วันที่ 27 เดือน 7 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 10
ช่วงเวลา 03.30 - 04.30 น.
เย็นวานเต็มไปด้วยเรื่องวุ่นวาย.. ระหว่างที่เจ้าของห้องเอนหลังศึกษาตำรับชา ‘ฉาจิ่ง’ เพื่อจัดเตรียมของว่างในตำหนัก ที่ด้านนอกพลันมีเสียงสนทนาของเหล่านางกำนัลและขันทีฝ่ายใน
“อาทิตย์ก่อนฝ่าบาทพลิกป้ายเลือกเว่ยเจียเหม่ยเหรินมาปรนนิบัติไปแล้วแท้ๆ อาทิตย์นี้ก็ยังเลือกนางอีก ฝนตกไม่ทั่วฟ้าจริงๆ ”
“ แข่งเรื่องอื่นแข่งได้ ทว่าแข่งบุญวาสนาเจ้าสู้นางได้หรือ? คนเขาได้รับการประคองจากฝ่าบาท กลับมาหนนั้นท่าทีเหนื่อยอ่อนทั้งคู่หนึ่งชายหนึ่งหญิงอยู่ด้วยกันทั้งวันจะมีเรื่องใดเกิดขึ้นคงไม่ต้องเดา เจ้าน่ะข่าวช้าเสียจริง ตอนนี้นางปีนขึ้นยอดไม้สูงฝ่าบาทโปรดปรานเสียจนประดับยศเจียอวี๋ให้คนแซ่เว่ยเจียไปแล้ว ” กวนหนี่จื่อที่อายุมากที่สุดและร่ำรวยประสบการณ์ชี้แนะแก่รุ่นน้องไม่รู้ความ จากข่าวกรองชาววังที่นางได้มาเปลี่ยนเป็นผลสรุปอย่างมั่นใจ
“ พวกเจ้าได้ยินรึไม่ ? หลายวันก่อนมีข่าวออกมาว่ากลุ่มของกงซุนเหม่ยเหรินที่วิวาทสามรุมหนึ่งกับซ่างกวนเหม่ยเหรินนั้นถูกลงโทษแล้วนะ ฟังว่าให้ไปเฝ้าสุสานบรรพชนทั้งสองคนเลย ”
“ อ้อ ใช่เฉาเหม่ยเหริน กับ อู่เหม่ยเหรินหรือเปล่า? ญาติข้าเป็นบัณฑิตลัทธิหยูไม่เห็นดีเห็นงามกับเรื่องเช่นนี้แน่ เขาว่าขนาดลู่เหม่ยเหรินที่ก่อความวุ่นวายตบตีกับสนมต่างเรือนเมื่อหนก่อนต่างไม่เอาอย่างคำสอนขงจื้อ ไม่ทันไรเช้าวันนั้นยังมีนางกำนัลน้อยที่ตำหนักเซวียนเต๋อเห็นเงาบุรุษลอบเข้าไปหานางดึกๆ ดื่นๆ บัดสียิ่ง.. ” เสียงของขันทีน้อยคนนี้คงเป็นหยวนเซ่อขันทีที่คอยทำงานใกล้ชิดกงกงตำหนักไทเฮา ฝูมี่จำได้ลางๆ
“ .......... ” พอเกิดความรู้สึกคล้ายแอบฟังเรื่องผู้อื่นกลายๆ เจ้าของห้องตั้งใจจะลุกไปปิดหน้าต่างหัวข้อสนทนาดันมาลงหัวนางเสียอย่างนั้น !!
