[ยอดเขาหัวซาน] ยอดระเบียงเมฆา

[คัดลอกลิงก์]

ยอดระเบียงเมฆา
{ เขาหัวซาน }






【ยอดระเบียงเมฆา】

ยอดระเบียงเมฆา เป็นยอดเขาทางทิศเหนือของหัวซาน
นับเป็นจุดทิวทัศน์ชมความอลังการของแม่น้ำเว่ย
ที่แตกแขนงมาจากสายน้ำหวงเหอ (ฮวงโห) ที่อยู่ไกล ๆ
ราวกับทะเลหมอกเมื่อมองจากยอดเขา
ได้อย่างชัดเจน และ เฝ้ามองผู้ขึ้นเขามาได้หมดจด
อีกทั้งบริเวณนี้ยังมีความอุดมสมบูรณ์พืชพันธุ์ให้เก็บเกี่ยว




ประวัติเขาหัวซาน
1 ใน 5 ยอดเขาชื่อดังแห่งแผ่นดินหรือที่เรียกกันว่า "อู่เยว่"
ได้แก่ เหิงซาน ภูเหนือในมณฑลส่านซี, เหิงซาน ภูใต้ในมณฑลหูหนาน,
ไท่ซาน ภูตะวันออกในมณฑลซานตง, ซงซาน ภูกลางในมณฑลเหอหนาน
และ หัวซานภูตะวันตกในมณฑลส่านซี

เขาหัวซาน มียอดเขาทั้งหมด 5 ยอด เกิดจากการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก
ประมาณ 200 ล้านปีก่อน ได้แก่
- ยอดทิศเหนือ หรือ ยอดระเบียงเมฆา สูง 1,614 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล
เปรียบเสมือนเป็นประตูทางเข้าของหัวซาน ที่ผู้มาเยือนทุกคนจะต้องผ่านยอดเขานี้
- ยอดทิศตะวันตก หรือ ยอดสโรชา สูง 2,038 เมตร มีลักษณะคล้ายกับดอกบัว
ได้ชื่อว่าเป็นยอดเขาที่สวยที่สุดของเขาหัวซาน
- ยอดทิศใต้ หรือ ยอดห่านป่าโรย เป็นยอดที่สูงที่สุดของหัวซาน สูงกว่า 2,160 เมตร
- ยอดทิศตะวันออก หรือ ยอดท้าตะวัน สูง 2,100 เมตร เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นอันสวยงาม
และเป็นที่ใฝ่ฝันของนักผจญภัยหลายคน






แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 8950 ไบต์และได้รับ 4 EXP! [VIP]  โพสต์ 2024-9-7 22:50

1

กระทู้

91

ตอบกลับ

1161

เครดิต

ผู้ใฝ่รู้

พลังน้ำใจ
888
ตำลึงทอง
39
ตำลึงเงิน
114
เหรียญอู่จู
9349
STR
0+6
INT
0+1
LUK
0+5
POW
0+0
CHA
20+5
VIT
5+7
คุณธรรม
61
ความชั่ว
670
ความโหด
1539
โพสต์ 2025-9-15 21:39:42 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย JiTiandao เมื่อ 2025-9-15 21:41

วันที่ 15 เดือน 8 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11

เวลา 21.00-22.00

ณ ที่แห่งนี้ ไม่มีสิ่งใดเร่งเร้า ไม่มีผู้คน มีเพียงแผ่นหินกว้างที่ถูกลมฝนขัดสีมานานนับพันปี และในยามสายของวันหนึ่ง ชายชราผู้หนึ่งก็เหยียบย่างขึ้นมา


จี เทียนเต้า ชายชราผอมแห้ง หัวล้าน หนวดเครารุงรัง ดวงตาขุ่นมัวจากคืนที่อดนอนหลายพันคืน เสื้อผ้าเขาขาดรุ่ย มีกลิ่นเปรี้ยวจากเหงื่อและฝุ่นโคลน ไม่มีแม้เงาของกระบี่หรือห่อสัมภาระใด  มีเพียง ผ้าผืนหนึ่งที่เขาใช้เป็นทั้งผ้าคลุม บังแดด และห่มหนาว เขาไม่ได้เดินขึ้นมาด้วยจุดหมายอันสูงส่ง ไม่มีเป้าหมาย ไม่มีการฝึก ไม่มีภารกิจ เขาแค่ เบื่อ


ศาลเจ้าร้างเถียนฉิงเวยนั่นน่ะ นอกจากฝุ่นกับจิ้งจกก็ไม่มีอะไรให้ดูเลย” เขาพึมพำกับตัวเอง พลางใช้มือชี้ท้องฟ้า “เจ้าเทวดาบ้า ข้าเดินไปถึงนั่นแล้ว ยังไม่ให้สักลำแสงหรือเสียงสวดมาสักประโยค เจ้าไม่มีมารยาทนัก” จี เทียนเต้าหัวเราะกับลม และลมก็หัวเราะกลับใส่เขา


เขาเดินวนไปวนมาอยู่บนยอดระเบียงเมฆา เหมือนหมาป่าแก่ที่ถูกทิ้งไว้กลางป่า และเมื่อสายตาเหม่อมองไปยังชายขอบผา ก็พบเงาร่างหนึ่ง นั่งนิ่งอยู่ใต้ต้นสนเตี้ย ๆ ใกล้หน้าผา ท่ามกลางทะเลหมอกที่โอบล้อม


ชายผู้นั้นห่มจีวรเก่า บาตรเล็กใบหนึ่งวางอยู่ข้างกาย ดวงตาปิดสนิท ลมหายใจสม่ำเสมอ ราวกับเป็นเพียงหินก้อนหนึ่งบนภูเขา แต่หากสังเกตให้ดี จะรู้ว่าพลังบางอย่างแผ่วเบาแผ่ซ่านออกมารอบตัวเขา ไม่ใช่พลังปราณ แต่เป็นพลังแห่งจิตใจที่มั่นคงดุจภูผา หลวงจีนจื่อหลิง


จี เทียนเต้าเห็นดังนั้น ก็มิอาจทนเงียบได้อีกต่อไป เขากระแทกปลายไม้เท้าลงกับพื้นหินดัง ตึ้ง แล้วตะโกนเสียงกังวาน

“หลวงจีน ท่านนั่งอยู่ที่นี่นานเท่าไรแล้ว นั่งตั้งแต่ยุคราชวงศ์ฮั่นยังรุ่งเรือง และคนดี ๆ ก็ยังถูกลืม หรือว่าท่านนั่งนิ่งจนเห็นคนดีตายไปหมดแล้วในโลกนี้”
“ท่านจะบรรลุเมื่อไหร่กัน หากเป็นข้า ข้าเพียงหนึ่งลมหายใจ ก็ขึ้นสู่จุดสูงสุดของพุทธภาวะแล้ว”

เสียงหัวเราะของจี เทียนเต้า ดังฝ่าทะเลหมอกไปยังหุบเหวเบื้องล่าง เขาเดินยักไหล่เข้าไปใกล้ ไม้เท้ากระแทกพื้นทุกย่างก้าว

“ข้าชื่อ จี เทียนเต้า เทียน แปลว่า ฟ้า เต้า แปลว่า หนทาง ข้าคือฟ้าที่ไร้ทาง หรือคือทางที่ไร้ฟ้า ท่านลองเลือกดู”
“อายุห้าสิบปี ไม่เคยมีสำนัก ไม่เคยมีอาจารย์ มีเพียงชีวิตบัดซบ กับคำพูดเหลวไหลเต็มหัว”
“แต่ข้ารอดมาได้ และไม่ใช่เพราะธรรมะของท่านนะ”

หลวงจีนจื่อหลิงลืมตาช้า ๆ ดวงตาท่านไม่หลับเสียทีเดียว ท่านเพียง ปิดไว้เพราะท่านรู้ว่าความจริงบางอย่าง โลกนี้ไม่ควรมองตรงเกินไป

“อาตมา ชื่อ จื่อหลิง” มาจากลัทธิเล็ก ๆ ในชมพูทวีป ที่ไม่มีใครรู้จัก ไม่มีพลังปราณ ไม่มีศิษย์ ไม่มีแม้แต่บาตรที่ดี แต่มีใจหนึ่งดวงที่ยังอยากช่วยโลก”
จี เทียนเต้าชะงักเล็กน้อย ชายแก่ผู้นี้แม้จะหยิ่ง ทะเล้น เสียงดัง แต่ภายในลึกที่สุด เขาแค่ อยากมีคนฟัง

“ข้าฟังอยู่นะ จี เทียนเต้า” จื่อหลิงกล่าวด้วยเสียงอ่อนโยน “แม้แต่เสียงของลมที่คนอื่นมองว่าไร้สาระ อาตมาก็เชื่อว่ามันมีที่มา”

“ท่านอาจจะไม่ได้ไร้ค่าอย่างที่ท่านพูด แต่อาตมาคิดว่า ท่านแค่ยังไม่ให้อภัยตัวเอง”

จี เทียนเต้านิ่งเงียบไปชั่วครู่ ความเงียบของยอดเขาอบอวลขึ้นมาอีกครั้งลมพัดจีวรของจื่อหลิงเบา ๆ และพัดเศษผ้าขาดของจี เทียนเต้าให้ปลิวเล่น “เฮอะ ท่านนี่ พูดเก่งดีนี่ น่าจะไปขายหมูปิ้งมากกว่าสอนธรรมะนะ” เขาหัวเราะอีกครั้ง แต่เสียงหัวเราะนั้นไม่ดังเท่าเดิม ในหัวใจของเขา มีบางสิ่งสะเทือนเล็กน้อย เขาทรุดตัวนั่งลงข้างหลวงจีนจื่อหลิง วางไม้เท้าไว้ข้างตัวมองลงไปยังหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่เบื้องล่าง


“หลวงจีน ถ้าโลกนี้ไม่มีใครอยากฟังเราเลยสักคน ท่านยังจะพูดอยู่หรือเปล่า”

