ตำหนักจงฉางชื่อ

[คัดลอกลิงก์]







ตำหนักจงฉางชื่อ

{ เขตพื้นที่กองราชการ }










【 ตำหนักจงฉางชื่อ 】

ร่องรอยของผู้มีอำนาจที่แสนเงียบงัน

ขั้วอำนาจภายในหวังนอกเหนือจากเชื้อพระวงศ์แล้วยังมี 'ขันที' ที่พวกท่านเห็นอยู่นี้คือหมู่ตำหนักจงฉางชื่อ สถานที่ตั้งของศูนย์รวมอำนาจชันทีโดยมี 'จางกงกง' เป็นผู้นำร่อง โดยหมู่ตำหนักใหญ่นี้เกิดขึ้นผ่านการรวมสองฝ่ายในที่ยิ่งใหญ่อย่าง กรมพระตำหนัก และกองพระราชสำนักเข้าด้วยกันภายใต้คำสั่งของฮั่นอู่ตี้ที่มอบอำนาจการจัดการให้กับจางกงกงจวบจนถึงปัจจุบัน






【 ผู้ดำรงตำแหน่งจงฉางชื่อ 】

จางกงกง (20)







แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 6521 ไบต์และได้รับ 4 EXP! [VIP]  โพสต์ 2024-7-10 20:01

18

กระทู้

224

ตอบกลับ

1954

เครดิต

ผู้ใฝ่รู้

พลังน้ำใจ
2
ตำลึงทอง
79
ตำลึงเงิน
1510
เหรียญอู่จู
37192
STR
53+7
INT
70+0
LUK
6+2
POW
74+5
CHA
97+27
VIT
25+7
‘ หลี่ผู่เยว่ • 李谱月 ’
เลเวล 1
คุณธรรม
9940
ความชั่ว
655
ความโหด
5097
โพสต์ 2024-7-14 17:13:27 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย LuBairan เมื่อ 2024-7-14 17:15




การมาถึงของจงฉางชื่อ

ตำหนักจงฉางชื่อ จะไม่มาก็คงไม่ได้.. หญิงงามเฉิดฉันเงยหน้าขึ้นมองป้ายสลักนามตำหนักที่อยู่เหนือประตูทางเข้าด้วยความใจเย็น คาดไว้อยู่แล้วว่าคงต้องได้มาเยือนในอีกไม่นาน แต่พอได้มายืนอยู่หน้าทางเข้าก็ชวนให้รู้สึกระทึกใจไม่ใช่น้อย จางกงกงเป็นคนเช่นไร ทั่วหล้ามีทั้งที่รู้และไม่รู้ ชื่อเสียงเกี่ยวกับลมมรสุมผู้นี้มีมากจนยากแยกจริงเท็จ

“ ลู่เหม่ยเหริน ” ขันทีคนหนึ่งปรี่เข้ามาหานางอย่างว่องไว

“ จางกงกงแจ้งไว้แล้วว่าท่านต้องมา มิทราบว่ามาเยือนครั้งนี้..? ”

“ ย่อมมาเพื่อรับการอบรมจากตำหนักจงฉางชื่อ ” ยอดสตรีนับว่ามีอยู่มาก แต่ที่คู่ควรกับการเป็นยอดสตรีนั้นมีน้อยเหลือคณา บุปผาหยกมารบกวนถึงตำหนักจงฉางชื่อครั้งนี้ไม่อาจกล่าวได้ว่ามามือเปล่า ในมือของนางถือถาดไม้ชิ้นหนึ่ง ตรงกลางมีป้านชาและจอกตั้งไว้เป็นอย่างดี “ ข้าไม่ทราบว่ากฏเกณฑ์ในวัง ยังโง่เขลาอยู่มาก ก่อนหน้านี้เป็นข้าผิดต่อจางกงกงอยู่เรื่องหนึ่ง จึงได้นำชาที่ชงขึ้นเองมามอบเป็นการขอบคุณ เกรงว่าจางกงกงคงจะยุ่งกับการติดตามฝ่าบาท ถ้าเช่นนั้นฝากท่านช่วยส่งมอบชานี้แทนข้าด้วย ”

นับว่าฉลาดมาก.. ขันทีหนุ่มลอบประเมินในใจ ใครบ้างที่ไม่รู้ว่าอำนาจเกือบหนึ่งในสามของวังหลวงนั้นอยู่ในมือใคร “ เป็นเช่นนี้นี่เอง รบกวนลู่เหม่ยเหรินตามผู้น้อยมาที่ห้องรับรองทางนี้เสียก่อนขอรับ ” ชายในชุดขันทีค่อมกายอย่างนอบน้อมพลางภายมือนำทางนางไปยังห้อง ๆ หนึ่ง ภายในนั้นมีโต๊ะน้ำชาหนึ่งชุด ตรงกลางพื้นบุผ้านวมเป็นอย่างดี ทว่าที่อยู่ตรงข้ามโต๊ะน้ำชานั้นกลับเป็นตั่งไม้ขนาดใหญ่ชิ้นหนึ่งที่พอจะให้คนสองคนขึ้นไปเกลือกกลิ้งอยู่บนนั้นได้ เห็นเช่นนี้นางก็พลันขมวดคิ้ว กายหมุนเล็กน้อยหมายจะหันไปถามขันทีที่นำทาง แต่กลับได้พบเพียงความว่างเปล่า

‘ ทำไมถึงได้หายตัวไปไวนัก ’ ลู่ไป๋หรั่นโอดครวญในใจอยู่เพียงลำพัง เพราะไม่มีคำกำชับหรือบอกกล่าวใด ๆ ภายใต้วังหลวงที่เต็มไปด้วยหูตานี้นางจะไม่กล้าขยับตัว นงคราญสูงส่งยืนประคองถาดไม้ไม่ไหวติง เนตรหงส์ที่เคยลอบสอดส่อง ยามเมื่อผ่านมาได้ราว ๆ หนึ่งก้านธูปก็สงบลงโดยไม่รู้ตัว

“ นอกจากการยืนรออย่างมั่นคงเช่นนี้แล้ว ลู่เหม่ยเหรินยังสามารถยืนรออย่างน่าสงสารได้หรือไม่? ” เสียงไม่ดังไม่เบานักดังขึ้นจากประตูที่เปิดออกทางด้านหลัง ฉับพลันปลายนิ้วนางก็สั่นเทิมขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้ “ ได้ยินว่าท่านชงชามาให้ข้าน้อยด้วยตนเอง นับว่าเป็นเกียรตินัก แต่มิใช่ว่า..ชาป้านแรกนี้สมควรเป็นของฝ่าบาทหรอกหรือ ”

การมาถึงของจางกงกงเป็นดั่งคลื่นใหญ่ซัดหาดทรายที่มีนามว่าลู่ไป๋หรั่น นางคาดไว้ว่าตนเองคงจะเป็นที่จับตามอง แต่กลับไม่นึกว่าการเป็นที่จับตามองนี้จะนำมาซึ่งการพัวพันกับคนมากมาย หว่างคิ้วของนงคราญเจือแววประหลาดใจ แต่กระนั้นท่วงท่าที่หยิบมาใช้กลับเป็นความเรียบรื่นปลอดโปร่ง “ จางกงกง ” เบื้องหน้ามีสาวงามชดช้อยยืนคอยตั้งนมนานมีหรือที่จะไม่ใจอ่อน ยิ่งยามนี่อีกฝ่ายย่อกายลงเล็กน้อยทั้งที่สองมือถือถาดของที่นำมามอบให้เช่นนี้ก็ชวนให้ระลึกถึงคำว่า ‘อ่อนหวานบอบบาง’ ขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

“ ลู่เหม่ยเหริน ” ผู้เป็นถึงจงฉางชื่อประสานมือรับการทำความเคารพนั้นอย่างเรียบง่าย หนนี้เขาเข้ามาด้านในห้องรับรองพร้อมกับนางกำนัลหญิงสองนางที่ติดตามเข้ามาเพื่อไม่ให้เกิดเป็นคำครหาเกี่ยวกับชื่อเสียงของอีกฝ่าย “ คนกันเองทั้งนั้น ลู่เหม่ยเหริน ท่านนั่งก่อน ”

มือหนาของจงฉางชื่อยื่นเข้ามารับถาดน้ำชาเพื่อนำไปวางบนโต๊ะที่ตั้งอยู่ไม่ไกล ผิดกับลู่ไป๋หรั่นที่ยังยืนระบายยิ้มอยู่กับที่ชวนให้คนมองฉงนใจยิ่งนัก

“ เดิมทีข้ามาเพื่อตั้งใจรับการอบรม เกรงว่ารบกวนเวลาท่านมากไปจะไม่เหมาะสม ”

เสียงตอบรับในลำคอจากจางกงกงดังขึ้นพอให้เป็นพิธี ปลายนิ้วหนาเคาะลงกับโต๊ะน้ำชาช้า ๆ พร้อมกับสายตาที่กวาดมองหญิงงามโดดเด่นที่อยู่ตรงหน้า ไม่นานนักจากความเงียบสงบก็เปลี่ยนมาเป็นน่าหวาดหวั่น ก่อนที่บุปผาหยกจะได้รู้ตัว ก็ราวกับมีอสรพิษมากเล่ห์ก็มุ่งเข้ารัดจนไร้ซึ่งทางหนี “ ลู่เหม่ยเหรินมีใจมุ่งมั่นอยากเรียนรู้ถึงเพียงนี้ ถ้าเช่นนั้นข้าน้อยจะทำให้ท่านผิดหวังไม่ได้ บทเรียนแรกของท่าน เริ่มมันเสียตอนนี้เลยก็แล้วกัน ”

