[ห้องขังหมายเลข 1][ คุกหลวง ] หลิน หยา

[คัดลอกลิงก์]
大牢






ห้องขังหมายเลข 1

[ คุกหลวง ]

+50 พลังงานจากการพักผ่อนและกินอาหารวันละมื้อ

   ห้องขังในคุกหลวงห้องหนึ่ง พื้นหินเย็นเฉียบปูด้วยกองฟางแห้ง ๆ ในห้องมีเพียงแสงสว่างที่ลอดจากช่องกรงเหนือศีรษะสูงหรือแสงตะเกียงน้ำมันยามค่ำคืนเท่านั้น กลิ่นชื้นอับปะปนกลิ่นโลหิตจากไม่อาจแยกได้ว่ามาจากห้องใด มื้ออาหารประทังชีวิตเห็นทีจะมีเพียงก้อนหมั่นโถวแข็ง ๆ น้ำหนึ่งแก้ว หรืออาหารที่เหลือเศษให้ทานยังชีพก็เท่านั้น






แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 3624 ไบต์และได้รับ 1 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-6-26 22:06
โพสต์ 2025-6-26 22:44:16 | ดูโพสต์ทั้งหมด


วันที่ 26 เดือน 5 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11
ยามไห่ เวลา 22.00 - 23.00 น. ณ ถนนสิบลี้ คุกหลวงห้องขังหมายเลขหนึ่ง


           เสียงสนิมกรงเหล็กนั้นเสียดกับพื้นหินดัง ครืดดด… ก่อนที่ประตูนั้นจะถูกปิดลงจากด้านนอกโดยไม่มีคำอธิบายใด ๆ ออกมา ชายฉกรรจ์สองคนถอยห่างจากบานประตูนั้นดั่งตั้งใจแยกตัวจากคนที่พวกเขาคุมมาให้โดยเร็วที่สุด ร่างบางของหลินหยาก้าวเข้าสู่ห้องขังที่มีความเงียบสงัดเป็นเพื่อนนางโดยไม่ได้กล่าวสิ่งใด แม้เงาของนางที่ทอดผ่านพื้นหินจะสั่นไหวเพราะเปลวไฟจากตะเกียงในมุมสูง แต่เจ้าของเงากลับนิ่งงัน เย็นเยียบประหนึ่งกำลังเดินเข้าไปในห้องของตนเอง..

           “มีห้องครั้งแรก..ก็ห้องขังเลยสินะเนี้ย..” เธอพึมพำ

           กลิ่นอับของเชื้อราบนกำแพงผสมกับกลิ่นสนมเลือดและฟางเก่าที่เหี่ยวแห้งจนหลงเหลือเพียงเสียงก๊อบแก๊บยามเท้าก้าวเหยียบพื้น หลินหยาทิ้งตัวนั่งลงอย่างเงียบงัน มือเรียวพิงกำแพงเย็นจัด พลางทอดสายตาไปยังช่องแสงเหนือหัวของตนเอง แสงเรืองจางลอดผ่านกรงเหล็กเล้ก ๆ อย่างแผ่วเบา ราวกับฟ้าด้านนอกก็ไม่ได้อยากจะมองเข้ามายังห้องนี้เสียเท่าไร

           หลินหยานั้นหลับตาลงเงียบ ๆ ไม่ได้เพราะเหนื่อยหรือหวาดกลัว หากแต่เพราะหัวของเธอคล้ายกำลังว่างเปล่าเกินไป ความเงียบงันอันน่ากลัวไม่ใช่เสียงในห้องขัง แต่เป็นเสียงภายในจิตใจตนเองที่ไร้ซึ่งเสียงใด ๆ ทั้งความกลัว ความคาดหวัง ความหวัง ทั้งหมดนั้นดูเหมือนจะถูกเหยียบจนจมหายไปกับฝุ่นฝ้าบนพื้นไปเสียแล้ว มือข้างหนึ่งของหลินหยาขยับออกช้า ๆ ตรงข้างขวา ดึงชายผ้าพันแขนออกจากมือของตนเองราวกับหวังเพื่อระบายความร้อนใต้ผิวหนังหรือไม่ก็ลดความคับแน่นของแขน

           ทว่า…

           เมื่อผ้าพันแขนหลุดออก เธอกลับพบสิ่งที่ไม่ควรปรากฎอยู่บนร่างตนเอง เส้นเลือดสีเขียวหม่น ปรากฎขึ้นมาจางบ ๆ ราวกับเถาวัลย์บางชนิดที่แอบเลื้อยพันในเงามืด เส้นสีเขียวนั้นไม่มาก หากแต่มันกำลังขยายตัวขึ้นจากครั้งแรกเล็กน้อย และไหลเวียนในแนวเดียวกับเส้นเลือดของเธอ เหมือนกับสิ่งมีชีวิตบางอย่างที่กำลังหาเส้นทางของมันอยู่..

          “....”

           หลินหยาจ้องมองแขนของตัวเองนิ่งเงียบ นางไม่แสดงสีหน้าตื่นตระหนกนัก แต่อึดอัดแปลกประหลาดเมื่อมีบางสิ่งจุกค้างในลำคอ “แปลก..” นางพึมพำเบา ๆ ลมหายใจถูกกลืนกลับเข้าไปในอก ริมฝีปากเม้มเข้าหากันขณะนิ้วเรียวแตะเบา ๆ บริเวณเส้นสีเขียวนั้น ไม่เจ็บ ไม่แวบ ไม่ชารุนแรง แต่ราวกับมีความเย็นบางอย่างที่กำลังไหลซึมเข้าสู่ร่างกายจากภายใน เป็นความเย็นที่ไม่อาจอธิบายได้ มันไม่ใช่อาการของไข้หวัด ไม่ใช่อาหารออนแรงจากการอดนอน หรือพิษจากอาหารเสีย แต่มันเป็น อะไรบางอย่าง ที่นางก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน..

          “เพราะข้าป่วย..ใช่ไหมนะ?” น้ำเสียงนั้นแผ่วเบาดังขึ้นแทบไม่พ้นขอบปาก ตาหวานจ้องมองมือตัวเองซ้ำไปซ้ำมา เธอไม่รู้ไม่เข้าใจว่านี้คืออะไร เธอไม่รู้ว่ามันเกี่ยวอะไรตอนไหนด้วยซ้ำ ไม่รู้หรอกว่าเลือดของใครบางคนที่เป็นพิษร้ายกำลังแทรกซึมเข้าไปในร่างกายของนางเอง แต่ที่แน่ ๆ หลินหยาไม่เคยรู้ว่าใครบางคนมอบ พิษ นี้ให้เธอโดยไม่ได้ตั้งใจ ไม่รู้ว่ามีสิ่งใดซึมเข้าสู่เส้นเลือดภายใต้ผิวเนื้ออ่อนละมุนเช่นนี้ ตั้งแต่เมื่อไรหรือนานเท่าใด

           ไม่มีคำตอบหรือคำอธิบายจากใคร หลินหยาค่อย ๆ ขยับมือดึงผ้าพันแผลกลับขึ้นไว้พันไว้ดังเดิม แม้มือจะเริ่มสั่นน้อย ๆ จากอากาศเย็นในห้องขัง และจากแรงล้าที่ไม่อาจออกมาได้ แต่นางก็ยังคงนิ่ง ไม่โอดครวนอะไรออกมา จ้องมองเพดานนั้นอย่างเงียบ ๆ เหมือนกำลังรอเวลา



พรสวรรค์: ลาภลอย (ไม้)
มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่
อื่น ๆ: เมื่อไรหนอ จะมีเลข 0 กับเลข 9
รางวัล: -



แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 10137 ไบต์และได้รับ 8 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-6-26 22:44
โพสต์ 10,137 ไบต์และได้รับ +2 EXP +5 คุณธรรม +4 ความโหด จาก กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)  โพสต์ 2025-6-26 22:44
โพสต์ 10,137 ไบต์และได้รับ +5 คุณธรรม +4 ความโหด จาก ผู้มีบุญ  โพสต์ 2025-6-26 22:44
โพสต์ 10,137 ไบต์และได้รับ +5 คุณธรรม จาก ทักษะนักดนตรีข้างถนน  โพสต์ 2025-6-26 22:44
โพสต์ 10,137 ไบต์และได้รับ +3 ความชั่ว +5 ความโหด จาก ขลุ่ย  โพสต์ 2025-6-26 22:44
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ชุดทิวาเมฆาล่อง
รองเท้าหยุนเวย
โล่ไม้
วาสนาเซียน
ด้ายแดงแห่งโชคชะตา
แหวนดาราจรัส(D2)
ตำราอาหารลับของเสี่ยวจ้าวจื่อ
ยอดคีตศิลป์
ปราณกระเรียนขาว(ไม้)
ขลุ่ยพันธะในเงาศาลา
เกราะทองเทวะ
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x3
x16
x16
x16
x1
x49
x5
x27
x3
x10
x10
x2
x2
x3
x114
x5
x6
x6
x5
x7
x4
x6
x4
x21
x3
x159
x40
x41
x1
x5
x34
x11
x246
x1
x1
x1
x145
x5
x7
x66
x20
x6
x93
x149
x5
x209
x5
x50
x5
x85
x6
x208
x68
x75
x81
x4
x105
x5
x8
x4
x4
x14
x16
x9
x15
x69
x1
x1
x53
x55
x47
x16
x140
x10
x11
x11
x36
x9
x10
x4
x16
x60
x55
x2
x1
x104
x64
x9
x11
x215
x55
x28
x70
x78
x49
x5
x3
x128
x12
x10
x11
x5
x3
x3
x9
x5
x11
x3
x1
x6
x14
x10
x137
x109
x21
x11
x14
x48
x3
x1
x7
โพสต์ 2025-6-27 00:10:09 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ 27 เดือน 5 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11
ยามจื่อ เวลา 00.00 น. ณ ถนนสิบลี้ คุกหลวงห้องขังหมายเลขหนึ่ง


          “หาววว…” เสียงหาวเบา ๆ ดังขึ้นภายในห้องขังเย็นเฉียบที่ไร้ผู้คนเป็นพยาน ร่างบางในชุดธรรมดาของสาวชาวบ้านขยับตัวช้า ๆ พลางลืมตามขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นเปลวไฟของตะเกียงน้ำมันตรงมุมห้องวูบไหวไปมา แม้ไม่มีลม ไม่มีเสียงฝีเท้าใดเข้าใกล้ นางก็รุ้ว่ามันไม่ได้แปลกนัก เพราะยังไม่ข้ามวัน เปลวไฟอาจจะเต้นระบำไปตามจังหวะของความชื้น ความหนาวเหน็บ หรือว่า..จะเป็นความว่างเปล่าของห้องขังแห่งนี้เองก็เป็นไปได้

          “เห่อ…ฮาวววว” หลินหยาหาววอดอีกครั้ง จนต้องยกหลัวมือขึ้นปิดปาก แม้ไม่รู้ว่าเธอหาวเพราะง่วง หรือเป็นการถอนหายใจแบบหนึ่งที่เธอใช้ก็เถอะ แต่ไหนแต่ไรก็ไม่คิดอะไรมากอยู่แล้ว ร่างบางขยับตัวเล็กน้อยขณะมองไปยังพื้นหินที่มีฟางแห้งแผ่กระจายอยู่เบื้องล่าง แต่เมื่อสายตาจับจ้องจริง ๆ จะพบว่า ฟางที่เห็นนั้นมีบางส่วนที่เปียกชื้น มันไม่ใช่จากหยาดน้ำฝนจากข้างนอก น่าจะเป็นหยาดน้ำจากผนังที่ซึมไหลลงมาสะสมอยู่ตามซอกมุม ความชื้นผสานกับกลิ่นสาบของสนิม และเศษของอาหารเน่าเสียจาง ๆ ทำให้ฟางเหล่่านั้นก็ไม่ต่างจากการหมักรอเวลา

          “ชื้นจังเลย..” เสียงพูดของหลินหยานั้นแผ่วเบา ดวงตาที่แม้เคยสว่างไสวเหมือนกลุ่มดาวบนฟ้าคืนเดือนดับ บัดนี้กลับขุ่นหมองและอ่อนแรงลงไปมากโข มือข้างหนึ่งค่อย ๆ กวาดฟางที่ชื้นเหล่านั้นไปไว้ด้านหนึ่ง ไม่ได้รังเกียจ แต่แค่ไม่อยากให้มันยิ่งแย่ลงกับร่างกายที่ไม่ค่อยจะปกติของเธอ

          หลินหยาเปลี่ยนใจไม่นอนบนฟาง แต่เลือกที่จะนอนราวกับพื้นหินเย็นเฉียบแทน เพราะอย่างน้อยมันก็ไม่เปียก ความเย็นของหินคล้ายคุ้นเคยเหมือนการนอนกลางดินในป่าลึก คืนหนาวเหน็บบนหลังคาชาวบ้านตอนที่เดินทางมาที่ฉางอัะน หรือแม้กระทั่งที่เธอต้องกอดเหล้าหมักไว้กลางสวนผลไม้เพราะหลบท่านพ่อและท่านแม่ ร่างกายของหลินหยานั้นชินเสียแล้ว..

