1234
ตั้งกระทู้ใหม่ กลับไป
เจ้าของ: Watcher

[ทะเลสาบเยว่ปิงเหอ]

[คัดลอกลิงก์]
โพสต์ 2025-9-16 00:09:28 | ดูโพสต์ทั้งหมด
วันที่ 15 เดือน 9 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11
ยามเซิน เวลา 15.00 - 17.00 น.
╰┈➤ พบเจอเถียนเฟิง

แสงอาทิตย์ยามบ่ายสาดกระทบผืนน้ำกว้างของทะเลสาบเยว่ปิงเหอ เกิดเป็นประกายระยิบระยับคล้ายเกล็ดแก้วโปรยปรายไปทั่ว เสียงคลื่นเล็ก ๆ ซัดเบา ๆ ริมฝั่ง ช่วยขับบรรยากาศให้เงียบสงบและอบอุ่น เสียงนกร้องแว่วอยู่เหนือกิ่งไม้ที่ทอดเงาลงมาคลุมบางส่วนของทางเดิน ราวกับธรรมชาติกำลังบรรเลงบทเพลงอันอ่อนโยนให้ผู้คนได้พักพิง

เสวี่ยซียืนอยู่บนลานหินใกล้ ๆ ริมน้ำ วันนี้เขาเลือกสวมชุดผ้าแพรสีฟ้าอ่อนที่เพิ่งได้มาจากร้านซือโฉวเมื่อสองวันก่อน ผ้าพริ้วเบาสะบัดตามแรงลม ทุกครั้งที่เขาก้าวเดินปลายแขนเสื้อก็ดูคล้ายปีกนกโบยบิน นัยน์ตาอำพันสุกใสเงยขึ้นมองฟ้าคราม ก่อเกิดภาพที่ละมุนราวกับบทกวีที่ถูกแต่งขึ้นด้วยหมึกบนกระดาษขาว

"เจ้ายืนทอดสายตามองฟ้าอยู่ครู่ใหญ่ มีสิ่งใดในใจหรือ?"

เสียงทุ้มต่ำคุ้นเคยดังขึ้นจากด้านหลัง เถียนเฟิงเดินเข้ามาอย่างเงียบงัน แต่กลับแฝงด้วยอำนาจที่ยากจะละสายตาได้ เสื้อคลุมยาวสีเข้มของเขาถูกลมพัดปลิวเล็กน้อย ขับให้ร่างสูงสง่าเหมือนเงาภูผาที่ปกป้องทุกสิ่งไว้ด้านหลัง

เสวี่ยซีหันมามอง ก่อนจะส่งยิ้มบาง "ข้ากำลังคิดว่าหากไม่เคยมีเรื่องราวเลวร้ายใดเกิดขึ้น ชีวิตของข้าอาจเรียบง่ายกว่านี้" เขาพูดพลางก้มมองปลายนิ้วเรียวของตนที่เกลี่ยไปตามริ้วผ้า "แต่ก็น่าแปลก...เพราะเรื่องเลวร้ายนั่นเองที่ทำให้ข้าได้มายืนอยู่ตรงนี้ ได้พบกับท่าน"

เถียนเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย "เจ้าพูดเช่นนี้ ราวกับคิดว่าตนต้องขอบคุณความเจ็บปวดที่ผ่านมา"

"ไม่ใช่ขอบคุณ..." เสวี่ยซีหัวเราะเบา ๆ คล้ายจะล้อเลียนตนเอง "เพียงแต่หากปราศจากมัน ข้าก็คงไม่อาจยืนตรงนี้"

แววตาของเถียนเฟิงอ่อนลงอย่างที่เจ้าตัวไม่ทันสังเกต "ซีซี เจ้ามักจะทำให้คำพูดง่าย ๆ กลายเป็นคำที่กรีดลงในใจผู้อื่นเสมอ"

เสวี่ยซีทำทีไม่สนใจ กลับหมุนตัวเบา ๆ แขนเสื้อฟาดกับลม เส้นผมดำสลวยสยายออกตามแรงหมุน ราวกับกำลังร่ายรำท่าหนึ่งโดยมิได้ตั้งใจ เถียนเฟิงมองนิ่งไปชั่วครู่ หัวใจที่เคยสงบนิ่งเหมือนหินผากลับกระเพื่อมขึ้นตามภาพนั้น

"ท่านอยากเห็นข้าร่ายรำอีกหรือไม่?" เสวี่ยซีเอ่ยขึ้น น้ำเสียงแฝงความซุกซนเล็กน้อย ราวกับตั้งใจจะหยอกเย้าความสุขุมของเถียนเฟิง

"เจ้าคิดหรือว่าข้าจะปฏิเสธ" เถียนเฟิงตอบเรียบ ๆ แต่ดวงตาลึกซึ้งกำลังสะท้อนแสงระยิบจากผืนน้ำ เหมือนกำลังยอมรับว่าตนไม่อาจละสายตาไปได้

เสวี่ยซียกชายเสื้อขึ้นเล็กน้อย ก้าวขาเรียวออกช้า ๆ ท่ามกลางสายลมบ่าย เขาเริ่มขยับปลายแขน เสียงผ้าเสียดสีกับลมสร้างจังหวะอันแผ่วเบา ร่างบอบบางค่อย ๆ โยกไหวอ่อนช้อย ท่วงท่าคล้ายกลีบดอกไม้ที่ลอยไปตามสายน้ำ ทุกก้าว ทุกหมุนวน ต่างดึงดูดสายตาผู้ชมเพียงคนเดียวให้ลืมหายใจไปชั่วขณะ

เถียนเฟิงไม่เคยชินกับการมองใครแล้วใจเต้นแรงเช่นนี้มาก่อน เขาเคยเป็นต้าซือคงผู้ไม่หวั่นไหวต่อความงามหรือเล่ห์อุบายใด ๆ ทว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าเสวี่ยซี เขากลับรู้สึกว่าตัวเองเป็นเพียงชายคนหนึ่ง ที่กำลังถูกสายลมบางเบาโอบล้อมและล่อลวงเข้าสู่ห้วงฝัน

เมื่อจบการร่ายรำ เสวี่ยซีก็หอบหายใจเล็กน้อย แก้มขึ้นสีอ่อนจากแดดและแรงกาย เขาเดินมานั่งลงบนหินข้างเถียนเฟิงอย่างไม่เกรงใจนัก "วันนี้แดดแรง ข้าเหนื่อยนิดหน่อย"

"เจ้าร่ายรำได้งดงามกว่าทุกครั้งที่ข้าเคยเห็น" เถียนเฟิงเอ่ย น้ำเสียงหนักแน่นแต่จริงใจ

เสวี่ยซียกคิ้ว "ท่านชมเช่นนี้ ข้าจะเหลิงเอานะ"

"เหลิงก็ดี" เถียนเฟิงเอ่ยเรียบ แต่ในน้ำเสียงกลับอบอุ่น "ดีกว่าเจ้ามัวแต่หมกตัวอยู่กับความเจ็บปวดเก่า ๆ"

เสวี่ยซีหัวเราะเบา ก่อนหยิบห่อผ้าออกมา จากนั้นเปิดออกเผยให้เห็นบะหมี่ฉีซานที่ห่อมาอย่างดี และสุรานารีแดงในไหเล็ก "ข้าเตรียมมาให้ท่าน ลองชิมสิ"

เถียนเฟิงเลิกคิ้ว "เจ้าจำได้ว่าเมื่อวานข้าชอบบะหมี่ชนิดนี้"

"แน่นอน ข้าจำได้ทุกสิ่งที่ท่านชอบ" เสวี่ยซีตอบเสียงอ่อน พลางตักบะหมี่ส่งให้

ทั้งสองนั่งกินด้วยกันริมทะเลสาบ แสงแดดส่องกระทบไหสุราที่วางอยู่ข้าง ๆ กลิ่นหอมของบะหมี่ผสมกับกลิ่นสุราจาง ๆ คลอเคลียไปกับเสียงหัวเราะแผ่วของเสวี่ยซี ความอบอุ่นเล็กน้อยแผ่ซ่านรอบกายราวกับละลายความเย็นชาที่ปกคลุมหัวใจเถียนเฟิงมาตลอดหลายปี

เถียนเฟิงเอื้อมมือมาเช็ดหยดน้ำใสบนหางตาให้ "เจ้าอ่อนแอเท่าที่หัวใจเจ้าต้องการ ข้าจะเป็นกำแพงให้เจ้าได้พักพิง"


✎ +5 ความสัมพันธ์สนทนาทั่วไป [NPC-08] เถียน เฟิง
หัวดี โบนัสเพิ่มความโปรดปราน+20
✎ โบนัส ความสัมพันธ์พิเศษ (VIP) กับ NPC +10 แต้ม
✎ +25 ความสัมพันธ์ บะหมี่ฉีซาน + สุรานารีแดง (+20)
✎ โรลเพลย์พูดคุยประจำวัน: ได้รับความสัมพันธ์ +5 แต้ม
✎ ศาสตร์การร่ายรำ - ร่ายรำจีบ NPC ได้ +5 ความสัมพันธ์
เมื่อร่ายรำ 10,000 ไบต์: ผู้ชมได้ +5 EXP, คุณได้ +30 พลังใจ หรือ +5 คุณธรรม




แสดงความคิดเห็น

หัวใจกับเถียนเฟิงตัน 8 ดวง  โพสต์ 2025-9-16 02:52
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-08] เถียน เฟิง เพิ่มขึ้น 110 โพสต์ 2025-9-16 02:52
คุณได้รับ 5 EXP โพสต์ 2025-9-16 02:51
โพสต์ 15052 ไบต์และได้รับ 8 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-9-16 00:09
โพสต์ 15,052 ไบต์และได้รับ +2 EXP +10 คุณธรรม +6 ความโหด จาก พิมพ์นิยม  โพสต์ 2025-9-16 00:09

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังน้ำใจ +30 ย่อ เหตุผล
Watcher + 30

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ปิ่นปักผมหยกขาว
 มีดสั้นเงาจันทร์
ชุดวสันต์ลีลา
คัมภีร์ดาราศาสตร์ตงฟาง
โดดเด่นมีเอกลักษณ์
พู่กันดาราศาสตร์
แหวนหยกสลักนาม
ยาหยกบูรพา
พู่หยกสลักลายมังกร
กระบี่คู่สลักจันทรา
แหวนดาราจรัส(D)
เกราะทองแดง
อาภรณ์พร่ำพิรุณ (ช)
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x1
x40
x2
x7
x1
x2
x2
x1
x6
x1
x8
x2
x10
x7
x12
x26
x48
x8
x24
x24
x5
x2
x10
x1
x2
x12
x30
x21
x5
x6
x2
x1
x10
x5
x60
x90
x60
x5
x2
x120
x6
x17
x20
x2
x20
x2
x2
x2
x3
x2
x2
x3
โพสต์ 2025-9-18 04:45:15 | ดูโพสต์ทั้งหมด
วันที่ 18 เดือน 9 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11
ยามเซิน เวลา 15.00 - 17.00 น.
╰┈➤ พบเจอเถียนเฟิง

