12
ตั้งกระทู้ใหม่ กลับไป
เจ้าของ: Watcher

อุทยานชุนเหอจิ่งหมิง

[คัดลอกลิงก์]
โพสต์ 2024-7-29 07:56:48 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย WeijiaLianhua เมื่อ 2024-7-29 07:59


อิจีเหม่ยเหริน อิคางคกขึ้นตั่งบัลลังภ์หงส์
วันที่ยี่สิบแปด ชีเยว่ เจี้ยนหยวนศกที่สิบ ต้นยามไฮ่ (21.30 น.)




     เสียงประหลาดแว่วดังเข้ามากระทบกับใบหูของสตรีผู้หมายมั่นนั่งซึมซับบรรยากาศยามราตรีกาลในคิมหันต์ฤดูจนต้องลืมตาขึ้นมาเพื่อมองหาต้นเสียงของมัน  เสียงที่นางได้ยลยินคือเสียงฝ่ามือกระทบเนื้อหนังอันคุ้นเคย ทั้งยังมีแว่วเสียงของการทะเลาะเบาะแว้งอย่างรุนแรงจนรบกวนการพักผ่อนอย่างถึงที่สุด

   แม้ว่าที่จริงในเวลานี้ไม่น่าจะมีผู้ใดมานั่งเล่นเช่นนางก็เถิด  ทว่าในอุทยานกลางดึกเช่นนี้ก็ใช่ว่าจะสามารถทะเลาะกันใหญ่โตเสียงดังน่ารำคาญได้

 "เป็นเพียงนังเหม่ยเหรินปลายแถว เจ้ากล้าดัดจริตชะม้อยชะม้ายชายตาหน้าขาวหน้าเทาเดินผัดผ่านไปมาอ่อยฝ่าบาทงั้นหรือ"

   "เจ้ากล่าวเกินจริงแล้ว" 

   "เกินจริงอย่างไร พวกข้าแลเห็นเช่นนี้  นับตั้งแต่เจ้าเข้ามาได้เป็นเหม่ยเหรินเลยทันทีคงไม่สำเนียกรากเหง้า"

   เอาแล้วเหวย...จะตบกันแล้ว

   เว่ยเจียเหลียนฮวาผู้ต้องการความสงบยิ่งกว่าสิ่งใดนั้นก็เดินไปตามเสียงสตรีทะเลาะกันเพื่อรับฟังข้อมูลให้มากขึ้น...และใส่ใจความเป็นไปของผู้คนมากขึ้น เห็นท่าทียังไม่ง้างมือนางก็รั้งรอไว้ก่อน  หากจะต้องช่วยเหลือผู้คน ก็ต้องช่วยตอนจวนตัว

   "อินังจีเหม่ยเหริน อินางคางคกขึ้นตั่งบัลลังภ์หงส์ ไม่เคยตระหนักเจียมเนื้อเจียมตัวของเจ้าเอง" สตรีผู้โมโหเป็นแกนนำของขบวนสตรีวังหลังราว ๆ สี่ห้าคนเอ่ยพร้อมกับจิ้มนิ้วที่หน้าผากมนของอีกฝ่าย "การกระทำของเจ้านั้นทำข้ารังเกียจราวกับเจ้ามาขี้ใส่ดวงใจข้า  ขี้เป็นก้อนไม่พอ ซ้ำร้ายยังเหลวเป็นน้ำ  จนมันชุ่มทั้งหัวใจ ข้ารังเกียจเจ้านัก นางตัวดี !!!!"

  อะไรน่ะ---

   ทว่าไม่ทันจะงุนงงดีก็ต้องเร่งฝีเท้าเข้าไปรั้งข้อมือบางของสตรีผู้สูงกว่า(ด้านร่างกาย)ไม่ให้ลงน้ำหนักตบตีซ้ำอีกครั้ง  เมื่อร่างบางของสตรีผู้สูงศักดิ์ที่สุดในบรรดาพระสนมยามนี้ปรากฎตัวขึ้น บรรดาพระสนมยศต่ำกว่านางก็พากันเร่งยอบกายถวายความเคารพ

  "ขอคาราวะเว่ยเจียเจี๋ยอวี๋เจ้าค่ะ"

   "เสียงดัง น่ารำคาญนัก ซ้ำร้ายยังมาตบกันอีก" สุรเสียงของสตรีทรงอำนาจเอ่ยออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายพร้อมกับปล่อยข้อมือของอีกฝ่ายให้เป็นอิสระ "ไหนเหม่ยเหมยทั้งหลายลองเอ่ยดูสิ ว่าหากเสียงของพวกเจ้ามันดังออกไปจะถึงหูผู้ใดบ้าง"

   ดวงตาที่เคยแสดงความเฉยชาอย่างเกียจคร้านก่อนหน้านี้ได้แปรเปลี่ยนเป็นความคมปลาบเฉือนเข้าไปในแก่นความรู้สึกหวั่นเกรงของสตรีทั้งหลาย  หากลองตริตรองดูให้ดี หนึ่ง สตรีผู้นี้พ่วงสกุลเว่ยเจีย สกุลของเจ้ากรมโยธาธิการ สอง สตรีผู้นี้ได้รับยศฐาอันสูงกว่า สาม นางได้รับความโปรดปรานมากที่สุดในยามนี้

   กับหวงตี้ที่เพียงเปรยตาก็หวั่นเกรงแล้ว นับว่าการได้รับความโปรดปรานเช่นที่มีข่าวลือจึงนับว่าไม่อาจมอบข้ามได้แม้เพียงนิดก็ตาม

   "ขออภัยเจ้าค่ะ  พวกเหม่ยเหมยเพียงต้องการสอนสั่งในฐานะพี่น้องร่วมวังก็เท่านั้น"

   "สอนสั่ง ? คำนี้ใช้สำหรับผู้ที่กระทำได้ดีกว่าหรือเปล่า ?  จากที่ข้าเห็น เจ้าก็ไม่ได้ดีเด่ไปกว่าจีเหม่ยเหรินเท่าใดนัก ซ้ำร้ายยังต้องไปทบทวนให้ดีว่าสิ่งใดของตนเองบกพร่อง"  นางเอ่ยพลางเอื้อมมือไปคว้าข้อมือของจีเหม่ยเหรินเอาไว้เพื่อตระเตรียมออกไปจากสถานการณ์น่ารำคาญนี้ "ครานี้ข้าไม่เอาความ  รับรู้เช่นนี้แล้วก็ไปให้พ้นเสีย"

   เหล่าพระสนมที่รังแกจีเหม่ยเหรินก็อันตธานภายในพริบตา  เหมืนอเพียงสองตรีท่ามกลางแสงจันทร์  เหลียนฮวาหันมาถามคนข้างกายว่านางเป็นอะไรหรือไม่แล้วก็ได้พบกับรอยฟกช้ำมากมาย  ดวงใจนางพลันปวดหนึบมาดื้อ ๆ นึกอยากตบพวกนั้นเสียสักสองทีให้เจ๊ากันไป

   "ไม่เป็นไรหรอกเจ้าค่ะเว่ยเจียเจี๋ยอวี๋  เหม่ยเหมยชินเสียแล้ว"

