12
ตั้งกระทู้ใหม่ กลับไป
เจ้าของ: Watcher

[ประตูวังทิศเหนือ] ประตูเสวียนอู่

[คัดลอกลิงก์]

3

กระทู้

122

ตอบกลับ

3259

เครดิต

เริ่มมีชื่อเสียง

พลังน้ำใจ
2168
ตำลึงทอง
110
ตำลึงเงิน
441
เหรียญอู่จู
15357
STR
66+13
INT
65+0
LUK
0+5
POW
50+0
CHA
15+0
VIT
13+5
คุณธรรม
2335
ความชั่ว
1136
ความโหด
2553
โพสต์ 2024-8-23 11:32:30 | ดูโพสต์ทั้งหมด




CHAPTER 22.1
วันที่สิบเอ็ดเดือนแปดแห่งรัชศกเจี้ยนหยวนปีที่สิบ
วันอาทิตย์ ประมาณ 12.00 น.


หลงเยวี่ยกลับจากตำหนักเหมันต์ได้ไม่ทันไร ก็มีกงกงเข้ามาแจ้งที่ตำหนักเมิ่งเหยาว่า เฮ่อถูเจี๋ยอวี๋ดื่มยาพิษถึงแก่ความตายแล้ว 


นางตายแล้ว…หญิงสาวที่เมื่อครึ่งเดือนก่อนสวมปิ่นระย้างดงาม เป็นที่โปรดปรานอย่างล้นพ้น 

นางตายแล้ว…สตรีที่มีโอกาสขี่ม้าชมทิวทัศน์ในอุทยานเม่าหลิน 

เพียงชั่วเวลาที่เพลี้ยงพล้ำในกลอุบายชิงความโปรดปราน นางก็ตายเสียแล้ว


เสี่ยวโหยวจื่อ กงกงน้องที่หลงเยวี่ยได้พบเจอครั้งเมื่อเข้าวัง ประคองมือของนางเดินไปทางประตูเสวียนอู่ ยืนอยู่บนหอคอยของกำแพงสูง มองขบวนส่งศพของหญิงสกุลเฮ่อถูคล้อยหลังออกจากพระราชวังต้องห้าม เสียงประกาศไปตามท้องถนนดังกระทบโสตอย่างแผ่วเบา


เช้าวันที่ 11 เดือน 8 ร่ำลือกันว่า เฮ่อถูเจียยวี๋ ดื่มยาพิษถึงแก่ความตาย ร่างเฮ่อถูเจียยวี๋ถูกบรรจุโลงและเตรียมขบวนเดินทางส่งพระศพขึ้นเหนือกลับไปยังบ้านเกิดนาง ในเวลา 12.00 น. ณ ประตูเมืองทิศเหนือ เจิ้งเหยา 


พรุ่งนี้ก็จะเป็นวันประหารฉีจินซานแล้ว “หญิงสกุลเฮ่อถูก่อกรรมทำเข็ญ ฝ่าบาทพระราชทานโทษตายอย่างครบสามสิบสองนับว่าเห็นแก่ความหลังเก่าก่อนที่เคยรับใช้มา นายหญิงน้อย นางได้รับกรรมอย่างสาสมแล้ว ท่านอย่าได้มองให้เสียสุขภาพจิตเลยพ่ะย่ะค่ะ


คำกล่าวของเสี่ยวโหยวจื่อช่างน่าขบขัน


หลงเยวี่ยมุมปากกระตุกน้อยๆ เห็นแก่ความหลังครั้งเก่าก่อนหรือ? เกรงว่าจะเป็นเพราะไม่ใส่พระทัยเลยต่างหาก แม้แต่โทษประหารนี้ก็คงไม่ใช่พระองค์ให้ความเห็นขึ้นมา


“พรุ่งนี้จะประหารฉีจินซานแล้ว เขาเป็นคนของข้า เจ้านำเงินสามร้อยตำลึงเงินนี้ไปเป็นค่าทำศพและจากคนบำรุงดูแลหลุมฝั่งศพสกุลฉี”


“รับคำสั่งนายหญิงน้อย”


หลงเยวี่ยหันหลังก้าวลงจากอาคารสูง นางมิได้รู้สึกเสียใจต่อการจากไปของเฮ่อถูเจี๋ยอวี๋ เย่เหม่ยเหริน หรือแม้แต่ฉีจินซาน เพียงแต่เบื้องหลังกำแพงสีแดงสดที่รุ่งเรืองดุจอาทิตย์เที่ยงวัน ช่างเป็นสถานที่ที่คดเคี้ยวดำมืด


ดวงตาคมกล้ามองไปยังทิศแห่งอำนาจ มุมปากเหยียดรอยยิ้ม ทอดถอนใจเหลือประมาณ


++ ข่าวประกาศ  ++
ร่างของเฮ่อถูกเจี๋นอวี๋บรรจุโลงเตรียมกลับบ้านเกิดทางประตูทิศเหนือ
+10 EXP สำหรับผู้ฟังข่าวประกาศ @@@Admin 
        
มอบเงินค่าทำศพฉีจินซาน 300 ตำลึงเงิน




แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับ +50 คุณธรรม +50 ความโหด โพสต์ 2024-8-23 12:43
คุณได้รับ 10 EXP โพสต์ 2024-8-23 12:43
โพสต์ 11008 ไบต์และได้รับ 6 EXP!  โพสต์ 2024-8-23 11:32
โพสต์ 11,008 ไบต์และได้รับ +2 EXP +4 คุณธรรม จาก พู่กันคัดอักษร  โพสต์ 2024-8-23 11:32
โพสต์ 11,008 ไบต์และได้รับ +4 ความชั่ว +6 ความโหด จาก คนกำยำ  โพสต์ 2024-8-23 11:32
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
นักสู้
บทสวดมนต์ฉบับคัดลอก
บาดเจ็บสาหัส
พู่กันคัดอักษร
ชุดเหวินเฉิน(เหม่ยเหริน)
ผีผา
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x5
x1
x18
x3
x3
x7
x8
x2
x3
x4
x4
x1
x2
x3
x5
x1
x3
x18
x1
x5
x3
x1
x1
x5

3

กระทู้

122

ตอบกลับ

3259

เครดิต

เริ่มมีชื่อเสียง

พลังน้ำใจ
2168
ตำลึงทอง
110
ตำลึงเงิน
441
เหรียญอู่จู
15357
STR
66+13
INT
65+0
LUK
0+5
POW
50+0
CHA
15+0
VIT
13+5
คุณธรรม
2335
ความชั่ว
1136
ความโหด
2553
โพสต์ 2024-9-15 06:17:07 | ดูโพสต์ทั้งหมด




CHAPTER 27.2

วันที่สี่เดือนเก้าแห่งรัชศกเจี้ยนหยวนปีที่สิบ
วันพุธ ช่วงเวลา 12:00 น.
เควสต์ปลดหัวใจไทเฮา : ประตูเสวียนอู่

เวลานัดหมายสวดมนต์ภาวนาที่ศาลเจ้าสัจจเทพอี๋เหอคือช่วงเที่ยงวันก็จริง ทว่าหลงเยวี่ยยังคงมาคอยท่าก่อนเวลา ไทเฮาเป็นผู้เคร่งครัดในกฎระเบียบแม้จะมิได้เข้มงวดกวดขันอย่างเก่าก่อนก็ยังรักษาเวลาอย่างยิ่ง นางจึงมิอาจพลั้งเผลอให้เสียการ อากาศวันนี้เย็นสบายมีสายฝนช่วงเปลี่ยนฤดูในตอนเช้าเพียงปรอยๆ ทำให้เวลาเที่ยงวันทั้งปลอดโปร่งและชุ่มฉ่ำ

รออยู่ไม่ถึงหนึ่งเค่อ หลงเยวี่ยก็มองเห็นรถม้าคันหนึ่งเทียมอาชาพ่วงพีสีดำ ขนเป็นประกาย กำลังวังชามากยิ่ง ตัวรถทำจากไม้เนื้อแข็งที่มีกลิ่นหอม แม้นมิได้มีการจัดแต่งลวดลายฉลุอย่างหรูหรา หากว่าฝีมือการช่างปราณีตนั่ง เพียงมองตัวรถก็พอคาดเดาได้ว่าที่ด้านในมีผู้สูงศักดิ์ประทับอยู่ ซึ่งในยามนี้ผู้ที่มีกำหนดการออกนอกวังมีเพียงไทเฮาเท่านั้น

เมื่อรถม้าย่างกีบเท้าใกล้เข้ามา หลงเยวี่ยก็ยอบกายลงคุกเข่ากึ่งพิธีการ เอ่ยเสียงแว่วหวานราวกับนกขมิ้น “ถวายบังคมไทเฮา ขอพระองค์ทรงเกษมสำราญยิ่งยืนนาน”

“ลุกขึ้นเถิด…” เนตรหงส์ซึ่งผ่านกาลเวลามายาวนานปรายมองด้านล่างจากหน้าต่างรถม้า พบหญิงสาวท่วงท่าสะโอดสะองที่ประทินโฉมละเมียดละไม แต่งกายสวยสดปราณีตทุกยาม ตอนนี้นางสวมชุดผ้าต่วนสีเขียวแก่ดูสุขุมเงียบงัน คลับคล้ายมิใช่ธิดาสกุลตวนมู่คนเก่า มุมปากที่มีริ้วรอยประดับรางๆ วาดออกเล็กน้อย ในความเคร่งขรึมของรอยยิ้มแฝงความปราณีอยู่ลึกๆ “...แต่งกายเรียบร้อยนัก มิใคร่เห็นเจ้าแต่งกายเรียบง่าย มองดูแล้วก็อดแปลกใจไม่ได้”

“ขายหน้าไทเฮาแล้วเพคะ”

“ขึ้นมาเถิด หากชักช้าประเดี๋ยวจะไม่ทันฤกษ์ยาม” หลงเยวี่ยยอบกายรับพระราชเสาวนีย์ ยืนกล่องเล็กๆ ใบหนึ่งแก่นางกำนัล แล้วขยับร่างขึ้นไปบนรถม้า