จื่อหลิงยิ้ม “อาตมาก็ยังพูดอยู่ดี เพราะบางที คำพูดที่ไร้คนฟังในวันนี้ อาจเป็นคำที่ใครบางคนต้องการในอีกพันปีข้างหน้า”
จี เทียนเต้าหัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้ในดวงตามีแววเปียกเล็กน้อย “ฮ่ะ ๆ แล้วท่านไม่กลัวเหรอ ว่าวันหนึ่งจะโดนคนบ้าอย่างข้าฆ่าทิ้งที่นี่”

“อาตมาไม่กลัวตาย แต่กลัวเพียงว่า ก่อนตายจะยังไม่ได้ฟังเจ้าเล่าเรื่องให้จบ”

เสียงลมพัดอีกครั้ง และในลมนั้น อาจมีเสียงของบางอย่างที่คล้ายเสียงหัวเราะ ของใครสักคนที่หัวใจแตกละเอียด แต่ยังไม่ยอมแตกสลาย
__________________________________
[ NPC-21 ] ไต้ซือจื่อหลิง
โรลเพลย์พูดคุยด้วยประจำวัน : ได้รับความสัมพันธ์ +5



แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-21] ไต้ซือจื่อหลิง เพิ่มขึ้น 5 โพสต์ 2025-9-16 02:51
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-21] ไต้ซือจื่อหลิง เพิ่มขึ้น 5 โพสต์ 2025-9-16 02:51
โพสต์ 14016 ไบต์และได้รับ 6 EXP!  โพสต์ 2025-9-15 21:39
โพสต์ 14,016 ไบต์และได้รับ +5 คุณธรรม +5 ความโหด จาก เอ้อหู  โพสต์ 2025-9-15 21:39
โพสต์ 14,016 ไบต์และได้รับ +2 EXP +4 คุณธรรม จาก พู่กันคัดอักษร  โพสต์ 2025-9-15 21:39
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กระบี่คู่สลักจันทรา
เกราะทองแดง
เครื่องรางไหมถักแห่งมิตรภาพ
มีดแล่เนื้อ
หมวกไผ่ผ้าคลุมดำ
พู่กันคัดอักษร
น่ารัก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x3
x1
x1
x1

1

กระทู้

91

ตอบกลับ

1161

เครดิต

ผู้ใฝ่รู้

พลังน้ำใจ
888
ตำลึงทอง
39
ตำลึงเงิน
114
เหรียญอู่จู
9349
STR
0+6
INT
0+1
LUK
0+5
POW
0+0
CHA
20+5
VIT
5+7
คุณธรรม
61
ความชั่ว
670
ความโหด
1539
โพสต์ 2025-9-22 20:06:45 | ดูโพสต์ทั้งหมด
วันที่ 22 เดือน 8 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11

เวลา 19.00-22.00

ฟ้าค่อย ๆ เปลี่ยนสี จากทองส้มเป็นคราม จากครามเป็นม่วงแก่ หมอกเริ่มโรยตัวลงบนผืนหิน บนต้นไม้ บนชายจีวรของผู้เฝ้าสมาธิ ยอดระเบียงเมฆาในยามเย็นสงัดราววิหารกลางฟ้า ไม่มีเสียงสัตว์ ไม่มีเสียงคน มีเพียงสายลมบาง ๆ พัดลอดยอดไม้ ราวกับเสียงลมหายใจของแผ่นดิน



จี เทียนเต้าผู้ไร้ที่ไป นั่งคุกเข่าอยู่ไม่ห่างจากไต้ซือจื่อหลิง ร่างชรานั้นกอดอก ขาหย่อนอยู่บนขอบผาอย่างไม่สนฟ้า ไม่กลัวตก


“ข้าเคยคิดกระโดดจากที่แบบนี้มาก่อนนะ” เขาเอ่ยเบา ๆ คล้ายจะพูดกับลม “หลายปีมาแล้ว บนเขาอื่น ไม่ใช่ที่นี่หรอก แต่สุดท้าย ข้ากลัวว่าข้างล่างจะไม่มีใครต้อนรับข้าเช่นกัน”



หลวงจีนจื่อหลิงลืมตาเพียงนิด ไม่หันไปมอง ท่านไม่ตอบในทันที แต่ให้ความเงียบทำหน้าที่ก่อน


ฟ้าเริ่มมืดสนิท เงาร่างของทั้งสองแทบกลืนกับภูผา จี เทียนเต้าหยิบถุงผ้าใบเก่าที่ห่อหมั่นโถวแข็งเหมือนหินออกมา วางไว้บนตัก


“บางคนให้ของข้าแค่ชิ้นเดียว แต่ข้ากลับแบกมันมาทั้งชีวิต ข้าเก็บมันไว้ ไม่ใช่เพราะหิว แต่เพราะข้ารู้สึกอิ่มเวลามองมัน” เขาหัวเราะเบา ๆ ดวงตาหลุบลง





ไต้ซือจื่อหลิงละสายตาจากม่านหมอก แล้วมองมายังชายชราผู้นั่งกอดของแข็งราวศักดิ์สิทธิ์ ท่านไม่ได้พูดคำปลอบ ท่านไม่พูดว่า “ปล่อยวางเถิด” เพราะบางอย่างในใจมนุษย์ ไม่ควรเร่งให้ลืม



ไฟจากตะเกียงกระเบื้องเล็ก ๆ ถูกจุดขึ้นโดยจี เทียนเต้า เขาเอามันวางไว้ตรงกลาง เหมือนเด็กเอาขนมปังปิ้งมาแบ่งกับเพื่อน


“นี่ไง ข้าไม่ได้มือเปล่านะ ไฟข้าเอง ข้าเคยขโมยมาจากโรงเตี๊ยมเก่า สมัยยังทำงานเป็นคนล้างถ้วย เจ้าของจับได้ แต่ปล่อยข้าไป เพราะเมียเขาเพิ่งตาย เขาบอกว่า เอาไปเถอะ แสงเล็ก ๆ ก็อาจช่วยไม่ให้คนบ้าตายกลางทาง”





เขายิ้มตลก ๆ แต่น้ำตาในหางตาก็เปล่งประกายเล็กน้อยภายใต้แสงตะเกียงนั้น เงาทั้งสองทอดยาวเบื้องหลัง เสียงธรรมะไม่จำเป็นต้องถูกเอ่ยออก แค่ลมที่สงบ และใจที่ไม่ต่อต้าน ก็คือการปฏิบัติธรรม





“หลวงจีน” จี เทียนเต้าเอ่ยเสียงเบา “หากข้าขอให้ท่านอยู่เป็นเพื่อนข้าทั้งคืน ท่านจะว่าอะไรไหม”



ไต้ซือจื่อหลิงยิ้มน้อย ๆ ก่อนตอบด้วยเสียงที่อบอุ่นดังผ้าห่มผืนเก่า


“ธรรมะอยู่กับผู้ที่ไม่กลัวเงาตนเองในยามกลางคืน อาตมานั่งตรงนี้โยมก็อยู่ตรงนั้น เงาของเราก็เป็นเพื่อนกันได้”



จี เทียนเต้าหัวเราะหึ ๆ ม้วนผ้าขี้ริ้วมาหนุนหัวนอน ก่อนจะพลิกตัวหันหน้าเข้าหาตะเกียง แล้วพูดเสียงเบาเหมือนเด็ก


“ท่าน กลิ่นตัวหอมดีนะ ไม่ใช่กลิ่นหอมแบบสุรา หรือกำยาน แต่มันเหมือน กลิ่นคนที่ไม่รังเกียจข้า”



ไม่มีเสียงตอบกลับอีก มีเพียงเงาที่ทอดขนานกันอยู่ในแสงสลัว มีเพียงใจสองใจที่ต่างเคยแตกสลาย และกำลังค่อย ๆ ประสานกันโดยไม่รู้ตัว


ตะเกียงเริ่มหมดไส้ ไฟค่อย ๆ โรยแรง จี เทียนเต้าหลับไปแล้ว ริมฝีปากยังยิ้มน้อย ๆ ในท่านอนขดตัว


หลวงจีนจื่อหลิงไม่ลุกไปไหน ท่านยังคงนั่งตรงนั้น สายตามองแสงสุดท้ายของตะเกียง และในหัวใจ รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนเล็กน้อย ไม่ใช่เพราะคำพูดของชายชรา ไม่ใช่เพราะกลิ่นเหงื่อของคนบ้า แต่เพราะเมล็ดพันธุ์พุทธะ บางเมล็ด ไม่งอกในดินดี หากงอกในดินแห้งแล้งที่สุด แล้วผลิดอกด้วยน้ำตาของตนเอง



“ถ้ามีใครสักคนยอมฟังเจ้าจนเงียบ  บางที เจ้าจะไม่ต้องพูดให้ดังอีกต่อไป” ไต้ซือจื่อหลิง (คำพูดที่ไม่ได้เอ่ย แต่คิดในใจ)


______________________________________________________________________________________________________________

[NPC - 21] ไต้ซือจื่อหลิง

โรลเพลย์คุยประจำวัน : +5 ความสัมพันธ์

หัวดี : โบนัสเพื่มความโปรดปราน +20




แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-21] ไต้ซือจื่อหลิง เพิ่มขึ้น 25 โพสต์ 2025-9-23 21:42
โพสต์ 10536 ไบต์และได้รับ 6 EXP!  โพสต์ 2025-9-22 20:06
โพสต์ 10,536 ไบต์และได้รับ +4 ความชั่ว +5 ความโหด จาก มีดแล่เนื้อ  โพสต์ 2025-9-22 20:06
โพสต์ 10,536 ไบต์และได้รับ +5 คุณธรรม +5 ความโหด จาก เอ้อหู  โพสต์ 2025-9-22 20:06
โพสต์ 10,536 ไบต์และได้รับ +5 คุณธรรม +4 ความโหด จาก น่ารัก  โพสต์ 2025-9-22 20:06
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กระบี่คู่สลักจันทรา
เกราะทองแดง
เครื่องรางไหมถักแห่งมิตรภาพ
มีดแล่เนื้อ
หมวกไผ่ผ้าคลุมดำ
พู่กันคัดอักษร
น่ารัก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x3
x1
x1
x1