          ชินกับความเหงา เย็นกับความเย็น ชินกับการที่ต้องเอาตัวรอดอย่างเงียบงัน

          นางเอียงกายพิงไหล่เข้ากับกำแพงหิน สีหน้ามิได้ทุกข์ทนอะไรมากนัก เพียงแต่แววตานั้นดูเหมือนจะจางลงเรื่อย ๆ เช่นเดียวกับในใจของนางที่เคยตะโกน วันนี้กลับเงียบงัน “ไม่รู้จะไต่สวนตอนไหนกันด้วยสิ..” เสียงของนางพูดกับตัวเองคล้ายขำเย็น ๆ ปนแค่นเสียงของตน “แต่ก็ไม่แปลกหรอก..ถ้าไม่ทันถึงวันนั้น..ข้าอาจจะตายไปก่อนก็ได้นะ”

          หลินหยาไม่ได้พูดด้วยน้ำเสียงที่น้อยใจอะไร ไม่ได้เปล่งคำพูดออกมาเพราะกลัวตาย แต่มันคือความจริงที่นางนั้นมองตรงเข้าไปตรงนั้น ถ้ามีอะไรฆ่านางได้ง่ายดายกว่าดาบของราชสำนักก็คงเป็นสิ่งที่นางไม่รู้ว่ากำลังไหลเวียนอยู่ในร่างกายนั้นแหละ…พิษ..หรืออะไรบางอย่างที่นางไม่รู้ว่าอะไร แต่มันกำลังซึมช้า ๆ คล้ายกับระวิงเวลาให้นางตายอย่างทรมาร

          หลินหยาหลับตาลงอีกครั้ง คราวนี้ไม่ใช่เพราะง่วงหนัก แต่มันคล้ายเป็นเพียงวิธีหนึ่งในการหลบจากความคิดที่ตามมาเป็นระลอก ๆ อย่างที่หยุดไม่ได้ จะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ ไม่รู้สิ หลินหยาไม่ใช่คนที่หวังอะไรแล้ว หากตายไปจริง ๆ อย่างน้อย..ก็ได้เป็นตัวของตัวเองในช่วงเวลาสุดท้ายที่ไม่มีใครพรากไปจากเธอได้อีกแล้ว




@Admin


พรสวรรค์: ลาภลอย (ไม้)
มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่
อื่น ๆ: -
รางวัล: -



แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 9185 ไบต์และได้รับ 4 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-6-27 00:10
โพสต์ 9,185 ไบต์และได้รับ +2 คุณธรรม +2 ความโหด จาก กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)  โพสต์ 2025-6-27 00:10
โพสต์ 9,185 ไบต์และได้รับ +2 คุณธรรม +2 ความโหด จาก ผู้มีบุญ  โพสต์ 2025-6-27 00:10
โพสต์ 9,185 ไบต์และได้รับ +5 คุณธรรม จาก ทักษะนักดนตรีข้างถนน  โพสต์ 2025-6-27 00:10
โพสต์ 9,185 ไบต์และได้รับ +1 ความชั่ว +2 ความโหด จาก ขลุ่ย  โพสต์ 2025-6-27 00:10
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ชุดทิวาเมฆาล่อง
รองเท้าหยุนเวย
โล่ไม้
วาสนาเซียน
ด้ายแดงแห่งโชคชะตา
แหวนดาราจรัส(D2)
ตำราอาหารลับของเสี่ยวจ้าวจื่อ
ยอดคีตศิลป์
ปราณกระเรียนขาว(ไม้)
ขลุ่ยพันธะในเงาศาลา
เกราะทองเทวะ
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x3
x16
x16
x16
x1
x49
x5
x27
x3
x10
x10
x2
x2
x3
x114
x5
x6
x6
x5
x7
x4
x6
x4
x21
x3
x159
x40
x41
x1
x5
x34
x11
x246
x1
x1
x1
x145
x5
x7
x66
x20
x6
x93
x149
x5
x209
x5
x50
x5
x85
x6
x208
x68
x75
x81
x4
x105
x5
x8
x4
x4
x14
x16
x9
x15
x69
x1
x1
x53
x55
x47
x16
x140
x10
x11
x11
x36
x9
x10
x4
x16
x60
x55
x2
x1
x104
x64
x9
x11
x215
x55
x28
x70
x78
x49
x5
x3
x128
x12
x10
x11
x5
x3
x3
x9
x5
x11
x3
x1
x6
x14
x10
x137
x109
x21
x11
x14
x48
x3
x1
x7
โพสต์ 2025-6-27 02:17:47 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย LinYa เมื่อ 2025-6-27 02:19



วันที่ 27 เดือน 5 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11
ยามโฉ่ว เวลา 01.00 - 00.00 น. ณ ถนนสิบลี้ คุกหลวงห้องขังหมายเลขหนึ่ง


           ในห้องขังที่เย็นเฉียบที่เงียบสงัดเกินกว่าที่จะแยกแยะได้ว่ายามราตรีผ่านล่วงไปนานเพียงใด เสียงเพียงหนึ่งเดียวคือลมหายใจของหญิงสาวคนหนึ่งที่พิงกำแพงหินมานานหลายชั่วยามแล้วล่ะ หลินหยาถูกจับกุมฐานะผู้ต้องการ โทษหนักมิใช่น้อย แต่สีหน้าแววตาของนางไม่ได้แสดงถึงความกระวนกระวายจนออกนอกหน้าด้วยซ้ำเลยแม้แต่น้อย มีเพียงความเงียบอันหนาวเหน็บที่คืบคลานคล้ายเกราะเหล็กบางใส ล้อมตัวเธอเอาไว้จนแน่น

           ถึงกระนั้น..ในอกของนางเองก็ไม่อาจปฎิเสธได้หรอกว่ามีบางสิ่งเคลื่อนไหวอยู่ในใจเสมอ แม้มิได้ปริปากบ่นหรือแสดงออกอย่างชัดเจน ความคิดนับร้อยนับพันไหลเวียนวนดั่งแม่น้ำที่ไม่รู้ปากทางออก ไม่รู้ว่าจะรอสิ่งใด ไม่รู้ว่าจะเริ่มนับจากตรงไหน แผ่วเบา.. หลินหยาหาววอดออกมาอีกครั้งหนึ่งก่อนจะยกมือบางขึ้นมาปิดปาก ดวงตาหวานซึ้งที่มักสดใสดั่งหยาดตะวันคล้อยกลับพร่าเลือนราวกับสายหมอกยามเช้า เหนื่อยเล็กน้อย...แต่มิใช่เหนื่อยกาย หากเป็นใจที่เริ่มล้าอย่างช้า ๆ ล้าแบบไม่อาจเอ่ยกับใครได้

           ร่างบางของเธอค่อย ๆ ขยับเอื้อมมือไปคว้าสิ่งที่ดูจะใกล้เคียงกับคำว่า สิ่งที่ขุ้นเคย มากที่สุดของห้องเย็นเฉียบแห่งนี้ กระเป๋าเจ็ดสมบัติของตัวเองที่ติดตัวมาเสมอ ใบไม่ใหญ่นักแต่กลับสะอาดเรียบร้อยจนดูผิดแผกไปจากสถานที่รอบข้าง

           นางล้มตัวลงนอนช้า ๆ บนพื้นหินอันแข็งกระด้างอย่างเคยชินโดยไร้เสียงครวญครางใด ๆ ใช้กระเป๋าผ้าหนุนรองศีรษะ แม้ไม่สบาย...แต่มันอุ่นใจ ร่างของหญิงสาวขดตัวเพื่อลดความเย็นที่ไหลซึมจากพื้นจนถึงผิวกระดูก เส้นผมที่ตัดสั้นเพียงไหล่ปล่อยตกกระจายบนพื้นอย่างไร้ระเบียบ เมื่อเอนตัวลง ความเงียบก็คล้ายแผ่ขยายออกอีกครั้ง ล้อมตัวเธอในม่านของความว่างเปล่าที่ไม่มีแม้แต่เสียงกุกกักจากขังข้างเคียง

          “ไม่หลับเสียที..” พึมพำแผ่วเบาให้ตนเอง เหมือนคนที่กำลังปลอบตัวเองในที่ที่ไม่มีใครอยู่ หรือบางที...ในใจลึก ๆ นางอาจรู้ว่าความเงียบไม่ใช่ศัตรู มันเพียงแต่...ไม่สามารถพูดตอบกลับมาเท่านั้น ดวงตาปรือ ๆ ค่อย ๆ ปิดลงอย่างช้า ๆ ริมฝีปากได้รูปขยับคล้ายจะบ่นอะไรอีก แต่สุดท้ายก็เงียบเสียงลง หลับตาลงอย่างคนที่ยอมจำนนต่อราตรีอย่างสงบ ด้วยแรงอ่อนล้าจากทั้งกายและใจที่สะสมมานับไม่ถ้วน

           คืนนี้ยังอีกยาวไกลนัก...แต่หลินหยาเองก็เคยผ่านค่ำคืนที่แย่กว่านี้มาแล้วเช่นกัน

           แต่จะจริงเร่อออออ

           กองฟางที่เคยนอนพิง แม้จะชื้นเพียงเล็กน้อยจากไอน้ำของห้องขังก็ยังพอทน แต่ตอนนี้มันกลับเย็นแล้วก็แฉะกว่าที่ควรจะเป็น หลินหยาที่กำลังหลับ ๆ ตื่น ๆ ราวกับปลาตะเพียนติดตาข่าย สะดุ้งเบา ๆ เมื่อลำตัวขยับแล้วรู้สึกว่ามีอะไรแปลกไป…หืม?...ชื้น?..ชุ่ม..แล้วก็เริ่มเหนียวตรงหว่างขา…

           "หืม...?" ริมฝีปากสีแดงน้อย ๆ พึมพำในลำคอ ขณะที่มือบางข้างหนึ่งยกขึ้นขยี้เปลือกตาด้วยความง่วงงุน หงุดหงิด เพราะกำลังจะหลับได้สนิทแท้ ๆ ไหงจู่ ๆ ก็รู้สึกไม่สบายเนื้อไม่สบายตัวขึ้นมาเสียอย่างงั้น มือเรียวข้างหนึ่งเอื้อมแตะลูบเบา ๆ ลงบนส่วนนั้นของเสื้อผ้าที่ตอนแรกคิดว่าเพียงแค่เปียกจากกองฟาง แต่แล้วก็ต้องชะงัก… ความเหนียวหนืดเล็ก ๆ ปะทะปลายนิ้ว แล้วกลิ่นคาวอ่อน ๆ ก็ตามมาติด ๆ

           “...สัจจเทพอี้เหอ..เกลียดข้าหรอ..”

           หลินหยาพูดเหมือนประชด เบิกตากว้างทันที ก่อนจะพึมพำเสียงหลงกับตัวเองเสียงเบาแต่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ก้ำกึ่งระหว่างความพังทลายและการอยากร้องกรี๊ดจนให้ผนังห้องถล่ม "ชิบหายแล้ว...เป็นประจำเดือน..."

           โอ้วสวรรค์ เง็กเซียนฮ่องเต้ เทพอู่อ๋อง เทพสัจจเทพ ไม่ว่าจะเป็นเทพเจ้าองค์ใดก็ไม่มีใครแจ้งล่วงหน้าแม้แต่น้อยว่านางจะประสบเคราะห์ซ้ำกรรมซัดขนาดนี้! ชาติที่แล้วไปเหยียบหางมังกรตัวไหนไว้กันนะ!? "อ๊าาา…จะบ้าตาย..." นางกระซิบเสียงแหบพร่าขณะเงยหน้าพิงกำแพงเย็น ๆ อย่างอ่อนแรงสุดขีด มือทั้งสองขยุ้มกระเป๋าผ้าแน่น ไม่ใช่เพื่อหาอะไรออกมาใช้หรอกก็ในนี้ไม่มีอะไรช่วยได้เลยสักนิด! ไม่มีแม้แต่เศษผ้าเปลี่ยน ไม่มีสมุนไพรบรรเทาอาการปวดท้อง ไม่มีแม้แต่คนให้บ่นด้วย!

           “ไอ้ท่านจางกงกงบ้า..ไอ้ท่านจางทังหน้าขึง” หลินหยาสบถในลำคอไม่เจาะจงถึงใคร แต่ทุกคนที่มีส่วนทำให้นางตกอยู่ในสภาพนี้ล้วนโดนรวบไปประณามอย่างเท่าเทียมกันหมด นางพยายามจะตั้งสติ สูดลมหายใจลึก ๆ อย่างคนที่พยายามไม่ร้องไห้ แต่ก็เผลอเบะปากน้อย ๆ ออกมาจนได้ "นี่มันโคตรจะไม่ใช่จังหวะเลย... ทรมานทั้งแขนทั้งท้องทั้งหัวแล้วต้องมาเจอไอ้นี่อีก..."

           แต่นั้นแหละนะ..นางยังเป็นมนุษย์ มีเลือดเนื้อ ร่างกาย..และร่างกายแม่งก็ไม่เคยสนใจว่านางจะอยู่ห้องขังหรือหลบหนีพิษสงครามอยู่ด้วย เพราะมันยังส่งเลือดประจำเดือนออกมาราวกับเป็นวันฉลองเฉพาะกิจมันทุกเดือนอย่างซื่อสัตว์เสมอ..