สายฝนโปรยลงมาอย่างอ้อยอิ่ง ราวกับม่านโปร่งสีเงินที่คลี่คลุมทั่วผืนน้ำเยว่ปิงเหอ เสียงฝนตกกระทบผิวน้ำดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอ กลายเป็นทำนองที่กล่อมใจให้ทุกสิ่งรอบกายแผ่วเบาลง

เสวี่ยซียืนอยู่บนศาลาริมน้ำ ผมดำยาวปรกแก้มเล็กน้อย เสื้อคลุมผ้าแพรบางถูกละอองฝนจับจนแนบไปกับร่างบอบบางเผยให้เห็นเส้นโค้งเว้าอันงดงามของเอวคอดกิ่ว รูปร่างผอมเพรียวคล้ายจะละลายหายไปกับสายฝน ราวกับภาพฝันที่เปราะบางพร้อมจะถูกชะล้างไปทุกเมื่อ

เขายกมือเรียวขึ้นแตะราวศาลา สายตาอำพันทอดมองไปยังทะเลสาบที่พร่าเลือนด้วยละอองฝน "โลกนี้ช่างกว้างใหญ่...แต่เหตุใดหัวใจข้ากลับแคบจนน่าอึดอัด" เสียงแผ่วคล้ายรำพึงกับตนเองมากกว่าพูดให้ใครฟัง

"เพราะเจ้ามักแบกทุกสิ่งไว้เพียงลำพัง"

เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นจากข้างหลัง เสวี่ยซีหันกลับมา พบเถียนเฟิงกำลังก้าวเข้ามาในศาลา เสื้อคลุมสีดำของเขาเปียกชื้นจากฝนบางส่วน แต่ยังคงความสง่างามและทรงอำนาจดุจเดิม

เสวี่ยซีเบือนหน้าหนีเล็กน้อย "ท่านมาที่นี่ทุกวันเชียวหรือ ข้ากลัวว่าทะเลสาบแห่งนี้จะเบื่อหน้าพวกเราเสียก่อน"

เถียนเฟิงปรายตามองชายหนุ่มตรงหน้า "หากทะเลสาบมีวิญญาณ มันก็คงยินดีที่ได้เห็นเจ้าอยู่ตรงนี้ทุกวัน เหมือนที่ข้าเป็น"

คำพูดเรียบง่ายกลับทำให้แก้มซีดของเสวี่ยซีขึ้นสีแดงระเรื่อ เขารีบเบี่ยงประเด็น "ฝนโปรยเช่นนี้...มันชวนให้ข้าคิดถึงอดีต นึกถึงความเปลี่ยวเหงาไม่มีใครเหลียวแล นอกจากเสียงฝนที่เป็นเพื่อน"

เถียนเฟิงเดินเข้ามาใกล้ ยกมือถอดเสื้อคลุมเปียกของตนออกคลุมไหล่เสวี่ยซีอย่างนุ่มนวล "จากนี้ไป หากเจ้าต้องการเพื่อน ข้าจะอยู่ตรงนี้ มิใช่เพียงเสียงฝน"

เสวี่ยซีชะงัก หัวใจเต้นแรงกับสัมผัสอบอุ่นที่โอบล้อมเขาไว้ สายตาอำพันวาวสะท้อนประกายแสงไฟจากโคมในศาลา "ท่านต้าซือคง ท่านไม่กลัวหรือว่าผู้คนจะนินทา ว่าท่านมัวเมาในรูปโฉมนายโลม"

"ข้าไม่ใช่เด็กที่จะใส่ใจคำพูดไร้สาระ" เถียนเฟิงตอบหนักแน่น "และเจ้า...ก็ไม่ใช่แค่ 'นายโลม' เจ้าคือเสี่ยวซีของข้า"

คำประกาศนั้นทำเอาเสวี่ยซีเม้มริมฝีปากแน่น น้ำใสเอ่อคลอ แต่ครั้งนี้มิใช่ความเจ็บปวด หากเป็นความอิ่มเอมที่ท่วมท้นจนยากจะกลั้นไว้

ทั้งสองนั่งลงเคียงกันในศาลา เถียนเฟิงหยิบไหสุราเซียนเมามายที่เตรียมมา เปิดฝากลิ่นหอมหวานคลุ้ง "ลองสิ อุ่นร่างกายได้ดีในวันฝนตก"

เสวี่ยซีรับถ้วยมา จิบเล็กน้อย รสสุรานุ่มลึกไหลลงคอ คลอเคลียด้วยความขมอ่อน ๆ เขาหลับตาพริ้ม "อืม ข้าก็คิดเช่นนั้น"

เถียนเฟิงมองใบหน้าบอบบางที่ยกถ้วยขึ้นอย่างสง่างาม ทั้งที่นิ้วเรียวสั่นเล็กน้อยเพราะอากาศเย็น เขาเอื้อมมือไปกุมไว้ "อนาคตของเจ้าจะไม่ซ้ำรอยอดีต ตราบใดที่ข้ายังอยู่"

เสวี่ยซีหัวเราะเบา แต่แฝงความซาบซึ้ง "ท่านชอบพูดประโยคที่เหมือนสัญญามากเกินไป ข้ากลัวว่าสักวันข้าจะเชื่อทุกคำจนหมดใจ"

"เชื่อเสียสิ" เถียนเฟิงตอบทันที น้ำเสียงเรียบแต่แฝงความหนักแน่น "เพราะข้าไม่คิดจะทำให้เจ้าผิดหวัง"

เสียงฝนโปรยยังคงดำเนินต่อ แต่ภายในศาลาริมน้ำกลับอบอุ่นจนละลายความหนาวเหน็บไปหมดสิ้น แสงโคมไหวริ้วสะท้อนเงาของทั้งคู่ที่นั่งชิดกัน


✎ +5 ความสัมพันธ์สนทนาทั่วไป [NPC-08] เถียน เฟิง
หัวดี โบนัสเพิ่มความโปรดปราน+20
✎ โบนัส ความสัมพันธ์พิเศษ (VIP) กับ NPC +10 แต้ม
✎ +25 ความสัมพันธ์ บะหมี่ฉีซาน + สุราเซียนเมามาย (+20)
✎ โรลเพลย์พูดคุยประจำวัน: ได้รับความสัมพันธ์ +5 แต้ม
✎ ศาสตร์การร่ายรำ - ร่ายรำจีบ NPC ได้ +5 ความสัมพันธ์
เมื่อร่ายรำ 10,000 ไบต์: ผู้ชมได้ +5 EXP, คุณได้ +30 พลังใจ หรือ +5 คุณธรรม


แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับ 5 EXP โพสต์ 2025-9-18 15:35
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-08] เถียน เฟิง เพิ่มขึ้น 100 โพสต์ 2025-9-18 15:34
โพสต์ 11689 ไบต์และได้รับ 8 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-9-18 04:45
โพสต์ 11,689 ไบต์และได้รับ +5 คุณธรรม +4 ความโหด จาก พิมพ์นิยม  โพสต์ 2025-9-18 04:45
โพสต์ 11,689 ไบต์และได้รับ +4 EXP +4 คุณธรรม จาก ยาหยกบูรพา  โพสต์ 2025-9-18 04:45

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังน้ำใจ +30 ย่อ เหตุผล
Watcher + 30

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ปิ่นปักผมหยกขาว
 มีดสั้นเงาจันทร์
ชุดวสันต์ลีลา
คัมภีร์ดาราศาสตร์ตงฟาง
โดดเด่นมีเอกลักษณ์
พู่กันดาราศาสตร์
แหวนหยกสลักนาม
ยาหยกบูรพา
พู่หยกสลักลายมังกร
กระบี่คู่สลักจันทรา
แหวนดาราจรัส(D)
เกราะทองแดง
อาภรณ์พร่ำพิรุณ (ช)
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x1
x40
x2
x7
x1
x2
x2
x1
x6
x1
x8
x2
x10
x7
x12
x26
x48
x8
x24
x24
x5
x2
x10
x1
x2
x12
x30
x21
x5
x6
x2
x1
x10
x5
x60
x90
x60
x5
x2
x120
x6
x17
x20
x2
x20
x2
x2
x2
x3
x2
x2
x3

1

กระทู้

91

ตอบกลับ

1161

เครดิต

ผู้ใฝ่รู้

พลังน้ำใจ
888
ตำลึงทอง
39
ตำลึงเงิน
114
เหรียญอู่จู
9349
STR
0+6
INT
0+1
LUK
0+5
POW
0+0
CHA
20+5
VIT
5+7
คุณธรรม
130
ความชั่ว
694
ความโหด
1563
โพสต์ 2025-9-19 17:32:08 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย JiTiandao เมื่อ 2025-9-19 17:34

วันที่ 19 เดือน 9 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11
เวลา 16.30 - 17.00 น.

