เจ้าของ: Watcher

[The Earth] โลกดั้งเดิม 2024

[คัดลอกลิงก์]

1

กระทู้

39

ตอบกลับ

5166

เครดิต

เสาหลักพวกพ้อง

พลังน้ำใจ
4927
ตำลึงทอง
45
ตำลึงเงิน
477
เหรียญอู่จู
11886
STR
25+15
INT
30+0
LUK
30+20
POW
20+0
CHA
0+0
VIT
15+12
คุณธรรม
902
ความชั่ว
0
ความโหด
566
โพสต์ 2024-8-11 21:03:22 | ดูโพสต์ทั้งหมด







สุริยคราส! พราก!! สองเรื่องราว

ให้ได้ประสบ พบพานวิญญาณ

ที่อยู่มาแต่กาลก่อน ทั้งสองเข้ามา



งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติที่จัดขึ้นในกรุงปักกิ่ง เป็นเวลาที่เหล่าหนอนหนังสือทั้งหลายรอคอยที่จะได้รับลายเซ็นของนักเขียนในดวงใจ เพราะนี่คือโอกาสที่จะได้พบกับเหล่านักเขียนคนดัง ที่จะมาร่วมกิจกรรมภายในงาน


‘ไซลัส หลง’ นักเขียนนวนิยายแนว สยองขวัญ หนึ่งในชื่อที่นักอ่านนวนิยายสยองขวัญคุ้นหูกันดี ด้วยผลงานที่มีออกมาอย่างยาวนาน และเป็นที่ชื่นชอบของแฟน ๆ มีผลงานกับทางสำนักพิมพ์ EVERNIGHT กว่า 40 เรื่อง


และผลงานของไซลัสได้รับความสนใจสร้างเป็นภาพยนตร์และละครมากมาย


“หนูติดตามผลงานของพี่มาตั้งแต่เรื่อง ย้อนเวลาเป็น ข้ามเวลาตาย จนถึงตอนนี้หนูก็ยังอ่านผลงานของพี่อยู่เรื่อย ๆ”


ชายหนุ่มยิ้มอย่างสุภาพมองหญิงสาวตรงหน้าที่สวมใส่เดรสกระโปรงระบายสีอ่อน “นั่นเป็นผลงานเล่มแรกของผมขอบคุณที่ติดตามสนับสนุนและซัพพอร์ตครับ”


แท่งปากกาหมึกซึมสีดำ ปลายปากกาถูกมือของเขาตวัดเขียนลายเซ็นลงบนนิยายเล่มล่าสุดของไซลัส 


น้ำเสียงสดใสอ่อนลงพร้อมกับนัยน์ตาเศร้าหมอง “แต่หนูคงจะอยู่ได้อีกไม่นานแล้วล่ะค่ะ หนูป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้าย”


บรรยากาศอันหนักอึ้งเข้าแทรก ณ วินาทีนั้น เขาทำได้เพียงเขียนคำอวยพรปลอบประโลมหญิงสาวที่กำลังป่วยหนัก ในฐานะนักเขียน หลังจากหมดช่วงเวลาแจกลายเซ็นของเหล่าคนดัง 


ไซลัส หลง เดินออกมาจากหอสมุดแห่งชาติมายังโซนลานจอดรถแขกพิเศษ เสียงนาฬิกาข้อมือดังแจ้งเตือนเวลา 21.00


ติ๊ด ๆ ~


เสียงฮัมเพลงเบา ๆ ดังจากมุมนึงของเสา เมื่อชายหนุ่มหันไปมองพบว่าเป็นร่างของเธอคนนั้น แฟนคลับของเขาที่พึ่งได้พบกันในงานไม่นานนี้ 


“พี่คะ”


“หนูน่ะมีความฝันอยากจะเป็นเหมือนตัวเอกในนิยายที่พี่เคยแต่ง สมาชิกคนที่หลอก ที่ตอนจบของเรื่อง…..” แกร๊ก ๆ เธอหยิบปืนออกมาจากกระเป๋าผ้าสีครีมเล็งจ่อไปยังนักเขียนหนุ่มในดวงใจ “เฉลยว่านางเอกเป็นฆาตกรปิดท้ายด้วยการสังหารคนรักที่เป็นนักสืบ และเธอก็ฆ่าตัวตายตาม”


“หยุดนะครับคุณ” ไซลัสก้าวเท้าถอยหลัง 


“มันหยุดไม่ได้แล้วล่ะค่ะเพราะหนูก็ต้องตายด้วยโรคอยู่ดี ไหน ๆ ก็ต้องตาย หนูก็อยากจะตายกับคนที่หนูรัก”


ปัง ! ปัง ! ปัง !


เสียงกระสุนดังขึ้นสามครั้งและตามมาด้วยนัดสุดท้ายที่เจ้าของปืนปลิดชีพฆ่าตัวตายตามนักเขียนสุดที่รัก ที่เธอเพิ่งเป็นคนฆ่า


03/12/XXXX พบศพไซลัส หลง มีแผลถูกยิงที่ขมับและกลางอก เสียชีวิตภายในลานจอดรถของหอสมุดแห่งชาติ กรุงปักกิ่ง ตำรวจเร่งสอบไขปมคดี ตรวจสอบกล้องวงจรปิดใกล้จุดพบศพ











แสดงความคิดเห็น

ไปสู่ภพภูมิที่ดีต่อไป เกิดใหม่มีชีวิตที่ดี ไร้อุปสรรคแคล้วคลาด  โพสต์ 2024-8-11 21:29
โพสต์ 20740 ไบต์และได้รับ 12 EXP!  โพสต์ 2024-8-11 21:03
โพสต์ 20,740 ไบต์และได้รับ +8 คุณธรรม +6 ความชั่ว +10 ความโหด จาก หมวกไผ่ผ้าคลุม  โพสต์ 2024-8-11 21:03
โพสต์ 20,740 ไบต์และได้รับ +3 EXP +6 คุณธรรม จาก พู่กันขนแพะ  โพสต์ 2024-8-11 21:03
โพสต์ 20,740 ไบต์และได้รับ +6 คุณธรรม จาก พัดคุณชาย  โพสต์ 2024-8-11 21:03
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ผู้มีบุญ
มีดแล่เนื้อ
เกราะทองแดง
อาภรณ์พร่ำพิรุณ (ช)
ง้าวปีศาจปลา
หมวกไผ่ผ้าคลุม
พัดคุณชาย
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x12
x16
x1
x4
x2
x4
x2
x17
x54
x5
โพสต์ 2024-8-20 21:03:00 | ดูโพสต์ทั้งหมด





จุดจบของชายแท้



 “Happy Anniversary วันครบรอบ 3 เดือนจ้ะ”

กล่องกำมะหยี่สีแดงถูกเปิดออกเผยให้เห็นสร้อยที่มีจี้เพชรอยู่ด้านใน พร้อมใบหน้าเปื้อนยิ้มของหมิงเจ๋อ ชายหนุ่มนักธุรกิจไฟแรงที่กำลังฉลองครบรอบ 3 เดือนกับคู่เดทสาวสวยของเขา

“ว้าว สวยมากเลยค่ะพี่หมิง” สาวเจ้าตาเป็นประกายเมื่อเห็นจี้เพชรเบื้องหน้า เธอรวมผมไปที่ไหล่ด้านหนึ่งแล้วหันหลังให้เขาสวมสร้อยเส้นนี้ให้กับเธอ ชายหนุ่มไม่พูดพร่ำทำเพลงเขาหยิบสร้อยออกมาจากกล่องทำท่าจะสวมให้กับคู่เดทของเขาในค่ำคืนนี้ แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อของเหลวสีแดงคล้ำถูกสาดมากระทบที่หน้าของเขาและคู่เดท กลิ่นของมันทำให้รู้ได้ว่านี่น่าจะเป็นไวน์ที่เขาสั่งให้พนักงานไปเอามา

“ทำบ้าอะไรเนี่ย ช่างเป็นร้านที่ไร้มรรยาทเสียจริง รู้ไหมว่าชุดของฉันมันแพงหูฉี่—”

ตาของเขาเบิกโพลงทันทีเมื่อเห็นว่าคนที่สาดไวน์เป็นใคร

“ถะ…ถิงถิง…”

“ไอ้คนสารเลว” หญิงสาวที่ชื่อถิงถิงตะคอกใส่เขา

“พี่หมิงคนนี้คือใครเหรอคะ?”

“ฉันต่างหากที่ต้องถามว่าหล่อนเป็นใคร!”

“ฉันเป็นแฟนของพี่หมิง หล่อนนั่นแหละเป็นใคร?”

“ฉันก็เป็นแฟนของพี่หมิงเหมือนกัน”

“หมายความว่ายังไงคะ?” คู่เดทของหมิงเจ๋อหันมาถามเขาสายตาของเธอเต็มไปด้วยความสับสน

“ใจเย็น ๆ กันนะทุกคนพี่อธิบายได้” เขาลุกขึ้นเอามือห้ามมวยผู้หญิงทั้งสองก่อนที่จะมีเรื่องกัน

“อธิบายมาเดี๋ยวนี้เลยนี่มันเกิดอะไรขึ้น นี่พี่คบซ้อนเหรอ?”

“ไอ้ผู้ชายสองใจ—” 

“อุ๊ย! พี่หมิงบังเอิญจังเลยมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะเนี่ย พี่ไม่โทรหาฉันมาอาทิตย์นึงแล้วไหนว่าไปประชุมที่ต่างเมืองไง” 

จู่ ๆ หญิงสาวคนที่สามก็โผล่เข้ามาคว้าแขนของหมิงเจ๋อมากอดพร้อมมองหน้าหญิงสาวอีกสองคนที่กำลังงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

“สองคนนี้ใครคะ ลูกค้าเหรอ?”

“อย่าบอกนะว่าเธอ…?”

“ฉันเป็นแฟนของพี่หมิงค่ะ ยินดีที่ได้รู้จัก”

“ไอ้พี่หมิง…ไอ้คนหลายใจ” 

“ว่าไงนะพวกเธอเป็นแฟนของพี่หมิงเหมือนกันเหรอ?”

หญิงสาวทั้งสองคนผลัดกันปาข้าวของบนโต๊ะอาหารใส่หมิงเจ๋อและสาวใหม่ที่เพิ่งโผล่เข้ามา เจ้าตัวได้แต่หลบไปหลบมา จานเซรามิกใบหนึ่งเฉียดเป้าของเขาไปแค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

“ระวังหน่อยสิจ๊ะ เดี๋ยวโดนจุดยุทธศาสตร์” เขารีบเอามือมากุมเป้าของตัวเองไว้อย่างหวงแหน

“หวงมันนักใช่มั้ย? งั้นฉันจะช่วยสงเคราะห์ให้!” หญิงสาวควักมีดออกมาจากกระเป๋าถือตัวเองก่อนชี้ไปทางชายหนุ่ม

“จะ…จะทำอะไรน่ะ” ตาของเขาเบิกโพลงเมื่อเห็นใบมีดที่เล็งมาทางเขา

“ฉันจะตัดไอ้จ้อนของแกทิ้งซะ คนอย่างแกถ้าใช้มันในทางสร้างสรรค์ไม่ได้ก็ไม่ต้องมีหรอกไม่ว่าชาตินี้หรือชาติหน้า”

“ไม่สร้างสรรค์ตรงไหนกันพี่ก็ว่าพี่ใช้ได้ตั้งหลายท่า—”

กรี๊ดดดดด ตายซะเถอะ! ถ้าชาติหน้ามีจริงขอให้แกไม่มีไอ้จ้อน!” หญิงสาวพุ่งเข้าหาหมิงเจ๋อด้วยความรวดเร็ว

“ชิบหายละ!” 