1

กระทู้

91

ตอบกลับ

1161

เครดิต

ผู้ใฝ่รู้

พลังน้ำใจ
888
ตำลึงทอง
39
ตำลึงเงิน
114
เหรียญอู่จู
9349
STR
0+6
INT
0+1
LUK
0+5
POW
0+0
CHA
20+5
VIT
5+7
คุณธรรม
61
ความชั่ว
670
ความโหด
1539
โพสต์ 2025-9-24 20:43:15 | ดูโพสต์ทั้งหมด
วันที่ 24 เดือน 8 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11
เวลา 19.00-22.00


ฟ้ายามหัวค่ำ บนยอดเขาหัวซาน เย็นชืดจนกล้ามเนื้อใต้ผิวเริ่มหดตัว ยอดระเบียงเมฆาเงียบสงัด ลมเย็นไล้ผ่านโขดหิน เศษใบไม้ปลิวสะเปะสะปะ ดวงจันทร์เพิ่งจะโผล่พ้นขอบฟ้าเหนือหุบเขาทางตะวันออก สีเงินหม่นเหมือนตาเฒ่าผู้หนึ่งที่ไม่หลับ



จี เทียนเต้า นั่งขดตัวอยู่หลังพุ่มไม้เตี้ย ๆ หัวล้านที่ถูกแสงจันทร์ส่องสะท้อนมีประกายราง ๆ ขาสวมเสื้อผ้าที่ขาดวิ่นตามเคย แต่รีดมันด้วยมืออย่างประณีตที่สุดเท่าที่คนเร่ร่อนจะทำได้ ฟันหัก ๆ ถูกซ่อนด้วยรอยยิ้มประหลาดที่ฝึกมาทั้งวันในกระจกน้ำ มือข้างหนึ่งกุมถุงผ้าเก่า ๆ ที่ในนั้นมีของเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เขาคิดว่าอาจทำให้ใครบางคนรู้สึกดี



“วันนี้เขาน่าจะขึ้นมาประมาณทุ่มกว่า วันก่อนก็ขึ้นเวลานี้” เทียนเต้านับเวลาในใจเงียบ ๆ พลางเงี่ยหูฟังเสียงเท้า เขาไม่ได้เป็นจอมยุทธ์ ไม่มีวรยุทธ์ ไม่มีพลังปราณ ไม่มีอะไรเลย แต่เขา จำจังหวะเดินของจื่อหลิงได้แม่นยำกว่าคัมภีร์ไหน ๆ



เสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังมาจากเส้นทางหิน จี เทียนเต้าหลุบตามอง มือรีบปัดฝุ่นที่หัวเข่าของตน ลุกขึ้นยืนทันทีที่เงาร่างในจีวรสีซีดปรากฏขึ้น ไต้ซือจื่อหลิง เดินตรงมา ท่ามกลางหมอกจาง ๆ และเงาสนสูง ทุกย่างก้าวของเขาสงบ แต่เปี่ยมด้วยแรงศรัทธาที่ไม่อาจอธิบาย



จี เทียนเต้ากระแอม แล้วรีบจัดท่าทางของตน  มือไพล่หลัง ค้อมเล็กน้อยยิ้มเบา ๆ


“เอ่อ ข้ารออยู่นานแล้วนะ” เขาพูดด้วยเสียงที่พยายามจะให้ นิ่งและนุ่มคล้ายเสียงของหลวงจีนยามกล่าวธรรมะ แต่ฟังแล้วกลับเหมือนคนแก่กำลังกลืนข้าวแข็ง ๆ เข้าไปในลำคอ



“วันนี้ ฟ้าเปิดนะ” เขาเงยหน้ามองดาว





“แสงจันทร์ส่องพอดีกับรอยแหวกของเมฆเลย ราวกับมีมือมารูดม่านบนสวรรค์” เขาหรี่ตา ขยับริมฝีปากช้า ๆ ละเมียดละไม



“ท่านรู้ไหม ข้าว่าคืนนี้ มี เมล็ดพุทธะแห่งแสงจันทร์ ซ่อนอยู่ในลมด้วยนะ”





ไต้ซือจื่อหลิงไม่หยุดเดิน ท่านเพียงมองผ่านจี เทียนเต้าไปทางหินแบน ที่ท่านนั่งสมาธิเป็นประจำ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร


จี เทียนเต้าดีใจในใจ รีบเดินตาม ค้อมตัวพองาม เขานั่งลงฝั่งตรงข้าม ตรงข้ามกับจื่อหลิง เว้นระยะพอสมควร ไม่ใกล้จนล่วงเกิน ไม่ไกลจนรู้สึกโดดเดี่ยว



“วันนี้ข้าเตรียมของมาด้วยนะ เขาล้วงถุงผ้าเก่า ๆ ออกมาแล้วค่อย ๆ หยิบของออกทีละชิ้น เห็ดสีเทาอ่อนที่เขาอบแห้งเองโดยวางไว้ในซอกหิน ใบไม้กลิ่นหอมบางเบา ที่เขาบอกตัวเองว่า น่าจะบรรเทาอารมณ์ หินก้อนเล็ก ๆ ที่มีรูตรงกลาง เขาบอกว่าเป็น หินแห่งสมาธิ และสุดท้าย ก้านไม้ที่ผูกด้ายแดงเป็นรูปดอกไม้บาน



เขาวางทุกสิ่งเบื้องหน้าไต้ซือด้วยความระวัง จากนั้นพยายามพูดให้คล้ายจื่อหลิงที่สุด เสียงทุ้มต่ำ แต่นุ่มนวล (แอบฝึกในป่าอยู่สองวัน)


“สิ่งทั้งหลายในโลก มิใช่มีคุณค่าเพราะเป็นสิ่งใหญ่ แต่เพราะมีใจที่มอบให้” เขายิ้ม ยกมือขึ้นพนมอย่างเงอะงะ แล้วหลับตาแกล้งสมาธิ แต่ลอบลืมตาข้างหนึ่งมองจื่อหลิง เหมือนเด็กกำลังรออาจารย์ชม



จื่อหลิงยังไม่พูดอะไร เพียงแค่ค้อมศีรษะนิด ๆ รับรู้ และกลับเข้าสู่สมาธิต่อบาตรวางไว้ข้าง ๆ ของวางของจี เทียนเต้าไว้เงียบ ๆ


จี เทียนเต้านั่งเงียบเช่นกัน แต่ นิ่งไม่นาน มือไม้เริ่มซน สักพักก็ล้วงผ้าผืนเล็ก ๆ ออกมาพันหัวตัวเอง


“ท่านว่า  ถ้าข้าโกนหนวด แล้วนั่งนิ่ง ๆ นานพอ ข้าจะกลายเป็นหลวงจีนได้ไหม” เขาถามแบบจริงจัง แต่ก็ไม่ได้หวังคำตอบ เพียงแค่ต้องการเสียงหัวเราะเบา ๆ จากผู้ฟังคนเดียวของเขา



ไม่มีเสียงหัวเราะ แต่เงาเล็ก ๆ ของรอยยิ้มที่มุมปากของจื่อหลิง สะท้อนกับแสงจันทร์


จี เทียนเต้านั่งหลับตา กลั้นหายใจ นับเลขในใจ พยายามนั่งให้นิ่ง แต่จู่ ๆ ก็โพล่งขึ้นมา


“ถ้าข้านั่งอย่างนี้จนท่านสนใจ ท่านจะพูดกับข้าไหม”



เงียบ เงียบจนได้ยินเสียงแมลงบินข้ามหิน เงียบจนได้ยินเสียงลมไถใบไม้ผ่านรากไม้ แล้วจื่อหลิงจึงพูดขึ้น เบา ราบเรียบ แต่ไม่เย็นชา


“ผู้ที่เฝ้ารอคำตอบ ด้วยเสียงของคนอื่น มักไม่เคยได้ยินเสียงของตนเองในใจ”



จี เทียนเต้านิ่งไป คราวนี้ เขาหลับตาจริง ๆ นานกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา


ลมแรงขึ้น จื่อหลิงลุกขึ้นยืน ห่มจีวรคลุมไหล่ มองจันทร์ครู่หนึ่ง แล้วจึงเดินจากไปในความเงียบ


จี เทียนเต้ายังคงนั่งอยู่ตรงเดิม ไม่ลุก ไม่เอ่ยคำลา แต่เมื่อแผ่นหลังของไต้ซือเดินลับเงาสนไปแล้ว เขาก็ลืมตาขึ้น ลมหายใจค่อย ๆ ผ่อนออกจากอก มือสั่นนิด ๆ แต่ปากก็ยิ้ม พร้อมพูดเบา ๆ กับตัวเอง



“เจ้าบ้า เขาพูดกับเจ้าแล้วนะ ถึงจะไม่หัวเราะ แต่ก็ไม่รังเกียจ”



เขาเก็บของใส่ถุงอย่างเบามือ แล้วเงยหน้ามองจันทร์อีกครั้ง เหมือนกำลังบอกฟ้าว่า คืนนี้ หัวใจของข้าได้ยินเสียงแล้ว

_____________________________________________________________________________________________________________________

[NPC - 21] ไต้ซือจื่อหลิง
โรลเพลย์คุยประจำวัน : +5 ความสัมพันธ์

หัวดี : โบนัสเพื่มความโปรดปราน +20



แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-21] ไต้ซือจื่อหลิง เพิ่มขึ้น 25 โพสต์ 2025-9-24 23:17
โพสต์ 13948 ไบต์และได้รับ 6 EXP!  โพสต์ 2025-9-24 20:43
โพสต์ 13,948 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] คุณธรรม +4 ความชั่ว +5 ความโหด จาก มีดแล่เนื้อ  โพสต์ 2025-9-24 20:43
โพสต์ 13,948 ไบต์และได้รับ +2 EXP +5 ความชั่ว +6 ความโหด จาก หมวกไผ่ผ้าคลุมดำ  โพสต์ 2025-9-24 20:43
โพสต์ 13,948 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] คุณธรรม +5 ความโหด จาก เอ้อหู  โพสต์ 2025-9-24 20:43
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กระบี่คู่สลักจันทรา
เกราะทองแดง
เครื่องรางไหมถักแห่งมิตรภาพ
มีดแล่เนื้อ
หมวกไผ่ผ้าคลุมดำ
พู่กันคัดอักษร
น่ารัก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x3
x1
x1
x1