แสงสุดท้ายของวันค่อย ๆ ละลายลงบนยอดไม้สูง หยาดทองของอาทิตย์คล้ายจะละลายกลืนเข้าไปในผืนน้ำ เยว่ปิงเหอยามเย็น ไม่ได้งามเท่าเวลาจันทร์เต็มดวง แต่ก็ยังงามเกินจะเป็นของมนุษย์

จี เทียนเต้าเดินลากเท้าเปล่าไปบนผืนดินเย็นเฉียบ มือซ้ายถือไม้สั้น ๆ ที่เขาเหลาเองเพื่อขุดไส้เดือนในโคลนริมตลิ่ง


“จะต้ม จะคั่ว หรือจะแค่ดูมันดิ้นดีล่ะวันนี้” เขาพึมพำกับตัวเอง เสียงหัวเราะแห้งแล้งดังลอดไรฟันที่หายไปหลายซี่ แต่ก่อนที่ปลายไม้จะจิ้มลงไปในโคลน เขาเห็นเงาเคลื่อนไหวในน้ำ เงาร่างของใครบางคน กำลังเคลื่อนไหวอย่างลื่นไหล ราวกับงูเงินในแอ่งน้ำ


จี เทียนเต้าชะงัก “อ่า คน”

ชายผู้นั้น ยืนอยู่กลางน้ำ น้ำลึกถึงต้นขา เปลือยท่อนบน ร่างกายขาวซีดแต่อ่อนแน่นด้วยกล้ามเนื้อสะอาดประณีต เส้นผมดำขลับเปียกแนบไหล่ แสงอาทิตย์สะท้อนผิวกายเขาราวกับสลักจากหยก

จี เทียนเต้าหลับตาแน่น แล้วลืมขึ้นอีกที แต่ภาพนั้นยังอยู่ ไม่หายไป เขาหลบหลังพุ่มไม้ ก้มตัวลงต่ำ สอดสายตามองผ่านช่องว่างของกิ่งไม้ หัวใจเขาเต้นตึกตัก ทั้งที่มันไม่เคยเต้นแรงอย่างนี้มานาน เขาไม่รู้ว่ากลัว หรือหิว


“นี่มัน เจ้า เจ้า ในฝัน หรือว่า”

แล้วทันใดนั้น ร่างนั้นก็หันหลังให้เขาก้าวขึ้นจากน้ำช้า ๆ น้ำไหลลู่ไปตามแนวกระดูกสันหลังที่เด่นชัด ดวงอาทิตย์หรี่แสงลงราวกับรู้ว่ากำลังมองในสิ่งต้องห้าม แต่จี เทียนเต้ามอง มองอย่างไม่กระพริบ เขาเห็นทุกเส้นสาย ทุกกล้ามเนื้อ และ มังกร ที่เขาไม่สมควรเห็น

ดวงตาของเขาเบิกกว้างอย่างคนจมน้ำ แล้วราวกับเสียงในหัวแตกออกเป็นพันเสียง

ไม่ ไม่ใช่แบบนี้ แต่มันคือเขา ใช่ไหม  ข้าแค่บังเอิญ ข้าแค่อยากดูเฉย ๆ ข้าก็เป็นแค่ ขี้ฝุ่น ทำไม มันต้องงามขนาดนั้น”

มือของจี เทียนเต้าสั่น เขาย่อตัวลงต่ำกว่าเดิม หายใจไม่เป็นจังหวะ เสียงในหัวกลับกลายเป็นเสียงหัวเราะ ของเขาเอง หัวเราะแผ่วเบาแต่เต็มไปด้วยความเคียดแค้น ผสมปนเปด้วยความอยากที่เขาไม่อยากยอมรับ แล้วเขาก็ยื่นมือไปแตะพุ่มไม้ตรงหน้า ลูบผ่านมันอย่างเชื่องช้า เหมือนคนละเมอ และแล้ว สิ่งที่ไม่ควรเกิดก็เกิด เขาทำบางสิ่งที่ไม่ควรทำ ทั้งที่รู้ตัว และก็รู้ว่ามันผิด

เมื่อเขาลุกขึ้นช้า ๆ หายใจหอบ หยาดเหงื่อเต็มหน้า คราบขาวบางอย่างถูกทิ้งไว้บนใบไม้ กลืนไปกับเงาเย็นชื้นของป่ารอบข้าง เขาไม่พูดอะไร  เขาเพียงแค่ยิ้มให้กับตัวเองในเงาน้ำ ยิ้มเหมือนเด็กเจอของเล่น หรือยิ้มเหมือนสัตว์ป่าที่เพิ่งกลืนอะไรบางอย่างเข้าไป


“เขางามจนข้าหายใจไม่ออกเลยล่ะ”


จี เทียนเต้าเงียบไปอึดใจ ก่อนจะหัวเราะออกมาเบา ๆ เหมือนคนเพิ่งตระหนักบางอย่าง

“แต่มือข้ากลับสั่น หัวใจข้ากลับเต้นแรง แปลกดีใช่ไหม ที่ร่างกายมันไม่ยอมเชื่อใจข้าเลย”

จี เทียนเต้าหัวเราะแผ่วเบา เหมือนเสียงลมที่ซัดผ่านต้นไม้ในค่ำคืนที่ไร้ดวงดาว ดวงตาที่แดงก่ำมองชายในน้ำด้วยความหลงใหลปนบิดเบี้ยวในใจแต่ในวินาทีนั้นเอง ร่างผอมแห้งก็ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว หลบหลีกเงาของต้นไม้ใหญ่ ราวกับภูตผีที่ไม่มีตัวตน เขาเดินถอยห่างออกไปจากทะเลสาบ โดยไม่มีแม้แต่เสียงฝีเท้าดังบนพื้นดินเปียกชื้น

ชายผู้เปลือยเปล่าค่อย ๆ ก้าวขึ้นจากน้ำอย่างช้า ๆ ผืนน้ำรอบตัวกระเพื่อมตามแรงก้าว ดวงตาเย็นชามองไปยังพุ่มไม้ที่จี เทียนเต้าเพิ่งหลบซ่อน

สายลมพัดผ่านกิ่งไม้ พลิ้วไหวเอาใบไม้แห้งและเศษหญ้าปรกปิดบางสิ่งบางอย่างไว้ เขาจับจ้องไปยังคราบสีขาวบางเบาที่ติดอยู่บนใบไม้ข้างพุ่มไม้ เหมือนมันไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ปรากฏอยู่ตรงนั้น ค่อย ๆ โน้มตัวลงไป มือเรียวสัมผัสคราบนั้นอย่างระมัดระวัง ก่อนจะมีรอยยิ้มบางเบาและลึกลับปรากฏขึ้นบนใบหน้า

“เจ้าคงไม่ใช่ภูตผี แต่ข้าก็พอเข้าใจเจ้าดี"





แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 11294 ไบต์และได้รับ 6 EXP!  โพสต์ 2025-9-19 17:32
โพสต์ 11,294 ไบต์และได้รับ +5 คุณธรรม +5 ความโหด จาก เอ้อหู  โพสต์ 2025-9-19 17:32
โพสต์ 11,294 ไบต์และได้รับ +2 EXP +4 คุณธรรม จาก พู่กันคัดอักษร  โพสต์ 2025-9-19 17:32
โพสต์ 11,294 ไบต์และได้รับ +5 คุณธรรม +4 ความโหด จาก น่ารัก  โพสต์ 2025-9-19 17:32
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กระบี่คู่สลักจันทรา
เกราะทองแดง
เครื่องรางไหมถักแห่งมิตรภาพ
มีดแล่เนื้อ
หมวกไผ่ผ้าคลุมดำ
พู่กันคัดอักษร
น่ารัก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x3
x1
x1
x1

1

กระทู้

91

ตอบกลับ

1161

เครดิต

ผู้ใฝ่รู้

พลังน้ำใจ
888
ตำลึงทอง
39
ตำลึงเงิน
114
เหรียญอู่จู
9349
STR
0+6
INT
0+1
LUK
0+5
POW
0+0
CHA
20+5
VIT
5+7
คุณธรรม
130
ความชั่ว
694
ความโหด
1563
โพสต์ 2025-10-1 20:19:57 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ 30 เดือน 8 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11

เวลา 08.00- 08.30 น.



แสงอาทิตย์ทาบลงบนผืนน้ำของทะเลสาบเยว่ปิงเหอ สายน้ำสว่างเรืองราวทองคำละลาย หิ่งห้อยนับร้อยบินวนอย่างเงียบงันในอากาศ ภูเขาล้อมรอบเงียบงัน คล้ายจงใจปิดหูไม่ฟังเสียงของโลก



ริมตลิ่งเงียบสนิท มีเพียงเสียงฝีเท้าแผ่วเบาของชายผู้หนึ่งจี เทียนเต้า ชายแก่หัวล้าน รูปร่างผอมแห้งจนเห็นซี่โครง เสื้อผ้าขาดรุ่ยจากการเร่ร่อนเครายาวรุงรังเหมือนไม่เคยแตะน้ำในมือของเขามีเพียงไหสุรากับไม้เท้า แต่ในหัวกลับเต็มไปด้วยเรื่องเล่ามากมายที่ไม่มีใครอยากฟัง



เขาหยุดยืนมองผืนน้ำอยู่พักหนึ่ง มุมปากยกยิ้ม เป็นยิ้มแบบคนที่ไม่รู้ว่าตนเองกำลังจะร้องไห้หรือหัวเราะ



“แม่น้ำสายนี้สะอาดพอจะล้างข้าได้ไหมนะ”เขาพูดกับตัวเอง พลางหัวเราะหึๆ เบาๆ



เขาวางไหสุราไว้ข้างหิน แล้วเริ่มปลดเสื้อผ้าออกอย่างช้า ๆ ถอดทีละชั้น ทั้งที่แทบไม่มีอะไรให้ถอดแล้ว ผิวหนังของเขาซีดเซียว เต็มไปด้วยแผลเก่าและรอยย่น นิ้วเท้าข้างหนึ่งหายไป ถูกตัดไปตั้งแต่ยังเป็นทารก แต่เขากลับยืดอกโชว์ร่างกายของตนอย่างภาคภูมิ เหมือนกำลังแสดงบนเวที เหมือนร่างนี้ยังมีใครเฝ้าดูอยู่



“เจ้าเคยบอกว่าข้าเซ็กซี่ตอนถอดเสื้อ”เขาพูดกับสายน้ำตรงหน้า แม้จะไม่มีใครตอบกลับ



จากนั้น เขาก็ค่อย ๆ ก้าวลงไปในน้ำปล่อยให้สายน้ำเย็นเฉียบไหลผ่านผิวหยดน้ำกระทบร่างที่สั่นไหวของชายชรา แต่เขากลับแหงนหน้ารับแสงอาทิตย์ ยิ้มเย้ยหยัน



“ข้าอาบให้เจ้าดูอยู่นะ เห็นหรือเปล่า”



มือหยาบกร้านค่อย ๆ ลูบไปตามลำคอ แผ่นอก แล้วหยุดอยู่ที่ข้างล่างของซี่โครง เขาลูบตัวเองด้วยท่าทางช้า ๆ ราวกับกำลังเชิญชวนสายตาที่ไม่มีอยู่จริงให้มอง



“เมื่อก่อนเจ้าชอบจ้องข้าตอนอาบน้ำใช่ไหม ฮ่าๆๆ ข้ายังจำสายตาเจ้าตอนนั้นได้เลย”



เขาหัวเราะ แต่ในเสียงหัวเราะนั้นแฝงความเหงาคล้ายเศษความสุขที่ยังหลงเหลืออยู่ในความทรงจำที่พร่าเลือน จี เทียนเต้าเอนตัวพิงโขดหินกลางน้ำยกขาข้างหนึ่งขึ้นพาดบนหินอย่างไม่แคร์สายลมท่วงท่าของเขาไม่มีความงามแบบชายหนุ่ม แต่กลับมีเสน่ห์บางอย่าง เสน่ห์ของคนที่ กล้าเปลือยความเจ็บปวดของตนต่อโลก เขายกมือแตะริมฝีปาก หลับตา แล้วพึมพำว่า