หมิงเจ๋อพอได้สติเขาก็รีบวิ่งออกจากร้านอาหารอย่างรวดเร็ว ตามมาด้วยหญิงสาวทั้งสามคนที่ไล่ล่าเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย

“หยุดเดี๋ยวนี้นะหมิงเจ๋อ ไอ้หน้าตัวเมีย มารับกรรมของแกซะดี ๆ!”

“หยุดก็บ้าแล้วโว้ยยยยย” 

เขาวิ่งอย่างเอาเป็นเอาตายจนไปถึงสี่แยกถ้าเขาไม่ข้ามถนนตรงนี้น้องชายสุดที่รักของเขาคงได้โดนพรากไปอย่างแน่นอน เมื่อได้จังหวะเขาจึงรีบวิ่งข้ามไปอีกฝั่งโดยไม่ทันสังเกตว่ามีรถอีกคนกำลังวิ่งตรงเข้ามา

ปรี๊นนนนนนนนนนน

เสียงบีบแตรดังลั่นถนน แสงไฟสาดเข้าตาของเขา ในใจก็แอบคิดว่าทุกอย่างมันคงจบลงแล้วที่ตรงนี้…แต่ที่ไหนได้รถยนตร์หักเลี้ยวหลบทันอย่างฉิวเฉียดไปชนเข้ากับเสาไฟฟ้าข้างถนน ทำให้หมิงเจ๋อรอดพ้นจากการถูกรถชนอย่างปาฏิหารย์ ใจของเขาหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มแต่ก็ยังมิวายปากดีไปชี้หน้าด่าคนขับที่กำลังมึนงงจากแรงกระแทกอย่างกระทันหันจากถุงลมนิรภัยหน้ารถ

“ไอ้บ้าเอ้ยยยยย!!! ขับรถภาษาอะไร เกือบชนฉันแล้ว โชคดีนะที่ฉันดวงแข็—”

ก๊องงงงงง!!!

เสียงกังวาลไปทั่วหูอันเกิดจากของแข็งกระทบศีรษะอย่างรุนแรง เสาไฟฟ้าเจ้ากรรมต้นเดิมที่ถูกรถชนบัดนี้ได้ร่วงหล่นมากระแทกหัวของหมิงเจ๋ออย่างจังแบบไม่ให้เขามีโอกาสได้ฟื้นกลับคืนมาสู่โลกใบนี้อีกท่ามกลางฝูงชนที่ยืนมุงดูอุบัติเหตุ


หมิงเจ๋อ เพศชาย(แท้) เสียชีวิตในวัย 28 ปี ด้วยอุบัติเหตุเสาไฟฟ้าล้มกระแทกหัวตายคาที่…









แสดงความคิดเห็น

เกิดใหม่ทั้งทีก็กลายเป็นดรุณีสาวแล้ว  โพสต์ 2024-8-20 21:16
โพสต์ 19497 ไบต์และได้รับ 9 EXP!  โพสต์ 2024-8-20 21:03
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ลำนำ(ซวีหยวน)
แหวนดาราจรัส(2)
หงอนคู่ราชันย์
ง้าวกรีดนภา
แหวนดาราจรัส(D)
ยอดยุทธ์ผู้ล่า
ปราณเพลิงสีชาด
ยอดฝีมือ
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
เกราะเกล็ดมังกร
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
หินสลักโบราณ
อาภรณ์พร่ำพิรุณ (ญ)
มีดแล่เนื้อ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x1
x30
x30
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x4
x1
x140
x2
x90
x186
x200
x399
x684
x707
x2
x2
x8
x4
x5
x20
x4
x796
x2
x20
x12
x22
x6
x12
x17
x10
x38
x2
x680
x228
x428
x44
x506
x19
x12
x1
x19
x228
x1
x21
x10
x203
x3
x116
x37
x5
x63
x1
x2
x40
x1
x5
x2
x7
x6
x5
x6
x6
x17
x2
x2
x25
x15
x16
x2
x47
x6
x7

2

กระทู้

21

ตอบกลับ

692

เครดิต

คนสร้างตัว

พลังน้ำใจ
617
ตำลึงทอง
1
ตำลึงเงิน
164
เหรียญอู่จู
7977
STR
0+2
INT
0+0
LUK
0+2
POW
0+0
CHA
15+5
VIT
0+0
คุณธรรม
87
ความชั่ว
0
ความโหด
59
โพสต์ 2024-8-26 23:30:28 | ดูโพสต์ทั้งหมด



เมื่อแสงอาทิตย์สาดท่องย่านใจกลางเมืองแห่งนี้เต็มไปด้วยรถยนตร์เนืองแน่นด้วยผู้คนที่มุ่งไปทำงานภายในออฟฟิตของเหล่าบริษัทชื่อดัง แต่หากในยามราตรีสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่อันหมายปองของเหล่านักท่องราตรีทั้งตึงสูงอันอัดแน่นด้วยสถานบันเทิงอันครบครัน และแสงสีจากผับและบาร์อันแสนครึกครื้นจนอาจคิดได้ว่างานเลี้ยงอันไม่มีวันเลิกรา แต่ก็ยังคงมีผู้คนมากมายที่ทำงานในยามราตรีเช่นนี้… 


ภายในตึงรูปร่างหรูหราแต่ดูแล้วโมเดิลแต่ยังคงประดับสถาปัตยกรรมสไตล์กรีซโรมันทำให้ดูแล้วเข้ากันอย่างไม่น่าเชื่อนัก ภายในนั้นตกแต่งอย่างเรียบง่ายด้วยสีแดงดำ โซฟามากมายได้ตั้งวางรอบเวทีขนาดใหญ่ตรงกลาง ขนาบข้างซ้ายนั้นมีบาร์ที่พร้อมเสิร์ฟความเพลิดเพลินและความผ่อนคลายให้แก่ผู้มาเยือน ทางด้านขวานั้นเป็นทางขึ้นไปยังชั้นสองที่จัดแบ่งห้องที่นั่งไว้เป็นที่พิเศษดูคล้ายโรงอุปรากร ถัดไปในชั้นสามนั้นจะมิดชิดและเป็นส่วนตัวมากกว่าเดิม ห้องขนาดกลางถูกจัดแบ่งเป็นสัดส่วนภายในชั้นสามนั้นจะไม่มีส่วนที่เปิดไปเห็นการแสดงภายในร้านหากจะเหมาะไว้สังสรรค์กันเป็นกลุ่มใหญ่ ภายในนั้นได้บริการมอบความสุขทางใจให้แก่ผู้มาเยือน 


คิมหันต์ บุรุษร่างสูงโปร่งรูปร่างของเขามีกล้ามเนื้อพอประมาณใบหน้าของเขานั้นเรียกได้ว่าหน้าตาดี แต่เขาไม่ได้มีใบหน้าคมนักออกไปทางน่ารักด้วยซ้ำไป เพราะอย่างนั้นใบหน้าของเขาจึงทำให้เป็นที่ชื่นชอบของทั้งเหล่าพ่อยกและแม่ยก คารมณ์ของเขาคมคายแต่แฝงไปด้วยคำพูดที่ดูเขินอายจากการขัดเกลาประสบการณ์ในการทำงานของเขามาพักใหญ่ การเริ่มต้นของเขาในตึกอันหรูหรานั้นได้เริ่มจากการเป็นบาร์เทนเดอร์ก่อนที่จะมีผู้จัดการได้มาทาบทามให้เขาได้ทำงานโฮสต์ควบคู่ไปด้วย ด้วยความสามารถในการชงเหล้าของเขานั้นเป็นที่ต้องการแต่งคารมณ์เองก็เช่นกัน ดันนั้นการซื้อบริการจากเขานั้นมักจะสูงเป็นพิเศษ ไม่นานนักรูปของเขาก็ได้ไปติดไว้ยังผนังแนะนำอันดับหนึ่ง 


แต่ชีวิตของเขาก็ไม่ได้สวยหรูและโปรยด้วยกลีบกุหลาบขนาดนั้น เพราะการขึ้นมายังที่สูงของเขานั้นรวดเร็วเกินไปเสียจนทำให้มีสายตามุ่งร้ายจากบุคคลภายในรอบตัวของเขา ในหลายทีเขานั้นแกล้งทำเป็นไม่รู้มาโดยตลอดแต่นั่นก็ทำให้เขาเครียดไม่น้อย ทั้งหนี้สินของเขานั้นยังมีมากมายจากญาติอันมุ่งร้ายหวังประโยชน์จากการจากไปอย่างกระทันหันของพ่อและแม่ของเขา เงินมรดกที่ไม่ได้ถือว่ามากนักค่อยๆกลายเป็นหนี้สินจากการล้างผลาญจากอาผู้ได้สิทธิ์การเลี้ยงดูเขา รวมถึงเป็นผู้จัดการมรดกของเขาเช่นกัน เงินที่ได้มานั้นได้รับการต่อยอดในทางที่ติดลบ(เล่นการพนัน) ยังคงดีที่ก่อนที่อาของเขาจะจากไปคิมหันต์ก็ได้เรียนจบเรียบร้อยแล้ว แต่หนี้สินของอาของเขา เขาดันต้องเป็นคนที่มาจัดการแทนชีวิตหลังเรียนจบของเขาจึงวนอยู่กับการวิ่งรับงานทั้งวันเพื่อความสงบของเขาจากเจ้าหนี้ แต่แล้วในวันที่หนี้ของเขาได้หมดลง เขาตัดสินใจที่จะเที่ยวพักผ่อนเพื่อให้รางวัลตัวเองสักครั้ง


เขาได้เที่ยวในย่านที่ไม่ไกลจากที่ทำงานของเขานัก ในแต่ก่อนที่เขามัวแต่บริการผู้อื่นหายใจเข้าเป็นงานหายใจออกเป็นเงิน หัวหมุนจนเขาแทบจำความรู้สึกผ่อนคลายจากการเที่ยวไม่ได้อีกแล้ว ในวันนี้เขาได้สัมผัสกับความสุขจากการผ่อนคลายภาระต่างๆและใช้ชีวิตตามสบายอารมณ์ แต่เหมือนโชคชะตานั้นจะไม่เข้าข้างเขาสักเท่าไหร่นัก ในคืนนั้นสนขณะที่เขากำลังเดินทางกลับ เหล่าบุคคลที่มุ่งร้ายได้ขาดสติเข้ามาทำร้ายเขาโดยที่เขาแทบไม่ทันได้ตั้งตัว ด้วยฤทธิ์ของเหล้าทำให้เขาไม่มีแรงจะต่อกรหรือป้องกันตัวได้ ในตรอกมืดๆท่ามกลางเสียงดนตรีที่ฟังไม่เป็นจังหวะ เสียงหายใจที่โรยรินและกลิ่นเลือดที่คลุ้งความรู้สึกเจ็บปวดที่น้อยกว่าที่ควรจะรู้สึกเพราะฤทธิ์ของสุรา สายตาของชายหนุ่มค่อยๆเลือนลางก่อนที่จะเห็นภาพสุดท้ายเป็นเพียงพื้นที่สะท้อนสีจากแสงไฟ


‘จะไม่สู้ชีวิตอีกต่อไปแล้ว…’