“ เฮ้อๆ วังหลังวุ่นวายแบบนี้เพราะไม่มีนางหงส์เคียงข้างมังกรคอยดูแลความสงบนั่นล่ะ ขนาดนอกเมืองยังมีข่าวกองคาราวานถุกปีศาจจู่โจมเลย!! เคราะห์ดีว่ามีจอมยุทธ์ชุดขาวผู้เก่งกาจมาช่วยเอาไว้ได้ทัน พวกปีศาจดุร้ายอำมหิตไม่อย่างนั้นคงเป็นศพอนาถกันท้้งคณะ”
“ จอมยุทธ์ชุดขาว ข้าได้ยินมาว่าเขาใช้วิชาที่แข็งแกร่งมาก.. รึว่าจะเป็นผู้ครองปราณในตำนานกันนะ ?? ”
เสียงซุบซิบด้านนอกไม่สร่างซานางสนองพระโอษฐ์น้อยเลือกที่จะปิดหูไม่ฟังแล้วก็ดันเป็นเรื่องที่น่าสนใจโผล่มาแทน
“ เรื่องนั้นช่างเถอะๆ เจ้ารู้รึเปล่าว่าข่าวใหญ่กว่า ทายาทเหอซีอิงกงผู้ล่วงลับ ตวนมู่หลงเยว่ผู้นั้นเข้าวังมาแล้ว ลือกันว่าพวกนั้นสบคบคิดกองกำลังเก่าเพื่อสร้างอำนาจ คำของนางที่พูดกับย่าเป็นตราสานส์ไปทั่วฉางอันอยู่ตอนนี้! ”
หากไม่ติดว่าครู่เดียวหลังจากนั้นวงสนทนาก็แตกตื่นเพราะจางกงกงหัวหน้าขันทีโผล่มายุติข่าวสะพัดเสียก่อนฝูมี่คงได้ยินอะไรมากกว่านี้ นางกำนัลในห้องวิ่งมาปิดหูให้เหม่ยเหรินเป็นระยะแต่ก็ดูคล้ายจะไม่ช่วยเท่าไร
“ ท่านฝูมี่.. อย่าไปฟังคำลือของพวกนางเลยเจ้าค่ะ ตลอดเก้าปีมานี้ฝ่าบาทยังไม่เคยทอดประเนตรสตรีใด เว่ยเจียเจียอวี๋ได้รับแต่งตั้งเพระานางมีความดีความชอบ ฝ่าบาททรงมองคนขาด.. ”
คำของนางกำนัลตำหนักเว่ยหยางนำพาความสับสนมาให้ฝูมี่พอสมควร ดรุณีกวางน้อยพยักหน้าโดยไม่คิดสิ่งใด ฝ่าบาทจะโปรดปราณผู้ใด พลิกป้ายผู้ใดหาใช่กิจของนางไม่ ลำพังเพียงหน้าที่อบรมนางกำนัลคัดเลือกคนมาทำงานให้ราบรื่นตนก็สูญเวลาไปค่อนวันแล้ว
“ ดีแล้ว หากฝ่ายในมีสตรีที่ฝ่าบาทพึ่งพระทัยราชวงศ์ได้ทาายาทมังกรต้าฮั่นก็จะมั่นคง ถือเป็นเรื่องมงคลพวกเราควรส่งเสริมสนับสนุนให้สมหน้าที่ ฟังว่าที่ห้องเครื่องมีวัตถุดิบล้ำค่าไม่น้อย ข้าจะไปตุ๋นน้ำแกงบำรุงพระวรกายฝ่าบาททรงเสวยจะได้ฟื้นคืนกำลังวังชา ”
เพราะเหตุนี้สองสามวันที่ผ่านมาดรุณีผิวอ่อนจึงขลุกตัวอยุ่แต่ในห้องเครื่อง น้ำแกงบำรุงที่นางเลือกทำใช้เวลาตุ๋นนานใช้ความพิถีพิถันสูงลิ่วเพื่อไม่ให้วัตถุดิบมีราคาพวกนั้นเสียเปล่า เป็น 3 วันที่เท้าของซ่างกวนเหม่ยเหรินแทบไม่ย่างกรายออกจากหน้าเตา
ด้วยบุคลิกนุ่มนวลและมักยิ้มแย้มได้กับทุกเรื่อง ต่อให้นางทุ่มเทกับการทำอาหารด้วยใจรักเท่าใดกลับกลายเป็นว่าเหล่านางกำนัลในตำหนักเว่ยหยางคาดเดาส่งเดชว่า ‘ท่านฝูมี่สะเทือนใจที่ฝ่าบาทโปรดปรานสตรีอื่นจึงเก็บตัวอยู่แต่ในห้องเครื่อง’ ไปเสียแบบนั้น