1

กระทู้

91

ตอบกลับ

1161

เครดิต

ผู้ใฝ่รู้

พลังน้ำใจ
888
ตำลึงทอง
39
ตำลึงเงิน
114
เหรียญอู่จู
9349
STR
0+6
INT
0+1
LUK
0+5
POW
0+0
CHA
20+5
VIT
5+7
คุณธรรม
61
ความชั่ว
670
ความโหด
1539
โพสต์ 2025-9-26 19:49:44 | ดูโพสต์ทั้งหมด
วันที่ 26 เดือน 8 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11
เวลา 19.00-22.00


เมฆบางลอยเฉื่อย ๆ เหมือนแผ่นฝ้ายที่คนชราเผลอวางลืมไว้บนฟ้า แสงสุดท้ายของวันถูกกรองผ่านม่านหมอกจนกลายเป็นเฉดสีที่ไม่มีชื่อ ยอดระเบียงเมฆาเริ่มเย็นลงทีละองศา ขณะที่เบื้องล่าง แม่น้ำเว่ยไหลเอื่อย สะท้อนแสงส้มอมเทาเหมือนน้ำตาเงียบของใครบางคน



จี เทียนเต้าเดินผ่านทางหินแคบอย่างระมัดระวัง ถุงผ้าเก่าใบเดิมสะพายบนไหล่ข้างหนึ่ง มือนึงประคองมันไว้แนบอก ข้างในมีน้ำเต้าหู้ ยังอุ่น ห่อไหมฟ้าเล็ก ๆ ถูกวางซ้อนกันด้วยความพิถีพิถัน แม้จะมีกลิ่นเขม่านิดหน่อยจากเตาไม้ของของเขาที่สร้างขึ้น



เขาไม่ได้รีบเดินนัก บางครั้งก็ก้มเก็บใบไม้รูปแปลก บางครั้งก็หยุดฟังเสียงลมผ่านต้นสน บางครั้ง ก็แค่แหงนมองท้องฟ้าแล้วบ่นกับตัวเองว่า



"คืนนี้ พระจันทร์คงอาย เมฆหนาเชียว"



ยอดระเบียงเมฆาเงียบงัน มีเพียงร่างในจีวรหม่น ๆ ของภิกษุหนุ่มผู้หนึ่ง นั่งนิ่งเหมือนหินผา เส้นผมบางเส้นขยับตามลมเบา ๆ ไต้ซือจื่อหลิง ทำสมาธิตรงจุดที่มองเห็นเส้นคดโค้งของแม่น้ำเว่ยได้ชัดที่สุด ใบหน้าเขานิ่งราวกับรูปแกะสลักในวิหาร แต่ดวงตาที่หลับอยู่ กลับคล้ายฟังเสียงทุกสรรพสิ่งรอบตัว



เขารู้ว่าใครบางคนกำลังจะมา ไม่ต้องลืมตาก็รู้ เพราะกลิ่นน้ำเต้าหู้ลอยมาแต่ไกล และเสียงฝีเท้าอันคุ้นเคยที่ไม่เคยเนียนพอจะหลอกลมฟ้าได้เลย


จี เทียนเต้าโผล่หน้าออกมาจากแนวพุ่มไม้ ยิ้มแบบคนที่ไม่รู้ว่าควรยิ้มทำไม


“ข้าเดาว่าท่านยังไม่เบื่อหน้าข้า เพราะท่านยังไม่โยนหินใส่ข้าเสียที” เขานั่งลงข้าง ๆ จื่อหลิง ไม่ใกล้เกิน ไม่ห่างเกิน วางถุงผ้าเบา ๆ ราวกับสิ่งข้างในเป็นของศักดิ์สิทธิ์



“ข้าต้มให้ท่านเอง ข้ารู้ว่าท่านชอบทานรสอ่อน ๆ  แล้วข้าใส่ใจเรื่องนี้ไปทำไมก็ไม่รู้ เอาเถอะ ถือว่าเป็นกิเลสอย่างหนึ่งละกัน”



ไม่มีเสียงตอบจากจื่อหลิง มีเพียงสายลมเย็นเฉียบที่พัดมาสะกิดชายจีวร


จี เทียนเต้าหันไปมองใบหน้าอีกฝ่าย เห็นเพียงความสงบ แต่เขารู้ดี ว่าจื่อหลิงไม่ได้ปิดกั้นเขา แค่ไม่เปิดปากพูด จึงเอื้อมไปหยิบถ้วยไม้เล็ก ๆ ที่เขาแกะเอง วางข้างบาตร แล้วเทน้ำเต้าหู้อุ่นลงไป ช้า ๆ ไม่ให้หก



“อืม หอมแบบนี้แหละ ข้าชอบกลิ่นนี้ เพราะมันทำให้ท่านยิ้ม”



เงียบอีกพักหนึ่ง ก่อนเสียงของจื่อหลิงจะดังขึ้น ช้าและแน่นเหมือนเสียงหยดน้ำในถ้ำ




“เจ้ากินก่อนสิ”



จี เทียนเต้าหันไปมองราวกับไม่แน่ใจหูตัวเอง




“ท่านแน่ใจหรือ อย่ามาอธิบายทีหลังว่าเป็นการฝึกสละกิเลสนะ เพราะถ้าเป็นแบบนั้น ข้าจะไม่กิน ให้ตายเถอะ”



จื่อหลิงลืมตาขึ้น มองเขาด้วยดวงตาสงบ แล้วพยักหน้าเบา ๆ



จี เทียนเต้าหยิบขนมชิ้นหนึ่งขึ้น เคี้ยวคำเล็ก ๆ แล้วกลืนน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาพร้อมกับรสหวานปลายลิ้น


“ข้าเคยคิดว่า คนอย่างข้าไม่มีวันได้กินขนมร่วมกับใครแบบนี้หรอก ข้าทำตัวบ้าบอเหลือเกิน น่ารำคาญ บางครั้งยังรำคาญตัวเองเลย แต่ท่าน กลับไม่เคยบอกให้ข้าหยุดมา”



เสียงของเขาเบาจนเกือบเท่าลมหายใจ “ข้าไม่รู้ว่าท่านเห็นข้าเป็นอะไร แต่ข้ารู้ว่า ข้าอยากให้ท่านเห็นข้าอยู่ตรงนี้ ยังอยู่ ยังกินขนมกับท่าน ยังหายใจร่วมลมเดียวกัน”



จื่อหลิงไม่ตอบอีกตามเคย แต่คราวนี้ เขาเอื้อมมือไปดึงจีวรที่ปลิวจากไหล่ขึ้นมา คลุมบ่าตัวเองให้กระชับ แล้ว ยื่นปลายผ้าสั้น ๆ ออกไป คลุมหัวไหล่ของจี เทียนเต้าอีกฟากหนึ่ง



จี เทียนเต้าชะงัก ไม่กล้าหันมองตรง ๆ เขายังเคี้ยวขนมคำเดิมอยู่ ทั้งที่มันน่าจะละลายไปแล้ว


“แบบนี้ ข้าจะไม่ไปไหนแล้วนะ ท่านทำแบบนี้ ข้าจะนั่งอยู่ตรงนี้ยันชาติหน้าเอาเลย”



จื่อหลิงพูดเสียงเบา แต่ชัดเจน


“ถ้าเจ้าจะอยู่ ก็นั่งให้สงบ จิตของเจ้าวอกแวกยิ่งกว่าฝูงลิงบนต้นเฟิ่งหวง”



จี เทียนเต้าหัวเราะเบา ๆ เสียงเหมือนหินกลิ้งบนทางกรวด




“ลิงก็เป็นลิง ข้าไม่มีบุญพอจะเป็นพุทธะอย่างท่าน แค่ท่านยอมให้ข้านั่งข้าง ๆ ก็พอแล้ว”



ทั้งสองคนเงียบไปอีกพัก มีเพียงเสียงลมหายใจ และกลิ่นน้ำเต้าหู้ที่อุ่นจนหายไปในอากาศเย็น ดวงจันทร์โผล่ขึ้นเหนือเส้นขอบฟ้า สาดแสงลงมาตรงยอดระเบียงเมฆา ราวกับจงใจเลือกมุมนี้ของโลก เพื่อส่องแสงให้คนสองคนที่ไม่ได้เป็นอะไรต่อกัน แต่ต่าง ขาดกันไม่ได้



จื่อหลิงลุกขึ้น ยืดร่างเล็กน้อย ขยับจีวรให้เข้าที่


จี เทียนเต้ามองตาม ราวกับกลัวว่าอีกฝ่ายจะหายไปเหมือนเงาจันทร์บนผิวน้ำ


ก่อนเดินจาก จื่อหลิงเอ่ยขึ้นเรียบ ๆ ไม่มองหน้าด้วยซ้ำ


“พรุ่งนี้ ข้าอาจขึ้นช้าหน่อย แต่เจ้ารู้ว่าข้าจะมา”



จี เทียนเต้ายิ้ม ไม่พูดอะไร เขาแค่พยักหน้าเบา ๆ แล้วพูดกับลมว่า


“ข้าไม่รีบ ข้าจะนั่งรอตรงนี้ ข้าจะไม่รีบไปไหนเลย ถ้าท่านยังจะกลับมา”

_____________________________________________________________________________________________________________

[NPC-21]  ไต้ซือจื่อหลิง

พูดคุยประจำวัน : ความสัมพันธ์ +5

หัวดี โบนัสเพิ่มความโปรดปราน+20

+15 ความสัมพันธ์ น้ำเต้าหู้

ชงชา ได้โบนัส +5 เพิ่ม




แสดงความคิดเห็น

หัวใจกับไต้ซือตันสองดวงแล้ว  โพสต์ 2025-9-26 20:54
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-21] ไต้ซือจื่อหลิง เพิ่มขึ้น 20 โพสต์ 2025-9-26 20:54
โพสต์ 14393 ไบต์และได้รับ 6 EXP!  โพสต์ 2025-9-26 19:49
โพสต์ 14,393 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] คุณธรรม +4 ความชั่ว +5 ความโหด จาก มีดแล่เนื้อ  โพสต์ 2025-9-26 19:49
โพสต์ 14,393 ไบต์และได้รับ +2 EXP +5 ความชั่ว +6 ความโหด จาก หมวกไผ่ผ้าคลุมดำ  โพสต์ 2025-9-26 19:49
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กระบี่คู่สลักจันทรา
เกราะทองแดง
เครื่องรางไหมถักแห่งมิตรภาพ
มีดแล่เนื้อ
หมวกไผ่ผ้าคลุมดำ
พู่กันคัดอักษร
น่ารัก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x3
x1
x1
x1