คนงามน้อยนิ่งค้างไปในทันที สร้างความขบขันให้กับคนเจ้าแผนการอยู่ไม่น้อย “ กระไรหรือ? ไท่โฮ่วสั่งการลงมาให้ข้าแนะนำเหม่ยเหรินทุกท่านอย่างเคร่งครัด หรือว่า.. ลู่เหม่ยเหรินไม่ทันได้คำนึงถึงส่วนนี้? ” ถูกต้อง ลู่ไป๋หรั่นไม่ได้คาดว่าอีกฝ่ายจะสละเวลาที่เป็นดั่งทองมาเฝ้าสอนอบรมหญิงสาวนับพันนับร้อยเพื่อที่จะได้ส่งหญิงเหล่านั้นเข้าตำหนักฝ่าบาท นัยน์เนตรดั่งนภารัตติกาลของนางหยกสั่นวูบเมื่อใช้ความคิด

“ หากเป็นเช่นนี้อาจไม่เหมาะสม มิสู้ครั้งนี้ให้ข้ากลับไปก่อนแล้วค่อยนัดแนะวันเวลากันใหม่ ”

“ หากกลัวว่าจะเกิดคำครหา... ” ฝ่ายที่สามารถบงการคนได้ตามใจเอ่ยแทรกขึ้นมาทันที อันที่จริงเขาไม่จำเป็นต้องถาม จางกงกงเป็นคนรอบคอบทั้งยังแต้มจัด เขาวางหมากแต่ละเม็ดเพื่อความก้าวหน้า มีหรือจะยอมถูกใครมาทำให้ชื่อเสียงของหมากขาวในมือต้องแปดเปื้อนโดยง่าย หัวหน้าขันทีอย่างเขาวาดยิ้มมีเลศนัยให้ประดับอยู่บนใบหน้า “ เข้ามา ”

จบคำก็มีเสียงฝีเท้ามากมายดังขึ้น พริบตาเดียวจากห้องรับรองที่มีอยู่ไม่กี่คน ก็เปลี่ยนมาเป็นสถานที่ซึ่งอัดแน่นไปด้วยกลิ่นอายของสครีท่ามกลางความตื่นตะลึงของผู้ถูกจัดฉากมาตั้งแต่ต้น ผู้คนมากมายที่หลั่งกันเข้ามาล้วนแต่ทำความเคารพจางกงกงอย่างนอบน้อม แต่กลับไม่มีใครสังเกตถึงท่าทางการรินชาบุปผาอย่างเชื่องช้า ก่อนจะยกจอกชาขึ้นจ่อที่ปลายจมูกพลางซึมซาบกับกลิ่นอันหอมหวานชวนให้ผู้นำมามอบให้ถึงกับขนลุกไปทั้งร่าง เพราะในชั่วพริบตานั้น นางเห็นริมฝีปากของเขาขยับติดต่อกันเป็นคำพูดที่ไร้ซึ่งเสียง

‘ ทั้งหมดนี้.. จัดการได้ง่ายดายนัก ’

….

จบแล้ว

การอบรมว่าด้วยการเป็นพระสนมวันแรกจบลงอย่างคึกคักทว่านางกลับจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าตัวเองผ่านช่วงเวลานั้นมาได้อย่างไร กระทั่งในยามนี้ที่นางได้กลับมายืนอยู่ต่อหน้า ‘จางกงกง’ในแบบที่เป็นการพบปะส่วนตัว ยังไม่แน่ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไรเช่นกัน

“ ลู่เหม่ยเหรินทำให้ข้าน้อยได้เปิดหูเปิดตาแล้ว การที่ฝ่าบาทเลือกพลิกป้ายท่าน ทำให้ใจลอยถึงเพียงนี้เชียว? ” จางกงกงเย้าแหย่ได้ถูกเวลานัก บุปผาหยกที่เงียบนิ่งมาตลอดทั้งคาบเรียนยามนี้กำลังค่อย ๆ ช้อนตาขึ้นมองผู้สอนสั่งตลอดชั่วยามที่ผ่านมา

“ จางกงกงกล่าวเกินไปแล้ว ”

คำว่ากล่าวเกินไปนั้นทำให้เขาเลิกคิ้วขึ้นได้เล็กน้อย อสรพิษในคราบขันทีระบายยิ้มเบาบาง “ ถ้าเช่นนั้นลู่เหม่ยเหรินรีบเดินทางกลับเรือนเมิ่งเหยาเถิด เมื่อใดที่ฟ้ามืดท่านยังต้องไปเข้าเฝ้าฝ่าบาทที่ตำหนักเว่ยหยาง ” น้ำเสียงของชายผู้นี้ไม่ทุกข์ร้อนทั้งยังจรรโลงใจอยู่มากเมื่อได้รู้ว่าหนึ่งคนงามจะได้พบหน้ากับยอดบุรุษอีกครั้ง

“ ทว่าข้าน้อยขอบังอาจแนะนำท่านสักประโยค ”

“ ไม่แย่งชิง ไม่โดดเด่น ไม่โอ้อวด ”

“ เพียงประคับประคองสามสิ่งนี้ไว้ การเป็นใหญ่ในใจฝ่าบาท ย่อมหาใช่เรื่องยากจนเกินไป ” ประหนึ่งพ่อสื่อที่อยากประเคนสตรีดี ๆ มีประโยชน์ให้ไปถึงอุ้งมือของมังกร ลู่ไป๋หรั่นมีดีที่ขาดอำนาจในมือ ยามนี้ขุนนางทั้งหลายต่างชิงดีชิงเด่น หากดึงผู้ที่ไร้อำนาจขึ้นไปกดทับความโลภของพวกหางแถวได้ย่อมเป็นเรื่องที่ดี แต่ในกรณีนี้ก็คงต้องดูกันไปว่านางจะมีความสามารถสักแค่ไหน สองตาคมจรดลงมองกายบางใต้อาภรณ์ขาว ฉับพลันริมฝีปากกลับยกแสยะขึ้นอย่างไม่น่าไว้วางใจ “ อย่างไรก็ตาม.. วันใดที่ท่านมั่นคงไดัดี ก็หวังว่าจะไม่ลืมข้าน้อยผู้นี้นะขอรับ ”



รางวัลงาน : +50 พลังใจ, 4 ตำลึงทอง , +20 EXP และ +10 บารมี

[NPC-11] จางกงกง +5 ความสัมพันธ์สนทนาประจำวัน
[NPC-11] จางกงกง +15 ให้ชากรอบน้ำเงินที่ชงเอง






แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับ 20 EXP โพสต์ 2024-7-14 18:03
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-11] จางกงกง เพิ่มขึ้น 20 โพสต์ 2024-7-14 18:03
โพสต์ 21427 ไบต์และได้รับ 12 EXP!  โพสต์ 2024-7-14 17:13
โพสต์ 21,427 ไบต์และได้รับ +3 EXP +10 คุณธรรม +10 ความโหด จาก ผีผา  โพสต์ 2024-7-14 17:13
โพสต์ 21,427 ไบต์และได้รับ +5 EXP +10 คุณธรรม +6 ความโหด จาก ชุดเหวินเฉิน  โพสต์ 2024-7-14 17:13

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังน้ำใจ +50 ตำลึงทอง +4 พลังปราณ +10 ย่อ เหตุผล
Watcher + 50 + 4 + 10

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ปราณจิ้งจอกสวรรค์(ไม้)
เสน่ห์ฟ้าประทาน
ธนูไม้จันทน์
กระบอกธนู
พัดคุณชาย
หมวกไผ่ผ้าคลุม
อาภรณ์พร่ำพิรุณ (ญ)
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x1
x1
x10
x15
x4
x1
x1
x1
x3
x1
x2
x6
x5
x2
x4
x8
x2
x4
x1
x11
x10
x3
x4
x16
x3
x5
x4
x1
x7
x6
x4
x11
x4
x1
โพสต์ 2024-7-31 20:37:20 | ดูโพสต์ทั้งหมด

ยามเหลียนฮวาเบ่งบาน
วันที่สามสิบเอ็ด ชีเยว่ เจี้ยนหยวนศกที่สิบ ปลายยามอู่ (10.30 น.)




