10 คุณธรรม +6 ความโหด จาก น่ารัก  โพสต์ 2025-9-4 03:07
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ปิ่นปักผมหยกขาว
 มีดสั้นเงาจันทร์
ชุดวสันต์ลีลา
คัมภีร์ดาราศาสตร์ตงฟาง
โดดเด่นมีเอกลักษณ์
พู่กันดาราศาสตร์
แหวนหยกสลักนาม
ยาหยกบูรพา
พู่หยกสลักลายมังกร
กระบี่คู่สลักจันทรา
แหวนดาราจรัส(D)
เกราะทองแดง
อาภรณ์พร่ำพิรุณ (ช)
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x1
x40
x2
x7
x1
x2
x2
x1
x6
x1
x8
x2
x10
x7
x12
x26
x48
x8
x24
x24
x5
x2
x10
x1
x2
x12
x30
x21
x5
x6
x2
x1
x10
x5
x60
x90
x60
x5
x2
x120
x6
x17
x20
x2
x20
x2
x2
x2
x3
x2
x2
x3
โพสต์ 2025-9-29 12:36:46 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ 22 เดือน 8 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11

ณ เมืองอู๋ มณฑลจหยางโจว จักรวรรดิต้าฮั่น


เมื่อผ่านเส้นทางอันยาวไกลจากกว่างหลิง หลินหยากับเยวี่ยเหยียนก็มาถึงเมืองอู๋ในยามเย็นที่แสงตะวันคล้อยต่ำจนพื้นฟ้าถูกย้อมเป็นสีทองอมแดง เส้นขอบกำแพงเมืองอู๋สูงใหญ่ตระหง่านอยู่เบื้องหน้า สะท้อนประกายแสงสุดท้ายของวันจนดูราวกับมีเปลวเพลิงล้อมรอบ คูน้ำรอบเมืองส่องประกายระยับรับกับเสียงฝีพายที่ค่อย ๆ กลับท่า สะพานหินทั้งสี่ทิศทอดยาวเชื่อมประตูเมืองไว้กับโลกภายนอกอย่างสง่างาม


หญิงสาวยั้งบังเหียนม้าปีศาจสีดำทมิฬให้หยุดตรงเชิงสะพาน ก่อนจะเงยหน้ามองกำแพงหินที่ถูกสร้างอย่างแข็งแกร่งและประณีต เธอรู้สึกถึงลมเย็นจากแม่น้ำแยงซีที่พัดมาพร้อมกลิ่นหอมชื้นของดินและกลิ่นไหมที่ลอยมากับสายลม กลิ่นประจำเมืองอู๋ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องการทอผ้าไหมที่ละเอียดอ่อนจนเป็นที่ต้องการของราชสำนักและพ่อค้าแดนไกล


เมื่อผ่านการตรวจตราของทหารยาม หลินหยาก็พาเยวี่ยเหยียนเข้าสู่ถนนสายหลักที่คึกคักไปด้วยผู้คน พ่อค้าแม่ค้าต่างเร่งเก็บร้าน ทว่ากลิ่นอาหารจากร้านบะหมี่ ร้านเกี๊ยว และชาอุ่นยังลอยอบอวลเต็มถนน ลำน้ำสาขาที่ไหลคดเคี้ยวผ่านกลางเมืองสะท้อนแสงโคมแดงจากระเบียงไม้ของร้านน้ำชาและโรงไหม สร้างบรรยากาศอุ่นละมุนท่ามกลางความครึกครื้นของผู้คนที่สวมผ้าไหมสีอ่อนละลานตา