ดำเนินเควสต์ปลดหัวใจไทเฮา
@@Admin 


แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 7764 ไบต์และได้รับ 3 EXP!  โพสต์ 2024-9-15 06:17
โพสต์ 7,764 ไบต์และได้รับ +2 คุณธรรม จาก บทสวดมนต์ฉบับคัดลอก  โพสต์ 2024-9-15 06:17
โพสต์ 7,764 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] ความชั่ว +2 ความโหด จาก บาดเจ็บสาหัส  โพสต์ 2024-9-15 06:17
โพสต์ 7,764 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] ความชั่ว +2 คุณธรรม จาก พู่กันคัดอักษร  โพสต์ 2024-9-15 06:17
โพสต์ 7,764 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] ความชั่ว +2 ความโหด จาก คนกำยำ  โพสต์ 2024-9-15 06:17
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
นักสู้
บทสวดมนต์ฉบับคัดลอก
บาดเจ็บสาหัส
พู่กันคัดอักษร
ชุดเหวินเฉิน(เหม่ยเหริน)
ผีผา
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x5
x1
x18
x3
x3
x7
x8
x2
x3
x4
x4
x1
x2
x3
x5
x1
x3
x18
x1
x5
x3
x1
x1
x5
โพสต์ 2025-7-20 02:09:17 | ดูโพสต์ทั้งหมด

荷香万里夏
กลิ่นบัวหอม คิมหันต์หมื่นลี้

วันที่ห้า ลิ่วเยว่ เจี้ยนหยวนศกที่สิบเอ็ด
ต้นยามอิ๋ย ( 03.00 น. )


   เสียงยามย่ำตีสามดังแว่วจากหอสูงป้อมประตูเสวียนอู่ในยามนี้เงียบสงัด ราวกับกลั้นลมหายใจรอคอยชะตากรรมที่คาดหวังให้ทุกอย่างเรียบร้อยดั่งดวงใจปรารถนา

   เหนือประตูเมือง ในซอกหลืบมุมอับสายตาที่แคบยิ่งกว่าลำคอห่าน ฝ่าบาทในอาภรณ์ทหารปลอมตัวซ่อนเงาอยู่แนบข้างกายเว่ยเจียเหลียนฮวา — ทั้งสองใกล้ชิดจนแทบสัมผัสลมหายใจ หากใครมองจากเบื้องล่างยากนักจะสังเกตเห็นพวกเขา สิ่งนี้คือสิ่งที่ทำให้นางข้องใจยิ่งนัก ทว่าเพื่อผลประโยชน์แล้วจำต้องเงียบปากไว้

   “เงียบไว้ เจิ้นจะล่อแมวออกจากรัง...” พระสุรเสียงต่ำประหนึ่งลมราตรี ฝ่าบาททรงก้มลงกระซิบข้างหูเบา ๆ

   ในใจของสตรีผู้เป็นสนมนั้นทำได้เพียงภาวนาอย่าให้บุรุษผู้ที่จะก้าวผ่านประตูเสวียนอู่นี้แลเห็นนางในสภาพนี้เลย คำเอ่ยขออภัยนับร้อยพันคราเอ่ยซ้ำในดวงใจจนสตรีร่างเล็กแทบจะร้องไห้อยู่รอมร่อ แต่ว่าชีวิตไม่ยอมให้นางได้พักร้องไห้เลยสักครา

   ณ ลานเบื้องล่าง ปรากฏร่างหลิวชุ่นในอาภรณ์นายทหารขุนนาง เขาก้าวเข้าสู่ลานประตูชั้นใน พร้อมองครักษ์ติดตามสองคน ทั้งหมดเดินผ่านด่านตรวจตามระเบียบของวังหลวง

   ทหารเวรประจำประตูตรวจอาวุธตามธรรมเนียม — ชั่วขณะแรกเหมือนไม่มีสิ่งผิดแผกใดแต่ในจังหวะปลดอาวุธนั้นเอง ใบหน้าของทหารเวรพลันเปลี่ยน

   “ลงมือ!!” เสียงตะโกนสั้นปานฟ้าผ่ากลางแสงจันทร์

   มีดสั้นจากทหารเวรแทงสวนเข้าใส่สีข้างของหลิวชุ่นอย่างฉับพลัน คมกระบี่วาววับอีกสามสายจู่โจมซ้อนจากสองข้างและเบื้องหลัง จากบนป้อม ปรากฏร่าง “ทหาร” อีกสิบกว่าคนกระโจนลงมาราวเหยี่ยวถลาลม — พวกมันคือมือสังหารที่แฝงตัวมาในคราบทหารราชการ น่าขันสิ้นดีนัก

   “หึ...”

   แม้ถูกแทง หลิวชุ่นกลับไม่ถอย เขารับการโจมตีก่อนจะรวบรวมปราณเข้าสู่จุดตันเถียนกลางอก ก่อนตวัดมือขวาชักกระบี่แสงออกจากปลอกผ้าหลังแผ่นหลัง — “ปราณคันฉ่องเทพคาบจันทรา” แผ่ประกายเงินออกจากกระบี่เหมือนสายน้ำสะท้อนแสงจันทร์

   เพียงตวัดหนึ่งเดียว กระแสปราณเรียงกันราวบานคันฉ่องหลายชั้น กวาดกั้นกระบี่สามสายที่พุ่งมาซ้อน พลิกแนวกระบี่ให้เบี่ยงกลับใส่เจ้าของคมเอง

   ฉัวะ!

   เลือดกระเซ็น — มือสังหารข้างหนึ่งถูกคมกระบี่ของตนตัดกลางแขน หวีดร้องลั่น

   หลิวชุ่นฉวยโอกาสนั้นถอยหลังไปสองก้าว โยนกระบี่ขึ้นเหนือศีรษะ ปราณไหลเวียนเข้าสู่ด้ามกระบี่ทันที แสงจากคันฉ่องลอยสูงเหนือหัว ก่อนไล้ลงมาเป็นวงแสงคล้ายกระจกเดือนเพ็ญ

   ผืนฟ้าชั่วขณะสว่างสลัว กายาแท้ของเขาเผยออกจากเงาทหาร เผยชุดมือสังหารจากยุทธภพในชุดคลุมน้ำหมึกแถบขาว

   “ใช่แล้ว” ฝ่าบาททรงพึมพำบนกำแพงเมืองฉางอัน “มันเปิดไพ่ของตนเองแล้ว”

   พระองค์ดีดนิ้วเบา เสียงคล้ายเหรียญกระทบหิน เป็นสัญญาณให้ องครักษ์ลับสิบคน ที่วางซ้อนกำลังไว้ล่วงหน้าเข้าสู่การเคลื่อนไหวทันที องครักษ์เหล่านั้นแต่ละคนแต่งกายธรรมดาแฝงตัวเป็นชาวบ้าน ทว่าเคลื่อนไหวฉับไวราวพยัคฆ์ บุกเข้าห้อมล้อมกลางวงสังหาร ร่วมกับหลิวชุ่นซึ่งกำลังใช้ “กระบี่คันฉ่องจันทรา” แผ่ม่านคุ้มตัวกลางสนาม

   “จับเป็นมัน! อย่าให้มันตายง่าย ๆ!!” เสียงจากคราบมังกรหนุ่มประกาศกร้าวออกไป โองการที่ต้องการรวบตัวการในคราเดียวเพื่อตัดสินโทษและปิดประตูเมืองตีแมวให้ตายสิ้นทั้งเก้าชีวัน

   ทันใดนั้น — เสียงจากบนป้อมด้านเหนือแผดมาอีก

   “หวงตี้อยู่บนนั้น!! จับตัวมันไว้ให้ได้!”

   มือสังหารสองคนแยกตัวพุ่งขึ้นมาทางป้อม เจาะเป้าหมายตรงมายังฝ่าบาทด้วยวิชาตัวเบา ฝ่าบาททรงเบี่ยงพระวรกายหลบในจังหวะพอดี ใช้เพียงปลายเท้าไถลเบา ๆ ไปข้างแผ่นหิน ไม่ตอบโต้กลับแม้ครึ่งกระบวน

   “เว่ยเจีย เจ้า—”

   “ฝ่าบาท ถอยไปเพคะ!”

   หาใช่เพื่อปกป้องเขาในฐานะภรรยาไม่ นางเพียงปกป้องเขาเพื่ออำนาจของมังกรไม่ควรมีผู้ใดกล้ำกลายได้ ในห้วงความคิดของเว่ยเจียเหลียนฮวามีเพียงเพื่อความผาสุกของต้าฮั่นและคงไว้ซึ่งอำนาจที่ต้องสืบทอดต่อไปยังหลานของนาง ร่างบางพุ่งตัวแทรกออกจากมุมหลืบในจังหวะพอดี ร่างกายอ่อนช้อยดั่งสายน้ำปลิวกระชับด้ามกระบี่บางเฉียบจากข้างเอวเพื่อรับแรงปะทะจากระยะประชิด

   นางเริ่มรู้สึกตัวมาสักพักแล้วว่าเรี่ยวแรงของนางต่างจากผู้อื่นแม้ไม่ได้ฝึกตนให้แข็งแกร่งนัก นางจึงหยิบตรงนี้มาใช้เพื่อรับมือกับแรงของนักฆ่าทั้งสองแม้ว่าจะไม่ได้มีวิชากระบี่ใด ๆ ก็ตาม

   หากไม่เป็นนางที่สิ้นชีพ ย่อมเป็นมันที่สิ้นลม

   เว่ยเจียเหลียนฮวาพยายามป้องกันเอาไว้ หมายจะล่อให้พวกมันตกกำแพงป้อมประตูเหนือ บัดนี้นับว่านางคงต้องใช้บุญวาสนาทั้งชีวิตเพื่อมีลมหายไปต่อไปกระมัง