   "ไม่เป็นไรอย่างไร ชินอย่างไร เรื่องพวกนี้ควรชินชาหรือ" ร่างบางเอ่ยไปพลางหยิบตลับยาทาส่วนตัวมาไล่ทาบริเวณเนื้อตัวที่นางพอมองเห็น "นางเหล่านั้นคือคน เจ้าก็คือคน ทุกคนล้วนเท่าเทียม เช่นนั้นแล้วอย่าด้อยค่าตนเอง และอย่าให้ผู้ใดด้วยค่าเจ้า เพราะเจ้าคือคน อย่างน้อยแล้วต่อให้ในสายตาผู้อื่นเจ้าจะกลายเป็นสตรีโง่เง่าเพียงใด  ทว่าจงคิดเพียงแค่ว่าคนที่เจ้าให้ความสำคัญยังคงแลเห็นเจ้าคือสิ่งล้ำค่าก็พอ"

  "และจงจำไว้เสียว่า ผู้ที่สำคัญที่สุดมิใช่ใครที่ไหน แต่เป็นตัวเจ้าเอง"

   เหลียนฮซาเอ่ยจบก็ทาร่องรอยบอบช้ำครบพอดี  มือบางยัดตลับยาทาเข้าในมือของสตรีตรงหน้าเพื่อให้นางได้เก็บไว้ใช้ในภายภาคหน้า

   "เรือนพักเจ้าอยู่ไหน ประเดี๋ยวไปส่ง"

   แล้วก็จบวันนี้ด้วยการที่นางไปส่งจีเหม่ยเหรินที่เรือนพักและตรงกลับตำหนักของตนเอง

   

  







+ ประลองสู้ (ตบตี) สร้างความหวาดเกรงต่อสนมคนอื่น +20 บารมี
ข่มสนมคนอื่นได้ไหมคะบารมีน่ะ

@Admin 
เมื่อไหร่ผมจะได้เจอฟูจวินที่แท้จริงของดวงใจผม รักนะคะ หว่ออ้ายหนี่ ซารางเฮโย ฉางซานเซียนหวาง

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 16929 ไบต์และได้รับ 9 EXP!  โพสต์ 2024-7-29 07:56
โพสต์ 16,929 ไบต์และได้รับ +5 EXP +5 คุณธรรม +5 ความโหด จาก ชุดฉิงโหรว
(เจียยวี่)
  โพสต์ 2024-7-29 07:56
โพสต์ 16,929 ไบต์และได้รับ +4 คุณธรรม +4 ความโหด จาก กู่เจิง  โพสต์ 2024-7-29 07:56
โพสต์ 16,929 ไบต์และได้รับ +3 EXP +10 คุณธรรม +6 ความโหด จาก คนใฝ่รู้  โพสต์ 2024-7-29 07:56

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังปราณ +20 ย่อ เหตุผล
Watcher + 20

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
พัดบุปผาบานจันทร์เพ็ญ
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ยอดคีตศิลป์
อัจฉริยะ
กระบี่
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
แหวนดาราจรัส(D)
พู่กันคัดอักษร
ชุดเหวินชิงฮวาเฟิน(เสียนอี๋)
หมวกไผ่ผ้าคลุม
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x10
x7
x70
x50
x10
x1
x40
x12
x33
x5
x42
x9
x40
x43
x1
x269
x2
x5
x2
x1
x163
x2
x2
x1
x11
x6
x1
x21
x33
x12
x2
x1
x19
x10
x5
x6
x3
x20
x4
x2
x11
x15
x134
x4
x3
x2
x247
x10
x4
x238
x6
x64
x33
x1
x50
x105
x67
x33
x152
x6
x17
x81
x16
x10
x21
โพสต์ 2024-8-9 06:41:54 | ดูโพสต์ทั้งหมด

ยามเหลียนฮวาเบ่งบาน
วันที่เจ็ด ปาเยว่ เจี้ยนหยวนศกที่สิบ
กลางยามอู่ (12.00 น.)




     จากตำหนักเถียนเซี่ยสู่อุทยานหลวงเหอจิ่งหมิง แม้ว่านางกำลังจะไปเข้าร่วมรับประทานอาหารเที่ยงกับโอรสสวรรค์อย่างไร ทว่าในหัวน้อย ๆ ของนางกลับกำลังครุ่นคิดถึงต้นไม้ประดับในงานเพียงเมียงมองต้นไม้ทั่วไปของอุทยาน นางที่กำลังจมในความคิดจำต้องกลับมาสู่ปัจจุบันเมื่อภาพตรงหน้าได้ปรากฎศาลาเคียงข้างจื่อเถิงฮวาต้นใหญ่คุ้นตาและมีโอรสสวรรค์ทรงประทับอยู่ก่อนหน้าแล้ว

   “ถวายพระพรหวงตี้ ขอทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นปี หมื่นหมื่นปี”

   “ลุกขึ้นมานั่งเสีย”

   สุรเสียงเอ่ยขึ้น ร่างบางก็ไม่ทัดทาน ฝ่าบาทพยักหน้าเพียงนิดส่งสัญญาณมือให้เหล่าขันทีและนางกำนัลว่าจงออกห่างไปเสียแล้วก็กลับมาสนใจสตรีตรงหน้าที่พระองค์เชิญมาเอง ทางเหลียนฮวาเมื่อเงยใบหน้าขึ้นเดินมานั่งโต๊ะสำรับก็แลเห็นว่ามีอาหารทะเลมากมายทว่าหนึ่งอย่างที่อย่าน้อยนางอยากรับประทานมานานและได้เอ่ยให่ตระเตรียมตั้งแต่ยังก่อนเข้านอนจึงทำให้อาหารอื่นที่ใกล้ยามอู่ยังพอรั้งรอยกเลิกได้ แต่อาหารถ้วยนี้ทำเสร็จไปเสียแล้วจึงต้องยกมาถวายองค์หวงตี้ด้วยเลย

   “ทูลฝ่าบาท หม่อมฉันเรียนแจ้งห้องเครื่องไปว่าต้องการหม้อไฟแปดเซียนจึงเอ่ยให้ตระเตรียมตั้งแต่ก่อนยามซื่อ ครานี้จึงถือโอกาสยกมาถวายร่วมโต๊ะคู่กับสุราเบญจมาศกับฝ่าบาทเพคะ”

   นางพยักหน้าให้จ้าวหนิงเฟยวางถ้วยหม้อไฟกับไหสุราก่อนที่นางกำนัลขั้นสูงผู้นี้จะรู้งานว่าต้องก้าวออกห่างตามสัญญาณมือของฝ่าบาทก่อนหน้านี้ เหลียนฮวาไม่รอช้าจัดการรินสุราใส่จอกยกให้ฝ่าบาทเป็นการปรนนิบัติที่นางทำมาเดือนหนึ่งแล้วก็เริ่มจะคุ้นชินกับการเป็นสาวใช้ผู้ใดสักคนในคราบภรรยา

   “เจ้าพักทานอาหารดี ๆ เถอะเสียนอี๋ เจิ้นได้ยินมาแล้วว่าเจ้าทำงานหนักเหลือเกิน”

   “ทำงานหนักอย่างไรกันเพคะ หม่อมฉันได้รับความช่วยเหลือตั้งมากมาย” นางเอ่ยพลางเปรยยิ้มจาง

   “ผู้ใดช่วยเหลือบ้างเล่า ฉางซานเซียนหวางหรือ ?”