@Admin

พรสวรรค์: ลาภลอย (ไม้)
มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่
อื่น ๆ: -
รางวัล: -

โรลกาว ๆ แล้วได้ 9 เฉยยยยยยยย ระบบเป็นไร ชอบโรลกาว ๆ เราะ


แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 13599 ไบต์และได้รับ 8 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-6-27 02:17
โพสต์ 13,599 ไบต์และได้รับ +2 EXP +5 คุณธรรม +4 ความโหด จาก กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)  โพสต์ 2025-6-27 02:17
โพสต์ 13,599 ไบต์และได้รับ +5 คุณธรรม +4 ความโหด จาก ผู้มีบุญ  โพสต์ 2025-6-27 02:17
โพสต์ 13,599 ไบต์และได้รับ +5 คุณธรรม จาก ทักษะนักดนตรีข้างถนน  โพสต์ 2025-6-27 02:17
โพสต์ 13,599 ไบต์และได้รับ +3 ความชั่ว +5 ความโหด จาก ขลุ่ย  โพสต์ 2025-6-27 02:17
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ชุดทิวาเมฆาล่อง
รองเท้าหยุนเวย
โล่ไม้
วาสนาเซียน
ด้ายแดงแห่งโชคชะตา
แหวนดาราจรัส(D2)
ตำราอาหารลับของเสี่ยวจ้าวจื่อ
ยอดคีตศิลป์
ปราณกระเรียนขาว(ไม้)
ขลุ่ยพันธะในเงาศาลา
เกราะทองเทวะ
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x3
x16
x16
x16
x1
x49
x5
x27
x3
x10
x10
x2
x2
x3
x114
x5
x6
x6
x5
x7
x4
x6
x4
x21
x3
x159
x40
x41
x1
x5
x34
x11
x246
x1
x1
x1
x145
x5
x7
x66
x20
x6
x93
x149
x5
x209
x5
x50
x5
x85
x6
x208
x68
x75
x81
x4
x105
x5
x8
x4
x4
x14
x16
x9
x15
x69
x1
x1
x53
x55
x47
x16
x140
x10
x11
x11
x36
x9
x10
x4
x16
x60
x55
x2
x1
x104
x64
x9
x11
x215
x55
x28
x70
x78
x49
x5
x3
x128
x12
x10
x11
x5
x3
x3
x9
x5
x11
x3
x1
x6
x14
x10
x137
x109
x21
x11
x14
x48
x3
x1
x7
โพสต์ 2025-6-27 14:40:26 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ 27 เดือน 5 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11
ยามเฉิน เวลา 07.00 - 09.00 น. ณ ถนนสิบลี้ คุกหลวงห้องขังหมายเลขหนึ่ง


           หลินหยานั้นก้าวเท้าลงจากบันไดเหมือนเคย พลันเมื่อเงาร่างเล็ก ๆ ของนางถูกดันตัวเข้าสู่ห้องคุกหมายเลขเดิมตามความหมายนต้องทนทานกับกลิ่นอับและเสื่อฟางแข็งกระด้างกลับถูกทำลายลงจนสิ้น สายตาของหลินหยาเบิกกว้างเล็กน้อย เบาะนอนผืนบางที่ถูกปูเรียบร้อยอยู่มุมห้องดูใหม่และสะอาดผิดวิสัย ใต้เทียนข้างผนังยังมีถ้วยน้ำสะอาดตั้งไว้ เส้นฝุ่นเก่าที่เคยขีดร่องบนพื้นกลับเลือนรางไปอย่างน่าประหลาด ห้องทั้งห้องดูเหมือนมีคนตั้งใจทำความสะอาดให้ล่วงหน้า ราวกับ ใครบางคน คาดว่านางจะกลับมา

           นางชะงักก่อนจะหันขวับไปทางทหารยามหน้านิ่งที่ปิดประตูกรงเหล็กอยู่เบื้องหลัง “นี่คือ... คุกหลวงบริการงั้นหรือเจ้าคะ?” นางถามพลางย่นคิ้วด้วยน้ำเสียงขุ่นเคืองปนงุนงง “หรือว่ามีใครส่งของพวกนี้มาให้ข้าเจ้าคะ?” ทหารผู้นั้นสบตานางเพียงวูบเดียว ก่อนจะหันหน้ากลับไปแบบไร้คำตอบ ไม่มีคำอธิบาย ไม่มีแม้แต่เสียงถอนหายใจ ความเงียบอันเรียบเฉยราวถูกสั่งให้ ‘ปิดปากสนิท’ คล้ายบ่งบอกว่าเรื่องนี้มิใช่สิ่งที่พวกเขากล้าจะพูด

           หลินหยายืนมองประตูเหล็กที่ถูกเลื่อนปิดอย่างแผ่วเบา แต่เสียงกลอนล็อกกลับกึกก้องยิ่งกว่าเสียงศาล เมื่อประตูสนิทลง สิ่งที่เหลืออยู่คือความเงียบ กับกลิ่นกฤษณาแผ่ว ๆ ที่ลอยตัดกับกลิ่นอับเดิมจนผิดธรรมชาติ “หืม...” นางพึมพำต่ำ ริมฝีปากคลี่ยิ้มขื่น “คงจะไม่ใช่เทพเซียนในฝันหรอกกระมัง...ที่เอาเบาะผืนนี้มาให้ข้า” หลินหยาเดินไปหย่อนกายนั่งลงอย่างเชื่องช้า ปลายนิ้วลูบขอบเบาะอย่างจับผิด ก่อนจะหลับตาลงชั่วครู่

           ถ้ามันเป็นกับดัก... ก็ให้มันกลืนข้าไปเสียเถอะ หากไม่ใช่ ก็จะได้รู้กันว่า...ผู้ใดกันแน่ ที่ยังไม่กล้าปล่อยมือจากเงาของข้า

           เสียงประตูเหล็กด้านนอกเลื่อนเปิดอีกครั้ง ทำให้หลินหยาเงยหน้าขึ้นโดยอัตโนมัติ นางยังนั่งอยู่บนเบาะผืนนุ่มแบบคนที่ยังไม่แน่ใจว่าควรจะเชื่ออะไรได้บ้าง จังหวะเดียวกับที่ร่างของทหารหนุ่มคนหนึ่งก้าวเข้ามาโดยไม่ได้เอ่ยคำใด เพียงวางถาดไม้เรียบ ๆ ลงบนพื้นหินหน้าที่นอนของนาง ก่อนจะถอยออกไปอย่างเงียบงัน

           หลินหยาเลิกคิ้วแล้วโน้มตัวมองในถาด สิ่งที่ปรากฏทำให้นางตะลึงน้อย ๆ  ไม่ใช่แค่ก้อนหมั่นโถวแข็ง ๆ ดำ ๆ อย่างที่เคยคาดไว้ แต่กลับมีหมั่นโถวขาวสะอาดกลมอวบวางเรียงกันอย่างเรียบร้อย พร้อมซาลาเปาร้อนที่ยังมีไอจาง ๆ ลอยจากรอยจีบ และถ้วยน้ำอุ่นหนึ่งถ้วย ตบท้ายด้วยถ้วยเคลือบเล็กอีกใบที่มี หมูเค็มผัดยอดผัก อย่างง่าย ๆ วางเคียงอยู่ นางขยับตัวนั่งลงตรงถาดอย่างระวัง แววตาเหมือนลูกแมวที่จู่ ๆ ได้กลิ่นปลาย่างสดใหม่ในป่าที่ไม่มีปลาสักตัว

           “หืม...” หลินหยาพึมพำเบา ๆ พลางหยิบหมั่นโถวขึ้นมาจิ้มดู กลิ่นหอมยังอ่อน ๆ เหมือนเพิ่งนึ่งเสร็จได้ไม่นาน นางกัดคำแรกแบบระแวดระวัง แต่พอเนื้อแป้งแตะลิ้น แม่หญิงกลับทำตาโตเล็กน้อยเหมือนแมวที่ได้กินของอร่อย..ไม่ได้ดีขนาดนั้นแต่.. “อุ่น...แล้วก็ยังนุ่มด้วย... ไม่ได้แข็งเหมือนหินปาหัวใครแตกอย่างที่คิด...”

           แล้วจู่ ๆ ใบหน้าของหลินหยาก็เริ่มบวมตุ่ยขึ้นทีละนิดเพราะคำที่สอง คำที่สาม ซาลาเปาก็โดนงับเหมือนลูกกระต่ายตะกายไส้เนื้อ ขณะที่หมูเค็มผัดยอดผัก แม้จะเค็มนำไปนิดแต่กลับช่วยชูรสจนนางกัดหมั่นโถวอีกคำแทบไม่ทัน ยังคงสามารถกินแซ่บได้แบบไม่รู้ร้อนรู้หนาว..ง่ำ ๆ …นางกินอย่างเงียบ ๆ ง่ำ ๆ แบบที่ไม่รู้ตัวว่าตัวเองเหมือนสัตว์ตัวเล็กที่พอได้อาหารก็หลบมุมกินเงียบ ๆ ด้วยแก้มที่เริ่มพองตุ่ยอย่างน่าเอ็นดู ลมหายใจของนางค่อย ๆ ผ่อนคลายลง นัยน์ตาที่เคยหม่นเหมือนตะเกียงใกล้ดับค่อย ๆ สะท้อนประกายแสงบาง ๆ อีกครั้ง

           "ข้าก็แค่คนจะตาย ยังต้องหลงดีใจกับข้าวร้อน ๆ อีกหรือเนี่ย..." นางบ่นเบา ๆ แต่ไม่หยุดกิน จนมุมปากเลอะเศษผักไม่รู้ตัว ข้างในใจกลับเต้นแผ่วช้าเป็นจังหวะรอดชีวิต... ขณะที่ริมฝีปากยังง่ำอย่างมูมมามเป็นที่สุด



@Admin


พรสวรรค์: ลาภลอย (ไม้)
มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่
อื่น ๆ:
รางวัล: +50 พลังงานจากการพักผ่อนและกินอาหารวันละมื้อ



แสดงความคิดเห็น

จางกงกงหิ้วขนมจีบ ซาลาเปามาฝากคุณกับชาอุ่นๆ (ของฝากเห็นแก่ข้าเคยมีน้ำใจให้เจ้า)  โพสต์ 2025-6-27 14:50
ลาภลอย (ไม้) ทำงาน :: จางกงกงมาพบเจอคุณเยี่ยมเยียนที่คุก   โพสต์ 2025-6-27 14:48
โพสต์ 11248 ไบต์และได้รับ 8 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-6-27 14:40
โพสต์ 11,248 ไบต์และได้รับ +2 EXP +5 คุณธรรม +4 ความโหด จาก กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)  โพสต์ 2025-6-27 14:40
โพสต์ 11,248 ไบต์และได้รับ +5 คุณธรรม +4 ความโหด จาก ผู้มีบุญ  โพสต์ 2025-6-27 14:40

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังงาน +50 ย่อ เหตุผล
Watcher + 50

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ชุดทิวาเมฆาล่อง
รองเท้าหยุนเวย
โล่ไม้
วาสนาเซียน
ด้ายแดงแห่งโชคชะตา
แหวนดาราจรัส(D2)
ตำราอาหารลับของเสี่ยวจ้าวจื่อ
ยอดคีตศิลป์
ปราณกระเรียนขาว(ไม้)
ขลุ่ยพันธะในเงาศาลา
เกราะทองเทวะ
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x3
x16
x16
x16
x1
x49
x5
x27
x3
x10
x10
x2
x2
x3
x114
x5
x6
x6
x5
x7
x4
x6
x4
x21
x3
x159
x40
x41
x1
x5
x34
x11
x246
x1
x1
x1
x145
x5
x7
x66
x20
x6
x93
x149
x5
x209
x5
x50
x5
x85
x6
x208
x68
x75
x81
x4
x105
x5
x8
x4
x4
x14
x16
x9
x15
x69
x1
x1
x53
x55
x47
x16
x140
x10
x11
x11
x36
x9
x10
x4
x16
x60
x55
x2
x1
x104
x64
x9
x11
x215
x55
x28
x70
x78
x49
x5
x3
x128
x12
x10
x11
x5
x3
x3
x9
x5
x11
x3
x1
x6
x14
x10
x137
x109
x21
x11
x14
x48
x3
x1
x7
โพสต์ 2025-6-27 16:09:45 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย LinYa เมื่อ 2025-6-27 16:15


วันที่ 27 เดือน 5 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11
ยามเฉิน เวลา 07.00 - 09.00 น. ณ ถนนสิบลี้ คุกหลวงห้องขังหมายเลขหนึ่ง

           ห้องขังหินเย็นยะเยือกไร้แสงตะเกียง แม้ยามสายจะคล้อยมานานแต่ในคุกหลวงกลับยังชื้นแฉะและหนักอึ้งไปด้วยความเงียบงัน หลังจากกลืนคำสุดท้ายของหมั่นโถวลงคอ หลินหยาก็เอนหลังพิงผนังหิน ท้องอิ่มแต่ใจยังว่างเปล่าราวถูกขุดลึกให้กลายเป็นโพรงมืดในอก... และในวินาทีนั้นเสียงก้าวเท้าแผ่วเบาอย่างไม่สมควรมีในคุกก็ดังขึ้น หลินหยานางขมวดคิ้วทันที หันหน้าไปทางประตูด้วยสัญชาตญาณ ก่อนจะหยุดชะงักราวถูกจุดกลางอกด้วยเข็มเย็นเฉียบ

           คนที่ยืนอยู่ตรงนั้น... ไม่ใช่นายทหาร ไม่ใช่คนครัว ไม่ใช่แม้แต่ผู้คุม แต่เป็น เขา ผู้ซึ่งไม่ควรอยู่ที่นี่ ไม่ควรอยู่ที่ใกล้เธอถึงเพียงนี้ จางกงกงยืนอยู่ในเงามืดของประตูห้องขัง สีหน้าเรียบสนิท ร่างกายสูงโปร่งในชุดคลุมขันทีชั้นสูงสีน้ำตาลเข้มที่ปักลายเด่นด้วยรอยปักทองจางที่ขลิบตะเข็บแขนและชายเสื้อ ดวงตาคมลึกของเขาสะท้อนแสงเพลิงตะเกียงจากโถหินนอกห้องอย่างแผ่วเบา ริมฝีปากบางเม้มแน่นเล็กน้อยเมื่อเผชิญกับสายตาของหญิงสาวผู้ถูกจองจำ

           หลินหยาขบริมฝีปาก นางเบือนหน้าหนีทันทีราวกับถูกทิ่มแทงด้วยสิ่งสกปรก เธอไม่แม้แต่จะลุกขึ้นยืน ไหล่ผอมบางของนางยังคงพิงกำแพงหินเหมือนเดิม นัยน์ตาฉายแววค้อนขวับ ดั่งกำลังถามว่าผู้ใดกันอนุญาตให้บุรุษผู้นี้ย่างกรายเข้ามาในที่ของนางอีก "ท่านไม่ใช่ผู้คุม ท่านไม่ใช่คนส่งของ..." น้ำเสียงของนางค่อยและเย็นเยียบ "เหตุใดจึงมายืนอยู่ตรงหน้าข้า?"