คิมหันต์ได้จากไปอย่างสงบในวัย 28 ปี ปัจจุบันยังหาตัวคนร้ายไม่พบ




แสดงความคิดเห็น

ขอให้ไปสู่ภพภูมิที่ดี   โพสต์ 2024-8-27 01:21
โพสต์ 17735 ไบต์และได้รับ 9 EXP!  โพสต์ 2024-8-26 23:30
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ขลุ่ย
พัดคุณชาย
น่ารัก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x10
x1
x1
x1
x60
x34
x1
x30
โพสต์ 2024-8-29 00:20:26 | ดูโพสต์ทั้งหมด
"เฮ้ อาตี๋เอ่ย ทำไมไปนั่งแกร่วอยู่ตรงนั้น" เป็นอาเตี๋ยทักทาย



"โห ป๊า ผมก็แค่มานั่งมองฟ้าเอง" ชายหนุ่มตอบพ่อของเขาพลางนั่งเล่นอยู่บนดาดฟ้า


เด็กหนุ่มนั่งมองฟ้าพลางคิดถึงอดีต เขานั้นช่างเป็นเด็กหนุ่มที่โชคดีจังนะ มีพ่อแม่ที่ดี ได้เรียนในสิ่งอยากเรียนได้ทำในสิ่งที่อยากทำ สมกับเป็นนายน้อยของตระกูลหยางจริงๆ


ใช่แล้ว เขาเป็นลูกนอกสมรสของชายชาวจีนสกุลหยาง โดยเขานั้นเป็นลูกครึ่งไทยจีนที่ได้เกิดมาในประเทศไทย จะด้วยเหตุผลประการได้ก็ไม่ทราบได้ ทำให้เตี๋ยของเขาไม่อนุญาติให้เขากลับจีนเลย


"ถ้าโลกนี้มีเซียนจริงๆก็ดีซินะ" เขาก็เหมือนเด็กหนุ่มคนนึงที่ชอบดูซีรี่ย์ แค่ซีรี่ยฺที่เขาติดอยู่ช่วงนี้ก็คือซีรี่ย์กำลังภายใน ยอดยุทธ์เซียนกระบี่


"ผมอยากเป็นเซียนกระบี่ ผู้มีชื่อเสียงเลื่องลือ แต่นั่นคงเป็นไปไม่ได้ล่ะนะ" ชายหนุ่มบ่นกันตัวเองก็ที่จะเดินลงไปที่ชั้นล่างของบ้าน


ตู้มมมม


ชายหนุ่มสัมผัสถึงแรงกระแทกมหาศาล และกลิ่นควัน ก่อนที่สติของเขาจะหลุดลอยไป


-----------------------------------


ประกาศ บ้านของนักธุรกิจทุนจีนสีเทา ถูกถล่มโดยผู้ก่อการร้ายไม่ทราบฝ่าย บ้านทั้งหลังถูกระเบิดเละ แต่บ้านข้างเคียงกลับไม่เป็นอะไร คาดว่าจะเป็นการแก้แค้นเฉพาะกลุ่ม


โดนบอมตายคาบ้านครับ

แสดงความคิดเห็น

กลับสู่ภูมิลำเนาเดิม   โพสต์ 2024-8-29 07:36
โพสต์ 3924 ไบต์และได้รับ 1 EXP!  โพสต์ 2024-8-29 00:20
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กระบี่
มือกระบี่
ช่อเมล็ดข้าวมงคล
หมวกไผ่ผ้าคลุม
เกราะทองแดง
อาภรณ์พร่ำพิรุณ (ช)
มีดแล่เนื้อ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x4
x4
x2
x2
x2
x6
x2
x2
x1
x4
x5
x1
x1
x16
x32
x24
x9
x1
x2

1

กระทู้

3

ตอบกลับ

17

เครดิต

คนธรรมดาดาษดื่น

พลังน้ำใจ
0
ตำลึงทอง
0
ตำลึงเงิน
4
เหรียญอู่จู
250
STR
0+0
INT
0+0
LUK
0+0
POW
0+0
CHA
0+0
VIT
0+0
โพสต์ 2024-8-30 23:44:05 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย HongLiTing เมื่อ 2024-8-31 00:04

ความพยายามที่สูญเปล่า

          ต้าเหนิงตื่นขึ้นมาท่ามกลางความมืดสลัวของยามเช้า เสียงไอที่แหลมจนเหมือนจะเสียบทะลุปอดเป็นเสียงแรกในยามเช้าของเธอ ความอ่อนเพลียที่คุ้นเคยเริ่มกัดกินร่างกายของเธอตั้งแต่ยังไม่ลุกจากเตียง แม้จะนอนหลับไปแล้ว แต่เธอก็ยังรู้สึกว่ามันไม่เพียงพอ แต่ถึงอย่างนั้นต้าเหนิงก็ไม่มีทางเลือก เธอทำได้เพียงลุกจากที่นอนไป เพราะภาระที่หนักหน่วงบีบบังคับให้เธอต้องลุกขึ้นไปทำงานทุกวัน แม้ว่าร่างกายจะไม่ไหวแค่ไหน


          ทุกวันที่ต้าเหนิงก้าวออกจากห้องเช่าเล็ก ๆ ที่เธออาศัยอยู่ เธอก็ไออีกเป็นสิบครั้ง การไอเปรียบเหมือนเสียงที่สองของเธอไปแล้ว ตั้งแต่ป่วยด้วยเชื้อไวรัสครั้งนั้นร่างกายของเธอก็อ่อนแอลงมาก เธอทำงานในโรงงานผลิตอิเล็กทรอนิกส์ที่มีชื่อเสียง มันเป็นงานที่ได้เงินค่อนข้างดี แต่มีชั่วโมงการทำงานที่ยาวนานมาก ทุกเช้าเธอต้องออกจากบ้านตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น และกลับมาถึงก็ในยามที่ดวงจันทร์ส่องแสงบนท้องฟ้า


          ต้าเหนิงทำงานหนักมาโดยตลอด เธอไม่มีโอกาสได้ใช้ชีวิตวัยรุ่นเหมือนกับคนอื่น ๆ เพราะเธอต้องทำงานเพื่อหาเงินมาดูแลแม่ที่ป่วยหนัก การทำงานหนักเป็นเรื่องที่เธอคุ้นเคย แต่ตั้งป่วยครั้งนั้นสภาพร่างกายของเธอก็แย่ลงในทุกทุกปี แต่ก็ต้องออกไปทำงานที่มีชั่วโมงยาวนานแบบนั้นทุกวัน เธอทำทุกอย่างเพื่อหวังให้แม่ของเธอมีชีวิตอยู่ต่อไป แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามมากแค่ไหน แม่ของเธอก็ยังคงจากไปในที่สุด ทิ้งเธอไว้ในโลกที่เงียบเหงาและเดียวดาย ที่เธอพยายามบากบั่นมากหลายปี มันเป็นความพยายามที่สูญเปล่า


          หลังจากการสูญเสียแม่ ต้าเหนิงรู้สึกเคว้งคว้าง เพราะแม่คือสิ่งเดียวที่ทำให้เธอกัดฟันทนโลกที่โหดร้ายใบนี้มาได้ตลอด แต่เมื่อแม่จากไป ชีวิตของเธอกลับกลายเป็นแสนว่างเปล่า เธอรู้สึกเหมือนถูกปล่อยให้ล่องลอยอยู่ท่ามกลางทะลใหญ่ที่มืดมิด มองไม่เห็นทางและกำลังจมลงในทุก ๆ วัน 


          แม้จะเจ็บปวดเพียงใด แต่ต้าเหนิงก็ไม่มีเวลาให้เสียใจกับการจากไปของแม่ เพราะทุกเช้าต้องลุกขึ้นไปทำงานเหมือนเดิม ค่าเช่าห้องก็เพิ่มขึ้นทุกวัน จีนอาจกำลังพัฒนาไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว แต่การพัฒนานั้นกลับกลายกำลังฆ่าเธอให้ตายในทางอ้อม สิ่งปลูกสร้างใหม่ ๆ ผุดขึ้นมาทั่วเมือง ค่าครองชีพและทุกอย่างทะยานสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เงินที่เธอหามาได้แทบทั้งหมดต้องถูกนำไปจ่ายค่าเช่า จนแทบไม่เหลืออะไรให้เก็บออม


          ต้าเหนิงต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก กินอยู่อย่างประหยัดที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้มีเงินเพียงพอจ่ายค่ารักษาตัวเองที่ป่วยจากการทำงานหนัก ร่างกายของเธออ่อนแอลงเรื่อย ๆ แต่เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำงานต่อไป ชีวิตเธอในตอนนี้เหมือนตกอยู่ในวงจรอุบาทว์ ที่ต้องทำงานเพื่อหาเงินมารักษาอาการเจ็บป่วยของตัวเอง เหมือนกับหนูที่วิ่งบนสายพาน 


           แล้วในวันหนึ่งที่หิมะแรกกำลังโปรยปรายลงมา ต้าเหนิงก็หมดแรงจะวิ่งต่อบนสายพาน หรืออาจเรียกว่าได้เวลาหยุดพักของเธอสักที เพราะขณะที่เธอวิ่งเวียนศีรษะกำลังนั่งพักอยู่ที่พื้น รถยนต์ปริศนาก็พุ่งจากฟุตบาทเข้ามาหาเธอ  "ได้พักแล้วสินะเรา"  ต้าเหนิงพึมพำเป็นสิ่งสุดท้าย เธอหลับตาลง พร้อมกับเลือดที่ย้อมหิมะโดยรอบให้เป็นสีแดง


แสดงความคิดเห็น

ถึงเวลาแล้วที่เจ้าต้องมาที่นี่  โพสต์ 2024-8-31 01:38
โพสต์ 10572 ไบต์และได้รับ 6 EXP!  โพสต์ 2024-8-30 23:44

7

กระทู้

79

ตอบกลับ

4204

เครดิต

เริ่มมีชื่อเสียง

พลังน้ำใจ
3759
ตำลึงทอง
125
ตำลึงเงิน
660
เหรียญอู่จู
12577
STR
4+2
INT
4+0
LUK
10+7
POW
3+0
CHA
9+0
VIT
5+5
คุณธรรม
365
ความชั่ว
0
ความโหด
182
โพสต์ 2024-9-1 21:01:16 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Mingchunshui เมื่อ 2024-9-1 21:09


ความตาย เป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน บางคนพยายามหลีกหนีอย่างไร ทำวิธีไหนก็ไม่อาจหลุดพ้นสิ่งที่เรียกว่าความตาย
        ในขณะที่อีกหลายๆ คนพยายามอย่างยิ่งในการวิ่งหาความตายหวังให้ตนหลุดพ้นจากโลกที่โหดร้าย
        แน่นอนว่าบางครั้งความตายนั้นก็มาโดยที่ใครหลายๆคนไม่ได้ตั้งตัว

นั่นรวมถึงผมด้วย



        –13.40 น.--


     “ชาเขียวใส่บุกหวานเจ็ดสิบห้าได้แล้วค๊าาาา” เสียงของพนักงานขายหลังเคาน์เตอร์ของร้านสะดวกซื้อติดแอร์ที่มีสาขาเป็นแสนแถมสร้างสาขาติดกันเป็นแถวอย่างกับแถวขนมปังปลา ขายทุกอย่างยกเว้นอะไหล่รถ ตะโกนลั่นออเดอร์ ชายหนุ่่มผมทรงทูบล็อกสไตร์หนุ่มเกาหลีในชุดเสื้อเชิ้ตกางเกงแสล็คที่กำลังก้มๆ เงยๆ อยู่หน้าชั้นวางขนมปังเงยหน้าขึ้นมองไปยังเคาน์เตอร์พลางเดินไปรับออเดอร์ของตนเองพร้อมรอยยิ้ม