อย่างไรก็ตามในฐานะนางสนองพระโอษฐ์กิจงานไม่เคยว่างเว้น วาระกำหนดการครั้งใดฝูมี่ไม่เคยให้ใครต้องมาทำแทน ไม่ว่าจะเป้นการอบร่ำฉลองพระองค์เตรียมเครื่องหอมในการสรง หากไม่มีนามนางใดมาอยุ่เวรทำก็จะเป็นตัวนางเองหรือขันทีน้อยที่ถูกคัดเลือกและอบรมจากนางไปทำหน้าที่เสมอ
เสียงตีบอกโมงยามขาล รุ่งสางนี้ก็ยังคงเป็นเจ้าของร่างเน่งน้อยนำขบวนกวนหนี่ว์จื่อชุดเดิมถือถาดฉลองพระองค์เข้ามารับการตื่นบรรทมของฝ่าบาท มือเรียวถวายผ้าเนื้อละเอียดไร้ลวดลายให้ซับพระพักตร์รอพระหมื่นปีทำกิจส่วนพระองค์ชั่วครึ่งก้านธูปค่อยเริ่มงานประจำวัน บนถาดมีชุดฉางฝูตามธาตุธรรมชาติสีครามเสริมมงคลน้ำ ยังมีฉางฝูสีอื่นอีกสี่ตามหลักห้าธาตุธรรมชาติแต่ดูเหมือนหวงตี้รัชกาลปัจจุบันจะโปรดฉลองพระองค์สีเข้มเป็นส่วนใหญ่
เจ้าของวรองค์มังกรยังคงสรา้งเรื่องให้นางเช่นเคย เมื่อถึงคราวเปลี่ยนเสื้อคลุมก็ให้คนอื่นๆ ออกไปจนหมด เคราะห์ดีว่าจางกงกงช่วยหาบันไดสี่ขั้นเล็กๆ มาให้ช่วยงานเปลี่ยนพระภูษาของฝูมี่เป็นไปได้โดยสะดวกและรวดเร็วขึ้น
“ พักนี้เจิ้นไม่เห็นเจ้าในตำหนัก.. ไม่กลัวอันตรายแล้วรึ ” ตรัสถามระหว่างมือเล็กคุ่นั้นวนเวียนอยุ่กับการมัดปมผ้าเสื้อตัวในให้เขา เมื่อทำหน้าที่บ่อยครั้งเข้าเจ้าของหน้ากากทองดูจะสั่นน้อยลงถือเป็นสัญญาณที่ดี
“ ยังอยู่ในเขตตำหนักเว่ยหยางได้รับพระบารมีคอยปกปักษ์ ผู้น้อยสบายดีเพคะ ”
ดวงตากลมโตติดจะว่างเปล่าอยู่บ้างแน่นอนว่าฝูมี่ยังคงยำเกรงต่อบุรุษตรงหน้าถึงขั้นระมัดระวังไม่แตะต้องถูกวรกายสูงค่าของเขาเลย นิ้วเรียวสัมผัสผ่านเพียงเนื้อผ้าทั้งปราณีใส่ใจกับงานโดยไร้ความคิดที่จะประจบเอาใจ หรือดึงดูดคนตรงหน้าให้มองเห็นตนทั้งที่มีโอกาสใกล้ชิดมากกว่าสนมยศเหม่ยเหรินคนอื่นๆ นางทำเพียงแค่ เปลี่ยนชุด ถวายงาน ชงชาและฝนหมึก..
เชื่อว่าหากพระพันปีที่ตำหนักเซวียนเต๋อทราบความจริงนี้คงเรียกตัวเหม่ยเหรินทั้งวังไปอบรมสร้างความกระตือรือร้นอีกรอบ
ฝูมี่ไม่ใช่ประเภทเริ่มบทสนทนาเก่งโดยเฉพาะกับผู้ที่มองคราเดียวทำนางสะดุ้งไปทั้งตัว ทุกครั้งีท่ถวายงานรับบทผู้ฟัง เป็นตุ๊กตากระเบื้องปั้นยิ้มสมกับหลักสามเชื่อฟังสี่คุณธรรมตามที่ขงจื้อบรรยายจริยาสตรีไม่ผิดเพี้ยน น่าเสียดายที่หัวใจนางล้ำลึกต่อวิธีแห่งม่อเจียและพุทธศาสนาอย่างมากเมื่อมีเหตุให้ต้องพูดด้วยเหตุผลก็ไม่รู้ไปขุดเอาความใจกล้ามาจากไหน
ผลัดอาภรณ์จนถึงเสื้อคลุมตัวนางย้ายตัวเองมารอที่หน้าคันฉ่องทองเหลืองเริ่มใช้หวีหยกสางพระเกศานุ่มลื่นอันน่าภาคภูมิใจของพระหมื่นปี ไม่เสียแรงตนกำชับให้ขันทีดูแลห้องสรงผสมเหอโส่วอูลงไปในน้ำอุ่นเกศาของพระองค์จึงทั้งเงางามและเรียบลื่นสางง่ายเบาแรง