           จางกงกงกลับไม่มีอาการโกรธเคือง เขาเพียงยกมือเบา ๆ ส่งสัญญาณให้นายทหารเฝ้าประตูถอยออกไป เขาวางถาดไม้ลงบนพื้นอย่างช้า ๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสุภาพ แต่คล้ายมีขลุ่ยเคลือบยาพิษซุกอยู่ในถ้อยคำ "ข้ามิได้มาก้าวก่าย เพียงแต่...เป็นห่วงว่าแม่นางหลินหยาอาจยังไม่อิ่ม" บนถาดมีถ้วยชาจาวเข็มเงินร้อนระอุ ไอน้ำลอยเบา ๆ ข้างถ้วยคือซาลาเปาห้าลูกใหญ่ และขนมกุ้ยฮวารูปกลีบดอกไม้สวยเกินจำเป็นสำหรับคุกหลวง

          “เมินเสียเถอะ ที่ข้าหวังรับของจากคนที่เคยโยนข้าลงหุบเหวนรกนั้น”

           จางกงกงนิ่งไปเพียงครู่หนึ่ง แววตาของเขายากจะอ่าน ดั่งถูกเคลือบด้วยหมอกควันแห่งอดีตที่ไม่มีใครอาจมองทะลุได้ "แม้เจ้าจะเห็นข้าเป็นปีศาจ ข้าก็มิคิดจะเถียง เพียงแต่ปีศาจก็มิได้หิวโหยในคราเดียวกับมนุษย์...เจ้าเองก็ควรเลือกกินเสีย ก่อนมันจะเย็น"

           "ถ้าท่านคิดว่าข้าจะซาบซึ้ง ท่านคิดผิด ถ้าท่านคิดว่าข้าจะร้องไห้ให้ ท่านยิ่งคิดผิดใหญ่"

           "ข้ามิได้หวังให้เจ้าทำสิ่งใดเลย" เขาตอบเบา ๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืนช้า ๆ แววตานิ่งขรึมปราศจากแววหัวเราะเยาะเช่นเมื่ออยู่หน้าศาล จางกงกงยืนมองหลินหยาในความเงียบหนึ่งอึดใจเต็ม ก่อนจะกล่าวว่า "หลินหยา...เจ้ากำลังเข้าใจผิดว่าทุกอย่างมีคำตอบเดียว และว่าข้าคือคนที่เจ้าควรเกลียดที่สุด แต่วันหนึ่งหากเจ้ายังมีชีวิตไปถึงวันนั้น เจ้าจะรู้...ว่าโลกนี้ มีคนที่เลวกว่าข้าอีกมากนัก"

           ระหว่างที่นางกำลังจะกล่าวพูดอะไรบางอย่างแต่กลับต้องชะงัก ลงในจังหวะที่ปลายนิ้วแตะรอยเปื้อนสีคล้ำบนสันจมูก... เลือด…อีกแล้ว รู้สึกร้อนวูบขึ้นกลางหน้าผากเหมือนเส้นเลือดจะแตกทะลุออกมาด้วยแรงบีบรัดบางอย่างที่มองไม่เห็น นางรีบเช็ดมันออกอย่างลวก ๆ ด้วยแขนเสื้อที่สกปรกอยู่แล้ว ไม่ใช่เพราะกลัวว่าจะดูไม่งามหรอก แต่เพราะไม่อยากให้เขาเห็นเธอในสภาพอ่อนแอซ้ำอีก

           "ข้าไม่กิน...หากจะกิน ก็ขอให้เป็นของข้าเองไม่ใช่เศษจากความเวทนาเจือพิษของใคร" เสียงของนางเอ่ยอย่างแผ่วเบาแต่ยังคงเด็ดเดี่ยว ทว่ากลับแผ่วลงราวกับแรงจะขาดผึง จางกงกงยืนพิงกรอบกรง ขายังคงยิ้มอย่างเย็นเยียบ เยียบเสียจนเหมือนน้ำแข็งที่ก่อรูปเป็นรอยยิ้มจำแลง ไม่ใช่จากใจ เขามองมือเธอที่ยังเปื้อนเลือด แล้วกล่าวเสียงเบาราวกับกระซิบแต่กระซิบที่เย็นจนสะท้านถึงไขสันหลัง "ข้าไม่จำเป็นต้องใส่ยาพิษลงไปหรอกนะ... เจ้าเองก็รู้อยู่แล้วมิใช่หรือว่าตอนนี้ ร่างของเจ้ามันก็คล้ายกับถูกพิษอยู่ทั้งร่าง" ดวงตาของหลินหยาพร่าไหวเล็กน้อย เธอกัดฟันจนแน่นจนได้ยินเสียงเคลื่อนไหวของกราม แต่ยังไม่ยอมถามยังไม่ยอมแพ้นางเพียงปรายตามองเขาด้วยแววที่ทั้งดื้อรั้นและหวาดระแวงในคราเดียวกัน

           แสงจากโถตะเกียงสาดผ่านชายผ้าคลุมของเขา เงาทอดทับเข้ามาในห้องขังนั้นจนเหมือนโลกเล็กแค่นั้นเหลือเพียงเขากับเธอ "หากเจ้ายินดีจะกลับมาอยู่ใต้อาณัติของข้า... ข้าอาจจะช่วยเจ้าออกไปจากที่นี่" เสียงเขานุ่ม แต่ไม่ใช่นุ่มจากความเมตตา มันคือเสียงของคนที่รู้ว่าตัวเองมีอำนาจ และกำลังเสนอเชือกเส้นเดียวให้คนที่กำลังจมน้ำ "และบางทีข้าอาจจะเมตตา... ช่วยจัดการกับพิษในร่างของเจ้าให้" เขาว่าพลางก้มลงเล็กน้อย โน้มตัวเข้าหาเธอ แม้ว่าจะอยู่ห่างกันแบบลูกกรงกั่น..แต่นางได้กลิ่นจาง ๆ จากเนื้อผ้าของเขา กลิ่นนั้นคุ้นเคย... กลิ่นจากวันคืนที่นางไม่อาจย้อนกลับไป และไม่อยากหวนคืน

           หลินหยายืดตัวขึ้นแม้ไหล่จะอ่อนแรง เธอไม่รู้ว่าตัวเองควรเกลียดหรือกลัวเขามากกว่ากัน เธอรู้แค่ว่าหัวใจในอกมันกำลังเต้นแรง รุนแรงอย่างไม่สมเหตุสมผลแต่มันคงเป็นเพราะความโกรธและโมโห "ข้าไม่ใช่ของใครทั้งนั้น" นางกล่าวเบา ๆ ก่อนจะเบือนหน้าหนีอีกครั้ง ไม่แม้แต่จะแตะชาหรือซาลาเปาที่เขานำมา

           เสียงก้าวเท้าของจางกงกงยังคงทอดสะท้อนเป็นจังหวะสม่ำเสมอในห้องขังอับชื้น เขาเดินวนอย่างผู้ที่ไม่รีบร้อน ไม่มีความลนลานสักนิด แม้จะอยู่ในที่ซึ่งกลิ่นสนิมของเหล็กกรงคลุกเคล้ากับกลิ่นหญ้าแห้งเหม็นอับ เส้นผมสีนิลของเขาถูกเกล้าไว้เรียบลื่น ดวงหน้าคมประหนึ่งสลักจากหินเย็น ตาสีนิลแฝงรอยเจ้าเล่ห์ยิ่งกว่าเสือในเงาไม้ เขามองหลินหยาที่ยังคงไม่แตะชาหรือของกินแม้แต่น้อย ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ คล้ายเอ็นดู “ข้ามาเยี่ยมเจ้า หากเจ้ามีอะไรเกิดขึ้นไป… ข้าเองก็คงไม่พ้นตกเป็นผู้ต้องสงสัย ใต้เท้าจางทังไม่ใช่คนที่ปล่อยอะไรให้คลุมเครือหรอกนะ”

           หลินหยาหัวเราะออกมาในลำคอ เสียงนั้นแหลมแต่ปิดไว้ด้วยรอยยิ้มเย็นเยียบ “ในท้ายที่สุด สิ่งที่ท่านทำ... ก็ยังคงเป็นการทำดีที่หวังผลตอบแทนอยู่ดี” นางปรายตาขึ้นมองเขา ยิ้มจาง ๆ อย่างคนที่ผ่านความเจ็บมามากพอจนไม่กลัวแม้แต่จะท้าทายอีกคน

           ราวกับรับสัญญาณที่มองไม่เห็น จางกงกงขยับตัวหันหน้าออกไปทางประตูห้องขัง กะระยะเสียงให้ลอดผ่านกำแพงบาง ๆ ไปถึงผู้คุมด้านนอก จากนั้นก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงดังกังวาน เปี่ยมด้วยความเศร้า “เด็กดี... เจ้าไม่น่าหลงผิดเลยสักนิด หนาน หลินหยา ข้าแค่อยากฉุดเจ้าขึ้นมาจากที่ต่ำต้อยนั้นจากหอคณิกาสกปรกเพื่อมอบอนาคตที่ดีให้เจ้า” น้ำเสียงโศกเศร้า หากฟังเผิน ๆ ย่อมเหมือนผู้ใหญ่ที่แสนเมตตากำลังเวทนาเด็กสาวผู้ตกต่ำ แต่หลินหยาฟังแล้วกลับกำหมัดแน่นจนข้อขาวขึ้น นางเงยหน้าช้า ๆ สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความโกรธที่คุกกรุ่นอยู่ใต้ผิวหนังจนแทบปะทุ ดวงตาหวานเฉียบที่เคยเต็มไปด้วยชีวิตชีวา บัดนี้แลดูเหมือนเปลวเพลิงที่มืดมน

           นางมองเขาเขม็ง ริมฝีปากสั่นเล็กน้อยราวกับอยากจะเอ่ยด่าให้เจ็บกว่านี้ แต่นางรู้... สิ่งใดที่พูดในตอนนี้จะถูกใช้กลับมาทำลายเธออีก จางกงกงเลิกคิ้วคล้ายตกใจในสีหน้าแสดงชัดของเธอ เขาเอ่ยเสียงเบากว่าเดิมเล็กน้อยแต่ยังดังพอจะให้ด้านนอกได้ยิน

           “อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ เสี่ยวหลิน ข้า… ข้ารู้สึกเอ็นดูเจ้ามากนะ ตั้งแต่เห็นพรสวรรค์เจ้าครั้งแรกในคืนที่เจ้าบรรเลงดนตรี ข้าไม่ได้มองเจ้าด้วยตาเปื้อนราคะเลย ข้ารู้ว่าเจ้าสามารถก้าวหน้าไปได้ไกลและข้าเพียงอยากช่วยเท่านั้นเอง” คำพูดแฝงเมตตา แต่ในโทนเสียงนั้น กลับคล้ายผู้ที่มีมือรัดปลายด้ายของเธอแน่นจนอีกฝ่ายขยับไม่ได้ เสียงของเขายังคงพร่ำพูดกับผู้คุมที่อยู่ด้านนอกมากกว่าที่พูดกับเธอจริง ๆ แต่ดวงตาเยียบเย็นของเขากลับจับจ้องเพียงเธออย่างนักล่าที่กำลังเล่นกับเหยื่อ

           หลินหยาหอบลมหายใจเบา ๆ นางไม่ตอบ…ไม่แม้แต่จะด่าหรือโต้กลับ ในแววตาเธอมีบางอย่างที่ตายไปแล้ว... แต่มันไม่ใช่ความพ่ายแพ้ มันคือความแน่วแน่แบบคนที่หากยังไม่ตาย... วันหนึ่งจะย้อนกลับมา ‘ชำระบัญชี’ อย่างแน่นอน

           จางกงกงเพียงยิ้ม เขาเห็นสิ่งนั้นในตาของเธอ และยังคงเลือกพูดต่ออย่างอ่อนโยน “เจ้าไม่กินซาลาเปาเลยหรือ? เสี่ยวหลิน ข้าอุตส่าห์เลือกร้านเจ้าชอบนะ”

           จนกระทั่งเมื่อได้ยินเช่นนั้นหลินหยาก็หัวเราะ เสียงหัวเราะในลำคอของหลินหยาเบาแต่แทงทะลุผ่านอากาศอึมครึมของคุกหลวงได้อย่างแสบสัน นางไม่ได้หัวเราะเพราะขำ หากแต่เป็นเสียงเย้ยหยันที่ฝังลึกไปถึงกระดูก ก่อนจะเอ่ยขึ้นทั้งที่ไม่เหลือบตามองอีกคน "รู้ด้วยหรือนั่น ว่าข้าชอบซาลาเปาร้านไหน… ท่านนี่ใส่ใจข้าเกินไปแล้วกระมัง?" ดวงหน้าหวานหันมามองเขาแวบหนึ่งด้วยแววตาเหยียดเย้ย ปากแดงน้อย ๆ ยิ้มเย็น "ทั้งพาข้าขังคุก ทั้งที่บอกกับปากตัวเองว่าอย่าให้เห็นหน้า… แล้วนี่อะไร ยังอุตส่าห์เดินมาเยี่ยมเยียน แม้จะเต็มไปด้วยความคิดสกปรก"