@Admin




แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 14080 ไบต์และได้รับ 8 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-7-20 02:09
โพสต์ 14,080 ไบต์และได้รับ +2 EXP +5 คุณธรรม +4 ความโหด จาก กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)  โพสต์ 2025-7-20 02:09
โพสต์ 14,080 ไบต์และได้รับ +10 EXP +2 คุณธรรม จาก ยอดคีตศิลป์  โพสต์ 2025-7-20 02:09
โพสต์ 14,080 ไบต์และได้รับ +5 EXP +5 คุณธรรม จาก อัจฉริยะ  โพสต์ 2025-7-20 02:09
โพสต์ 14,080 ไบต์และได้รับ +6 คุณธรรม +1 ความชั่ว +4 ความโหด จาก กระบี่  โพสต์ 2025-7-20 02:09
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
พัดบุปผาบานจันทร์เพ็ญ
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ยอดคีตศิลป์
อัจฉริยะ
กระบี่
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
แหวนดาราจรัส(D)
พู่กันคัดอักษร
ชุดเหวินชิงฮวาเฟิน(เสียนอี๋)
หมวกไผ่ผ้าคลุม
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x10
x7
x70
x50
x10
x1
x40
x12
x33
x5
x42
x9
x40
x43
x1
x269
x2
x5
x2
x1
x163
x2
x2
x1
x11
x6
x1
x21
x33
x12
x2
x1
x19
x10
x5
x6
x3
x20
x4
x2
x11
x15
x134
x4
x3
x2
x247
x10
x4
x238
x6
x64
x33
x1
x50
x105
x67
x33
x152
x6
x17
x81
x16
x10
x21
โพสต์ 2025-7-20 15:16:18 | ดูโพสต์ทั้งหมด

荷香万里夏
กลิ่นบัวหอม คิมหันต์หมื่นลี้

วันที่ห้า ลิ่วเยว่ เจี้ยนหยวนศกที่สิบเอ็ด
ยามอิ๋น ( 04.00 น. )


   เคร้ง !

   เสียงกระบี่ฟาดฟันเสียงดังในยามอิ๋นจนแสบหู เว่ยเจียเหลียนฮวาที่อยู่บนป้อมกำแพงทางเหนือเร่งกำลังกายที่มีทั้งหมดเพื่อต้านทานนักฆ่าในคราบอาภรณ์นายทหารก่อนจะยกเท้าเล็กเตะเข้าเต็มรักเพื่อทำให้พวกมันปลิดปลิวลงไปจากกำแพงสูงนี้เสีย ดวงตาเมล็ดซิ่งมองพื้นที่ด้านล่าง พินิจสิ่งที่ควรกระทำแล้วมีเพียงคำว่าช่วยเหลือเขาเสียเท่านั้นที่ดังโครมครามในอก

   สตรีผู้สามอาภรณ์ของพระสนมถือกระบี่บางเฉียบรีบวิ่งลงจากป้อมกำแพงเมืองเพื่อเข้าสู่สนามไปช่วยเหลือหวางเย่ผู้ที่มีหยาดโลหิตอาบจนจะทั่วท้องแล้ว

   “เหลียนฮวา?”

   เขาที่แลเห็นางเดินมาพร้อมกระบี่ก็เร่งเดินลมปราณเพื่อตวัดปราณกระบี่เป็นวงกว้างให้นักฆ่าทั้งหลายกระเด็นออกไปและวิ่งมาดึงให้นางอยู่ข้างหลังของเขาทันใด

   “ข้ามาช่วยท่านแล้ว อย่างน้อยก็เหลือตัวเป้ง ๆ สักสองคนไว้ทรมานเข้นความจริงเถิด”

   เมื่อจากสิบเหลือเพียงสอง เช่นนั้นแล้วคู่รักผู้ไม่อาจแสดงออกอย่างเปิดเผยต่างใช้ข้ออ้างการช่วยชีวิตในการแสดงความเป็นห่วงซึ่งกันและกันออกมา

   การต่อสู้ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องและลุกไหม้ดั่งเพลิงโหม กระบวนท่าต่างฝ่ายรุกโต้ประหนึ่งเงาจันทร์แทงผ่านม่านเมฆ ทว่าด้วยความชำนาญและกลยุทธ์ของผู้มีฝีมือ บวกกับการบุกกลับขององครักษ์ลับที่ถูกส่งเข้ามาสนับสนุน ในที่สุด เหล่ามือสังหารที่เหลือจำต้องล่าถอย

   แม้จะพยายามต้านไว้ แต่สุดท้ายก็มีบางคนถูกจับกุม ทหารเรือนในวังรีบมัดพวกมันอย่างแน่นหนา ขณะที่องค์หวงตี้ในอาภรณ์สีทมิฬยืนมองเหตุการณ์ด้วยดวงเนตรลุ่มลึก

   “กุมตัวพวกมันไปห้องลับใต้ดิน อย่าให้ข่าวเล็ดลอดแม้แต่ลมหายใจ” พระสุรเสียงเอ่ยเฉียบเย็น “เรื่องนี้…ไม่จำเป็นต้องเผยแพร่”

   หลิวเช่อ—? ตวัดสายตามองเหล่าขันทีและนางกำนัลที่อยู่ใกล้

   “รวมถึงเจ้า...หลิวชุ่น อย่าแพร่งพรายแม้แต่ครึ่งคำ”

   จากนั้นพระองค์ส่งสัญญาณเรียกหมอหลวงให้เข้ามาตรวจอาการของเว่ยเจียเหลียนฮวาซึ่งมีรอยแผลถลอกบางแห่ง และหลิวชุ่นที่ยังมีเลือดซึมจากบาดแผลที่สีข้าง แม้เขาจะพยายามกลบเกลื่อนว่าไม่สาหัส แต่สีก็ซีดไปถนัด

   ด้วยบาดแผลเล็ก ๆ น้อย ๆ นางก็ทำเพียงใส่ยาไม่ให้เกิดรอยแผลเป็นเพียงเท่านั้น ในขณะหมอหลวงกำลังปฐมพยาบาล ฝ่าบาทภายใต้หมวกไผ่ใบลึกและผ้าคลุมดำ ย่างเท้าอย่างเงียบงันไปหยุดยืนตรงหน้าสตรีผู้ถือกระบี่บางเฉียบร่างกายมีผ้าพลันแผลประปราย ร่างสูงก้มลงเล็กน้อย คล้ายต้องการเอ่ยสิ่งที่เป็นความลับต่อผู้อื่นรอบกาย

   “เจ้ารู้หรือไม่...ฝ่าบาทน่ะเตรียมของขวัญบางอย่างไว้ให้เจ้า” เสียงกระซิบเจือยิ้มบาง “หากเจ้าอยากให้ข้านำออกมา—หลังข้าออกไปแล้ว อย่าเล่าถึงเรื่องนี้ให้ใครฟัง…แม้แต่อาชุ่น”

   เขาผละออกทันทีโดยไม่รอฟังคำตอบ ยกยิ้มมุมปากก่อนหมุนตัวกลับไปยังวังหวังหลังกำแพงสีชาด ผิวปากเป็นทำนองเบา ๆ ราวกำลังเดินเล่นริมลำธารในยามปลายคิมหันต์ฤดู เป็นภาพทัศน์ที่นางรู้สึกอยากลองริอ่านวิ่งเข้าไปฟาดกระหม่อมคราบมังกรสักรอบให้หมวกหลุดผู้คนรู้ไปเสียเลยว่าคนตรงหน้ามิใช่โอรสสวรรค์

   ขณะนั้นเอง หลิวชุ่นซึ่งเพิ่งถูกพันแผลเสร็จ ก็พยายามยันตัวลุกขึ้นอย่างเชื่องช้า เขาเดินกระย่องกระแย่งมาทางหญิงสาว หยุดยืนข้างนางพลางจ้องใบหน้านิ่งสงบของเว่ยเจียเหลียนฮวา

   “เมื่อครู่...ฝ่าบาทพูดอะไรกับเจ้าหรือ?” เขาถามเบา เสียงคล้ายกำลังชั่งน้ำหนักระหว่างเชื่อใจกับความลังเล

   “หลังจากนั้น ข้าไม่เห็นพระพักตร์พระองค์ แต่รู้สึกได้เลยว่า...เขาอารมณ์ดีอย่างน่าประหลาด”

   เว่ยเจียเหลียนฮวาไม่ได้ตอบในทันที นางเพียงเหลือบมองไปยังเงาดำที่ลับลานหินไปแล้ว ริมฝีปากขยับเพียงเล็กน้อยเหมือนถอนหายใจเงียบ ๆ

   “เพียงตรัสว่าหากจบเรื่องแล้วก็ให้เข้าเฝ้าฝ่าบาทด้วย—...” นางเอ่ยก่อนจะหันกลับมามองสิ่งที่ดูจะน่าอภิรมณ์ต่อสายตามากกว่าข้างกาย “ท่านเล่า ไหนให้วางใจได้อย่างนั้นอย่างนี้ ไยท่านถึงได้แผลกัน เปลืองสมุนไพรนัก”

   ดวงตามองสำรวจสีข้างร่างกายแกร่งแล้วก็นึกได้เพียงแต่คำบ่นแสงเบาหวิวให้รู้กันเพียงสองคน มือเล็กยกขึ้นทำท่าจะตีเข้าที่แขนแกร่งทว่าจำต้องค่อย ๆ ยกลงไปเพราะว่านางไม่ต้องการให้เขาเจ็บเนื้อตัวไปมากกว่า

   มือทั้งสองที่ออกห่างกายพลันกลับมากอบกุมเหนือหน้าท้องอย่างสำรวม ริมฝีปากเม้มจนเป็นเส้นตรงราวกับพยายามสะกดกลั้นดวงใจของตนเองให้มากที่สุด มีเพียงดวงตาเมล็ดซิ่งเท่านั้นที่สบดวงตารัตติกาลด้วยความห่วงหาเพียงใด

   หลิวชุ่นที่มือกุมบริเวณบาดแผลนั้นใจต้องการรวบนางมากอดนัก ทว่า ณ ที่ทั้งสองยืนอยู่ไม่อาจแสดงกิริยาใด ๆ ได้เลยแม้แต่น้อย

   “เจ้— พระสนมกลับวังเถิด ตรงนี้คงไม่ปลอดภัยเท่าใดนัก” น้ำเสียงราบเรียบเอ่ยออกมา “เปิ่นหวางอยากให้เจ้าพักผ่อนเสียมาก ๆ ยามอิ๋นเช่นนี้ยังเหลือเวลาให้ท่านได้หลับพักก่อนไปถวายพระพรเสด็จแม่ยามเช้า เปิ่นหวางเองจัดการตรงนี้เรียบร้อยก็คงเข้าเฝ้าฝ่าบาทตามกำหนดการเดิม”