     “หลอดหยิบด้านหน้าได้เลยนะคะ”

     “ขอบคุณครับ” อี้ หรือ นายภีมรจรัษพงษ์ อดอลฟัส หมิง ลูกเสี้ยวไทย สวีเดน จีน รับเอาแก้วชาเขียวนมกับหลอดในตะกร้าด้านหน้ามาถือแล้วเดินออกจากร้าน



      –13.43น.--

      ไอร้อนจากแสงแดดเวลาบ่ายกว่าๆซัดเข้าหน้าทันทีที่เดินออกจากร้าน จนอยากจะเงยหน้าแล้วตะโกนถามว่า นี่ประเทศกูยังอยู่บนโลกหรือหลุดออกจากโลกไปอยู่ติดกับดวงอาทิตย์กันแน่

     ร้อนคัก

     ร้อนจนจะสุก

     ร้อนจนขนลุก

     นี่ถ้าไม่ติดว่าร้านนกแก้วใต้คอนโดปิดปรับปรุงอย่าหวังเลยว่าเขาจะเดินมาหน้าปากซอยในตอนอากาศเกือบสี่สิบองศาแบบนี้แน่

     เหมียววว…

     แม้จะหงุดหงิดกับอากาศร้อนๆของประเทศที่มีฤดูสามฤดูอย่างร้อน ร้อนมากและร้อนชิบหาย แต่ทันทีที่ชายหนุ่มได้ยินเสียงร้องสัตว์โลกที่มนุษย์ทุกคนในโลกเทิดทูลเป็นเจ้านาย ขายที่กำลังจะก้าวออกจากชายเพิงหลังคาร้านสะดวกซื้อก็พลันหยุดชะงัก

     ดวงตาสีเฮเซลนัทตามสไตร์ลูกครึ่งขยับกวาดหาที่มาของเสียงจนไปสบเข้ากับดวงตากลมแป๋วแหววสี่ฟ้าใส ขนสีขาวส้มที่แม้จะหม่นดำเป็นคราบจากเศษดินเศษฝุ่นก็ยังดูน่ารักน่าเอ็นดูเสนอในสายของคนที่เป็นหนึ่งในทาสแมวอย่างเขา




     –13.46 น.–

     ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง…

     เสียงน้ำจากท่อน้ำทิ้งของเครื่องปรับอากาศของร้านสะดวกซื้อหยดลงพื้นเป็นจังหวะจนพื้นปูนเกิดเป็นคราบตะไคร่สีเขียว แต่เสียงนั้นก็ไม่ได้ดังเกินกว่าเสียงจอแจของรถยนต์และรถมอเตอร์ไซต์ที่วิ่งสวนกันไปมา

     “หนูลูกมาอยู่ทำไมตรงนี้ หืมม…หิวเหรอค้าบบ” เสียงแปดเสียงเก้าของอี้กล่าวพร้อมกับร่างสูงที่เดินไปนั่งทรุดตัวนั่งย่องๆอยู่หน้าเจ้าลูกแมวขาวส้มที่โผล่หัวออกมาจากบริเวณข้างตู้ATM

    เหมียวว…

    เหมียววว….

     “เหรอค้าบบ..หิวเหรอค๊าบบ.. ป๊ะป๊าซื้อเปียกๆให้เอาไหม”

     เหมียววว

     เจ้าเหมียวขาวส้มคล้ายรับรู้ว่าตกนุดๆ ได้แล้วก็ยิ่งเอาใหญ่เจ้าเหมียวตัวน้อยเดินเอาหัวมาชนพลางถูไถที่ขาวของนุดตัวผู้ตรงหน้าอย่างออดอ้อนแล้วใช้ท่าไม้ตายอย่างการนอนหงายโชว์พุงกะทิ ทำเอาชายหนุ่มถึงยิ้มหน้าบานที่โดนเจ้านายแปลกหน้ามาทิ้งตัวโชว์พุงใส่ปล่อยให้นุดตัวโตจกพุงกะทิของตัวเองเพื่อแลกอาหารให้อิ่มท้องสักมื้อ

      “โอยน่ารักจริงตัวเท่านี้ แม่หนูไปไหนคับหืมม…”

        เมี๊ยวววว….

        “ไม่มีแม่หรอคับลำบากแย่เลย ปะไปกินเปียกๆกับป๊ะป๊าดีกว่าเนอะ”

        อี้ยันตัวลุกเตรียมจะเดินกลับเข้าไปในร้านสะดวกซื้ออีกครั้งเพื่อซื้ออาหารเปียกสำหรับลูกแมว ครั้งพอชายหนุ่มลุกขึ้นเดินจากไปเจ้าแมวน้อยที่รับรู้แล้วว่ามื้อนี้มันจะอิ่มท้องรอดตายไปอีกวันก็ไม่รอช้ารีบลุกวิ่งตามหลังชายหนุ่มไปทันที




        –13.51 น.--
        รถบรรทุกสิบสองล้อคันใหญ่รับงานขนทรายจากต่างจังหวัดเข้าเมืองมาเพื่อนำทรายไปส่งให้ไซต์งานก่อสร้างซึ่งตั้งอยู่ที่ใจกลางเมื่อสำหรับใช้เป็นส่วนผสมสำหรับสร้างคอนโดหรู ด้วยระยะทางเกือบพันกิโลทั้งยังต้องทำรอบให้ได้มากที่สุดเพราะมีผลต่อค่าแรงทำให้ชายวัยกลางที่ทำอาชีพขับรถส่งสินค้ามาตั้งแต่หนุ่มฝือขับรถตั้งแต่เย็นเมื่อวานโดยไม่คิดจอดแวะพัก ซึ่งคิดว่าหลังจากที่ส่งทรายล็อตนี้ที่เป็นล็อตสุดท้ายเสร็จจะพักงีบสักหน่อยรก่อนขับรถเปล่ากลับไปรับค่าแรง

        ปัง!!!

        เอี๊ยดดดดด!!!

        ระหว่างที่รถบรรทุกคันใหญ่กำลังแล่นไปบนถนนกำลังตีไฟเลี้ยวเตรียมชะลอรถเพื่อเลี้ยงเข้าซอยจู่ๆที่บริเวณด้านหลังของรถพลันเกิดเสียงระเบิดดังขึ้น รถบรรทุกที่แล่นด้วยความเร็วประมาณหนึ่งและขนทรายที่หนักเกือบสิบตันมาด้วยพลันเสียหลัก

        “เชี้ย!!” ชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยสบถลั่นพยายามประคองรถของตนพร้อมทั้งพยายามที่จะหักพวงมาลัยหลบรถด้านหน้า ด้วยน้ำหนักที่มากเกิดทำให้รถเสียการควบคุมก่อนจะพลิกคว่ำ



        –13.52น.--

     รถกะบะสีดำแต่งซิ่งต่อเติมโครงเหล็กที่ด้านหลังสำรับของส่งถังแก๊สหุงต้มที่บรรทุกถังแก๊สที่บรรจุแก๊สมาเต็มเปี่ยมเตรียมนำไปส่งแก่ร้านอาหารตามกำหนด คนขับเป็นชายหนุ่มวัยรุ่นเลือดร้อนที่พึ่งมาทำงานขับรถรับส่งแก๊สได้เพียงครึ่งปีกำลังเร่งเครื่องหวังให้รถซิ่งคู่ใจพาตนซิ่งไปส่งของให้ลูกค้าให้ทันก่อนออกกะ เสียงเพลงตื้ดในรถดั่งกระหึ่มปลุกใจคนขับให้มีแรงทำงานแต่แล้วเสียงดังกระหึ่มของเพลงก็เป็นอันถูกกลบด้วยเสียงล้อระเบิดจากด้านหน้า

     “เหี้ย!!!”

     จากภาพของถนนกลายเป็นภาพของกองทรายที่สาดลงมา เท้าข้างที่เหยียบคั่นเร่งอยู่เปลี่ยนไปเหยียบเบรคล้อรถบดถูไปกับพื้นถนนแต่ด้วยเม็ดทรายจำนวนมากทำให้ดอกยางของรถกะบะมิอาจทำหน้าที่ของมันได้เต็มประสิทธิภาพ

     สิ่งสุดท้ายของชายหนุ่มเห็นคือภาพเบื้องหน้าที่หมุนควงไปมาไม่ต่างจากเล่นเครื่องเล่นความเร็วสูง ถังแก๊สที่หลังรถตกกระจายเต็มบริเวณพร้อมกับกลิ่นแก๊สที่ค่อยคลุ้งขึ้นโดยรอบ




        –13.55 น.--

        โครมมม!!!

        โครมมมมม!!!

        เคร้ง เคร้ง เคร้ง

        เสียงปะทะดังสนั่น รถบรรทุกสิบสองล้อขนทรายหนักกว่าสิบตันพลิกคว่ำไถลพุ่งเข้าชนตู้ATMบริเวณร้านสะดวกซื้อชื่อดังเข้าอย่างจังทราบที่บรรทุกอยู่หลังรถสาดกระจายเต็มพื้นถนนชายวัยกลางเจ้าของรถหัวฟาดกับพวงมาลัยจนหมดสติตรงที่เกิดเหตุ อี้ทรุดกายนั่งตัวสั่น แก้วชาเขียวในมือร่วงตกกระจายเต็มพื้น ชายหนุ่มมองหัวรถบรรทุกที่บดขยีกำแพงและตู้ATM ณ จุดที่เขานั่งเล่นกับเจ้าลูกแมวอยู่เมื่อครู่ด้วยใจสั่นสะท้ายคิดว่าหากตนตัดสินใจเดินออกมาจากจุดนั้นช้ากว่านี้อีกเพียงเสี้ยววิคงมีสภาพไม่ต่างจากตู้ATMที่น่าสงสารเท่าใดนัก

        พนักงานเซเว่นและคนด้านในรีบพากันวิ่งออกมาดูด้วยความตกใจ บ้างก็รีบควักมือถือของตนออกมาถ่ายคลิปวีดีโอ บ้างก็รีบโทรเรียกตำรวจและกู้ภัยขณะที่พนักงานร้านและพี่วินมอไซต์ที่ซื้อของอยู่ในร้านรีบเข้ามาช่วงพยุงอี้ที่กำลังตกอยู่ในอาการตกใจออกมาให้ห่างจากตัวรถเพราะกลัวว่าชายหนุ่มจะได้รับบาดเจ็บ

        ทางเจ้าลูกแมวคาดว่ามันคงตกใจวิ่งหนีหายไปตั้งแต่เสียงล้อระเบิดแล้ว

        “มะ..ไม่เป็นไรครับผมไม่เป็นไร”อี้ที่พึ่งได้สติกล่าวออกมา เขารีบกล่าวขอบคุณพนักงานและพี่วินที่ช่วยพาเขาออกมา หัวใจของชายหนุ่มยังคงเต้นระรัวขณะที่เขาค่อยพาตัวเองเดินออกไปให้ห่างจากจุดเกิดเหตุหวังว่าจะกลับไปพักที่คอนโดให้เร็วที่สุดหลังจากที่ตนพึ่งรอดตายมาอย่างหวุดหวิด



     
        –13.59น.–

        ดวงตาสีเฮเซลนัทมองดูสภาพอุบัติที่เหตุซ้ำซ้อนที่เกิดขึ้นเพราะรถบรรทุกเสียหลักด้วยแววตาหวัดหวันใจ ชายหนุ่มจ้องมองดูถังแก๊สร่วมยี่สิบถังที่ตกกระจายอยู่บนถนนด้วยรางสังหรณ์บางอย่าง ขาเรียวยาวเร่งก้าวเดินพาตนให้ออกห่างจากจุดเกิดเหตุให้เร็วขึ้นกว่าเดิน หากแต่ก็ต้องชะงักไปเมื่อปลายหางตาเหลือบไปเห็นประกายแสงบางอย่างไหววูบอยู่



        –14.00น.–

        ดวงตาของชายหนุ่มไหววูบ ก่อนที่ทุกอย่างเบื้องหน้าจะถูกปกคลุมด้วยแสงไฟสีส้มและแดงโพยพุ่งออกมาเป็นวงกว้างตามมาด้วยไอร้อนจำนวนพุ่งเข้ากลืนกินร่างของชายหนุ่มและจบด้วยแรงกระแทงจำนวนมหาศาลที่ร่างกายของมนุษย์ไม่อาจจะทนรับได้…
        ตู้มมมมมม!!!