   “เพคะ องค์หวางเย่มาช่วยเหลือหม่อมฉํนตั้งแต่เช้าจนค่ำมืดเชียว นับว่าเป็นความกรุณามากล้นที่หวางเย่ทรงช่วยเหลือเพคะ”

   “เจ้าดูสนิทสนมกับฉางซานเซียนหวางนะ”

   “ทูลฝ่าบาท หากนับตามศักดิ์หม่อมฉันย่อมเป็นพี่สะใภ้ เขาเป็นน้องสามี หากนับตามธรรมดาแล้วหม่อมฉันถือว่าเป็นสหายที่ช่วยเหลือเสมอผู้หนึ่ง การสนิทสนมไว้ในขอบเขตที่เหมาะสมล้วนไม่เสียหายเพคะ”

   ทว่าขอบเขตนั้นจะพังทลายหรือไม่ ใครเล่าจะหยั่งรู้

   ฝ่าบาทได้แต่คิดอยู่ภายใน หากเอ่ยว่าหวงก็คงจะกระไรอยู่ในเมื่อสตรีตรงหน้าเป็นภรรยาของเขา แม้ไม่อาจเอ่ยขานว่าเป็นภรรยาหลวง ทว่าก็เป็นภรรยาผู้สูงศักดิ์ที่สุดทั้งยังมีฐานะมากพอจะยืนในวงสังคม ไหนเลยจะไม่เคยครุ่นคิดเรื่องแต่งตั้งใด ๆ ทว่าก็เพียงครุ่นคิดเพราะความวุ่นวายทั้งปวงนั้นยังอยู่ในขอบเขตที่จัดการได้ การวางนางไว้เช่นเดิมต่อไปจึงเป็นเรื่องที่ถูกต้องสำหรับพระองค์ในยามนี้

   ทว่าต่อจากนี้ก็ไม่อาจหยั่งรู้ได้แล้ว

   “หลิวเช่อ”

  
“เพคะ ?”

   “เมื่อครั้นเราอยู่กันอย่างส่วนตัวเช่นนี้ ข้าอนุญาตให้เจ้าเรียกนามข้าเช่นปุตุชนทั่วไป”

   “มันจะไม่เป็นการบังอาจเกินไปหรือเพคะ…”

   “หลิวเช่อ”

   “ฝ่าบาทเพ—”

   “เรียกเสีย”

   “เพคะ… หลิวเช่อ”

   “ดีมาก ตัวเกียจคร้าน”

   หนึ่งแทนตนว่าข้า นางก็ว่าไม่เชื่อหูแล้ว สองเรียกตัวเกียจคร้าน นางก็แทบคิดว่าตนฝันละเมอหรืออย่างไร ใจอยากจะเถียงไปว่าไยพระองค์ถึงเรียกนางเช่นนั้น แต่ทว่าเมื่อลองครุ่นคิดถึงสิ่งที่ตนเป็นมาเสมอก็ถือว่าแลเกียจคร้านกว่าสตรีทั่วไปอย่างเห็นได้ชัดจึงได้แต่ทำหน้าบึ้งตึง นึกคิดการกระทำผิดบาปทั้งหลายทั้งเขย่าปกฉลองพระองค์เขย่าไปมาให้พระเศียรสั่นคลอน พลางตะโกนใส่พระกรรณ์ให้แสบไปทั้งทรวงว่านางมิใช่ตัวเกียจคร้าน

   เสียงพระสรวจดังนั้นพร้อมกับพระพักตร์คมคายที่แย้มพระโอษฐ์อย่างนึกสำราญในท่าทีของสตรีตรงหน้า พอเดาออกได้เลยว่าในหัวน้อย ๆ ของนางต้องมีแผนเล่นงานเขาไม่มากก็น้อย ปากที่พะงาบ ๆ นึกอยากเอ่ยคำใดกว่าต้องเก็บงำนี้ถือเป็นจุดอ่อนให้มือหนาได้ยกตะเกียบคีบหอยเป่าฮื้อเข้าปากนางเต็มคำเสียจะได้ไม่ต้องมีที่เหลือว่าง ๆ

   ดวงตากลมพลันเบิกโพลงด้วยความเขินอายสามส่วน ความประหลาดใจเจ็ดส่วน นับวันยิ่งรู้จักกลับคล้ายไม่รู้จัก ฝ่าบาทก่อนหน้ากับฝ่าบาทยามนี้ช่างแตกต่างยิ่งนักจนไม่อาจตั้งตัวทัน ยิ่งช่วงหลัง ๆ มานี้ไม่อาจรับประกันได้เลยว่านางจะไม่หลุดคำต่อว่าในใจนี้ออกไปในสักวันหนึ่ง แล้วคนทั้งสองก็เริ่มจริงจังกับการรับประทานอาหารไปลองคุยเรื่องต่าง ๆ จนอิ่มท้อง

   พระหัตถ์หนายกมือขึ้นกวักเรียกกงกงที่ถือกล่องบางอย่างตรงมาตรงหน้าของนางก่นอที่จะเปิดฝากล่องออกให้แลเห็นหินงดงามดูสูงค่าเกินเอื้อมจนดวงตาของนางเลิกขึ้นอีกรอบอย่างอดไม่ได้

   “ฝ่าบาทเพคะ—”

   “เห็นว่าเรียกว่าหินเซียน เป็นของที่เผ่าซีอวี้ยกถวายบรรณาการให้” พระองค์เอ่ยอย่างไม่ยี่หระพร้อมกับยกจอกสุราจอกสุดท้ายขึ้นหมดจอก “เจิ้นให้เจ้า เสียนอี๋”

   แล้วนางก็ได้หินเซียนก้อนนั้นมาครอบครอง…

   “เช่นนั้นก็กลับเถิด เดี๋ยวเจิ้นจะไปส่งเจ้าที่ตำหนัก”

   “หม่อมฉันขอบพระทัยในน้ำพระทัยของพระองค์มากเพคะ แต่หม่อมฉันวางแผนจะไปท้องพระโรงต่อเพื่อจัดการงานให้แล้วเสร็จเสียตั้งแต่เนิ่น ๆ ”

   “เช่นนั้นเดี๋ยวเจิ้นไปท้องพระโรงด้วย”

   แล้วนางก็จำต้องเดินไปท้องพระโรงร่วมกับองค์จักรพรรดิและได้อธิบายเกี่ยวกับงานต่าง ๆ ที่นางครุ่นคิดและอธิบายจุดต่าง ๆ ที่นางได้ทำไปพร้อมทั้งใช้โอกาสนี้ขอความเห็นไปในตัว





(ได้รับหืนเซียน 1 ก้อน)
+100 พลังงาน

[NPC-01] ฮั่นอู่ตี้
+5 พูดคุยประจำวัน
+20 หัวดีโบนัสความสัมพันธ์
+30 ความสัมพันธ์ อาหารเกรดแดง + (+5) ชาหรือสุราก็ได้ 
(หากเป็นอาหารประเภทที่กำกับไว้ในคำอธิบายว่า อาหารปรุง ได้โบนัส +5 เพิ่ม)

@Admin

แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-01] ฮั่นอู่ตี้ เพิ่มขึ้น 65 โพสต์ 2024-8-9 10:55
โพสต์ 18462 ไบต์และได้รับ 9 EXP!  โพสต์ 2024-8-9 06:41
โพสต์ 18,462 ไบต์และได้รับ +2 EXP +7 คุณธรรม +7 ความโหด จาก ชุดเหวินชิงฮวาเฟิน(เสียนอี๋)  โพสต์ 2024-8-9 06:41
โพสต์ 18,462 ไบต์และได้รับ +4 ความชั่ว +5 ความโหด จาก มีดแล่เนื้อ  โพสต์ 2024-8-9 06:41
โพสต์ 18,462 ไบต์และได้รับ +4 คุณธรรม +3 ความชั่ว +5 ความโหด จาก หมวกไผ่ผ้าคลุม  โพสต์ 2024-8-9 06:41