   “เช่นนั้น…ของหวางเย่ทรงรักษาพระวรกายให้ดีเพคะ”

   “ขอบคุณพระสนมที่เป็นห่วง”

   บัดนั้นที่ดวงตาทั้งสองเอ่ยความจริงแทนลมปากเรียบร้อยทั้งสองจำต้องแยกจาก

   หนึ่งต้องสะสางเรื่องตรงหน้า

   อีกหนึ่งจำต้องหันกลับมาก้าวเดินเข้ารั้วสีชาด






@Admin




แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 15853 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-7-20 15:16
โพสต์ 15,853 ไบต์และได้รับ +6 EXP +10 คุณธรรม +8 ความโหด จาก กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)  โพสต์ 2025-7-20 15:16
โพสต์ 15,853 ไบต์และได้รับ +10 EXP +2 คุณธรรม จาก ยอดคีตศิลป์  โพสต์ 2025-7-20 15:16
โพสต์ 15,853 ไบต์และได้รับ +10 EXP +10 คุณธรรม จาก อัจฉริยะ  โพสต์ 2025-7-20 15:16
โพสต์ 15,853 ไบต์และได้รับ +6 คุณธรรม +1 ความชั่ว +4 ความโหด จาก กระบี่  โพสต์ 2025-7-20 15:16
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
พัดบุปผาบานจันทร์เพ็ญ
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ยอดคีตศิลป์
อัจฉริยะ
กระบี่
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
แหวนดาราจรัส(D)
พู่กันคัดอักษร
ชุดเหวินชิงฮวาเฟิน(เสียนอี๋)
หมวกไผ่ผ้าคลุม
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x10
x7
x70
x50
x10
x1
x40
x12
x33
x5
x42
x9
x40
x43
x1
x269
x2
x5
x2
x1
x163
x2
x2
x1
x11
x6
x1
x21
x33
x12
x2
x1
x19
x10
x5
x6
x3
x20
x4
x2
x11
x15
x134
x4
x3
x2
x247
x10
x4
x238
x6
x64
x33
x1
x50
x105
x67
x33
x152
x6
x17
x81
x16
x10
x21
โพสต์ 2025-9-1 17:43:56 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ 28 ชีเยว่ รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11 

ยามอู่ (เวลา 11.30 น.)


รถม้าที่เคลื่อนตัวอย่างเชื่องช้าในตอนแรกเริ่มทำความเร็วขึ้นเมื่อพ้นจากย่านการค้าที่คึกคัก เข้าสู่ถนนที่กว้างขวางและสงบเงียบมากขึ้น สองข้างทางเต็มไปด้วยกำแพงอิฐสีเทาที่ทอดยาวเป็นแนว บางช่วงมีบ้านเรือนของขุนนางชั้นผู้ใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่เป็นระยะ แสงแดดยามสายสาดส่องลงมากระทบกับหลังคากระเบื้องเคลือบจนสะท้อนเป็นประกายระยิบระยับ ซูเหยานั่งนิ่งอยู่ภายในรถม้า มือเรียวที่วางอยู่บนหน้าขาบีบกล่องไม้จันทน์ที่ห่อหุ้มด้วยผ้าอย่างแน่นหนา ภายในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายยากจะอธิบายได้


ไม่นานนัก รถก็ได้หยุดลงอย่างแผ่วเบา เสียงของขันทีผู้ที่ไปเชิญนางมาเอ่ยขึ้นจากด้านนอก 


"ถึงแล้ว หมอหญิงซู"


ซูเหยาขยับตัวเล็กน้อย ก่อนจะก้าวลงจากรถม้าอย่างช้า ๆ สายตากวาดมองไปยังทิวทัศน์เบื้องหน้าอย่างละเอียด ที่นี่คือ ประตูเสวียนอู่ ประตูวังที่ไม่ได้ใหญ่โตโอ่อ่าอย่างประตูหลัก แต่กลับมีความวุ่นวายในแบบของตัวเอง ประตูไม้ที่เก่าแก่และทรุดโทรมจากการใช้งานมาอย่างยาวนานถูกเปิดออกกว้างพอให้รถม้าสามคันสามารถแล่นสวนกันได้ ในขณะที่ข้ารับใช้และคนงานมากมายเดินเข้าออกอย่างไม่ขาดสาย บางคนกำลังขนส่งเสบียง บางคนกำลังถือเครื่องมือช่าง หรือแม้แต่สตรีวัยรุ่นในชุดเรียบง่ายที่กำลังเตรียมตัวเข้ารับการคัดเลือกเป็นนางใน


"เชิญหมอหญิงซูไปที่จุดตรวจความปลอดภัยก่อน" ขันทีชี้ไปยังจุดตรวจที่อยู่ด้านข้างประตูใหญ่ ซึ่งมีทหารประจำการอยู่สี่คน ซูเหยาสังเกตเห็นว่าพวกเขาไม่ใช่ทหารทั่วไป แต่เป็นทหารยามที่แต่งกายด้วยชุดเกราะเหล็กที่ดูแข็งแกร่งและประดับด้วยลวดลายของราชสำนัก นางเดินตามขันทีไปอย่างสงบ ท่ามกลางสายตาของผู้คนมากมายที่มองมาด้วยความสงสัย


เมื่อถึงจุดตรวจซูเหยาได้ยื่นป้ายอนุญาตที่ขันทีมอบให้แก่ทหารยามผู้หนึ่ง ทหารยามรับป้ายมาดูอย่างละเอียด ก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อยแล้วส่งคืนให้ เขาใช้สายตากวาดมองสำรวจร่างกายของซูเหยาตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า ก่อนจะเหลือบไปเห็นผ้าห่อของในมือของนาง


"ถึงจะมีป้ายอนุญาตแต่เจ้าก็ต้องให้เราตรวจสอบความปลอดภัย เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีอาวุธหรือวัตถุอันตรายติดตัวเข้าไปในวัง" ทหารยามกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ดุดันแต่ก็ยังคงสุภาพ "แล้วในห่อผ้านั่นคืออะไร? ข้าขอตรวจดูด้วย"


ซูเหยาเข้าใจและให้ความร่วมมือโดยดี นางคลายมือที่กำแน่นออกแล้วยื่นกล่องไม้จันทน์ที่ถูกห่อหุ้มด้วยผ้าอย่างทะนุถนอมให้แก่ทหารยาม ทหารยามรับไปเปิดออกอย่างระมัดระวัง ภายในกล่องมีเพียงเข็มเงินสำหรับใช้ในการรักษาเรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบ เข็มเงินสะท้อนแสงแดดเป็นประกายแวววาว เมื่อแน่ใจว่าไม่ใช่สิ่งของที่เป็นอันตราย เขาก็ส่งกล่องคืนให้ แล้วหันไปเรียกสตรีนางหนึ่งที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ซึ่งเป็นข้าหลวงอาวุโสที่ทำหน้าที่คอยตรวจค้นสตรีที่ผ่านเข้าออกประตูนี้โดยเฉพาะ ข้าหลวงนางนั้นเดินเข้ามาพร้อมกับผายมือให้ซูเหยาเดินตามไปที่ฉากบังตาไม้แกะสลักที่ตั้งอยู่ไม่ไกล ซูเหยาให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี แม้ว่าจะรู้สึกถึงความตึงเครียดและความเคร่งครัดที่แตกต่างจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง


ทันทีที่การตรวจค้นเสร็จสิ้น ขันทีก็ผายมือเชิญนางให้เดินตามเข้าไปในเขตพระราชฐาน 


"เชิญหมอหญิงซู" เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แตกต่างจากเดิมเล็กน้อย เต็มไปด้วยความเคร่งขรึมและจริงจังมากขึ้นกว่าตอนที่อยู่นอกวัง 


ซูเหยาเหลือบมองไปยังท้องฟ้าที่กำลังถูกบดบังด้วยกำแพงวังสูงใหญ่และยอดหลังคาของตำหนักน้อยใหญ่ที่สลับซับซ้อนกันอยู่เบื้องหน้า นึกในใจว่าการเดินทางครั้งนี้จะนำพานางไปสู่โชคชะตาแบบไหนกันแน่…




เข้าวัง

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 10434 ไบต์และได้รับ 8 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-9-1 17:43
โพสต์ 10,434 ไบต์และได้รับ +5 EXP [ถูกบล็อค] ความชั่ว +4 คุณธรรม +4 ความโหด จาก ปิ่นปักผมดอกท้อ  โพสต์ 2025-9-1 17:43
โพสต์ 10,434 ไบต์และได้รับ +4 EXP [ถูกบล็อค] คุณธรรม [ถูกบล็อค] ความชั่ว +4 ความโหด จาก พัดบุปผาบานจันทร์เพ็ญ  โพสต์ 2025-9-1 17:43
โพสต์ 10,434 ไบต์และได้รับ +2 EXP [ถูกบล็อค] คุณธรรม [ถูกบล็อค] ความชั่ว +4 ความโหด จาก แหวนดาราจรัส(D)  โพสต์ 2025-9-1 17:43
โพสต์ 10,434 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] คุณธรรม +4 ความโหด จาก หมอป่า  โพสต์ 2025-9-1 17:43
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ชุดทิวาเมฆาล่อง
หมอพเนจร
หมวกถังเจียน
ศาสตร์การบำเพ็ญ
ตำราสมุนไพรหายาก
แหวนดาราจรัส(D)
จี้หยกรูปปลา
มีดแล่เนื้อ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x1
x6
x8
x2
x6
x8
x2
x11
x28
x50
x90
x90
x1
x2
x2
x10
x12
x42
x18
x20
x1
x14
x2
x100
x2
x2
x442
x1
x32
x2
x2
x1
x20
x30
x30
x20
x10
x10
x6
x23
x34
x20
x4
x2
x30
x15
x6
x9
x10
x4
โพสต์ 2025-9-3 17:02:55 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ 28 ชีเยว่ รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11 

ยามเว่ย (เวลา 13.30 น.)