           นางโน้มตัวเล็กน้อย เอียงคอพลางกระซิบเสียงเบาทว่าคมกริบ "เจ้าหลงรักสตรีที่เพิ่งปักปิ่นไม่ถึงปีงั้นหรือ? ไอ้คนโรคจิต" คำพูดนั้นแหลมเสียจนเงียบทั้งคุกลงในทันที จางกงกงชะงักไปเล็กน้อย แต่ก็ไม่ทันจะได้ตอบอะไร นางก้มหน้าหลบแสงตะเกียงก่อนจะหัวเราะเบาอีกครั้งเหมือนจะกระซวกจิตเขาให้ลึกขึ้นกว่าเดิม คำพูดนั้นแหลมเสียจนเงียบทั้งคุกลงในทันที จางกงกงชะงักไปเล็กน้อย แต่ก็ไม่ทันจะได้ตอบอะไร นางก้มหน้าหลบแสงตะเกียงก่อนจะหัวเราะเบาอีกครั้งเหมือนจะกระซวกจิตเขาให้ลึกขึ้นกว่าเดิม

           "เจ้าพูดอะไร… ขันทีอย่างข้าจะมีความรักได้อย่างไรกัน?" เขากล่าวเสียงนุ่ม ลมหายใจแทบไม่สะเทือนอากาศ "ข้าแค่ทำหน้าที่ของข้าด้วยความภักดีต่อฮ่องเต้ คัดสรรผู้มีพรสวรรค์เข้าสู่วัง เพื่อให้แว่นแคว้นเจริญรุ่งเรือง… ข้าเพียงอยากช่วยเด็กยากไร้ที่มีความสามารถได้ฉายแวว… ไม่ต่างอะไรจากหมอที่ช่วยคนเจ็บ เจ้าเข้าใจผิดเสียแล้ว เสี่ยวหลิน" เขากล่าวก่อนจะแสร้งชำเลืองไปทางซี่กรงเหล็ก บีบน้ำตาปลอม ๆ ขึ้นมาอย่างแยบยล แล้วทำท่าปาดด้วยปลายนิ้ว

          "ข้าเศร้าใจยิ่งนัก"

           หลินหยาเบ้ปากทันที นางกลอกตาสุดวงจนแทบหงายหลัง แรงขยับศีรษะทำให้ผมสั้นตรงระต้นคอของนางนั้นระแกะระกะไปด้านหนึ่ง แต่ดวงตาของเธอคมกริบราวกับมีดที่ฝนจนแหลมที่สุดในโรงฆ่าสัตว์ "ก็จริง… คนอย่างท่านมันรักใครไม่เป็น รักเป็นอย่างเดียวก็คือตัวเองนั่นแหละ" น้ำเสียงนางไม่ดัง ไม่ดุดัน แต่เฉือนคมทุกคำ "ข้าเคยคิดว่าคนอย่างท่านน่าสงสารนัก แต่ตอนนี้ข้าเห็นชัดแล้ว...ท่านแค่น่าขยะแขยง" จากนั้นนางก็หันหน้าหนีเขาไปอีกด้าน พลางทำปากยู่ ๆ อย่างไม่อยากมองอีกคนแม้แต่น้อย ดวงหน้าเธอหงิกงอราวกับกินผลไม้อาบน้ำส้มสายชู และที่สำคัญนางยังทำท่าเอาผ้าห่มมาคลุมหัวคล้ายจะปิดโลกไม่รับรู้ทุกสิ่งอีกด้วย

           จางกงกงยังคงยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ริมฝีปากคลี่ยิ้มบาง ๆ ไม่มีคำพูดใดหลุดออกมาอีก เขาแค่จ้องไปยังเงาหลังของนางที่หันหนีด้วยดวงตาเงียบสงบ เย็นเยียบ… และไม่แสดงออกว่าเขากำลังรู้สึกอะไร ไม่โกรธ ไม่โมโห ไม่ตื่นเต้น แต่เขาจดจำทุกถ้อยคำได้แม่นยิ่งกว่าอักษรในพระราชโองการ

           "ข้ารักไม่เป็น? ...เสี่ยวหลิน เจ้าไม่เข้าใจเลยจริง ๆ"

           แล้วเขาก็หันหลังกลับ เดินจากไปเหมือนทุกก้าวไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทว่าทุกย่างเท้าที่เหยียบบนพื้นอิฐเย็นเฉียบ กลับเหมือนทิ้งรอยแผลเป็นไว้ในความเงียบอย่างไม่มีวันจาง




@Admin


พรสวรรค์: ลาภลอย (ไม้)
มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่
อื่น ๆ: ได้ของกิน ฮึ เพราะเป็นของกินหรอกนะ

รางวัล: +5 ความสัมพันธ์สนทนาทั่วไป [NPC-11] จางกงกง
หัวดี โบนัสเพิ่มความโปรดปราน+20
โบนัส ความสัมพันธ์พิเศษ (VIP) กับ NPC +10 แต้ม
โบนัส ความโปรดปราน NPC เผ่ามนุษย์ (ผู้มีบุญ) +20 แต้ม

อัพพรสวรรค์จาก ผู้มีบุญ (น้ำเงิน) (+10) เป็น คนดวงแข็ง (ม่วง)(+15)
เงื่อนไขพัฒนาคลาส:
- Level 30 เป็นต้นไป
- สเตตัส LUK 30 ขึ้นไป
- อัปเกรด ผู้มีบุญ ถึงระดับ 10 (ใช้หินอัปเกรด)
- สร้างความสัมพันธ์กับ NPC หัวใจ 4 ดวง อย่างน้อย 4 คน
(หลิวอัน - เถียนเฟิง - เว่ยชิง - จางทัง)




แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-11] จางกงกง เพิ่มขึ้น 55 โพสต์ 2025-6-27 17:13
โพสต์ 31212 ไบต์และได้รับ 24 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-6-27 16:09
โพสต์ 31,212 ไบต์และได้รับ +10 EXP +25 คุณธรรม +20 ความโหด จาก กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)  โพสต์ 2025-6-27 16:09
โพสต์ 31,212 ไบต์และได้รับ +5 EXP +15 คุณธรรม +8 ความโหด จาก ผู้มีบุญ  โพสต์ 2025-6-27 16:09
โพสต์ 31,212 ไบต์และได้รับ +10 คุณธรรม จาก ทักษะนักดนตรีข้างถนน  โพสต์ 2025-6-27 16:09
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ชุดทิวาเมฆาล่อง
รองเท้าหยุนเวย
โล่ไม้
วาสนาเซียน
ด้ายแดงแห่งโชคชะตา
แหวนดาราจรัส(D2)
ตำราอาหารลับของเสี่ยวจ้าวจื่อ
ยอดคีตศิลป์
ปราณกระเรียนขาว(ไม้)
ขลุ่ยพันธะในเงาศาลา
เกราะทองเทวะ
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x3
x16
x16
x16
x1
x49
x5
x27
x3
x10
x10
x2
x2
x3
x114
x5
x6
x6
x5
x7
x4
x6
x4
x21
x3
x159
x40
x41
x1
x5
x34
x11
x246
x1
x1
x1
x145
x5
x7
x66
x20
x6
x93
x149
x5
x209
x5
x50
x5
x85
x6
x208
x68
x75
x81
x4
x105
x5
x8
x4
x4
x14
x16
x9
x15
x69
x1
x1
x53
x55
x47
x16
x140
x10
x11
x11
x36
x9
x10
x4
x16
x60
x55
x2
x1
x104
x64
x9
x11
x215
x55
x28
x70
x78
x49
x5
x3
x128
x12
x10
x11
x5
x3
x3
x9
x5
x11
x3
x1
x6
x14
x10
x137
x109
x21
x11
x14
x48
x3
x1
x7
โพสต์ 2025-6-27 18:12:39 | ดูโพสต์ทั้งหมด


วันที่ 27 เดือน 5 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11
ยามซื่อ เวลา 09.00 - 11.00 น. ณ ถนนสิบลี้ คุกหลวงห้องขังหมายเลขหนึ่ง


           หลินหยานั่งหน้างออยู่บนเบาะผ้าที่เพิ่งปูไว้ไม่นานนักในห้องขังอับชื้น เส้นผมหลุดรุ่ยแนบแก้มขาว ผิวซีด ๆ ที่ยังไม่ทันดีขึ้นหลังถูกพิษก็ยิ่งดูหม่นหมองลงกว่าเดิมเมื่อประกายตาอันเจ็บปวดสะท้อนอยู่ในดวงตา นางทอดสายตามองซาลาเปาในจานไม้ไผ่ หมั่นโถวร้อน ๆ คู่กับผักเขียวหมูเค็มที่ดูดีเกินกว่ามาตรฐานคุกหลวงทั่วไป แล้วเลื่อนสายตาไปหยุดอยู่ที่ถ้วยชาเงียบ ๆ ขอบถ้วยบางเรียบ ใบชาภายในยังลอยวนเบา ๆ ในของเหลวสีอ่อนใส เมื่อไอน้ำระเหยแตะจมูก ความขมจาง ๆ และกลิ่นอ่อนละมุนของ ‘ชาขาวเข็มเงิน’ ก็ทำให้นางนึกออกทันที

           "ชาขาวเข็มเงิน…" เสียงพึมพำนั้นเบายิ่งกว่าลมหายใจ นางรู้สรรพคุณของมันดี ชานี้ช่วยขับร้อน บรรเทาอาการไข้ และสามารถช่วยชะลอพิษที่แทรกซึมในเส้นเลือดได้ หากผู้ดื่มยังมีลมหายใจพอเหลือ ริมฝีปากนุ่มขยับเล็กน้อย แล้วพ่นลมหายใจออกมาเงียบ ๆ ราวกับไม่อยากให้อากาศโดยรอบรับรู้ความรู้สึกของตนเอง “ให้มาเพราะหวังให้ข้าหายดี แล้วใช้เป็นข้ออ้างว่ามาเยี่ยมเยียนอย่างมีเมตตา…” เธอครุ่นคิดพลางมองถ้วยชาราวกับมันคือคำถามที่ไม่มีใครตอบได้

           จางกงกงเข้ามาได้เพราะได้รับอนุญาตแน่นอน ใต้เท้าจางทังต้องเป็นคนออกปากให้ หลินหยานั้นเงยหน้ามองเพดานหินเปลือยที่เย็นเฉียบ “ใต้เท้าจางทัง ท่านคิดอะไรของท่านอยู่กันแน่” ..นางกระซิบเบา ดวงตาของตนเองเหม่อลอยระคนสับสนยิ่งนัก ไม่ว่าจะจางกงกง หรือใต้เท้าจางทัง ทั้งสองคนต่างก็ทำให้เธอไม่เข้าใจ

           จางกงกง…นางอาจเคยเข้าใจเขาบ้างก็จริงแต่ก็คิดเองเออเองมาตลอด รู้ดีว่าเขาเป็นคนประเภทไหน ใช้เล่ห์กลเป็นอาวุธและความเย็นชาปกคลุมความรู้สึก แต่ตอนนี้…นางไม่แน่ใจเลยว่าเข้าใจเขาจริงหรือไม่ หรือบางที…ไม่เคยเลยตั้งแต่ต้น

           ใต้เท้าจางทัง…คนผู้นั้นแววตาดูเหมือนมองผ่านทะลุผู้คน แต่กลับไม่เคยเปิดเผยความรู้สึกให้ใครได้เห็น ทั้งที่เป็นผู้พิพากษา แต่คำตัดสินของเขากลับดูคล้ายไม่เคยยุติธรรมกับหัวใจใครเลย..นางให้สงสัยเรื่องที่เขาจะให้นางหนี..เหมือนราวเขาอยากจะทดสอบนางมากกว่าว่าพอมีค่าให้คบเป็นสหายต่อไปได้หรือไม่งั้นหรือ?..

           แม้แต่ตัวเอง..นางยังไม่เข้าใจตัวเองเลย "ข้าก็ไม่เข้าใจตัวเองด้วยเหมือนกัน…" พูดออกมาเบา ๆ ด้วยเสียงที่แม้ไม่มีใครได้ยิน แต่สะท้อนก้องอยู่ในอกตัวเองดังที่สุด ราวกับคำพูดเหล่านั้นคือประโยคเดียวในโลกที่ยังยอมให้เธอรู้สึกถึงความเป็นคนแม้จะอยู่ในคุกหลวงมืดมิด ใต้เงาของความเจ็บปวดทั้งหมด บ้าบอที่สุด…ใช่..มันบ้าบอที่สุดเลยล่ะ

           หลินหยาเบะปาก กรอกตาจนแทบจะได้ยินเสียงกระพือในหัวตัวเอง ก่อนจะทิ้งตัวลงบนเบาะผ้านุ่มนิ่มที่ไม่รู้ว่าใครหน้าด้านเอามาให้แต่ก็ไม่ได้ขัดขืน เพราะมันนุ่มกว่าหินพื้นคุกเย็นเฉียบเป็นไหน ๆ เธอซุกตัวลงคลุมผ้าบาง ๆ ไว้ถึงไหล่ หน้างอนิด ๆ มุมปากตกจนดูเหมือนลูกแมวหงุดหงิด เธอไม่ได้ปวดประจำเดือน ไม่ถึงขั้นต้องขดตัวดิ้นพราดกับอาการจุกเสียด...แต่เจ้าวันพวกนี้มันก็ใช่ว่าจะดี ร่างกายมันก็เหมือนเครื่องเรือนที่โดนตากแดดแรง ๆ แค่ลมปะทะเบา ๆ ก็แทบหงุดหงิดได้ทั้งวัน ทั้งร้อน ทั้งเหนื่อย ทั้งรู้สึกเหมือนเหงื่อจะซึมออกมาจากหลัง แม้จะไม่มีลมร้อนอยู่ตรงนั้นก็ตาม และไอ้ความหิวบ่อยนี่อีก กินไปเมื่อเช้าแท้ ๆ แต่ไส้ก็เริ่มส่งเสียงครางเบา ๆ เหมือนประท้วงความว่างเปล่าของตัวมันเองซะแล้ว