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังงาน +100 ย่อ เหตุผล
Watcher + 100

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
พัดบุปผาบานจันทร์เพ็ญ
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ยอดคีตศิลป์
อัจฉริยะ
กระบี่
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
แหวนดาราจรัส(D)
พู่กันคัดอักษร
ชุดเหวินชิงฮวาเฟิน(เสียนอี๋)
หมวกไผ่ผ้าคลุม
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x10
x7
x70
x50
x10
x1
x40
x12
x33
x5
x42
x9
x40
x43
x1
x269
x2
x5
x2
x1
x163
x2
x2
x1
x11
x6
x1
x21
x33
x12
x2
x1
x19
x10
x5
x6
x3
x20
x4
x2
x11
x15
x134
x4
x3
x2
x247
x10
x4
x238
x6
x64
x33
x1
x50
x105
x67
x33
x152
x6
x17
x81
x16
x10
x21
โพสต์ 2024-8-20 20:26:22 | ดูโพสต์ทั้งหมด

ยามเหลียนฮวาเบ่งบานชั่วราตรี
วันที่สิบแปด ปาเยว่ เจี้ยนหยวนศกที่สิบ
ปลายยามซวี (20.30 น.)




   จากคำเตือนของหวงตี้ว่าด้วยเรื่องของการแอบออกไปพบผู้คนนอกวัง เจ้าตัวเกียจคร้านตัวดีที่เคยวิ่งเล่นไปมาพลันกลายเป็นสตรีนวยนาดไร้พลังงานยิ่งกว่าเดิมเสียอีก ร่างเล็กที่เอาแต่นอนเกียจคร้านในตอนนี้ถูกจ้าวกู่กูลากขึ้นมาบอกว่านางควรไปข้างนอกบ้าง แม้ว่าจะเป็นการกระทำที่เพียงแค่เปลี่ยนที่นั่งอ่านม้วนตำราก็ตาม

   เว่ยเจียเหลียนฮวาในอาภรณ์ไหมสีขาวม่วงเข้มดั่งกระดาษไช่โหวถูกตวัดตกแต่งแต้มหมึกสีเข้ม เรือนผลเกล้าขึ้นสูงปักเครื่องประดับน้อยชิ้นกว่าวันอื่นจากการต่อรองว่านางยอมเดินออกจากตั่งเตียงแลกกับอาภรณ์ที่สบายที่สุด มือเล็กถือม้วนตำราว่าด้วยเรื่องของจิตใจมนุษย์ในศาสนาความเชื่อต่าง ๆ เดินไปตามอุทยานชุนเหอจิ่งหมิงในยามวิกาล หวังเพียงความสงบที่นางหลับตาลงแล้วจะไม่ได้ยินเสียงทะเลาะวิวาทใด ๆ อีก

   ให้ข้าได้นอนพักสายตาเฉย ๆ เถิด…

   ร่างบางก้าวเดินไปช้า ๆ มีผ้าคลุมไหล่โปร่งคอยคุ้มกายป้องลมในคืนคิมหันต์ฤดูพริ้วไหวตามกระแส ดวงตากลมทอดมองบุปผางามมากมายรอบกายก่อนที่จะตรงไปยังศาลาข้างเคียงจื่อเถิงฮวาต้นใหญ่ที่เดิมจนเมื่อนางได้พิศเห็นสิ่งที่มากกว่าความว่างเปล่า ร่างสูงของบุรุษคุ้นตาประทับนั่งตรงหน้ากระดานหมาก มีจันทราดวงโตทอแสงส่องให้เขาผู้นั้นเลอโฉมดั่งเทพเซียนจนไม่อาจละสายตาได้ กาลเวลาชั่วพริบตายาวนานดั่งนานชั่วกัปกัลป์ ในช่วงเวลานั้นที่นางรู้สึกตัวว่านางจดจ้องเขามากเกินไปแล้วนั้นใบหน้าคมคายพลันเงยขึ้นจากกระดานหมากตรงหน้ามาสบดวงตากลมจนไม่อาจแสร้งทำว่าไม่ได้สบได้

  “คารวะฉางซานเซียนหวางเพคะ”

  
“คารวะพระสนมเว่ยเจียเสียนอี๋ เปิ่นหวางไม่นึกเลยว่าจะจะได้พบท่านในคืนนี้”

   “หม่อมฉันเพียงมาเดินเล่นรับลมเสียสักหน่อยเท่านั้น หาได้ต้องการรบกวนหวางเย่ไม่เพคะ”

   “เปิ่นหวางทราบดีว่าที่แห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของพระราชฐานชั้นย่อมมีพระสนมมาแวะเวียนร่วมชมบุปผางาม ทว่าเป็นเปิ่นหวางเองที่ไม่คิดว่าจะมีผู้ใดเดินเล่นเอายามวิกาลเช่นนี้” ร่างสูงผายมือมาที่ว่างอีกที่ตรงข้ามเขา “ไหน ๆ วาสนาบรรดาลให้พานพบ เช่นนั้นแล้วมาลองเดินหมากกับเปิ่นหวางสักคราดีหรือไม่ ? ”

   นางที่เตรียมจะเอ่ยปากขอตัวไปก่อนหน้านี้จำต้องกลืนคำนั้นกลับลงคอ นางทราบดีแก่ใจว่าในยามวิกาลเช่นนี้การพบเจอบุรุษอื่นนอกเหนือจากองค์หวงตี้หาใช่เรื่องที่ดีไม่ ทั้งแว่วเสียงของฝ่าบาทดังขึ้นมาในใจ

   จงจดจำให้มั่น เจ้าคือเสียนอี๋ พระสนมเอกของเจิ้น

  “หรือ…เปิ่นหวางคงจะรบกวนพระสนมเกินไป”

   “ไม่เพคะ หากต้องการสหายสักคนร่วมเดินหมากสักคราย่อมไม่เกี่ยง”

   ทว่าเมื่อต้องสบดวงตาเจือเว้าวอนในทีของบุรุษมากเล่ห์ เสียงขององค์หวงตี้พลันเบาลงทันใด คำแก้ตัวมากมายและแผนการเอาตัวรอดถูกร่างขึ้นเพื่อคืนนี้ในทันที นางถอนหายใจเบา ๆ ก่อนยิ้มจางประดับใบหน้าเล็กงามพอเพียงพิศมองอย่างเหนื่อยใจกับตนเองที่ไม่อาจปฏิเสธได้ และเหนื่อยใจกับรอยยิ้มประดับดวงหน้าหล่อเหลาอันแฝงด้วยความพอใจมากเล่ห์ นางก้าวเดินไปนั่งที่กระดานหมากขาวดำอันว่างเปล่าอย่างรวดเร็วโดยบุรุษผู้เชิญชวนวางม้วนตำราที่หมายมั่นจะถือออกมาอ่านฆ่าเวลาในยามรับสายลมไว้ที่ตัก ยามนี้ไม่อาจแน่ใจได้เลยว่านางจะได้อ่านมันหรือไม่แล้ว

   “พระสนมจะมาอ่านตำราหรือ?”