“ข้ายังจำรสจูบของเจ้าได้ แม้จะลืมไปแล้วว่าหน้าเจ้าหน้าตาเป็นยังไง”



น้ำในทะเลสาบไหลวนอยู่รอบตัวเขา หิ่งห้อยบินลงมาใกล้ร่างของเขา เหมือนจะฟัง เหมือนจะเข้าใจ ตอนนี้ ไม่มีใครอยู่ตรงนั้น ไม่มีใครเห็นท่าทางยั่วยวนอันประหลาดของชายแก่ไร้ชื่อเสียง ไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังอาบน้ำให้กับความทรงจำ ไม่มีใครได้ยินเสียงเรียกของเขาที่กระซิบกับผิวน้ำ



“เจ้าจะกลับมาดูข้าอีกไหม”



เขานั่งแช่น้ำอยู่นาน จนผิวเริ่มเหี่ยวแต่แววตาของเขากลับยังคงรอคอยรอคอยใครบางคนที่อาจไม่มีอยู่จริงหรืออาจเคยมีอยู่ แต่เลือกจะลืมเขาไปแล้ว


แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 9882 ไบต์และได้รับ 3 EXP!  โพสต์ 2025-10-1 20:19
โพสต์ 9,882 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] คุณธรรม +2 ความโหด จาก กระบี่คู่สลักจันทรา  โพสต์ 2025-10-1 20:19
โพสต์ 9,882 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] คุณธรรม +2 ความชั่ว +2 ความโหด จาก เกราะทองแดง  โพสต์ 2025-10-1 20:19
โพสต์ 9,882 ไบต์และได้รับ +2 EXP [ถูกบล็อค] คุณธรรม +2 ความโหด จาก เครื่องรางไหมถักแห่งมิตรภาพ  โพสต์ 2025-10-1 20:19
โพสต์ 9,882 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] คุณธรรม +2 ความชั่ว +3 ความโหด จาก มีดแล่เนื้อ  โพสต์ 2025-10-1 20:19
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กระบี่คู่สลักจันทรา
เกราะทองแดง
เครื่องรางไหมถักแห่งมิตรภาพ
มีดแล่เนื้อ
หมวกไผ่ผ้าคลุมดำ
พู่กันคัดอักษร
น่ารัก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x3
x1
x1
x1

1

กระทู้

91

ตอบกลับ

1161

เครดิต

ผู้ใฝ่รู้

พลังน้ำใจ
888
ตำลึงทอง
39
ตำลึงเงิน
114
เหรียญอู่จู
9349
STR
0+6
INT
0+1
LUK
0+5
POW
0+0
CHA
20+5
VIT
5+7
คุณธรรม
130
ความชั่ว
694
ความโหด
1563
โพสต์ 2025-10-2 00:28:06 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ 30 เดือน 8  รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11

เวลา 17.00 - 18.00 น.


ผืนป่าเขาฉินหลิงทอดยาวสุดสายตา ยามค่ำใกล้รุ่งฟ้ายังหม่นม่วง เสียงจักจั่นและสัตว์ราตรีขับขานคลอไปกับสายลมเย็นที่พัดผ่านยอดไม้สูงใหญ่ ลึกเข้าไปท่ามกลางแนวเขาสลับซับซ้อน มีทะเลสาบเล็กซ่อนเร้นอยู่กลางหุบเขา


เป็นดั่งอัญมณีล้ำค่าที่ธรรมชาติรังสรรค์ขึ้นเอง ทะเลสาบนั้นแตกสายมาจากแม่น้ำลั่วเหอที่ไหลม้วนผ่านหุบผา แล้วหล่อเลี้ยงแอ่งน้ำกลางเขาแห่งนี้ให้คงความใสเย็นอยู่ชั่วกาล


ผิวน้ำสงบนิ่ง ราวแผ่นกระจกส่องเงาฟ้าและไม้โดยรอบ แสงจันทร์ที่กำลังจะลาลับสาดต้อง เกิดเป็นประกายระยิบไหวละมุน สายน้ำบางส่วนยังไหลรินเป็นเกลียวเล็ก ๆ จากผาเหนือฝั่ง สร้างเสียงหยดน้ำดังติ๋ง ๆ ประหนึ่งบทดนตรีที่เทพสวรรค์เล่นกล่อมสัตว์ป่า รอบทะเลสาบขึ้นรกด้วยต้นไม้ใหญ่น้อยและหญ้าน้ำสูงชูยอด บางมุมมีดอกไม้ป่าเล็ก ๆ เบ่งบานท่ามกลางหมอกน้ำบางเบา


จี เทียนเต้าเดินโซเซเข้ามาด้วยเท้าเปล่า ร่างผอมซีด เสื้อผ้าขาดรุ่ยเปียกชื้นจากเหงื่อและละอองน้ำ เขาหอบหายใจพลางยกมือกวาดเครายาวที่ปรกอก ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ คล้ายคนค้นพบแดนลับของตนเอง


“ฮ่า…ที่นี่…นี่แหละ! บ่อน้ำอมตะ! สรวงสวรรค์มิได้ทอดทิ้งข้าเสียที!”


เขาโน้มตัวลงที่ขอบน้ำ มือสั่นเทายกน้ำใสตักขึ้นลูบหน้าลูบตา จนละอองน้ำเกาะพราวเต็มเครา ผิวน้ำสะท้อนใบหน้าแก่ชราที่หัวล้านซีดเซียว ปากแค่นยิ้มบิดเบี้ยว แววตาทั้งเศร้าและคลุ้มคลั่งในคราวเดียวกัน บางครั้งเขาหัวเราะเสียงดังสะท้านหุบเขา บางครั้งก็หยุดนิ่ง 


มองเงาในน้ำอย่างคนถูกสาปให้พูดกับตัวเองตลอดกาล


กลิ่นตัวอับเปรี้ยวที่ติดกายเขายังลอยคลุ้งปะปนไปกับกลิ่นดินชื้นและหมอกน้ำยามเช้า แต่สำหรับชายชรา กลับเสมือนกลิ่นแห่งชัยชนะ


กลิ่นของผู้ที่ยังคงมีชีวิตอยู่ท่ามกลางโลกที่ทอดทิ้ง เขาทอดกายลงกับโขดหินริมทะเลสาบ ปล่อยให้กลีบไม้และละอองหมอกคลี่คลุมร่าง ราวกับเจ้าของสถานที่นี้มานานแสนนาน


ทะเลสาบเล็กกลางป่าเขาฉินหลิง ยามนี้ไม่ต่างจากกระจกบานใหญ่สะท้อนความบ้า ความเหงา และความเพ้อฝันของผู้พเนจร 


จนยากจะตัดสินได้ว่า…สถานที่นี้คือแดนสวรรค์ของเซียนผู้ลึกลับ หรือเพียงที่หลบซ่อนของชายแก่ผู้ไร้ที่พึ่งที่ยังคงดิ้นรนหาความหมายให้ชีวิตอันโดดเดี่ยวของตน

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 11362 ไบต์และได้รับ 6 EXP!  โพสต์ 2025-10-2 00:28
โพสต์ 11,362 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] คุณธรรม +2 ความโหด จาก กระบี่คู่สลักจันทรา  โพสต์ 2025-10-2 00:28
โพสต์ 11,362 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] คุณธรรม +4 ความชั่ว +5 ความโหด จาก เกราะทองแดง  โพสต์ 2025-10-2 00:28
โพสต์ 11,362 ไบต์และได้รับ +4 EXP [ถูกบล็อค] คุณธรรม +4 ความโหด จาก เครื่องรางไหมถักแห่งมิตรภาพ  โพสต์ 2025-10-2 00:28
โพสต์ 11,362 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] คุณธรรม +4 ความชั่ว +5 ความโหด จาก มีดแล่เนื้อ  โพสต์ 2025-10-2 00:28
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กระบี่คู่สลักจันทรา
เกราะทองแดง
เครื่องรางไหมถักแห่งมิตรภาพ
มีดแล่เนื้อ
หมวกไผ่ผ้าคลุมดำ
พู่กันคัดอักษร
น่ารัก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x3
x1
x1
x1

1

กระทู้

91

ตอบกลับ

1161

เครดิต

ผู้ใฝ่รู้

พลังน้ำใจ
888
ตำลึงทอง
39
ตำลึงเงิน
114
เหรียญอู่จู
9349
STR
0+6
INT
0+1
LUK
0+5
POW
0+0
CHA
20+5
VIT
5+7
คุณธรรม
130
ความชั่ว
694
ความโหด
1563
โพสต์ 2025-10-2 02:38:32 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ 1 เดือน 9  รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11

เวลา 13.00 - 14.00 น.


สายลมยามบ่ายพัดผ่านยอดเขาฉินหลิง ทำให้ใบไม้สั่นไหวเป็นคลื่น เสียงน้ำซ่าเบา ๆ จากลำธารเล็ก ๆ ที่ไหลมาจากแม่น้ำลั่วเหอเบื้องบน ก่อตัวเป็น ทะเลสาบขนาดเล็กกลางป่าเขา ที่กว้างพอให้สะท้อนท้องฟ้าและเงาของต้นไม้โดยรอบ 


จี เทียนเต้าเดินโซเซมาถึงริมทะเลสาบ ร่างผอมแห้ง เสื้อผ้าขาดรุ่ย เครารุงรังปกคลุมใบหน้าและหน้าอก


น้ำในทะเลสาบใสสะอาดสะท้อนแสงแดดเป็นประกายดุจคริสตัล เขาหยุดยืน พลางก้มลงจิบน้ำใสจากลำธารมือสั่นเท้าโบกไปมา ก่อนจะยืนขึ้นอีกครั้ง สายตาลุกวาวมองทิวทัศน์รอบ ๆ 


เขาพูดคนเดียวด้วยเสียงแหบพร่า ราวกับสนทนากับทุกสรรพสิ่งรอบกาย


เขาก้าวไปตามชายทะเลสาบ พลางชี้ไปยังเงาสะท้อนในน้ำ เสียงหัวเราะแหบพร่าและคำพูดเพ้อคลั่งประสานกับเสียงลมและน้ำ


“ข้าจะเดินไปทั่วทะเลสาบแห่งนี้ ไม่มีสิ่งใดหยุดข้าได้ ความสูงของเขา ความลึกของน้ำ ทั้งหมดต้องรับรู้ความยิ่งใหญ่ของข้า”