1

กระทู้

91

ตอบกลับ

1161

เครดิต

ผู้ใฝ่รู้

พลังน้ำใจ
888
ตำลึงทอง
39
ตำลึงเงิน
114
เหรียญอู่จู
9349
STR
0+6
INT
0+1
LUK
0+5
POW
0+0
CHA
20+5
VIT
5+7
คุณธรรม
61
ความชั่ว
670
ความโหด
1539
โพสต์ 2025-9-28 06:15:40 | ดูโพสต์ทั้งหมด
วันที่ 27 เดือน 8 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11
เวลา 17.00-22.00

ชั่วขณะนั้น ความมืดที่เคยคลุมจิตใจเด็กน้อยเริ่มจางลง เหมือนกับหมอกหนาทึบที่ถูกลมอ่อนพัดพาให้เลือนหายไป ความสงบและความหวังเริ่มส่องสว่างในห้องนั้น จี เทียนเต้าและจื่อหลิงยืนมองด้วยใจที่สงบและมั่นคง พวกเขารู้ดีว่า แม้ทางข้างหน้าจะยังอีกยาวไกล แต่แสงสว่างเล็ก ๆ นี้จะเป็นดั่งประภาคารนำทางในคืนมืดมน



แสงเย็นย่ำค่อย ๆ ทอแสงสีนวลอ่อนผ่านสายหมอกที่ปกคลุมเบาบางอยู่บนยอดระเบียงเมฆา จี เทียนเต้าและจื่อหลิงยืนอยู่เบื้องหน้าทิวทัศน์งดงามของแม่น้ำเว่ยที่ทอดยาวเหมือนสายริบบิ้นเงินล่องลอยไปตามหุบเขา ลมเย็นพัดผ่านพัดพลิ้วผืนผ้าคลุมไหล่ของทั้งสอง ช่วงเวลาที่เงียบสงบเช่นนี้กลับเต็มไปด้วยความหมายลึกซึ้งเหนือกว่าคำพูดใด ๆ





จื่อหลิงถอนหายใจเบา ๆ พลางทอดสายตาลงต่ำ “ข้า ไม่เคยคิดเลยว่าความช่วยเหลือจะมาในรูปแบบนี้” เสียงเขาเงียบแต่ชัดเจน “ตลอดเวลาที่ผ่านมา ข้าพยายามเพียงแค่ใช้มนต์และคำสวดภาวนา เพื่อไล่พลังมืดให้พ้นไปจากใจของผู้คน แต่บางครั้งก็รู้สึกเหมือนข้าขาดบางสิ่งที่จำเป็น ข้ารู้สึกว่าความสามารถของข้ายังไม่เพียงพอที่จะช่วยเหลือทุกคนได้จริง ๆ”



จี เทียนเต้ายิ้มบาง ๆ ก่อนก้าวเข้ามาใกล้ พลางวางมือบนไหล่ของจื่อหลิงเบา ๆ “บางทีสิ่งที่เจ้าคิดว่าเป็น ความขาดแคลน อาจไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด” น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนและมั่นคง “ความช่วยเหลือไม่ได้มีแค่พลังหรือมนต์เท่านั้น การให้กำลังใจและความหวังต่างหาก ที่เป็นสิ่งล้ำค่าที่สุดในเวลาที่ผู้คนกำลังท้อแท้และหมดหวัง”



“ข้าเห็นเจ้าทุ่มเทกับการช่วยเหลือผู้อื่นอย่างเต็มที่ ข้ารู้ว่ามันไม่ง่ายเลยที่จะเผชิญกับความทุกข์ใจของคนอื่น และยังคงไม่ยอมแพ้” จี เทียนเต้าหันไปมองทิวทัศน์เบื้องหน้า “เจ้าทำให้เด็กน้อยคนนั้นได้เห็นแสงสว่างในความมืดที่เขาเผชิญ และนั่นคือสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าเวทมนตร์ใด ๆ”



จื่อหลิงค่อย ๆ เงยหน้าขึ้น ดวงตาที่เคยเต็มไปด้วยความกังวลและเหน็ดเหนื่อย เริ่มเปล่งประกายด้วยความอบอุ่นและแรงบันดาลใจ “ข้าจะจำคำพูดของเจ้าไว้ ขอบใจเจ้ามากจริง ๆ เทียนเต้า” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความจริงใจ



จี เทียนเต้าเพียงพยักหน้าอย่างเข้าใจ “ข้าเชื่อว่าเจ้าจะเป็นแสงสว่างให้กับผู้คนได้มากกว่านี้อีกแน่นอน เพราะใจของเจ้าก็ส่องแสงอยู่แล้ว”



ลมเย็นพัดผ่านอีกครั้ง เสียงน้ำในแม่น้ำเว่ยเบา ๆ เหมือนเสียงพัดพาคำมั่นสัญญาให้สองผู้เดินทางได้สานต่อเส้นทางแห่งความหวังและแสงสว่างนี้ต่อไปอย่างไม่สิ้นสุด

________________________________________________________________________________________________________________

เควสปลดหัวใจ: สายสัมพันธ์แห่งอรุณรุ่ง (3)

เป้าหมาย : พูดคุยให้กำลังใจจื่อหลิง

รางวัล : (รางวัลหลัก) เครื่องรางไหมถักแห่งมิตรภาพ (เพิ่มค่าความสัมพันธ์กับจื่อหลิง) และปลดหัวใจ NPC [NPC-21] ไต้ซือจื่อหลิง 2 ดวง (คนรู้จัก (สำหรับสนม เริ่มเปิดใจ))





แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 8318 ไบต์และได้รับ 3 EXP!  โพสต์ 2025-9-28 06:15
โพสต์ 8,318 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] คุณธรรม +2 ความชั่ว +3 ความโหด จาก มีดแล่เนื้อ  โพสต์ 2025-9-28 06:15
โพสต์ 8,318 ไบต์และได้รับ +2 ความชั่ว +2 ความโหด จาก หมวกไผ่ผ้าคลุมดำ  โพสต์ 2025-9-28 06:15
โพสต์ 8,318 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] คุณธรรม +2 ความโหด จาก เอ้อหู  โพสต์ 2025-9-28 06:15
โพสต์ 8,318 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] คุณธรรม +2 ความโหด จาก น่ารัก  โพสต์ 2025-9-28 06:15
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กระบี่คู่สลักจันทรา
เกราะทองแดง
เครื่องรางไหมถักแห่งมิตรภาพ
มีดแล่เนื้อ
หมวกไผ่ผ้าคลุมดำ
พู่กันคัดอักษร
น่ารัก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x3
x1
x1
x1

1

กระทู้

91

ตอบกลับ

1161

เครดิต

ผู้ใฝ่รู้

พลังน้ำใจ
888
ตำลึงทอง
39
ตำลึงเงิน
114
เหรียญอู่จู
9349
STR
0+6
INT
0+1
LUK
0+5
POW
0+0
CHA
20+5
VIT
5+7
คุณธรรม
61
ความชั่ว
670
ความโหด
1539
โพสต์ 2025-9-29 19:28:51 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ 29 เดือน 8 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11

เวลา 19.00-20.00



ค่ำวันนี้ เมฆหนาทึบลอยต่ำเหนือเทือกเขาหัวซาน อาบโลกทั้งใบไว้ด้วยม่านหมอกสีเงิน ยอดระเบียงเมฆา โผล่พ้นขอบฟ้าเป็นแท่นศิลาแหลมตระหง่าน ราวกับถูกเทพเจ้าแกะสลักขึ้นจากเนื้อฟ้า ด้านล่าง ลึกลงไปจนสายตามนุษย์ไม่อาจหยั่งถึง คือหุบเหวดำมืดที่เหมือนจะดูดกลืนทุกเสียง



เวลานี้คือครึ่งทุ่มตรง แสงสุดท้ายของอาทิตย์คล้ายจะดิ้นรนกรีดท้องฟ้าไว้ด้วยสีแดงเรื่อ แต่กลับพ่ายแพ้ แดดหาย ลมพัด และเสียงใบไม้สุดท้ายก็ร่วงลงอย่างสงบ นั่นเป็นเวลาที่ เขา ปรากฏตัว



จี เทียนเต้า บุรุษวัยห้าสิบในคราบของชายผู้สูงศักดิ์ ก้าวเท้าอย่างมั่นคงสู่ยอดระเบียงเมฆา คราวนี้เขามิใช่ชายแก่หัวล้าน เสื้อขาด หนวดเครารุงรังดังที่ผู้คนเมินเฉยอีกต่อไป แต่สวมเสื้อคลุมไหมสีเทาเข้มขลิบทอง คลุมด้วยผ้าคลุมยาวแผ่ไหล่ราวคลื่น บนใบหน้า คือหน้ากากเงินที่ขัดเงาอย่างประณีต ลวดลายวิจิตรละเอียด ล้อแสงจันทร์ให้แลบวับดั่งโลหะศักดิ์สิทธิ์เงาร่างของเขาถูกลมกระชากให้พลิ้วพราย ดั่งภาพลวงตาบนเมฆา



เขาเงยหน้ามองยอดเขาที่สูงล้ำฟ้า ที่นั่น ชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งนิ่งอยู่กับหินแบน



ไต้ซือจื่อหลิง ภิกษุหนุ่มผู้มีเพียงจีวรเก่า ขันทองแดง และคัมภีร์เก่าแก่ นั่งขัดสมาธิบนโขดหินสูง ร่างนิ่งสงบจนแทบแยกไม่ออกจากผืนเขา แสงจันทร์ส่องจากมุมไกล ทาบร่างเขาไว้ด้วยเส้นเงาคมชัด ดวงหน้าอ่อนเยาว์คล้ายเด็กหนุ่มในเมือง แต่ภายในนัยน์ตา กลับลึกเกินกว่าจะวัดได้ด้วยวัย