   “เป็นเช่นนั้นเพคะ”

   “เปิ่นหวางถามได้หรือไม่ว่าอ่านสิ่งใดอยู่”

   “...ก็นวนิยายประโลมโลกเช่นสาวน้อยเพ้อฝันกระมัง”

   หากม้วนตำราที่นางอ่านคือนวนิยายประโลมโลก ม้วนตำราทั่วไปคงเป็นตำรายอดปรมาจารย์แล้วกระมัง นางเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจก่อนที่จะกลับมาใส่ใจกระดานหมากตรงหน้า

  “เชิญพระสนมเริ่มก่อน”

   “ฝากท่านออมมือให้ข้าด้วย”

   “กับท่าน เปิ่นหวางคงไม่ต้องออมมือกระมัง ? ”

   ว่าแล้วนางก็เริ่มลงหมากสีขาวของตนเองลงไป ผลัดกันรุกและรับ เปลี่ยนกลยุทธ์มากมายที่นางได้เรียนรู้ สิ่งที่นางได้รับจากหมากกระดานนี้คงเป็นความเด็ดขาดที่นางพอจะเข้าใจแล้วว่าเหตุใดบุรุษตรงหน้าถึงเป็นเงาแห่งองค์หวงตี้ ยามเมื่อต้องจริงจัง การตัดสินใจช่างเด็ดเดี่ยวไม่อ่อนโอนให้แก่ผู้ใด การรุกที่มีชั้นเชิง ไม่ตรงไปตรงมา ทว่ารู้ตัวอีกทีนางก็โดนล้อมปิดไร้ทางสู้ไปเสียแล้ว

   แม้ไม่ได้อ่านตำรา ทว่าได้กลยุทธ์กระดานหมากย่อมได้เรียนรู้แล้ว

  “หม่อมฉันแพ้แล้วเพคะ”

   “ฝีมือพระสนมยังคงดีไม่ตกแม้ว่าจะไม่ได้ร่วมเดินหมากด้วยกันมาสักพักใหญ่แล้ว ทำเอาเปิ่นหวางเกือบแพ้พ่ายไปหลายครา”

  “เวลาล่วงเลยถึงเพียงนี้แล้ว หมากกระดานนี้ใช้เวลามากโขนัก หม่อมฉันทูลลาเพคะ”

   เว่ยเจียเหลียนฮวาเอ่ยขึ้นมาหลังจากพิศมองแสงจันทร์เปลี่ยนระดับสูงขึ้นแสดงถึงราตรีกาลที่ล่วงเลยย่ำค่ำเกินกว่าจะอยู่เช่นนี้แม้ว่าแท้จริงแล้วใจนางจะอยากเอนกายอ่านตำราอยู่ไปจนถึงราว ๆ กลางยามไฮ่ก็ตาม

   ก็มีบุรุษอยู่เช่นนี้แล้วนางจะกระทำได้เช่นไร เพียงเท่านี้หากผู้ใดคิดเผยแพร่ข่าวใดก็กลายเป็นคำครหาได้ไม่ยาก แถมยังมีหูตาองค์หวงตี้อยู่อีก  อยู่เพียงเท่านี้ก็มาพอแล้วสำหรับ ‘พระสนมเสียนอี๋’ ได้เวลากลับตำหนักเถียนเซี่ยโดยมีจ้าวกู่กูคอยอยู่ข้างกายไม่ห่าง







[สามารถโรลเพลย์ค้นคว้าหาความรู้จากการฟัง หรือ อ่าน +30 EXP (วันละครั้ง)]



[NPC-05] หลิว ชุ่น
+5 พูดคุยประจำวัน
+20 หัวดีโบนัสความสัมพันธ์

คือเราอยากให้หัวใจเรามากกว่าเดิมอ่ะเพคะหวางเย่  ขอปลดหน่อยได้ไหม

@Admin

แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับ 30 EXP โพสต์ 2024-8-20 21:17
โพสต์ 16828 ไบต์และได้รับ 9 EXP!  โพสต์ 2024-8-20 20:26
โพสต์ 16,828 ไบต์และได้รับ +6 คุณธรรม จาก พัดคุณชาย  โพสต์ 2024-8-20 20:26
โพสต์ 16,828 ไบต์และได้รับ +3 EXP +10 คุณธรรม +4 ความโหด จาก บัณฑิต  โพสต์ 2024-8-20 20:26
โพสต์ 16,828 ไบต์และได้รับ +3 EXP +6 คุณธรรม จาก พู่กันคัดอักษร  โพสต์ 2024-8-20 20:26
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
พัดบุปผาบานจันทร์เพ็ญ
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ยอดคีตศิลป์
อัจฉริยะ
กระบี่
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
แหวนดาราจรัส(D)
พู่กันคัดอักษร
ชุดเหวินชิงฮวาเฟิน(เสียนอี๋)
หมวกไผ่ผ้าคลุม
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x10
x7
x70
x50
x10
x1
x40
x12
x33
x5
x42
x9
x40
x43
x1
x269
x2
x5
x2
x1
x163
x2
x2
x1
x11
x6
x1
x21
x33
x12
x2
x1
x19
x10
x5
x6
x3
x20
x4
x2
x11
x15
x134
x4
x3
x2
x247
x10
x4
x238
x6
x64
x33
x1
x50
x105
x67
x33
x152
x6
x17
x81
x16
x10
x21

18

กระทู้

224

ตอบกลับ

1954

เครดิต

ผู้ใฝ่รู้

พลังน้ำใจ
2
ตำลึงทอง
79
ตำลึงเงิน
1510
เหรียญอู่จู
37192
STR
53+7
INT
70+0
LUK
6+2
POW
74+5
CHA
97+27
VIT
25+7
‘ หลี่ผู่เยว่ • 李谱月 ’
เลเวล 1
คุณธรรม
9964
ความชั่ว
724
ความโหด
5121
โพสต์ 2024-9-8 22:18:26 | ดูโพสต์ทั้งหมด



น้ำผึ้งกลางอุทยาน
วันที่ 22 เดือน 08 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 10
เวลาสิบสามนาฬิกาเป็นต้นไป


ถามไถ่ทั่วโลกหล้า อันว่ารักนั้นเป็นฉันใด .. ที่จริงไป๋หรั่นเหนื่อยมากแล้ว เหนื่อยเกินกว่าจะปั้นหน้าเดินออกมาจากตำหนักเพื่อร่วมสำราญใจไปกับคำเชิญของแม่สามี ทว่าจะให้ทำอย่างไรได้ในเมื่อตำแหน่งพระชายานี้มาพร้อมกับภาระหน้าที่ที่มากขึ้นด้วยเช่นกัน หลังจากกล่อมให้กงซุนเหม่ยเหรินสงบลงและยอมกลับไปพัก นงคราญหยกรีบผลัดเสื้อผ้า สวมประดับตกแต่งให้พอดูได้ก่อนจะจับจูงหนึ่งชีวิตน้อย ๆ เดินทอดน่องไปทางเส้นถนนยืดยาวเพื่อมุ่งหน้าไปยังอุทยาน

“ ที่ผู่เยว่สอนจำได้หมดหรือไม่ ”

“ กฏระเบียบเยอะแยะอย่างนั้นจะให้จำหมดได้อย่างไร.. เอ๋อเหนียงกับผู่เยว่เจียเก่งเกินไปแล้ว ” เสียงเล็ก ๆ ขององค์หญิงวัยหกหนาวดังขึ้นในระหว่างที่บ่นไปเรื่อยเปื่อยเกี่ยวกับกฏนั้น ธรรมเนียมปฏิบัตินู้น ชวนให้หลายคนนึกเอ็นดู ด้านไป๋หรั่นเองก็รู้ดี.. กฏระเบียบเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องที่จะปลูกฝังกันได้ง่าย ๆ