          "บ้าบอ...เป็นอะไรนักหนา" นางพึมพำอย่างไม่พอใจตัวเอง เสียงงอแงแบบเด็กสาวติดพ่อแม่ที่ไม่ได้ขนม สุดท้ายตัวเองก็ยื่นมือไปคว้ากล่องไม้ไผ่ที่บรรจุซาลาเปา 5 ลูกนั้น ของขวัญปนเจตนาแปลกประหลาดจากจางกงกง แล้วก็ดึงมันมากอดไว้แนบอกอย่างเอาเรื่อง แต่ไม่ถึงห้าวิ ก็ดึงฝาออก ซาลาเปาขาวนวลไส้แน่นอบอุ่นยังคงมีไอร้อนกรุ่น เธอคว้ามาหนึ่งลูกกัดทันทีแบบไม่รอให้สมองคิด

           “ง่ำ…” เสียงเคี้ยวแก้มตุ่ยเหมือนสัตว์ตัวเล็กที่โกรธโลกไปวัน ๆ นางเคี้ยวไปเรื่อยอย่างดื้อ ๆ แก้มพองข้างละป้านเหมือนเด็กหญิงขี้หงุดหงิด…ง่ำ…ง่ำ…พอกินซาลาเปาลูกที่สองเสร็จ ก็มีความรู้สึกบางอย่างโผล่ขึ้นมา…คือซาลาเปาอร่อยแหละ แต่รำคาญใจมากเลยที่มันอร่อยน่ะสิ!! "ข้าจะโกรธเขา…ไม่ใช่ให้ข้าโกรธแบบอิ่มท้องนี่!" เธอแอบฟึดฟัดในใจ แต่นางก็ยื่นมือไปคว้าลูกที่สามอยู่ดีอย่างกับว่าอีกครึ่งนึงของตัวเองเป็นฝ่ายชนะในศึกนี้ แม้จะรู้ดีว่ามันไม่ใช่ก็ตาม

           ร่างเล็กซุกอยู่บนผ้าอุ่น กลิ่นขนมปนกลิ่นชาขาวอ่อน ๆ ลอยในอากาศ และในหัวก็ว้าวุ่นกับทุกสิ่งรอบตัวจนไม่มีแรงจะสาปใครให้ตกนรกเหมือนเคย สุดท้ายเธอก็แค่…งอแงกับตัวเอง งอแงกับชะตากรรม และงอแงกับความรู้สึกที่เธอเองก็คุมไม่อยู่แล้ว ฮือออ งอแงง่ะ…ชีวิตมันก็แค่นี้แหละตอนนี้



@Admin

พรสวรรค์: ลาภลอย (ไม้)
มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่
อื่น ๆ: -
รางวัล: -


แสดงความคิดเห็น

อาหารคุกคงไม่ดีนัก เจ้าก็ทานนี่ล่ะกัน ข้าใส่ห่อมาจากโรงเตี๊ยม  โพสต์ 2025-6-27 18:20
เถียนเฟิงยกพัดขนนกขึ้นพัด "วันก่อนมิใช่ว่าเจ้าเข้าวังไปแล้วมิใช่หรือเหตุใดมาอยู่ในสถานที่เช่นนี้ได้" ข้าพยายามพูดเตือนเจ้าเป็นนัยๆแล้ว  โพสต์ 2025-6-27 18:20
เถียนเฟิงหิ้วข้าวกล่องมาเยี่ยมคุณ  โพสต์ 2025-6-27 18:19
โพสต์ 13085 ไบต์และได้รับ 8 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-6-27 18:12
โพสต์ 13,085 ไบต์และได้รับ +4 คุณธรรม +2 ความโหด จาก คนดวงแข็ง  โพสต์ 2025-6-27 18:12
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ชุดทิวาเมฆาล่อง
รองเท้าหยุนเวย
โล่ไม้
วาสนาเซียน
ด้ายแดงแห่งโชคชะตา
แหวนดาราจรัส(D2)
ตำราอาหารลับของเสี่ยวจ้าวจื่อ
ยอดคีตศิลป์
ปราณกระเรียนขาว(ไม้)
ขลุ่ยพันธะในเงาศาลา
เกราะทองเทวะ
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x3
x16
x16
x16
x1
x49
x5
x27
x3
x10
x10
x2
x2
x3
x114
x5
x6
x6
x5
x7
x4
x6
x4
x21
x3
x159
x40
x41
x1
x5
x34
x11
x246
x1
x1
x1
x145
x5
x7
x66
x20
x6
x93
x149
x5
x209
x5
x50
x5
x85
x6
x208
x68
x75
x81
x4
x105
x5
x8
x4
x4
x14
x16
x9
x15
x69
x1
x1
x53
x55
x47
x16
x140
x10
x11
x11
x36
x9
x10
x4
x16
x60
x55
x2
x1
x104
x64
x9
x11
x215
x55
x28
x70
x78
x49
x5
x3
x128
x12
x10
x11
x5
x3
x3
x9
x5
x11
x3
x1
x6
x14
x10
x137
x109
x21
x11
x14
x48
x3
x1
x7
โพสต์ 2025-6-27 18:49:41 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ 27 เดือน 5 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11
ยามอู่ เวลา 11.00 - 13.00 น. ณ ถนนสิบลี้ คุกหลวงห้องขังหมายเลขหนึ่ง


          ภายในคุกหลวงเงียบสงัด แสงอาทิตย์ยามอู่ส่องลอดผ่านซี่เหล็กลงมากระทบผืนดิน เผยให้เห็นร่างบางของหญิงสาวคนหนึ่งนอนแผ่หราอยู่บนเบาะนอนหนานุ่มผิดวิสัยนักโทษทั่วไป หน้าท้องนูนขึ้นเล็กน้อยจากซาลาเปาห้าลูกที่เจ้าตัวซัดเข้าไปอย่างไม่ยั้งมือ นางดูอิ่มหนำมากเสียจนนอนขดตัวเหมือนแมวหลังอิ่มมื้อใหญ่ พุงป่องเล็ก ๆ ดันผ้าฝ้ายที่พันตัวไว้ขึ้นมาราวกับแสดงความภาคภูมิใจในความสามารถการบริโภคของตนเอง

          เส้นผมของหลินหยาที่สั้นระบ่าปลายเส้นถูกรวบเก็บลวก ๆ ด้วยเชือกผ้าเก่า ๆ ของผู้คุม ดวงตากลมโตยามนี้กลับปรือลงด้วยความง่วง แต่อารมณ์ดูผ่อนคลายเกินกว่าใครจะคิดว่านี่คือผู้ต้องหาคดีร้ายแรง กระทั่งเสียงฝีเท้าแผ่วเบาและกลิ่นหอมบางของเป็ดปักกิ่งอบด้วยฟืนไม้ผลแตะปลายจมูกของนางเข้า…

          หลินหยาลืมตาขึ้นช้า ๆ มองผ่านเส้นผมตัวเองไปยังประตูเหล็กของคุก ก่อนจะเห็นร่างสูงในชุดขุนนางตัดสีเข้มสอดแทรกด้วยลวดลายคลื่นเมฆขลิบเงิน เถียนเฟิงยืนอยู่ตรงนั้น มือข้างหนึ่งถือพัดขนนกอย่างสง่างาม อีกข้างหิ้วกล่องข้าวไม้ไผ่ทรงสี่เหลี่ยมประณีต สีหน้าเรียบนิ่งของเขายังคงไม่เปลี่ยน ราวกับเขามาเยี่ยมผู้ป่วยไม่ใช่นักโทษ “วันก่อนมิใช่ว่าเจ้าเข้าวังไปแล้วมิใช่หรือ เหตุใดมาอยู่ในสถานที่เช่นนี้ได้ ข้าพยายามพูดเตือนเจ้าเป็นนัย ๆ แล้ว”

          น้ำเสียงของเขานั้นสงบ ทว่าทิ่มแทงไม่ต่างจากเข็มที่สอดแทรกลงกลางอก หลินหยาขยับลุกขึ้นนั่งอย่างเกียจคร้าน มือข้างหนึ่งลูบท้องตัวเองเบา ๆ ก่อนจะยิ้มแหย ๆ ส่งให้ “ท่านก็รู้..ว่าข้าโง่กับดื้อขนาดไหน”

          เถียนเฟิงขยับพัดในมือเบา ๆ สีหน้ามิได้เปลี่ยน แต่ดวงตาใต้เงาพัดกลับจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยสายตาที่เหมือนกำลังคำนวณ...ความสามารถในการเอาชีวิตรอดของนางนั้นเกินคาดเสมอ เขาเงียบไปครู่ ก่อนจะกล่าวขึ้นเสียงต่ำ “ข้าไม่ถามหรอกว่าเจ้าทำอะไรไปบ้าง เพราะเจ้าคงไม่บอกข้าอยู่ดี” เขาวางกล่องข้าวลงบนโต๊ะเล็ก ๆ ใกล้ลูกกรง “แต่จงจำไว้ว่าในวัง...ไม่มีใครใจดีหรอกแม้แต่ครึ่งคำ คนที่ใจดี...อาจเป็นหมากที่อยู่เบื้องหลังฉาก”

          "ท่านคิดผิดเจ้าค่ะ…ข้าจะเล่าให้ฟัง" ร่างบางขยับกายเล็กน้อย พลางยกมือขวาที่พันผ้าไว้ขึ้นวางไว้บนตัก เธอมองเขาอย่างตรงไปตรงมา ดวงตาในยามนี้แม้ยังล้า แต่กลับมีประกายแวววาวน่าประหลาดคล้ายหญิงสาวผู้เพิ่งพบทางออกในหุบเขาที่มืดมิดมาเนิ่นนาน และแม้จะยังบาดเจ็บอยู่ ก็ยังยิ้มได้เช่นเดิม "ข้าโดนคดีเพราะซัดหน้าจางกงกงไปห้าหมัดเจ้าค่ะ ด้วยมือนี้นี่แหละ ยังไม่รวมตบหน้าหนึ่งครั้งกับถีบเข่าอีกครั้งหนึ่ง"

          เถียนเฟิงไม่ตอบในทันที พัดขนนกในมือลดลงเล็กน้อยก่อนเขาจะขยับปลายนิ้วช้า ๆ ดวงตาสีดำเข้มสบสายตานางอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยออกมาเรียบ ๆ "เจ้าบ้าหรือกล้าหาญกันแน่...บางทีก็ยากแยกออก" เสียงของเขานั้นราบเรียบ แต่ลึกลงในชั้นเสียงนั้น…เหมือนซ่อนความพึงพอใจเล็กน้อยไม่มิด และหากฟังให้ดีอีกหน่อย คงพบคำหนึ่งซ่อนอยู่ระหว่างบรรทัด ‘ประทับใจ’

          "...เจ้ารอดมาได้โดยไม่ถูกสังหารทันที ถือว่าเหนือความคาดหมายของข้ามาก" ใบหน้าเขาเรียบสงบ แต่สายตาคู่นั้นกลับทาบทอลึกลงไปในหัวใจหญิงสาว และหลินหยาก็เห็นสายตานั้นด้วยเช่นเดียวกัน..นางจ้องมองเขา..ก่อนที่จะเริ่มเอ่ยคำหนึ่งออกมา

          "ตอนที่ข้ามืดแปดด้านในวัง..." เธอเริ่มช้า ๆ ดวงตาคู่นั้นยังทอดมองเขา "...ข้าคิดถึงหน้าของใต้เท้าเถียนเฟิงด้วย" เมื่อหลินหยาเอ่ยคำพูดนั้นขึ้นมา รอยยิ้มน้อย ๆ ปรากฏบนริมฝีปากนางไม่ต่างจากเคย ยามที่สายตาเธอหยุดอยู่บนเขา ไม่ได้เต็มไปด้วยความคาดหวัง ไม่ได้ร้องขอความช่วยเหลือ หากแต่เปี่ยมไปด้วยความรู้สึกบางอย่างที่เรียบง่ายเสียจนดูอันตราย...เพราะมันซื่อ หญิงสาวยกยิ้มเล็กน้อย "มันน่าขำใช่ไหม? ท่านน่ะเป็นคนที่เอาแต่ใช้งานข้า เอาแต่พูดแทงใจ เอาแต่ทำให้ข้าไม่รู้ว่าจะวางตัวอย่างไร...กลับกลายเป็นคนที่แค่ชื่อก็ทำให้ข้ารู้สึกดี" เสียงหัวเราะเบา ๆ ของหลินหยาดังขึ้นในคุกนั้น เธอไม่พูดประชด ไม่ร้องขอ ไม่แม้แต่จะหวังให้เขาตอบกลับ นางเพียงแค่...พูด

          เถียนเฟิงไม่พูดอะไรในทันที สายตาเขาเคลื่อนไปหยุดตรงมือน้อย ๆ ที่ยังมีรอยแผลพันอยู่ ความเงียบคืบคลานรอบตัวแต่มันไม่ใช่ความเงียบอึดอัด หากแต่เป็นความเงียบที่ลึก...และมีคำถาม เถียนเฟิงไม่พูดอะไรในทันที สายตาเขาเคลื่อนไปหยุดตรงมือน้อย ๆ ที่ยังมีรอยแผลพันอยู่ ความเงียบคืบคลานรอบตัวแต่มันไม่ใช่ความเงียบอึดอัด หากแต่เป็นความเงียบที่ลึก...และมีคำถาม

          "เจ้ากำลังจะถูกไต่สวน เจ้าอาจถูกตัดสินโดนโบย หรือ...แย่กว่านั้น แต่ถึงกระนั้น...หากแม้แต่ชื่อของข้ายังทำให้เจ้าไม่รู้สึกเดียวดาย เช่นนั้นข้าจะไม่ปล่อยให้มันสูญเปล่า" เขาเอ่ยเพียงเท่านั้น ก่อนจะหันหลังเดินจากไปโดยไม่รอให้นางตอบ ดั่งคนที่รู้ดีว่าคำตอบของเรื่องบางเรื่อง…ไม่อาจใช้ถ้อยคำใดเอ่ยได้