ลมแรง แต่จีวรไม่สะท้าน หนาวเหน็บ แต่ใจเขาไม่ไหวติง ราวกับกำลังดื่มกิน ความว่าง อย่างเงียบงัน



จี เทียนเต้ายืนอยู่นาน สองมือไพล่หลัง ภายใต้หน้ากากสีเงิน ดวงตาของเขาไม่ได้แฝงความเยาะหยันอย่างเคย มีเพียง ความลังเลบางอย่าง ที่แม้แต่ตนเองยังไม่อาจอธิบาย



เขาเอ่ยขึ้นเบา ๆ คล้ายจะพูดกับตนเองมากกว่า



“ยอดเขานี้ เคยมีคนสติไม่ดีคนหนึ่งอยากจะมากระโดดลง แต่ข้าห้ามเขาไว้ได้ แค่ด้วยขนมปังชิ้นเดียว”



เสียงนั้นลอยไปในอากาศเย็น ไต้ซือมิได้ลืมตา หรือเอ่ยอะไรกลับมาในทันที เขานั่งอยู่เช่นเดิม เหมือนรับรู้ทุกคำ แต่ปล่อยให้เงียบงันตอบแทน



จี เทียนเต้าเงียบไป ก่อนจะก้าวเท้าขึ้นบนศิลาอีกขั้น ราวกับจะเข้าใกล้ชายหนุ่มผู้แบกรับอะไรบางอย่างเกินวัย



“ข้าเคยเกลียดเจ้า เพราะเจ้าสะอาดเกินไป ข้าเคยหนีเจ้า เพราะเจ้าทำให้ข้ารู้สึกเหมือนข้าสกปรก”



เขาหัวเราะในลำคอ เสียงแหบพร่า ไม่ใช่เสียงของผู้ที่มีอำนาจ แต่เป็นเสียงของใครบางคน ที่กลัวคำตอบ



“แล้ววันนี้ ข้ากลับปีนเขาขึ้นมา เพื่อขอให้เจ้าหายเศร้า นี้ขนมข้าให้”



ไต้ซือจื่อหลิงลืมตา แสงจันทร์สะท้อนประกายในดวงตาใส เขาไม่พูดคำใดในทันที แต่พยักหน้าช้า ๆ อย่างไม่ยอมรับ และไม่ปฏิเสธ



จี เทียนเต้านั่งลงตรงหน้าภิกษุหนุ่ม ท่ามกลางอากาศหนาวเย็น และเงาสูงชันของหุบเหวเบื้องล่าง ระหว่างทั้งสอง มีเพียงหินแบนๆ และลมหายใจอุ่น ๆ ที่แตกสลายกลางอากาศหนาวเหน็บ



สายลมพัดเชือกเส้นหนึ่งที่พันอยู่กับเสาสลักเก่าให้ขยับ เสียงมันครืดเบา ๆ ราวกับเสียงกระซิบของเงา



จื่อหลิงเอ่ยขึ้นเบา ๆ ครั้งแรกตั้งแต่นั่งสมาธิ



“เจ้ามีอะไรในใจ ข้ารับฟัง หากเจ้าหวังอะไรจากข้า ข้าจะไม่ให้ แต่หากเจ้าหวังให้ข้าสงบ เจ้าทำสำเร็จแล้ว”



จี เทียนเต้าค่อย ๆ ถอดหน้ากากเงินวางลง เบื้องหลังหน้ากากคือใบหน้าที่แก่ชรา อ่อนล้า แต่ดวงตากลับส่องแสงบางอย่างออกมา



“เพราะเจ้าเคยนั่งข้างข้า โดยไม่ถามชื่อ วันนี้ ข้าจึงอยากนั่งข้างเจ้า โดยไม่ถามเหตุผล”



เสียงลมดังอีกระลอก ยอดระเบียงเมฆาเยือกเย็น แต่ไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไป


___________________________________________________________________________________________________________________


 [NPC-21]  ไต้ซือจื่อหลิง

พูดคุยประจำวัน : ความสัมพันธ์ +5

หัวดี โบนัสเพิ่มความโปรดปราน+20

+20 ความสัมพันธ์ ขนมว่างเกรดทอง (ขนมไหมฟ้า)
อาหารปรุง ได้โบนัส +5 เพิ่ม

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 14360 ไบต์และได้รับ 6 EXP!  โพสต์ 2025-9-29 19:28
โพสต์ 14,360 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] คุณธรรม +2 ความโหด จาก กระบี่คู่สลักจันทรา  โพสต์ 2025-9-29 19:28
โพสต์ 14,360 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] คุณธรรม +4 ความชั่ว +5 ความโหด จาก เกราะทองแดง  โพสต์ 2025-9-29 19:28
โพสต์ 14,360 ไบต์และได้รับ +4 EXP [ถูกบล็อค] คุณธรรม +4 ความโหด จาก เครื่องรางไหมถักแห่งมิตรภาพ  โพสต์ 2025-9-29 19:28
โพสต์ 14,360 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] คุณธรรม +4 ความชั่ว +5 ความโหด จาก มีดแล่เนื้อ  โพสต์ 2025-9-29 19:28
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กระบี่คู่สลักจันทรา
เกราะทองแดง
เครื่องรางไหมถักแห่งมิตรภาพ
มีดแล่เนื้อ
หมวกไผ่ผ้าคลุมดำ
พู่กันคัดอักษร
น่ารัก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x3
x1
x1
x1

1

กระทู้

91

ตอบกลับ

1161

เครดิต

ผู้ใฝ่รู้

พลังน้ำใจ
888
ตำลึงทอง
39
ตำลึงเงิน
114
เหรียญอู่จู
9349
STR
0+6
INT
0+1
LUK
0+5
POW
0+0
CHA
20+5
VIT
5+7
คุณธรรม
61
ความชั่ว
670
ความโหด
1539
โพสต์ 2025-10-2 02:23:17 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ 1 เดือน 9  รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11

เวลา 08.00 - 09.00 น.


ยามแสงอรุณของรุ่งเช้าเริ่มแผ่ไอทองอ่อน ๆ ปกคลุมยอดเขา ระเบียงเมฆา ทางทิศเหนือของหัวซาน จี เทียนเต้า ก้าวขึ้นมาถึงยอดสูงด้วยร่างผอมแห้ง เสื้อผ้าขาดรุ่ย เครารุงรังปกคลุมหน้าอก เขาหอบหายใจแรง พลางตื่นตาตื่นใจกับภาพที่เบื้องหน้า


แม่น้ำเว่ยไหลทอดยาวเป็นริ้วเงินสะท้อนแสงอาทิตย์ยามเช้า เสียงน้ำซ่าเบา ๆ ปะปนกับเสียงลมพัดผ่านผาหินสูงชัน สายน้ำคดเคี้ยวราวกับงูเงินยักษ์ที่เลื้อยผ่านผืนแผ่นดิน เขายกแขนขึ้นกางออก ราวกับจะโอบกอดทั้งโลก เขาหัวเราะเสียงแหบพร่า แล้วเริ่มเพ้อเจ้อกับทุกสิ่งที่เห็น


“โอ้…โอ้…แม่น้ำเว่ยเอ๋ย! เจ้าสายใหญ่ไหลผ่านแผ่นดินผ่านเมือง ผ่านชีวิตผู้คน… แต่ข้า—ข้าผู้ถูกโลกทอดทิ้ง—ยังยืนอยู่บนยอดนี้! ฮ่าๆๆ! โลกทั้งโลกคงมิอาจล่วงรู้ความยิ่งใหญ่ของข้า!”


เขาเดินไปตามขอบผา โซเซบ้าง พลางหยุดยืนเกาะราวระเบียงหิน เสียงหัวเราะคลุ้มคลั่งดังสะท้อนเข้าหุบเขาเบื้องล่าง คล้ายคนหนึ่งที่เพ้อฝันอยู่เหนือโลกจริงและโลกจินตนาการพร้อมกัน


บางคราเขาก้มลงมองสายน้ำด้านล่าง สายตาแดงกร่ำ ผสมทั้งความเศร้าและความคลุ้มคลั่ง


“พวกเจ้าเห็นหรือไม่…ชีวิตผู้คนล้วนไหลเช่นน้ำ แต่ข้า…ข้าจะไม่ไหลไปไหน! ฮ่าๆๆ! ข้าจะคงอยู่ที่นี่…เป็นตำนานผู้บ้าคลั่งบนยอดเขา!”


แล้วเขาก็หัวเราะก้องอีกครั้ง กระโดดขึ้นก้อนหินเล็กพลางปรบมือราวกับผู้เป็นราชาแห่งวิวเบื้องหน้า ลมพัดกลิ่นเหงื่อและกลิ่นตัวเปรี้ยวฉุนไปตามอากาศ เสียงหัวเราะผสมเสียงลม เสียงนกร้อง และเสียงน้ำซ่าเป็นท่วงทำนองเพ้อฝันที่ไร้ผู้ใดหยุด


เขาหันหน้าไปทางตะวันขึ้น มองแสงทองอร่ามสาดลงบนยอดเขา ผิวหน้าเหี่ยวย่นปนเปื้อนเหงื่อและละอองน้ำค้าง หัวใจเต้นแรง เสียงพึมพำเบา ๆ


“ฮ่า…แม่น้ำเว่ย เจ้าสง่างามเหลือเกิน…โลกนี้ไม่เคยหยุดหมุนเพื่อข้า แต่ข้าจะหมุนไปกับมันเอง… ฮ่าๆๆ!”