เป้าหมายของหลินหยาที่เมืองอู๋คือการมารับกรรมสิทธิ์ไร่ชาที่หรงเล่อเป็นผู้ประมูลไว้ให้ นางได้ชำระเงินคืนให้เรียบร้อยแล้วแต่ไร่นั้นตั้งอยู่บนภูเขานอกเมือง จำเป็นต้องพักเอาแรงก่อนจะขึ้นเขาไปจัดการเรื่องการบูรณะในวันพรุ่งนี้ หลินหยาจึงจูงเยวี่ยเหยียนไปยังคอกม้าของโรงเตี๊ยมใหญ่ใกล้ท่าน้ำ เด็กเลี้ยงม้าประจำโรงเตี๊ยมรีบเข้ามารับเชือกบังเหียนด้วยท่าทีเคารพ


โรงเตี๊ยมไม้สองชั้นแห่งนี้หันหน้าออกสู่คลองสายใหญ่ ภายในโถงกว้างประดับโคมกระดาษสีแดงตัดกับแสงตะเกียงน้ำมันที่ส่องสว่างอยู่ทุกมุม กลิ่นข้าวสวยหอมกรุ่นผสมกับกลิ่นชาอู่หลงลอยคลุ้ง หลินหยาเช่าห้องพักชั้นบนที่มีหน้าต่างเปิดรับลมเย็นจากทะเลสาบไท่หู เธอจัดเก็บสัมภาระและถอดเสื้อคลุมที่เปื้อนฝุ่นออก พลางทอดสายตามองผ่านหน้าต่างเห็นสายน้ำที่สะท้อนแสงดาวระยิบระยับ


ยามดึกเงียบสงบลง ท้องฟ้าสีน้ำเงินเข้มมีเพียงเสียงน้ำจากคูเมืองที่ไหลรินเป็นท่วงทำนองกล่อมใจ หลินหยานั่งจิบชาขาวที่เจ้าของโรงเตี๊ยมเอามาเสิร์ฟ พร้อมคิดถึงแผนการในวันรุ่งขึ้น การเดินทางขึ้นเขาเพื่อดูไร่ชาที่จะกลายเป็นสมบัติใหม่ของเธอ การบูรณะโรงอบใบชา การเลือกต้นชาพันธุ์ดี และการจัดการคนงานเพื่อให้ไร่กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ความตื่นเต้นและความคาดหวังทำให้ดวงตาคมหวานทอประกายแม้ร่างกายจะอ่อนล้า


รุ่งเช้าเสียงระฆังยามเช็ดหมอกบางปลิวไหวในอากาศ หลินหยาตื่นแต่ฟ้ายังไม่สว่างเต็มที่ ลมเช้าที่พัดผ่านกรอบหน้าต่างนำกลิ่นชื้นจากแม่น้ำและกลิ่นดินจากทุ่งชุ่มน้ำรอบทะเลสาบเข้ามาเตือนว่า วันนี้คือวันเริ่มต้นของการดูแลไร่ชาที่เธอรอคอย และเป็นอีกก้าวสำคัญในเส้นทางการค้าของหญิงสาวเอง


พรสวรรค์: ลาภลอย (ไม้)

มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่

อื่นๆ : ยังไม่มีอะไร

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 17490 ไบต์และได้รับ 8 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-9-29 12:36
โพสต์ 17,490 ไบต์และได้รับ +5 EXP [ถูกบล็อค] ความชั่ว +2 คุณธรรม จาก วาสนาเซียน  โพสต์ 2025-9-29 12:36
โพสต์ 17,490 ไบต์และได้รับ +4 EXP [ถูกบล็อค] ความชั่ว +5 คุณธรรม จาก ตำราขนมหวานสูตรลับ  โพสต์ 2025-9-29 12:36
โพสต์ 17,490 ไบต์และได้รับ +5 EXP +5 คุณธรรม จาก ด้ายแดงแห่งโชคชะตา  โพสต์ 2025-9-29 12:36
โพสต์ 17,490 ไบต์และได้รับ +2 EXP [ถูกบล็อค] ความชั่ว +5 คุณธรรม +4 ความโหด จาก แหวนดาราจรัส(D2)  โพสต์ 2025-9-29 12:36
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
วาสนาเซียน
ด้ายแดงแห่งโชคชะตา
แหวนดาราจรัส(D2)
ตำราอาหารลับของเสี่ยวจ้าวจื่อ
ยอดคีตศิลป์
ปราณกระเรียนขาว(ไม้)
ขลุ่ยพันธะในเงาศาลา
เกราะทองเทวะ
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x16
x16
x16
x30
x1
x30
x5
x27
x2
x10
x8
x10
x2
x1
x3
x114
x5
x5
x5
x5
x6
x4
x4
x4
x21
x1
x158
x20
x21
x1
x5
x34
x7
x246
x1
x1
x1
x145
x5
x6
x66
x20
x6
x93
x79
x5
x209
x5
x50
x5
x85
x6
x196
x55
x68
x78
x4
x105
x5
x8
x4
x3
x11
x9
x8
x15
x69
x1
x1
x5
x53
x42
x47
x16
x140
x10
x11
x10
x26
x9
x10
x4
x15
x60
x55
x2
x1
x95
x62
x9
x10
x167
x55
x28
x70
x78
x49
x5
x3
x120
x12
x9
x11
x5
x3
x3
x9
x5
x6
x1
x1
x6
x13
x8
x135
x70
x20
x11
x14
x48
x3
x1
x4
โพสต์ 2025-9-30 08:59:37 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ 24 เดือน 8 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11

ณ เมืองอู๋ มณฑลจหยางโจว จักรวรรดิต้าฮั่น


หลังจากนั้นหลินหยาก็พักผ่อนที่เมืองอู๋อีกหนึ่งวัน เช้าวันใหม่ยามอรุณแรกสาดส่องผ่านม่านฟ้า เมืองอู๋ที่เพิ่งคึกคักจากเสียงตลาดยามเช้าก็ค่อย ๆ จางหายไปด้านหลัง หลินหยาขยับมือลูบแผงคอเจ้าม้าปีศาจสีดำ เยวี่ยเหยียนที่ยืนรอพร้อมอยู่แล้ว “เราออกเดินทางกลับบ้านกันเถอะนะ” เสียงนางแผ่วเบาแต่แฝงด้วยความหมายมากมาย


การเดินทางออกจากเมืองอู๋ครั้งนี้เต็มไปด้วยความรู้สึกผสมปนเป ทั้งความโล่งใจที่ธุระเกี่ยวกับไร่ชาเสร็จสิ้นลง ทั้งความคิดถึงบรรยากาศคุ้นเคยของฉางอันและผู้คนที่นางทิ้งไว้เบื้องหลัง โดยเฉพาะชายผู้ที่แม้เพียงคิดถึงก็ทำให้หัวใจเธอเต้นแรง จางกงกง...นางเผลอยกยิ้มบางเมื่อภาพใบหน้าเย็นชาแต่ดวงตาอ่อนล้าของเขาผุดขึ้นมาในความคิด


เสียงกีบม้ากระทบพื้นดิน “ตึก ตึก ตึก” ดังก้องไปทั่วเส้นทางที่ทอดยาวเป็นสาย เหล่าพ่อค้าหาบเร่และคาราวานที่ออกจากเมืองต่างเหลียวมองหญิงสาวผู้ขี่ม้าดำสง่างามราวเงาอสูรในยามเช้า หลินหยานั่งตัวตรง ผ้าคลุมไหล่สะบัดไปตามแรงลม ใบหน้าขาวซีดที่ฟื้นตัวจากการบาดเจ็บสะท้อนแสงอาทิตย์อ่อน ๆ ทำให้ดูเปล่งปลั่งขึ้น ทิวทัศน์สองข้างทางค่อย ๆ เปลี่ยนจากทุ่งชุ่มน้ำอุดมสมบูรณ์รอบเมืองอู๋ไปเป็นเส้นทางที่ทอดยาวผ่านป่าโปร่งและเนินเขาอ่อนโยน เสียงนกร้องขับกล่อมคล้ายเป็นเพื่อนเดินทางให้หญิงสาวที่ออกมาจากบ้านไปนานแสนนาน เธอหันไปพูดกับเจ้าม้าเบา ๆ “อีกไม่นานก็จะถึงฉางอันแล้ว เยวี่ยเหยียน เจ้านายของเจ้าจะได้กลับฉางอันเสียที”