   รู้ตัวอีกที บัดนี้เดือนวันใกล้จะสิ้นสุดเข้าสู่ปาเยว่แล้ว ทว่าสิ่งที่นางเผลอเรอไม่ยอมมาเสียทีจนต้องเร่งฝีเท้ามายังตำหนักจงฉางชื่อของจางกงกงเป็นเพราะว่า

   “เกือบไปแล้ว เกือบลืมเบี้ยหวัดประจำเดือนไปเสียแล้ว”

   เว่ยเจียเหลียนฮวาผู้เกียจคร้านนั้นเอาแต่ผัดวันประกันพุ่งจนต้องมาได้ฤกษ์ออกกำลังกายเอายามนี้เสียได้ นางเร่งฝีเท้าจากตำหนักเถียนเซี่ยจนมาถึงตำหนักเป้าหมายของนางในครั้งนี้…ซึ่งนางเพิ่งจะตื่นหลังจากงีบหลับหลังไปถวายพระพรกับองึ์ไท่โฮ่วแท้ ๆ มึนหัวฉิบ—

   “จางกงกง ข้ามารับเบี้ยหวัด”

   “เอ่อ…พระสนมใจเย็น ๆ ก่อนขอรับ จางกงกงในยามนี้อยู่กับฝ่าบาท”

   นั่นสิ…นางลืมได้อย่างไร—


   “เช่นนั้นแล้ว… เอ่อ… ข้าลงชื่อไว้ก่อน หากจางกงกงกลับมาแล้วก็วานเจ้าบอกเขาทีว่าให้ผู้ใดสักผู้เอาไปให้ข้าทีหลังที่ตำหนักเถียนเซี่ย”

   สิ้นวจีหวานนางก็หยิบพู่กันขึ้นมาตวัดเขียนนามของตนเองลงไปเพื่อรับเบี้ยหวัดของตำแหน่งเจี๋ยอวี่ในเดือนชีเยว่












ผมมาเอาเบี้ยหวัด 8000 อีแปะ

@Admin

เมื่อไหร่ผมจะได้เจอฟูจวินที่แท้จริงของดวงใจผม รักนะคะ หว่ออ้ายหนี่ ซารางเฮโย ฉางซานเซียนหวาง

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 6443 ไบต์และได้รับ 3 EXP!  โพสต์ 2024-7-31 20:37
โพสต์ 6,443 ไบต์และได้รับ +2 ความชั่ว +3 ความโหด จาก มีดแล่เนื้อ  โพสต์ 2024-7-31 20:37
โพสต์ 6,443 ไบต์และได้รับ +2 คุณธรรม +2 ความโหด จาก หมวกไผ่ผ้าคลุม  โพสต์ 2024-7-31 20:37
โพสต์ 6,443 ไบต์และได้รับ +2 คุณธรรม +2 ความชั่ว +2 ความโหด จาก อาภรณ์พร่ำพิรุณ (ญ)  โพสต์ 2024-7-31 20:37
โพสต์ 6,443 ไบต์และได้รับ +1 ความชั่ว +2 ความโหด จาก ขลุ่ย  โพสต์ 2024-7-31 20:37

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1เหรียญอู่จู +8000 ย่อ เหตุผล
Watcher + 8000

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
พัดบุปผาบานจันทร์เพ็ญ
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ยอดคีตศิลป์
อัจฉริยะ
กระบี่
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
แหวนดาราจรัส(D)
พู่กันคัดอักษร
ชุดเหวินชิงฮวาเฟิน(เสียนอี๋)
หมวกไผ่ผ้าคลุม
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x10
x7
x70
x50
x10
x1
x40
x12
x33
x5
x42
x9
x40
x43
x1
x269
x2
x5
x2
x1
x163
x2
x2
x1
x11
x6
x1
x21
x33
x12
x2
x1
x19
x10
x5
x6
x3
x20
x4
x2
x11
x15
x134
x4
x3
x2
x247
x10
x4
x238
x6
x64
x33
x1
x50
x105
x67
x33
x152
x6
x17
x81
x16
x10
x21

1

กระทู้

14

ตอบกลับ

202

เครดิต

คนสร้างตัว

พลังน้ำใจ
92
ตำลึงทอง
49
ตำลึงเงิน
54
เหรียญอู่จู
4648
STR
5+3
INT
1+0
LUK
0+0
POW
2+0
CHA
0+0
VIT
2+2
คุณธรรม
0
ความชั่ว
0
ความโหด
0
โพสต์ 2024-8-9 22:23:03 | ดูโพสต์ทั้งหมด
งานแรกในราชสำนัก

"กองซักล้าง!!" เสียงประกาศดังขึ้น ตนได้แต่ก้มหน้ายอมรับทำงานกองซักล้างแต่ตั้งแต่เข้าวังผ่านมาสิบกว่าปีก็ยังอยู่ในตำแหน่งเดิมนี่ไม่ใช่เรื่องน่าหัวเราะหรอ เมื่อไปรับป้ายประจำตัวเสร็จก็เตรียมตัวเดินจากไปแต่ก็พบว่าป้ายประจำตัวเหน็บไว้ด้วยข้างในใจความว่า"มาพบข้าที่ห้องตะวันตก" เมื่อ่านจบก็รีบพับกระดาษเก็บทันที แล้วรีบเดินหายไปจากฝูงชน เดินไปได้ซักพักก็มาถึงห้องตะวันตก ตัวอาคารดูธรรมดาส่วนมากจะใช้พบปะพูดคุยกันของขันที เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็พบจางกงกงนั่งจิบชารออยู่

"ข้าน้อยคาราวะจางกงกง" ตนรีบเข้าไปคาราวะอย่างนอบน้อมและแฝงไปด้วยความดีใจ


"อืม" จางกงกงตอบกลับมาอย่างเฉยเมยทั้งที่ตายังไม่ได้ละออกจากสมุดบันทึกอะไรซักอย่าง ตนจึงนั่งรออยู่ซักพักใหญ่

"เจ้าไม่พอใจข้าหรือไม่ที่ไม่ได้สนับสนุนเจ้าเข้ารับตำแหน่งอะไรเลย"

"ข้าน้อยมิกล้าทุกวันนี้ที่มีข้าวกินโดยไม่ต้องหิวโหยก็เพราะจางกงกงให้โอกาส" ตนพูดเสร็จก็ลงไปคำนับอย่างสำนึกบุญคุณ

"ดีมาก นับว่าข้ามองไม่ผิดถึงแม้ข้าจะเก็บเจ้ามาแต่ข้ากแยกแยะออกตัวเจ้ายังไม่มีผลงานอะไรจะแต่งตั้งก็ยังไงอยู่ไว้รอเจ้าทำหน้าที่ให้ดีเมื่อตอนนั้นเจ้าก็จะก้าวหน้าเอง"

"ขอบคุณจางกงกงที่เมตตา ข้าจะจำคำสอนนี้ไว้และเอากงกงเป็นแบบอย่าง" ตอนนี้เขามีความสุขมากที่ตัวเองยังไม่ถูกลืม

"ดี เจ้าออกไปได้แล้วแล้วเรื่องที่เราพบกันไม่ต้องให้ผู้ใดล่วงรู้" เมื่อจางกงกงพูดจบ ตนก็คำนับก่อนจะรีบก้าวเดินออกไปจากตัวห้องอย่างรวดเร็ว

เมื่อก้าวออกมาพ้นเขตตัวตึกแล้วตนก็ลดความเร็วลงก่อนจะยิ้มอย่างมีความสุข กงกงยังไม่ลืมตนแต่เพราะหน้าที่และตำแหน่งทำให้ต้องห่างเหินกัน แต่ถ้าสามารถไปอยู่ในระดับที่สูงกว่านี้ก็สามารถช่วยงานและได้รับความสำคัญมากขึ้น คิดได้แล้วตนก็เดินยกยิ้มอ่อนๆไปตลอดทาง






แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับ 30 EXP โพสต์ 2024-8-9 22:33
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-11] จางกงกง เพิ่มขึ้น 200 โพสต์ 2024-8-9 22:33
โพสต์ 5698 ไบต์และได้รับ 3 EXP!  โพสต์ 2024-8-9 22:23
โพสต์ 5,698 ไบต์และได้รับ +2 ความชั่ว +2 ความโหด จาก คนแข็งแรง  โพสต์ 2024-8-9 22:23

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1ตำลึงทอง +40 เหรียญอู่จู +1000 ย่อ เหตุผล
Watcher + 40 + 1000

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
หมวกไผ่ผ้าคลุม
คนแข็งแรง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x18

1

กระทู้

14

ตอบกลับ

202

เครดิต

คนสร้างตัว

พลังน้ำใจ
92
ตำลึงทอง
49
ตำลึงเงิน
54
เหรียญอู่จู
4648
STR
5+3
INT
1+0
LUK
0+0
POW
2+0
CHA
0+0
VIT
2+2
คุณธรรม
0
ความชั่ว
0
ความโหด
0
โพสต์ 2024-8-13 22:05:29 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย WeiBin เมื่อ 2024-8-13 22:18
วันที่6 เดือน8 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่10

เวลา 8:00


ตนแต่งกายเต็มยศรีบเดินมายังตำหนักจงฉางซื่อด้วยความเร่งรีบ การถูกเรียกตะวอย่างเป็นทางการทำให้เขาประหม่าไม่น้อย ตามคำสั่งที่ได้รับคือให้ตนมายังตำหนักแต่เช้า เมื่อเดินเข้าไปยังห้องโถงกลางตำหนักก็พบขันทีชรายืนมองตนด้วยสีหน้านิ่งเฉย

สายตาที่มองมาแถบจะมองทะลุร่างเขาอยู่แล้ว ผ่านไปสักครู่จึงพลักหน้าเป็นสัญญาณให้ตนเข้าไปได้ 'ฟู่ ตาเฒ่านั่นขอแค่ข้าแสดงอาการน่าสงศัยเขาพุ่งมาหักคอข้าแน่' เมื่อถอนหายใจเสร็จก็เดินเข้าไปยังห้องด้านใน เมื่อเข้าไปก็พบจางกงกงนั่งรออยู่แล้ว ตนจึงเดินเข้าไปคาราวะด้วยความนอบน้อม