บางครั้งเขาก้มลงจับน้ำขึ้นมาปล่อยให้ไหลลงสู่พื้น มือสั่นเท้าโบกเป็นจังหวะราวกับกำลังเล่นบทเพลงเพ้อคลั่ง น้ำกระเซ็นสะท้อนแสงแดดเป็นประกาย เสียงสะท้อนจากผิวทะเลสาบทำให้คำพูดของเขาดังก้องขึ้นไปตามผาหินและป่ารอบ ๆ


เขาเดินวนไปมารอบทะเลสาบ เสียงหัวเราะและคำพูดเพ้อเจ้อดังก้องสะท้อนกับผืนป่า กลายเป็นท่วงทำนองเพี้ยนประหลาดที่ไม่มีผู้ใดรับรู้ นกและสัตว์ป่าต่างเงียบงัน 


ราวกับพากันหลบซ่อนเพื่อไม่ให้พบชายแก่หัวล้านผู้หนึ่งที่เพ้อคลั่งอยู่กลางธรรมชาติ


ร่างผอมแห้งของเขายืนอยู่ริมทะเลสาบ มือยกขึ้นโบกไปมา ดวงตาลุกวาวเต็มไปด้วยความบ้าคลั่งและความสง่างามในสายตาตนเอง 


เสียงหัวเราะและคำพูดเพ้อของเขาแทรกปนกับเสียงน้ำและลม กลายเป็นบทเพลงแห่งความเพ้อคลั่งที่ทอดยาวไปตามผืนป่าและภูเขาโดยรอบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 10302 ไบต์และได้รับ 6 EXP!  โพสต์ 2025-10-2 02:38
โพสต์ 10,302 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] คุณธรรม +2 ความโหด จาก กระบี่คู่สลักจันทรา  โพสต์ 2025-10-2 02:38
โพสต์ 10,302 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] คุณธรรม +4 ความชั่ว +5 ความโหด จาก เกราะทองแดง  โพสต์ 2025-10-2 02:38
โพสต์ 10,302 ไบต์และได้รับ +4 EXP [ถูกบล็อค] คุณธรรม +4 ความโหด จาก เครื่องรางไหมถักแห่งมิตรภาพ  โพสต์ 2025-10-2 02:38
โพสต์ 10,302 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] คุณธรรม +4 ความชั่ว +5 ความโหด จาก มีดแล่เนื้อ  โพสต์ 2025-10-2 02:38
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กระบี่คู่สลักจันทรา
เกราะทองแดง
เครื่องรางไหมถักแห่งมิตรภาพ
มีดแล่เนื้อ
หมวกไผ่ผ้าคลุมดำ
พู่กันคัดอักษร
น่ารัก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x3
x1
x1
x1

1

กระทู้

91

ตอบกลับ

1161

เครดิต

ผู้ใฝ่รู้

พลังน้ำใจ
888
ตำลึงทอง
39
ตำลึงเงิน
114
เหรียญอู่จู
9349
STR
0+6
INT
0+1
LUK
0+5
POW
0+0
CHA
20+5
VIT
5+7
คุณธรรม
130
ความชั่ว
694
ความโหด
1563
โพสต์ 2025-10-2 04:44:28 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ 2 เดือน 9  รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11

เวลา 05.00 - 06.00 น.


แสงแรกของดวงอาทิตย์ลอดผ่านหมอกบางบน ทะเลสาบขนาดเล็กกลางป่าเขา ที่แตกสายมาจากแม่น้ำลั่วเหอ น้ำใสสะท้อนสีทองและเขียวของป่าเขาเบื้องล่าง 


ร่างผอมแห้งของ จี เทียนเต้า เดินโซเซเข้ามา เสื้อผ้าขาดรุ่ย เครารุงรังปลิวตามแรงลม เขาหยุดยืนที่ริมทะเลสาบ พลางหัวเราะคิกคักและพูดเพ้อคนเดียว


“ข้าเทียนเต้า…ข้าอยู่ที่นี่…กลางสายน้ำและป่าเขา…ข้าเป็นผู้บ้าคลั่ง แต่ยืนเหนือทุกสิ่ง ฮ่าๆๆ!” 


เสียงแหบพร่าของเขาก้องสะท้อนน้ำและผาหินรอบทะเลสาบ มือแกว่งไปมา ราวกับกำลังพยายามดึงสายน้ำให้ไหลตามจังหวะเพ้อคลั่งของตัวเอง


เขาเดินโซเซตามแนวริมทะเลสาบ มือสัมผัสใบไม้และหิน พลางพึมพำ


“เจ้าน้ำ…เจ้าหิน…เจ้าแมกไม้…ทุกสิ่งต้องฟังข้า ข้าจะเพ้อคลั่งกับเจ้า…ข้าจะรู้จักเจ้าทุกหยดทุกริ้วน้ำ ฮ่าๆๆ!”


บางครั้งเขาก้มลงจิบน้ำจากทะเลสาบ มือเปียก น้ำเย็นเฉียบกระทบผิว ร่างผอมสั่นสะท้าน แต่ดวงตาแดงกร่ำยังลุกวาวเต็มไปด้วยความเพ้อคลั่ง เขาเดินวนรอบทะเลสาบ โซเซไปตามเนินหิน 


เสียงหัวเราะและคำพูดเพ้อของเขาก้องสะท้อนป่าเขาเบื้องหลัง ทำให้ทะเลสาบและป่ากลายเป็นเวทีแห่งความบ้าคลั่งและความโดดเดี่ยว


เขาหยุดยืนที่ก้อนหินใหญ่ พลางเงยหน้ามองหมอกและแสงแรกของอาทิตย์


“ข้าเทียนเต้า…ผู้บ้าคลั่ง…ผู้ยิ่งใหญ่เหนือทะเลสาบและเขาฉินหลิง…ไม่มีใครเข้าใจข้า…ไม่มีใครหยุดข้า…ข้าจะเพ้อคลั่งตรงนี้ ฮ่าๆๆ!”


ร่างผอมแห้งโซเซไปมา มือแกว่งอากาศ พลางหัวเราะสะใจ เสียงเพ้อคลั่งและเสียงน้ำสะท้อนรวมกันเป็นท่วงทำนองบ้า ๆ ของชายแก่หัวล้านผู้หนึ่งท่ามกลางธรรมชาติยามเช้าและความเงียบสงัดของทะเลสาบกลางป่าเขา


แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 10000 ไบต์และได้รับ 3 EXP!  โพสต์ 2025-10-2 04:44
โพสต์ 10,000 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] คุณธรรม +2 ความโหด จาก กระบี่คู่สลักจันทรา  โพสต์ 2025-10-2 04:44
โพสต์ 10,000 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] คุณธรรม +2 ความชั่ว +2 ความโหด จาก เกราะทองแดง  โพสต์ 2025-10-2 04:44
โพสต์ 10,000 ไบต์และได้รับ +2 EXP [ถูกบล็อค] คุณธรรม +2 ความโหด จาก เครื่องรางไหมถักแห่งมิตรภาพ  โพสต์ 2025-10-2 04:44
โพสต์ 10,000 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] คุณธรรม +2 ความชั่ว +3 ความโหด จาก มีดแล่เนื้อ  โพสต์ 2025-10-2 04:44
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กระบี่คู่สลักจันทรา
เกราะทองแดง
เครื่องรางไหมถักแห่งมิตรภาพ
มีดแล่เนื้อ
หมวกไผ่ผ้าคลุมดำ
พู่กันคัดอักษร
น่ารัก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x3
x1
x1
x1
โพสต์ 2025-10-6 17:24:01 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ 04 เดือน 9 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11

ยามจื่อ เวลา 00.00 น. เป็นต้นไป ณ นอกเมืองฉางอัน ทะเลสาบเยว่ปิงเหอ


แสงจันทร์เต็มดวงลอยสูงเหนือผืนน้ำสงบนิ่งของทะเลสาบเยว่ปิงเหอ สายน้ำสีทองจากการสะท้อนแสงจันทร์พลิ้วไหวระยับราวผ้าซาตินบางที่สวรรค์ขึงไว้ให้โลกได้ชื่นชม รอบทะเลสาบมีหินเรืองแสงสีอ่อนกระจายเป็นระยะ ทำให้ทั้งพื้นที่ส่องประกายละมุนตาเหมือนอยู่ในห้วงฝัน กลิ่นดอกหลิวและพีชจากป่ารอบ ๆ ลอยแผ่วในอากาศผสมกับกลิ่นน้ำเย็นของภูเขา ฉากทั้งหมดงดงามราวกับบทกวีโบราณที่หล่นลงมาจากสวรรค์


เสียงเท้าม้าดังก้องเบา ๆ บนพื้นดินชื้น หลินหยาดึงบังเหียนให้ม้าปีศาจทมิฬเยวี่ยเหยียนหยุดชะงัก เธอไล้ขนมันอย่างอ่อนโยนก่อนลงจากอาน เสียงกระดิ่งเงินที่คอของม้าดังแผ่วตามจังหวะลม นางยืนนิ่งครู่หนึ่ง สูดกลิ่นอากาศกลางคืนเข้าปอดอย่างระแวดระวัง ความสงสัยกับความรู้สึกบางอย่างในอกสั่นระคนกันปนเป เหตุใดจางกงกงถึงเรียกให้มาที่นี่ในยามเที่ยงคืน ในสถานที่อันแสนเงียบงามแต่ชวนระแวดระวังเช่นนี้


เมื่อเดินเลาะตามแนวโคมกระดาษสีทองที่ลอยเรียงเป็นทางจนถึงริมทะเลสาบ ดวงตาของหลินหยาก็เบิกขึ้นเล็กน้อย ภาพที่เห็นทำให้หัวใจเธอเต้นแรงไม่เป็นส่ำ ชายผู้หนึ่งนั่งอยู่ตรงโต๊ะไม้ตั่งเตี้ยกลางลานหินขาวใต้ต้นหลิวห้อยระย้า เขาสวมอาภรณ์เรียบหรูสีเข้มขลิบเงิน ผมถูกรวบไว้เรียบร้อยแต่มีปอยบางเส้นหลุดคลอข้างแก้ม ใบหน้าที่ปราศจากหน้ากากครึ่งหน้าคุ้นตาอย่างเจ็บปวดนั้นนิ่งเรียบ มีเพียงแสงจันทร์ที่ทำให้ผิวของเขาดูเหมือนหยกสลัก เสียงสายลมพัดผ่านปลายผ้าคลุมบางของเขาทำให้เธอแทบลืมหายใจ