        “วันที่ 2 เดือนเมษายน 25XX เวลา 14.00 น. เกิดอุบัติเหตุบรรทุกทราย และ รถบรรทุกแก๊สหุงต้มพลิกคว่ำ ทำให้ถังแก๊สที่บรรทุกมาเกิดความเสียหายจนมีแก๊สหลุดรั่วออกมา ก่อนจะเกิดระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง ทำให้มีผู้บาดเจ็บเป็นจำนวนมาก และมีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันทีสองราย คือนายกรชัย จำรุง ผู้ขับรถบรรทุกถังแก๊ส และอีกรายคือนายภีมรจรัษพงษ์ อดอลฟัส หมิง หรือ อี้ หมิง นายแบบหนุ่มลูกครึ่งที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในตอนนี้ค่ะ ”


                        


แสดงความคิดเห็น

จงไปยังที่ชอบๆ   โพสต์ 2024-9-1 21:15
โพสต์ 23832 ไบต์และได้รับ 12 EXP!  โพสต์ 2024-9-1 21:01
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
หมวกถังเจียน
ผีผา
พัดคุณชาย
ลาภลอย
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x10
x1
x2
x2
x2
x2
x2
x1
x1
x10
x10
x30
x4
x10
x27
โพสต์ 2025-5-15 16:33:24 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย LiuRuxuan เมื่อ 2025-7-8 23:55









สิ้นแสงชีวี จรจากภพฝัน

“จิ ๆ ...ผมไม่เข้าทรงอีกละ”


เสียงสบถเบา ๆ ดังขึ้นหน้ากระจกบานสูงในห้องน้ำห้องเช่าใจกลางเมือง นายเต หรือ เตชิต หวงสุวรรณ ยืนจ้องเงาสะท้อนของตัวเองพร้อมใช้มือขยุ้มเส้นผมที่ตั้งชี้ไม่เป็นระเบียบ พยายามจัดทรงให้ดูเหมือนมนุษย์ทำงานทั่วไป


ชายหนุ่มวัยยี่สิบห้า ผู้มีผิวขาวอมชมพูราวกับไม่เคยโดนแดดตรง ๆ ในชีวิต เส้นผมสีน้ำตาลเข้มที่ไม่เคยฟังคำสั่ง ลู่บ้าง ชี้บ้าง ตามอารมณ์ของเส้นขนอิสระ


“เฮ้อ อย่างน้อยหน้าก็ยังรอด” เขาพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะยักไหล่ใส่เงาในกระจก


ตาสีดำเข้มของเขาเป็นประกาย ซ่อนความฉลาดไว้อย่างมีชั้นเชิง ทว่าใครได้มองกลับจะสัมผัสถึงความขี้เล่นประหลาดที่แทรกอยู่ในนั้น... คล้ายคนที่กำลังมีความลับ แต่ไม่สามารถเก็บไว้คนเดียวได้นาน


เขาเป็นคนประเภทที่ไม่สามารถอยู่นิ่งได้นานเกินห้านาที ถ้าไม่ได้หมดแรงจริง ๆ มือไม้จะต้องหาบางอย่างทำ หรือไม่ก็กวนใครสักคนให้ได้ยินเสียงบ่น


และถ้าจะมีสิ่งหนึ่งที่ไวพอ ๆ กับปากของเขา นั่นคือความคิดที่มักจะเตลิดไปไกลเกินเหตุ บางครั้งก็ล้ำเส้น บางครั้งก็แค่พอให้คนรอบข้างหัวเราะแล้วมองบน


เขาผูกเนกไทแบบงงๆ ในตอนเช้าแล้วแกล้งทำเป็นผู้ดีเรียบร้อยทั้งที่ข้างในอยากใส่เสื้อยืดกางเกงบอลแล้ววิ่งขึ้นรถเมล์เสียให้รู้แล้วรู้รอด จบจากมหาวิทยาลัยเก่าแก่ที่มีชื่อยาวจนคนต้องย่อเป็นตัวย่อ กลับกลายเป็นนักโภชนาการอาหารในโรงพยาบาลชื่อดังย่านใจกลางเมือง


เตชิตไม่ใช่คนประเภทเรียบร้อย หรือสวมเนกไทแล้วกลายเป็นคนใหม่ เขาเป็นคนแบบที่พอใส่เสื้อเชิ้ตแล้วจะพับแขนขึ้นเองแม้จะรีดมากี่ครั้งก็ยับ อีกมือก็ถือกาแฟแบบที่เปลี่ยนน้ำตาลเป็นน้ำเต้าหู้แทนเพราะ “สุขภาพดีเริ่มที่กระเพาะ”


ชีวิตของเขาเต็มไปด้วยสีสันแบบที่ไม่ต้องใช้แอปฯ ฟิลเตอร์ก็ยังสว่างสดใสในแบบของตัวเอง คนรอบข้างมองเขาเป็นตัวตลกประจำแผนก แต่ก็เป็นตัวตลกที่ไม่มีใครอยากให้หายไปจากวงการ


และนั่นแหละ... เตชิต หวงสุวรรณ หนุ่มกรุงผู้ไม่กลัวฝนแต่กลัวน้ำส้มเปื้อนเสื้อ ชายผู้คิดว่าชีวิตคือการปรุงรส และทุกคนมีสิทธิ์จะเติมน้ำปลาเพิ่มในมาม่าได้เสมอ



เช้านั้นเตชิตออกจากห้องพร้อมกล่องข้าวที่บรรจุด้วยความตั้งใจระดับมาสเตอร์เชฟ เขาวางข้าวกล้อง อกไก่นึ่ง กับผักลวกเรียงไว้เป็นแนว สีสันไม่ได้เย้ายวน แต่ปริมาณโปรตีนคำนวณอย่างแม่นยำ ที่พิเศษคือเขาโรยงาดำบดไว้ด้านบนเล็กน้อย เพื่อความหอมที่ทำให้เขารู้สึกว่าชีวิตตัวเองมีอะไรพิเศษบ้างในโลกที่คนอื่นกินข้าวแกงกันอย่างสนุกปาก


“อีกสิบก้าวถึงป้ายรถเมล์ อีกสิบก้าวก็จะรอดจากการประชุมเช้า…ถ้ารถมันมาไวหน่อยอะนะ”


เขากระชับกระเป๋าสะพายข้างไหล่แล้วเร่งฝีเท้าผ่านกลุ่มคนขายโรตีและกลิ่นเนยที่ชวนให้อุดมการณ์สุขภาพในหัวสั่นคลอน เสียงโทรศัพท์สั่นเบา ๆ ในกระเป๋ากางเกง ก่อนจะหยิบขึ้นมาดูแล้วถอนหายใจยาวอย่างนักพรตผิดหวัง


หมอปิ่นแก้ม โทรมา


“โอย... โทรมาทำไมแต่เช้า แกนอนไม่พอหรือขาดคนแซว” เขาพึมพำก่อนจะกดปิดเสียงแล้วเก็บกลับเข้ากระเป๋า


รถเมล์สายประจำขับมาถึงพอดี เตชิตโบกมือให้โชเฟอร์อย่างคนมีอัธยาศัย แล้วก้าวขึ้นรถพร้อมรอยยิ้มเจือความหวังว่าคงไม่มีใครโทรตามให้ช่วยงานนอกเวลาวันนี้


ที่นั่งริมหน้าต่างว่างพอดี เขานั่งลงแล้วเปิดแอปพลิเคชันจดรายการอาหารสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน เขาตั้งใจจะเสนอเมนู “โจ๊กข้าวโอ๊ตใส่เนื้อปลา” กับ “น้ำเต้าหู้ไม่หวานใส่เม็ดแมงลัก” พร้อมคำอธิบายประกอบว่า “กินแล้วไม่หงุดหงิดแม้ต้องเข้าแถวรอคิวโรงพยาบาลสามชั่วโมง”


รถเมล์เคลื่อนตัวอย่างเชื่องช้า เตชิตเหลือบมองผู้โดยสารข้าง ๆ แล้วพยักหน้าให้คุณลุงวัยเกษียณที่ถือหนังสือพิมพ์เก่าๆ อ่านข่าวที่หมดอายุแล้วสองวัน


“ลุงครับ ข่าวเมื่อวานบอกหวยออก 13 นะครับ ไม่ใช่ 31”


คุณลุงหัวเราะหึๆ แล้วตอบกลับ “เอ็งก็ปล่อยให้ลุงฝันบ้างสิ”


เตชิตยิ้ม รอยยิ้มที่ไม่ได้ต้องการอะไรนอกจากสร้างบรรยากาศให้เช้าธรรมดาไม่เงียบเหงา


เมื่อมาถึงที่ทำงาน เขาก้าวเข้าไปในห้องพักเจ้าหน้าที่พร้อมกลิ่นสบู่หอมจาง ๆ จากเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อน เขาวางกล่องข้าวลงในตู้เย็นแล้วหยิบกระดาษโน้ตแปะไว้ว่า “ของเต ใครแอบหยิบโดนคำสาปบวมไม่ทราบสาเหตุ”


จากนั้นก็หันไปเผชิญหน้ากับหมอปิ่นแก้มที่กำลังยืนเท้าสะเอว รออยู่พร้อมแฟ้มสีแดงในมือ


“มาแล้วเหรอคุณเต”


“แหม... ถ้ามาช้าก็โดนโทรจิกอยู่ดีใช่ไหมครับคุณหมอปิ่นป่อง เอ้ย ปิ่นแก้ม”


หมอทำหน้าเหมือนอยากเขวี้ยงแฟ้มใส่หน้าเขา แต่ก็กลั้นไว้ได้เพราะมีพยาบาลยืนมองอยู่


“ไปประชุมตอนนี้เลยค่ะ มีผู้ป่วยเบาหวานที่อยากได้เมนูพิเศษ เขาบ่นว่าเบื่อข้าวต้มแล้ว”



วันทั้งวันผ่านไปอย่างรวดเร็วด้วยบรรยากาศของการประชุม การตอบแชทกลุ่มที่เขาแอบตั้งชื่อว่า “โภชนาการหน้าตาดี” กับการพูดคนเดียวในห้องเก็บของเพื่อซ้อมพรีเซนต์แบบไม่ให้อายตัวเองในห้องประชุมจริง