"คาราวะจางกงกง กงกงมีอะไรให้ข้าน้อยรับใช้ขอรับ"



จางกงกงปลายตามาที่ตนก่อนจะโบกมือให้ตนลุกขึ้น ก่อนจะทำท่าเหมือนจะรินชา เขาเห็นว่าเป็นโอกาสจึงรีบก้าวเข้าไปอย่างรีบร้อน



"ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้าน้อยเถอะ" จางกงกงเห็นดังนั้นจึงปล่อยมือออกจากกาแล้วปล่อยให้เขาทำแทน เมื่อรินเสร็จเตรียมจะส่งถ้วยชาคืน



"เจ้านั่นแหละดื่ม"  ตนได้แต่ทำสีหน้างุนงงจนจางกงกงปลายตามาที่ตนอีก จึงไม่ลังเลกระดกไปจนหมดถ้วย เมื่อดื่มเสร็จก็รีบเช็ดปากทำความสะอาดให้เรียบร้อย แล้วจึงกลับไปยืนที่เดิม จางกงกงเห็นว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีจึงหยิบม้วนราชโองการออกมา



"นี่คือราชโองการแต่งตั้งลู่เจียยวี๋ขึ้นสู่ฐานะลู่เสียนอี๋ เจ้าจงไปที่ตงเฉิงแล้วถ่ายทอดราชโองการแทนข้า ก่อนที่จะไปจงแวะไปที่กองซักล้างรับตัวนางกำนัลที่ชื่อหลี่ผู่เย่ให้ไปรับใช้พระสนมด้วย"

ตนรีบคุกเข่ารับม้วนราชโองการมาจากมือจางกงกงแต่อีกฝ่ายกลับไม่ปล่อยทั้งยังเขยิบเข้ามากระซิบตนเบาๆว่า

"จงจำไว้ให้ดีเจ้าจงแจ้งพระสนมว่างจางกงกงยินดีกับพระสนมที่ก้าวหน้า หวังว่าพระสนมจะมิลืมจางกงกงผู้นี้ เจ้าจำไว้ให้ดี"



"รับทราบข้าน้อยจะไม่ทำให้กงกงผิดหวัง"



"ดี ข้ารู้ว่าข้าไว้ใจเจ้าได้" เมื่อพูดจบจางกงกงก็ตบบ่าเขาเบาๆแล้วหันหลังกลับไป เขารู้ตัวว่าต้องถึงเวลาแล้วตนจึงคำนับแล้วถอยออกไปจากห้องเบาๆ


                                                                                               [NPC-11] จางกงกง +5 ความสัมพันธ์สนทนาประจำวัน


+30 พลังงาน จากจางกงกงให้ชาดื่มด้วยแหละ



แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 6881 ไบต์และได้รับ 3 EXP!  โพสต์ 2024-8-13 22:05
โพสต์ 6,881 ไบต์และได้รับ +2 ความชั่ว +2 ความโหด จาก คนแข็งแรง  โพสต์ 2024-8-13 22:05

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังงาน +30 ย่อ เหตุผล
Watcher + 30

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
หมวกไผ่ผ้าคลุม
คนแข็งแรง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x18

3

กระทู้

122

ตอบกลับ

3259

เครดิต

เริ่มมีชื่อเสียง

พลังน้ำใจ
2168
ตำลึงทอง
110
ตำลึงเงิน
441
เหรียญอู่จู
15357
STR
66+13
INT
65+0
LUK
0+5
POW
50+0
CHA
15+0
VIT
13+5
คุณธรรม
2314
ความชั่ว
1069
ความโหด
2532
โพสต์ 2024-8-31 22:07:26 | ดูโพสต์ทั้งหมด




เกรงทุกครั้งที่พบพระองค์ อีกหน่อยน่าจะต้องเสพซีรีย์หาเรฟเพิ่มจริงๆ
.พนมมือแด่หวงตี้.

CHAPTER 24.4

วันที่สิบเจ็ดเดือนแปดแห่งรัชศกเจี้ยนหยวนปีที่สิบ
วันเสาร์ ช่วงเวลาบ่ายสามโมงตรง


หลังจากเสร็จงานแล้วหลงเยวี่ยก็เดินมาที่จงฉางซื่อ ตัวของจี๋รุ่ยกลับไปที่ตำหนักของไท่โฮ่วแล้ว ที่นางมาที่ตำหนักจงฉางซื่อในเวลานี้ก็เพื่อรับเบี้ยหวัดของเหม่ยเหริน 


 “ข้ามารับเบี้ยหวัดของเหม่ยเหริน” 


 คนในวังในโดยเฉพาะขันทีที่อยู่มานาน มักจะจดจำพระสนมได้ โดยเฉพาะหลงเยวี่ยที่ได้รับโอกาสให้เข้าร่วมพิธีเฉลิงฉลองวันคล้ายวันพระราชสมภพของไท่โฮ่ว อีกทั้งยังเคยเข้าออกตำหนักเว่ยหยางและเซวียนเต๋อ ผู้ใดก็ทราบบางทีการโปรดปรานก็มิได้ขึ้นอยู่กับความสูงต่ำของลำดับขั้น ไม่เช่นนั้นไหนเลยจะมีนางกำนัลได้ขึ้นเป็นนางสนม 


 ด้วยความใส่ใจดังกล่าว มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าเบื้องหน้าของเขาคือใคร 


“ตวนมู่เหม่ยเหริน เชิญทางนี้ก่อน” 


 เขารับรองหลงเยวี่ยให้นั่งพักที่มุมหนึ่ง ไม่นานขันทีที่รักษาการอยู่ยื่นถุงเงินจำนวน 8000 อีแปะให้หลงเยวี่ย เมื่อรับเงินแล้วนางก็แจ้งถึงจุดประสงค์อีกประการ 


“ข้ามาลงชื่อขอออกนอกวังด้วย ไม่ต้องการองครักษ์ติดตาม เพียงแค่ออกไปเดินเล่นเท่านั้น มีคนมากรังแต่จะวุ่นวาย” 


 “นายหญิงน้อยโปรดรอสักครู่….” ว่าแล้วเขาก็หยิบกำไลวงหนึ่งมาให้นาง… “เมื่อกลับมาที่วังแล้วค่อยให้บ่าวรับใช้นำกลับมาส่ง ขอให้นายหญิงเดินทางโดยสวัสดิภาพ…”

รับเบี้ยหวัดเหม่ยเหริน

5000 อีแปะ


คนกำยำ สกิลพิเศษฝึกฝนยุทธ์

     +2 Point เมื่อ Level up ( LV. 22)  @@Admin 



แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 8032 ไบต์และได้รับ 3 EXP!  โพสต์ 2024-8-31 22:07
โพสต์ 8,032 ไบต์และได้รับ +2 คุณธรรม จาก พู่กันคัดอักษร  โพสต์ 2024-8-31 22:07
โพสต์ 8,032 ไบต์และได้รับ +2 ความชั่ว +2 ความโหด จาก คนกำยำ  โพสต์ 2024-8-31 22:07
โพสต์ 8,032 ไบต์และได้รับ +2 คุณธรรม +2 ความโหด จาก ชุดเหวินเฉิน(เหม่ยเหริน)  โพสต์ 2024-8-31 22:07
โพสต์ 8,032 ไบต์และได้รับ +2 คุณธรรม +2 ความโหด จาก ผีผา  โพสต์ 2024-8-31 22:07

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1เหรียญอู่จู +5000 ย่อ เหตุผล
Watcher + 5000

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
นักสู้
บทสวดมนต์ฉบับคัดลอก
บาดเจ็บสาหัส
พู่กันคัดอักษร
ชุดเหวินเฉิน(เหม่ยเหริน)
ผีผา
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x5
x1
x18
x3
x3
x7
x8
x2
x3
x4
x4
x1
x2
x3
x5
x1
x3
x18
x1
x5
x3
x1
x1
x5

1

กระทู้

14

ตอบกลับ

202

เครดิต

คนสร้างตัว

พลังน้ำใจ
92
ตำลึงทอง
49
ตำลึงเงิน
54
เหรียญอู่จู
4648
STR
5+3
INT
1+0
LUK
0+0
POW
2+0
CHA
0+0
VIT
2+2
คุณธรรม
0
ความชั่ว
0
ความโหด
0
โพสต์ 2024-9-4 23:53:24 | ดูโพสต์ทั้งหมด
วันที่ 07 เดือน 08 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 10 | เวลา : 13:00




หลังจากส่งราชโองการเสร็จตนก็รีบกลับมาตำหนักจงฉางชื่ออย่างรวดเร็ว ระหว่างทางเดินสวนเหล่าขันทีรุ่นเดียวกัน ตนก็เหยียดหลังตรงได้อย่างผ่าเผย ข่าวที่ตนเป็นผู้นำราชโองการไปตำหนักพระสนมคงลือกันไปในเหล่าขันทีนางกำนัลแล้วตลอดทางจึงไม่มีใครกล้าเดินขวางทางตน เมื่อเข้าไปยังกลางตำหนักตนก็คุกเข่ารายงาน