โต๊ะเบื้องหน้าเขาเต็มไปด้วยอาหารชั้นเลิศจัดเรียงอย่างประณีต ข้าวอบหอมหมื่นลี้ ปลานึ่งเหล้าขาว ผักกาดน้ำทอดกรอบ ซุปกระดูกซี่โครง และผลไม้ที่เธอชอบ ท้อ ทับทิม เมล็ดส้ม และผลไม้รสเปรี้ยวหวานฉ่ำน้ำทั้งหลาย ที่เธอหลงรักตั้งแต่ครั้งยังอยู่ร้านในตลาดตะวันออก แต่ที่ทำให้หลินหยาชะงักคือไม่มีอาหารที่เกี่ยวกับถั่วเหลืองแม้แต่ชิ้นเดียว รายละเอียดเล็กน้อยนี้บอกชัดว่าเขาจำได้ทุกสิ่งแม้แต่สิ่งที่ทำให้เธอแพ้ถึงตาย


ข้างโต๊ะมีเบาะนุ่มปูล้อมไว้ด้วยผ้าลินินสีอ่อน พับเป็นมุมให้เอนกายได้สะดวก โคมไฟดวงน้อยแขวนจากกิ่งหลิวเหนือศีรษะเปล่งแสงอบอุ่นแต่ไม่จ้า เงาแสงจันทร์สะท้อนบนผิวน้ำทอดผ่านม่านผมของเขา ดูคล้ายภาพในความฝันที่เคยพยายามลืมแต่ไม่เคยลืมได้จริง


เมื่อสายตาของจางกงกงเงยขึ้นพบกับนาง เขาไม่ได้พูดสักคำ เพียงผายมือเชิญให้มานั่งข้าง ๆ ที่เบาะอีกฝั่งที่จัดไว้ไม่ใช่ตรงข้ามแต่เคียงกันอย่างจงใจ สายตาของเขาเรียบนิ่งแต่มีบางอย่างแฝงอยู่ในนั้น ความนิ่งที่หลินหยารู้ดีว่าภายในอาจซ่อนพายุหลายลูกที่เธอไม่รู้จะหนีอย่างไร


หลินหยายืนนิ่งในแสงจันทร์นานกว่าที่ตั้งใจ ใจเต้นแรงจนรู้สึกเหมือนลมหนาวเริ่มไม่เย็นนัก นางค่อย ๆ เดินไปทีละก้าว ชุดสีอ่อนสะบัดเบา ๆ ตามแรงลม เงาของเธอและเขาเริ่มทาบกันยาวบนพื้นหินขาว เมื่อถึงโต๊ะหลินหยาชำเลืองอาหารกลืนน้ำลายเล็กน้อย “อาหารพวกนี้…” เสียงเธอเบาแต่ไม่กล้าขาด “ล้วนเป็นของที่ข้าชอบทั้งนั้น ท่านเตรียมไว้หรือเจ้าคะ”


จางกงกงเพียงเลื่อนสายตามาช้า ๆ ริมฝีปากขยับน้อยจนแทบไม่เห็น “เจ้าคิดว่าข้าจะให้คนอื่นเตรียมของที่เจ้ากินไม่ได้หรือ” เสียงของเขาเรียบแต่หากฟังลึกจะได้ยินแววอบอุ่นเจืออยู่ใต้ชั้นความเย็นนั้น เหมือนเหล็กที่เก็บความร้อนอยู่ภายใน หลินหยานิ่งไปก่อนวางมือลงบนเบาะอย่างไม่รู้ตัว แล้วนั่งลงข้างเขาห่างกันเพียงระยะฝ่ามือ


รอบทะเลสาบมีหิ่งห้อยเริ่มบินวนช้า ๆ เสียงน้ำกระทบหินดังแผ่วราวกับจะกล่อม ทั้งสองเงียบงันในความสงบงามนั้น เหมือนเวลาทั้งหมดหยุดอยู่เพื่อพวกเขาเท่านั้น เงาจันทร์เหนือผืนน้ำสะท้อนใบหน้าทั้งคู่จนดูคล้ายภาพคู่ในกระจกทอง และหากตำนานที่ผู้คนเล่ากันว่า ไม่มีคู่ใดมาที่เยว่ปิงเหอแล้วยังไม่ตกหลุมรัก เป็นจริง คืนนี้…คำสาปพรแห่งความรักนั้นก็คงกำลังเริ่มต้นอีกครั้งอย่างเงียบงัน ใต้แสงจันทร์สีทองที่ทำให้หัวใจของหลินหยาเต้นแรงเกินควบคุม


ลมกลางคืนพาไอเย็นจากผิวน้ำมาปัดชายผ้า หลินหยานั่งลงข้างเขาอย่างเก้ ๆ กัง ๆ แต่ก็ยังยกคางนิด ๆ รักษาฟอร์มแม่ค้าผู้สุภาพและขี้บ่นในบางครา จางกงกงเอนตัวเพียงเล็กน้อยกลิ่นกฤษณาอ่อน ๆ จากแขนเสื้อเขาลอยแตะจมูก “ข้าคิดว่าเจ้าจะมาช้ากว่านี้” เขาเอ่ยโดยไม่มองตรงส่งเสียงเรียบเย็นตามเคย


“ข้าขี่เยวี่ยเหยียนมาด้วยตนเองนะเจ้าคะ ถ้าช้าก็เสียชื่อสิเจ้าคะ” หลินหยาตอบ น้ำเสียงทำเป็นกล้าหาญ แต่ปลายนิ้วกลับกำชายผ้าแน่นอยู่ใต้โต๊ะ หัวใจเต้นระรัวจนเธอหงุดหงิดกับตัวเอง “ว่าแต่…ท่านนัดข้ายามจื่อที่ทะเลสาบนี่ ตั้งใจจะทำให้ข้าใจเต้นแรงใช่ไหมเจ้าคะ หากข้าตายเพราะหัวใจวายขึ้นมาใครจะชดใช้ค่าเสียหายให้ร้านข้า”


“ข้า” เขาตอบสั้น ตาคมกวาดมองหน้าเธอเพียงครู่เดียวก่อนวางตะเกียบลง “แต่ก่อนให้เจ้าใจเต้นแรงจนตาย…กินเสียก่อน” 


จานแรกถูกเลื่อนไปใกล้เธอ ปลานึ่งเหล้าขาวเนื้อขาวฉ่ำโรยขิงซอย จางกงกงคีบชิ้นกลางที่ไขมันเรียบเนียนที่สุดวางที่จานหลินหยาอย่างประณีต ราวกับกลัวตะเกียบจะบาดแผ่นหยก “ชิ้นนี้ไม่มีก้าง” เขากล่าวขณะมืออีกข้างยกกาน้ำอุ่นรินซุปกระดูกให้เธอ กลิ่นหอมหวานลอยขึ้นเธอเกือบเผลอพึมพำคำชม แต่ยั้งไว้เป็นบ่นเบา ๆ แทน “ก็ยังดีที่ท่านจำได้ว่าข้าไม่กินถั่วเหลืองนะเจ้าคะ ไม่งั้นได้เห็นคนเป็นลมคาโต๊ะแน่”


มุมปากเขากระตุกน้อยมากจนแทบมองไม่เห็น “ข้าจำมากกว่านั้น” ว่าพลางใช้มีดปลอกเปลือกผลทับทิมออกอย่างเชื่องช้า แกะเมล็ดทีละพวงด้วยความใจเย็นเกินฐานะจงฉางชื่อของเขา


หลินหยาเห็นดังนั้นก็กลอกตา “ท่านนี่…จะใจดีกับข้าไปถึงไหนกันนะเจ้าคะ ช่างน่าโมโหนัก” วาจาว่าโทษแต่หูกลับร้อนทั้งที่ลมเย็นนัก เธอพึมพำพลางคีบปลาชิมคำเล็ก ๆ ละลายในปากทันที “อืม…อร่อย” ก่อนเผลอคำชมหลุดปากแล้วรีบไอกระแอมกลบเกลื่อน “ก็…พอได้อยู่เจ้าค่ะ”


จางกงกงไม่ได้โต้ตอบเขาเพียงยื่นผ้าเช็ดปากผืนเล็กให้ เธอรับแบบกลัวมือจะสั่น หลังจากนั้นทั้งคู่กินเงียบ ๆ อยู่พักหนึ่ง เสียงน้ำกระทบหินและหิ่งห้อยตีวงเหนือผิวน้ำกลายเป็นฉากประกอบ เพลงเบาสุดที่โลกขับให้ “เรียกข้ามาทำไมกันแน่หรือเจ้าคะ” หลินหยาถามในที่สุด “อย่าบอกนะว่าแค่อยากเลี้ยงข้าว คนอย่างท่านไม่น่าจะสิ้นเปลืองเพราะเรื่องไร้สาระเช่นนั้นใช่ไหมเจ้าคะต้องมีบางอย่างที่ท่านอยากได้?”


เขาหยุดตะเกียบที่กำลังคีบอาหาร “เพราะเรื่องที่ไม่ไร้สาระต่างหาก…เจ้าควรได้กินให้อิ่มก่อน” ดวงตาเขาหันมาแตะนางเต็ม ๆ ครั้งแรก แสงจันทร์ทำให้มันคล้ายแววมีดที่ถูกอุ่นเหนือเตาถ่านคมแต่ไม่ทำให้เลือดเย็น “วันนี้เจ้าเหนื่อยมา ข้ารู้”


หัวใจหลินหยากระตุกข่าวของเธอมาถึงเขาเร็วเกินไปเสมอ “หากท่านรู้…แล้วทำไมไม่มาหาให้เร็วกว่านี้หรือเจ้าคะ บางครั้งท่านก็เงียบหายไปบางครั้งก็มาใส่ใจข้าทำข้าสับสนเก่งจริงนะเจ้าคะ” เธอเบือนหน้าแต่กลับเห็นจานเล็กที่เขาเลื่อนมาอีก เป็นผักกาดน้ำทอดกรอบราดซอสน้ำผึ้งดอกพลับ เมนูโปรดที่เธอเคยเผลอพูดยามเมื่ออยู่ด้วยกัน


“สับสนเพราะอาหาร หรือเพราะคน” เขาถามเรียบ ๆ

“ข้าคิดว่าทั้งสองเจ้าค่ะ” หลินหยาตอบตรงเกินกว่าที่นางตั้งใจ เป็นจังหวะที่จางกงกงหันมามองนางที่อยู่ข้างตัว “ท่านอย่ามองข้าแบบนี้สิเจ้าคะ…ข้าขี้เขิน เดี๋ยวข้างอนท่านจริง ๆ หรอก”