จนกระทั่งเลิกงาน เขาเดินออกจากโรงพยาบาลพร้อมกระเป๋าสะพายพอง ๆ เพราะกล่องข้าวที่กินไม่หมดอยู่ในนั้น


“เอาไปทิ้งก็เสียดาย งั้นเก็บไว้กินพรุ่งนี้เช้าเป็นมื้อเช้าที่ยังไม่แน่ใจว่าจะได้กิน”


ฟ้ายังไม่มืดสนิท แต่ท้องฟ้ามีแสงส้มเจือหม่นคล้ายกำลังจะบอกว่า “ถึงเวลาพักผ่อนแล้วนะมนุษย์”


เตชิตเดินไปตามฟุตปาธพลางหยิบหูฟังมาเสียบเข้ามือถือ เพลงบรรเลงเบา ๆ ดังเข้าหู ช่วยกลบเสียงรถติดที่แสนวุ่นวาย แต่ยังไม่ทันได้อารมณ์ เขาก็ต้องหยิบมือถือขึ้นมาเพราะมีสายเข้าจากแม่


“ครับแม่ ยังไม่ถึงบ้านเลย เดี๋ยวกลับไปโทรหานะ รักแม่จ้า”


เขาวางสายก่อนจะรีบก้าวข้ามถนน สายตาจับจ้องไปยังฝั่งตรงข้ามอย่างใจร้อน ไฟเขียวคนข้ามกำลังนับถอยหลัง เขารีบเร่งฝีเท้าเพื่อจะไปทันรถไฟฟ้าขบวนสุดท้ายที่จะประหยัดค่าแท็กซี่


แล้วในวินาทีนั้นเอง...


เสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นมาจากด้านข้าง รถกระบะสีดำพุ่งแฉลบเข้าเลนคนข้าม เสียงเบรกดังลากยาว ร่างของเตชิตเหมือนถูกแรงกระแทกดึงให้ลอยขึ้นสั้น ๆ ก่อนจะหล่นลงสู่พื้น


กล่องข้าวหลุดมือ ฝาเปิดออก งาดำกระจายบนถนนยิ่งกว่าป๊อปคอร์นในโรงหนัง


เวลาเหมือนหยุดหมุน...


“อ้าวเห้ย... ของโปรด...”


เสียงสุดท้ายที่หลุดจากปากเขาเบาจนแทบไม่ได้ยิน


ในวินาทีที่เขานอนแน่นิ่งอยู่ตรงนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างก็เงียบลง ไม่มีเสียงจราจร ไม่มีเสียงพึมพำ ไม่มีแม้แต่คำแซวของเขาเอง


นั่นคือจุดจบของเช้าวันธรรมดาในเมืองที่ไม่เคยหลับใหล และจุดเริ่มต้นของบางสิ่งที่เตชิตไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเอง...


บางสิ่งที่... เหนือคำว่า “อุบัติเหตุ” ไปมากนัก



แสดงความคิดเห็น

โถ่วๆ ไม่น่าเลย อุบัติเหตุที่เหนืออุบัติเหตุจริง ๆ  โพสต์ 2025-5-15 16:36
โพสต์ 19564 ไบต์และได้รับ 9 EXP!  โพสต์ 2025-5-15 16:33
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
หมวกถังเจียน
ผู้มีบุญ
แหวนดาราจรัส(D2)
พู่กันคัดอักษร
พัดคุณชาย
เกราะทองแดง
อาภรณ์พร่ำพิรุณ (ช)
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x30
x1
x5
x1
x2
x2
x2
x2
x20
x5
x20
x20
x60
x4
x100
x4
x1
x47
x30
x20
x10
x10
x20
x5
x5
x2
x3
x12
x70
x64
x60
x20
x1
x1
x1
x1
x4
x3
x2
x4
x2
x4
x10

2

กระทู้

17

ตอบกลับ

583

เครดิต

คนสร้างตัว

พลังน้ำใจ
519
ตำลึงทอง
1
ตำลึงเงิน
89
เหรียญอู่จู
11170
STR
0+2
INT
0+0
LUK
0+7
POW
0+0
CHA
0+0
VIT
0+2
คุณธรรม
2
ความชั่ว
0
ความโหด
0
โพสต์ 2025-5-19 17:38:56 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันซวยๆ

พาขวัญ เหินฟ้า

ตึกสูงระฟ้า ประชากรเดินขวักไขว้ในเมืองที่ผู้คนต่างวุ่นวาย เสียงแตรรถที่มหาศาลบีบไล่กันไปมาในมหานครกรุงเทพมหานคร ไม่ได้ช่วยให้เด็กจบใหม่ที่เตรียบสอบ กพ เข้ารับข้าราชการอย่างพาขวัญรู้สึกว่าตัวเองชีวิตเจริญรุ่งเรืองตามเลยสักนิด

"เฮ้อ"เธอถอนหายใจก่อนที่ไม่นานจะมีเสียงจากโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงของตัวเองดังขึ้น มือเรียวรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาด้วยความเร็วแสงก่อนจะพบว่ามันเป็นข้อความโฆษณาโปรโมชั่นอินเตอร์เน็ต 5G ไม่ใช่ข้อความจากบริษัทที่เธอพึ่งไปสมัครงานมาแต่อย่างใด

คิ้วเรียวกระตุก ก่อนจะถอนหายใจออกมาอีกหลายครั้ง ขาเรียวจึงได้เริ่มออกก้าวเดินออกจากข้างถนนขึ้นไปบนหอพักราคาสองพันห้าที่หาได้ยากในเมืองกรุงแบบนี้ ห้องที่มีแต่พัดลม ไม่มีแอร์ ไม่มีตู้เย็นแถมอยู่ชั้นบนสุดลิฟท์ก็ไม่มี ข้าวหมูแดงหมูกรอบแบบห่อกลับบ้านถูกวางไว้หน้าโต๊ะคอมที่หน้าจอถูกเปิดไว้เห็นแค่ภาพพักหน้าจอพื้นฐานอย่างภาพดาวตอนกลางคืนและเตนท์สีเหลือง ร่างบางทิ้งตัวก่อนจะนั่งกินข้าวเปิดซีรีย์ดราม่าจากกำแพงเมืองจีนดูคลายเครียด

ความเครียดจางหายไปได้แค่ชั่วขณะก่อนที่ขวดน้ำที่เธอยกขึ้นมาดื่มจะเหลือเพียงแค่ขวดเปล่า น้ำหยดสุดท้ายหยดลงที่ปลายลิ้นก่อนที่เจ้าของห้องคับแคบมองกวาดสายตาไปทั่วห้องไร้วี่แววของขวดที่ถูกบรรจุภัณฑ์น้ำอยู่เลย พาขวัญถอนหายใจอีกครั้ง ก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ไปหยิบกุญแจห้องเดินลงบันไดหกชั้นเพื่อที่จะไปร้านสะดวกซื้อที่อยู่ไกลออกไป

แต่ขึ้นรถมาไม่ทันไรเสียงรถจากการที่นิ้วโป้งขวากดปุ่มสตาร์ทมันดันไม่ติด

"โอ้ย เอาอีกละนะลูกแม่ เดือนนี้เสียค่าซ่อมไปสี่พันแล้วนะลูก เป็นเด็กดีให้แม่หน่อยเถอะ" ใช่! สรรพนามแทนตัวเองว่าแม่นั้นไม่ได้คุยกับลูกที่เป็นมนุษย์มีชีวิตแต่อย่างใด แต่หมายถึง รถมอเตอร์ไซต์อายุยี่สิบกว่าปีที่เธอนั่งควบมันอยู่

พาขวัญพาตัวเองลงจากรถก่อนจะใช้แรงทั้งหมดที่มียกขาตั้งสองขาขึ้นเพื่อนสตาร์ทเท้า บอกเลยว่าแรงทั้งหมดที่มีจริงๆ เธอรู้สึกข้าวหมูแดงหมูกรอบที่กินไปเมื่อกี้ถูกย่อยจนไม่เหลือ เหงื่อกายไหลเพราะอากาศที่ร้อนก่อนที่ไม่นานเสียงรถก็ถูกสตาร์ทติดในที่สุดรอยยิ้มก็ปรากฏบนหน้าเธอสักที

"เออ แบบนี้สิค่อยดีหน่อย" เธอพูดกับตัวเองก่อนจะขึ้นควบรถอีกครั้ง สายตาเหลือบไปเห็นหมวกกันน็อคสีดำสนิทที่มีไว้แค่กันตำรวจเฉยๆและแน่นอนพาขวัญเมินมัน ควบบิดมอเตอร์ไซต์ออกไปอย่างไม่ใยดีปล่อยให้หน้าและผมโต้ลมรับความเย็นขึ้นมาบ้าง

ในหัวเล็กๆนึกถึงมัจฉะลาเต้จากร้านกาแฟที่มีสาขาที่ปั้มน้ำมันทั่วไทย เธอบิดมอไซต์ตามหามันขับไปจนถึงวงเวียนที่รถติดกันสุดๆ แถมคนขับรถกันเร็วสุดๆแน่นอนเธอเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม มือขวาบิดคันเร่งตรงไปแทรกเลนส์ขวากลางถนนแต่ใครว่าคิดว่าเสียงรถของเธอมันดับ รถของเธอหยุดลงกลางเลนส์ขวารถเก๋งด้านหลังที่ขับมาด้วยความเร็วแสงขับชนเธอทันที

ภาพตรงหน้าของเธอคือท้องฟ้า เธอรู้สึกเหมือนตัวเองบินได้ชั่วขณะก่อนที่แรงโน้มถ่วงของโลกจะดึงเธอลงมา ยังไม่ทันได้กรีดร้องเธอก็รู้สึกเหมือนหลังกระแทกพื้นซีเมนร้อนๆจนจุกไม่หมด แรงจะพูดออกมาสักแอะยังไม่มี ถามจริงเธอจะตายแบบนี้? ตายโง่ๆแบบนี้?