"เรียนกงกงข้าน้อยกลับมาแล้วขอรับ"

"อืมม แล้วเรื่องนั้นล่ะ" จางกงกงวางถ้วยชาในมือลง จ้องมาที่ตนด้วยสายตาเฉียบคม

"เรียนกงกง พระสนมบอกว่าจางกงกงไม่ต้องห่วงพระสนมยังคงจดจำจางกงกงไว้เสมอ" เขาพูดจบก็รีบหลบสายตาก้มตัวตํ่าลงไปอีก เรื่องนี้ไม่สามารถแพร่งพรายได้ถ้าเขาไม่อยากตายต้องพูดให้น้อยเข้าไว้ สงครามในวังหลังอย่าว่าแต่ก้าวขาเข้าไปเลยแค่สอดมือเข้าไปมือก็ขาดได้ แต่ผลประโยชน์ก็ล่อใจซะเหลือเกิน



"เจ้าจำไว้ขันทีที่ดีคือขันทีที่เก็บความลับอยู่ เจ้าไม่ใช่คนโง่เรื่องใดที่ไม่ควรเอ่ยก็จงเงียบให้เหมือนคนตาย" จางกงกงพูดด้วยสีหน้าเย็นชามือก็ลูบไปที่ด้ามกระบี่ที่แขวนไว้


"ข้าจะจำคำสอนของกงกงไว้ให้ขึ้นใจ จะปิดปากไว้ราวกับคนตาย" พูดจบก็หมอบลงไปกับพื้นด้วยสีหน้าที่ซีดเซียว


"ดี ส่วนนี่รางวัลของเจ้า เมื่อไม่มีอะไรแล้วก็ไปได้ถ้ามีงานให้เจ้าทำข้าจะเรียกมาเอง" จางกงกงโบกมือไล่เขาก็รีบไปรับรางวัลของตนเมื่อเห็นตำลึงทองในถุงก็ยิ้มอย่างพอใจแล้วแทบติดปลีกพุ่งออกจากตำหนักทันที


5 ตำลึงทอง

, +15 บารมี , +35 EXP

ความโปรดปรานจากจางกงกง+35







แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-11] จางกงกง เพิ่มขึ้น 35 โพสต์ 2024-9-5 01:23
คุณได้รับ 35 EXP โพสต์ 2024-9-5 01:23
โพสต์ 4749 ไบต์และได้รับ 1 EXP!  โพสต์ 2024-9-4 23:53

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1ตำลึงทอง +5 พลังปราณ +15 ย่อ เหตุผล
Watcher + 5 + 15

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
หมวกไผ่ผ้าคลุม
คนแข็งแรง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x18

1

กระทู้

14

ตอบกลับ

202

เครดิต

คนสร้างตัว

พลังน้ำใจ
92
ตำลึงทอง
49
ตำลึงเงิน
54
เหรียญอู่จู
4648
STR
5+3
INT
1+0
LUK
0+0
POW
2+0
CHA
0+0
VIT
2+2
คุณธรรม
0
ความชั่ว
0
ความโหด
0
โพสต์ 2024-9-6 17:01:41 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย WeiBin เมื่อ 2024-9-6 17:03
20 เดือน08 รัชศกเจี้ยนหยวนปีที่10 09:00

ผ่านราว 2 สัปดาห์ตนก็โดนเรียกตัวมาที่ตำหนักแห่งนี้อีกครั้ง รอบนี้ขันทีที่เฝ้าหน้าประตูสุภาพกับตนมากขึ้นลางสังหรณ์ตนบอกว่าเรื่องดีๆกำลังวิ่งเข้ามา คิดได้ดังนั้นก็รีบจัดเสื้อผ้ากับหมวกให้เรียบร้อยก่อนจะเดินเข้าไปด้วยอารมณ์ที่เปี่ยมล้น เมื่อเข้าไปถึงตนก็รีบคุกเข่าทำความเคารพคำนับพอเป็นพิธี

"ข้าน้อยอยู่นี่กงกงมีอะไรล้วนสั่งการมาได้เลย"

จางกงกงเงยหน้ามามองที่ตนก่อนจะคลี่ยิ้มออกมาแล้วให้สัณญาณตนให้รีบลุกขึ้น "ข้าเรียกเจ้ามาด้วยเพราะข่าวดี ฝ่าบาทให้ข้าจัดหาขันทีไปรับใช้พระสนมลู่เฟย ข้าดูแล้วเจ้าคือคนที่ใช้การได้ที่สุดทั้งเคยเชิญราชโองแต่งตั้งให้พระสนม ข้าจึงจะสนับสนุนเจ้าในครั้งนี้"


ตนทั้งตื่นเต้นและดีใจทำงานตำแหน่งเดิมมาเกือบสิบปีในที่สุดเวลาของเขาก็มาถึง "ข้าน้อยจะไม่ลืมบุญคุณของกงกงครั้งนี้ จะขอใช้ชีวิตตอบแทนกงกงให้ได้"

จkงกงกงเมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่ลืมตัวก็ยิ้มออกมาทั้งกล่าวกำชับ "ต่อไปนี้นายของเจ้าคือพระสนม จงรับใช้ด้วยความซื่อสัตย์อย่าให้เสื่อมเสียชื่อเสียงมาถึงข้าที่สนับสนุนเจ้า" เมื่อพูดจบจางกงกงก็เชิญราชโองการที่วางไว้บนโต๊ะมาประกาศ


"ด้วยโองการฟ้า จักนพรรดิเห็นความมุมานะและขยันขันเห็นของเว่ยปินกงกง จึงมีพระเมตตาเลื่อขั้นเว่ยปินขึ้นดำรงตำแหน่งหัวหน้าขันทีประจำตำหนักตงเฉิน คอยปรนนิบัติดูแลช่วยแบ่งเบาภาระงานในตำหนักช่วยเหลือลู่ซูเฟย จบราชโองการ"

"เว่ยปินรับราชโองการ" พูดจบก็หันหน้าไปทางทิศตำหนักเว่ยหยางแล้วก้มคำนับ"กระหม่อมขอบพระทัยฝ่าบาท"




จางกงกงยิ้มออกมาแล้วพยุงตนขึ้น "ต่อไปนี้ก็ดูแลตัวเองให้ดีอยู่กับพระสนมก็อย่าทำตัวเด่นเกินไปในวังหลวงอันตรายกว่าที่เจ้าคิดเยอะ

"ขอบคุณกงกงที่ชี้แนะข้าจะปรนนิบัติพระสนมสุดความสามารถ"

"ดีงั้นเมื่อเจ้าไปที่ตำหนังตงเฉิน ก็ถือโอกาสเชิญราชโองการอีกสองฉบับไปด้วย"


ตนรับราชโองการจากมือจางกงกงมาแล้วเก็บลงกล่องอย่างดี ก่อนจะคำนับอีกครั้งแล้วเดินออกไป


แสดงความคิดเห็น

welcome to Dong chen gong ka  โพสต์ 2024-9-6 18:31
โพสต์ 5674 ไบต์และได้รับ 3 EXP!  โพสต์ 2024-9-6 17:01
โพสต์ 5,674 ไบต์และได้รับ +2 คุณธรรม +2 ความโหด จาก หมวกไผ่ผ้าคลุม  โพสต์ 2024-9-6 17:01
โพสต์ 5,674 ไบต์และได้รับ +2 ความชั่ว +2 ความโหด จาก คนแข็งแรง  โพสต์ 2024-9-6 17:01
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
หมวกไผ่ผ้าคลุม
คนแข็งแรง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x18

1

กระทู้

14

ตอบกลับ

202

เครดิต

คนสร้างตัว

พลังน้ำใจ
92
ตำลึงทอง
49
ตำลึงเงิน
54
เหรียญอู่จู
4648
STR
5+3
INT
1+0
LUK
0+0
POW
2+0
CHA
0+0
VIT
2+2
คุณธรรม
0
ความชั่ว
0
ความโหด
0
โพสต์ 2025-5-17 21:41:58 | ดูโพสต์ทั้งหมด
16 เดือนห้า เจี้ยนหยวนศกปีที่ 11 ช่วง9โมงเช้า


     เว่ยปิน โดนขันทีเรียกตัวมาแต่เช้า หลังจากทำตัวขี้เกียจไร้ตัวตนในตำหนักตงเฉินมานาน เมื่อเดินเข้าไปก็พบจางกงกงยืดวาดภาพโดยมีขันทีชราคอยฝนหมึกให้

     "ข้าน้อยเสี่ยวเว่ยจื่อคาราะวะพ่อบุญธรรม"

      จางกงกงไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองตนแต่วางพู่กันลง แล้วพยักหน้าให้กับขันทีชราข้างๆ ขันทีชราก็วางแท่งหมึกแล้วเดินหายไปอย่างรวดเร็ว

      "ไม่ได้เจอกันนานข้าได้ข่าวว่าเจ้าเก็บตัวเงียบในตำหนักไม่โพล่หน้าพบผู้คน จนฝ่าบาทคิดว่าตำหนักตงเฉิงไม่มีขันทีประจำแล้วเสียอีก ทำงานกับลู่กุ้ยเฟยเจ้าลำบากมากเลยหรือ?"