“ เจ้ายังเด็ก ทบทวนไปทุกวัน เดี๋ยวก็จำได้เอง .. เจ้าพึ่งเรียนได้ไม่นาน น่าจะจำได้ดีกว่าเหนียงชินที่พ้นวัยเรียนมานานแล้ว ช่วยเหนียงชินทบทวนความทรงจำสักหน่อยดีหรือไม่ ” แม้นางจะเคยได้ยินผู้อื่นกล่าวว่านางเป็นสตรีที่ดี ภรรยาที่ดี แต่ดูแล้วบัดนี้คงต้องเพิ่ม ครูที่ดีและแม่ที่ดีเข้าไปด้วย

ตลอดทั้งทางที่ประกอบไปด้วยเสียงขานจารีตเล็กใส แทรกมาด้วยเสียงละมุนเรียบที่ช่วยชี้แนะข้อผิดพลาดรวมไปถึงเหตุผลของบางข้อกลายมาเป็นบรรยากาศรักใคร่กลมเกลียวของครอบครัวที่ชวนให้คนยิ้มตาม แม้ว่าท้ายที่สุดการหารือระหว่างแม่ลูกจะต้องพับเก็บกลับไปเมื่อทั้งสองได้มาถึงอุทยานไร้ร่วงโรยที่กินอาณาบริเวณขนาดใหญ่ภายในรั้ววัง

“ เอ๋อเหนียง.. ที่นี่คือพิภพเซียนหรือ.. ” ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เด็กสาวจากเขตทะเลทรายจะมีความตื่นตาตื่นใจกับทิวทัศน์ร่มรื่นหลากสีสันของพืชพันธุ์แปลกตา ทว่าตั้งแต่เดินทางออกจากเขตผืนทรายมา เจ้าเด็กคนนี้ก็พูดเสมือนทุกที่ที่นางไม่เคยเห็นนั้นเป็นแดนเซียนไปเสียหมด

“ ไม่ใช่หรอก เป็นภพมนุษย์นี่ล่ะ .. ทว่าทั่วทั้งแผ่นดินเกรงว่าคงมีแค่อาณาเขตวังที่เจ้าเรียกมันว่าบ้านแล้วที่จะงามหรูอลังการได้ถึงเพียงนี้ ” ไป๋หรั่นวางมือลงบนกลุ่มผมสีดำขลับที่เริ่มกลับมานุ่มน่าสัมผัสเบา ๆ และกำชับเพิ่มอีกหนึ่งประโยคก่อนที่จะก้าวเข้าไปอยู่ในหูตาของคนมากมาย “ จำที่เหนียงชินเคยบอกไว้ได้หรือไม่ ”

ไม่ใช่คำว่าสอน หรือแนะนำ แต่เป็นคำว่าบอก

นัยน์ตาสีอ่อนคล้ายม่านหมอกพราวระยับเมื่อได้ยินสัญญาณลับที่ทราบกันแค่สองคน หรูเยี่ยนชอบความตื่นเต้น รวมไปถึงทำตามงานที่ได้รับมอบหมายให้ลุล่วง ฉะนั้นแทนที่จะตึงเครียดกับการรักษาท่าทางก็กลายเป็นว่านางเริ่มมีพลังใจกวาดสายตาสอดส่องไปทั่วอย่างระมัดระวัง “ เอ๋อเหนียง หลังจากนี้วันใดที่ลูกว่าง ลูกขอมาวิ่งเล่นที่นี่ได้ไหมเพคะ ”

“ หากอยากมาที่อุทยานก็บอกเหนียงชิน เหนียงชินยินดีพาเจ้ามาทุกเมื่อ แต่ถ้าจะให้ปล่อยเจ้ามากับนางกำนัล.. ยามนี้เกรงว่าจะยังไม่เหมาะ ” ไป๋หรั่นพูดแค่เท่านี้เด็กน้อยผู้ฟังแสนฉลาดก็พอจะรู้ถึงในความนัยที่แฝงมาด้วยแล้ว ถึงจะยังไม่เข้าใจว่าไม่เหมาะนี้คือไม่เหมาะอย่างไร.. แต่พี่สาวไม่อยากให้นางเล่นซนนอกสายตาถ้าอย่างนั้นก็ต้องปฏิบัติตาม

“ ลู่ซูเฟยและหลิงหยวนกงจู่เสด็จ !! ”

เสียงประกาศการมาถึงเริ่มต้นจากขันที ก่อนจะตามมาด้วยเสียงยอบกายรับเสด็จของเหล่านางกำนัลรวมไปถึงผู้ที่มียศต่ำกว่า.. เหมยไป๋ฉีที่นั่งเคียงข้างพระพันปีหลวงลุกขึ้นอย่างแช่มช้าและโน้มตัวลงรับการมาถึงตามพิธีการ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นพลางขานหาอย่างสนิทสนม “ เจี่ยเจีย.. กงจู่ ”

“ .. อ่า ”

เมื่อเช้ายังเรียกว่าพระชายาเต็มปากเต็มคำ ตอนนี้กลายเป็นพี่หญิงไปแล้ว? นงคราญหยกเหยียดยิ้มบางแต่กลับไม่มีใครสัมผัสได้ถึงริ้วความขบขันที่แฝงเอาไว้อย่างเรียบเนียน ตราบใดที่อีกฝ่ายไม่แว้งกัดจนกลายมาเป็นแผลติดพิษเรื้อรัง ไป๋หรั่นก็ไม่มีความคิดที่จะเปิดโปงนาง

“ ถวายบังคมไท่โฮวเพคะ ”

สองเสียงที่ดังขึ้นพร้อมกัน ฝ่ายหนึ่งได้รับการอบรมบ่มเพาะมาตลอดหลายปีจนเป็นสาวงามเลิศล้ำ ส่วนอีกคนถึงอายุยังน้อยแต่ก็มีโครงสวยคมโดดเด่น ผนวกกับท่วงท่าที่ถึงจะยังบกพร่องแต่ก็ทดแทนได้ด้วยสดใสซุกซนตามวัยย่อมทำให้หลายคนยอมปล่อยผ่านในข้อผิดพลาด แม้แต่หวังจื่อที่เคยตั้งมั่นว่าจะใจแข็งไม่ใจอ่อน เมื่ออยู่ต่อหน้าสองต่อสุกสกาวราวฟ้าเปี่ยมเมฆหมอกก็ยังสัมผัสได้ว่าหัวใจอ่อนยวบลงหลายระดับ

“ ในเมื่อมาแล้วก็นั่งเถอะ ”

เมื่อได้รับคำอนุญาตจากสตรีที่ทรงอำนาจที่สุด ทั้งสองชีวิตที่ตามมาที่หลังต่างก็พากันจับจ้องที่นั่งโดยไป๋หรั่นขนาบข้างพระพันปีเช่นเดียวกันเหมยเหม่ยเหรินที่นั่งอยู่อีกฟาก และถัดไปทางขวามือของนงคราญหยกก็คือบุตรสาวแสนดีที่คั่นระหว่างนางและเหม่ยเหรินที่พึ่งจะพบกันไปเมื่อช่วงเช้าวันนี้