ขันทีเดินก้าวนำหน้าซูเหยาไปอย่างสงบเสงี่ยม ร่างผอมสูงของเขาเคลื่อนที่อย่างคล่องแคล่ว เหยาได้แต่เดินตามหลังเขาไปอย่างเงียบเชียบ ไม่มีคำพูดใดหลุดออกมาจากปากของทั้งสองคน เส้นทางที่ทอดยาวในพระราชวังแห่งนี้ยังคงสงบเงียบและยิ่งใหญ่ดังเดิม ทุกย่างก้าวที่เดินไป เสียงฝีเท้าของซูเหยาดังก้องไปทั่วทางเดินหินราวกับกำลังเคาะประตูแห่งความลับที่ถูกปิดผนึกไว้ในวังหลวง ผ้าคลุมไหล่ดอกโบตั๋นในห่อผ้าที่แนบกับอกของซูเหยาดูหนักอึ้งขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ ราวกับกำลังสะท้อนความหนักอึ้งในใจของนางที่เต็มไปด้วยความสงสัยและประหม่าไปพร้อม ๆ กัน นางก้มหน้าลงมองพื้นอย่างใช้ความคิด ปลายรองเท้าของนางก้าวไปตามรอยต่อของแผ่นหินที่เรียงกันอย่างเป็นระเบียบ แสงแดดยามบ่ายที่เริ่มเจิดจ้าขึ้นสาดส่องลงมากระทบกับผิวถนนจนเกิดเป็นเงาของต้นไม้และตำหนักต่าง ๆ ที่พาดผ่านทางเดินเป็นระยะ ราวกับเป็นเส้นทางที่ถูกขีดขึ้นด้วยแสงและเงา


เมื่อเดินผ่านทางเดินนั้นไปเรื่อย ๆ ซูเหยาได้เห็นอาคารและสวนสวยงามมากมายที่แตกต่างกันไปในแต่ละจุดที่เดินผ่าน ไม่ว่าจะเป็นศาลาแปดเหลี่ยมที่มีหลังคามุงด้วยกระเบื้องสีเขียวมรกตที่ดูสง่างาม หรือสวนหินจำลองที่มีสระน้ำเล็ก ๆ และปลาคาร์ปสีสันสดใสที่กำลังแหวกว่ายอย่างร่าเริง แม้จะดูงดงามเพียงใด แต่สถานที่เหล่านี้กลับถูกปกคลุมด้วยความเงียบงันที่น่าอึดอัดใจ ราวกับทุกสิ่งถูกกดทับด้วยกฎระเบียบที่เคร่งครัดจนขาดซึ่งชีวิตชีวา


เมื่อเดินผ่านสวนหินอันงดงาม ขันทีก็เริ่มเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นเล็กน้อย ซูเหยาได้แต่เดินตามไปอย่างว่าง่ายจนมาหยุดอยู่ที่ประตูชั้นในของพระราชวัง ที่มีทหารยามยืนเฝ้าอย่างแน่นหนา ขันทีชูแผ่นป้ายเล็ก ๆ ให้ทหารยามดูพร้อมกับเอ่ยปากสั่งด้วยน้ำเสียงที่เด็ดขาดแต่ไม่ดังเกินไป 


“รถม้าอยู่ที่ประตูเสวียนอู่ ข้าจะนำหมอหญิงซูไปส่ง” ทหารยามพยักหน้ารับอย่างนอบน้อมพร้อมกับเปิดประตูให้ทั้งสองเดินผ่านไป


เมื่อพ้นประตูบานนั้นออกมา ซูเหยาก็ได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงจากความสงบเงียบในเขตพระราชฐานชั้นใน สู่ความคึกคักที่ใกล้จะถึงเขตชั้นนอกแล้ว ถนนที่ทอดยาวไปสู่ประตูเสวียนอู่เต็มไปด้วยรถม้าที่จอดเรียงรายอยู่เป็นจำนวนมาก รถแต่ละคันถูกตกแต่งอย่างเรียบง่ายแต่ดูมีระดับ บ่งบอกถึงฐานะของผู้ที่มาเยือนอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นรถม้าที่แกะสลักจากไม้จันทน์หอม หรือรถม้าที่ห้อยโคมไฟสีแดงที่สะท้อนแสงแดดอย่างวิบวับ


ขันทีพาซูเหยาเดินตรงไปยังรถม้าคันหนึ่งที่จอดรออยู่ใกล้กับประตูเสวียนอู่ รถม้าคันนี้ถูกตกแต่งอย่างเรียบง่ายด้วยไม้เนื้อดีสีเข้ม หลังคามุงด้วยผ้าไหมสีน้ำตาลเข้ม มีสัญลักษณ์ของราชสำนักประทับอยู่เล็กน้อยที่ข้างประตู เมื่อมาถึงขันทีก็เปิดประตูรถให้ซูเหยาอย่างนอบน้อม 


“เชิญหมอหญิงซู”


ซูเหยาพยักหน้ารับอย่างเงียบ ๆ พร้อมกับค่อย ๆ ก้าวขึ้นไปบนรถม้า ด้านในรถม้าดูโล่งกว้างและมีเบาะรองนั่งที่ทำจากผ้าไหมเนื้อดีให้ความรู้สึกนุ่มสบาย ขันทีปิดประตูรถม้าให้พร้อมกับหันไปสั่งสารถีที่กำลังถือบังเหียนให้พร้อมออกเดินทาง 


“ออกไปได้แล้ว ไปส่งที่โรงหมอเจิ้งเทียน”


ทันทีที่เสียงสั่งของขันทีจบลง สารถีก็สะบัดบังเหียนให้ม้าออกเดินทาง รถเคลื่อนตัวไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ ก่อนจะเพิ่มความเร็วขึ้นเมื่อพ้นประตูเสวียนอู่ที่เป็นทางออกสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายและสีสันของเมืองหลวงฉางอัน ในขณะที่รถม้าเคลื่อนที่ออกไป ซูเหยาหันกลับไปมองประตูเสวียนอู่ที่ค่อย ๆ เล็กลงและลับตาไป พร้อมกับความรู้สึกที่หลากหลายในใจ ไม่ว่าจะเป็นความตื่นเต้น ความประหม่า และความสงสัย ทั้งหมดนี้จะนำพาชีวิตของนางไปในทิศทางใด ผ้าคลุมไหล่ดอกโบตั๋นในห่อผ้ายังคงอยู่แนบชิดกับอกของนาง ราวกับเป็นเครื่องเตือนใจถึงภารกิจที่ยิ่งใหญ่ที่เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น




ออกจากวัง

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 10923 ไบต์และได้รับ 8 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-9-3 17:02
โพสต์ 10,923 ไบต์และได้รับ +5 EXP [ถูกบล็อค] ความชั่ว +4 คุณธรรม +4 ความโหด จาก ปิ่นปักผมดอกท้อ  โพสต์ 2025-9-3 17:02
โพสต์ 10,923 ไบต์และได้รับ +4 EXP [ถูกบล็อค] คุณธรรม [ถูกบล็อค] ความชั่ว +4 ความโหด จาก พัดบุปผาบานจันทร์เพ็ญ  โพสต์ 2025-9-3 17:02
โพสต์ 10,923 ไบต์และได้รับ +2 EXP [ถูกบล็อค] คุณธรรม [ถูกบล็อค] ความชั่ว +4 ความโหด จาก แหวนดาราจรัส(D)  โพสต์ 2025-9-3 17:02
โพสต์ 10,923 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] คุณธรรม +4 ความโหด จาก หมอป่า  โพสต์ 2025-9-3 17:02
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ชุดทิวาเมฆาล่อง
หมอพเนจร
หมวกถังเจียน
ศาสตร์การบำเพ็ญ
ตำราสมุนไพรหายาก
แหวนดาราจรัส(D)
จี้หยกรูปปลา
มีดแล่เนื้อ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x1
x6
x8
x2
x6
x8
x2
x11
x28
x50
x90
x90
x1
x2
x2
x10
x12
x42
x18
x20
x1
x14
x2
x100
x2
x2
x442
x1
x32
x2
x2
x1
x20
x30
x30
x20
x10
x10
x6
x23
x34
x20
x4
x2
x30
x15
x6
x9
x10
x4
โพสต์ 2025-9-7 02:19:41 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย SuYao เมื่อ 2025-9-7 22:44

วันที่ 30 ชีเยว่ รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11 ยามอู่ (เวลา 11.00 - 13.00 น.)



แสงแดดยามบ่ายในฤดูใบไม้ร่วงสาดส่องลงมาต้องถนนที่เต็มไปด้วยใบไม้แห้งสีน้ำตาลแดงที่ร่วงหล่นจนดูเหมือนพรมผืนใหญ่ อากาศในเมืองฉางอันในช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วงนั้นเย็นสบาย มีสายลมพัดเอื่อย ๆ มาเป็นระยะ ซูเหยาเดินจากโรงหมอเจิ้งเทียนมาจนถึงหน้าประตูเสวียนอู่ที่สูงใหญ่และสง่างามอีกครั้ง นางสวมชุดผ้าฝ้ายสีน้ำตาลตัวเก่า แต่มีเสื้อคลุมบาง ๆ สวมทับอีกชั้นเพื่อกันลมที่พัดมาเย็น ๆ ทรงผมเรียบง่ายด้วยปิ่นดอกท้อเพียงอันเดียว แต่มือที่ถือห่อผ้าซึ่งบรรจุผ้าคลุมไหล่ขององค์ไท่โฮ่วไว้กลับหนักอึ้งราวกับหินพันชั่ง นางเงยหน้าขึ้นมองประตูวังที่ทอดยาวราวกับกำแพงที่ไม่มีวันสิ้นสุด สองข้างประตูมีทหารยามในชุดเกราะเหล็ก ใบหน้าบึ้งตึงประดุจรูปปั้นสิงโตหิน และดูเหมือนว่าจะเป็นคนละคนกับคราวที่แล้วที่นางมาพร้อมขันที


ซูเหยาค่อย ๆ ก้าวเข้าไปหาทหารยามคนหนึ่งที่ดูมีอายุและท่าทางสุขุมกว่าคนอื่น นางโค้งคำนับอย่างนอบน้อม 


"ใต้เท้าเจ้าคะ...ข้าแซ่ซู...ซูเหยา เป็นหมอจากโรงหมอเจิ้งเทียน อยากจะขอเข้าเฝ้าองค์ไท่โฮ่วเป็นการส่วนตัว" น้ำเสียงของนางราบเรียบและหนักแน่น แต่หัวใจกลับเต้นรัวด้วยความกังวล


ทหารยามที่ได้ยินคำพูดของซูเหยาถึงกับหัวเราะออกมาอย่างขบขัน ดวงตาของเขามองตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าของนางด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความดูถูก 


"เจ้าคิดว่าที่นี่ที่ไหนกัน? ชาวบ้านธรรมดาเดินดุ่ม ๆ เข้ามาแล้วจะมาบอกว่าขอเข้าเฝ้าไท่โฮ่วได้รึ?"