      "เรียนพ่อบุญธรรมข้าน้อยที่เก็บตัวเงียบเพราะรูปร่างของข้าไม่ต่างอะไรจากศพเดินได้ กลัวจะทำให้พระสนมเสียหน้า"

      จางกงกงส่ายหน้าเบาๆก่อนที่ขันทีชราในตอนแรกจะเดินเข้ามาพร้อมถาด ที่มีศิรารูปร่างสวยงามทั้ง6ก้อนเรียงกันอยู่

      "ของสิ่งนี้เจ้านำไปมอบให้พระสนมแทนข้าบอกว่าเป็นของขวัญยินดีที่พระสนมให้กำเนิดพระโอรสและกงจู่น้อย"

      เว่ยปินรับถาดไว้ขณะที่กำลังจะจากไป

      " ท่าทีของพระสนมช่วงนี้เป็นอย่างไร"



      เว่ยปินหยุดชะงักก่อนจะเรียบเรียงทุกอย่างในหัวอย่างรวดเร็ว


      "เรียนพ่อบุญธรรม พระสนมอาจจะมีความครุ่นเคืองอยู่บ้างแต่ไม่ถึงกับเป็นศัตรูพ่อบุญธรรม"


      "อืม... เจ้าไปเถอะข้ามีอย่างอื่นต้องทำ"


      "บุตรขอลา"


[NPC-11] จางกงกง +5 ความสัมพันธ์สนทนาประจำวัน


แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-11] จางกงกง เพิ่มขึ้น 5 โพสต์ 2025-5-18 11:09
โพสต์ 4162 ไบต์และได้รับ 1 EXP!  โพสต์ 2025-5-17 21:41
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
หมวกไผ่ผ้าคลุม
คนแข็งแรง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x18
โพสต์ 2025-6-25 17:40:41 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ 25 เดือน 5 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11
ยามโหยว่ เวลา 17.00 - 19.00 น. ณ พระราชวัง ตำหนักจงฉางซื่อ

           เสียงฝีเท้าของหลินหยานั้นแผ่วเบาราวกับกลัวแม้กระทั่งเงาของตนเองจะดังเกินไปจนดึงดูดความสนใจที่ไม่ควรวจะมี นางเดินทอดเท้าขึ้นจากบันไดไม้สักที่ทอดตัวไปยังตำหนักจงฉางซื่อกลางวังหลวงด้วยจิตใจที่ถูกบีบอัดจนแทบจะกลายเป็นเถ้าธุลีดิน ฝ่ามือสองข้างกำชายเสื้ออย่างเคร่งเครียดจนเกิดรอบนับที่แม้จะเพิ่งรีดเรียบก็พลันยับย่นขึ้นมาใหม่ในทุกย่างก้าวที่นางก้าวใกล้ถึงตำหนักของเขา.. จางกงกง..เขาน่าจะเป็นใต้เท้าจางนั้นแหละ ผู้มองชีวิตของนางเหมือนหมากในเกมหนึ่งที่เขาไม่แยแสที่จะอธิบาย

           แต่ในขณะนั้นเอง..แผ่นดินอันเปี่ยมด้วยอำนาจกลับเบี่ยงเบนความสนใจของนางด้วยสิ่งเล็กน้อยที่สุด.. “เมี๊ยว ว ว" เสียงดังขึ้นจากพุ่มไม้ริมทาง..

           ดวงตาที่เคยหม่นมัวสั่นไหววูบหนึ่ง ก่อนที่นางจะเหลียวหันไปมองทางต้นเสียงด้วยใจเต้น ร่างกลมแน่นของแมวขนฟูสีเทาเงินขลับที่น่าจะเป็นแมวเจ้าถิ่นประจำวังหลวงเดินออกมาจากเงาไม้ มันตัวโตจนอุ้งเท้ากว้างเกือบเผ่าฝ่ามือของหลินหยา..ว่าไปนั้น อ้วนเพราะขนหรือเปล่าเจ้าตัวน้อย มันเอียงหัวมองนางราวกับเข้าใจ แล้วเดินตรงเข้ามาพลางถูตัวกับปลายชายเสื้อด้านล้างของหลินหยา..

           นางนิ่งงันราวกับถูกสะกดขณะที่แมวน้อย(?)ไถพุงอุ่นนิ่มกับขาของนาง แล้วส่งเสียงครางงึมงำจากในลำคอมัน เสียงที่นุ่มราวกับผ้าแพรไหมแสนสบาย กลิ่นตัวของมันหอมจาง ๆ จากสมุนไพรที่ใช้ไล่เห็บหมัด เป็นเจ้าถิ่นแน่ ๆ ที่มีคนดูแลอย่างดี มันมองเธอ..ไม่ถาม ไม่คาดหวัง และไม่อาจตัดสินนาง

           มือของหลินหยาในตอนนั้นอ่อนแรงยิ่งนัก แต่ก็ค่อย ๆ เอื้อมออกไปลูบหัวมันอย่างแผ่วเบา ขนของมันนุ่มลื่นกว่าผ้าห่มใด ๆ ที่เธอเคยซุกตัวลงไปในคืนที่เหน็บหนาวเสียอีก

          “เจ้าตัวเล็ก(?)...เหตุใดอ้วนกลมเช่นนี้กันนะ น้ำหนักเจ้ามันเกินตาชั่งไปแล้วกระมังนั้น”

           หลังจากพูดจบหลินหยาก็คุกเข่าลงท่ามกลางทางเดินกรวดหินสีขาวท่ามกลางวังหลวงอันกดอันราวเหล็กแหลมจ่ออกนางไว้ตลอดเวลา นางโอบรัดร่างอวบแน่นนั้นไว้แน่นจนตัวเองแทบจะฟังใบหน้างามที่ซีดเผือกของตนเองกับพุงกลม ๆ ของมัน..หลินหยาไม่ร้องไห้ ไม่มีเสียงสะอื้นหรือกระทั่งน้ำตาไหลออกมาแม้แต่หยดเดียว แต่กล้ามเนื้อทั้งตัวของนางสั่นไหวราวกับโลกกำลังจะพล่มลง และแมวอ้วนน้อยตัวนี้นั้นคือเสาเดียวที่เหลือให้นางยึดเกาะกลางวังหลวงที่ยิ่งใหญ่แต่อ้างว้างเหลือเกิน

           หลินหยาไม่ได้พูดอะไร ไม่เอ่ยคำขอบคุณมันด้วยซ้ำ แต่สติที่เกือบหล่นหายไปตลอดหลายวันพลันหยุดชะงัก ดั่งถูกแมวน้อยใช้อุ้งแท้าแตะไว้ที่ลำคอแล้วร้องถามทางสายตาว่า..ยังไหวอยู่ใช่ไหมท..

           และเมื่อหลินหยาเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ใบหน้านั้นไม่ได้อ่อนแอน้อยลงแต่อย่างใดเลยด้วยซ้ำ กลับกัน นางเงียบขึ้น เงียบแบบคนที่ใกล้บ้าอย่างเงียบงัน แต่นางกลับลุกขึ้นยืนอย่างมั่นคง ค้อมตัวให้แมวที่นั่งหอบดูเธอด้วยดวงตาคู่กลมโต แล้วหันหลังให้มัน เดินไปยังคำหนักจงฉางซื่ออย่างช้า ๆ เธอไม่ได้เข้มแข็งขึ้นหรอก แต่ตอนนี้มีอะไรให้กอดก่อนเดินต่อ แม้จะเป็นเพียงพุงนุ่ม ๆ ของแมวตัวหนึ่งมันกลับช่วยได้มากโข..

           ยามโหย่วคล้อยคำลงไปเรื่อย ๆ แสงอาทิตย์กระทบผ่านม่านทอไหมโปร่งบางจนเห็นเป็นลวดลายของฟ้าครามที่พาดพิงอยู่บนพื้นหินอ่อน ตำหนักจงฉาสงซื่อที่ทั้งกว้างและเงียบอย่างไม่น่าเชื่อ เงียบเสียจนได้ยินแม้เสียงขนนกในพู่พัดไหวแผ่วของขันทีเวรยาม

           หลินหยาก้าวเข้าสู่ตำหนักแห่งนั้นด้วยจิตใจที่นิ่งกว่าเดิม แม้รอยระทบยังคงเกาะกุมดวงตาของนาง แต่ท่าทีของนางกลับหนักแน่นขึ้นกว่าเดิม นิ่งมากขึ้น และคำนับด้วยอิริยาบถที่เปี่ยมไปด้วยความเคารพ แต่เย็นชาในคราวเดียวกัน “ข้าน้อยหลินหยา ขอคำนับจงฉางซื่อ” เสียงของนางไม่ไหวระริก หากแต่มิได้อบอุ่นเหมือนดั่งเคย เป็นความเรียบสงยที่กั้นด้วยระยะห่างของคนที่ไม่อาจไว้ใจได้อีกต่อไป..