คำถามยังไม่ได้รับคำตอบ ภาพก็ตัดลงเหลือเพียงความมืดมิด



แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 10412 ไบต์และได้รับ 6 EXP!  โพสต์ 2025-5-19 17:38
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ขลุ่ย
พัดคุณชาย
หมวกไผ่ผ้าคลุม
ลาภลอย
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x4
x1
x33
x1
x42

2

กระทู้

44

ตอบกลับ

552

เครดิต

คนสร้างตัว

พลังน้ำใจ
288
ตำลึงทอง
115
ตำลึงเงิน
134
เหรียญอู่จู
13036
STR
5+6
INT
6+0
LUK
6+2
POW
6+0
CHA
5+5
VIT
5+7
คุณธรรม
345
ความชั่ว
0
ความโหด
203
โพสต์ 2025-5-19 23:07:29 | ดูโพสต์ทั้งหมด
 
   
END

ในยามค่ำคืน เสียงเคาะแป้นพิมพ์ยังดังต่อเนื่องปะปนกับเสียงหัวเราะแผ่วเบาของพนักงานแผนกมาร์เก็ตติ้งที่กำลังเก็บของกลับบ้าน ผู้จัดการฝ่ายขายเดินผ่านหน้าห้องพร้อมบอกลา 

กลับก่อนนะทิฟ อย่าดึกมากล่ะ” เสียงปิดประตูที่ดังพร้อมเสียงลิฟต์ส่งท้าย เป็นสัญญาณว่าคนสุดท้ายของฝ่ายนั้นก็กลับไปแล้ว

แต่แสงนีออนบนเพดานที่เคยสว่างจ้ากลายเป็นแสงหม่นอ่อน ๆ เมื่อเซนเซอร์ตรวจไม่เจอความเคลื่อนไหวในพื้นที่ส่วนรวม โต๊ะประชุมกลางออฟฟิศกลายเป็นเงาเงียบว่างเปล่า มีเพียงมุมเล็กริมกระจกฝั่งตะวันออกเท่านั้น...ที่ยังมีไฟสว่างอยู่ และในแสงนั้น มีหญิงสาวผมบอร์นทองที่กำลังนั่งทำงานอยู่ ทิฟฟานี โคโปรเจกต์เมเนเจอร์สาววัย 27 ปี ที่ยังคงตามเก็บงานส่วนที่เหลืออยู่

เธอยังนั่งอยู่บนเก้าอี้เดิม ตรงโต๊ะที่ไม่มีแจกัน ไม่มีต้นไม้ ไม่มีเครื่องประดับเหมือนโต๊ะใครๆ แต่มันมีเพียงแฟ้มเอกสาร วางซ้อนเป็นชั้น ๆ แล็ปท็อปสีเงิน ยี่ห่อส้มแหว่ง เปิดค้างไว้ โพสต์อิทหลากสีถูกแปะเรียงไปทั่วโต๊ะไปหมด และ แก้วกาแฟที่เท่าไรแล้วไม่รู้ ของวัน

ทิฟฟานีขยับตัวเล็กน้อย บิดข้อมือที่ตึงเครียด หยิบปากกาเน้นข้อความมาขีดทับหมายเหตุในพรีเซนต์ลำดับสุดท้าย ก่อนถอนหายใจออกมายาว ๆ แบบไม่รู้ตัว เธอไม่ได้รู้สึกเหนื่อยเสียทีเดียว...เธอแค่ ยังไม่พอใจกับงานของตัวเองก็เท่านั้น

เธอก้มมองนาฬิกาแขวนผนัง เข็มสั้นชี้เลข 1 เข็มยาวใกล้แตะเข้าสู่เลข 9 ไปแล้ว (01.45 AM.) “ แค่เคลียร์ให้เสร็จก่อนตีสอง แล้วค่อยกลับไปนอนก็ยังทัน ” เธอบอกตัวเองแบบนั้น แม้ว่าเมื่อคืนจะแทบไม่ได้นอนเลยก็ตาม ถึงยังใดก็แล้วแต่คีย์บอร์ดยังถูกกดต่อ เสียงกระดาษพลิกไปมาเบา ๆ แม้ร่างกายจะล้าจนตาเริ่มมัว แต่ใจของเธอยังฝืนเอาไว้ได้ หรืออย่างน้อยเธอคิดว่าเธอ ยังไหวอยู่

ในที่สุดเธอก็ปิดจอแล็ปท็อป พับแฟ้มงานวางเรียบร้อยทุกแผ่น เสียงฝนตกเบา ๆ เริ่มแตะกระจกจากด้านนอก เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กดชื่อที่คุ้นตาในรายชื่อผู้ติดต่อ " Jeff " นั้นคือชื่อคนรักของเธอ เสียงโทรออกดังขึ้น… แต่ไม่มีใครรับสาย เธอรออยู่พักนึง แล้วหัวเราะเบา ๆ เหมือนคนที่พอจะรู้ล่วงหน้าอยู่แล้วว่า...คงไม่มีใครรับ

" กำลังจะกลับแล้วนะ ไม่ต้องห่วง " นั้นคือเสียงที่เธอฝากข้อความเอาไว้ ก่อนจะกดตัดสายไป

เธอใส่เสื้อคลุม คว้ากระเป๋าสะพายใบโปรด แบบไม่เร่งรีบ แต่ขาเริ่มช้าลงเรื่อย ๆ เพราะความล้าไม่ใช่แค่กล้ามเนื้อ มันคือความล้าที่เกาะอยู่ในกระดูกของคนที่ไม่ได้หยุดและทำงานแบบห่ามรุ่งห่ามค่ำมาหลายวันแล้ว

เสียงเครื่องยนต์ท่ามกลางฝนพรำ เธอเหยียบคันเร่งเบา ๆ วิ่งออกจากลานจอดออฟฟิศที่เงียบจนได้ยินเสียงไฟ และบรรยากาศรอบๆ รถคันสีดำ แล่นออกไปตามทาง รถนี้มันออกแบบมาได้อย่างดี เพื่อรองรับความเหนื่อยของเธอได้อย่างดี กลิ่นของเบาะหนังสีดำ มันทำให้เธอรู้สึกดีมากๆ เวลาขับรถ

เธอเร่งเครื่องเล็กน้อย เพื่อให้ถึงบ้านได้เร็วขึ้น ตัวรถเองก็พุ่งตอบสนองเช่นกัน ความเร็วไต่ระดับโดยไม่รู้ตัว ล้อขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อแนบแน่นกับพื้นถนนในทุกจังหวะ ระบบกันลื่นกับการทรงตัวทำงานเงียบ ๆ ใต้ร่างเธอ แต่มันไม่ช่วยอะไรเลย... ถ้าคนขับไม่รู้ตัวว่าหลับไปแล้ว 

ดวงตาเธอเริ่มพร่าแสงไฟท้ายรถบรรทุกที่อยู่ข้างหน้าเริ่มกลายเป็นก้อนแสงแดงลอยเบลอ มือยังจับพวงมาลัยไว้แน่น แต่มันไม่ตอบสนองใดๆ แม้ว่าสัญญาณเตือนจัดดัง และเบรกจะทำงานเนื่องจากเป็นรถที่มีระบบตรวจจับอยู่ แต่มันก็ไม่สามารถรังเธอเอาไว้ได้

รถพุ่งแหกโค้งที่เปียกฝน ก่อนจะพุ่งเข้าชนกับด้านข้างของรถบรรทุกน้ำมันที่วิ่งสวนมาอย่างเร็วจากอีกทาง 

เอี๊ยดดดดดดดด ดดดดดดดดดดด ดดดดดดดดดด 

โคร๊มมมมม มมมมมมม

เสียงของล้อที่บดไปกับถนนของรถใหญ่ ที่พายามเบรกแล้ว เสียงแรงกระแทกสะท้อนออกไปในความมืด แตกกระจาย แสงแตกเป็นเศษสะท้อนละอองฝน รถหมุนครูดไปบนไหล่ทาง ...และทุกอย่างเงียบลง ถุงลมที่ทำงานแต่มันไม่ได้เอาไว้ช่วยเจ้าของเลย เพราะตอนนี้ร่างของเธอถูกกระแทกอัดอย่างแรง

ส่วนของหน้าจอแสดงผลกลางยังเปิด เพลงยังเล่นอยู่ท่อนเดิม แต่ไม่มีใครได้ฟังอีกแล้ว โทรศัพท์ของทิฟฟานีเองก็ตกอยู่ตรงพื้นข้างเบาะคนขับ หน้าจอยังเรืองแสงเบา ๆ เป็นรถหน้าล๊อกจอของเธอกับเเฟนหนุ่ม

ในอึดใจถัดมา เสียงประกายไฟจุดแรกก็ดังขึ้น จากเล็ก…แต่พุ่งพล่านราวกับจะกลืนทั้งถนนไว้ ไฟลุกจากใต้ท้องรถบรรทุกไล่ลามเร็วอย่างมากพาดผ่านพื้นถนนเปียกฝนฝนไม่ช่วยอะไร… แค่เปลี่ยนกลิ่นไหม้ให้ฉุนควันยิ่งขึ้นก็เท่านั้น ตอนนี้ภายในห้องโดยสารเองก็เหมือนว่ามันจะ เป็นดังกรงทองที่ขังร่างของเด็กสาวเอาไว้เท่านั้น 

ทิฟฟานียังคงเอนตัวอยู่ในท่าเดิม ศีรษะพิงเบาะตะแคงนิด ๆ มือหนึ่งวางหล่นข้างลำตัว มืออีกข้างยังแตะปลายพวงมาลัยแผ่ว ๆ

ไม่มีกรีดร้อง ไม่มีการดิ้นรน ไม่ตื่น เหมือน...เธอหลับไปก่อนที่เปลวไฟจะมาถึงเสียด้วยซ้ำไป 

เสียงไซเรนดังสั่นทั่วพื้นที่ ทั้งรถตำรวจ รถดับเพลิง และรถพยาบาล แต่ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ จากคนในรถคนสีดำ ควันยังพวยพุ่งเสาไ ฟส่องเงาความเสียหายแบบไม่ต้องมีคำอธิบายใดๆ ตอนนี้รถนั้นถูกเผาไปจนเป็นซาก มีซากของสาวที่ถูกเพลิงไหม้จนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ สิ่งที่บ่งบอกได้ว่าเป็นเธออย่างชัดเจนคือ สร้อยข้อมือที่แฟนหนุ่มซื้อให้ กับแหวนที่นิ้วนางของเธอ ทั้งคู่นั้นเงางามเหมือนวันแรกที่เธอใส่มันออกจากบ้านเมื่อเช้า

ในยามเช้าของวันเดียวกัน ( 07.33 AM.)

ข่าวในยามเช้าของหน้าจอโทรทัศน์ ช่องหนึ่งกำลังรายงานข่าว

“เกิดเหตุสลดเมื่อคืนที่ผ่านมา เมื่อเวลาประมาณ 01.50 น. เกิดอุบัติเหตุรถยนต์หรูชนประสานงากับรถบรรทุกน้ำมันบริเวณโค้งถนนสาย M27 ช่วงใกล้แยกเข้าทางด่วนตะวันออก เขตนอกเมืองฝั่งเหนือ ประเทศแคนนาดา โดยหลังจากเกิดเหตุเพียงไม่กี่วินาที ได้เกิดเพลิงลุกไหม้ขึ้นอย่างรุนแรงจนรถทั้งสองคันได้รับความเสียหายอย่างหนัก”

“เจ้าหน้าที่กู้ภัยและดับเพลิงได้รับแจ้งเหตุในเวลาประมาณ 02.10 น. และเข้าถึงพื้นที่ในอีก 17 นาทีถัดมา ซึ่งในขณะนั้นรถยนต์ ปอร์เช่ สีดำ ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งคัน เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิต 1 รายในที่เกิดเหตุ เป็นหญิงสาววัย 27 ปี ซึ่งจากเอกสารในรถและหลักฐานอื่น ๆ สันนิษฐานว่าเป็น " ทิฟฟานี่ " 

“จากรายงานของพยานในจุดเกิดเหตุและกล้องวงจรปิดเบื้องต้น คาดว่าเหตุการณ์เกิดจากการที่รถยนต์ของผู้เสียชีวิตหลุดโค้งด้วยความเร็วสูงก่อนจะพุ่งชนเข้ากับรถบรรทุกน้ำมันที่วิ่งสวนทางมาพอดี ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบภาพจากกล้องและรอผลชันสูตรเพิ่มเติมเพื่อยืนยันสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดอีกครั้ง”

“เหตุสลดนี้เป็นอีกหนึ่งบทเรียนของการทำงานหนักจนละเลยการพักผ่อน ซึ่งอาจนำไปสู่ความสูญเสียโดยไม่คาดคิด ขอแสดงความเสียใจมา ณ ที่นี้ด้วย” 