ซูเหยารู้สึกราวกับเลือดในกายไหลเวียนติดขัด ใบหน้าของนางยังคงความสงบนิ่ง แต่มือที่กำห่อผ้าไว้กลับบีบแน่นจนข้อนิ้วขึ้นสีขาว 


"แต่ข้ามีเรื่องสำคัญที่องค์ไท่โฮ่วรับสั่งให้ไปทำ ข้ามาเพื่อกราบทูลความคืบหน้า โปรดเมตตาด้วยเจ้าค่ะ"


ทหารยามที่ดูมีอายุคนนั้นเมื่อได้ยินคำยืนกรานของซูเหยาก็แค่นหัวเราะออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ เขาสบตากับสหายร่วมงานอีกคนที่ยืนแข็งทื่ออยู่ข้างกายเหมือนจะส่งสัญญาณบางอย่าง ก่อนจะหันมามองซูเหยาด้วยแววตาที่เหยียดหยามยิ่งขึ้นไปอีก ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ ราวกับว่าการที่นางยืนอยู่ตรงนี้เป็นเรื่องที่น่ารำคาญใจอย่างยิ่งยวด ชุดเกราะเหล็กที่เขาใส่อยู่เปล่งประกายวาววับเมื่อต้องกับแสงอาทิตย์ยามบ่ายที่เริ่มคล้อยต่ำลง


“คำสั่ง?” เสียงห้าวทุ้มของเขาสั่นเครืออยู่ในลำคอเล็กน้อยอย่างคนที่ไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน “ไท่โฮ่วจะไปมีรับสั่งกับชาวบ้านตาดำ ๆ อย่างเจ้าได้ยังไง? แล้วเรื่องอะไรสำคัญขนาดนั้นที่ต้องให้หมออย่างเจ้าไปทำ?” เขากวาดตามองชุดผ้าฝ้ายสีน้ำตาลที่เก่าและดูเรียบง่ายของนาง “ข้าเห็นมานักต่อนักแล้ว พวกคนที่อยากหาทางลัดเข้าไปในวังหลวงต่างก็สรรหาข้ออ้างร้อยแปดมาอ้างกับพวกเรา แล้วเจ้าคิดว่าข้าจะเชื่อเรื่องโกหกของเจ้ารึ?”


ซูเหยาได้แต่ยืนนิ่งราวกับรากไม้ที่หยั่งลึก ใบหน้าของนางยังคงสงบนิ่งและไม่มีร่องรอยของความโกรธเคืองแม้แต่น้อย แต่ในใจของนางราวกับมีก้อนหินขนาดใหญ่ทับถมอยู่ นางบีบห่อผ้าในมือแน่นจนแทบจะรู้สึกได้ถึงลวดลายบนเนื้อผ้าที่ละเอียดอ่อนที่อยู่ในนั้น เธอรู้ดีว่าการที่คนธรรมดาจะเข้าไปในวังหลวงนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เมื่อสถานการณ์บังคับ นางก็ไม่มีทางเลือกอื่น ในเวลานี้ไม่มีผู้ใดจะช่วยยืนยันตัวตนของนางได้เลยนอกจากท่านขันทีคนนั้น ทหารยามดูท่าทางไม่เชื่อเรื่องที่นางกล่าวแม้แต่นิดเดียว


“ใต้เท้าโปรดเข้าใจ ข้าไม่ได้โกหก ข้ามาพร้อมกับท่านขันทีเมื่อวันก่อน…”


“ไป๊!” ทหารยามสะบัดมือไล่ราวกับไล่แมลงวัน “อย่ามาพล่ามต่อเลย ห่อผ้าอะไรนั่นก็เอาไปเก็บให้ดี ๆ แล้วรีบไปเสียก่อนที่ข้าจะหมดความอดทน!”


หัวใจของซูเหยาจมดิ่งลงสู่ก้นบึ้ง นางไม่คาดคิดว่าเรื่องราวจะลำบากถึงเพียงนี้ ความหวังที่จะเข้าเฝ้าองค์ไท่โฮ่วดูจะริบหรี่ลงไปทุกที ในจังหวะที่นางกำลังจะเอ่ยปากขอร้องอีกครั้ง เสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นจากด้านหลังของทหารยามทั้งสอง


“หยุดเดี๋ยวนี้! อย่าได้เสียมารยาทกับหมอหญิงซู!”


เสียงที่ทรงอำนาจและเต็มไปด้วยความไม่พอใจนั้นดังมาจากชายวัยกลางคนในชุดขันทีสีเข้มที่รีบก้าวเข้ามา ดวงตาเรียวของเขาเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นซูเหยายืนอยู่ตรงประตูวังที่สูงใหญ่ ชายผู้นั้นคือท่านขันทีที่เคยไปรับนางที่โรงหมอเจิ้งเทียน เขาจำหมอหญิงจากโรงหมอได้ทันทีด้วยความที่ใบหน้าของนางดูแปลกตาและยังเป็นหมอหญิงที่เป็นที่โปรดปรานขององค์ไท่โฺฮ่ว


ทหารยามทั้งสองเมื่อเห็นขันทีผู้เป็นคนสนิทของไท่โฮ่วก็ถึงกับผงะ ใบหน้าของพวกเขาที่เคยเต็มไปด้วยความยโสพลันซีดเผือดลงทันที ต่างคนต่างรีบโค้งคำนับลงต่ำด้วยความนอบน้อม


“ขออภัยท่านขันที! ข้าน้อยไม่ทราบว่าสตรีผู้นี้…”


“ไม่ทราบ? ไม่ทราบแล้วยังทำกิริยาเช่นนี้ได้อย่างไร!” น้ำเสียงของขันทีแข็งกร้าวขึ้น “พวกเจ้าไม่ทราบหรือว่าหมอหญิงซูเป็นพระสหายขององค์ไท่โฮ่ว! หากนางมาที่นี่แสดงว่าต้องมีธุระสำคัญ แล้วพวกเจ้ายังกล้ามาแสดงกิริยาอันไร้มารยาทนี่อีก! หากองค์ไท่โฮ่วทรงทราบเรื่องเข้าพวกเจ้าทั้งสองคนจะต้องหัวขาดเป็นแน่!”


คำว่า ‘หัวขาด’ ที่ดังสะท้อนก้องไปทั่วบริเวณประตูวังอันเงียบสงัดนั้น ทำให้ซูเหยาที่ยืนอยู่ได้ยินอย่างชัดเจน และคำคำนั้นทำให้ใบหน้าของนางที่เคยสงบนิ่งพลันซีดเผือดลงเล็กน้อย ดวงตาของนางมองไปยังทหารยามทั้งสองด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความตกใจและความสงสาร นางรีบก้าวเข้าไปข้างหน้าอีกเล็กน้อยแล้วยกมือขึ้นทำความเคารพท่านขันที


“ท่านขันที…โปรดอย่าให้ถึงขั้นนั้นเลยเจ้าค่ะ…” เสียงของนางแผ่วเบาและสั่นเล็กน้อย “พวกเขาไม่ได้ตั้งใจ เพียงแต่ไม่ทราบความจริงเท่านั้น หากเรื่องนี้จะต้องมีคนรับผิดชอบ ข้ายินดีจะรับผิดชอบเองเจ้าค่ะ”


คำพูดของซูเหยาทำให้ขันทีต้องหันกลับมามองอย่างประหลาดใจ แววตาที่เคยเต็มไปด้วยความโกรธลดลงเหลือเพียงความงุนงง เขาไม่คิดว่าจะมีใครกล้าพูดเช่นนี้ในสถานการณ์เช่นนี้ได้ เขาเพียงแค่ขู่ทหารยามเพื่อสั่งสอนเท่านั้น แต่หมอหญิงผู้นี้กลับจริงจังและซื่อตรงจนน่าตกใจ ความซื่อตรงของนางทำให้เขาอดรู้สึกชื่นชมและเอ็นดูไม่ได้


ขันทีถอนหายใจออกมาเล็กน้อย ก่อนจะโบกมือเป็นเชิงบอกให้ซูเหยาอย่าได้กังวล เขามองซูเหยาด้วยสายตาที่อ่อนโยนลงอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะหันไปสั่งทหารยามด้วยน้ำเสียงที่ลดระดับความเข้มงวดลง 


“เอาล่ะ! คราวนี้ข้าจะปล่อยพวกเจ้าไปก่อน เพราะหมอหญิงซูขอร้องไว้ แต่หากมีครั้งหน้า…พวกเจ้าก็รู้ว่าจะเป็นอย่างไร”


ทหารยามทั้งสองก้มหัวลงต่ำจนแทบจะติดพื้นอีกครั้ง พวกเขาไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่โค้งคำนับอย่างลึกซึ้งให้ซูเหยาเป็นการขอบคุณ ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดและนับถือในตัวสตรีที่ดูบอบบางผู้นี้ ขันทีมิได้สนใจคนทั้งสองอีก เขาหันมามองซูเหยาแล้วเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนลงอย่างเห็นได้ชัด


“หมอหญิงซู! ท่านมาตั้งแต่เมื่อไหร่? เหตุใดจึงไม่ส่งคนไปบอกข้าก่อน ข้าจะได้รีบไปรับท่านที่โรงหมอ”