“ ซูเฟย.. นี่คือเหมยเหม่ยเหริน ธิดาเจ้าเมืองผู๋หยาง ครั้งแรกที่อ้ายเจียเห็นนางก็นึกถึงเจ้าขึ้นมาทันที ” วาจานี้ของเซียวจื่อไท่โฮ่วเป็นดาบสองคมอย่างเห็นได้ชัด ไป๋หรั่นชำเลืองตาขึ้นมองสตรีฐานันดรสูงอีกคนภายในบริเวณนี้เล็กน้อยก่อนจะหลุบสายตาลงเมื่อเห็นว่าปลายหางตาของเหมยเหม่ยเหรินที่ทำให้พระพันปีนึกถึงนางขึ้นมากำลังกระตุกเบา ๆ

ผู้ใดจะไปอยากถูกกล่าวว่าคล้ายใครสักคน และจะมีผู้ใดยินดีฟังว่าตำแหน่งของตนเองอาจสั่นคลอน ด้วยประสบการณ์ที่มากล้นของเซียวจื่อไท่โฮ่ว ความนัยแอบแฝงนี้.. จะทรงไม่คำนึงถึงได้อย่างไร “ เม่ยเมย ” เพราะเมื่อครู่ไป๋หรั่นไม่ทันได้ขานรับการเรียกอย่างสนิทสนมจึงทำให้หลายคนลำบากใจอยู่บ้าง ทว่าในยามนี้ที่โฉมสะคราญปานอัปสรยิ้มรับไมตรีแต่โดยดีก็ทำให้บรรยากาศเบาลงอย่างเห็นได้ชัด

ไป๋ฉีหยักยิ้มสุภาพปลอดโปร่ง แม้ไม่ใช่สาวงามล่มบ้านล่มเมืองก็ยังชวนให้รู้สึกน่าคบหาสนทนา อาจเป็นเพราะบรรยากาศเรียบรื่นสบายตาที่ไม่ฉูดฉาดหรือซีดเซียว แน่นอนว่าการตอบรับที่เป็นกันเองนี้สร้างความพึงพอใจให้กับหวังจื่อที่เป็นผู้เชิญทั้งสองมาด้วยตนเองเป็นอย่างมาก “ ดูสิ นางกิริยาเรียบร้อยอ่อนโยน ทั้งยังรู้จักเอาใจอ้ายเจียเหมือนเจ้าไม่มีผิด ”

ตาย ตาย.. คิ้วกระตุกอีกแล้ว ไป๋หรั่นยิ้มรับวาจาของนางหงส์วัยกลางคนที่กำลังหัวเราะด้วยความสำราญเบิกบานใจพลางยกจอกชาขาวขึ้นจ่อปลายจมูกช้า ๆ เพื่อพิจารณากลิ่นสีพลางเก็บสายตาที่พึ่งจะลอบสังเกตบุคคลที่สามในบทสนทนานี้ เหมยเหม่ยเหรินมือสั่นเล็กน้อยในยามที่นางขยับไปมาอย่างคล่องแคล่วเพื่อปรนนิบัติไท่โฮ่ว

“ ไท่โฮ่วยังทรงต้องประสงค์เสวยน้ำผึ้งอีกหรือไม่เพคะ ”

“ อืม เติมให้อ้ายเจียอีกหน่อย ”

ทุกหยาดน้ำผึ้งที่เคลื่อนตัวลงถ้วยกระเบื้องล้วนแฝงไว้ด้วยความอดทนพร้อมทั้งความเพียรพยายาม ก่อนเข้าวังมาไป๋ฉีเป็นเพียงบุตรสาวเจ้าเมืองที่ถูกถอนหมั้นเพียงเพราะฝ่ายชายหายตัวไปโดยไร้ร่องรอยคล้ายว่าต้องการหนีงานวิวาห์เกิดเป็นข่าวฉาวสร้างเรื่องเสื่อมเสียให้นางตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา

กระทั่งบิดาสบเห็นช่องทางและโอกาส ในที่สุดก็ได้ส่งให้นางเข้ามาเริ่มต้นชีวิตใหม่ภายในวังขอแค่ต่อจากนี้นางไม่อ่อนแอไร้ความสามารถก็จะไม่มีสถานการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้นอีก แต่ดูแล้วนางฟ้านางสวรรค์ที่ได้ทุกสิ่งมาครองโดยง่ายดายอย่างลู่ซูเฟยคงจะไม่เคยรู้สึกถึงความอึดอัดเกินจะทนเหล่านี้

ไป๋ฉีวางมือจากการเติมน้ำผึ้งให้ไท่โฮ่วช้า ๆ ก่อนจะหันไปมองทางองค์หญิงน้อยที่หน้าตาเลอะเทอะจากการซดน้ำผึ้งจนดูมอมแมมคล้ายเด็กบ้านนอก หากผู้ที่ได้ฝ่าบาทครั้งเป็นรัชทายาทนั้นคือนาง นางจะอบรมสอนสั่งลูกของนางให้พร้อมสำหรับการเข้าวังเสียตั้งแต่เนิ่น ๆ ไม่ปล่อยทิ้งรอยด่างพร้อยเพราะความไม่พร้อมนี้เอาไว้ให้ระคายตาผู้อื่นแน่

บุตรสาวเจ้าเมืองผู๋หยางคลี่ยิ้มช้า ๆ ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาค่อย ๆ บรรจงเช็ดคราบน้ำผึ้งที่เปรอะตามแก้มนวลและมุมปากของเด็กน้อยออก “ หลิงหยวนกงจู่ประสงค์รับเพิ่มหรือไม่เพคะ หากต้องการประเดี๋ยวพี่สาวรินให้ ”

“ ไม่ขอรบกวนเม่ยเมย ” คนที่อยู่เงียบไปนานอย่างไป๋หรั่นเอ่ยขึ้นเสียงหวานพลางเลื่อนชามน้ำผึ้งของตนเองที่ไม่ทันได้แตะต้องสักคำไปที่ด้านหน้าบุตรสาว และหยิบชามน้ำผึ้งที่ว่างเปล่าขึ้นมาถือไว้ การเคลื่อนไหวครั้งนี้ผิดไปจากที่ไป๋ฉีคิดไว้ และในขณะเดียวกันก็อยู่นอกเหนือการคาดเดาของเซียวจื่อไท่โฮ่วด้วยเช่นกัน

“ เหตุใดเจ้าถึงไม่แตะน้ำผึ้งสักคำเลยเล่า? ”

“ อ่า.. ไป๋หรั่นเสียมารยาทต่อไท่โฮ่วและเม่ยเมยแล้วที่ไม่แตะต้องใช่ว่าเพราะมีเจตนาใด ๆ ก็เพียง.. เห็นบุตรสาวโปรดถึงขนาดนี้ หม่อมฉันที่เป็นมารดาย่อมสละทุกสิ่งให้นางได้ ” มือนุ่มวางลงบนศีรษะกลมที่รองรับสัมผัสแผ่วเบานี้มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนก่อนจะหันไปพูดกับเหม่ยเหรินแซ่เหมยเสียงอ่อนโยน “ หากเม่ยเมยไม่รังเกียจ ถือเสียว่าเติมให้เจี่ยเจียแทนสักชามเถิด ”

“ ม เม่ยเมยจะไปรังเกียจได้อย่—- ”