           เสียงพู่กันที่ขีดลงบนเอกสารที่ยังไม่หยุดลงในทันที บนตั่งสูง จางกงกงในชุดขุนนางขันทีสีกลางแห่งตำแหน่งจงฉางซื่อยังคงจรดปลายพู่กันสลัดอักษรลงบนผืนกระดาษด้วยฝีมือที่ปราณีตและแน่วแน่ ใบหน้าของเขาเย็นชาในสายตาของหลินหยา แม้งดงามแต่กลับเฉยชา ริมฝีปากบางแนบสนิทเป็นเส้นตรง ไม่มีร่องรอยยิ้ม ไม่มีเสียงหัวเราะหรือกระทั่งการเอ่ยต้อนรับ และเขาก็เพียงพูดขึ้นโดยไม่เหลียวมอง

          “เจ้ามาช้ากว่าที่กำหนดไปหนึ่งเค่อ”

           พู่กันถูกชักขึ้นวางในแท่นกระเบื้อง เขายกผ้าเช็ดมืออย่างนุ่มนวล ก่อนที่จะลุกขึ้นยืนอย่างไม่รีบร้อน ร่างสูงโปร่งของขันทีอันดับสูงสุดของแผ่นดินนั้นกลับแผ่แรงกดดันไม่ต่างจากเสนาบดีใหญ่หรือนายทัพที่ยืนกลางทุ่งรบ เมื่อเขาหันมามองนาง นั้นแหละที่หลินหยารู้สึกสิ่งที่ต่างออกไปจากจางกงกงที่หอว่านหงเหริน..นั้นไม่ใช่คนที่เธอเคยแอบสงสัยว่าเขาเป็นใคร นั้นไม่ใช่คนที่กล่าวให้นางเล่นดนตรีให้เขาหลับตาฟังเบื้องหลังรอยยิ้ม

           ที่นี่ จางกงกงคือผู้ควบคุมขันทีทั้งวังหลวง ผู้ลมตัวตนของผู้คนใหากประวัติศาสตร์ได้เพียงขยับปลายพู่กัน เขาก้าวเข้ามาหานางช้า ๆ ขยับตามองนาง “เจ้าควรรู้..ว่าทุกยามที่สูญไปในวังหลวง มีค่าเกินกว่าตำลึงทอง” สายตาของเฉียบคมดั่งมีด ยากนักจะบอกว่าความเงียบที่ตามมานั้นคือความสงสารหรืออะไรอื่น

          “แต่ข้าถือว่าเจ้ามาแล้ว” เขาเอ่ย “เจ้าดูมีแรงขึ้นบ้างแล้วนี่หลินหยา..ข้าอยากเห็นด้วยตาตนเองว่าการส่งหมอหลวงและขันทีแพทย์ที่เก่งที่สุดนั้นไม่เสียเปล่าอะไร” เขาหยุดห่างจากนางสองก้าวเท่านั้น “ข้าหวังว่าเจ้าจะเริ่มเข้าใจบทบาทของตนเองในวังนี้มากขึ้นแล้วนะ”

           หลินหยานิ่งไป สายตาของนางแนบลงพื้นเล็กน้อย ยามเงยหน้าก็ยังคงรักษาท่าทีสงบเอาไว้ทั้งที่ภายในอกสั่นไหว “ขอขอบพระคุณท่าน..ที่เมตตาส่งทั้งหมอหลวงและขันทีแพทย์ที่เก่งที่สุด..ข้าจะไม่ลืม” น้ำเสียงของนางแห้ง แผ่วแต่ไม่อ่อนแรง..จางกงกงรู้ว่านั้นไม่ใช่คำพูดของเด็กสาวคนเดิมที่เคยส่งเสียงหัวเราะต่อหน้าเขาในหอว่านหงเหริน นี่คือเสียงของหญิงสาวที่ถูกเขาบีบจนเหลือเพียงเปลือกหุ้มของความภาคภูมิที่นางเป็น

           จางกงกงยังคงเงียบอยู่ครู่หนึ่ง เขาไม่ตอบรับคำขอบคุณ มีเพียงการปรายตามองต่ำมาที่มือของนางที่กุมกันแน่นจนข้อนิ้วขาวซีด ก่อนที่เขาจะหมุนตัวกลับไปราวกับไม่ต้องการเห็นมือของนางที่มีรอยแผลที่นางทำตัวเอง เขาหันไปหยิบผ้าห่อเล็ก ๆ บนโต๊ะ “นี่คือเบี้ยหวัดสำหรับเดือนนี้..และรายชื่อเวรรับใช้ตำหนักตงเฉิน อย่าทำให้ข้าผิดหวัง” แล้วเขาก็กล่าวประโยคหนึ่งด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย

          “สตรีอ่อนแอเป็นสิ่งที่ชายหนุ่มถวิลหา..แต่อย่าอ่อนแอจนโง่เขลานักล่ะ” ว่าเสร็จก็ส่งถุงเงินนั้นให้นาง ยามโหย่วยังคงคืบคลานผ่านตำหนักจงฉางซื่อ แสงแดดภายนอกทอดทาบแนบแน่นลงกับพื้นศิลา ในห้องโถงซึ่งอบอวลไปด้วยกลิ่นหมึกและกระดาษขุนนาง หลินหยายืนสงบงันอยู่เบื้องหน้าชายผู้ไม่หลงเหลือความเป็นมนุษย์ในสายตาของใครหลายคน..แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าภายใต้เปลือกแข็งที่แสนเย็นชาของชายตรงหน้า ยังคงมีความละเอียดอ่อนในแบบที่ไม่อาจคาดเดาได้เลยสักนิด

           “อย่าสำนึกตนว่าพิเศษนัก..มันจะทำให้เจ้ากลายเป็นเหยื่อเร็วกว่าที่เจ้ารู้ตัว” ปลายเสียงนั้นทิ้งไว้ด้วยความเงียบครู่หนึ่ง ก่อนที่จะเอ่ยประโยคที่สองอย่างเรียบเย็นแต่กลับฝังลึกในใจ “แต่ก็อย่าให้ใครคนอื่นมาเหยียบย่ำจนลืมว่าตนคือของใคร..นอกจากข้า

           หลินหยาสั่นสะท้าน..นางขมวดคิ้วช้า ๆ หัวใจบีบรัดตึงราวกับถูกบีบคั่นด้วยคีมเหล็กที่ร้อนฉ่า ทว่านางมิได้กล่าวตอบ เพียงแต่เงยหน้ามองเขาอยู่ครู่หนึ่งด้วยแววตาที่ซับซ้อนมากกว่าที่เคยมี ทั้งชิงชัง ทั้งสับสน ปละปฎิเสธไม่ได้ว่าบางอย่างในน้ำเสียงนั้น..ทำให้นางหยุดลง

           จังหวะนั้นมือที่ถือหอบผ้ากลับเริ่มรู้สึกว่ามันหนักแน่นกว่าที่หลินหยาคาดไว้เล็กน้อย น้ำหนักของมันไม่ใช่เพียงเหรียญอู่จูหรือเหรียญเงิน..แต่คือน้ำหนักของความรู้ว่านางอาจไม่ใช่นางกำนัลสามัญ จางกงกงนั้นกล่าวต่อเมื่อตนเองเดินกลับไปจรดปลายพู่กันนั้น “เบี้ยหวัดของเจ้า 20 ตำลึงเงินทุกเดือน..สำหรับไฉหนี่ว์ที่ข้ารับรอง” มือของเขาเขียนไปเรื่อย ๆ เหมือนไม่ได้มองนางแม้ครึ่งหางตาเพราะรู้สึกบางอย่าง แต่กลับเหมือนอ่านความคิดยางได้ทะลุทุกชั้น

           “และ 5 ตำลึงทอง..ส่วนตัวที่ข้าสัญญาไว้แล้ว ข้าย่อมรักษาคำ”

           หลินหยานิ่งไปนาน ริมฝีปากของนางเหมือนจะเม้มแน่นแต่ก็ไม่ได้ทำ ม่านตาหลุบต่ำลงอย่างสับสน หากเป็นหญิงสาวในหอว่านหงเหริน..หึ..ช่างมันเถอะ คิดอะไรไปก็ไร้ประโยชน์ ตอนนี้เงินก้อนนี้หนักกว่าหินผา มันคือราคาของคำขู่ ราคาของชีวิตพ่อแม่พี่น้องของนาง ราคาของการยอมจำนนต่อคนที่นางรู้ดีว่าคือผู้ลากนางลงสู่ขุมนรก แต่ที่เลวร้ายยิ่งกว่า มันคือยังมีด้านหนึ่งในใจหลินหยา ที่อยากใช้เงินก้อนนี้หนีไปจากที่นี่เสียเดียวนี้ ความรู้สึกนั้นทำให้นางขยะแขยงตัวเองยิ่งนัก..