          หลินหยาย่อตัวลงแล้วเปิดกล่องดู ภายในคือกลิ่นหอมฉุนของหนังเป็ดกรอบสีน้ำตาลทองฉ่ำมันที่ถูกจัดอย่างประณีตบรรจง รอยผ่าบนเนื้อเป็ดเผยให้เห็นการย่างด้วยไฟพอเหมาะ น้ำมันจากชั้นไขมันบาง ๆ ซึมลงไปในข้าวหุงร้อนที่รองอยู่ด้านล่าง...กลิ่นยั่วเย้ายิ่งกว่าอาหารใดที่นางเคยได้สัมผัสในคุกแห่งนี้ "เหอะ สมเป็นท่านจริง ๆ …" นางพึมพำกับตัวเองขณะหลุบตามองกล่องอาหารแสนหรูอย่างครุ่นคิด ใต้เท้าเถียนเฟิงผู้นั้น...เอาของเช่นนี้มาให้ ไม่พูด ไม่สั่ง ไม่อธิบายแม้แต่ครึ่งคำ ยิ่งเหมือนย้ำชัดว่าเขาเป็นคนที่ไม่มีวันเข้าใจได้ง่าย

          หลินหยาเดินกลับไปยังเบาะนุ่ม ๆ ที่ใครสักคนส่งมาให้ ยังไม่รู้ว่าใครกันแน่ แต่นางก็เริ่มเลิกตั้งคำถามเสียแล้วในเมื่อทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวังนี้ ดูเหมือนจะไม่มีอะไรที่เรียบง่ายอย่างที่ควรจะเป็น



@Admin

พรสวรรค์: ลาภลอย (ไม้)
มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่
อื่น ๆ: -

รางวัล: +5 ความสัมพันธ์สนทนาทั่วไป [NPC-08] เถียน เฟิง
หัวดี โบนัสเพิ่มความโปรดปราน+20
โบนัส ความสัมพันธ์พิเศษ (VIP) กับ NPC +10 แต้ม
โบนัส ความโปรดปราน NPC เผ่ามนุษย์ (ผู้มีบุญ) +20 แต้ม



แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-08] เถียน เฟิง เพิ่มขึ้น 55 โพสต์ 2025-6-27 19:53
แม่นางแม้ข้าไม่รู้ว่าท่านมาที่นี่เพราะเหตุอันใด แต่ที่นี่เจ้าคงจะหดหู่ใจ หากเจ้าอยากผ่อนคลายก็มาบรรเลงดนตรีเถอะ  โพสต์ 2025-6-27 19:35
เว่ยชิงมาเยี่ยมเยียน เขานำเครื่องดนตรีมาให้ ก่อนบอกทหารเปิดประตู ทหารทำตามและปิดประตู เว่ยชิงวางเครื่องดนตรีลง   โพสต์ 2025-6-27 19:34
โพสต์ 16588 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-6-27 18:49
โพสต์ 16,588 ไบต์และได้รับ +3 EXP +6 คุณธรรม +5 ความโหด จาก คนดวงแข็ง  โพสต์ 2025-6-27 18:49
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ชุดทิวาเมฆาล่อง
รองเท้าหยุนเวย
โล่ไม้
วาสนาเซียน
ด้ายแดงแห่งโชคชะตา
แหวนดาราจรัส(D2)
ตำราอาหารลับของเสี่ยวจ้าวจื่อ
ยอดคีตศิลป์
ปราณกระเรียนขาว(ไม้)
ขลุ่ยพันธะในเงาศาลา
เกราะทองเทวะ
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x3
x16
x16
x16
x1
x49
x5
x27
x3
x10
x10
x2
x2
x3
x114
x5
x6
x6
x5
x7
x4
x6
x4
x21
x3
x159
x40
x41
x1
x5
x34
x11
x246
x1
x1
x1
x145
x5
x7
x66
x20
x6
x93
x149
x5
x209
x5
x50
x5
x85
x6
x208
x68
x75
x81
x4
x105
x5
x8
x4
x4
x14
x16
x9
x15
x69
x1
x1
x53
x55
x47
x16
x140
x10
x11
x11
x36
x9
x10
x4
x16
x60
x55
x2
x1
x104
x64
x9
x11
x215
x55
x28
x70
x78
x49
x5
x3
x128
x12
x10
x11
x5
x3
x3
x9
x5
x11
x3
x1
x6
x14
x10
x137
x109
x21
x11
x14
x48
x3
x1
x7
โพสต์ 2025-6-27 20:22:12 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ 27 เดือน 5 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11
ยามเว่ย เวลา 13.00 - 15.00 น. ณ ถนนสิบลี้ คุกหลวงห้องขังหมายเลขหนึ่ง


            ในห้องขังลึกของคุกหลวง หญิงสาวผู้หนึ่งกลับไม่อาจได้หลับอย่างที่ควรจะเป็น เสียงรองเท้าหนังทหารกระทบหินดังแผ่วในทางเดินหินแคบ เสียงเหล็กขูดกับลูกกรงสลับกับเสียงสนทนาเบา ๆ ของยามหลวงที่ควบคุมความเงียบไม่อยู่ และก่อนที่หลินหยาจะรู้ตัว… "กรึบ" เสียงเปิดบานประตูเหล็กเล็กน้อย เสียงฝีเท้าชายคนหนึ่งเดินตรงเข้ามาหยุดหน้าเรือนขังอย่างเงียบงัน หลินหยาในสภาพหัวฟู ตากลอกเบลอเพราะเพิ่งสะลึมสะลือจากความฝัน ห่มผ้าหยาบอยู่บนฟูกที่นุ่มกว่าคนอื่นอย่างผิดวิสัยขยับตัวพลางขมวดคิ้วช้า ๆ …ก็ในคุกมันไม่มีอะไรให้ทำนอกจากกินกับนอนง่ะ..ยิ่งเป็นประจำเดือนมันยิ่งต้องนอนปะล่ะ

            นางยังงัวเงียอยู่ มือหนึ่งขยี้ตา ริมฝีปากพึมพำงึมงำว่า “อะ...หืม ใครอีกล่ะ...จะขุนอาหารข้าหรือไง..งึม ๆ อิ่มแล้ว” และเมื่อลืมตาเต็มที่ภาพที่อยู่ตรงหน้า ทำให้สมองที่มึนเบลอของหล่อนถึงกับกระตุกเหมือนคนเพิ่งถูกสะกิดด้วยน้ำเย็น…

            ท่านชายเว่ยจ้งชิง..มาได้ยังไงน่ะ?

            เขายืนอยู่เงียบ ๆ หน้าห้องขัง ดวงตาเรียวยาวใต้คิ้วเข้มสะท้อนแสงไฟจากคบเพลิงที่สั่นไหว หลังเขา แววตานั้นไม่เปลี่ยนจากที่นางจำได้อบอุ่น สงบ และอ่อนโยน แต่คราวนี้...มีอะไรบางอย่างที่เพิ่มขึ้นมาในแววตานั้น…มันคือความห่วงใย..ในมือของเขาไม่ใช่ดาบแต่เป็น ขลุ่ยไม้ไผ่เลาหนึ่ง

            เว่ยชิงไม่พูด ไม่เร่ง เพียงแค่สบตากับเธอที่ยังมึนงงราวกับไม่แน่ใจว่าฝันอยู่หรือไม่ ก่อนที่เขาจะหันไปบอกทหารข้างตัวด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “เปิด”

            หลินหยาเบิกตากว้างเล็กน้อยหัวใจเต้นวูบในอก เธอมองหน้าเขา มองประตูเหล็ก มองยามจากประสบการณ์ทั้งหมดของนาง ไม่มีนักโทษคนไหนที่ประตูจะเปิดเพราะคำสั่งเพียงคำเดียวจากชายคนหนึ่งที่ไม่ได้ใส่ชุดราชการ ไม่ได้แสดงยศ ไม่แม้แต่จะพูดว่า ข้าคือใคร ..รู้เพียงเขาต้องได้รับอนุญาตจากท่านจางทังทำให้มาหานางได้แน่ ๆ

            แต่ประตู...มันก็เปิด บานเหล็กสึกหรอที่ควรจะแข็งกว่าคำสัญญาใด ๆ กลับเปิดออกในเสียงโลหะเสียดกันเหมือนโลกนี้มีกุญแจเพียงดอกเดียว ที่อยู่ในมือเขา หลินหยาขมวดคิ้วน้อย ๆ ลุกขึ้นช้า ๆ แล้วเอียงศีรษะ “ท่าน...ไปหลอกทหารได้ยังไงเนี่ย...ใต้เท้าจางทังมองแรงท่านแล้วมั้งตอนท่านขอมาเจอข้า” น้ำเสียงนางยังงัวเงียแต่มีรอยล้อเลียนประปราย

            เว่ยชิงยิ้มนิด ๆ ดวงตาเขามองนางแบบเดิมอย่างคนที่จำทุกแววตา รอยยิ้ม น้ำเสียงของเธอได้แม่นยำยิ่งกว่าทหารจำแผนที่สนามรบเขาไม่ได้ตอบคำถามแต่ยื่นขลุ่ยนั้นให้เธอโดยตรง หลินหยารับขลุ่ยมาเงียบ ๆ ปลายนิ้วยังแตะไม่มั่นคงนัก เธอมองมันแล้วเงยหน้าขึ้นสบตาเขา "...จริง ๆ ท่านไม่ต้องลำบากขนาดนี้ก็ได้" เสียงเธออ่อนลงนิดหนึ่ง

            “ไม่ใช่เรื่องลำบากอะไร หากเป็นแม่นางที่ข้าต้องมาหาถึงคุกหลวง..ข้าก็จะมา” คำพูดนั้นไม่ได้ดัง แต่ทิ้งน้ำหนักลงลึกกว่าเหล็กทั้งคุก หลินหยาเม้มปากเบา ๆ ไม่รู้จะตอบอะไรดีในชั่วขณะนั้น

            “ถ้าข้ารู้มาก่อนว่าท่านเป็นคนแบบนี้..ข้าคงให้เหล้าไปสองไหแล้วเจ้าค่ะ..” เหมือนนางพูเพื่อแก้เก้อเหลือบมองดนตรีในมือของตนเอง..เอาสอดเข้ามาด้านในก็ได้..แต่กลับเอามายื่นให้ด้วยมือตัวเองเช่นนั้นหรือ..น่าขำนัก.. ไฟคบในคุกหลวงลุกสลัว สะท้อนเงาบนผนังหินที่เย็นชื้นเหมือนห้วงเวลายาวไม่รู้จบ แต่ในเงาสลัวนั้น ดวงตาของเว่ยชิงกลับยังคงมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างแน่วแน่ ใบหน้าของเขาไม่ได้แสดงความแปลกใจ ไม่ได้เอ่ยถาม ไม่ได้เร่งรัดให้หล่อนเล่าเหตุใดถึงตกอยู่ที่นี่

            ไม่มีคำถามว่า ‘เหตุใดเจ้าถึงโดนขัง?’ ไม่มีความสงสัยว่า ‘เจ้าทำผิดสิ่งใด?’ มีเพียงสายตา...ที่รับฟังอยู่เสมอ แม้ไม่มีคำพูดจากอีกฝ่าย เมื่อเขายื่นขลุ่ยให้เธอเว่ยชิงยังคงยืนนิ่งและเอ่ยเสียงเรียบ เสียงทุ้มต่ำของเขากระทบความเงียบในคุกหลวงเหมือนหยดน้ำกระทบผิวน้ำ “แม่นาง แม้ข้าไม่รู้ว่าทำไมเจ้ามาที่นี่เพราะเหตุอันใด..แต่ข้ารู้ว่าสถานที่เช่นนี้คงหดหู่ใจนัก..หากแม่นางต้องการผ่อนคลาย..จงบรรเลงเถิด” ถ้อยคำไม่มีความสงสาร มีเพียงความเมตตาสงบไม่ใช่เมตตาแบบผู้สูงศักดิ์เอ็นดูผู้ต่ำต้อย แต่คือความเข้าใจของคนที่เดินผ่านความหนาวเหน็บของชีวิตมาพอจะรู้ว่าดนตรีบางท่อน อาจเป็นเพียงสิ่งเดียวที่พาใจคนให้มีชีวิตอยู่รอด

            ใบหน้าเปลือยเปล่าของหลินหยานั้นไร้เครื่องประทินโฉม มองชายหนุ่มตรงหน้าที่ไม่ได้ถาม เร่งเร้าหรือตัดสิน..นางมองเข้านานพอที่จะรู้สึกได้ว่าเขาดีเหลือเกิน “ท่านไม่ถามข้าเลยหรือเจ้าคะ ว่าข้าทำอะไรมา?” เธอเอ่ยเสียงเบา ดวงตาฉายประกายประหลาดใจแต่เต็มไปด้วยความอบอุ่น เหมือนเด็กสาวที่ยังไม่คุ้นเคยกับคนที่ เชื่อเธอโดยไม่ต้องมีเหตุผล

            “ข้าฟังดนตรีของอม่นาง ไม่ใช่คำสารภาพ” ประโยคนั้นเหมือนอะไรบางอย่างในอกหลินหยาหลุดลงจากบ่า เธอระบายยิ้มออกมา รอยยิ้มที่ไม่ใช่รอยยิ้มของคนเข้มแข็งแบบสร้างภาพ แต่เป็นรอยยิ้มที่จริงใจจนแทบสั่น “ท่าน...อยากฟังก่อนไปไหมเจ้าคะ?” เธอถามอย่างเบา แต่แฝงความกล้า กล้าเพราะเชื่อว่าเสียงขลุ่ยของเธออาจทำให้เขาอยู่ตรงนี้นานขึ้นอีกนิดก็ยังดี

            เว่ยชิงพยักหน้าเล็กน้อยรอยยิ้มเขายังอยู่ในสายตา และคำตอบนั้นไม่ได้อยู่ที่ปาก หากแผ่ผ่านท่าทีของเขาทั้งร่าง “ข้าอยู่ที่นี่เพื่อฟังอยู่แล้ว”