“ นึกไม่ถึงเลยว่าจะได้เห็นมุมนี้ของเจ้า.. ลูกเช่อเลือกคนไม่ผิดจริง ๆ ” สตรีวัยกลางคนที่พึ่งจะนำผู้อื่นมากดดันนงคราญหยกทางอ้อมว่าตนสามารถหาคนที่เหมือนกันมาแทนที่นางได้บัดนี้กลับไม่เหลือท่าทีของสิ่งเหล่านั้น คล้ายหญิงชราที่สละเขี้ยวเล็บออกไปจนหมดสิ้น “ ไป๋ฉี.. เจ้าดูนางไว้ให้ดี สตรีเช่นนี้สมควรเอาเป็นแบบอย่าง ”

“ เพคะไท่โฮ่ว.. ”

แค่พริบตาเดียว แ ค่ พ ริ บ ต า เ ดี ย ว .. ความพยายามที่นางทำมาตลอดหลายเค่อสลายกลายเป็นเถ้า ไม่อาจสู้ได้แม้กระทั่งหนึ่งประโยคจากคนที่มีลูกก่อนแต่งงานจนชื่อเสียงด่างพร้อยด้วยซ้ำ ! ไป๋ฉีขบริมฝีปากเพื่ออดกลั้นอารมณ์น้อยเนื้อต่ำใจที่ปะทุขึ้นมาก่อนจะกลับมาแย้มยิ้มรินน้ำผึ้งเติมลงชามและยื่นส่งให้พระราชเทวีเป็นอย่างดี

“ เมื่อครู่ผ้าเช็ดหน้าเม่ยเมยเปื้อนน้ำผึ้งเพราะเสี่ยวเยี่ยน.. ฉะนั้นผ้าเช็ดหน้าผืนนี้ เม่ยเมยรับไว้ ถือเสียว่าเป็นการขอบคุณจากพี่สาว ” ผ้าเช็ดหน้าผืนบางที่ต่อให้อยู่ไกลสุดขอบฟ้าก็ยังเห็นได้ว่าทำมาจากผ้าชั้นดีราคาแสนแพงถูกยืนมาตรงหน้าสวนทางกับชามน้ำผึ้งที่เคลื่อนไป ไป๋ฉีสูดหายใจเข้าเล็กน้อย ก่อนจะรับผ้าเช็ดหน้านั้นมาพับเก็บลงแขนเสื้อ

“ เห็นพวกเจ้าสองคนเข้ากันได้ดีอย่างนี้อ้ายเจียก็วางใจแล้ว ”

ราวกับตอนแรกที่ต้องการสร้างความร้าวฉานนั้นไม่มีอยู่จริง หวังจื่อใช้ช้อนตักน้ำผึ้งเข้าปากหนึ่งคำเพื่อเพลิดเพลินไปกับรสชาติหวานชุ่มคอก่อนจะเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “ วังหลังหากมีแต่ความรักย่อมช่วยแบ่งเบาภาระให้ฝ่าบาทได้เยอะทีเดียว ”

“ คำสอนนี้ของพระนางหม่อมฉันจะจดจำไว้ตลอดไปเพคะ ” ไป๋ฉีรับคำเป็นคนแรกก่อนจะตามด้วยซูเฟยแซ่ลู่ที่ตอบรับช้า ๆ แต่ใส่ใจเป็นอย่างมาก เปิดโอกาสให้เหม่ยเหรินที่เป็นผู้น้อยกว่าผินหน้ามองพี่หญิงเปี่ยมเสน่ห์ที่อยู่ตรงข้ามกัน “ เจี่ยเจีย หากมีสิ่งใดให้เม่ยเมยช่วยเหลือสามารถบอกเม่ยเมยได้ทุกเมื่อเพคะ เม่ยเมยยินดีช่วยเจี่ยเจีย ”

วันนี้มีคนเสนอตัวว่ายินดีช่วยนางอยู่หลายคนเชียว สุดท้ายไม่ว่าใครก็คงไม่ต่างอะไรไปจากจางกงกง ช่วยเหลือโดยไม่ร้องขอสิ่งใด ทว่าวันไหนที่ได้ดิบได้ดีก็หวังว่าจะไม่ลืมกัน.. หากลืมขึ้นมาก็ไม่พ้นถูกกล่าวหาว่าแพศยาทรยศ แค่คิดถึงก็ชวนให้ปวดหัวแล้ว “ ถ้าเช่นนั้นเม่ยเมยมาช่วยเจี่ยเจียจัดสำรับเถิด วันนี้หม่อมฉันทำกุ้งผัดชาหลงจิ่งและชาหลงจิ่งมาถวาย หวังว่าพระนางจะทรงโปรดนะเพคะ ”

“ ฮึ เด็กพวกนี้ขยันเอาใจอ้ายเจียนัก ในเมื่อทำมาแล้วก็เอาขึ้นโต๊ะเถิด ” เมื่อแม่สามีกล่าวจบ หนึ่งชายาหนึ่งสนมก็ขยับลุกขึ้นช่วยนำสำรับขึ้นจัดบนโต๊ะ ทั้งหมดร่วมดื่มกินทั้งน้ำผึ้งและอาหารที่ได้รับการเตรียมมา ก่อนจะแยกย้ายร่ำลาเมื่อช่วงเวลาหารือได้จบลง



[NPC-02] เซียวจื่อไท่โฮ่ว
+5 ความสัมพันธ์ประจำวัน
+20 โบนัสความสัมพันธ์หัวดี
+25 ความสัมพันธ์ อาหารเกรดทอง และ +15 ชาเกรดทอง
+5 โบนัสความสัมพันธ์อาหารประเภทอาหารปรุง
+5 โบนัสความสัมพันธ์ชาประเชทชงชา
+15 โบนัสความสัมพันธ์จากโดดเด่นมีเอกลักษณ์

ทุกครั้งที่ความสัมพันธ์หัวใจหวงตี้หรือไท่โฮ่วเพิ่มขึ้น 1 ดวง +50 บารมี
รับรางวัลอีเว้นท์ - +100 พลังใจ และ +80 พลังงาน






แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-02] เซียวจื่อไท่โฮ่ว เพิ่มขึ้น 90 โพสต์ 2024-9-8 22:37
โพสต์ 33243 ไบต์และได้รับ 18 EXP!  โพสต์ 2024-9-8 22:18
โพสต์ 33,243 ไบต์และได้รับ +10 EXP +15 คุณธรรม +10 ความโหด จาก ชุดหนิงเซียนหนี่ว์(ซูเฟย)  โพสต์ 2024-9-8 22:18
โพสต์ 33,243 ไบต์และได้รับ +10 EXP +15 คุณธรรม +15 ความโหด จาก โดดเด่นมีเอกลักษณ์  โพสต์ 2024-9-8 22:18
โพสต์ 33,243 ไบต์และได้รับ +6 คุณธรรม จาก พัดคุณชาย  โพสต์ 2024-9-8 22:18

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังน้ำใจ +100 พลังปราณ +50 พลังงาน +80 ย่อ เหตุผล
Watcher + 100 + 50 + 80

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ปราณจิ้งจอกสวรรค์(ไม้)
เสน่ห์ฟ้าประทาน
ธนูไม้จันทน์
กระบอกธนู
พัดคุณชาย
หมวกไผ่ผ้าคลุม
อาภรณ์พร่ำพิรุณ (ญ)
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x1
x1
x10
x15
x4
x1
x1
x1
x3
x1
x2
x6
x5
x2
x4
x8
x2
x4
x1
x11
x10
x3
x4
x16
x3
x5
x4
x1
x7
x6
x4
x11
x4
x1
12
ตั้งกระทู้ใหม่ กลับไป
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้