           มือบางสั่นเล็กน้อยขณะถือหอบผ้านั้น แม้นางจะประคองไว้ด้วยความเคารพตามธรรมเนียม แต่น้ำหนักของมันยังคงบาดลึกเข้ามาในฝ่ามือ “ข้ารับไว้ตามเพราะท่านสั่ง..แต่ไม่ได้แปลว่าข้ายอมรับสิ่งที่ท่านทำกับข้า” คำพูดนั้นไม่ใช่คำพูดต่อต้าน หากแต่เป็นเพียงการย้ำเตือนว่าแม้นางจะยอมก้มหัวให้ ยอมทำตามคำสั่งของเขาแต่โดยดีราวกับตุ๊กตาชักใย แต่นางจะไม่มีวันลืมว่าตนเองถูกทำให้ต้องก้มหัวเช่นนี้ด้วยเหตุผลใด

           นางกงกงที่กำลังเขียนหยุดมือนั้นไปครุ่หนึ่ง เขาไม่ชายตามองนางแต่เหมือนราวกับคิดอะไรบางอย่าง “นั่นก็เพียงพอแล้ว” เขาไม่เอ่ยอะไรอีก

           มือของจางกงกงเริ่มขยับจรดพู่กันอีกครั้งบนกระดาษ ปลายนั้นสัมผัสผืนอย่างแผ่วเบาราวกับลมหายใจ ม่านตาของเขายังไม่แม้แต่จะละจากตัวอักษร ทว่าเมื่อสัมผัสได้ถึงความเคลื่อนไหวตรงหน้า ความเงียบก็ปกคลุมระหว่างทั้งสองราวกับหมอกจาง ๆ แห่งฤดูหนาว หลินหยาค่อย ๆ ขยับกาย มือขาวนวลงามของนางสั่นเล็กน้อยขณะล้วงเข้าไปยังช่องลับภายในกระเป๋าเจ็ดสมบัติ เส้นผมของนางที่ม้วนขึ้นเรียบร้อยตามระเบียบตำหนักไหวเบา ๆ ตามแรงสั่นของมือที่แอบมีความรู้สึก

           นางหยิบขวดสุราสีงามบรรจุขวดเซรามิกเคลือบลายงามออกมาเงียบ ๆ “นี่..เป็นเพียงการตอบแทนที่ท่านส่งหมอมาให้ข้า..ตามคำสั่ง” น้ำเสียงของนางนั้นไม่ได้อ่อนหวานแต่ก็ไม่ได้แข็งกร้าว เธอทำตามที่ท่านหมอบอก มันมีความหนักแน่นที่ซ่อนความระวังไว้จนแทบจับต้องไม่ได้ เหมือนยามเงื้อดาวที่ยังไม่รู้ว่าควรจะฟันลงไปหรือถอยกลับดี

           “สุราเซียนเมามาย..ของดีจากโรงเตี๊ยมชิงหมิงที่หายากนัก..ข้ารู้ว่าไม่คู่ควรให้ท่านเสียเวลาชื่นชม แต่มันเป็นของดีที่ข้าพอจะมอบให้ได้ ก็แค่หวังให้ท่านรับไว้..ตามที่ข้าสมควรตอบแทน” เธอก้มลงเล็กน้อย ไม่ถึงกับคำนับอย่างเป็นพิธี แต่ก็แสดงความเคารพในระดับหนึ่ง ทั้งจากใบจริง และจากสิ่งที่สถานะการณ์นั้นบีบบังคับ

           จางกงกงเงยหน้าขึ้นช้า ๆ ในที่สุด สายตคาคมเรียบเรียวงามวาบขึ้นชั่วขณะ เหมือนแสงมีดบางเฉียบที่สะท้อนจากขอบเหล็กแวววาวคมกริบ ความเคลื่อนไหวนั้นแทบไม่รู้ว่าเป็นความตะลึงหรือความระแวดระวัง แต่ไม่ว่าอย่างใด ความนิ่งในท่าทีของเขาไม่เคยหลุด เขามองขวดสุราดอกท้อที่ส่งมาเบื้องหน้าโดยไม่แตะต้อง ปลายริ้วเรียวยาวเพียงหยุดอยู่เหนือฝาบวดเล็กน้อย ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเบา ๆ ที่คล้ายจะบอกให้รับรู้ไว้..

          “เซียนเมามาย..นามงดงามนัก สุราดอกท้อจางชิงหมิง เถ้าแก่หลิวมักไม่ขายสุราให้ใครถ้าคิดว่าอีกฝ่ายไร้ค่าพอจะลิ้มมันได้” คำพูดนั้นลอยผ้านอากาศด้วยน้ำเสียงแผ่วราวกับสายลม แต่น้ำหนักของมันกลับแน่นลึกในอกตรมของนางเอง ดวงตาคมเหลือบมองหลินหยาไปชั่ววูบ ไม่ใช่สายตาเอ็นดู ไม่ใช่สายตารังเกียจ หากแต่เป็น..สายตาที่คล้ายอ่านความซับซ้อนภายในใจของนางทั้งหมด.. การข่มอารมณ์ ความระแวดระวัง ความเหนื่อยล้าและความกล้าหาญอันเงียบงันของนาง..หึ..

           เขายื่นมือไปรับสุรานั้นไว้ แม้ในท่าทางแล้วนั้นจะไม่ได้แสดงออกถึงความซาบซึ้งหรือแปลกใจ แต่ปลายนิ้วที่แตะขวดเซรามิกนั้นอย่างแผ่วเบานั้นกลับแฝงอะไรบางอย่างที่แปลกประหลาดนักสำหรับชายผู้นี้

           “ข้ารับไว้เพียงเพราะแม่นางรู้จักตอบแทน..” เขาวางขวดไว้ข้างเอกสารอย่างไม่ใส่ใจนักว่ามันจะหกหรือไม่ แต่แววตากลับบอกว่ามันจะไม่มีทางถูกลืมอย่างแน่นอน แล้วเขาก็กล่าวต่อแบบที่จางกงกงเท่านั้นที่จะพูดย้ำกับนางได้ “อย่าได้หวังว่าของกำนัลจะเปลี่ยนสิ่งใด แต่มันอาจเปลี่ยนความเร็วของลมหายใจใครบางคน ยามจะเลือกฆ่าหรือเปล่อยเจ้าไว้” มันคือคำเตือนหรือคำชมนางก็ไม่รู้แจ้งแน่ชัด

           หลินหยาคำนับอีกครั้ง สีหน้าไม่แสดงความกลัวเกินควร แต่ก็ไม่ได้กล้าหาญจนน่าชัง นางรับรู้ถึงหมากตัวหนึ่งที่กำลังเคลื่อนเข้าที่เข้าทางในกระดานของโลกใบนี้ แม้เธอจะไม่รู้ว่ามันจะถูกเล่นเพื่อผลประโยชน์ใดก็ตาม แต่นั้นไม่ใช่สิ่งที่นางจะโต้แย้งได้เลย

           “เช่นนั้น..ข้าขอตัวเพียงเท่านี้เจ้าค่ะ”






พรสวรรค์: ลาภลอย (ไม้)
มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่
อื่น ๆ: มาเอาเงิน ๆ เย่ เงิน ๆ นุมาเอาเงินนน

รางวัล: ค่าเบี้ยหวัดนางกำนัล 20 ตำลึงเงิน - เงินส่วนตัวจางกงกงให้ 5 ตำลึงทอง
+5 ความสัมพันธ์สนทนาทั่วไป [NPC-11] จางกงกง
หัวดี โบนัสเพิ่มความโปรดปราน+20
โบนัส ความสัมพันธ์พิเศษ (VIP) กับ NPC +10 แต้ม
โบนัส ความโปรดปราน NPC เผ่ามนุษย์ (ผู้มีบุญ) +20 แต้ม
มอบ สุราเซียนเมามาย สุราเกรดแดง ความสัมพันธ์ +20



แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-11] จางกงกง เพิ่มขึ้น 75 โพสต์ 2025-6-25 18:12
โพสต์ 35896 ไบต์และได้รับ 24 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-6-25 17:40
โพสต์ 35,896 ไบต์และได้รับ +10 EXP +25 คุณธรรม +20 ความโหด จาก กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)  โพสต์ 2025-6-25 17:40
โพสต์ 35,896 ไบต์และได้รับ +5 EXP +15 คุณธรรม +8 ความโหด จาก ผู้มีบุญ  โพสต์ 2025-6-25 17:40
โพสต์ 35,896 ไบต์และได้รับ +10 คุณธรรม จาก ทักษะนักดนตรีข้างถนน  โพสต์ 2025-6-25 17:40

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1ตำลึงทอง +5 ตำลึงเงิน +20 ย่อ เหตุผล
Watcher + 5 + 20

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ชุดทิวาเมฆาล่อง
โล่ไม้
วาสนาเซียน
ด้ายแดงแห่งโชคชะตา
แหวนดาราจรัส(D2)
ตำราอาหารลับของเสี่ยวจ้าวจื่อ
ยอดคีตศิลป์
ปราณกระเรียนขาว(ไม้)
ขลุ่ยพันธะในเงาศาลา
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x3
x16
x16
x16
x1
x49
x5
x27
x3
x10
x10
x2
x1
x3
x114
x5
x6
x6
x5
x7
x4
x4
x4
x21
x3
x159
x40
x41
x1
x5
x34
x11
x246
x1
x1
x1
x145
x5
x7
x66
x20
x6
x93
x149
x5
x209
x5
x50
x5
x85
x6
x208
x68
x75
x81
x4
x105
x5
x8
x4
x4
x14
x16
x9
x15
x69
x1
x1
x53
x55
x47
x16
x140
x10
x11
x11
x36
x9
x10
x4
x16
x60
x55
x2
x1
x104
x64
x9
x11
x215
x55
x28
x70
x78
x49
x5
x3
x128
x12
x10
x11
x5
x3
x3
x9
x5
x11
x3
x1
x6
x14
x10
x137
x70
x21
x11
x14
x48
x3
x1
x7
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้