“งอนก็ยังมา เสี่ยวหยาเจ้านี่ดื้อนัก” จางกงกงเอ่ยก่อนที่เขาจะวางตะเกียบ หันกายเล็กน้อยให้ไหล่แตะกัน “เสี่ยวหยา…ข้าจัดการศึก จัดการคน จัดการความลับได้ทั้งวังหลวง แต่ข้ากลับจัดการเสียงหนึ่งในหัวไม่ได้…เสียงของเจ้า” ปลายประโยคนั้นเหมือนหินเม็ดเล็กตกลงกลางอก หลินหยาชะงักเมื่อได้่ยิน ทุกคราวที่เธอคิดว่ารู้จักความนิ่งของเขาดีพอ ก็จะมีแสงอีกชั้นหนึ่งฉายออกมาให้ตะลึงอีกครั้ง นางเงยหน้ามองแสงจันทร์แสร้งสูดลมให้คอโล่ง แต่หัวใจกลับเต้นรัวเหมือนเด็กโดนเรียกชื่อหน้าโรงเรียน


“เจ้าหายไปเป็นเดือน ให้ข้าคิดอย่างไรเสี่ยวหยา” เขาพูดช้า ๆ ชัด ๆ เหมือนจะให้คำแต่ละคำจารลงบนหิน “ข้ารู้ ว่าตอนนั้นข้าโมโหและโกรธแต่เจ้าช่วยรู้ตัวเองหน่อยได้ไหม ว่าเวลาเจ้าหายไป ข้าควบคุมมันไม่ได้” น้ำเสียงเขาไม่ดังนัก ทว่ามีน้ำหนักของคนที่ยอมถอดเกราะทิ้งตรงหน้าเธอ หลินหยากัดริมฝีปาก เธออยากบ่นว่าก็ใครใช้ให้ท่านมาทำให้ข้าคิดถึงก่อนกัน แต่พอเห็นเส้นเลือดจาง ๆ ตรงขมับเขาเต้นตามจังหวะใจ เธอกลับพูดไม่ออก มือบางจึงยื่นไปจับแขนเสื้อเขาเบา ๆ เพียงเท่าปลายนิ้วแต่สื่อว่ารับรู้ทั้งหมด


“ข้า…ไม่ได้ตั้งใจให้หายไปนานขนาดนั้นเจ้าค่ะ” หลินหยาค่อย ๆ เอ่ย เสียงยังมีเงาหยอก แต่ปลายประโยคสั่นนิด “ข้านิสัยแย่ ขี้บ่น ขี้งอนและดื้อด้วย…แต่ไม่ได้หนีท่านหรอกนะ”


เขามองนิ้วของนางที่แตะแขน จนเหมือนคิดจะเก็บสัมผัสนั้นไว้ในความทรงจำ แล้วเอ่ยขออย่างเงียบงามราวพิธีกรรม “คืนนี้…ข้าขอนอนพักบนตักเจ้า นอนดูดาวอย่างเรียบง่ายกับเจ้าสองคน ได้ไหม” คำว่าได้ไหม นั้นออกมาจากปากคนที่สั่งขันทีและนางกำนัลทั้งวังได้ด้วยประโยคเดียว ทำให้โลกเงียบลงจนได้ยินเสียงหิ่งห้อยกระพือปีก หลินหยาก้มหน้าเล็กน้อยเธอแก้มร้อนขึ้นทันที “ถ้าให้ข้านั่งเป็นหมอน ข้าจะคิดค่าจ้างเพิ่มนะ” เธอแกล้งยักคิ้ว “ชดเชยความเมื่อยล้า…และค่าเสียหายที่ท่านทำให้ข้าใจเต้นแรงเกินมาตรฐาน”


มุมปากของจางกงกงยกขึ้นน้อยมากแต่บ่งบอกอารมณ์ “บอกใบ้ตัวเลขมาสิเสี่ยวหยา ข้ายินดีจ่ายดอกเบี้ยตลอดชีพ”


“ท่านนี้นะ…ปากดีนัก” นางหัวเราะในคอก่อนดึงผ้าปูนุ่มข้างตัวมาปูให้เรียบ เอียงกายเล็กน้อยแล้วตบตักตัวเองเบา ๆ เป็นสัญญาณบอกอีกคน “มาสิเจ้าคะ แต่อย่ากดแรงนะ” เมื่อเห็นดังนั้นจางกงกงเอนตัวลงอย่างระมัดระวังอย่างคนคุ้นกับการไม่ฝากน้ำหนักไว้กับใคร เขาวางศีรษะบนตักเธอจนกลิ่นกฤษณาลอยอุ่นอยู่ในอากาศ หลินหยายกชายผ้านุ่มห่มอกให้เขาโดยไม่พูดอะไร ปลายนิ้วเรียวก็เผลอเกลี่ยปอยผมที่หลุดเคลียหน้าผากเขาให้เข้าที่ ช้าและเบากว่าทุกครั้งที่เธอชงชา


“หนักไหม” เขาถาม เสียงต่ำใกล้จนผิวหน้าขาของเธอสั่นตามคำถาม


“ไม่เลยเจ้าค่ะ” หลินหยาตอบ “หนักกว่านี้คือความคิดมากของข้าเองต่างหาก” แล้วเธอหลุบตา “ถ้าท่านจะ…อยู่เงียบ ๆ แบบนี้ต่ออีกหน่อย ข้าก็ไม่บ่น” เขาหลับตา รับคำเชิญของความเงียบอย่างวางใจ เสียงน้ำกระทบหินยังคงตีจังหวะสม่ำเสมอ หิ่งห้อยโค้งแสงผ่านเหนือศีรษะทั้งสองเป็นสาย ฝ่ามือของหลินหยาวางบนมือของเขาอย่างไม่รู้ตัวรับรู้จังหวะหายใจที่ค่อย ๆ ช้าลง จางกงกงยกมือขึ้น หยุดที่เหนือข้อมือเธอไม่รั้งไว้ แต่เพียงวางไว้เหมือนยืนยันว่านางอยู่ตรงนี้แล้วจริง ๆ


จางกงกงที่เอนกายอยู่บนตักของหลินหยา ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น ทอดสายตามองใบหน้าของนางที่กำลังมองดาวด้วยแววตาอ่อนโยน เขาไม่พูดอะไรอยู่ครู่หนึ่ง ราวกับกำลังกลั่นความคิดมากมายที่ปั่นป่วนอยู่ในใจออกมาให้เป็นคำพูดได้เพียงพอจะระบาย “ช่วงนี้ในวังไม่สงบเลย” เขาเริ่มต้นเสียงแผ่ว คล้ายคนที่ไม่ค่อยได้พูดถึงเรื่องในใจ “ฝ่าบาทยังไม่เสด็จกลับจากการเดินทางลงใต้…แต่มีเพียงกุ้ยเฟยที่ติดตามไปด้วย” 


เขาเว้นช่วงนิดหนึ่ง ดวงตาหงส์คมเฉียบหลุบต่ำ “พอไม่มีฝ่าบาทอยู่ทุกสิ่งในวังเหมือนพยับเมฆที่ซ่อนฟ้า เหล่าองค์ชายองค์หญิงต้องเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ เพื่อเตรียมรับหน้าที่ เหล่าขุนนางเองก็จับตากันไม่วางตาส่วนน้อยนักที่ไว้ใจได้…” เสียงของเขาแผ่วลงในตอนท้าย ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ “ข้าเฝ้าคิดว่าข้าชินกับความวุ่นวายพวกนั้นแล้ว แต่พอคืนนี้ได้นอนอยู่อย่างนี้ กลับรู้ว่าข้ายังมีบางสิ่งที่ทำให้ไม่อยากกลับเข้าไปอีกเลย”


หลินหยาเงียบฟัวเขาไม่กล้าพูดอะไรเพราะเธอรู้ดีว่าคำบ่นของจางกงกงนั้นแบกน้ำหนักสิ่งที่เขาต้องพบ เธอจึงเพียงเอื้อมมือไปจับมือของเขาเบา ๆ มือเรียวบางขาวเนียนวางทับลงบนฝ่ามือที่หยาบกระด้างและเย็นเยียบของคนตรงหน้าอย่างอ่อนโยน ราวกับจะบอกว่าไม่ต้องพูดก็เข้าใจ


จางกงกงกลับเป็นฝ่ายขยับก่อนเขากุมมือเธอไว้แน่นแล้วค่อย ๆ ยกขึ้นมาวางไว้กลางอกตนเอง “เสี่ยวหยา…” เสียงของเขานุ่มลงจนเกือบกลายเป็นเสียงกระซิบ “ขอบคุณนะ การมีเจ้าอยู่ตรงนี้ ทำให้ข้ามีช่วงเวลาที่ได้รู้ว่าตัวเองยังสัมผัสชีวิตอีกด้านได้ ด้านที่ไม่ต้องคิดถึงความตาย การทรยศ หรือแผนการใด ๆ ด้านที่ข้า… แค่เป็นคนคนหนึ่งเท่านั้น” คำพูดนั้นทำให้หลินหยาสะท้าน เธอเบิกตาขึ้น ดวงตาสั่นระริกเพียงชั่ววินาทีก่อนน้ำตาเอ่อขึ้นโดยไม่รู้ตัว เธอมองใบหน้าเขาที่ดูอ่อนลงกว่าทุกครั้งที่เคยเห็น จางกงกงในค่ำคืนนี้ไม่ใช่ขันทีผู้โหดเหี้ยมที่ทั้งวังเกรงกลัว แต่เป็นชายคนหนึ่งที่เหนื่อยล้าและต้องการพักใจในอ้อมแขนของใครสักคน


หลินหยาไม่รู้ว่าความกล้าจากไหน เธอยกมืออีกข้างขึ้นแตะใบหน้าเขา เกลี่ยเส้นผมที่ระไปตามหน้าผากให้เรียบ แล้วใช้นิ้วหัวแม่มือสัมผัสแก้มเขาอย่างแผ่วเบา “ท่าน…พูดแบบนี้ ข้าจะร้องไห้นะ ข้าไม่เคยคิดเลยว่าจะได้เห็นท่านพูดเรื่องแบบนี้กับข้า”


จางกงกงมองดวงตาเธอ ดวงตาที่สะท้อนแสงจันทร์และเงาน้ำ ริมฝีปากเขาโค้งขึ้นน้อยมากแต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นที่เขามีให้นางเพียงคนเดียว เขาเอื้อมมือขึ้นแตะปลายนิ้วเธอที่ยังสัมผัสแก้มของเขาไว้ แล้วใช้นิ้วหัวแม่มือเกลี่ยหยดน้ำใสที่ไหลลงมาตามข้างแก้มนั้นอย่างช้า ๆ “ข้าเคยบอกหรือไม่ ว่าใบหน้าเจ้าตอนมีน้ำตา…งดงามกว่าดอกท้อยามผลิบาน” เขาพูดพลางมองตรงเข้าตาเธอจนหลินหยาหลบไม่ทัน หัวใจของเธอเต้นแรงจนน่าตกใจ