ทิฟฟานี่ในวัย 27 ปี ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต
เหตุจากขับรถหลับใน พุ่งชนรถบรรทุกน้ำมัน ไฟลุกไหม้รถทั้งคัน เป็นผลให้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
   
 

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 25110 ไบต์และได้รับ 12 EXP!  โพสต์ 2025-5-19 23:07
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กระบี่คู่สลักจันทรา
อาภรณ์พร่ำพิรุณ (ญ)
พู่กันคัดอักษร
พัดคุณชาย
หมวกไผ่ผ้าคลุม
น่ารัก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x1

1

กระทู้

1

ตอบกลับ

51

เครดิต

คนสร้างตัว

พลังน้ำใจ
30
ตำลึงทอง
10
ตำลึงเงิน
14
เหรียญอู่จู
2460
STR
0+0
INT
0+0
LUK
0+0
POW
0+0
CHA
0+0
VIT
0+0
โพสต์ 2025-5-20 16:16:10 | ดูโพสต์ทั้งหมด
กระบี่ไทเก๊กร่วงหล่น

     บุรุษหนุ่มวัย 30 ปี รูปร่างสูงโปร่ง ใบหน้าคมเข้ม แววตาคมกล้า หลี่จ้าวถงฝึกรำไทเก๊กมาตั้งแต่อายุ 15 ปี ด้วยสนใจศาสตร์ที่เห็นคุณปู่รำทุกเช้า มันทำให้เขาเริ่มฝึกกับคุณจนมีพื้นฐานแน่น ค่อยไปฝึกฝน ต่อยอดกับสถาบันสอนไทเก๊ก " หนึ่งตำลึงแลกพันชั่ง" การฝึกฝนที่เริ่มจากความเชื่องช้า ลมหายใจเป็นหนึ่งเดียวกับกระบวนท่าของมัน นานวันค่อยรับรู้ว่าช่วยเรื่องสุขภาพและเสริมสร้างบุคลิก
     จ้าวถงกำลังยืนทำสมาธิอยู่ในห้องเก็บตัวของโรงยิม มือขวาถือกระบี่ไทเก๊ก เนื่องจากวันนี้มีการแข่งขันรำไทเก๊กประกอบจังหวะเพลงในช่วงเช้า ช่วงบ่ายจึงเป็นการรำด้วยกระบี่ กว่าจะผ่านมาเป็นตัวแทนของสมาคมได้ ฝ่าด่านทุกข์เข็ญมาไม่น้อยสารพัดคำดูถูก คำพูดประชดประชัน สารพัดจะเจอทุกรูปแบบ ไหนจะคนในครอบครัวที่ไม่ค่อยยอมอีก
    "จ้าวถง ลูกพร้อมหรือยัง"
    เสียงของบิดาดังขึ้นพร้อมกับการเปิดประตูเข้ามาในห้องเก็บตัว สีหน้าไม่ค่อยเป็นกังวลเท่ามารดาที่เดินตามหลังเข้ามาติดๆ
    "ผมยังไม่ค่อยพร้อม มันตื่นเต้นด้วยครับ "
    เขายังไม่ค่อยมั่นใน สีหน้ามีความกังวล กลัวว่าจะทำออกมาได้ไม่ดีพอ และจะทำให้อาจารย์ผิดหวัง
    " ลูกหน้าได้กังวลมากเกินไป แม่ได้ยินอาจารย์บอกว่า ลูกฝึกซ้อมหนัก "
    แม้มารดาจะพูดให้กำลังใจบุตรชาย กลับไม่ได้ทำให้ความกังวลน้อยลง
    "พ่อเชื่อว่าลูกจะทำมันออกมาได้ดี ถึงที่สุดแล้วไม่ว่าผลลัพธิ์สุดท้ายมันจะออกมาเป็นแบบไหน พ่อเชื่อว่าลูกได้ทำมันอย่างดีที่สุดแล้ว"
    บิดาเอื้อมมือมาวางบนไหล่ บีบไหล่ให้กำลังใจลูกชายคนเดียวของครอบครัว สายมองดูด้วยความชื่นชม ไม่ว่าลูกชายคนนี้จะเดินไปบนเส้นไหน บิดาจะสนับสนุนไปจนสุดทาง ไม่สนใจเสียงก่นด่ารอบข้าง ขณะเดียวกันมารดายืนด้านข้างบีบมือให้กำลังใจไม่แพ้กัน
     ช่วงเช้าเป็นการแข่งขันท่ารำไทเก๊ก 18 ท่า ประกอบเพลง ซึ่งทุกคนทำคะแนนได้สูสีไม่ทิ้งห่างกันมาก บรรยากาศเสียงเชียร์ดังกระหึ่มทั่วอาคารขนาดใหญ่  สร้างความตื่นเต้นและความกดดันไปเป็นอย่างดี
     ไม่นานถึงรอบของจ้าวถงขึ้นร่ายร่ำไทเก๊ก เขายืนตรงกลางเวทีหลับตาทำสมาธิ ผ่อนคลายให้ได้มากที่สุด กระทั่งบทเพลงได้เปิดขึ้นมา จ้าวถงเริ่มขยับขาและแขนทั้งสองข้างรำประกอบเพลง เชื่องช้า พริ้วไหว ตามท่วงท่าและทำนองที่ได้ฝึกซ้อมมาอย่างหนัก ตัดความกังวล ความตื่นเต้น ทำให้มีสมาธิจดจ่อกับตัวเอง ทุกกระบวนท่าไหลรื่นดุลน้ำไหลเอื่อยช้าๆ สัมผัสได้ว่าคล้ายมีลมอ่อนหนุนใต้แขนทั้งสองข้าง
     คล้อยเข้าช่วงบ่ายถงรอบของจ้าวถงขึ้นร่ายรำกระบี่ หากวันนี้สามารถผ่านพ้นอย่างราบรื่นและผลลัพธิ์ติด 1 ใน 3 ของการแข่งข้นสนามใหญ่นี้  เย็นนี้ย่อมมีข่าวดีไปบอกสตรีที่คบหากันมาตั้งแต่เรียนมอปลาย เธอสนับสนุนเขาเต็มที่ไม่แพ้บิดา เพียงแต่วันนี้เธอมีประชุมทำให้ไม่สามารถมาร่วมเชียร์ได้ จึงต้องนัดทานข้าวเย็นแทน
     การขึ้นประกวดครั้งนี้มีหลายอย่างเป็นเดิมพัน มิอาจแพ้หรือยอมแพ้ได้ มีเพียงทุ่มสุดตัวเพื่อคนที่รักเท่านั้น ระหว่างยืนถือกระบี่ไม้ ตวัดออกร่ายรำตามทำนองเพลง มันดำเนินไปใกล้จบ กระทั่งร่างกายรู้สึกว่ามีอาการมึนตัว คล้ายอาเจียน พยายามฝืนทนให้จบ ทว่าร่างกายมิอาจตอบสนองปณิธานอันยิ่งใหญ่นี้ได้ จ้าวถงเริ่มเฉื่อยชา กระบี่ในมือเริ่มอ่อนแรง สายตาพล่ามั่ว มิแจ่มชัด จนแน่นหน้าอก หายใจติดขัด
    กระบี่ไม้ร่วงหล่นจากมือ ร่างบุรุษหนุ่ม ทรนงองอาจ ล้มลงลบเวที บิดากับอาจารย์ต่างรีบวิ่งขึ้นมาประคองร่างของเขา ร่างในอ้อนกอดของบิดา หูสดับได้ยินบิดาเรียกชื่อมิขาดตอน ความปราถนาจะได้ไปเจอตามนัดมิอาจไปได้อีก
    รถพยาบาลนำร่างของจ้าวถงโดยมีบิดาและมารดาขึ้นรถมาด้วย สใายอ๊อกซิเจนครอบปากไว้ให้สามารถประคองร่างนี้ไม่ให้หยุดหายใจ เมื่อมาถึงโรงพยาบาล บุรุษพยาบาลรีบนำเตียงมารับและรีบพาไปยังห้องฉุกเฉินโดยทันที ผลลัพธิ์การแข่งขันเป็นเช่นไรไม่อยากรับรู้ ขอเพียงบุตรชายปลอดภัยเท่านั้นก็พอ
   "คุณพ่อ..จ้าวถงเป็นอย่างไรบ้าง อาจารย์ของเขาโทรไปหาหนูมา"
    อิ้งเยว่คนรักของจ้าวถงวิ่งมาด้านหน้าห้องฉุกเฉิน หน้าตาตื่น กังวล มองประตูหน้าห้องฉุกเฉิน
    "อิ้งเยว่ เขาเพิ่งเข้าห้องฉุกเฉินไป รอฟังผลพร้อมกัน"
    แม่ตอบแทนพ่อที่ยังนั่งมุ่นคิ้ว เคร่งเครียด มือกุมแน่น
     2 ชั่วโมงผ่านไปยาวนานสำหรับคนรอคอย กระทั่งเสียงประตูห้องฉุกเฉินเปิดออก หมอสวมหน้ากากอนามัยเดินออกมาด้วยสีหน้าไม่ดี มองดูญาติคนไข้กำลังไตร่ตรองว่าจะพูดเช่นใดไม่ให้สะเทือนใจมากเกินไป แต่มันก็ต้องพูดออกไป
    "หมอครับ..ลูกผม จ้าวถงเป็นอย่างไรบ้าง"
    ไม่ทันให้หมอได้พูด บิดาลุกขึ้นมายืนตรงหน้าหมอ อยากได้ยินว่าลูกชายของเขาปลอดภัย แม่ยืนคล้องแขนบิดาแน่น อิ้งเยว่ยืนด้านหลัง ทุกคนรอคำตอบที่พวกเขาคาดหวังว่า คนบนเตียงด้านในห้องฉุกเฉินปลอดภัย
    "ผมทำอย่างสุดความสามารถแล้วครับ ผมต้องขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ลูกชายของคุณพ่อได้จากไปด้วยอาการสงบแล้วครับ "
     เมื่อจบประโยคมิต่างจากเสียงฟ้าผ่ากลางลงหัวใจทุกดวงที่ยืนรอคำตอบ หวังได้เห็นเขาออกมาพูดหยอกล้อ คุยเล่น ภาพนั้นคงไม่มีให้เห็นอีกต่อไปแล้ว การนัดทาวข้าว ผิดเวลานัด คำขอโทษที่มาสายทุกครั้งที่อิ้งเยว่มักได้ยินจนชินหู เธอคงไม่ได้บ่นให้เขาได้ยินอีกต่อไป
    คนผมขาวต้องมาเผาศพคนผมดำ บิดาและมารดาทำใจทำลำบากยิ่งนัก ยามนี้มันหนักไปทุกอย่าง เขาต้องมาเผาศพบุตรชาย ทั้งเก็บเถ้ากระถูกกลับบ้าน มันสะท้านไปทั้งหัวใจ แต่นี้ต่อไปใครจะมานั่งเล่าเรื่องให้ฟัง ใครจะคอยดึงมหงอกบนศีรษะ ใครจะมาคอยทะเลาะ ภาพเหล่านั้นคงไม่มีทางเกิดขึ้นในบ้านอีกต่อไป มันเหลือเพียงกระบี่ไม้เล่มนี้ไว้เป็นอนุสรณ์ต่างหน้าเท่านั้น
   
     

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 14946 ไบต์และได้รับ 6 EXP!  โพสต์ 2025-5-20 16:16
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้