ยามคิดถึงร้านค้าที่ตลาดตะวันออก ใบหน้าของสวี่หลิวและไป๋จิ่นหงก็ผุดขึ้นมาในใจ เธอแอบหัวเราะกับตัวเองเบา ๆ “เอาเถอะ...พวกเขาคงปวดหัวกับบัญชีร้านจนบ่นถึงข้าแล้วแน่ ๆ” แต่ทันทีที่จิตใจผ่อนคลาย ภาพของจางกงกงก็กลับเข้ามาแทนที่อีกครั้ง ความรู้สึกอบอุ่นปนหึงหวงแปลกประหลาดของเขาที่มักแสดงออกมา ทำให้หัวใจของหลินหยาสั่นสะเทือนในแบบที่ไม่มีใครทำได้


หลินหยากระชับบังเหียน ขับม้าทะยานไปข้างหน้าโดยไม่หันกลับหลัง ท้องฟ้าสว่างใสสะท้อนถึงการเดินทางครั้งใหม่ที่กำลังนำพาเธอกลับสู่มหานครฉางอัน เมืองหลวงที่เต็มไปด้วยความคึกคัก ความลับ และสายใยบาง ๆ ที่เธอผูกไว้กับใครบางคน


พรสวรรค์: ลาภลอย (ไม้)

มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่

อื่นๆ : ยังไม่มีอะไร

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 15024 ไบต์และได้รับ 8 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-9-30 08:59
โพสต์ 15,024 ไบต์และได้รับ +5 EXP [ถูกบล็อค] ความชั่ว +2 คุณธรรม จาก วาสนาเซียน  โพสต์ 2025-9-30 08:59
โพสต์ 15,024 ไบต์และได้รับ +4 EXP [ถูกบล็อค] ความชั่ว +5 คุณธรรม จาก ตำราขนมหวานสูตรลับ  โพสต์ 2025-9-30 08:59
โพสต์ 15,024 ไบต์และได้รับ +5 EXP +5 คุณธรรม จาก ด้ายแดงแห่งโชคชะตา  โพสต์ 2025-9-30 08:59
โพสต์ 15,024 ไบต์และได้รับ +2 EXP [ถูกบล็อค] ความชั่ว +5 คุณธรรม +4 ความโหด จาก แหวนดาราจรัส(D2)  โพสต์ 2025-9-30 08:59
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
วาสนาเซียน
ด้ายแดงแห่งโชคชะตา
แหวนดาราจรัส(D2)
ตำราอาหารลับของเสี่ยวจ้าวจื่อ
ยอดคีตศิลป์
ปราณกระเรียนขาว(ไม้)
ขลุ่ยพันธะในเงาศาลา
เกราะทองเทวะ
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x16
x16
x16
x30
x1
x30
x5
x27
x2
x10
x8
x10
x2
x1
x3
x114
x5
x5
x5
x5
x6
x4
x4
x4
x21
x1
x158
x20
x21
x1
x5
x34
x7
x246
x1
x1
x1
x145
x5
x6
x66
x20
x6
x93
x79
x5
x209
x5
x50
x5
x85
x6
x196
x55
x68
x78
x4
x105
x5
x8
x4
x3
x11
x9
x8
x15
x69
x1
x1
x5
x53
x42
x47
x16
x140
x10
x11
x10
x26
x9
x10
x4
x15
x60
x55
x2
x1
x95
x62
x9
x10
x167
x55
x28
x70
x78
x49
x5
x3
x120
x12
x9
x11
x5
x3
x3
x9
x5
x6
x1
x1
x6
x13
x8
x135
x70
x20
x11
x14
x48
x3
x1
x4
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้