“ท่านพูดบ้าอะไร…ล้อข้าหรือ” หลินหยาเอ่ยเบา ๆ ในขณะที่ใบหน้าเริ่มแดงเล็ก ๆ 


“ข้าไม่ได้ล้อเสี่ยวหยา” เขาพูดเสียงเรียบแต่จริงจัง “ข้าหมายความตามนั้นจริง ๆ น้ำตาของเจ้ามันเหมือนของจริงที่สุดในโลกนี้ ไม่มีเล่ห์ ไม่มีแผน… และข้าอยากเป็นคนที่ทำให้เจ้ามีมีน้ำตาและคอยเช็ดมันให้มันหายไป” หลินหยาก้มหน้าลงทันทีที่เขาบอก มือบางที่ยังแตะแก้มเขาอยู่เริ่มสั่น เธออยากจะตอบแต่คอแน่นเหมือนกลืนก้อนอะไรไว้ไม่ลง


จางกงกงมองเธออยู่อย่างนั้น แสงจันทร์อาบบนเส้นผมของหลินหยาเป็นประกาย เขายกมืออีกข้างขึ้นจับมือเธอที่ยังวางบนใบหน้าตนเอง แล้ววางริมฝีปากลงบนหลังมือนั้นอย่างเงียบงัน เป็นจูบที่ไม่มีไฟร้อน ไม่มีแรงบีบเพื่อตอกย้ำอำนาจมีเพียงความรู้สึกอบอุ่นของชายผู้เคยไม่รู้จักคำว่ารัก หลินหยาเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง น้ำตายังขังในหางตาแต่รอยยิ้มกลับปรากฏ เธอกระซิบเบา “ตอนนี้ข้ารู้สึกว่าท่านรักข้าจริง ๆ”


“ข้าเองก็เชื่อ…ว่าตลอดเวลาที่ข้าคิดถึงเจ้า มันไม่ใช่แค่เพราะหลงใหล แต่มันเพราะข้าไม่รู้จะอยู่ยังไงโดยไม่มีเสียงของเจ้า” และใต้แสงจันทร์สีทองอ่อน ทั้งสองคนเงียบอีกครั้งแต่คราวนี้ไม่ใช่เพราะไม่มีอะไรจะพูด หากเพราะคำพูดทั้งหมดได้กลายเป็นสิ่งเดียวกับลมหายใจที่ผสานอยู่เหนือผืนน้ำเยว่ปิงเหอ คืนนี้…ไม่มีอำนาจ ไม่มีศักดิ์ศรี มีเพียงชายผู้เคยถูกพรากความเป็นมนุษย์ กับหญิงผู้ทำให้เขากลับมารู้จักคำว่ามีชีวิตอีกครั้ง


“ท่านไม่จำเป็นต้องหวานกับข้าก็ได้…เป็นเพียงท่านอย่างที่ท่านต้องการ…แค่นี้ข้าก็มีความสุขที่ได้อยู่ข้างท่านแล้ว” เมื่อได้ยินแบบนั้นจางกงกงที่นอนอยู่ก็ค่อย ๆ ขยับตัวขึ้น ความนิ่งและเงียบหายไป เหลือเพียงแรงบางอย่างที่อัดแน่นอยู่ในอากาศ เขาเงยหน้า ดวงตาคมเข้มสะท้อนแสงจันทร์เหมือนเงามังกรที่กบดานใต้ผืนน้ำ เสียงของเขาแหบพร่าออกมาเป็นประโยคที่ทำให้เลือดในกายหลินหยาเย็นวาบ “เจ้าเคยคิดว่าข้าเป็นปีศาจ…” เขาเอ่ยช้า ๆ แต่ทุกคำหนักแน่นพอจะฝังลึก “แต่เจ้ารู้หรือไม่เสี่ยวหยา…รู้ว่าปีศาจตนนี้…มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่ครอบครองหัวใจมันได้”


เขาโน้มตัวลงมาช้า ๆ ใบหน้าห่างกันเพียงคืบ ลมหายใจอุ่นร้อนของเขากระทบผิวแก้มเธอราวกับไฟลูบ กลิ่นหอมจากกายนางกลิ่นผลไม้จาง ๆ กับกลิ่นชาหอมประจำตัวเธอตีกันจนรบกวนสมาธิของชายผู้เสียการควบคุมทุกครั้งเมื่ออยู่ต่อหน้านาง ดวงตาของจางกงกงค่อย ๆ ลากลงมาหยุดที่ริมฝีปากนาง แววตาไม่ใช่เพียงความปรารถนา แต่เป็นความหิวกระหายราวกับเขาเป็นนักล่าในเงามืดที่พยายามอดกลั้นตลอดมา


“เจ้าคือของข้า…หลินหยา…” เสียงเขาแผ่วลงเหมือนสัตว์ร้ายกำลังขู่ก่อนตะครุบเหยื่อ “ตั้งแต่ลมหายใจแรกที่ข้าได้เห็นเจ้า…และตลอดไป”


คำพูดสุดท้ายหายไปในระยะห่างนั้น เขาไม่รอให้นางตอบ ริมฝีปากบดเบียดเข้าหากันอย่างแรงจนลมหายใจของทั้งคู่พันกันเป็นหนึ่ง ลิ้นหนาสอดเข้าโพรงปากหวานเล็กที่มักจะจูบแต่คราวนี้กลับให้การจูบนั้นไม่เหมือนเคยเลย การจูบครั้งนี้ของเขาไม่ใช่ความอ่อนหวานของชายที่วอนขอความรัก แต่เป็นการกระโจนเข้าใส่เหมือนคนกระหายน้ำที่พบน้ำกลางทะเลทราย เป็นจูบที่ดูดลึก ดุดันเร่าร้อน และเต็มไปด้วยความต้องการที่เก็บซ่อนมาตลอด


มือใหญ่เลื่อนไปจับท้ายทอยของเธอ กดแรงขึ้นทีละน้อยให้ริมฝีปากนางไม่อาจขยับหนี ลิ้นหนาขยับเกี้ยวกับลิ้นเล็กของคนที่อยู่ในอ้อมแขนราวกับจะสลักความรู้สึกดึงรั้งเธอเข้ามาจนไม่มีช่องว่าง สัมผัสนั้นเหมือนจะผนึกเธอให้เป็นส่วนหนึ่งของเขาตลอดกาล เขาไม่ได้เพียงจูบหลินหยาสัมผัสได้ถึงแรงของคนที่อยากดูดกลืนลมหายใจและจิตวิญญาณของเธอเข้าไปในตัว หลินหยากระตุกนิดหนึ่งเมื่อถูกดึงแน่นขึ้น แต่ร่างกายกลับสั่นสะท้านอย่างไม่อาจเป็นไปตามความคิดของตนเอง ลิ้นเล็ก ๆ ขยับเข้าหา มือบางของแม่ค้าสาวกลับเลือกที่จะโอบกอดคนตรงหน้าแทนที่จะผลักออก 


แสงจันทร์ส่องลอดผ่านต้นไม้ตกต้องผิวทั้งคู่เป็นลวดลายสีเงินจาง ๆ เหมือนพยานเพียงหนึ่งเดียวในค่ำคืนนั้น จางกงกงจูบเธอราวกับจะเขียนคำสาบานลงบนริมฝีปาก จนไม่มีเสียงอื่นใดนอกจากเสียงหายใจที่สั่นและแรงเต้นของหัวใจทั้งสองที่โถมเข้าหากันไม่หยุดยั่ง…



พรสวรรค์: ลาภลอย (ไม้) 

มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่


อื่น ๆ: เมื่อไรแถวสองจะมากันนะ..อ๊าคคค หรือรอหมอต่อโจยจางกงกงหรอ?

ผมอยากโรลเรทแบบมีโจย..แม่งเอ้ย อยากมีผัวเป็นตัวเป็นตน!!

ทำยังไงดีนะ จางกงกงไม่มีโจย รอไปก่อนแล้วกัน ฮรุก ๆ

รักกันขนาดนี้แล้วง่ะ คุณพี่ช่วยใจดีกับทุกคนหน่อย หมาโบ้สักกะที โฮ๊ก ๆ ซึ้ง


รางวัล: คุยกับจางกงกงแบบเสมอต้นเสมอปลาย [NPC-11] จางกงกง


แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 73859 ไบต์และได้รับ 16 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-10-6 17:24
โพสต์ 73,859 ไบต์และได้รับ +1 Point [ถูกบล็อค] ความชั่ว +40 คุณธรรม จาก วาสนาเซียน  โพสต์ 2025-10-6 17:24
โพสต์ 73,859 ไบต์และได้รับ +1 Point +20 คุณธรรม จาก ด้ายแดงแห่งโชคชะตา  โพสต์ 2025-10-6 17:24
โพสต์ 73,859 ไบต์และได้รับ +10 EXP [ถูกบล็อค] ความชั่ว +25 คุณธรรม +20 ความโหด จาก แหวนดาราจรัส(D2)  โพสต์ 2025-10-6 17:24
โพสต์ 73,859 ไบต์และได้รับ +14 EXP [ถูกบล็อค] ความชั่ว +18 คุณธรรม จาก ตำราอาหารลับของเสี่ยวจ้าวจื่อ  โพสต์ 2025-10-6 17:24
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
วาสนาเซียน
ด้ายแดงแห่งโชคชะตา
แหวนดาราจรัส(D2)
ตำราอาหารลับของเสี่ยวจ้าวจื่อ
ยอดคีตศิลป์
ปราณกระเรียนขาว(ไม้)
ขลุ่ยพันธะในเงาศาลา
เกราะทองเทวะ
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x16
x16
x16
x30
x1
x30
x5
x27
x2
x10
x8
x10
x2
x1
x3
x114
x5
x5
x5
x5
x6
x4
x4
x4
x21
x1
x158
x20
x21
x1
x5
x34
x7
x246
x1
x1
x1
x145
x5
x6
x66
x20
x6
x93
x79
x5
x209
x5
x50
x5
x85
x6
x196
x55
x68
x78
x4
x105
x5
x8
x4
x3
x11
x9
x8
x15
x69
x1
x1
x5
x53
x42
x47
x16
x140
x10
x11
x10
x26
x9
x10
x4
x15
x60
x55
x2
x1
x95
x62
x9
x10
x167
x55
x28
x70
x78
x49
x5
x3
x120
x12
x9
x11
x5
x3
x3
x9
x5
x6
x1
x1
x6
x13
x8
x135
x70
x20
x11
x14
x48
x3
x1
x4
1234
ตั้งกระทู้ใหม่ กลับไป
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้