            หญิงสาวจึงค่อย ๆ ยกขลุ่ยขึ้นจรดริมฝีปาก เสียงแรกของไม้ไผ่ดังขึ้นช้า ๆ แผ่วเบา ราวกับกลัวจะกระทบเงาความเงียบในคุกหลวง แต่กลับแทรกซึมลงลึกถึงหัวใจของคนที่ยืนฟัง และเมื่อเสียงขลุ่ยสุดท้ายลอยหายไปกับอากาศในคุกหลวงราวกับเงาเมฆที่เคลื่อนผ่านยอดไม้เงียบ ๆ ไม่มีเสียงปรบมือ ไม่มีคำชม ไม่มีแม้แต่ถ้อยคำสรรเสริญใด ๆ แต่ในดวงตาของเว่ยชิงกลับเปล่งประกายบางอย่างที่ชัดเจนยิ่งกว่าถ้อยคำใด เขาไม่ได้ขยับ ไม่แม้แต่จะหายใจแรง ดวงตาเรียวยาวของชายหนุ่มสบหญิงสาวตรงหน้าอย่างแน่วแน่ ใบหน้าสงบ เรียบนิ่ง แต่แฝงความอ่อนโยนแบบคนที่เข้าใจดนตรีโดยไม่จำเป็นต้องตีความ

            หลินหยาหลังจากเป่าขลุ่ยจบลง ก็ค่อย ๆ ลดมันลงจากริมฝีปาก แล้วเธอก็ยิ้ม ยิ้มแบบเต็มหัวใจ ดวงตากลมโตระยิบระยับราวกับมีน้ำค้างสะท้อนแสงไฟจากคบเพลิง เธอมองเขาผู้ที่นั่งฟังอย่างตั้งใจจนแม้เสียงสนิมที่กรงบานประตูยังไม่อาจกลบสมาธิของเขาได้ “ข้า...จะไม่ลืมเลยเจ้าค่ะ” เธอเอ่ยเสียงเบา ขณะที่ปลายนิ้วลูบขลุ่ยอย่างรักใคร่ “ไม่ใช่เพียงเพราะท่านนำมันมาให้ข้า แต่เพราะ...ท่านฟังมันด้วยใจ”

            วินาทีนั้น ใบหน้าของหลินหยาขึ้นสีจาง ๆ ที่แก้มขาวนวล  ไม่ใช่เพราะเขินอาย ไม่ใช่เพราะรักแต่มันเป็น...ความรู้สึกอ่อนโยนของใครสักคนที่ได้รู้ว่าโลกใบนี้ยังมีคนที่ฟังเธอจริง ๆ เว่ยชิงเฝ้ามองอาการนั้นอยู่เงียบ ๆ  เขาเห็นความรู้สึกในแววตาเธอ รู้ว่าเธอไม่ได้รักเขาแบบชายหญิง รู้ว่าเธอเพียงรู้สึก ปลอดภัยและอบอุ่นใจและนั่น...ก็มากพอแล้วสำหรับเขา

            “หากแม่นางคิดว่าขลุ่ยนี้เป็นสมบัติ..จงใช้มันเพื่อเตือนใจแม่นางในวันที่ไม่มีใครอยู่ข้างเจ้าเพราะแม้ข้าจะไม่อยู่ตรงหน้าเสียงของมันจะอยู่กับแม่นางเสมอ”



@Admin


พรสวรรค์: ลาภลอย (ไม้)
มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่
อื่น ๆ: ความจริงเต็มแล้วแหละ 4 ดวง แต่แบบ ปลดได้ไหมเนี้ย 555 อยู่ในคุกปลดยังไงอ่ะ อยู่ในคุกปลดหัวใจมันแปลกนะ

รางวัล: +5 ความสัมพันธ์สนทนาทั่วไป [NPC-10] เว่ย ชิง
หัวดี โบนัสเพิ่มความโปรดปราน+20
โบนัส ความสัมพันธ์พิเศษ (VIP) กับ NPC +10 แต้ม
โบนัส ความโปรดปราน NPC เผ่ามนุษย์ (ผู้มีบุญ) +20 แต้ม
ทักษะนักดนตรี เล่นดนตรี โบนัสความสัมพันธ์ +5


แสดงความคิดเห็น

เว่ยชิงหัวใจตันกำลังอยู่ระหว่างรอปลดหลังออกจากคุก---  โพสต์ 2025-6-27 21:39
โพสต์ 20245 ไบต์และได้รับ 16 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-6-27 20:22
โพสต์ 20,245 ไบต์และได้รับ +5 EXP +10 คุณธรรม +10 ความโหด จาก คนดวงแข็ง  โพสต์ 2025-6-27 20:22
โพสต์ 20,245 ไบต์และได้รับ +10 EXP +25 คุณธรรม +20 ความโหด จาก กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)  โพสต์ 2025-6-27 20:22
โพสต์ 20,245 ไบต์และได้รับ +10 คุณธรรม จาก ทักษะนักดนตรีข้างถนน  โพสต์ 2025-6-27 20:22
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ชุดทิวาเมฆาล่อง
รองเท้าหยุนเวย
โล่ไม้
วาสนาเซียน
ด้ายแดงแห่งโชคชะตา
แหวนดาราจรัส(D2)
ตำราอาหารลับของเสี่ยวจ้าวจื่อ
ยอดคีตศิลป์
ปราณกระเรียนขาว(ไม้)
ขลุ่ยพันธะในเงาศาลา
เกราะทองเทวะ
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x3
x16
x16
x16
x1
x49
x5
x27
x3
x10
x10
x2
x2
x3
x114
x5
x6
x6
x5
x7
x4
x6
x4
x21
x3
x159
x40
x41
x1
x5
x34
x11
x246
x1
x1
x1
x145
x5
x7
x66
x20
x6
x93
x149
x5
x209
x5
x50
x5
x85
x6
x208
x68
x75
x81
x4
x105
x5
x8
x4
x4
x14
x16
x9
x15
x69
x1
x1
x53
x55
x47
x16
x140
x10
x11
x11
x36
x9
x10
x4
x16
x60
x55
x2
x1
x104
x64
x9
x11
x215
x55
x28
x70
x78
x49
x5
x3
x128
x12
x10
x11
x5
x3
x3
x9
x5
x11
x3
x1
x6
x14
x10
x137
x109
x21
x11
x14
x48
x3
x1
x7
โพสต์ 2025-6-27 23:36:00 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย LinYa เมื่อ 2025-6-27 23:42

วันที่ 27 เดือน 5 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11

ยามเซิน เวลา 15.00 - 17.00 น. ณ ถนนสิบลี้ คุกหลวงห้องขังหมายเลขหนึ่ง


เสียงบิดขี้เกียจจากร่างบางของหลินหยานั้นดังขึ้น เธอนอนแบบสบายตรงฟูกที่โดนเตรียมไว้โดยใครก็ไม่รู้ ก่อนที่จะเห็นว่าเป็ดปักกิ่งกำลังส่งเสียงเรียกเธอไว้ หลินหยาพลิกตัวพลางครางงึมงำในลำคอ ดวงตาคู่งามกระพริบไล่แสงยามโพล้เพล้ที่ลอดผ่านช่องเล็ก ๆ ของคุกเข้ามา นางยันกายลุกนั่ง ม่านผมยุ่งนิด ๆ จากการนอนขดตัว คราบไอน้ำอุ่นลอยอ้อยอิ่งจากชุดอาหารที่วางเรียงกันอย่างเรียบร้อยจนเกือบจะเข้าใจผิดว่านี่คือห้องรับรองในจวนผู้ตรวจการ มากกว่าจะเป็นห้องขัง


"นี่มัน...คุกหลวงระดับไหนกันแน่เนี่ย" หลินหยาขมวดคิ้ว มองดูสำรับกับข้าวที่เรียงรายอย่างสง่าผ่าเผย เป็ดปักกิ่งหนังกรอบวาว ๆ น้ำซุปซี่โครงตุ๋นกับหมั่นโถวอุ่น ๆ ที่ส่งกลิ่นยั่วลมหายใจ คนภายนอกถ้าได้เห็น...คงคิดว่านางโดนจับมาเป็นแขกบ้านแขกเมืองแทนแล้วกระมัง เธอยกนิ้วขึ้นกวักเบา ๆ เรียกนายทหารยามที่ยืนอยู่หน้าห้องขัง เป็นชายหนุ่มที่เธอจำได้ว่าเคยเผลอถามชื่อไปครั้งหนึ่ง แต่เขาไม่ตอบ แถมหน้าก็จริงจังยิ่งกว่าขุนทหารราชองครักษ์


“ท่าน..มานี่สิ มากินด้วยกันหน่อยไหม?” นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงเหมือนไม่ได้สั่ง แต่หากใครหูดีจะจับได้ว่ามันมีแววขี้เล่นเจืออยู่ นายทหารสะดุ้งนิดหน่อยก่อนส่ายหน้าอย่างสุภาพ “ขอรับ แม่นาง...ข้ากินไม่ได้”


“หืม? กลัวข้าจะวางยารึ?” หลินหยาแกล้งเลิกคิ้ว เหล่มองด้วยหางตา แต่นายทหารกลับสายหัวไปรัว ๆ เพราะว่านางอยู่ในคุก อาหารทั้งหลายล้วนแต่ต้องโดนตรวจสอบแม้ว่าจะได้มาจากคนใหญ่คนโตถึงเพียงนี้ก็ตาม “เปล่าขอรับ…แต่ใต้เท้าจางทังสั่งไว้เด็ดขาด ว่าห้ามล่วงละเมิดขอบเขตระหว่างผู้คุมกับนักโทษ และหากมีข้อสงสัยว่าท่านได้รับของจากใครเพิ่มเติม จำต้องรายงานทันที”


"โอ้โห ใต้เท้าจางทังนี่เข้มงวดจริง ๆ นะ" นางพึมพำเบา ๆ ก่อนจะทำหน้าเศร้าจอมปลอม หยิบเป็ดขึ้นมากัดกร้วม ๆ ต่อหน้าเขาอย่างจงใจ เสียงเคี้ยวดังกรอบกรุบ “งั้นข้ากินคนเดียวก็ได้” นางว่าพลางส่งยิ้มหวานแสบตา ทหารคนนั้นยืนตัวตรงเหมือนหอกเสียบพื้น แต่ลูกกระเดือกกลับกลืนน้ำลายลงไปอย่างห้ามไม่ได้ สายตาเขาเผลอมองหนังเป็ดมันเงาที่หลินหยากำลังคีบขึ้นจาน หมั่นโถวถูกบั้งเป็นแผ่นบาง ๆ พร้อมซอสเข้มข้นที่เทไว้ข้างชามเล็ก ทุกอย่างดูพร้อมให้กินอย่างเกินไปหน่อย...เกินไปสำหรับนักโทษธรรมดา


หลินหยายิ้มเยาะในใจเล็ก ๆ พลางหันหลังให้เขาแสร้งเป็นคนใจดีที่ไม่เคี่ยวเข็ญ “ท่านก็ขยันทำงานเข้านะ ข้ากินต่อละเจ้าค่ะ”ายทหารถอนหายใจเบา ๆ พยายามหันหน้าหนีเป็ดปักกิ่งแต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย เพราะกลิ่นยังไล่ตามเขาอยู่ดี



@Admin 


พรสวรรค์: ลาภลอย (ไม้) 

มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่

อื่น ๆ: เมื่อไรหน่อออ จะเลขที่ออกกก สาธุ๊วววววววว

รางวัล: -


แสดงความคิดเห็น

(สร้างกระทู้เพื่อปลดความทรงจำแรก https://han.mooorp.com/forum/26/1)  โพสต์ 2025-6-27 23:43
นายทหารฮัมเพลงเป็นภาษาบางอย่าง ก่อนคุณค้างไปครู่หนึ่ง (ปลดความทรงจำ ตอนเรียนภาษาไทย) 1 เหตุการณ์  โพสต์ 2025-6-27 23:41
โพสต์ 15557 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-6-27 23:36
โพสต์ 15,557 ไบต์และได้รับ +3 EXP +6 คุณธรรม +5 ความโหด จาก คนดวงแข็ง  โพสต์ 2025-6-27 23:36
โพสต์ 15,557 ไบต์และได้รับ +6 EXP +10 คุณธรรม +8 ความโหด จาก กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)  โพสต์ 2025-6-27 23:36
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ชุดทิวาเมฆาล่อง
รองเท้าหยุนเวย
โล่ไม้
วาสนาเซียน
ด้ายแดงแห่งโชคชะตา
แหวนดาราจรัส(D2)
ตำราอาหารลับของเสี่ยวจ้าวจื่อ
ยอดคีตศิลป์
ปราณกระเรียนขาว(ไม้)
ขลุ่ยพันธะในเงาศาลา
เกราะทองเทวะ
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x3
x16
x16
x16
x1
x49
x5
x27
x3
x10
x10
x2
x2
x3
x114
x5
x6
x6
x5
x7
x4
x6
x4
x21
x3
x159
x40
x41
x1
x5
x34
x11
x246
x1
x1
x1
x145
x5
x7
x66
x20
x6
x93
x149
x5
x209
x5
x50
x5
x85
x6
x208
x68
x75
x81
x4
x105
x5
x8
x4
x4
x14
x16
x9
x15
x69
x1
x1
x53
x55
x47
x16
x140
x10
x11
x11
x36
x9
x10
x4
x16
x60
x55
x2
x1
x104
x64
x9
x11
x215
x55
x28
x70
x78
x49
x5
x3
x128
x12
x10
x11
x5
x3
x3
x9
x5
x11
x3
x1
x6
x14
x10
x137
x109
x21
x11
x14
x48
x3
x1
x7
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้