เมื่อถูกขันทีถามเช่นนั้น ซูเหยาก็อึกอักเล็กน้อย นางได้แต่กะพริบตาปริบ ๆ ด้วยความประหม่า นางรู้ดีว่าคำถามนี้เป็นเรื่องสมเหตุสมผล แต่ด้วยความที่นางเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา ความรู้เรื่องการติดต่อกับคนในวังหลวงนั้นเป็นเรื่องที่ไกลตัวจนเกินไป


“เอ่อ…คือ…” ซูเหยาพูดตะกุกตะกัก ใบหน้าของนางมีสีแดงเรื่อ ๆ ด้วยความกระดากอาย “ข้าไม่รู้ว่า…จะติดต่อคนในวังได้อย่างไรเจ้าค่ะ ขะ…ข้าไม่รู้จักใครเลย ข้าก็เลยคิดว่าวิธีที่ง่ายที่สุดคือ…มาที่หน้าประตูวังแห่งนี้แล้วบอกกับทหารยามโดยตรง…”


คำตอบที่ซื่อตรงและใสซื่อของซูเหยาทำเอาขันทีถึงกับต้องหลุดยิ้มออกมาอย่างขบขัน เขารู้สึกว่าหมอหญิงผู้นี้ช่างแตกต่างจากคนทั่วไปที่เขาเคยพบเจอในวังอย่างสิ้นเชิง คนส่วนใหญ่พยายามจะหาทางเอาใจและใช้เล่ห์เหลี่ยมต่าง ๆ แต่ซูเหยาผู้นี้กลับซื่อตรงและไม่มีเล่ห์เหลี่ยมใด ๆ เลยแม้แต่น้อย


“เช่นนั้น…ท่านรออยู่ที่นี่สักครู่ ข้าจะรีบเข้าไปกราบทูลองค์ไท่โฮ่วให้ทรงทราบทันที”


เขารีบวิ่งเข้าไปในประตูวังที่สูงใหญ่และทอดตัวยาวออกไปอย่างรวดเร็วราวกับมีปีกติดอยู่ที่เท้า ทิ้งให้ซูเหยายืนอยู่เพียงลำพังกับทหารยามสองคนที่กำลังรู้สึกผิดและอับอายอย่างสุดซึ้ง ความเย่อหยิ่งบนใบหน้าของพวกเขาได้หายไปสิ้น เหลือเพียงความนอบน้อมและความเกรงใจที่มองมาที่นาง


ซูเหยามองตามหลังของขันทีเข้าไปในวังที่สูงใหญ่และสง่างามราวกับอยู่คนละโลกกับโลกภายนอก สายลมยามบ่ายยังคงพัดเอื่อย ๆ พากลิ่นหอมจาง ๆ ของดอกเบญจมาศที่บานสะพรั่งอยู่ในสวนวังลอยมาปะทะจมูกอย่างแผ่วเบา นางรู้สึกราวกับว่าภาระหนักอึ้งที่แบกมาได้ถูกยกออกไปจากบ่าแล้วอย่างสิ้นเชิง ตอนนี้นางทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายสำเร็จแล้ว และทุกอย่างกำลังจะเป็นไปอย่างที่ควรจะเป็น


หลังจากผ่านไปไม่นานนัก ขันทีก็กลับมาพร้อมกับสีหน้ายิ้มแย้ม


“หมอหญิงซู! องค์ไท่โฮ่วทรงอนุญาตแล้ว เชิญท่านตามข้าเข้ามา…”


ซูเหยามองไปที่ประตูวังที่เปิดออก ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความโล่งใจและมุ่งมั่น นางก้าวเดินผ่านวงกบประตูที่สูงใหญ่เข้าไปช้า ๆ เหยียบย่ำบนก้อนหินที่เรียงรายอยู่บนทางเดินภายในอย่างสงบ และรู้สึกได้ถึงกำแพงสูงที่โอบล้อมรอบตัว ก่อนที่ประตูบานยักษ์จะปิดลงอย่างเงียบเชียบ เบื้องหลังคือเสียงลมที่พัดเอื่อยพากลิ่นดอกเบญจมาศให้ลอยตามเข้ามาภายในอย่างแผ่วเบา






เข้าวัง


แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 40397 ไบต์และได้รับ 32 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-9-7 02:19
โพสต์ 40,397 ไบต์และได้รับ +9 EXP [ถูกบล็อค] ความชั่ว +10 คุณธรรม +12 ความโหด จาก ปิ่นปักผมดอกท้อ  โพสต์ 2025-9-7 02:19
โพสต์ 40,397 ไบต์และได้รับ +12 EXP [ถูกบล็อค] คุณธรรม [ถูกบล็อค] ความชั่ว +10 ความโหด จาก พัดบุปผาบานจันทร์เพ็ญ  โพสต์ 2025-9-7 02:19
โพสต์ 40,397 ไบต์และได้รับ +6 EXP [ถูกบล็อค] คุณธรรม [ถูกบล็อค] ความชั่ว +8 ความโหด จาก แหวนดาราจรัส(D)  โพสต์ 2025-9-7 02:19
โพสต์ 40,397 ไบต์และได้รับ +5 EXP [ถูกบล็อค] คุณธรรม +8 ความโหด จาก หมอป่า  โพสต์ 2025-9-7 02:19
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ชุดทิวาเมฆาล่อง
หมอพเนจร
หมวกถังเจียน
ศาสตร์การบำเพ็ญ
ตำราสมุนไพรหายาก
แหวนดาราจรัส(D)
จี้หยกรูปปลา
มีดแล่เนื้อ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x1
x6
x8
x2
x6
x8
x2
x11
x28
x50
x90
x90
x1
x2
x2
x10
x12
x42
x18
x20
x1
x14
x2
x100
x2
x2
x442
x1
x32
x2
x2
x1
x20
x30
x30
x20
x10
x10
x6
x23
x34
x20
x4
x2
x30
x15
x6
x9
x10
x4
โพสต์ 2025-9-9 18:39:51 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ 30 ชีเยว่ รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11 

ยามเซิน (เวลา 15.00 - 17.00 น.)


เท้าของซูเหยาค่อย ๆ ก้าวออกจากตำหนักเซวียนเต๋อ แสงแดดอุ่น ๆ ยามบ่ายแก่ ๆ ที่สาดส่องลงมาจากฟ้าครามไร้เมฆาอาบไล้ร่างนางให้รู้สึกอบอุ่น ทว่าความรู้สึกในอกกลับเย็นเยียบและว่างเปล่าจนยากจะอธิบายได้ นางก้มลงมองตำราเก่าแก่ในอ้อมแขนอีกครั้ง ชั่วขณะนั้นเองซูเหยาเงยหน้าขึ้นและสบเข้ากับดวงตาที่สงบนิ่งและเปี่ยมด้วยความเมตตาขององค์ไท่โฮ่วที่ทอดพระเนตรมองนางจากตำหนัก ไท่โฮ่วแย้มสรวลให้นางเล็กน้อยก่อนจะทิ้งสายพระเนตรลงอย่างนิ่งสงบ


ซูเหยาโค้งคำนับให้องค์ไท่โฮ่วเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะหันหลังกลับเดินตามขันทีที่ยืนรออยู่ ขันทีผู้นั้นมีท่าทางที่สง่างาม ใบหน้าเรียบเฉยแต่สายตากลับแฝงไว้ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ซูเหยารับรู้ได้ถึงสายตาของเขาที่เหลือบมองตำราในมือของนางอยู่หลายครั้ง แต่ไม่ได้พูดอะไร


เส้นทางที่เดินออกจากตำหนักเซวียนเต๋อเต็มไปด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบและศักดิ์สิทธิ์ กำแพงวังที่สูงตระหง่านเรียงรายสองข้างทางเต็มไปด้วยภาพวาดมังกรและหงส์ที่ถูกแกะสลักอย่างประณีต งดงามและทรงพลัง ราวกับกำลังปกป้องความลับและความยิ่งใหญ่ของราชวงศ์ฮั่นเอาไว้ เสียงฝีเท้าของซูเหยาและขันทีสะท้อนก้องไปตามทางเดินที่กว้างขวาง สายลมยามบ่ายที่พัดเอื่อย ๆ นำพาเศษใบไม้แห้งให้ปลิวไปตามทางเดินจนเกิดเสียงเสียดสีที่แสนเบา


ทันใดนั้นเองขันทีที่เดินนำหน้าก็หยุดลงตรงหน้าประตูเสวียนอู่ 


“ประตูเสวียนอู่เปิดแล้ว ขอเชิญหมอหญิงซู” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่อ่อนน้อม


ซูเหยาโค้งคำนับให้ขันทีเล็กน้อยก่อนจะเดินผ่านซุ้มประตูเข้าไป แสงอาทิตย์ที่สาดส่องเข้ามาทางช่องประตูทำให้ซูเหยาต้องหรี่ตาลงเล็กน้อย นางค่อย ๆ เดินเข้าไปในลานกว้างด้านนอกประตู ภายในลานมีผู้คนมากมายที่กำลังเดินไปมาอย่างขวักไขว่ ทั้งขุนนางที่กำลังรอรถม้ามารับ นางกำนัลที่กำลังถือถุงใส่ของสำหรับไปจ่ายตลาด เหล่าทหารที่กำลังตรวจตราความเรียบร้อยรอบ ๆ 


ขันทีผู้นั้นหันกลับมากล่าวอย่างนอบน้อม พลางชี้ไปยังรถม้าคันหนึ่งที่จอดรออยู่ใต้ร่มเงาบริเวณลานด้านนอกประตูเสวียนอู่


“ไท่โฮ่วมีรับสั่งให้ข้าน้อยจัดเตรียมรถม้าไปส่งหมอหญิงที่โรงหมอเจิ้งเทียน ขอเชิญหมอหญิงได้โปรดขึ้นรถ”


ซูเหยาเหลือบมองรถม้าคันนั้นเล็กน้อยก่อนพยักหน้ารับอย่างเงียบ ๆ แล้วเดินตรงไปยังบันไดขึ้นรถม้า นางหันไปโค้งคำนับให้ขันทีอีกครั้งก่อนก้าวขึ้นไปนั่งภายใน