ชายแก่หัวล้านผอมแห้งคนนั้นยืนอยู่บน ระเบียงเมฆา ราวกับโลกทั้งใบกลายเป็นเวทีสำหรับเขาคนเดียว ทุกลมหายใจ ทุกเสียงหัวเราะ และทุกคำเพ้อเจ้อ ผสมผสานเป็นบทเพลงบ้าคลั่งของผู้ถูกทอดทิ้งและยังเชื่อว่าตนยิ่งใหญ่เหนือสายน้ำและฟ้า


แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 10625 ไบต์และได้รับ 6 EXP!  โพสต์ 2025-10-2 02:23
โพสต์ 10,625 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] คุณธรรม +2 ความโหด จาก กระบี่คู่สลักจันทรา  โพสต์ 2025-10-2 02:23
โพสต์ 10,625 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] คุณธรรม +4 ความชั่ว +5 ความโหด จาก เกราะทองแดง  โพสต์ 2025-10-2 02:23
โพสต์ 10,625 ไบต์และได้รับ +4 EXP [ถูกบล็อค] คุณธรรม +4 ความโหด จาก เครื่องรางไหมถักแห่งมิตรภาพ  โพสต์ 2025-10-2 02:23
โพสต์ 10,625 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] คุณธรรม +4 ความชั่ว +5 ความโหด จาก มีดแล่เนื้อ  โพสต์ 2025-10-2 02:23
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กระบี่คู่สลักจันทรา
เกราะทองแดง
เครื่องรางไหมถักแห่งมิตรภาพ
มีดแล่เนื้อ
หมวกไผ่ผ้าคลุมดำ
พู่กันคัดอักษร
น่ารัก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x3
x1
x1
x1

1

กระทู้

91

ตอบกลับ

1161

เครดิต

ผู้ใฝ่รู้

พลังน้ำใจ
888
ตำลึงทอง
39
ตำลึงเงิน
114
เหรียญอู่จู
9349
STR
0+6
INT
0+1
LUK
0+5
POW
0+0
CHA
20+5
VIT
5+7
คุณธรรม
61
ความชั่ว
670
ความโหด
1539
โพสต์ 2025-10-2 04:33:49 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ 2 เดือน 9  รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11

เวลา 01.00 - 02.00 น.


แสงจันทร์สาดส่องลงบน ยอดระเบียงเมฆา ยอดเขาทางทิศเหนือของหัวซาน กลิ่นไอความเย็นของดวงดาวและหมอกยามค่ำคืนปกคลุมรอบตัว จี เทียนเต้าโซเซขึ้นมาถึงจุดสูงสุด ร่างผอมแห้ง เสื้อผ้าขาดรุ่ย เครารุงรังปลิวไหวตามแรงลม มือทั้งสองแกว่งไปราวกับกำลังกวักอากาศเพื่อดึงฟ้าและเมฆให้ใกล้ตัว


เขาหยุดยืน มองไปรอบตัว หมอกปกคลุมยอดเขาและผาหิน ทำให้หุบเขาเบื้องล่างเหมือนจานเงินขาวสะท้อนแสงจันทร์ แม่น้ำเว่ยทอดตัวเป็นริ้วเงินสลัว ๆ ทุ่งนาและป่าเขาถูกกลืนไปกับเงามืดของยามราตรี


“ข้า…ข้าเทียนเต้า…ผู้บ้าคลั่ง แต่ยังยืนอยู่เหนือยอดเขา ฮ่าๆๆ!” เขาพูดคนเดียว แกว่งแขนไปมา เสียงหัวเราะแหบพร่าและเพ้อคลั่งปนกับเสียงลม เสียงสะท้อนจากหินผาและหมอกทำให้ทุกคำพูดของเขาดังก้องไกล


เขาก้มลงสัมผัสพื้นหินเย็น พลางพึมพำ


“เจ้าหิน…เจ้าลม…เจ้าหมอก…ทุกสิ่งต้องฟังข้า…ข้าจะเพ้อคลั่งกับเจ้า…ข้าจะไม่ยอมโลกทั้งใบ ฮ่าๆๆ!”


ร่างผอมแห้งโซเซไปรอบยอดระเบียง มือจับผาหินเพื่อพยุงตัว เสียงหัวเราะเพ้อคลั่งของเขาก้องสะท้อนไปทั่วหุบเขาและผาหิน กลายเป็นท่วงทำนองบ้า ๆ ที่สอดประสานกับเสียงลมและหมอก


“ไม่มีใครเข้าใจข้า…ไม่มีใครหยุดข้า…แต่ข้าจี เทียนเต้า”


“ข้าจะยืนเหนือยอดระเบียงเมฆานี้…ให้หมอกและดาวเป็นพยาน! ฮ่าๆๆ!”


เขายืนกางแขน ปล่อยร่างปลิวตามแรงลม กลิ่นไอหมอกเย็นและเสียงลมพัดผ่านยอดเขาเหมือนโอบกอดชายแก่หัวล้านผู้บ้าคลั่งคนหนึ่งไว้ ความโดดเดี่ยว ความเพ้อคลั่ง และความยิ่งใหญ่ที่เขามองเห็นด้วยตนเองรวมกันเป็นภาพเดียวกลางยอดระเบียงเมฆาแห่งหัวซานยามตีหนึ่ง




แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 10133 ไบต์และได้รับ 6 EXP!  โพสต์ 2025-10-2 04:33
โพสต์ 10,133 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] คุณธรรม +2 ความโหด จาก กระบี่คู่สลักจันทรา  โพสต์ 2025-10-2 04:33
โพสต์ 10,133 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] คุณธรรม +4 ความชั่ว +5 ความโหด จาก เกราะทองแดง  โพสต์ 2025-10-2 04:33
โพสต์ 10,133 ไบต์และได้รับ +4 EXP [ถูกบล็อค] คุณธรรม +4 ความโหด จาก เครื่องรางไหมถักแห่งมิตรภาพ  โพสต์ 2025-10-2 04:33
โพสต์ 10,133 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] คุณธรรม +4 ความชั่ว +5 ความโหด จาก มีดแล่เนื้อ  โพสต์ 2025-10-2 04:33
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กระบี่คู่สลักจันทรา
เกราะทองแดง
เครื่องรางไหมถักแห่งมิตรภาพ
มีดแล่เนื้อ
หมวกไผ่ผ้าคลุมดำ
พู่กันคัดอักษร
น่ารัก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x3
x1
x1
x1
โพสต์ 2025-10-6 20:40:11 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ 3 เดือน 10 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11

ยามซวี เวลา 19.00 - 20.00 น.

╰┈➤ พบเจอจางเชียน


ลมเย็นจากยอดเขาหัวซานพัดแรงพอให้ชายแขนเสื้อของเสวี่ยซีพลิ้วสะบัด เสียงลมแหวกผ่านโขดหินและต้นสนเก่าแก่ดังคล้ายเสียงขลุ่ยโบราณในราตรี เขาหยุดยืนที่ ยอดระเบียงเมฆา สถานที่ที่สูงจนมองเห็นหมู่เมฆลอยต่ำกว่าเท้า ดวงอาทิตย์เพิ่งลับขอบฟ้า เหลือเพียงแสงสีทองอมชมพูระเรื่อสะท้อนตามผาหิน เสวี่ยซีมองภาพนั้นด้วยสายตาเคลิบเคลิ้ม ปอยผมดำยาวปลิวตามแรงลม จนเส้นหนึ่งพันเข้ากับริมฝีปากบางที่มีรอยยิ้มแผ่วเบา


เสียงฝีเท้าหนักแน่นแต่สงบนิ่งก็ดังขึ้นจากด้านหลัง เหลียนเจี้ยในชุดคลุมยาวสีน้ำหมึกปรากฏตัวขึ้น ดวงตาคมสงบเช่นเคย ทว่ามีแววอ่อนลงเมื่อได้เห็นร่างบอบบางที่ยืนรออยู่


“เจ้ามาถึงก่อนอีกแล้วหรือ เสวี่ยซี” เหลียนเจี้ยเอ่ยเสียงราบเรียบ แต่มีน้ำเสียงคล้ายตำหนิอย่างอ่อนโยน


เสวี่ยซีหัวเราะเบา ๆ “ท่านเองต่างหากที่มาช้า ข้ามาถึงตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ตก ข้าอยากดูพระอาทิตย์ลับขอบเขา ท่านพลาดเสียแล้ว”


เหลียนเจี้ยยิ้มมุมปาก “ข้าคงต้องให้เจ้าวาดภาพเล่าให้ฟังแทนเสียแล้ว”


“วาดภาพหรือ ข้าวาดไม่เก่งนัก แต่จะเล่าให้ฟังก็ยังพอได้” เสวี่ยซีหันไปมองปลายฟ้าที่กำลังเปลี่ยนสี “ตอนแรกมันเหมือนสีทองอ่อน ๆ แล้วค่อย ๆ กลายเป็นชมพู ก่อนจะละลายเป็นม่วงเข้ม คล้ายแสงสุดท้ายกำลังจะถูกกลืนโดยราตรี ข้ามักชอบมองช่วงนั้น มันสวยเศร้าอย่างบอกไม่ถูก”


เหลียนเจี้ยฟังอย่างเงียบ ๆ พลางมองทิวทัศน์รอบด้าน “เจ้ามักพูดถึงสิ่งเล็ก ๆ ได้ราวกับเป็นเรื่องใหญ่เสมอ”


“สิ่งเล็ก ๆ ก็มีค่ามิใช่หรือ” เสวี่ยซีหันมามองเขา ยิ้มอ่อน “เหมือนที่เรานั่งถอดรหัสผ้าไหมกันในโรงชา วันนั้นก็เป็นเพียงเรื่องเล็ก ๆ แต่กลับกลายเป็นเรื่องใหญ่ที่ทำให้เรามายืนอยู่ตรงนี้”


เหลียนเจี้ยพยักหน้าเบา ๆ “เจ้าพูดถูก…ข้าคิดถึงวันนั้นเหมือนกัน บทสวดที่ศาลเจ้า ข้อความบนผ้าไหม และกล่องไม้ที่เราพบข้ายังไม่เข้าใจทั้งหมด แต่รู้สึกว่ามันคงไม่ใช่เรื่องธรรมดาแน่”


เสวี่ยซีหัวเราะแผ่ว “ข้าคิดว่าเจ้าก็ยังคงคิดถึงมันไม่ต่างจากข้า ข้าเองก็สงสัยสมบัติลับของขุนนางผู้ทรยศนั้นคืออะไรกันแน่ แต่ข้าว่าเรื่องนี้คงต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะกระจ่าง”