“ ฟังจากจางกงกงว่าเมื่อคืนทรงปวดพระเศียร หม่อมฉันจะนวดกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตให้นะเพคะ ”
หลังได้รับอนุญาตนางสนองพระโอษฐ์ของพระองค์มือเบายิ่งตั้งแต่วันแรกที่เรียกมาปรนนิบัติยังไม่เคยมีเรื่องให้ขุ่นพระทัย ระหว่างสางผมยังได้ใส่แตะน้ำมันดอกฉาฮวาปริมารเล็กน้อยนวดตามท้ายทอยขึ้นมาปริเวณท้ายพระนลาฎบรรจงกลึงอย่างระมัดระวังและเบามืออยู่พักหนึ่ง ระหว่างนั้นพระองคืเห็นของว่างที่นางจัดหามาให้มีทั้งบัวลอยและชาดอกกุ้ยหอมกรุ่นตักเสวยพอรองท้องเพื่อไม่ให้เสียน้ำใจ เมื่อรวบมวยผมประดับกวานแล้วความปวดตึงที่มีก็บรรเทาลงไปมาก
“ …เจ้าใช้ถุงหอมหรือ? ” รับมาลามาสวมด้วยตนเองก่อนเอะใจว่าเมื่อครู่ที่นางอยู่ใกล้ตนคล้ายได้กลิ่นหอมเบาบางของดอกไม้ขาวนั่นอีกแล้ว
“ มิใช่เพคะ.. แต่หากพระองค์ประสงค์ถุงหอมฝูมี่สามารถทำขึ้นถวายได้ ” กระพริบดวงตาปริบๆ ฉงนใจอยู่บ้างว่าเขาทราบได้อย่างไรว่านางถนัดเครื่องหอม ซ้ำยังมีงานอดิเรกเป็นการปักถุงหอมแจกจ่ายคนรอบตัว
“ เข้าใจแล้ว... แบบนี้นี่เอง ” ถ้าไม่ใช่กลิ่นถุงหอมก็คงจะเป็นกลิ่นที่ติดตัวนางโดยกำเนิด
“ เพคะ ? ” ตกลงท่านจะเอาถุงหอมรึไม่เอา !
บทสนทนาสั้นๆ ประจำช่วงเช้าจบลงเช่นนั้นหลังต่างคนต่างแยกย้ายไปทำตามภาระหน้าที่ จางกงกงจังได้มาสอบถามนางถึงเรื่องน้ำมันดอกฉาฮวาอยุ่พักหนึ่งว่าพอจะแนะนำร้านที่ไว้ใจได้รึไม่.. อย่างว่า เรื่องบำรุงเส้นผมให้เงางามจะชายรึหญฺงชาวฮั่นต่างก็ให้ความสำคัญ

PC-01] มอบ ขนมบัวลลอย+ชาเบญจมาศ ให้คนตื่นแต่หัววัน
+5 ความสัมพันธ์โบนัสจากการมอบอาหารปรุง
+20 ความสัมพันธ์จากค่าชื่อเสียง หัวดี
+5 ความสัมพันธ์ พูดคุยประจำวัน
+ ทำกิจกรรมสันทนาการกับหวงตี้ นวดหัวกันหน่อย +15 บารมี
+ 1 ปรนนิบัติทรงฉลองพระองค์
[NPC-011] จางกงกง
+20 ความสัมพันธ์จากค่าชื่อเสียง หัวดี
+5 ความสัมพันธ์ พูดคุยประจำวัน
+ ข่าวลือ +
+15 EXP จากโรลฟังข่าวลือ 3 รุม 1 เหม่ยเหรินไฟต์เวทีวังหลังเชียร์โดยลัทธิหยู
+15 EXP จากโรลฟังข่าวลือ ลู่เหม่ยเหรินมีชู้ไปเยี่ยมที่เรือนฉางชุน
+15 EXP จากโรลฟังข่าวลือเว่ยเจียเหม่ยเหรินไปทำกิจใช้แรงเยอะกับฝ่าบาท
+15 EXP จากโรลฟังข่าวลือฝ่าบาทพลิกป้ายเว่ยเจียเหม่ยเหริน 2 สัปดาห์ติด
+15 EXP จากโรลฟังข่าวลือเว่ยเจียเหม่ยเหรินเป็นที่โปรดปรานกลายเป็นเจี๋ยยวี๋คนแรก
+15 EXP จากโรลฟังข่าวลือจอมยุทธ์ชุดขาวใช้พลังปราณช่วยกองคาราวาน
+15 EXP จากโรลฟังข่าวลือจดหมายเวียนสกุลตวนมู่วางแผนการณ์ใหญ่
เอฟเฟคพรสวรรค์ลาภลอย : มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่
@Admin