ภายในรถม้าตกแต่งอย่างเรียบง่ายแต่สะอาดสะอ้าน กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของสมุนไพรลอยอบอวลคล้ายเพิ่งมีหมอยาจากในวังใช้เดินทางไม่นานมานี้ ซูเหยาวางตำราเก่าแก่ลงบนตักอย่างทะนุถนอม สายตาของนางทอดมองออกไปนอกหน้าต่างเล็ก ๆ ข้างรถ พลางเงียบงันอย่างครุ่นคิด


เสียงล้อไม้บดไปกับหินบนถนนค่อย ๆ ดังขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อรถม้าค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกจากหน้าวัง สู่เส้นทางที่ทอดยาวออกไปยังตัวเมืองฉางอัน


ออกวัง


แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 8638 ไบต์และได้รับ 4 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-9-9 18:39
โพสต์ 8,638 ไบต์และได้รับ +2 EXP [ถูกบล็อค] ความชั่ว +2 คุณธรรม +2 ความโหด จาก ปิ่นปักผมดอกท้อ  โพสต์ 2025-9-9 18:39
โพสต์ 8,638 ไบต์และได้รับ +2 EXP [ถูกบล็อค] คุณธรรม [ถูกบล็อค] ความชั่ว +2 ความโหด จาก พัดบุปผาบานจันทร์เพ็ญ  โพสต์ 2025-9-9 18:39
โพสต์ 8,638 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] คุณธรรม [ถูกบล็อค] ความชั่ว +2 ความโหด จาก แหวนดาราจรัส(D)  โพสต์ 2025-9-9 18:39
โพสต์ 8,638 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] คุณธรรม +2 ความโหด จาก หมอป่า  โพสต์ 2025-9-9 18:39
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ชุดทิวาเมฆาล่อง
หมอพเนจร
หมวกถังเจียน
ศาสตร์การบำเพ็ญ
ตำราสมุนไพรหายาก
แหวนดาราจรัส(D)
จี้หยกรูปปลา
มีดแล่เนื้อ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x1
x6
x8
x2
x6
x8
x2
x11
x28
x50
x90
x90
x1
x2
x2
x10
x12
x42
x18
x20
x1
x14
x2
x100
x2
x2
x442
x1
x32
x2
x2
x1
x20
x30
x30
x20
x10
x10
x6
x23
x34
x20
x4
x2
x30
x15
x6
x9
x10
x4

1

กระทู้

91

ตอบกลับ

1161

เครดิต

ผู้ใฝ่รู้

พลังน้ำใจ
888
ตำลึงทอง
39
ตำลึงเงิน
114
เหรียญอู่จู
9349
STR
0+6
INT
0+1
LUK
0+5
POW
0+0
CHA
20+5
VIT
5+7
คุณธรรม
130
ความชั่ว
694
ความโหด
1563
โพสต์ 2025-9-15 19:40:09 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย JiTiandao เมื่อ 2025-9-15 20:24

วันที่ 15 เดือน 8 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11
เวลา 19.00-20.00

พระจันทร์เสี้ยวขึ้นสูงเหนือพระราชวังฉางอัน แสงเย็นจัดที่ส่องผ่านหลังคาดูเหมือนจะมีเสียง เสียงที่คนทั่วไปไม่ได้ยิน แต่คนบ้าคนหนึ่งได้ยินมันชัดเจน

จี เทียนเต้า เดินลากของประหลาดบางสิ่งมาทางประตูเสวียนอู่ มันมีรูปทรงสามเหลี่ยม คม เหลี่ยม เสี้ยนโผล่ระยับ ล้อไม้ด้านล่างโยกเยกส่งเสียงเอี๊ยด ๆ เหมือนของเล่นเด็กที่ไม่มีใครอยากเล่น เมื่อถึงหน้าประตู ยามสองนายประจำอยู่ตามหน้าที่ คนหนึ่งยืนถือหอก อีกคนถือโคม ทั้งคู่เงยหน้าขึ้นอย่างระแวง


“หยุดตรงนั้น ท่านมาทำอะไร” ยามด้านซ้ายเอ่ยขึ้นเสียงเข้ม

ชายแก่หยุด เขาเหงื่อไหลเต็มหน้า ถึงแม้อากาศจะเย็น เสื้อเก่า ๆ ของเขาถูกลมพัดปลิวจนเห็นเศษฟางติดตามตะเข็บ แต่สายตาเขากลับแน่วแน่ ไม่ใช่แน่วแน่แบบนักปราชญ์ แต่แน่วแน่แบบคนที่ เชื่อในความเพ้อฝันของตนอย่างบริสุทธิ์ใจ


“ของข้า อย่าแตะ เดี๋ยวโดนคำสาป” เขาชี้นิ้วไปที่ของทรงสามเหลี่ยมเบื้องหลัง “มันคือบัลลังก์ขององค์ฟ้าผู้มองจากด้านหลัง บัลลังก์ที่จะเตือนให้ผู้เป็นเจ้าของจำไว้ว่าความเจ็บปวดนั้นจำเป็น”

ยามทั้งสองมองหน้ากัน คนหนึ่งขมวดคิ้ว อีกคนกลอกตา แต่ชายแก่กลับยิ้ม ยิ้มแบบที่ไม่ควรจะยิ้ม

“ฝากไว้ให้ฝ่าบาท” เขาประกาศเสียงดัง พร้อมกับตบไม้สามเหลี่ยมเบา ๆ
“หากผู้เป็นเจ้าของรู้จักเจ็บ ก็อาจยังไม่ลืมความเป็นมนุษย์”

“ใครเป็นเจ้าของของนี่กันแน่” ยามคนขวาถาม “ใครให้เจ้าส่งถึงฮ่องเต้ หรือเจ้าบ้าไปแล้ว”

“ข้าบ้าน่ะหรือ” จี เทียนเต้าหัวเราะทันที “ไม่ ข้าแค่รู้ว่าเวลานี้ไม่มีใครกล้าพูดความจริง ข้าพูด ข้าจึงกลายเป็นบ้า” เขาหยุด หายใจแรง แล้วพูดเสียงเบา ราวกับกระซิบให้ประตูยักษ์ได้ยิน ยามทั้งสองอ้าปากค้าง ไม่รู้ว่าควรหัวเราะ ด่า หรือไล่

“เก็บไว้ให้ดีนะ” จี เทียนเต้าตะโกนเสียงดังลั่น “อย่าให้ใครนั่งพร่ำเพรื่อ ถ้าหากฝ่าบาทลองรูดบ่อย ๆ ท่านจะเข้าใจ”

พูดจบ เขาโค้งลึกจนหัวแทบจรดพื้น ยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะดีดตัวลุกแล้วหันหลังกลับ ไม่รอคำตอบ ไม่หันมอง เขาวิ่ง วิ่งเหมือนคนหนีอะไรบางอย่าง ที่ไม่มีใครเห็นนอกจากเขาเอง


ค่ำคืนหลังเหตุการณ์ประหลาดที่ยามทั้งสองไม่มีวันลืม ของประดิษฐ์สามเหลี่ยมที่เต็มไปด้วยเสี้ยนถูกทิ้งไว้หน้าประตูเสวียนอู่ ประตูทางทิศเหนือของพระราชวัง ซึ่งเป็นจุดผ่านของข้ารับใช้จำนวนมาก

ใครบางคนหยุดมองมัน นางเป็นเพียงนางกำนัลคนหนึ่ง ในมือถือตะกร้าผ้า หัวก้มต่ำตามกฎระเบียบ แต่แววตากลับเงยขึ้นช้า ๆ มอง ของบางสิ่ง ที่ตั้งตระหง่านอยู่ริมทาง มันไม่ใช่ม้า มันไม่ใช่เก้าอี้ และไม่ควรใช้นั่ง แต่เธอกลับจ้องมันนาน จ้องราวกับเห็นภาพบางอย่างในใจที่ใครอื่นไม่อาจมองเห็น


“นั่น มันคืออะไรหรือ” นางเอ่ยถามยามอย่างเงียบ ๆ

“แค่คนบ้าคนหนึ่ง เอามาทิ้งไว้ บอกให้ฮ่องเต้เอาไว้นั่งเล่น” ยามตอบอย่างเหนื่อยหน่าย
“แล้วก็วิ่งหนีไปศาลเจ้าร้าง น่าขันที่สุด”

หญิงสาวไม่หัวเราะ เธอเพียงมองตามไปยังทิศเหนือ เงียบ เหมือนมีอะไรบางอย่างติดค้างในหัวใจ บางสิ่งที่เจ็บแปลบ บางสิ่งที่อธิบายไม่ได้ เธอเคยเห็นเขา ชายแก่หัวล้านที่นั่งพูดกับตัวเอง ที่เคยทำท่าประหลาดให้เด็ก ๆ ขำที่เคยยื่นมือสั่น ๆ มาเก็บใบไม้ร่วง แล้วพูดว่า



“นี่ไม่ใช่ใบไม้หรอก นี่คือบันทึกจากฤดูเก่าที่โลกไม่อยากจำ” ไม่มีใครเชื่อ ไม่มีใครฟัง ยกเว้นเธอ ที่เงียบ



แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 10417 ไบต์และได้รับ 6 EXP!  โพสต์ 2025-9-15 19:40
โพสต์ 10,417 ไบต์และได้รับ +5 คุณธรรม +5 ความโหด จาก เอ้อหู  โพสต์ 2025-9-15 19:40
โพสต์ 10,417 ไบต์และได้รับ +2 EXP +4 คุณธรรม จาก พู่กันคัดอักษร  โพสต์ 2025-9-15 19:40
โพสต์ 10,417 ไบต์และได้รับ +5 คุณธรรม +4 ความโหด จาก น่ารัก  โพสต์ 2025-9-15 19:40
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กระบี่คู่สลักจันทรา
เกราะทองแดง
เครื่องรางไหมถักแห่งมิตรภาพ
มีดแล่เนื้อ
หมวกไผ่ผ้าคลุมดำ
พู่กันคัดอักษร
น่ารัก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x3
x1
x1
x1
12
ตั้งกระทู้ใหม่ กลับไป
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้