ทั้งสองนั่งลงบนก้อนหินแผ่นใหญ่ที่หันหน้าออกสู่ทิวทัศน์เบื้องล่าง เมฆสีเงินขาวลอยต่ำราวกับระลอกคลื่น เสียงลมหวีดผ่านช่องเขาดังหวิว ๆ เงียบสงัดแต่ไม่อึดอัด เสวี่ยซีมองหน้าของเหลียนเจี้ยใต้แสงจันทร์ที่เริ่มปรากฏ เห็นเส้นกรามคมชัดและแววตาที่ดูนิ่งสงบจนจับต้องได้ยาก


“ข้ารู้สึกดีที่เราได้ร่วมมือกันวันนั้น” เสวี่ยซีพูดเสียงเบา “เจ้าดูสุขุมจริงจัง แต่ก็ไม่ทำให้ข้ารู้สึกเกร็งเลย”


เหลียนเจี้ยหัวเราะเบา “ข้าคงต้องถือว่านั่นคือคำชม”


“แน่นอนสิ ข้าหมายความแบบนั้นจริง ๆ” เสวี่ยซีก้มลงเปิดห่อผ้าผืนเล็กที่พกมาด้วย “อ้อพูดถึงวันนั้น ข้ามีของจะให้”


“ของอีกแล้วหรือ?” เหลียนเจี้ยเลิกคิ้ว แต่สายตากลับแฝงความสนใจ


เสวี่ยซียกห่อผ้าขึ้นมา เปิดเผยกล่องไม้กลมเล็ก ๆ ที่ด้านในมี ขนมบัวหิมะเรียงสวยงามสีขาวนวลเหมือนหิมะในยามรุ่งสาง “ข้าทำเองนะ” เขากล่าวด้วยรอยยิ้ม “ถึงจะไม่ได้งดงามเหมือนที่ร้านใหญ่ทำขาย แต่ข้าตั้งใจมากจริง ๆ”


เหลียนเจี้ยรับกล่องไว้ในมือ มองขนมอย่างพินิจ “เจ้าทำเองจริงนะ”


“แน่นอนสิ! ข้าไม่ได้แค่เป็นนายโลมร้องเพลงรำระบำอย่างเดียวหรอกนะ” เสวี่ยซีหัวเราะอย่างภูมิใจ “ตอนที่ทำกะทิหกใส่ผมข้าไปครึ่งหัว ข้าก็ยังอดทนทำต่อจนเสร็จเลยนะ”


เหลียนเจี้ยหัวเราะเบา เสียงนั้นดังกลบเสียงลมไปชั่วขณะ “ข้าว่าเจ้าคงสร้างความวุ่นวายไม่น้อยสินะ”


“ก็ไม่มากนักหรอก แค่ทำให้ห้องครัวของหอว่านหงเหรินเลอะไปหน่อยเท่านั้นเอง” เสวี่ยซีทำตาใสซื่อ แต่สีหน้าเหลียนเจี้ยบ่งชัดว่าไม่เชื่อ


“ข้าไม่แน่ใจว่าคำว่า ‘เลอะไปหน่อย’ ของเจ้าหมายถึงอะไร แต่ถ้าเทียบกับคราวก่อนที่เจ้าทำบะหมี่แล้วแป้งติดเต็มหัว ข้าคงไม่สงสัยอะไรอีกแล้ว”


เสวี่ยซีหน้าแดงทันที “ท่านยังจำได้อีกหรือ! นั่นมันนานแล้วนะ!”


“ไม่นานนักหรอก แค่ไม่กี่วัน” เหลียนเจี้ยพูดเรียบ แต่ในน้ำเสียงแฝงแววขบขัน


ทั้งสองหัวเราะพร้อมกัน เสียงหัวเราะนั้นเบาแต่จริงใจ พัดพาไปกับสายลมเย็นเหนือยอดเขา


หลังจากหยอกล้อกันครู่หนึ่ง เหลียนเจี้ยหยิบขนมบัวหิมะขึ้นมากัดเบา ๆ รสหวานอ่อน ๆ ผสมกลิ่นหอมของดอกบัวและนมสด เขาเงียบไปครู่ ก่อนจะพยักหน้า “อืม…อร่อยกว่าที่คิด”


เสวี่ยซีเบิกตากว้าง “ข้าไม่อยากให้เจ้าพูดเพราะเกรงใจนะ”


“ข้าไม่พูดโกหกกับคนที่ตั้งใจทำอะไรเพื่อข้า” เหลียนเจี้ยตอบด้วยน้ำเสียงเรียบ แต่สายตากลับอบอุ่นจนเสวี่ยซีหลบตาไม่ทัน


“ขะ…ข้าแค่ทำเล่น ๆ เท่านั้นแหละ” เขาพูดตะกุกตะกัก “ไม่ต้องจริงจังขนาดนั้น”


เหลียนเจี้ยมองเสวี่ยซีที่หน้าแดงเรื่อ ก่อนหันมองท้องฟ้าที่เริ่มมีดาวระยิบระยับ “เจ้ารู้ไหม ซีซี บางครั้งความตั้งใจที่เรียกว่า ‘เล่น ๆ’ นั่นแหละ กลับมีค่ามากกว่าสิ่งที่คนตั้งใจจะทำเพื่อผลประโยชน์เสียอีก”


คำพูดนั้นทำให้เสวี่ยซีเงียบไปชั่วครู่ ลมแรงพัดจนผมของเขาปลิวเข้าหน้า เหลียนเจี้ยจึงยื่นมือมาเล็กน้อยช่วยปัดออก เสวี่ยซีชะงักไปกับสัมผัสอุ่นจากปลายนิ้ว ก่อนจะหัวเราะกลบเกลื่อน


“ชอบพูดอะไรที่ฟังแล้วเหมือนคำสอนของอาจารย์อยู่เรื่อยเลย”


“หึ ข้าก็แค่พูดในสิ่งที่เห็นเท่านั้น”


ท้องฟ้าค่อย ๆ มืดลง เหลือเพียงแสงดาวและแสงจันทร์ส่องต้องยอดหิมะของหัวซาน เสียงลมแผ่วลงคล้ายจะฟังบทสนทนาของทั้งคู่ เสวี่ยซีเอนตัวพิงหิน มองทิวทัศน์เบื้องหน้าอย่างสงบ


“ข้าคิดว่าการไขปริศนาคราวนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญเลย” เขากล่าวเสียงเบา “บางทีอาจเป็นโชคชะตาที่ทำให้เรามาพบกันแม้จะดูเป็นเรื่องไร้สาระ แต่ข้ารู้สึกเช่นนั้นจริง ๆ”


เหลียนเจี้ยมองหน้าเขาอยู่นาน ก่อนพยักหน้า “บางทีข้าก็คิดเช่นเดียวกัน”


ทั้งสองต่างเงียบลง ปล่อยให้เสียงลมและแสงดาวพูดแทน เสวี่ยซีหัวเราะแผ่วเมื่อเห็นเมฆลอยต่ำลง “ข้าชักหนาวแล้ว เจ้าจะไม่ว่าข้าเรื่องหนีกลับก่อนใช่ไหม”


เหลียนเจี้ยยิ้มบาง “ไปเถอะ ข้าเองก็จะกลับแล้วเหมือนกัน”


เสวี่ยซีลุกขึ้น สะพายห่อผ้าไว้หลัง พลันหันมายิ้ม “อย่าลืมกินขนมบัวหิมะให้หมดล่ะ ข้าไม่อยากเห็นของที่ทำด้วยใจถูกทิ้ง”


“แน่นอน ข้าจะไม่ทิ้งแม้แต่ชิ้นเดียว”


เสวี่ยซีพยักหน้า ก่อนหันหลังเดินลงจากยอดระเบียงเมฆา เงาของเขาค่อย ๆ จางหายไปในม่านหมอก



✎ +5 ความสัมพันธ์สนทนาทั่วไป [NPC-12] จาง เชียน

หัวดี โบนัสเพิ่มความโปรดปราน+20

✎ โบนัส ความสัมพันธ์พิเศษ (VIP) กับ NPC +10 แต้ม


✎ +20 ความสัมพันธ์ ขนมว่างเกรดทอง (ขนมบัวหิมะ)

✎ อาหารปรุง ได้โบนัส +5 เพิ่ม


✎ โดดเด่นมีเอกลักษณ์

มีโอกาสได้รับความเอ็นดูจาก NPC ความโปรดปรานเพิ่มขึ้น +15 ทุกครั้งที่พบเจอและทำอาหารให้อีกฝ่ายกิน 

แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-12] จาง เชียน เพิ่มขึ้น 75 โพสต์ 2025-10-7 11:29
โพสต์ 38185 ไบต์และได้รับ 16 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-10-6 20:40
โพสต์ 38,185 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] ความชั่ว +10 ความโหด จาก มีดแล่เนื้อ  โพสต์ 2025-10-6 20:40
โพสต์ 38,185 ไบต์และได้รับ +9 EXP [ถูกบล็อค] ความชั่ว +6 คุณธรรม +6 ความโหด จาก ชุดวสันต์ลีลา  โพสต์ 2025-10-6 20:40
โพสต์ 38,185 ไบต์และได้รับ +10 EXP [ถูกบล็อค] ความชั่ว +9 คุณธรรม +9 ความโหด จาก คัมภีร์ดาราศาสตร์ตงฟาง  โพสต์ 2025-10-6 20:40
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ปิ่นปักผมหยกขาว
 มีดสั้นเงาจันทร์
ชุดวสันต์ลีลา
คัมภีร์ดาราศาสตร์ตงฟาง
โดดเด่นมีเอกลักษณ์
พู่กันดาราศาสตร์
แหวนหยกสลักนาม
ยาหยกบูรพา
พู่หยกสลักลายมังกร
กระบี่คู่สลักจันทรา
แหวนดาราจรัส(D)
เกราะทองแดง
อาภรณ์พร่ำพิรุณ (ช)
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x1
x40
x2
x7
x1
x2
x2
x1
x6
x1
x8
x2
x10
x7
x12
x26
x48
x8
x24
x24
x5
x2
x10
x1
x2
x12
x30
x21
x5
x6
x2
x1
x10
x5
x60
x90
x60
x5
x2
x120
x6
x17
x20
x2
x20
x2
x2
x2
x3
x2
x2
x3
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้